"แม่เจ้า นี่เปลี่ยนทัศนคติข้าไปเลย ข้าไม่มีทางเชื่อหรอก" "เจ้าลองคิดดู เทพสงครามมีฐานะสูงศักดิ์ อายุก็ไม่น้อยแล้ว ข้างกายจะไม่มีกระทั่งผู้อุ่นเตียงสักคนเลยรึ แต่เทพสงคราม นอกจากคุณหนูสามกู้แล้ว ก็ไม่มีผู้ร่วมหลับนอนคนอื่นอีกเลย" "ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังสงสัยอยู่ ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ที่แท้ท่านอ๋องเป็น รับ อีกทั้งรสนิยมก็ไม่เหมือนคนทั่วไป ก็จริง เทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับชอบหญิงอัปลักษณ์ที่ทั้งอ้วนและเตี้ย ขืนเรื่องแพร่ออกไป คงเสียหน้าแย่" "คุณพระคุณเจ้า ภาพลักษณ์ของเทพสงครามในใจข้าพังทลายลงไปในพริบตา" "นั่นน่ะสิ ใครจะไปคิดว่าเขาคือเทพสงครามที่สังหารคนอย่างไร้ความปราณี ดุดันฉับไว วิธีการโหดเหี้ยมผู้นั้น" "เช่นนั้นยามนี้คุณหนูสามกู้รูปโฉมงดงามแล้ว เทพสงครามยังโปรดปรานนางอยู่อีกหรือ" "พูดถึงเรื่องนี้ ข้าได้ข่าวใหม่ล่าสุดมาอีกข่าว ท่านอ๋องของพวกเราน่ะ ไม่ชอบพระชายาในตอนนี้ ถึงได้รังแกพระชายาสารพัด แน่นอนว่าพระชายาก็ไม่ใช่ผู้ที่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ พวกเขาจึงเป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ปะทะกับภูเขาไฟ มีแต่เรื่องอลหม่านวุ่นวายเกิดขึ้นทุกวัน" "พูดอย่างกับเป็นเรื่องจริง เจ้าไม่ใช่ค
กู้ชูหน่วนสงบสติอารมณ์ ฉีกยิ้มที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นักออกมา พยายามแสร้งทำเป็นใจเย็น "จะมีความลับใดได้ ก็แค่อยากรู้เกี่ยวกับม้วนหนังแกะโบราณ อยากดูสักหน่อยก็เท่านั้น" ยิ่งนางเป็นแบบนี้ เย่จิ่งหานก็ยิ่งสงสัย "จริงหรือ......" "ก็ใช่น่ะสิ เช่นนั้นท่านอ๋องจะให้ข้ายืมดูได้หรือไม่ ท่านดูสิ ข้าก็มอบตัวข้าให้ท่านไปแล้วไม่ใช่หรือ" "เหตุใดข้าถึงได้รู้สึกว่าที่เจ้ามีสัมพันธ์กับข้า เพียงเพราะต้องการม้วนหนังแกะโบราณเล่มนั้นเท่านั้น" "ฟ้าดินเป็นพยาน ข้าจะมีสัมพันธ์กับท่านเพื่อม้วนหนังแกะเล่มเดียวได้อย่างไร ข้า กู้ชูหน่วนเป็นคนง่ายเช่นนั้นเลยหรือ" สีหน้าของเย่จิ่งหานดูดีขึ้นมาบ้าง แต่ปากคอก็ยังเราะราย "เจ้าไม่ใช่คนง่ายจริง แต่ตอนที่เจ้าง่ายขึ้นมาก็ไม่เหมือนคนเลย" "……" "เช่นนั้นท่านอ๋อง ม้วนหนังแกะโบราณ ควรจะมอบให้ข้าใช่หรือไม่" "เจ้าต้องการสิ่งใด ข้าให้เจ้าได้ทุกสิ่ง มีเพียงม้วนหนังแกะโบราณที่ข้าจะไม่มีทางให้เจ้า" "ทำไม......" กู้ชูหน่วนเดือดดาลขึ้นมาทันที นางยอมให้เขาเอาของทุกอย่างคืนไป ขอเพียงแค่มอบม้วนหนังแกะให้นาง "เพราะข้าเห็นม้วนหนังแกะนั่นดูสบายตาดี ท
"ท่านอ๋องประทานเครื่องประดับร้านชุ่ยอวี้สิบสองหีบ ภาพวาดและของโบราณหกกล่อง คฤหาสน์ที่เฉิงหนานแปดหลัง ร้านค้าในเฉิงเป่ยสามสิบหกห้อง" ซืดดด... ทุกคนร้องเสียงหลงด้วยความตกตะลึง เครื่องประดับของร้านชุ่ยอวี้ เป็นเครื่องประดับที่ดีที่สุดในใต้หล้า นั่นเป็นเครื่องยืนยันฐานะ ทั้งเมืองหลวง หรือกระทั่งทั้งใต้หล้าล้วนแต่สวมใส่เครื่องประดับร้านชุ่ยอวี้เพื่อเสริมเกียรติให้ตนเอง แต่เครื่องประดับของร้านชุ่ยอวี้ก็มูลค่าสูงเกินเหตุ ท่านอ๋องยกให้ทีเดียวถึงสิบสองหีบ จะมั่งคั่งเกินไปหรือเปล่า ยังมีคฤหาสน์แปดหลัง ร้านค้าสามสิบหกห้อง พวกเขาฟังไม่ผิดใช่ไหม ร้านในเฉิงเป่ยเป็นศูนย์กลางความเจริญของเมืองหลวง หลังหนึ่งหลายพันชั่งทอง ท่านอ๋องประทานให้ถึงสามสิบหกห้อง จะเกินไปแล้ว ฮ่องเต้อภิเษกกับฮองเฮาก็ยังไม่มีของหมั้นเยอะขนาดนี้ ดูท่าแล้ว พระชายาจะสำคัญกับท่านอ๋องมากจริงๆ ช่างน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก แม้กู้ชูหน่วนจะตกตะลึงกับของขวัญที่เย่จิ่งหานส่งมาให้นางมากมาย แต่สิ่งที่นางสนใจมากกว่ากลับเป็นม้วนหนังแกะโบราณ นางเดินดุ่มๆ เข้าไปเปิดกล่องภาพวาดและของโบราณ ของโบราณและภาพวาดด้านใ
"ปะการังร้อยฉื่อที่แคว้นหลิวให้มาก่อนหน้านี้ มุกราตรี พลอยไพฑูรย์ก็นำไปตกรางวัลให้พระชายาด้วย" "ยังมีผ้าไหมผ้าแพรคุณภาพดีที่สุดที่เพิ่งออกใหม่ของร้านเทียนอวิ๋นก็มอบให้นางทั้งหมด" "พระชายาชอบทรัพย์สมบัติ ทั้งยังชอบคฤหาสน์ร้านค้า เจ้าไปเอาโฉนดที่ดินร้านค้าบนถนนทั้งเส้นที่เฉิงหนาน และโฉนดคฤหาสน์เฉิงหนานมาให้พระชายาด้วย" เย่จิ่งหานยังคงพูดรัวเป็นชุด เจี้ยงเสวี่ยอดไม่ได้ที่แทรกขึ้นมาหนึ่งประโยค "นายท่าน ประทานของกำนัลให้พระชายามากมายเพียงนี้ แม้แต่ฮ่องเต้ตอนสู่ขอฮองเฮาก็ยังไม่ได้พระราชทานของหมั้นเท่านี้" แต่พระชายา แค่ร่วมหอคืนเดียว อีกทั้งการร่วมหลับนอนครั้งนี้ พระชายาก็ยังเผด็จการเอาแต่ใจ ให้นายท่านอยู่ด้านล่าง จะเรียกว่าร่วมหลับนอน ยังไม่สู้บอกว่านายท่านให้นางร่วมหลับนอนจะเหมาะกว่า แล้วนี่ยังจะให้ของกำนัลเป็นทรัพย์สินเงินทองมากมายขนาดนี้ จะมากเกินไปหน่อยกระมัง เย่จิ่งหานพึมพำคนเดียว "งั้นหรือ" เหตุใดเขารู้สึกว่ายังไม่พอเสียด้วยซ้ำ "พวกเจ้าว่า สตรียังชอบสิ่งใดอีก เครื่องประดับ ?" ชิงเฟิงเองก็อดไม่ได้ที่จะเตือนสติเขา "นายท่าน ท่านมอบเครื่องประดับให้พระชา
จูบของนางไม่เหมือนกับเย่จิ่งหานที่เพียงแค่ได้ลิ้มลองแล้วหยุด หรือบางทีนางตั้งใจจะเพียงแค่ลิ้มลองแล้วหยุดตั้งแต่แรก ทว่าเย่จิ่งหานเป็นเหมือนกับน้ำแร่ที่หอมหวาน ทำให้นางหลงใหลโดยไม่รู้ตัว สมองของเย่จิ่งหานชะงักงัน ก่อนจะมีอาการเครื่องค้างไปโดยสิ้นเชิง มองกู้ชูหน่วนด้วยความตะลึง กู้ชูหน่วนปิดตาเขา ก่อนจะพูดอย่างคลุมเครือ "เด็กดี ปิดตา" คำพูดของนางราวกับมีมนตร์สะกด เย่จิ่งหานอดไม่ได้ที่จะหลับตา แล้วดำดิ่งลงไปกับนาง แผนการตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลง กู้ชูหน่วนเองก็ไม่คิดว่าจะมีสัมพันธ์กับเขาจริงๆ แต่พวกเขาถลำลึกไปทีละขั้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ ค่ำคืนที่ละมุนละไม ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงชวนคิดไกลของชายหญิง นอกห้อง ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยยืดหลังตรง พวกเขากลืนน้ำลาย ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า นายท่านกับพระชายาจะร้อนแรงขนาดที่ส่งเสียงออกมาดังขนาดนี้ หากเป็นไปได้ พวกเขาอยากจะไปจากที่นี่ จะได้ไม่ต้องทนฟังด้วยความเขินอายจนหน้าแดงหูแดง รุ่งสาง เสื้อผ้ากู้ชูหน่วนและเย่จิ่งหานไม่เป็นระเบียบ จ้องมองซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ที่เกิดสัมพันธ์ครั้งก่อน นี่เป็นครั้งที่สองของพวกเขา
กู้ชูหน่วนูลูบปลายคาง เหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริง นางหัวเราะเจื่อนๆ "ท่านอ๋อง ท่านไม่ได้เป็นเพียงแค่สามีชายชาตรี ท่านยังเป็นสวรรค์ของประชาชนแคว้นเย่ เทพสงครามที่ปกปักรักษาชาวประชาของแคว้นเย่ เหตุใดถึงได้จิตใจคับแคบเช่นนี้ ข้าเพียงแค่อยากจะนำผลไม้มาให้ท่านด้วยใจจริง ท่านไม่รู้สึกขอบคุณก็ช่าง เหตุใดถึงได้เข้าใจข้าผิด ผลไม้เหล่านี้ ข้าล้างเองกับมือที่ละลูกแล้วถึงจะนำมาให้ ดูสิ มือข้าเหี่ยวเป็นริ้วรอยหมดแล้ว" สายตาที่กำลังดูหนังสืออยู่ของเย่จิ่งหาน แอบเหลือบไปมองโดยไม่รู้ตัว แต่มือของกู้ชูหน่วนกลับแวววาว ไหนเลยจะมีริ้วรอยเพียงครึ่งเส้น หรือเขาจะมองเร็วเกินไป จึงเห็นไม่ชัด ? "ท่านอ๋อง ท่านก็เห็นแก่ที่ข้าลำบากล้างผลไม้ให้ท่าน ชิมสักลูกเถอะนะ มา ลองชิมองุ่น หวานมาก" ไม่รอเย่จิ่งหานตอบ กู้ชูหน่วนยัดเข้าไปในปากเขาแล้วหนึ่งลูก ก่อนจะเด็ดมาเองอีกสองสามลูก แล้วโยนขึ้นกลางอากาศ ใช้ปากรับด้วยความซุกซน "เป็นอย่างไร หวานใช่ไหม" หวานมาก แต่ความหวานเหล่านี้ ไม่อาจดับไฟในใจเขาได้ "มา กินอีกลูกนะ" "กู้ชูหน่วน ข้าอนุญาตให้เจ้าป้อนข้าแล้วหรือ" "ที่นี่ไม่มีคนนอก จะแสร้งทำเป