บุปผาเยียวยาใจ

บุปผาเยียวยาใจ

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-28
Oleh:  ซูเมี่ยวหลิงBaru saja diperbarui
Bahasa: Thai
goodnovel16goodnovel
Belum ada penilaian
20Bab
22Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

สาวไทยมาเกิดใหม่เป็นคุณหนูทองพันชั่งจวนเสนาบดีกรมพิธีการ โลกใหม่ที่ไช่เซียงฮวามาเกิดนั้นเป็นโลกแห่งเทพเซียน ปีศาจ พลังธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และธาตุหายากเช่นสายฟ้า มิติธาตุและมืด นางเชื่อว่าการที่ตนยังมีความทรงจำของชาติที่แล้วอยู่เพราะมีที่มาไม่ธรรมดา หลังจากรอมา 8 ปีก็ปรากฏ คืนของวันปลุกพลังธาตุ เทพแห่งดวงชะตาได้มอบตำราพิเศษให้นาง เล่มหนึ่งคือตำราสวรรค์หมื่นบุปผา อีกเล่มหนึ่งคือตำราชะตาคาด (การณ์) เพียงแค่ร่างกายมีพลังธาตุก็น่าตื่นตาตื่นใจคนจากยุค 2000 แล้ว นี่นางยังได้ครอบครองตำราสวรรค์อีก ...สกิลนางเอกยังโกงได้อีก!!!

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ ๑ เหตุใดรู้สึกราวกับโดนตบหน้า

บทที่ ๑

เหตุใดรู้สึกราวกับโดนตบหน้า

ณ แคว้นฝูหนึ่งในสี่แคว้นใหญ่อันได้แก่ ฝู เหลียง จิน จู กำลังอยู่ในช่วงที่คึกคักที่สุดแห่งปี 

เนื่องจากในวันนี้ของทุกปีจะมีการประกอบพิธีที่สำคัญของเด็กชายหญิงในวัย 8 หนาว 

นั่นคือการตรวจสอบพลังธาตุ อันเป็นตัวตัดสินชะตาชีวิตของเด็ก ๆ ทั้งหลายในอนาคต

ในเมืองหลวงแคว้นฝูยามนี้ ฝูงชนเนืองแน่น เพราะทุกคนมาร่วมส่งกำลังใจให้แก่บุตรหลานตน โรงเตี๊ยมมากมายต่างถูกจับจอง ลูกค้าตบเท้าเข้าออก มาใช้บริการมากมายจนเถ้าแก่ร้านยิ้มหน้าบาน

หากถามว่าเหตุใดปีนี้ถึงได้คึกคักกว่าทุกปี 

คำตอบคือปีนี้ต่างจากทุกปีในด้านของ ‘โอกาส’ 

จากแต่เดิมถูกจำกัดสิทธิ์การเข้าตรวจพลังธาตุได้เฉพาะเชื้อพระวงศ์ ลูกหลานขุนนางและลูกหลานพ่อค้าอันมีจะกินเท่านั้น ชาวบ้านตาดำ ๆ แม้จะฝันก็ยังอาจเอื้อมเกิน

ด้วยเหตุนี้วีรบุรุษของลูกหลานชาวบ้านอย่างไท่จื่อฝูจินหลงในวัย 11 ชันษาที่ทรงเล็งเห็นถึงความต่างนี้จึงได้ยื่นฎีกาถวายแด่ฝูหวงตี้ให้ทรงพิจารณาถึงผลดีผลได้ของปวงประชา เนื้อความในฎีกาคือ…

“ควรแล้วหรือที่จะสนเพียงฐานันดรจนละเลยความสามารถอันแท้จริง ในหมู่มวลผกาที่เหาะเวหา อยู่ใต้ฟ้าบนดินนี้ อาจจะซ่อนหงษารอวันทยานโผลบินอยู่ก็เป็นได้”

เนื้อความในสารถูกเอ่ยถึงโดยเสียงใสของเด็กสาวคนหนึ่ง กล่าวขึ้นภายในรถม้าที่เงียบสนิท ขัดกับบรรยากาศข้างนอกรถม้าที่วุ่นวาย เสียงดังระเบ็งเซ็งแซ่

“เพราะฎีกาฉบับนั้นเลยแท้ ๆ ที่ทำให้ชนชั้นต่ำพวกนี้ มีสิทธิ์มาร่วมพื้นที่หายใจเดียวกันกับข้า” 

กล่าวประโยคนี้จบไช่ฮั่วฮวาก็ปรายตาไปทางเด็กสาวที่มีใบหน้าน่ารักคนหนึ่งซึ่งนั่งตรงข้ามกับตน

“พี่หญิงใหญ่กล่าวเช่นนี้จะไม่เป็นการหลบหลู่ไท่จื่อผู้บุกเบิกโอกาสนี้ให้กับคนที่ด้อยหรือเจ้าคะ" 

ไช่ปิงฮวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย แต่แววตาที่หลุบลงกลับแข็งกร้าวเกินกว่าที่เด็กวัย 8 หนาวพึงจะมี

พรู~มันเริ่มแล้วสินะ

เด็กสาวอีกหนึ่งคนนามว่าไช่เซียงฮวาซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างสงครามน้ำลายที่ได้เริ่มขึ้นแล้วสำหรับวันนี้ กำลังไว้อาลัยให้กับหูของตนเองอยู่

สี่ปีแรกของชีวิตนี้ ก็คิดว่าช่างสงบดีแท้ ๆ ชีวิตเด็กที่นอกจากกินแล้วนอนก็ไม่ต้องทำอะไรอีก ไม่มีเรื่องให้ปวดหัว รำคาญใจเหมือนภพก่อนที่ต้องตายตั้งแต่ยังสาวและยังสวย คิดไม่ถึงเลยว่าสี่ปีให้หลังต่อจากนี้ของนางจะไม่ต่างกันมากเท่าใดนัก

พี่สาวน้องสาวมหาภัยโดยแท้

สิ้นความคิดนี้ไช่เซียงฮวาก็แอบเหลือบตามองซ้ายทีขวาที ดูทิศทางลมเพื่อที่จะได้ตามสถานการณ์ให้ทัน

พูดถึงพี่สาวน้องสาวของไช่เซียงฮวาทั้งในภพที่แล้วและในภพปัจจุบัน…หาได้มีคำว่าพอดีไม่! 

คนหนึ่งหยินคนหนึ่งหยาง คนหนึ่งชอบแสดงเป็นนางร้าย อีกคนชอบคงความเป็นนางเอก ภาษาจากภพที่นางจากมาเรียกว่า ‘คีพคาแร็คเตอร์’

ย้อนไปจุดผกผันของชีวิต ไช่เซียงฮวาสิ้นชีพจากยุคสองพัน ชีวิตเป็นเหมือนนิยายออนไลน์ที่เคยอ่าน มาเกิดใหม่ในโลกจีนโบราณเป็นคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวย

แต่ความร่ำรวยไม่ได้ทำให้นางตื่นเต้นเท่ากับพลังธาตุ วันนี้นางตื่นเต้นมาก เพราะจะได้ทราบว่าตนมีพลังธาตุใด นางอยู่ในโลกของตัวเอง คาดเดาพลังธาตุของตัวเองโดยไม่สนใจการโต้เถียงระหว่างไช่ฮั่วฮวากับไช่ปิงฮวา

จนกระทั่งคนบังคนรถม้าเอ่ยว่า…

“หยุด~” 

การโต้เถียงนี้ถึงได้หยุดลง!

“เอาล่ะพี่สาวน้องสาว ถึงที่หมายแล้วก็อย่าได้ชักช้าให้เสียเวลาเลย” 

ไช่เซียงฮวากล่าวชวนอย่างร่าเริง เรียกสติของทั้งสองคนให้กลับเข้าที่เข้าทาง 

นางร้ายไช่ฮั่วฮวาจะยอมจบการโต้เถียงโดยไม่ทิ้งสิ่งใดไว้ไม่ได้ นางกล่าวว่า “ฝากไว้ก่อนนางคนชั้นต่ำ” แล้วลงจากรถม้าไปอย่างกระฟัดกระเฟียด

ส่วนนางเอกอย่างไช่ปิงฮวาจะโต้ตอบสิ่งใดได้ นอกจากถอนหายใจเบา ๆ แล้วลงรถม้าเป็นคนสุดท้าย

เมื่อสาวน้อยทั้งสามลงจากรถม้าแล้วก็พากันเดินไปยังรถม้าอีกหนึ่งคันที่เป็นของหลินเหม่ยลี่ แม่ใหญ่ของทั้งสามที่นำทัพเด็กบ้านสกุลไช่มาร่วมพิธีในครั้งนี้ 

ส่วนนายท่านรองของบ้าน ไช่ฝูลี่ผู้เป็นรองเสนาบดีกรมพิธีการก็ไม่สะดวกจะพาลูก ๆ ของเขาเข้างานด้วยตนเอง เนื่องจากมีภาระหน้าที่ในการจัดงานนี้โดยตรงจึงทำได้เพียงส่งตัวแทนไปรับ

“...คนของบิดาพวกเจ้ามารับแล้ว แม่ใหญ่จะรอพวกเจ้าอยู่แถวนี้แหละ ไปเถิด” 

หลินเหม่ยลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมีเมตตา มาดแม่เลี้ยงใจร้ายถูกเก็บไว้ทันทีเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ลูกจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวังอย่างแน่นอน” ไช่ฮั่วฮวาพูดกับมารดาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“แม่เชื่อเจ้า ดูแลน้อง ๆ ให้ดี อย่าให้พวกนางกระทำการอันใดให้จวนตระกูลไช่ของเราต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอันขาด” 

“เจ้าค่ะท่านแม่” รับคำมารดาแล้วไช่ฮั่วฮวาก็มองน้องสาวของตนเองอย่างเหนือกว่า 

ใบหน้าเล็กที่แสดงความร้ายกาจออกมาตั้งแต่เยาว์วัยนั้นเรียกความเอ็นดูจากไช่เซียงฮวาได้ไม่น้อย 

“ไปเถอะ”

“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ” 

ทั้งสามคารวะหลินเหม่ยลี่แล้วเดินตามคนของบิดาเข้าไปนั่งตามอัฒจันทร์เพื่อรอเวลาเริ่มพิธี

เมื่อทั้งสามนั่งตามที่ของตนแล้วก็มองไปรอบ ๆ อย่างให้ความสนใจ

เพราะฎีกาฉบับที่ไท่จื่อยื่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดก็คือเด็กในวัยเดียวกันแทบจะล้นอัฒจันทร์ที่ทางกรมพิธีการได้จัดเตรียมไว้

ภายในลานพิธีนี้ถือได้ว่ากว้างขวางพอจะบรรจุเด็กวัยแปดหนาวทั้งแคว้นได้ อย่างวันนี้มีราวหมื่นคน ด้วยจำนวนคนที่มากเช่นนี้ ฝูหวงตี้จึงได้เสด็จไปอัญเชิญศิลาตรวจสอบพลังธาตุด้วยองค์เอง 

ไช่เซียงฮวาจับจ้องไปยังศิลาตรวจสอบพลังธาตุ ศิลาก้อนนี้ไม่เพียงทำให้รู้พลังธาตุในกายเท่านั้น แต่ยังสามารถปลุกพลังธาตุในตัวให้เกิดขึ้นด้วย

พูดถึงเด็กสาวจวนตระกูลไช่อย่างละเอียด

แม้จะมีการแบ่งเรียกพี่ใหญ่ พี่รองและน้องสามก็จริง แต่ทั้งหมดล้วนเกิดในปีเดียวกันทั้งสิ้น จะต่างกันก็เพียงแค่คลอดก่อนคลอดทีหลัง

ไช่ฝูลี่ บิดาของพวกนางเป็นบุรุษที่ฉลาดและพราวเสน่ห์ สอบเข้ารับราชการได้ในอันดับที่ดี ใช้เวลาไม่กี่ปีก็สามารถขึ้นเป็นรองเสนาบดีตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่นได้ 

ท่านปู่ไช่ซิ๋งชานที่ได้ทาบทามบุตรสาวกับฝั่งเสนาบดีกรมกลาโหมเอาไว้แล้วจึงให้ไช่ฝูลี่แต่งหลินเหม่ยลี่ที่เป็นบุตรของฮูหยินใหญ่เจ้ากรมกลาโหมเข้าจวน

ทว่าแต่งฮูหยินใหญ่เข้าจวนได้ไม่กี่ปี ท่านย่าของพวกนางที่สิ้นไปแล้วเมื่อสามปีก่อนก็ได้ทักท้วงเรื่องทายาท เนื่องจากหลินเหม่ยลี่ไม่ตั้งครรภ์เสียทีจึงอยากให้บุตรชายรับฮูหยินเพิ่ม

เท่ากับว่าฮูหยินใหญ่เป็นสะใภ้คนโปรดของปู่ ฮูหยินรองจากจวนเจ้ากรมพระคลังเป็นสะใภ้คนโปรดของย่า

แต่แล้วอย่างไร หากคนโปรดของตนยังไม่มี!

ไม่กี่ปีต่อจากนั้นไช่ฝูลี่ก็ได้แต่งบุตรสาวพ่อค้าเกลือผู้ร่ำรวยเข้าจวน

เรื่องนี้เรียกว่าสวรรค์ลิขิตได้เต็มปาก ฮูหยินทั้งสามของเขาตั้งครรภ์ตอนที่ไช่ฝูลี่อายุ 28 หนาว

คุณหนูใหญ่ คุณหนูรอง คุณหนูสามจึงอายุเท่ากัน ต่างเพียงเดือนเกิดเท่านั้น!

ภายในลานกว้างเริ่มเข้าสู่ความเงียบสงบเมื่อเห็นองครักษ์ผ้าแพรเดินเข้ามาภายใน เป็นสัญญาณบอกว่าผู้สูงศักดิ์กำลังเสด็จมาเยือนที่นี่

เวลาไม่กี่ลำหายใจเข้าออก ขันทีที่สวมหมวกทรงสูงก็ขานการมาของผู้เป็นใหญ่ทั้งสาม

“หวงตี้/หวงโฮ่ว/ไท่จื่อเสด็จ~”

ทุกคนถวายพระพรทั้งสามโดยพร้อมเพรียงกัน เสียงเล็กใสของเด็ก ๆ เมื่อผสานรวมกันเป็นหนึ่งก็สามารถสร้างความอึกทึกให้กับที่นี่ เกิดเป็นความขลังที่แม้แต่ฝูหวงตี้ยังอดใจสั่นไม่ได้

มือหนาใต้แขนฉลองพระองค์มังกรปักดิ้นทองสะบัดหนึ่งครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่ฟังดูน่าเกรงขาม

“ไม่ต้องมากพิธี…เริ่มงานได้!”

กฎของราชวงศ์คือห้ามมองพระพักตร์ ไช่เซียงฮวาวางสายตาไปที่ศิลาไม่ว่อกแว่ก ทำตามกฎอย่างเคร่งครัด

พิธีการในการตรวจสอบพลังธาตุมิมีอันใดยุ่งยากเนื่องจากมีคนค่อนข้างเยอะ ฝูหวงตี้จึงอยากให้รวบรัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ทำตามวิธีเดิมที่เรียกขานทีละชื่อแล้วหยดเลือดบนศิลา แต่ให้ทำการตรวจสอบเป็นรอบ หยดเลือดรอบละหนึ่งร้อยคน เว้นการขานชื่อ

เมื่อผลออกมาว่าเป็นพลังธาตุใด ก็จะปรากฏอยู่ตรงข้อมือเหนือชีพจรของคนนั้น ๆ

ในความคิดของไช่เซียงฮวา… 

ต่อให้ประกาศว่าเด็ก 8 หนาวทุกคนของแคว้นฝูสามารถเข้าทดสอบพลังธาตุได้ทุกคน เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้น้อยลง

แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทำอย่างนั้นได้ทั้งหมด เพราะแต่ละรอบที่ต้องเข้ารับการตรวจสอบนั้นถูกจัดให้นั่งแยกไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม 

ไช่เซียงฮวาและพี่สาวน้องสาวที่อยู่ในรอบแรกล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานขุนนางคนสำคัญรวมไว้ในรอบเดียวกัน

“นั่น ๆ เจ้าเห็นฝั่งตรงข้ามพวกเราหรือไม่ ที่ทรงสวมฉลองพระองค์สีดำสนิท เขาคือองค์ชายรองฝูเฮยหลง”

ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้ามาในลานพิธี ไช่เซียงฮวาที่สายตามองตรงไปข้างหน้า แต่หูทำงานอยู่ตลอดเวลาก็แอบได้ยินประโยคซุบซิบเมื่อครู่ พลันคิดขึ้นมาได้ว่า…

เราลืมไปได้อย่างไรว่าเจ้าคนหน้านิ่งก็ต้องเข้ารับการทดสอบพลังด้วย

องค์ชายรองฝูเฮยหลง สหายสูงศักดิ์เพียงคนเดียวของไช่เซียงฮวาที่ชอบทำตัวเป็นพี่ชายของผู้อื่นจนเซียงฮวาหลงคิดไปแล้วว่าตนเป็นน้องสาวของเขาจริง ๆ

ไช่เซียงฮวามองหาเจ้าของหัวข้อสนทนา เสียเวลาในการมองหาไม่นานก็พบเข้ากับใบหน้านิ่งเย็นชาเกินอายุของเด็กคนหนึ่งซึ่งกำลังมองมาที่นางพอดี

นางลอบยักคิ้วใส่เขา คิดเอาเองว่าไม่มีใครมองเห็น แต่ก็ไม่พ้นสายพระเนตรของเจ้าครองแคว้นซึ่งจดจ่อไปที่พระโอรสของตนพอดี

“กงกง คุณหนูน้อยคนนั้นจากจวนใดกัน” ฝูหวงตี้ตรัสกับกงกงเบา ๆ

ขันทีประจำพระองค์ที่สายตาจับจ้องไปยังจุดนั้นอยู่แล้วก็ตอบคำถามได้ทันที

“ทูลฝ่าบาท เป็นคุณหนูรองจวนรองเสนาบดีกรมพิธีการพ่ะย่ะค่ะ”

“อ้อ ที่แท้ก็หลานสาวของอาจารย์เจ้ารอง”

ฝูหวงตี้พยักหน้าเชิงเข้าใจ พระเนตรแพรวพราวอย่างคนนึกสนุก แต่เมื่อพิธีตรงหน้ากำลังจะเริ่มจึงหยุดความคิดที่กำลังโลดแล่น สนใจเพียงเหตุการณ์กลางตรงหน้า

ที่กลางลานพิธี เมื่อรอบแรกมีคนครบหนึ่งร้อยคนตามที่กำหนดไว้แล้ว นางกำนัลจำนวนสิบคนก็เดินเข้ามาจัดแถวให้สิบคนแรกยืนล้อมศิลาตรวจพลังธาตุไว้ โดยยืนล้อมอย่างนี้อีกจำนวนเก้าวงก็ครบหนึ่งร้อยคนของรอบแรกพอดี 

แน่นอนว่าฝูเฮยหลงอยู่ในรอบแรก!

เมื่อเสนาบดีกรมพิธีการหรือท่านปู่ของตระกูลไช่ให้สัญญาณ เด็กทั้งหลายก็หยิบของมีคมตรงหน้าตนขึ้นมาแล้วกรีดไปที่ตำแหน่งชีพจรตรงข้อมือ ยื่นมือไปที่ศิลาให้เลือดและแผลแนบไปกับเนื้อสัมผัสนั้น

เวลาผ่านไปห้าลมหายใจแสงนานาสีก็เกิดกับศิลาที่ได้ดื่มกินเลือด

ไม่นานหลังจากนั้นก็ปรากฏปานสัญลักษณ์ประจำธาตุของผู้ที่เพิ่งเสียเลือดบนข้อมือ

รอยปานนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อฝึกปรือพลังธาตุได้ในระดับสามขึ้นไปแล้วเท่านั้น

เมื่อปรากฏปานสัญลักษณ์ประจำธาตุขึ้นแล้ว ทั้งสิบคนก็เดินออกมาเพื่อให้สิบคนหลังก้าวไปที่เดิมของตน เด็กสาวตระกูลไช่ทั้งสามที่อยู่ในสิบคนนี้ก็เดินเข้ามาแทนที่ 

ความตื่นเต้นที่อีกนิดจะได้ใช้พลังธาตุทำให้ไช่เซียงฮวาตื่นเต้นจนควบคุมจังหวะหัวใจไม่ได้ ในใจนางคิด…

สาบานด้วยเกียรติของนักกีฬาเลยว่าตอนแข่งกีฑาชิงแชมป์โลกยังไม่เกร็งขนาดนี้

เสียงพ่นลมหายใจไม่หนักไม่เบาของไช่เซียงฮวาทำให้ไช่ฮั่วฮวาที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มเยาะ

“ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอกน้องรอง ถึงอย่างไรผลที่ออกมามันก็คงไม่เกินที่พี่ใหญ่คาดไว้นักหรอก”

ปากพูดเหน็บแนมไช่เซียงฮวา แต่สายตาเลื่อนไปจิกกัดไช่ปิงฮวา

คนที่โดนจิกกัดทางสายตาก็ได้แต่สะกดกลั้นอารมณ์อันคุกรุนของตัวเองไว้ มิได้โต้ตอบกลับไป 

ไม่นานจากนั้นก็มีสัญญาณให้ลงมือทดสอบเลือด

ไช่เซียงฮวาลงมือหยิบกริชเงินที่อยู่ตรงหน้า กลั้นใจปาดตรงชีพจรแล้วแนบไปกับศิลา

ไม่เกินห้าลมหายใจเข้าออกนางก็รู้สึกร้อนตรงตำแหน่งแผล พอแสงจากศิลาในตำแหน่งที่นางแนบเลือดดับไปแล้วก็เอาแขนออกมาแล้วกลับไปนั่งยังตำแหน่งเดิมบนอัฒจันทร์เพื่อที่จะได้ให้คนอื่นทดสอบต่อ

เมื่อกลับมานั่งที่เดิมแล้วไช่เซียงฮวาก็พิศมองไปที่ข้อมือของตนที่มีสีน้ำตาลไหม้ปรากฏอยู่พร้อมกับดอกไม้สีฟ้าที่ค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ 

ในใจนางคิด…ดอกไม้นี่คืออันใดกัน หรือจะเป็นพลังธาตุพิเศษ

“ไม่ต้องเสียใจไปหรอกน้องรอง ถึงจะเป็นเพียงธาตุดินธรรมดา ๆ แต่หากตั้งใจฝึกสักหน่อยก็สามารถเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้”

ไช่ฮั่วฮวากล่าวปลอบใจน้องสาวแต่กลับยกข้อมือให้ทุกคนเห็นสัญลักษณ์บนข้อมือตนที่มีสายฟ้าและสีแดงชัดเจน สองพลังธาตุในคนเดียวกันเช่นนี้นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ 

ทว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เซียงฮวาแปลกใจเท่ากับ…

ธาตุดินธรรมดา ๆ เช่นนั้นหรือ อย่าบอกว่าพี่หญิงใหญ่ไม่เห็นดอกไม้บนข้อมือข้า

คนที่ไช่ฮั่วฮวาอยากเยาะเย้ยที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน 

นางหันไปมองน้องสามปิงฮวาก็เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าพร้อมกับลูบที่ข้อมือของตนซึ่งแผลสมานแล้วหลังจากพลังธาตุได้ถูกปลุกขึ้นมา

“หึ! สีฟ้าธาตุน้ำ!!”

“ธาตุน้ำแล้วอย่างไรเจ้าคะ” ไช่ปิงฮวาถามเสียงเบา

“ก็ไม่แล้วอย่างไร แต่เห็นชัดแล้วใช่หรือไม่ บุตรสาวฮูหยินใหญ่อย่างไรก็เหนือกว่าบุตรสาวอนุ” 

ไช่ฮั่วฮวาเชิดหน้าพร้อมใช้สายตามองด้วยความเหนือกว่า เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ปิงฮวาก็ทำได้เพียงแค่… 

“เป็นข้าที่ไร้ความสามารถ มิอาจหาญตีตนเสมอพี่หญิงใหญ่ได้” น้ำตาคลอเบ้า ตีหน้าเศร้าแล้วก้มหน้าลงต่ำ

ไช่เซียงฮวาดึงตัวเองมาจากโลกส่วนตัว นางไม่อยากให้สถานการณ์แย่ไปกว่านี้จึงรีบแก้ไขสถานการณ์

“พี่หญิงใหญ่มีพรสวรรค์เช่นนี้ เป็นเกียรติให้แก่ตระกูลเรายิ่งนัก” 

ไช่เซียงฮวาหันไปทางซ้ายมองด้วยความเคารพเทิดทูน จากนั้นก็หันไปมองทางขวา ชูกำปั้นให้กำลังใจและปลุกอารมณ์ไปในคราวเดียวกัน

“น้องสามอย่าเศร้าไป เรามาตั้งใจฝึกซ้อมด้วยกัน” 

เหตุใดจึงรู้สึกราวกับโดนตบหน้า ด่าปิงฮวาแต่กระทบถึงข้าเต็ม ๆ ฮั่วฮวายายเด็กแสบ

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
20 Bab
บทที่ ๑ เหตุใดรู้สึกราวกับโดนตบหน้า
บทที่ ๑เหตุใดรู้สึกราวกับโดนตบหน้าณ แคว้นฝูหนึ่งในสี่แคว้นใหญ่อันได้แก่ ฝู เหลียง จิน จู กำลังอยู่ในช่วงที่คึกคักที่สุดแห่งปี เนื่องจากในวันนี้ของทุกปีจะมีการประกอบพิธีที่สำคัญของเด็กชายหญิงในวัย 8 หนาว นั่นคือการตรวจสอบพลังธาตุ อันเป็นตัวตัดสินชะตาชีวิตของเด็ก ๆ ทั้งหลายในอนาคตในเมืองหลวงแคว้นฝูยามนี้ ฝูงชนเนืองแน่น เพราะทุกคนมาร่วมส่งกำลังใจให้แก่บุตรหลานตน โรงเตี๊ยมมากมายต่างถูกจับจอง ลูกค้าตบเท้าเข้าออก มาใช้บริการมากมายจนเถ้าแก่ร้านยิ้มหน้าบานหากถามว่าเหตุใดปีนี้ถึงได้คึกคักกว่าทุกปี คำตอบคือปีนี้ต่างจากทุกปีในด้านของ ‘โอกาส’ จากแต่เดิมถูกจำกัดสิทธิ์การเข้าตรวจพลังธาตุได้เฉพาะเชื้อพระวงศ์ ลูกหลานขุนนางและลูกหลานพ่อค้าอันมีจะกินเท่านั้น ชาวบ้านตาดำ ๆ แม้จะฝันก็ยังอาจเอื้อมเกินด้วยเหตุนี้วีรบุรุษของลูกหลานชาวบ้านอย่างไท่จื่อฝูจินหลงในวัย 11 ชันษาที่ทรงเล็งเห็นถึงความต่างนี้จึงได้ยื่นฎีกาถวายแด่ฝูหวงตี้ให้ทรงพิจารณาถึงผลดีผลได้ของปวงประชา เนื้อความในฎีกาคือ…“ควรแล้วหรือที่จะสนเพียงฐานันดรจนละเลยความสามารถอันแท้จริง ในหมู่มวลผกาที่เหาะเวหา อยู่ใต้ฟ้าบนดินนี้ อาจจะซ่อนหงษารอ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๒ ตำราสวรรค์หมื่นบุปผา 
บทที่ ๒ตำราสวรรค์หมื่นบุปผา หนึ่งชั่วยามต่อมายามอู่ หลังจากที่ฝูหวงตี้เสด็จกลับแล้ว สามเด็กสาวจากตระกูลไช่ก็พากันเดินออกจากลานพิธี“เซียงฮวา”เจ้าของนามหันไปมองด้านหลังโดยมีไช่ฮั่วฮวาและไช่ปิงฮวาหันไปมองด้วย พวกนางถวายความเคารพพร้อมกันเมื่อเห็นว่าเป็นองค์ชายรองฝูเฮยหลง“ถวายพระพรองค์ชายรองเพคะ” องค์ชายรองคนหน้านิ่งพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงให้ตามสบาย “คุณหนูทั้งสอง ขอเวลาเซียงฮวาสักครู่”“เพคะ/เพคะ”ไช่ฮั่วฮวาที่ไม่คิดอะไรเดินออกไปทันที สวนทางกับไช่ปิงฮวาที่ก่อนจะจากไปทำสีหน้าตัดพ้อใส่เด็กหนุ่ม ราวกับว่าฝูเฮยหลงทำผิดต่อนางหนักหนา เรียกรอยยิ้มขำขันจากไช่เซียงฮวาได้ดียิ่งองค์ชายรองเห็นนางขบขันก็ขุ่นเคืองเล็กน้อย แต่ด้วยมีเวลาจำกัดจึงเข้าเรื่องในทันที“เซียงฮวา พรุ่งนี้ยามซื่อจะไปหาท่านอาจารย์พร้อมกับข้าหรือไม่”“หากฮูหยินใหญ่ไม่อนุญาตข้าก็ไปไม่ได้ ถ้านางรู้ว่าข้าจะไปกับเจ้า อย่าได้หวังเลย”“ให้เสด็จแม่ออกหน้าให้ดีหรือไม่”“ข้าจะบังอาจรบกวนกุ้ยเฟยได้อย่างไร”องค์ชายรองฝูเฮยหลงนานทีจะได้สนทนากับไช่เซียงฮวา เนื่องจากพรรคหยิ๋นมี่ที่เขาพำนักศึกษาวิชายุทธ์อยู่นั้น อยู่ในแคว้นเหลียง เมื่อค
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๓ เศษแก้วก็ดีเศษหน้าก็ดี
บทที่ ๓เศษแก้วก็ดีเศษหน้าก็ดี ณ ดินแดนบุปผาสวรรค์ตำหนักที่โอ่อ่าที่สุดมีร่างอรชรของสตรีนางหนึ่งกำลังใช้ดวงตาคู่งามจับจ้องไปที่ภาพของหนึ่งเทพวัยกลางคนเด็กสาวตัวน้อยสายตาของนางนั้นไม่ได้ห่างไปจากเด็กสาวแม้แต่เพียงลมหายใจเดียว สายตาที่รักใคร่โอนโยนยิ่งกว่าบุปผาชนิดใดในดินแดนนี้ของนางราวกับดอกไม้ทั้งดินแดนจะตอบรับไอละอองแห่งความสุขที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวนางได้ เห็นได้จากที่องครักษ์หญิงหน้าตำหนักสัมผัสกับกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยมาจากฟากฟ้า แผ่กลิ่นหอมกำจายทั่วดินแดนบุปผาองครักษ์หญิงทั้งสองหันหน้ามาสบตากัน กล่าวเสียงกระซิบ ใบหน้าติดรอยยิ้มยินดี“ท่านเทพบุปผากำลังมีความสุข”“นานแล้วที่ไม่เห็นท่านเทพมีความสุขเช่นนี้”“นั่นสิ! เรื่องดีอันใดกัน”การสนทนาของทั้งคู่หยุดอยู่เพียงเท่านี้เมื่อเห็นแสงสว่างจากฟากฟ้ากำลังเคลื่อนตัวมาที่ตำหนักใหญ่“คารวะท่านเทพแห่งดวงชะตา” พวกนางทำความเคารพผู้มาใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน ผู้มาเยือนเองก็เข้าเรื่องทันที“ข้ามาขอพบท่านเทพบุปผา” ไม่รอให้องครักษ์เข้าไปรายงานก่อน เทพแห่งดวงชะตาก็ก้าวเท้าเข้าไปด้านในทันที ที่พูดว่า ‘มาขอพบ’ ก็ทำไปตามมารยาทเท่านั้น!เทพบุปผาได้ยิน
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๔ เข้าใจวิถีก็ดีกว่าอยู่แบบกลวง ๆ 
บทที่ ๔เข้าใจวิถีก็ดีกว่าอยู่แบบกลวง ๆ ณ ตำหนักเฉียงหลง“เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ มีผู้ใดในพระทัยบ้างหรือไม่”ไท่จื่อฝูจินหลงตรัสถามเสด็จพ่อถึงพิธีการตรวจสอบพลังธาตุของเมื่อวานขณะที่เข้าเฝ้าอย่างเป็นปกติของทุกวันฝูหวงตี้เงยหน้าขึ้นจากฎีกา ถามพระโอรสด้วยคำถาม คำพูดเป็นกันเองบ่งบอกระดับความสนิมสนมของทั้งสองคน“เจ้าเห็นว่าอย่างไร” “มีเข้าตาอยู่หลายคนพ่ะย่ะค่ะ ขันทีที่ทำหน้าที่จดรายชื่อผู้มีแววว่าจะสามารถฝึกเข้ากองทัพส่วนพระองค์ได้ เพิ่งส่งมาให้ลูก” ว่าแล้วก็ยื่นรายชื่อถวายเสด็จพ่อฝูหวงตี้รับมาเปิดผ่าน ๆ แล้วยื่นกลับมาให้“พ่อไว้ใจเจ้า จัดการตามที่เห็นสมควรเถิด”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” ไท่จื่อคุกเข่าขอบพระทัยด้วยความนอบน้อมแล้ว กลับมานั่งที่เดิมเมื่อเสด็จพ่อโบกมือเบา ๆในตอนนั้นเองที่ขันทีขานการมาของผู้เข้าเฝ้า“ฝ่าบาท องค์ชายรองขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”“เชิญ”สุรเสียงทรงอำนาจกล่าวอนุญาตการเข้าเฝ้าของพระโอรสคนรอง “ถวายพระพรเสด็จพ่อ ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”“มากพิธีไปไยเจ้ารอง ลุกขึ้นมานั่งข้างพี่ชายเจ้า” ฝูหวงตี้อารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพระโอรสมาเข้าเฝ้าต
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๕ หลานรักของอา
บทที่ ๕หลานรักของอาวันต่อมายามเซิน“เซียงฮวา นี่คือท่านอาจารย์ที่จะมาสอนพลังธาตุดินให้แก่เจ้า คำนับเสียสิ”แม้จะสงสัยถึงการคงอยู่ของคนพูด แต่ไช่เซียงฮวาก็คำนับท่านอาจารย์อย่างว่าง่าย“ไช่เซียงฮวาคำนับท่านอาจารย์เจ้าค่ะ”ท่านอาจารย์พยักหน้ารับการคารวะของเซียงฮวา แต่เมื่อเห็นลูกศิษย์คนใหม่ยังคงงุนงงอยู่ก็หันไปมองหน้าเด็กชายอีกคนให้เขาเป็นผู้เฉลย“นี่คือท่านอาจารย์หวาง เป็นหนึ่งในผู้เยี่ยมยุทธ์พรรคหยิ๋นมี่ ท่านอาจารย์เชิญมาสอนเจ้าโดยเฉพาะ”ท่านอาจารย์ที่ฝูเฮยหลงกล่าวย่อมเป็นท่านอาของไช่เซียงฮวา นางถึงกับขอเวลานอกทันทีเพราะความสงสัยทำให้ไม่อาจรับข้อมูลใดได้อีก เมื่ออาจารย์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้ไปได้ก็ส่งสัญญาณให้เฮยหลงเดินตามมาเมื่อพาสหายมาหยุดอยู่ที่สวนดอกไม้ซึ่งไม่ไกลจากที่ท่านอาจารย์ยืนอยู่นัก นางก็พยักหน้าหนึ่งครั้งเป็นเชิงให้อีกฝ่ายอธิบายมาฝูเฮยหลงเป็นคนพูดน้อยและหน้านิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งจึงดูกวนประสาทในสายตาไช่เซียงฮวาจนนางหลุดพูดภาษาจากชาติภพก่อน“ชอบแบบ speedy quiz ถามเร็วตอบเร็วใช่หรือไม่ ได้! เช่นนั้นตอบให้ทันแล้วกัน”ไช่เซียงฮวาดีดนิ้วแล้วตั
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๖ จะทนเห็นนางเจ็บปวดได้อย่างไร
บทที่ ๖จะทนเห็นนางเจ็บปวดได้อย่างไร วันต่อมายามซื่อก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา”ร่างสมส่วนวัยกลางคนของพ่อบ้านใหญ่จวนเสนาบดีกรมพิธีการก้าวเข้าไปด้านในห้องหนังสืออย่างรีบร้อน“นายท่านขอรับ นายท่านสามมาถึงแล้วขอรับ”ไช่ซิ๋งซ่านแปลกใจเล็กน้อยที่บุตรชายคนเล็กถึงเร็วกว่าทุกครั้ง กระนั้นก็ยังให้พ่อบ้านรีบเชิญเขาเข้ามาไม่นานร่างสูงใหญ่ของไช่เฟิงหยูก็เดินเข้ามาในครรลองสายตา ไม่ได้พบบุตรชายสามเดือน แต่เขาสัมผัสได้เลยว่าบรรยากาศรอบตัวไช่เฟิงหยูเปลี่ยนไป“คารวะท่านพ่อขอรับ”ไช่เฟิงหยูคำนับบิดาอย่างนอบน้อม ไช่ซิ่๋งช่านผายมือไปทางโต๊ะหนังสือเพื่อจะถามสารทุกข์สุกดิบ“พ่อสัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบตัวเจ้าดูเปลี่ยนไป ระดับพลังเพิ่มขึ้นหรือ”“เมื่อไม่กี่วันมานี่เองขอรับ”ไช่เฟิงหยูตอบด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ที่มุมปากเล็กน้อย ยามเวลาที่สนทนากับคนในครอบครัวเขาจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ คนเครื่องหน้าอบอุ่น เพียงยกมุมปากสูงขึ้นบรรยากาศรอบกายก็ดูน่าเข้าใกล้แล้ว“อาจารย์ที่เจ้าเชิญมาสอนเซียงฮวามาถึงแล้วเมื่อวาน ตงเฟยเฟยก็ทาบทามอาจารย์มาสอนปิงฮวาเอง เห็นทีเสนาบดีเช่นข้าจะไม่มีความสามารถพอจะหาอาจารย์เก่ง ๆ ให้หลานสาวส
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๗ ฐานทัพใหม่ของเซียงฮวา
บทที่ ๗ฐานทัพใหม่ของเซียงฮวา“หยุด~”เสียงคนบังคับรถม้าดังขึ้นบ่งบอกว่าการเดินทางมาร่วมครึ่งชั่วยามนี้สิ้นสุดลงแล้วไช่เซียงฮวาเปิดม่านหน้าต่างรถม้า สำรวจสภาพแวดล้อมแปลกใหม่ที่เพิ่งมาเยือนเป็นครั้งแรก“ถึงแล้วหรือเจ้าคะท่านอาจารย์”ไช่เซียงฮวาถามอาจารย์หวางที่อยู่บนอาชาสีดำนำหน้ารถม้า เจ้าตัวไม่ตอบแต่พยักหน้ารับเบา ๆ“มา! คุณหนูรอง”ไช่เฟิงหยูที่โดยสารรถม้ามาด้วยกันลงจากรถม้าก่อนเพื่อรออุ้มหลานสาวตัวน้อย ไช่เซียงฮวาให้ความร่วมมือเต็มที่ ยื่นแขนให้เขาอุ้มลงช่วงบ่ายอาจารย์หวางรับไช่เซียงฮวามาฝึกวิชาตามที่นัดแนะกับนางเอาไว้ นอกจากฝูเฮยหลงแล้วก็ยังมีท่านอาติดสอยห้อยตามมาด้วย มาในปีนี้ฝูเฮยหลงสามารถควบม้าได้แล้ว เห็นอีกฝ่ายมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด ในฐานะที่เป็นสหายกับเขามาตั้งแต่เด็ก นางรู้สึกยินดีด้วยประหนึ่งเป็นมารดาหรือญาติพี่น้องก็ไม่ปาน“ไม่ได้มาที่นี่ตั้งหลายปี ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด”ไช่เฟิงหยูหันไปกล่าวกับอาจารย์หวางที่เป็นหนึ่งในสหายคนสนิทพูดถึงพลังธาตุ…ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟเป็นธาตุที่หาได้ทั่วไปธาตุไม้ หากผู้ใดมีพร้อมกับธาตุไฟก็สามารถเป็นผู้ปรุงโอสถได้ ธาตุสายฟ้า ธาตุมืด ธาตุมิต
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๘ ไม่กล้ารับปากเจ้าค่ะไม่กล้า
บทที่ ๘ไม่กล้ารับปากเจ้าค่ะไม่กล้าไช่เซียงฮวารู้จักพรรคหยิ๋นมี่เท่าอายุของตน ไม่มีครั้งใดที่นางไม่รู้สึกตะลึงในศักยภาพของคนในพรรค ครั้งนี้เองก็เช่นกัน ถึงขนาดครอบครองพื้นที่ลับแห่งนี้ได้โดยที่ไม่มีใครเห็น แข็งแกร่งจนคนนึกตั้งคำถาม“เจ้าทั้งสองทำความเข้าใจตำราที่ข้ามอบให้แล้วหรือไม่” อาจารย์หวางถามลูกศิษย์ทั้งสองโดยใช้ถ้อยคำธรรมดา ไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหน หากอยู่ที่นี่เป็นได้สองสถานะเท่านั้นคือศิษย์และอาจารย์“ขอรับ/เจ้าค่ะ”“สำหรับสายวรยุทธ์แล้ว การมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งคือการวัดความสูงต่ำของความสามารถที่มี กำลังภายใน วิชายุทธ์ พลังธาตุ หากนำมาผนวกกันได้จะส่งผลดีต่อตัวเราจนยากจะมีใครต่อกรได้ไช่เฟิงหยูกล่าวกับลูกศิษย์และหลานสาวเพียงเท่านี้ก็เงียบไป ปล่อยให้อาจารย์หวางเป็นผู้ดำเนินการสอนต่อ“ส่วนพลังธาตุนั้นคือการดึงเอาพลังของธรรมชาติมาเก็บไว้กับตัวให้ได้มากที่สุด ระดับหนึ่งถึงสิบเป็นตัวบอกระดับอย่างชัดเจนแล้วว่าร่างกายมีจุดกักเก็บพลังที่สามารถบรรจุพลังไว้ได้มากน้อยเพียงใด”ไช่เซียงฮวาพยักหน้ารับแล้วยกมือขึ้น ไช่เฟิงหยูที่รู้ว่าเป็นเครื่องหมายของการขออนุญาตถามจึงใช้พลังบอกสหายในใจนา
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๙ เปิดไหมถามใจดู
บทที่ ๙เปิดไหมถามใจดูร่างกายที่ไม่แข็งแรงของไช่เซียงฮวาสลบไปทันทีหลังจากที่ดูดซับพลังธาตุได้ครั้งแรก ตื่นมาอีกครั้งนางก็เห็นว่าตนนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้วปลุกพลังธาตุได้ครั้งแรกว่าน่าดีใจแล้ว แต่ไม่เท่ากับเมื่อคืนที่นางได้เรียนรู้เกี่ยวกับตำราสวรรค์หมื่นบุปผาเพิ่มความใฝ่รู้ทำให้นางไม่สนใจความเหนื่อยล้าของร่างกาย ฝืนตัวเองหยิบตำราสวรรค์หมื่นบุปผามาจากช่องลับของเตียง ตอนนั้นนางเผลอคิดว่าหากไม่ต้องซ่อนตำราไว้ในช่องลับก็คงดี ไม่คิดว่าจะเกิดแสงสว่างวาบขึ้นท่ามกลางความมืด ตำราที่อยู่บนตักหายวับไปทันทีนางลองเก็บสิ่งของอื่น ๆ ดูแต่ก็ไร้ผล สิ่งที่นางสามารถเก็บได้มีเพียงตำราสวรรค์หมื่นบุปผาเท่านั้นแน่นอนว่าสามารถเรียกออกมาใช้ได้เช่นกัน“ไก่ของพี่หญิงใหญ่น่ารักดีนะเจ้าคะ”เสียงของไช่ปิงฮวาดึงความสนใจของไช่เซียงฮวาจากความสำเร็จเล็ก ๆ เมื่อคืนไช่ฮั่วฮวาหน้าตึงเมื่อโดนดูถูก แต่เมื่อเห็นถุงหอมที่อีกฝ่ายกำลังปักอยู่ก็เหยียดยิ้ม หาคำโต้ตอบกลับไปได้ “ดอกหญ้าที่น้องสามกำลังปักอยู่ ก็เหมาะกับน้องสามเช่นกัน”“พี่หญิงใหญ่!”ไช่ปิงฮวากดเสียงต่ำเรียกพี่สาวคนโตเสียงเขียว เนื่องจากว่าอาจารย์นั่งอยู่
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
บทที่ ๑๐ หากเจ้าไม่บริสุทธิ์ข้าจะไม่แต่งกับเจ้า
บทที่ ๑๐หากเจ้าไม่บริสุทธิ์ข้าจะไม่แต่งกับเจ้าณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองหลวงแคว้นฝู สององครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องมองหน้ากันเมื่อเสียงในห้องได้เงียบลงแล้ว พยักพเยิดให้กันไปมาจนอีกคนทนไม่ไหวเอ่ยเสียงกระซิบ“คราที่แล้วเป็นข้า เหตุใดครานี้ไม่เป็นท่าน”“เพราะเจ้าเป็นศิษย์น้องอย่างไรเล่า…พูด!”คนเป็นศิษย์น้องส่งเสียงฮึ่มในลำคอทันทีเมื่อโดนศิษย์พี่เอาเปรียบอีกแล้ว“ได้! ในเมื่ออ้างความเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกันเช่นนี้ ข้ารายงานเองก็ได้”เขาทำใจเพียงครู่เดียวเท่านั้นก็กลั้นใจกล่าวรายงาน“ท่านประมุขขอรับ ท่านรองประมุขกลับมาแล้ว” คนที่อยู่ภายในห้องได้ยินคำกล่าวรายงานแล้ว ท่านประมุขพรรคนั่งอยู่บนเตียงกว้างยับยู่ยี่ที่เพิ่งผ่านสมรภูมิรักกับหญิงงามทรวดทรงองค์เอวดูเย้ายวนสามารถปลุกกำหนัดของชายหนุ่มที่พบเห็นให้ลืมไม่ลงได้ แต่ไม่ใช่กับชายหนุ่มคนนี้ปึง!ตั๋วแลกเงินถูกโยนลงบนเตียง ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยวาจาที่ทำให้สตรีร่างบางอยากกัดลิ้นตัวเองปลิดชีพ“ข้าไม่ใช้ซ้ำ!”ดวงตาคู่คมไม่แม้แต่จะปรายตามองนางเลยสักนิด เมื่อเสร็จกิจก็เข้าไปจัดการตัวเองที่หลังฉากกั้น เรียบร้อยแล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที กึก!
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-26
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status