공유

สองพี่น้องบ้านฟาง

last update 최신 업데이트: 2025-06-14 09:12:13

เสียงพิณแว่วแผ่วจากเหล่านางดนตรี เพลงบรรเลงพลิ้วราวหมอกยามเช้า ผสานเข้ากับเสียงดีดเครื่องสายอย่างสงบเยือกเย็น

บนฟากฟ้าเหนือเวที…สายลมเริ่มพัดแรง ใบหลิวปลิวว่อนประหนึ่งสัญญาณแห่งความแปรเปลี่ยน

ทันใดนั้นเองเสียงตะโกนจากผู้ดำเนินงานดังกังวาน

“และบัดนี้...ขอเชิญรับชมการแม่นธนูและบรรเลงเพลงพิณจากบุตรีบ้านฟาง คุณหนูฟางอี้หลิน และคุณหนูฟางอี้เหยา”

จู่ๆ แสงไฟเวทีพลันหรี่ลง ท้องฟ้าสีทองส้มฉายเงาผ่านหลังคาศาลาไม้สูง

เสียงลมหวิว…

ผู้คนทั้งงานหันหน้าขึ้นไปพร้อมกันและแล้ว

ร่างหนึ่งในชุดสีฟ้าครามปักลายปรากฏกายเหนือหลังคาศาลา ใบหน้าปิดบังไว้ด้วยหน้ากากอัปลักษณ์สลักลายคล้ายหยกกะเทาะ

ร่อนตัวลงจากหลังคา ร่างเบาหวิวราวกับขนนก ในนาทีที่เท้าสัมผัสพื้นเวที ก็ยืนในท่ามั่นเสียงฮือฮาอื้ออึง มือขวายกคันธนูไม้หอมขึ้นเหนี่ยวสายคันธนูดั่งเทพีธนูที่หลุดมาจากตำนาน

เสียงฮือฮาทั้งลานดังขึ้นอีกครั้งกับท่าทีสง่างามเกินหญิง

“นั่นหรือคุณหนูฟาง ไหนว่าพวกนางสองพี่น้องงดงามราวเทพีสวรรค์ แล้วเหตุใดถึงสวมหน้ากากอัปลักษณ์เช่นนั้น

“หรือตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่” เสียงซุบซิบดังไปทั่วลาน

ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จับจ้อง ไป๋อวี้ที่นั่
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ยังให้โอกาส

    ไป๋อวี้...ยืนอยู่ใต้เงาร่มไผ่ ใบหน้าเงียบขรึมแต่ดวงตากลับเปี่ยมด้วยความรู้สึกหลากหลายเขาจ้องมองอี้หลินด้วยสายตาที่สะท้อนทั้งความรู้สึกผิดเขาปรามาสนางเกินไปดวงตาคู่นั้นเหมือนจะได้ยินทุกถ้อยคำจากปากนางทุกถ้อยคำที่เปรียบเสมือนเข็มทิ่มกลางอกเขาขยับเท้า...ราวจะก้าวไปข้างหน้าแต่แล้ว...กลับหยุดชะงักใจเต้นแรงดั่งระฆังทองถูกเคาะในอกสุดท้าย เขาทำได้เพียงมองนางเงียบๆแม้ยืนอยู่แค่ปลายสายตา... ก็ยังไม่กล้าเดินเข้าใกล้ความรู้สึกผิดเต็มหัวใจเว่ยจิน ไท่จือแห่งเป่ยเอียน เดินตรงเข้ามาตรงหน้าเจียวหยูและตงเกานั่งเคียงข้างกันเว่ยจินหยุดยืนตรง ก้มศีรษะคารวะอย่างนอบน้อม“ข้าน้อยเว่ยจิน คารวะฮูหยินเจียวหยูและท่านฟางตงเกา เป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้พบท่านทั้งสองในวันนี้”เจียวหยูยิ้มบาง แต่แววตายังคงสุขุมเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิงของสตรีที่ผ่านโลกมามาก นางพยักหน้ารับ“เจ้าช่างเติบโตมาได้องอาจสมกับที่เป็นโอรสของฮ่องเต้โตวโฮฉินและองค์หญิงเก้าจิวอันนัก ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้าไม่น้อย...”ตงเกาเอ่ยขึ้นบ้าง เสียงนุ่มลึก“ตระกูลเป่ยเอียนและตระกูลฟางแม้ไม่เคยเกี่ยวข้องกันโดยตรงแต่ก็เคยมีสายสัมพันธ์อันดีกันในอดีต บ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ตามหารักแท้พบเจอหรือยัง

    เสียงปรบมือสองที… แปะ… แปะ…ผู้คนหันขวับใต้ร่มพัดไผ่ลายทอง ไท่จือเว่ยจินยืนนิ่งในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายพญาอินทรีเหินเวหา ดวงตาคมยามนั้นมีแววเฉียบขาดแต่เรียบสงบ ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง เปิดเผยจริงใจเขาหันข้างเล็กน้อย แล้วกล่าวกับขันทีคนสนิทเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น“นำของกำนัลไปมอบให้คุณหนูทั้งสอง… กล่าวกับนางว่า ข้าชื่นชมจากใจ”ขันทีนามหลิวกวง โค้งรับคำ แล้วเบี่ยงตัวออกไปในมือมีหีบไม้จันทน์ขนาดเล็กสองกล่อง ห่อด้วยผ้าไหมทอด้วยดิ้นทองขันทีน้อยยืนเบื้องหน้าสองพี่น้อง แล้วกล่าวด้วยเสียงชัดเจน“ไท่จือเว่ยจิน รับชมการแสดงของคุณหนูฟางทั้งสองด้วยความประทับใจอย่างยิ่งจึงขอมอบของกำนัลนี้แด่ท่านทั้งสอง เพื่อเป็นเกียรติและคำขอบคุณในศิลปะอันเลอค่า ขอให้รับไว้เถิดขอรับ”อี้เหยาถอนหายใจไม่ชอบใจท่าทีอวดสรรพคุณของเว่ยจินนัก ก่อนที่อี้หลินจะรับเอาหีบไม้ประคองไว้ด้วยมือนุ่มนวลอี้เหยายืนนิ่ง แต่ก็ย่อกายเล็กน้อย กล่าวเสียงนุ่ม“ไท่จือเมตตาเกินไปเพคะ พวกหม่อมฉันหาได้กล้ารับสิ่งใดโดยไม่กล่าวคำขอบคุณ...”เว่ยจินเพียงแค่ยกมือขึ้นเบา ๆ“อย่าได้เกรงใจ... สตรีที่ยิงธนูแม่นยำราวกับอ่านใจได้ และผู้บรรเลงพิณเสนาะจ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   สองพี่น้องบ้านฟาง

    เสียงพิณแว่วแผ่วจากเหล่านางดนตรี เพลงบรรเลงพลิ้วราวหมอกยามเช้า ผสานเข้ากับเสียงดีดเครื่องสายอย่างสงบเยือกเย็นบนฟากฟ้าเหนือเวที…สายลมเริ่มพัดแรง ใบหลิวปลิวว่อนประหนึ่งสัญญาณแห่งความแปรเปลี่ยนทันใดนั้นเองเสียงตะโกนจากผู้ดำเนินงานดังกังวาน“และบัดนี้...ขอเชิญรับชมการแม่นธนูและบรรเลงเพลงพิณจากบุตรีบ้านฟาง คุณหนูฟางอี้หลิน และคุณหนูฟางอี้เหยา”จู่ๆ แสงไฟเวทีพลันหรี่ลง ท้องฟ้าสีทองส้มฉายเงาผ่านหลังคาศาลาไม้สูงเสียงลมหวิว…ผู้คนทั้งงานหันหน้าขึ้นไปพร้อมกันและแล้วร่างหนึ่งในชุดสีฟ้าครามปักลายปรากฏกายเหนือหลังคาศาลา ใบหน้าปิดบังไว้ด้วยหน้ากากอัปลักษณ์สลักลายคล้ายหยกกะเทาะ ร่อนตัวลงจากหลังคา ร่างเบาหวิวราวกับขนนก ในนาทีที่เท้าสัมผัสพื้นเวที ก็ยืนในท่ามั่นเสียงฮือฮาอื้ออึง มือขวายกคันธนูไม้หอมขึ้นเหนี่ยวสายคันธนูดั่งเทพีธนูที่หลุดมาจากตำนานเสียงฮือฮาทั้งลานดังขึ้นอีกครั้งกับท่าทีสง่างามเกินหญิง“นั่นหรือคุณหนูฟาง ไหนว่าพวกนางสองพี่น้องงดงามราวเทพีสวรรค์ แล้วเหตุใดถึงสวมหน้ากากอัปลักษณ์เช่นนั้น “หรือตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่” เสียงซุบซิบดังไปทั่วลานท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จับจ้อง ไป๋อวี้ที่นั่

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   มิตรภาพ

    กลิ่นหอมจากชาอู่หลงชั้นเลิศลอยแผ่วอ้อยอิ่ง ขับกล่อมให้ลานน้ำชาชั้นสูงดูอบอุ่นและงดงามในแสงอาทิตย์อ่อน ๆอี้เหยาในอาภรณ์ผ้าไหมสีชมพูอ่อนปักดอกเหมย ยืนเคียงมารดาเจียวหยูริมซุ้มพฤกษา แววตาเธอจับจ้องไปยังขบวนเสด็จของโตวโฮฉินและเครื่องบรรณาการที่มีไท่จือเว่ยจินปรากฏตัวพร้อมกับขบวนบรรณาการอลังการอี้เหยาเบ้ปากเล็กน้อย ขณะกระซิบเบาๆ กับมารดา“ท่านแม่...บุรุษหน้ายิ้มผู้นั้นคือผู้ใดหรือเจ้าคะ ช่างทำตัวเย่อหยิ่งราวกับโลกทั้งใบเป็นของเขา มิรู้จักความพอดีเอาเสียเลย”เจียวหยูหันมามองลูกสาวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม“นั่นคือไท่จือเว่ยจิน บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนขององค์หญิงเก้าจิวฮัวกับฮ่องเต้โตวโฮฉินแห่งแคว้นเป่ยเอียน”อี้เหยาทำตาโต“โอ้...เชื้อสายสูงศักดิ์เช่นนั้นหรือ...ก็ว่าอยู่ ทำไมถึงดูร่ำรวยและ...อวดดีนัก”“เหยาเอ๋อร์” เจียวหยูปรามเสียงเบาแต่จริงจัง “แม้เจ้าจะไม่ชอบเขา ก็ไม่ควรพูดเช่นนั้น บุญคุณเก่าระหว่างแคว้นเป่ยเอียนกับเรา รวมถึงตัวฝ่าาทกับฮองเฮาแคว้นเป่นเอียน เคยมีต่อพ่อเจ้าและตัวแม่ไม่น้อย เขาก็ไม่ต่างจากเฉิงอู๋อ๋องกับพระชายาที่เจ้าชื่นชมนัก”อี้เหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่เขามิใช่เฉิงอู๋อ๋อง

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   มาเพื่อชนะ

    “หากนางยอมรินชาให้มือนางเอง...ข้าจะถือว่าชนะไปแล้วครึ่งหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” ซางหลางกล่าวเสียงนุ่มแล้วดวงตาคมนั่นก็เหลือบไปทางหนึ่ง...เงาผ้าชั้นดีปักลายกลีบบุปผากำลังพลิ้วไหวไปตามทางเดิน... พร้อมเจ้าของที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทุกฝีก้าวกำลังถูกเฝ้ามองด้วยใจอันแน่วแน่แม้ยามเช้าเพิ่งคล้อยสู่สาย แต่ลานกลางสวนหลวงในจวนอ๋องไร้พ่ายกลับเนืองแน่นไปด้วยผู้คนม่านแพรหลากสีปลิวไหวในสายลมบางเบา กลิ่นชาหอมฟุ้งลอยแตะจมูกไปทั่ว เสียงคุยเจื้อยแจ้วของเหล่าบุตรีขุนนางผสานเสียงหัวเราะแผ่วเบาโต๊ะน้ำชาถูกจัดเรียงเป็นกลุ่มรายรอบศาลากลางน้ำที่มีเวทีเล็ก ๆ ตั้งขึ้นเพื่อแสดงดนตรีขับกล่อม เสียงพิณจีนร่ำไห้เบา ๆ เคล้าความงามของกลีบดอกเหมยที่โปรยปรายลงมาช้า ๆขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊มากมายทยอยเดินทางมาถึง บุตรชายผู้มีวัยไล่เลี่ยต่างประดับตนด้วยเสื้อผ้าสีสุภาพแต่อาภรณ์งามล้ำ สะท้อนสถานะและความมุ่งหมายในการพบปะหญิงงามแห่งวังหลวงเจียวหยูและตงเกาก็เดินยิ้มมาร่วมโต๊ะกลางพร้อมเสียงหัวเราะและกล่องขนมหวานแปลกตาที่นำมาจากตลาดเมืองเหนือแต่แม้จะครื้นเครงเท่าใด... กลับยังมีเงาเงียบงันหนึ่งแผ่คลุมเหนือทุกบทสนทนา“ท่านแม่ท่านรู้หรือ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   งานเลี้ยงน้ำชา

    แสงแดดยามสายคลี่คลุมลงบนลานหยกกว้างของจวนอ๋องไร้พ่าย กลีบดอกเหมยที่เริ่มโรยปลิวล้อสายลมอย่างอ้อยอิ่งประหนึ่งเต้นรำรับแขกบ้านแขกเมืองเหล่าขันทีและสาวใช้เร่งมือประดับพานพุ่ม ผลไม้นานาพันธุ์ ขนมงิ้ว ขนมเปี๊ยะหลากสี และน้ำชาชั้นเลิศจากแคว้นใต้ถูกจัดเรียงในลวดลายพิลาศ ดนตรีสายดีดทั้งเจิ้งและพิณพลิ้วไหวไล้บรรยากาศให้กล่อมละมุนราชนิกูลและขุนนางชั้นสูงต่างนำบุตรชายบุตรีของตนมาร่วมงานด้วยเสื้อผ้าผ้าไหมหรูหรา แสงอาทิตย์สะท้อนผืนผ้าเป็นเงางามระยับไม่ต่างจากสายน้ำทองคำ บุตรชายขุนนางวัยรุ่นทั้งหลายต่างยืดอกประหนึ่งบุปผาแรกแย้มอวดกลีบ ซุ่มซ่ามบ้าง กระหยิ่มยิ้มแย้มบ้าง ยามหญิงงามเดินผ่านเจียวหยูในอาภรณ์ลายดอกโบตั๋นสีน้ำเงินเข้ม กับตงเกาในอาภรณ์ผ้าลินินฝ้ายสุภาพสีเข้มเดินมาช่วยรับรองแขกด้วยท่าทางองอาจ คนทั้งสองเป็นที่จับตาของบรรดาเหล่าขุนนางในวังหลวงไม่น้อยเพราะทั้งเจียวหยูและตงเกาต่างหายไปนับสิบปีและแล้ว...เมื่ออี้เหยา บุตรีคนรองของตงเกาและเจียวหยู ปรากฏกายในอาภรณ์สีขาวปักลายบุปผาสีแดง ดอกไม้บนชายกระโปรงพลิ้วราวมีชีวิต บางเสียงถึงกับแอบถอนหายใจ บางผู้ถึงกับมองตามมิคลาดสายตา เพราะไม่คิดว่า อี้เห

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status