공유

ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก
ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก
작가: คุณชายสายฝน

บทที่ 1

작가: คุณชายสายฝน
เจียงซู่ถือรายงานผลการตั้งครรภ์นอกมดลูกไว้ในมือด้วยสีหน้าซีดเผือด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อติดต่อสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่หลายวิก่อนปลายสายจะรับโทรศัพท์ โจวซือเหย่ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยอย่างที่เคยเป็นมาตลอดว่า “มีอะไร?”

เจียงซู่กำผลรายงานแน่น เธอรู้สึกจุกจนแทบพูดไม่ออก ไม่รู้ต้องทำอย่างไรต่อไป และได้แต่ถามคนในสายออกมาว่า “คุณมาที่โรงพยาบาลได้ไหม?”

โจวซือเหย่ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ จู่ ๆ ในสายก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากไกล ๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ซือเหย่ นี่คือของขวัญวันเกิดที่พี่ให้ฉัน...”

โจวซือเหย่เลือกที่จะจบบทสนทนาอย่างเร่งรีบโดยไม่ถามอะไรเพิ่ม “ผมมีธุระ มีอะไรก็ติดต่อเลขาหลู่เอาแล้วกัน”

ก่อนที่อีกฝ่ายจะกดวางสาย เจียงซู่ได้ยินเสียงที่แสนอ่อนโยนของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นว่า “ชอบไหมเอ่ย?”

“โจวซือ...”

เธอยังไม่ทันได้อ้าปากพูด เสียงสัญญาณวางสายก็ดังขึ้น เธอทำได้เพียงกำผลรายงานในมือแน่นขึ้นอีก จนข้อนิ้วของเธอซีดขาวไปหมด

เจียงซู่จำเจ้าของเสียงของผู้หญิงคนนั้นได้ว่าคือใคร เธอคือรักแรกของโจวซือเหย่ ชื่อเวิงอี๋

“ญาติคุณมาได้หรือเปล่า? ”

คุณหมอเอ่ยถามเจียงซู่ที่เดินกลับมาเพียงลำพัง

เจียงซู่พูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดไร้สีเลือดว่า “ฉันเซ็นเองค่ะ”

คุณหมอผู้มีประสบการณ์โชกโชนเห็นดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรสักเท่าไหร่

เธอขึ้นไปนอนบนเตียงผ่าตัดที่เย็นเฉียบ ดวงตาทั้งสองของเธอมองไปยังเพดานอย่างว่างเปล่า เครื่องมืออุปกรณ์ที่เย็นยะเยือกค่อย ๆ สอดเข้ามาในร่างกายของเธอ น้ำตาสีใสหยดหนึ่งเอ่อล้นออกมาจากหางตาและไหลลงหายไปในเส้นผมเงาดำของเธอ

ก็ใช่สิ เขาแต่งงานกับฉันก็เพื่อแก้เคล็ดเพียงเท่านั้น จะไปสู้คนที่อยู่ในใจเขาได้อย่างไรกัน เธอพูดเย้ยหยันตัวเองในใจ

ความจริงแล้ว การแต่งงานของเธอกับโจวซือเหย่จัดขึ้นเพียงเพราะเป็นความเชื่อโบราณเท่านั้น

เมื่อห้าปีก่อน โจวซือเหย่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ หมอบอกว่าโอกาสรอดต่ำมาก แต่ทางครอบครัวตระกูลโจว ไม่อยากให้เขาจากไปตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนั้น อยากให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์ก่อนตาย

และเธอคือผู้ที่ถูกเลือกให้แต่งงานแก้เคล็ดเพียงเพราะว่าเธอตรงกับเงื่อนไขพอดี หากดูจากฐานะทางสังคมของเธอแล้ว เธอไม่มีทางที่จะได้แต่งเข้าบ้านของตระกูลโจวอย่างเด็ดขาด

แต่เรื่องเหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น หลังจากที่เขาแต่งงานได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน โจวซือเหย่ไม่เพียงแต่มีชีวิตรอดเท่านั้น แต่อาการเจ็บป่วยของเขาดีขึ้นทันตาอีกด้วย

เรื่องนี้การแพทย์ไม่สามารถช่วยได้ แต่เรื่องไสยศาสตร์กลับช่วยได้ และบุญคุณการช่วยชีวิตในครั้งนี้เองที่ทำให้เธอได้ครองตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวอย่างไม่มีสั่นคลอน

ใครใช้ให้เธอมี ‘บุญวาสนา’ ล่ะ

ความจริงแล้ว ช่วงที่เวิงอี๋ยังไม่กลับจากต่างประเทศ โจวซือเหย่ค่อนข้างดีกับเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาจากความรู้สึกรักใคร่ แต่ก็ถือว่ายังเคารพซึ่งกันและกัน

แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นก็เปลี่ยนไป

ชีวิตของเธอเป็นเหมือนดั่งทะเลสาบที่เคยสงบนิ่ง แต่ถูกปาด้วยหินจนเกิดระลอกคลื่น มันไม่สงบอีกต่อไป

นับจากวินาทีที่ลงจากเตียงผ่าตัด จนถึงตอนเดินออกจากโรงพยาบาล ใบหน้าเจียงซู่ซีดขาวราวกับหิมะ

“คุณผู้หญิงครับ”

เธอหันไปตามเสียงและตกใจเล็กน้อยกับการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของอีกฝ่าย และเมื่อเธอเห็นรถสีดำที่อยู่ของหลังของอีกคน สายตาอันมืดมนของเธอเหมือนได้จุดประกายขึ้น

เลขาหลู่ “ท่านประธานโจวไม่ว่างครับ”

เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ประโยคนั้น ทำให้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเธอกลับมามืดมนขึ้นอีกครั้ง เธอยกยิ้มมุมปากอย่างอ่อนแรง นึกเยาะเย้ยตัวเองในใจว่า คิดเข้าข้างตัวเองอะไรอยู่นะ

ระหว่างทางที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน เจียงซู่ได้รับข้อความของใครคนหนึ่ง

นั่นก็คือรูปเซลฟี่ของเวิงอี๋ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับข้อความอะไรแบบนี้ ความจริงเธอควรจะลบรายชื่อการติดต่อไปตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับเลือกที่จะเก็บมันไว้

เธอมองดูภาพของอีกคนที่ส่งมา และเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสนภาคภูมิใจของอีกฝ่ายแล้ว เธอกลับสนใจสร้อยคอบนคอของอีกฝ่ายเสียมากกว่า

[สวยไหม? ซือเหย่ให้ฉันน่ะ]

เจียงซู่จำสร้อยคอเพชรเส้นนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะนั้นเป็นสร้อยที่เธอไปประมูลมากับโจวซือเหย่เมื่อเดือนที่แล้ว

ตอนแรกเธอคิดว่านั่นเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานห้าปีของพวกเขาเสียอีก ที่ไหนได้ เธอคิดไปเองคนเดียว

ณ คฤหาสน์จิ่งหยวน

เมื่อก้าวเท้าเข้ามาได้บ้าน ป้าเฉินก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับเธอทันที “คุณผู้หญิงคะ วัตุดิบได้เตรียมไว้ครบเรียบร้อยแล้วค่ะ”

เจียงซู่หยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยิน และตอบกลับไปว่า “เก็บของเถอะค่ะ ไม่ทำแล้ว”

วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานห้าปีของเธอกับโจวซือเหย่ เธอจึงตั้งใจจะทำอาหารค่ำมื้อพิเศษเพื่อฉลองกับเขาเสียหน่อย

แต่ระหว่างวันครบรอบกับวันเกิดของคนในใจเขา เห็นได้ชัดว่าสำหรับโจวซือเหย่ อย่างสองสำคัญกับเขามากกว่า

เมื่อป้าเฉินเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดีนัก กำลังจะเอ่ยปากเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อหันมาอีกที เธอก็เดินขึ้นไปข้างบนแล้ว

ก่อนจะเดินจากไปเจียงซู่ได้พูดทิ้งท้ายว่า “ไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นให้ฉันนะคะ”

เมื่อดวงจันทร์เต็มดวงส่องสว่างกลางท้องฟ้า โจวซือเหย่ก็กลับมาถึงบ้าน

แม่บ้านเฉินเดินไปรับเสื้อโค้ชที่เขายื่น

เมื่อเขาไม่เห็นคนที่ปกติออกมารอรับเขาเหมือนทุกที โจวซือเหย่จึงถามขึ้นมาว่า “เธอล่ะ?”

แม่บ้านเฉินตอบกลับว่า “คุณผู้หญิงขึ้นไปพักผ่อนแล้วค่ะ”

ณ ห้องนอนใหญ่

เจียงซู่นอนตะแคงอยู่บนเตียง เดิมทีเธอก็นอนไม่ค่อยสนิทอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงรถดับเครื่องจึงทำให้เธอตื่นขึ้น ซึ่งเธอนึกว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับบ้านมาแล้วเสียอีก

เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกดังได้ไม่นาน พื้นที่เตียงนอนข้าง ๆ เธอก็ยุบลงไปตามแรงน้ำหนักของอีกคน กลิ่นที่เธอคุ้นเคยดีลอยเข้ามาสัมผัสกับจมูก พร้อมกับลมหายใจร้อนระอุที่กำลังรนช่วงต้นคอของเธอ

พวกเขาร่วมเตียงกันมาเป็นเวลาหลายปี แน่นอนว่าเธอเข้าใจความหมายของการกระทำอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

เจียงซู่จับมือที่กำลังซุกซนของเขาไว้ แสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจน

โจวซือเหย่รู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เพราะปกติที่ผ่านมา เธอจะมีอาการกระตือรือร้นโดยตลอด

“เป็นอะไรไป?”

เจียงซู่ตอบด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “ฉันมีประจำเดือน”

“วันนี้ไม่ใช่วันไข่ตกเหรอ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ความเย้ยหยันก็ปรากฏในนัยน์ตาของเจียงซู่ขึ้นอีกครั้ง เมื่อก่อนเธอหลอกตัวเอง คิดว่า ‘การเอาใจใส่’ ของเขา คือเขากำลังสนใจในตัวเธอ

แต่เปล่าเลย ตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่า เธอต้องตื่นจากฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว

ความจริงแล้วเธอรู้เหตุผลดี ที่โจวซือเหย่จำวันไข่ตกของเธอได้ ก็เป็นเพราะตระกูลโจวอยากให้พวกเขามีลูกด้วยกัน และเขาก็คงไม่อยากพลาดโอกาสทองเช่นวันนี้อย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น ในทุกเดือนของช่วงเวลานี้ เขาจะทำตัวเหมือนหมาติดสัตว์ ทำการบ้านอย่างไม่ลืมหูลืมตา

แต่เขากลับไม่รู้เลย ว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาเพิ่งได้สูญเสียโอกาสที่จะได้เป็นพ่อคนไปเสียแล้ว

เจียงซู่แอบลูบท้องตัวเองเบา ๆ และเมื่อเธอนึกถึงเด็กที่ไม่มีวาสนาต่อกัน หัวใจเธอก็เจ็บปวดขึ้นมาราวกับมีใครมาบีบคั้นหัวใจ เธอเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก

ช่วงเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง นับตั้งแต่วินาทีที่เธอรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ จนได้รับการยืนยันว่าเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก สำหรับเธอแล้วมันเหมือนกับการตกจากสวรรค์สู่นรกชัด ๆ

ในขณะที่เธอรู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวด แต่สามีของเธอกลับทอดทิ้งเธอไปเสวยสุขอยู่กับชู้รัก

เจียงซู่กลั้นน้ำตาจนก้อนสะอื้นจุกอยู่ในลำคอ จมูกเริ่มแสบร้อนราวกับมีเปลวไฟ

โจวซือเหย่มองไปยังใบหน้าซีดเซียวของเธอและถามขึ้นว่า “วันนี้คุณไปโรงพยาบาลทำไม ไม่สบายตรงไหน?”

คำถามที่มาไม่ถูกเวลา มันสายเกินกว่าที่จะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น เธอรับรู้ได้เพียงความเยือกเย็นในใจที่ไม่มีสิ้นสุด

เธอจ้องมองไปยังชายที่ทำให้ชีวิตเธอตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน แอบหลงรักมาห้าปี แต่งงานอีกห้าปี สิบปีแล้วสินะ ที่เธอใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตไปกับการหยุดอยู่ที่เขา

“เราหย่ากันเถอะ”

เธอจะไม่ยอมเป็นฝ่ายรอให้เขาหันกลับมาอีกต่อไป

สีหน้าของโจซือเหย่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นแตะที่หน้าผากเธอและถามต่อว่า “ไข้ขึ้นเหรอ?”

เจียงซู่ปัดมือของอีกคนออก และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “ฉันไม่อยากเป็นมารที่คอยขัดขว้างความรักของคุณอีกแล้ว เมื่อหย่ากันแล้ว คุณจะได้เปิดตัวกับเวิงอี๋ ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้”

เมื่อได้ยินดังนั้น โจวซือเหย่ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบไม่เห็นรอยย่นระหว่างคิ้ว “คุณกำลังหึงผมเหรอ?”

หึงหวง? เธอมีสิทธิ์นั้นด้วยเหรอ?

ก็เหมือนที่เวิงอี๋เคยพูดไว้ คนที่ไม่ถูกรักต่างหากคือมือที่สาม ซึ่งเธอก็คือ ‘มือที่สาม’ จะไปมีสิทธิ์อะไร

“ผมกับเวิงอี๋เราไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนกันเฉย ๆ ”

เพื่อน? เพื่อนที่ขึ้นเตียงกันได้อะนะ?

เจียงซู่พยายามอดกลั้นเก็บความรู้สึกขมขื่นไว้ในใจ และยังคงพูดยืนยันคำเดิม “พรุ่งนี้ฉันจะหาทนายมาร่างข้อตกลงการหย่า ฉันเป็นคนขอหย่า แต่คุณเป็นฝ่ายผิด เพราะฉะนั้นค่าชดเชยที่ฉันควรได้ ฉันจะเอา”

เธอไม่ได้เป็นแม่พระ ที่จะยอมจากไปแบบตัวเปล่า

ในเมื่อไม่ได้ความรัก งั้นอย่างน้อยก็ต้องได้เงินมา

เธอไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะได้เงิน เพราะตัวเธอรู้ดีว่า ชีวิตหลังการหย่าของเธอคงไม่ได้สุขสบายเหมือนกับการอยู่ที่บ้านตระกูลโจว

สีหน้าของโจวซือเหย่ที่เคยเรียบเฉยมาตลอดดั่งน้ำนิ่ง ในที่สุดตอนนี้เขาเริ่มเปลี่ยนสีหน้าราวกับคลื่นลูกใหญ่ ใบหน้าแสดงความไม่พอใจอีกฝ่ายที่ทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผล “อยู่ดี ๆ คุณมาโมโหอะไร? เพราะว่าผมไม่ได้ไปหาคุณที่โรงพยาบาล? ผมก็ให้หลู่เหยียนไปรับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ”

“เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขี้ระแวงแบบนี้”

เมื่อได้ยินดังนั้น ความเจ็บปวดท่วมท้นในใจเธอ เหมือนหัวใจของเจียงซู่ถูกบีบคั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ความเยาะเย้ยออกมาจากสายตาของเธอ ฟังจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายแล้ว ราวกับว่าการที่เขาส่งเลขามารับเธอมันคือบุญคุณอันใหญ่หลวง

“คุณรู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร”

ดวงตาของโจวซือเหย่เต็มไปด้วยความสับสน ซึ่งเจียงซู่เองก็รู้คำตอบของอีกฝ่ายอย่างเต็มอก นั้นมันทำให้เขายิ่งรู้สึกเยาะหยันตัวเองมากขึ้น “วันเกิดคุณ?”

เจียงซู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดและแฝงไปด้วยความประชดประชันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนว่า “ในใจของท่านประธานโจวกำลังคิดถึงใครอยู่นะ?”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 90

    เจียงซู่ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาสองพ่อลูกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่คุณย่า...เธอโบกมือให้คนมาช่วยขนกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ให้อีกคนเจียงเจียเหวินเชิดคอด้วยท่าทางภาคภูมิใจพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องรับรองโจวซือเหย่กลับมาถึงบ้านในเวลาอาหารเย็น และเมื่อเขาเข้ามาในบ้าน ก็สังเกตเห็นเจียงเจียเหวินทันที“พี่เขย”เจียงเจียเหวินฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเข้าไปหา “พี่กลับมาแล้วเหรอคะ? ฉันกับพี่เจียงกำลังจะทานอาหารเย็นพอดี แต่ฉันก็บอกพี่เจียงแล้วนะคะว่าให้รอพี่ก่อน แต่พี่เจียงก็บอกว่าไม่ต้องรอ แถมยังบอกว่าพี่จะไม่กลับมากินข้าวที่บ้านอีก”“ดูสิ เหมือนว่าพี่สาวเธอจะเดาผิดนะ เธอดูไม่สนใจอะไรเลย ไม่รอ ละไม่โทรถามด้วย”ระหว่างที่พูด เจียงเจียเหวินเดินไปหาอีกคนเพื่อรับเสื้อโค้ทที่โจวซือเหย่ถอดออก“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เมื่อพูดจบ เธอก็แย่งเสื้อโค้ทมาจากมือป้าเฉินป้าเฉิน “...”ป้าเฉินไม่เคยเห็นใครชอบแย่งงานทำขนาดนี้มาก่อนเจียงเจียเหวิน “ป้าเฉินคะ ไปหยิบตะเกียบกับชามเพิ่มอีกหนึ่งชุดให้พี่เขยหน่อยค่ะ”“พี่เขย นั่งตรงนี้นะคะ”เมื่อถึงโต๊ะอาหาร เจียงเจียเหวินดึงเก้าอี้ให้โจวซือเหย่ตำแหน่งที่เขานั่งคือฝั่งตรง

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 89

    ในยามกลางคืนที่มืดดำสนิท ในห้องนอนที่เงียบสงดมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้น โจวซือเหย่พยายามปลุกเจียงซู่ที่มีท่าทางที่ไม่ปกติให้ตื่นเมื่อเจียงซู่ตื่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดเผือดหลังจากหลงอยู่ในห้วงของความฝันโจวซือเหย่ “ฝันร้ายเหรอ?”ใช่ เธอเพิ่งตื่นจากฝันร้ายจริง ๆ เธอฝันถึงอุบัติเหตุรถยนต์อีกแล้วเธออยากจะมองข้ามมัน อยากจะลืมมันไปให้พ้น ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตามมาหลอกหลอนเธอเหมือนเงาที่ตามติด ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น เจียงซู่จำไม่ได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่เธอบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่เธอยังคงฝันร้ายเช่นนี้อยู่อย่างควบคุมไม่ได้เจียงซู่สูดอากาศหายใจเข้าลึก ๆ และหลับตาลง พร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่จนลำคอขยับอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นคาวเลือดที่อบอวลราวกับว่ายังคงวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูก โจมตีเข้ากับระบบการรับกลิ่นของเธออย่างไม่หยุดยั้ง จนทำลายสัมผัสทั้งห้าของเธอจากการที่เขาได้ยินคำพูดละเมอตอนเธอตอนอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ทำให้โจวซือเหย่รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรอยู่ แววตาของเขาฉายแววความสงสารจึงเอ่ยขึ้นมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 88

    เมื่อคุณหญิงย่าเห็นเจียงซู่ที่กลับมาพร้อมกับขาที่บาดเจ็บ จึงมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสารจับใจ และหันไปตำหนิโจวซือเหย่ทันทีว่า “ทำไมไม่บอกย่าว่าเมียแกบาดเจ็บ? ถ้าย่ารู้ ย่าจะไม่ให้มาหรือไง แกดูแลเมียแกเป็นไหมเนี่ย?”โจวซือเหย่รับบททำตัวเป็นหลานชายผู้แสนดี “คุณย่าสอนถูกแล้วครับ เป็นความผิดของผมเอง”เจียงซู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณย่าคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ อาเหย่ดูแลหนูดีค่ะ”หากต้องพูดถึงการหย่าร้าง คนในตระกูลโจวทั้งหมดที่เธอรู้สึกเสียดายมากที่สุดก็คงเป็นคุณย่าโจวด้วยความรักและความเอ็นดูอย่างแท้จริงที่คุณย่ามีให้แก่หลานสะใภ้ที่ถูกซื้อมาคนนี้ จึงทำให้เธอยอมให้ความร่วมมือกับโจวซือเหย่เล่นละครเพื่อเอาใจคุณหญิงย่าเหวินเหยาฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเจียงซู่ที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำไมถึงบาดเจ็บอีกแล้ว? สรุปร่างกายของเธอไหวไหมเนี่ย?เมื่อเห็นว่าเจียงซู่ผอมลง คุณหญิงย่าจึงสั่งให้ทางห้องครัวทำอาหารบำรุงมาให้เธอทานเยอะ ๆ และตกเย็นเมื่อถึงเวลากลับ ก็ยังจัดเตรียมอาหารเสริมมากมายใส่ขึ้นรถให้อีกด้วยคุณหญิงย่า “ถ้ากินหมดแล้วก็บอกย่านะ เดี๋ยวย่าส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 87

    เจียงซู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็เป็นผู้หญิงวัยผู้ใหญ่นี่นะเธอหยิบของขวัญออกมาจากกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไว้ให้สำหรับไต้ซานเหอไต้ซานเหอหิ้วกระเป๋าลิมิเต็ดอิดิชั่นที่อีกคนให้ขึ้นมาอย่างพออกพอใจ พลางพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่ซื้อมาหลาย ๆ ใบล่ะ? ทางที่ดีนะ ซื้อจนโจวซือเหย่ล้มละลายไปเลย! ถ้าแกไม่รีบใช้เงิน ถึงตอนนั้นก็จะตกไปเป็นของคนต่ำสถุน อย่างเวิงอี๋ละนะ”เธอประเมินความสามารถในการซื้อของตัวเองสูงเกินไป และประเมินสินทรัพย์ของโจวซือเหย่ต่ำไปเช่นกัน แค่กระเป๋าไม่กี่ใบ จะทำให้เขาล้มละลายได้อย่างไงกัน“ฉันหิวแล้ว”เมื่อมนุษย์ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย และเกิดความต้องการต่าง ๆ ได้ง่าย ความอยากอาหารก็เป็นหนึ่งในความต้องการนั้นเช่นกันเธอเป็นคนติดรสชาติอาหารจีนมาก อาหารต่างประเทศเธอไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ทั้งร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บประกอบกับสภาพอากาศรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย การเดินทางครั้งนี้ จึงทำให้เจียงซู่ผอมลง น้ำหนักหายไปหลายกิโลกรัมฝีมือการทำอาหารของไต้ซานเหอไม่เลวเลย เธอทำแต่อาหารที่เจียงซู่ชอบแต่ทว่า เธอยังไม่ทันได้อ้าปากลิ้มรสอาหารที่อยู่ตรงหน้าสักคำเดียว โจ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 86

    “พี่เจียงคะ เดี๋ยวฉันช่วยเข็นพี่เข้าไปพักผ่อนข้างในนะคะ ฉันจะบอกพี่ให้ ว่าที่นี่หรูหรามาก ข้าวของเครื่องใช้ครบครัน ถ้าพี่ต้องการอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันช่วย...”เวิงอี๋แสดงท่าทีราวกับเป็นเจ้าของเครื่องบินเจียงซู่ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้อีกคนหยุดพูด พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตามีปัญหาหรือไง?”เวิงอี๋ได้ยินดังนั้นจึงชะงักขึ้นมาทันที และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่งงงวยว่า “หมายความว่าไงคะ?”เจียงซู่พูดตอบกลับ “ดูไม่ออกเหรอว่าฉันไม่ชอบเธอ”เธอกำลังรำคาญอยู่ เวิงอี๋ดูไม่ออกได้อย่างไร?“พี่เจียง...”เวิงอี๋เบะปาก ทำท่าตะกุกตะกักเหมือนกำลังถูกรังแก และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจในตอนนั้น โจวซือเหย่จึงพูดเข้าข้างเวิงอี๋ว่า “เธอก็แค่อยากดูแลคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย”เจียงซู่มองเขาที่กำลังเข้าข้างอีกคนด้วยแววตาเยาะเย้ย ไม่รู้ว่าเขาไม่เห็นความคิดแอบแฝงของเวิงอี๋จริง ๆ? หรือแค่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นกันแน่?เธอต้องการความช่วยเหลือจากเวิงอี๋เหรอ?ถึงแม้เธอจะตายและเอาศพไปทิ้งกลางป่า ก็คงไม่ถึงคราวที่ชู้ต้องมาเอาศพให้หรอก เว้นก็เสียแต่ พวกเขารู้สึกว่าเธอตา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 85

    “ผมรู้”เขารู้เรื่องทั้งหมด เลขาหลู่เป็นคนบอกเขาเองทั้งหมดแล้วโจวซือเหย่ตอนแรกเห็นว่าเจียงซู่ไม่เป็นอะไร จริง ๆ แล้วเขาดีใจด้วยซ้ำ ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรมากแต่ว่าหลังจากรู้เรื่องที่เธอประสบอุบัติเหตุรถชน เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใบหน้าของเจียงซู่ไม่ได้ดีขึ้นเพราะเรื่องนี้ ในทางกลับกันยิ่งเปลี่ยนเป็นแย่ลงกว่าเดิม เพราะความสงสารที่เขาแสดงออกมาในเวลานี้ สำหรับเธอแล้วทั้งหมดนี้มันคือการถูกเยาะเย้ยมิตรภาพที่มาช้ามันดูไร้ค่ายิ่งกว่าหญ้าอีกโจวซือเหย่พูดขึ้น “ครั้งนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”“ความบังเอิญที่มากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าความบังเอิญ เหตุผลเดียวกัน เรื่องอุบัติเหตุก็เช่นกัน” เจียงซู่ยกมุมปากขึ้นด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ระหว่างฉันกับเวิงอี๋ คุณจะเลือกใคร จริง ๆ แล้วในใจคุณรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าคุณเลือกใคร”ตอนนี้เขาก็แค่ทำตัวเป็นเหมือนขงเบ้งหลังเกิดเหตุ เพื่อที่จะรักษาศักดิ์ศรีตัวเองเอาไว้แววตาของเจียงซู่สิ้นหวัง เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงการอ้อนวอนขอร้อง “เป็นสามีภรรยากันมาก็ห้าปี เห็น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status