Share

ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก
ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก
Penulis: คุณชายสายฝน

บทที่ 1

Penulis: คุณชายสายฝน
เจียงซู่ถือรายงานผลการตั้งครรภ์นอกมดลูกไว้ในมือด้วยสีหน้าซีดเผือด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อติดต่อสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่หลายวิก่อนปลายสายจะรับโทรศัพท์ โจวซือเหย่ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยอย่างที่เคยเป็นมาตลอดว่า “มีอะไร?”

เจียงซู่กำผลรายงานแน่น เธอรู้สึกจุกจนแทบพูดไม่ออก ไม่รู้ต้องทำอย่างไรต่อไป และได้แต่ถามคนในสายออกมาว่า “คุณมาที่โรงพยาบาลได้ไหม?”

โจวซือเหย่ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ จู่ ๆ ในสายก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากไกล ๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ซือเหย่ นี่คือของขวัญวันเกิดที่พี่ให้ฉัน...”

โจวซือเหย่เลือกที่จะจบบทสนทนาอย่างเร่งรีบโดยไม่ถามอะไรเพิ่ม “ผมมีธุระ มีอะไรก็ติดต่อเลขาหลู่เอาแล้วกัน”

ก่อนที่อีกฝ่ายจะกดวางสาย เจียงซู่ได้ยินเสียงที่แสนอ่อนโยนของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นว่า “ชอบไหมเอ่ย?”

“โจวซือ...”

เธอยังไม่ทันได้อ้าปากพูด เสียงสัญญาณวางสายก็ดังขึ้น เธอทำได้เพียงกำผลรายงานในมือแน่นขึ้นอีก จนข้อนิ้วของเธอซีดขาวไปหมด

เจียงซู่จำเจ้าของเสียงของผู้หญิงคนนั้นได้ว่าคือใคร เธอคือรักแรกของโจวซือเหย่ ชื่อเวิงอี๋

“ญาติคุณมาได้หรือเปล่า? ”

คุณหมอเอ่ยถามเจียงซู่ที่เดินกลับมาเพียงลำพัง

เจียงซู่พูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดไร้สีเลือดว่า “ฉันเซ็นเองค่ะ”

คุณหมอผู้มีประสบการณ์โชกโชนเห็นดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรสักเท่าไหร่

เธอขึ้นไปนอนบนเตียงผ่าตัดที่เย็นเฉียบ ดวงตาทั้งสองของเธอมองไปยังเพดานอย่างว่างเปล่า เครื่องมืออุปกรณ์ที่เย็นยะเยือกค่อย ๆ สอดเข้ามาในร่างกายของเธอ น้ำตาสีใสหยดหนึ่งเอ่อล้นออกมาจากหางตาและไหลลงหายไปในเส้นผมเงาดำของเธอ

ก็ใช่สิ เขาแต่งงานกับฉันก็เพื่อแก้เคล็ดเพียงเท่านั้น จะไปสู้คนที่อยู่ในใจเขาได้อย่างไรกัน เธอพูดเย้ยหยันตัวเองในใจ

ความจริงแล้ว การแต่งงานของเธอกับโจวซือเหย่จัดขึ้นเพียงเพราะเป็นความเชื่อโบราณเท่านั้น

เมื่อห้าปีก่อน โจวซือเหย่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ หมอบอกว่าโอกาสรอดต่ำมาก แต่ทางครอบครัวตระกูลโจว ไม่อยากให้เขาจากไปตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนั้น อยากให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์ก่อนตาย

และเธอคือผู้ที่ถูกเลือกให้แต่งงานแก้เคล็ดเพียงเพราะว่าเธอตรงกับเงื่อนไขพอดี หากดูจากฐานะทางสังคมของเธอแล้ว เธอไม่มีทางที่จะได้แต่งเข้าบ้านของตระกูลโจวอย่างเด็ดขาด

แต่เรื่องเหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น หลังจากที่เขาแต่งงานได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน โจวซือเหย่ไม่เพียงแต่มีชีวิตรอดเท่านั้น แต่อาการเจ็บป่วยของเขาดีขึ้นทันตาอีกด้วย

เรื่องนี้การแพทย์ไม่สามารถช่วยได้ แต่เรื่องไสยศาสตร์กลับช่วยได้ และบุญคุณการช่วยชีวิตในครั้งนี้เองที่ทำให้เธอได้ครองตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวอย่างไม่มีสั่นคลอน

ใครใช้ให้เธอมี ‘บุญวาสนา’ ล่ะ

ความจริงแล้ว ช่วงที่เวิงอี๋ยังไม่กลับจากต่างประเทศ โจวซือเหย่ค่อนข้างดีกับเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาจากความรู้สึกรักใคร่ แต่ก็ถือว่ายังเคารพซึ่งกันและกัน

แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นก็เปลี่ยนไป

ชีวิตของเธอเป็นเหมือนดั่งทะเลสาบที่เคยสงบนิ่ง แต่ถูกปาด้วยหินจนเกิดระลอกคลื่น มันไม่สงบอีกต่อไป

นับจากวินาทีที่ลงจากเตียงผ่าตัด จนถึงตอนเดินออกจากโรงพยาบาล ใบหน้าเจียงซู่ซีดขาวราวกับหิมะ

“คุณผู้หญิงครับ”

เธอหันไปตามเสียงและตกใจเล็กน้อยกับการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของอีกฝ่าย และเมื่อเธอเห็นรถสีดำที่อยู่ของหลังของอีกคน สายตาอันมืดมนของเธอเหมือนได้จุดประกายขึ้น

เลขาหลู่ “ท่านประธานโจวไม่ว่างครับ”

เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ประโยคนั้น ทำให้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเธอกลับมามืดมนขึ้นอีกครั้ง เธอยกยิ้มมุมปากอย่างอ่อนแรง นึกเยาะเย้ยตัวเองในใจว่า คิดเข้าข้างตัวเองอะไรอยู่นะ

ระหว่างทางที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน เจียงซู่ได้รับข้อความของใครคนหนึ่ง

นั่นก็คือรูปเซลฟี่ของเวิงอี๋ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับข้อความอะไรแบบนี้ ความจริงเธอควรจะลบรายชื่อการติดต่อไปตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับเลือกที่จะเก็บมันไว้

เธอมองดูภาพของอีกคนที่ส่งมา และเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสนภาคภูมิใจของอีกฝ่ายแล้ว เธอกลับสนใจสร้อยคอบนคอของอีกฝ่ายเสียมากกว่า

[สวยไหม? ซือเหย่ให้ฉันน่ะ]

เจียงซู่จำสร้อยคอเพชรเส้นนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะนั้นเป็นสร้อยที่เธอไปประมูลมากับโจวซือเหย่เมื่อเดือนที่แล้ว

ตอนแรกเธอคิดว่านั่นเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานห้าปีของพวกเขาเสียอีก ที่ไหนได้ เธอคิดไปเองคนเดียว

ณ คฤหาสน์จิ่งหยวน

เมื่อก้าวเท้าเข้ามาได้บ้าน ป้าเฉินก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับเธอทันที “คุณผู้หญิงคะ วัตุดิบได้เตรียมไว้ครบเรียบร้อยแล้วค่ะ”

เจียงซู่หยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยิน และตอบกลับไปว่า “เก็บของเถอะค่ะ ไม่ทำแล้ว”

วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานห้าปีของเธอกับโจวซือเหย่ เธอจึงตั้งใจจะทำอาหารค่ำมื้อพิเศษเพื่อฉลองกับเขาเสียหน่อย

แต่ระหว่างวันครบรอบกับวันเกิดของคนในใจเขา เห็นได้ชัดว่าสำหรับโจวซือเหย่ อย่างสองสำคัญกับเขามากกว่า

เมื่อป้าเฉินเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดีนัก กำลังจะเอ่ยปากเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อหันมาอีกที เธอก็เดินขึ้นไปข้างบนแล้ว

ก่อนจะเดินจากไปเจียงซู่ได้พูดทิ้งท้ายว่า “ไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นให้ฉันนะคะ”

เมื่อดวงจันทร์เต็มดวงส่องสว่างกลางท้องฟ้า โจวซือเหย่ก็กลับมาถึงบ้าน

แม่บ้านเฉินเดินไปรับเสื้อโค้ชที่เขายื่น

เมื่อเขาไม่เห็นคนที่ปกติออกมารอรับเขาเหมือนทุกที โจวซือเหย่จึงถามขึ้นมาว่า “เธอล่ะ?”

แม่บ้านเฉินตอบกลับว่า “คุณผู้หญิงขึ้นไปพักผ่อนแล้วค่ะ”

ณ ห้องนอนใหญ่

เจียงซู่นอนตะแคงอยู่บนเตียง เดิมทีเธอก็นอนไม่ค่อยสนิทอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงรถดับเครื่องจึงทำให้เธอตื่นขึ้น ซึ่งเธอนึกว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับบ้านมาแล้วเสียอีก

เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกดังได้ไม่นาน พื้นที่เตียงนอนข้าง ๆ เธอก็ยุบลงไปตามแรงน้ำหนักของอีกคน กลิ่นที่เธอคุ้นเคยดีลอยเข้ามาสัมผัสกับจมูก พร้อมกับลมหายใจร้อนระอุที่กำลังรนช่วงต้นคอของเธอ

พวกเขาร่วมเตียงกันมาเป็นเวลาหลายปี แน่นอนว่าเธอเข้าใจความหมายของการกระทำอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

เจียงซู่จับมือที่กำลังซุกซนของเขาไว้ แสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจน

โจวซือเหย่รู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เพราะปกติที่ผ่านมา เธอจะมีอาการกระตือรือร้นโดยตลอด

“เป็นอะไรไป?”

เจียงซู่ตอบด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “ฉันมีประจำเดือน”

“วันนี้ไม่ใช่วันไข่ตกเหรอ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ความเย้ยหยันก็ปรากฏในนัยน์ตาของเจียงซู่ขึ้นอีกครั้ง เมื่อก่อนเธอหลอกตัวเอง คิดว่า ‘การเอาใจใส่’ ของเขา คือเขากำลังสนใจในตัวเธอ

แต่เปล่าเลย ตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่า เธอต้องตื่นจากฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว

ความจริงแล้วเธอรู้เหตุผลดี ที่โจวซือเหย่จำวันไข่ตกของเธอได้ ก็เป็นเพราะตระกูลโจวอยากให้พวกเขามีลูกด้วยกัน และเขาก็คงไม่อยากพลาดโอกาสทองเช่นวันนี้อย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น ในทุกเดือนของช่วงเวลานี้ เขาจะทำตัวเหมือนหมาติดสัตว์ ทำการบ้านอย่างไม่ลืมหูลืมตา

แต่เขากลับไม่รู้เลย ว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาเพิ่งได้สูญเสียโอกาสที่จะได้เป็นพ่อคนไปเสียแล้ว

เจียงซู่แอบลูบท้องตัวเองเบา ๆ และเมื่อเธอนึกถึงเด็กที่ไม่มีวาสนาต่อกัน หัวใจเธอก็เจ็บปวดขึ้นมาราวกับมีใครมาบีบคั้นหัวใจ เธอเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก

ช่วงเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง นับตั้งแต่วินาทีที่เธอรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ จนได้รับการยืนยันว่าเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก สำหรับเธอแล้วมันเหมือนกับการตกจากสวรรค์สู่นรกชัด ๆ

ในขณะที่เธอรู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวด แต่สามีของเธอกลับทอดทิ้งเธอไปเสวยสุขอยู่กับชู้รัก

เจียงซู่กลั้นน้ำตาจนก้อนสะอื้นจุกอยู่ในลำคอ จมูกเริ่มแสบร้อนราวกับมีเปลวไฟ

โจวซือเหย่มองไปยังใบหน้าซีดเซียวของเธอและถามขึ้นว่า “วันนี้คุณไปโรงพยาบาลทำไม ไม่สบายตรงไหน?”

คำถามที่มาไม่ถูกเวลา มันสายเกินกว่าที่จะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น เธอรับรู้ได้เพียงความเยือกเย็นในใจที่ไม่มีสิ้นสุด

เธอจ้องมองไปยังชายที่ทำให้ชีวิตเธอตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน แอบหลงรักมาห้าปี แต่งงานอีกห้าปี สิบปีแล้วสินะ ที่เธอใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตไปกับการหยุดอยู่ที่เขา

“เราหย่ากันเถอะ”

เธอจะไม่ยอมเป็นฝ่ายรอให้เขาหันกลับมาอีกต่อไป

สีหน้าของโจซือเหย่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นแตะที่หน้าผากเธอและถามต่อว่า “ไข้ขึ้นเหรอ?”

เจียงซู่ปัดมือของอีกคนออก และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “ฉันไม่อยากเป็นมารที่คอยขัดขว้างความรักของคุณอีกแล้ว เมื่อหย่ากันแล้ว คุณจะได้เปิดตัวกับเวิงอี๋ ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้”

เมื่อได้ยินดังนั้น โจวซือเหย่ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบไม่เห็นรอยย่นระหว่างคิ้ว “คุณกำลังหึงผมเหรอ?”

หึงหวง? เธอมีสิทธิ์นั้นด้วยเหรอ?

ก็เหมือนที่เวิงอี๋เคยพูดไว้ คนที่ไม่ถูกรักต่างหากคือมือที่สาม ซึ่งเธอก็คือ ‘มือที่สาม’ จะไปมีสิทธิ์อะไร

“ผมกับเวิงอี๋เราไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนกันเฉย ๆ ”

เพื่อน? เพื่อนที่ขึ้นเตียงกันได้อะนะ?

เจียงซู่พยายามอดกลั้นเก็บความรู้สึกขมขื่นไว้ในใจ และยังคงพูดยืนยันคำเดิม “พรุ่งนี้ฉันจะหาทนายมาร่างข้อตกลงการหย่า ฉันเป็นคนขอหย่า แต่คุณเป็นฝ่ายผิด เพราะฉะนั้นค่าชดเชยที่ฉันควรได้ ฉันจะเอา”

เธอไม่ได้เป็นแม่พระ ที่จะยอมจากไปแบบตัวเปล่า

ในเมื่อไม่ได้ความรัก งั้นอย่างน้อยก็ต้องได้เงินมา

เธอไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะได้เงิน เพราะตัวเธอรู้ดีว่า ชีวิตหลังการหย่าของเธอคงไม่ได้สุขสบายเหมือนกับการอยู่ที่บ้านตระกูลโจว

สีหน้าของโจวซือเหย่ที่เคยเรียบเฉยมาตลอดดั่งน้ำนิ่ง ในที่สุดตอนนี้เขาเริ่มเปลี่ยนสีหน้าราวกับคลื่นลูกใหญ่ ใบหน้าแสดงความไม่พอใจอีกฝ่ายที่ทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผล “อยู่ดี ๆ คุณมาโมโหอะไร? เพราะว่าผมไม่ได้ไปหาคุณที่โรงพยาบาล? ผมก็ให้หลู่เหยียนไปรับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ”

“เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขี้ระแวงแบบนี้”

เมื่อได้ยินดังนั้น ความเจ็บปวดท่วมท้นในใจเธอ เหมือนหัวใจของเจียงซู่ถูกบีบคั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ความเยาะเย้ยออกมาจากสายตาของเธอ ฟังจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายแล้ว ราวกับว่าการที่เขาส่งเลขามารับเธอมันคือบุญคุณอันใหญ่หลวง

“คุณรู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร”

ดวงตาของโจวซือเหย่เต็มไปด้วยความสับสน ซึ่งเจียงซู่เองก็รู้คำตอบของอีกฝ่ายอย่างเต็มอก นั้นมันทำให้เขายิ่งรู้สึกเยาะหยันตัวเองมากขึ้น “วันเกิดคุณ?”

เจียงซู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดและแฝงไปด้วยความประชดประชันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนว่า “ในใจของท่านประธานโจวกำลังคิดถึงใครอยู่นะ?”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 100

    เจียงซู่ดันชามโจ๊กทะเลตรงหน้าออกไป “ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”โจวซือเหย่มีสีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย เขายังคงรอคำขอบคุณจากเจียงซู่ แต่ไม่คิดว่าจะได้คำพูดที่ทำให้เขาอารมณ์เสียป้าเฉินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอแอบชำลืองมองโจวซือเหย่ และพยายามที่จะช่วยคลี่คลาย “คุณผู้หญิงคะ การทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด ๆ ต้องใช้เวลามาก จะไม่ทันอาหารเช้านะคะ”เจียงซู่ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าเฉินก็มองไปที่โจวซือเหย่อีกครั้ง แล้วโจวซือเหย่ก็โบกมือให้เธอไปทำเมื่อเห็นเช่นนี้ ป้าเฉินจึงไม่พูดอะไรอีกและรีบไปที่ห้องครัวโจวซือเหย่มองขาที่ยังคงเข้าเฝือกของเธอ “คุณไม่ต้องไปที่ทำงานแล้ว พักรักษาตัวที่บ้านให้ดี พอหายดีแล้ว ถ้ายังอยากทำงานเดิมอยู่ ผมจะจัดหาที่ทำงานใหม่ให้”เขาหมายความว่าไง?เขาคิดว่าการที่เธอมีเพศตรงข้ามอยู่รอบตัวจะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหายใช่ไหม? เขาต้องการที่จะกำจัดคนรอบตัวเธอใช่ไหม?สำหรับพฤติกรรมสองมาตรฐานของเขา เจียงซู่รู้สึกว่ามันน่าขำ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆโจวซือเหย่ “ขอแค่คุณยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน เชื่อฟังและทำตัวดี ๆ ตำแหน่งคุณผู้หญิงโจว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 99

    โจวซือเหย่คิดว่าการที่เธอแต่งงานกับเขาเป็นการขายตัวหรือไง?เขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?เป็นโสเภณีหรือไง?เจียงซู่กัดฟันกรามแน่น ราวกับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่แตกสลาย เธอกลืนความปวดร้าวในลำคอ และเบิกตากว้าง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา“ฉันเสียใจ”เธอเสียใจที่แต่งงานกับเขาเขาจะไม่ชอบเธอก็ได้ แต่เขาไม่ควรเหยียบย่ำหัวใจของเธอแบบนี้เธอเพ้อฝันอยู่ฝ่ายเดียว คิดว่าหยดน้ำจะทำให้หินกร่อนได้ แต่เธอกลับลืมไปว่าหัวใจของเขานั้นแข็งเสียยิ่งกว่าหิน มันทำจากเหล็กกล้าเมื่อเห็นความแตกสลายอย่างชัดเจนในดวงตาของเธอ โจวซือเหย่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเจียงซู่พึมพำคำเดิม “ฉันเสียใจ”โจวซือเหย่ไม่เข้าใจว่าความเสียใจของเธอหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่สนใจที่จะรู้ด้วย แต่จู่ ๆ เขาก็ผลักเธอล้มลงไปเจียงซู่ที่ตอบสนองช้าไปครึ่งก้าว กว่าจะรู้ตัวว่าเขาจะทำอะไร เขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้ว เธอพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่“ฉันไม่ทำ!”โจวซือเหย่จับข้อมือของเธอตรึงไว้ที่เหนือศีรษะ และใช้ขาอีกข้างล็อกขาเธอที่พยายามขัดขืน“คุณเลิกคิดเรื่องหย่าได้เลย ตระกูลโจวไม่มีทางเกิดเรื่องอื้อฉาวอย่างเรื่องหย่าร้างเด็ดขาด” โจวซื

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 98

    เจียงซู่ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ความทรงจำที่ขาดหายไปของเธอยังคงอยู่ที่ตอนที่เว่ยชิงหางจะไปส่งเธอกลับบ้าน“รุ่นพี่ ขอบคุณที่มาส่งฉันกลับบ้านนะคะ”คำพูดของเจียงซู่ฟังดูติด ๆ ขัดๆ แต่ในมุมมองของโจวซือเหย่ คำพูดเหล่านั้นเหมือนเป็นการออดอ้อนเว่ยชิงหาง“คุณไปกลับก่อนเถอะ อย่าให้โจวซือเหย่เห็น เดี๋ยวเขาจะหาเรื่องคุณ”เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของโจวซือเหย่ก็มืดลง“ทำไมผมต้องหาเรื่องเขาด้วย?”เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้สติที่ขุ่นมัวของเจียงซู่แจ่มชัดขึ้นเล็กน้อย เธอมองไปรอบ ๆ และเพิ่งรู้ตัวว่าเธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนใหญ่เจียงซู่ส่ายหัวที่เวียนหัวของเธอ และพูดว่า “ตัวฉันมีกลิ่นเหล้า คืนนี้ฉันจะไปนอนห้องข้าง ๆ”แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีสติสมบูรณ์ครบถ้วน แต่เธอก็ยังจำได้ว่าเขาไม่ชอบกลิ่นเหล้าจากตัวเธอในอดีต ทุกครั้งที่กลับมาจากการเลี้ยงสังสรรค์ เจียงซู่จะแยกห้องนอนกับโจวซือเหย่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขารังเกียจเธอเธอลงจากเตียงกำลังจะจากไป แต่โจวซือเหย่กลับกดไหล่ของเธอไว้ แล้วผลักเธอล้มลงบนเตียงเจียงซู่ยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว การล้มลงบนเตียงอีกครั้ง ทำให้ส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 97

    “รุ่นน้อง”ในขณะที่เจียงซู่กำลังแหม่อลอย เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเมื่อรู้สึกตัว เธอก็สบตากับเว่ยชิงหาง“รุ่นพี่”เขาถามว่า “มาทำอะไรที่นี่?”เจียงซู่หลีกเลี่ยงประเด็นหลัก “ออกมาสูดอากาศสักหน่อย คุณล่ะ? มาทำอะไรที่นี่?”เว่ยชิงหาง “เพิ่งคุยงานกับลูกค้าเสร็จ”พูดไป เขาก็มองเข้าไปในรถของเธอ แล้วพูดอีกว่า “คุณยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงขับรถออกมาคนเดียว?”“ขาที่เหยียบคันเร่งยังปกติดี” เจียงซู่ถาม “อีกเดี๋ยวจะยุ่งไหมคะ?”เว่ยชิงหางถาม “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”เจียงซู่ “ฉันอยากไปดื่มสักแก้ว คุณอยากไปด้วยกันไหม?”เว่ยชิงหางไม่ได้ขัดจังหวะ “ไปที่ไหน?”จากนั้นพวกเขาไปที่บาร์เงียบ ๆ แห่งหนึ่งแสงในร้านสลัว ๆ ช่วยปกปิดความหม่นหมองและความอ้างว้างในตัวของเจียงซู่เว่ยชิงหางเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี เขาเพียงแค่อยู่เงียบ ๆ เป็นเพื่อนเจียงซู่ไม่ได้มาเพื่อระบายความในใจ ตอนนี้เธอแค่รู้สึกเหงามาก ๆ เท่านั้น อยากมีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน ไม่อยากอยู่คนเดียวแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เว่ยชิงหางก็รู้สึกได้ว่าเจียงซู่อยู่ในอารมณ์ที่เศร้าหมองมากจริง ๆ แล้วตั้งแต่ที่เขารู้จักเธอ เ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 96

    เจียงซู่รู้ดีว่าแม่สามีตั้งใจพูดกระทบเธอมากกว่าในสายตาของแม่สามี เธอไม่ได้ดีไปกว่าคนในตระกูลเล็ก ๆ เลยด้วยซ้ำเวินเหยาฉินตั้งใจจะหนุนหลังโจวหว่านซิน และตั้งใจจะให้เธอยอมจำนนแต่โดยดี แน่นอนว่าต้องกลั่นแกล้งเธออย่างหนักแต่เวินเหยาฉินไม่ได้ลงไม้ลงมือกับเจียงเจียเหวิน เพราะอย่างไรก็เป็นลูกของคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วไม่เหมือนกัน เธอเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมายการที่แม่สามีใช้ให้ลูกสะใภ้ทำอะไร ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาภรรยาหลวงอย่างเธอต้องมาทำหน้าที่ของอนุภรรยา แม้แต่มื้อกลางวัน เธอก็ต้องเป็นคนทำอาหารให้พวกเขาทานด้วยอาการปวดเอวและเจ็บเท้า การถูกกลั่นแกล้งขนาดนี้ ทำให้ใบหน้าของเจียงซู่ซีดลงเล็กน้อยเวินเหยาฉินเห็นท่าทางที่ดูเหมือนคนตายของเธอก็รู้สึกหงุดหงิด และพูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอทำหน้าบึ้งให้ใครดู? ฉันใช้ให้เธอปรนนิบัติฉัน แล้วเธอไม่พอใจอีกเหรอ?”เจียงซู่ “เปล่าค่ะ”พอพูดจบ ก็มีเหงื่อเย็น ๆ หยดหนึ่งไหลลงมาจากขมับของเธอพอดีเวินเหยาฉินพูดอย่างรังเกียจว่า “พอแล้ว พอแล้ว ที่นี่ไม่ต้องการเธอแล้ว”แม้ว่าจะไม่ได้มองตรง ๆ แต่เจียงซู่ก็รู้สึกได้ถึงความสะใจของเวิงอี๋เธอเดินลากสังข

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 95

    ความห่วงใยของโจวซือเหย่ก็เหมือนกับอากาศในเดือนมิถุนายน เพราะเมื่อยามหนาวเหน็บก็หนาวเหมือนราวกับน้ำแข็ง แต่เมื่ออบอุ่นก็อบอุ่นจนร้อนซึ่งสามารถแผดเผาได้ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินกว่าคนปกติจะรับไหวอาหารถูกยกขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตอนที่โจวซือเหย่อุ้มเธอลงมา คุณป้าเฉินแอบยิ้มอย่างโล่งใจไหน ๆ ก็มาถึงโต๊ะแล้ว เจียงซู่ก็ไม่อยากทำให้เสียเปล่า“ซินซินยังเด็กอยู่ คุณเป็นพี่สะใภ้ ก็ควรจะทนกับเธอหน่อย”คำพูดนั้นทำให้มือเจียงซู่ที่กำลังจับตะเกียบชะงักไปทันที เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาแสงไฟนุ่มนวลคลอร่างเขา ทำให้เสี้ยวหน้าคมเข้มดูอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับเธอมันกลับไม่เหลือความรู้สึกอบอุ่นใด ๆ อาหารในปากพลันจืดชืดลงทันทีเขารู้ดีอยู่แล้วว่าใครผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปกป้องอยู่ดี เขาจะไร้ความยุติธรรม เพียงแต่หัวใจมันลำเอียงนั้นเองเจียงซู่วางตะเกียบลง เช็ดปากเบา ๆ “ฉันอิ่มแล้ว”โจวซือเหย่มองอาหารที่แทบไม่ถูกแตะต้อง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เจียงซู่ก็เรียกป้าเฉินให้มาช่วยพยุงขึ้นไปบนห้องเสียแล้วป้าเฉินมองชายหนุ่มที่เอาแต่เงียบด้วยความหงุดหงิด ในสายจาของป้าเฉินรู้สึกว่าโจวซือเหย่ยังไม่รู้จัก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status