8
ตัวร้ายหรือตัวเลว
รมิดาเดินไปหาชนาธิปเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอแบ่งหน้าที่กับพี่อ้อมแล้วแต่เจ้ากรรม ชนาธิปมีข้อแม้บ้าบอเหมือนอยากแกล้งเธอ
“นี่บทละครวันนี้ หวังว่าคงพอใจแล้วเพราะฉันมาด้วยตัวเอง” รมิดามาถึงเธอก็วางบทให้กับเขาและจูเลียแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจเธอที่พูดไม่ไพเราะเสนาะหูของเขา
“นี่เธอไม่มีมารยาทบ้างเลยหรือไง วางกระดาษแรง ๆ อย่างนี้กับนักแสดงชื่อดังถึงสองคน แม่เธอไม่สอนเรื่องมารยาทบ้างเลยหรือไง” จูเลียพูดขึ้นมาอย่างไม่ให้เกียรติเธอ
รมิดาทนได้ที่ว่าให้กับเธอแต่มาว่าให้แม่ของเธอ ที่เลี้ยงเธอมาอย่างดีด้วยตัวคนเดียวแล้วก็สอนเธอมาเป็นอย่างดีแล้วอยู่ ๆ จูเลียจะมากล่าวหาแม่ของเธออย่างนี้ เธอไม่ยอมง่าย ๆ แน่นอน
“นี่เธอมันมากไปหรือเปล่า ว่าฉัน ฉันทนได้แต่คุณไม่ควรพูดให้กับแม่ของฉันอย่างนี้” รมิดาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะแม่ของเธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ อีกอย่างแม่ของเธอก็เลี้ยงและสอนให้เธอเป็นคนดีมาตลอด
“ก็มันจริง ดูนิสัยของเธอสิต่ำยิ่งกว่าบัวที่อยู่ในตมซะอีก” จูเลียพูดขึ้นมาพลางมองหน้าของเธอเหยียด ๆ ชนาธิปที่รู้สึกว่าจูเลียพูดกับ
“ถึงแม่ของฉันจะไม่ได้ร่ำรวยมีชื่อเสียงอย่างคุณแต่แม่ของฉันก็ไม่ได้ไร้มารยาทที่จะมาต่อว่าคนนั้นคนนี้อย่างคุณ คนที่ต่ำยิ่งกว่าบัวในตมน่าจะเป็นคุณมากกว่า” รมิดาพูดแล้วก็เดินหนีไปแต่ก่อนไปเธอก็ส่งสายตาที่บ่งบอกว่าเธอรังเกลียดชนาธิปกับจูเลียมาก ๆ
“เธอจะไปไหน เธอยังไม่ได้อธิบายบทให้ฉันฟังเลยนะ ฉันไม่อ่านเองแน่นอน” ชนาธิปพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเธอ
“บทก็ไม่มีอะไรมากก็แค่แสดงตัวตนเลว ๆ ของคุณออกมาก็เท่านั้น ส่วนคุณจูเลียก็แสดงความตอแหลเป็นคนดีออกมาแค่นั้นทุกอย่างก็สมจริงแล้ว” รมิดาพูดจบเธอก็เดินไปจากตรงนั้นปล่อยให้สองคนอารมณ์เสียกับคำพูดของเธอที่มันจริงซะยิ่งกว่าจริงซะอีก
เมื่อถึงเวลาเข้าฉาก จูเลียก็แสดงบทนางเอกได้เป็นอย่างดี ส่วนชนาธิปก็เล่นเป็นตัวร้ายได้อย่างน่าหมั่นไส้ โดยเฉพาะรมิดาที่ตอนนี้เกลียดเขายิ่งกว่าอะไรดี
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้เจอกันอีกสองวันนะครับ เราจะพักกองสองวันเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนนะครับ” ปรีติพูดขึ้นมาทีมงานต่างร้องออกมาอย่างดีใจ
“หยุดสองวันกลับบ้านก็คงไม่หายเหนื่อยสงสัยเราคงต้องพักผ่อนอยู่ที่นี่แหละพึ่งผ่านไปได้สัปดาห์เดียวแต่ทำไมมันเหมือนผ่านมาแล้วเป็นเดือน ๆ คิดถึงบ้านจัง” ไพลินนั่งคุยกับรมิดาไปพร้อมกับเก็บของไปด้วย
“เฮ้ย!!” เสียงอุทานของรมิดาดังขึ้นมาเมื่อเธอเปิดดูกล่องเก็บของที่เธอใส่เค้กไว้ข้างในแต่ตอนนี้เธอไม่เห็นมันแล้ว
“นี่แกแกล้งฉันหรือเปล่าไพลินฉันไม่สนุกด้วยนะ” รมิดาเอ่ยถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก ๆ
“เปล่านะ ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอกฉันไม่เคยแกล้งแก แกก็รู้ดีเรนโบว์” ไพลินพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเพื่อนด้วยแววตาที่จริงใจและตกใจไปกับเพื่อนด้วยเหมือนกัน
เหตุการณ์ก่อนหน้า ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายเตรียมฉากต่อไป ยูมิผู้จัดการสาวประเภทสองของจูเลียก็ได้เดินมาบริเวณนั้นก่อนจะเปิดหาดูเค้กแล้วก็นำมันไปให้จูเลียตามคำสั่งของเธอ
“ได้มาแล้ว เธอจะอยากได้ไปทำไมเค้ก” ยูมิเอ่ยถามจูเลียเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยากได้มันไปทำไมกับแค่เค้กก้อนเล็ก ๆ ก้อนเดียว
“เดี๋ยวพี่ก็รู้” จูเลียพูดขึ้นมาพร้อมกับมองเค้กก้อนนั้นแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“อะไรของเธอได้เค้กแล้วก็หัวเราะเหมือนคนบ้า” ยูมิพูดขึ้นมาพร้อมกับส่ายหน้าให้กับการกระทำนางเอกเบอร์ต้น ๆ ของวงการ
กลับมาที่ปัจจุบัน รมิดารู้ว่ามันต้องเป็นฝีมือของชนาธิปหรือไม่ก็จูเลียแน่ ๆ ที่ทำเรื่องเลว ๆ อย่างนี้ หรือไม่ทั้งสองก็ต้องร่วมมือกันกลั่นแกล้งเธอแน่นอน
รมิดาตรงเข้าไปหาชนาธิป เมื่อเธอไปถึงก็ดึงคอเสื้อของชนาธิปทันที เวลานี้เธอไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นเพราะเธอโกรธมาก ๆ เพราะเค้กก้อนนั้นเป็นเค้กที่ธันวาให้มันกับเธอ
“ไอ้คนเลวเอาเค้กฉันคืนมานะ” รมิดาเอ่ยขึ้นมาแต่ก็ยังคงดึงคอเสื้อของเขาอยู่อย่างนั้น
“นี่เธอจะบ้าหรือไงเค้กอะไรฉันไม่รู้เรื่อง” ชนาธิปเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่งง ๆ เพราะเขาไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ
“ถ้านายไม่ได้เอาไปก็แล้วไปแต่อย่าให้จับได้ทีหลังแล้วกัน” รมิดาพูดขึ้นมาก่อนจะปล่อยคอเสื้อของเขาแล้วก็จะเดินกลับไปแต่เมื่อเธอมองไปที่จูเลียก็เห็นเธอนั่งยิ้มอย่างสะใจที่เห็นเธอโกรธเป็นบ้าเป็นบอขนาดนี้
“เธอหัวเราะอย่างนี้หมายความว่าเค้กของฉันอยู่ที่เธอสินะ” รมิดาพูดขึ้นมาโดยที่มีไพลินมาเป็นเพื่อนเธอไม่ห่าง
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเธอจะทำอะไรฉัน” จูเลียพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเธออย่างท้าทาย
“ฉันก็คงทำในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าฉันจะกล้าทำนะสิ” รมิดาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเธออย่างเอาเรื่อง
“นี่หรือเปล่า เค้กที่เธอหมายถึง” จูเลียชูเค้กขึ้นมาแล้วก็ปล่อยมันให้หลุดมือของเธออย่างตั้งใจ เค้กก้อนนั้นเละต่อหน้าต่อตาของรมิดา
“นี่เธอทำเกินไปหรือเปล่า เพื่อนฉันไปทำอะไรให้เธอนักหนาถึงได้แกล้งกันอย่างนี้” ไพลินพูดขึ้นมาพลางจับที่ไหล่ของเพื่อนไว้
“เธอกล้าทำอย่างนี้ก็หมายความว่าเธอพร้อมรับผลกรรมแล้วสินะ” รมิดากำหมัดแน่น ตาของเธอจ้องไปที่จูเลียอย่างก้าวร้าว ไพลินรู้ดีว่าสายตาอย่างนี้มันร้ายมาก ๆ เพราะเธอเคยเห็นเธอโกรธอย่างนี้ไม่กี่ครั้งแต่ทุกครั้งที่สายตาอย่างนี้คือหายนะ
“อย่าไปสนใจเลย เดี๋ยวพี่พาไปซื้อใหม่ตอนนี้เลย ไปกันเถอะ” ธันวาเดินเข้ามาบอกกับเธอ โดยปกติแล้วใครห้ามก็ไม่ฟังแต่คราวนี้ธันวาห้ามแล้วฟัง เธอยอมไปกับธันวาแต่โดยดีเพราะเธอไม่อยากให้ธันวามองเธอไม่ดี เธอต้องเป็นสาวน้อยอ่อนหวานของเขาเท่านั้น
ไพลินก็ยังงงที่เพื่อนยอมผู้ชายแต่ไม่เคยฟังที่เพื่อนรักอย่างเธอห้ามเลยสักครั้ง
“เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน นี่สินะยัยเพื่อนรัก” ไพลินบ่นพึมพำพร้อมกับเก็บของต่อไปทั้งของเธอแล้วก็ของเพื่อนรักของเธอด้วยเพราะตอนนี้ไปกับผู้ชายเรียบร้อยแล้ว
จูเลียก็ได้แต่คลั่งที่ทำร้ายรมิดาไม่ได้สักทีเพราะมีเทพบุตรสุดหล่อปกป้องทุกที
9พระเอกตัวจริง รมิดาออกมากับธันวาเพราะเขาจะพาเธอมาซื้อเค้กที่จูเลียได้ทำมันพังให้กับเธอใหม่อีกครั้ง “จริง ๆ พี่ธันวาไม่ต้องลำบากก็ได้นะคะ เพราะเรื่องนี้พี่ก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย คนที่ผิดคือนางเอกจูออนมากกว่านะคะ” รมิดาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับเรียกจูเลียว่าจูออน “ฮ่า ๆ ๆ จูออน ก็เหมือนนะฉีดผิวจนขาวแทบไม่มีเลือดอย่างนั้น จูออนจริง ๆ ด้วย” ธันวาพูดขึ้นมาแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ รมิดาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “พี่ธันวาชอบชื่อนี้หรือเปล่าค่ะ” รมิดาเอ่ยถามเธอขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ธันวา นอกจากคำตอบที่เธออยากได้จากเขาก็คงเป็นเขาแล้วแหละ คนอะไรทั้งหล่อทั้งดูดี ยิ่งได้มองใกล้ ๆ ยิ่งทำให้หัวใจแทบละลายเลยทีเดียว “พี่ชอบสิ ชื่อจูออนเหมาะกว่าจูเลียซะอีกถ้าใช้ชื่อจูออนป่านนี้ดังกว่าจูเลียไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ” ธันวาหัวเราะชอบใจ เขาไม่ได้หัวเราะอย่างนี้นานมาก ๆ แล้ว ธันวารู้สึกว่าการได้อยู่ใกล้ ๆ เธอมันทำให้เขาไม่ต้องคิดมากอะไรเลย “พี่ธันวาก็พูดไปกับเรนโบว์ไปเรื่อย ฮ่า ๆ ๆ” รมิดาเองก็กลั้นขำไว้ไม่อยู่เช่นกัน รมิดาคลั่งไคล้หลงใหลเขามากขึ้น
8ตัวร้ายหรือตัวเลว รมิดาเดินไปหาชนาธิปเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอแบ่งหน้าที่กับพี่อ้อมแล้วแต่เจ้ากรรม ชนาธิปมีข้อแม้บ้าบอเหมือนอยากแกล้งเธอ “นี่บทละครวันนี้ หวังว่าคงพอใจแล้วเพราะฉันมาด้วยตัวเอง” รมิดามาถึงเธอก็วางบทให้กับเขาและจูเลียแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจเธอที่พูดไม่ไพเราะเสนาะหูของเขา “นี่เธอไม่มีมารยาทบ้างเลยหรือไง วางกระดาษแรง ๆ อย่างนี้กับนักแสดงชื่อดังถึงสองคน แม่เธอไม่สอนเรื่องมารยาทบ้างเลยหรือไง” จูเลียพูดขึ้นมาอย่างไม่ให้เกียรติเธอ รมิดาทนได้ที่ว่าให้กับเธอแต่มาว่าให้แม่ของเธอ ที่เลี้ยงเธอมาอย่างดีด้วยตัวคนเดียวแล้วก็สอนเธอมาเป็นอย่างดีแล้วอยู่ ๆ จูเลียจะมากล่าวหาแม่ของเธออย่างนี้ เธอไม่ยอมง่าย ๆ แน่นอน “นี่เธอมันมากไปหรือเปล่า ว่าฉัน ฉันทนได้แต่คุณไม่ควรพูดให้กับแม่ของฉันอย่างนี้” รมิดาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะแม่ของเธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ อีกอย่างแม่ของเธอก็เลี้ยงและสอนให้เธอเป็นคนดีมาตลอด “ก็มันจริง ดูนิสัยของเธอสิต่ำยิ่งกว่าบัวที่อยู่ในตมซะอีก” จูเลียพูดขึ้นมาพลางมองหน
7เค้กก้อนนี้จะอยู่ไปตลอดชีวิตของฉัน ปราบกลับมาที่กองถ่ายตามเดิม เขาเริ่มทำงานทันทีโดยไม่ได้สนใจเรื่องที่ผ่านมาและเขาก็ไม่ได้ตำหนิผู้ช่วยของเขาอย่างรมิดาเพราะเขาทำงานนี้มานานเขารู้จักนิสัยของนักแสดงดี บางคนก็นิสัยดี ง่าย ๆ สบาย ๆ บางคนก็เอาแต่ใจนิสัยเสียมาก ๆ ก็มี “วันนี้ไม่ต้องห่วงนะเรนโบว์พี่จัดการเอง” ปรีติพูดขึ้นมาพลางยักษ์คิ้วให้กับเธอ “หยุดก็หยุดถูกวันซะด้วย วันนี้ทำไมไม่หยุดเทพบุตรของฉันมาทั้งคนฉันไม่กลัวใครทั้งนั้น” รมิดาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของปรีติงอน ๆ แล้วก็เดินไปจากตรงนั้นเพื่อทำหน้าที่ของเธอ วันนี้รมิดาไม่ยอมไปคุยบทกับจูเลียและชนาธิปเพราะเธอขอร้องให้พี่อ้อมเป็นคนไปคุย ส่วนเธอก็เลือกไปคุยกับธันวาแทน ในตอนแรกพี่อ้อมก็ไม่ยอมแต่เธอขอร้องจนพี่อ้อมยอมทำตามที่เธอขอในที่สุด “พี่อ้อมน่ารักที่สุดเลย ไว้หนูเลี้ยงหมูกระทะนะคะพี่อ้อมคนสวย” รมิดาพูดขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของเธออย่างอารมณ์ดีที่ได้อย่างใจที่เธอต้องการ “พี่ตามใจอย่างนี้อารมณ์ดีเชียวนะ” อ้อมพูดแซว ๆ เธอที่โดนตามใจจนอารมณ์ดีขึ้นมา “ขอบคุณมากนะคะ ต
6ตัวร้ายในเรื่องและนอกเรื่อง หลังจากวันที่กาแฟของชนาธิปหก รมิดาก็ยังไม่ได้เจอเขาอีกเพราะยังไม่มีฉากของเขา แต่วันนี้เป็นวันที่เขาต้องมาเข้าฉากแต่วันนี้ธันวาเทพบุตรของเธอไม่ได้มาที่กองถ่ายเพราะไม่มีฉากของเขา ทำให้รมิดาไม่มีกำลังใจในการทำงานเลย “วันนี้พี่ปราบไม่มานะเรนโบว์เธอต้องทำหน้าที่แทนพี่ปราบนะ ส่วนงานอย่างอื่นพี่ทำให้เอง” พี่อ้อมทีมงานอีกคนเดินมาบอกกับเธอยิ้ม ๆ แต่คนได้ฟังไม่ยิ้มเลยเพราะเธอยังไม่เคยเป็นผู้กำกับจริง ๆ เลยสักครั้งนอกจากเป็นผู้ช่วยปรีติเท่านั้น “ทำไมต้องมาหยุดวันนี้ด้วยนะพี่ปราบวันนี้ซาตานก็มาที่กองถ่ายซะด้วย ปวดหัวจริง ๆ” รมิดาไม่อยากกำกับในวันที่ซาตานอย่างชนาธิปมาแสดง “นักแสดงพร้อมแล้วนะคะพี่เรนโบว์ ฉากก็พร้อมแล้วค่ะ ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ” ทีมงานอีกคนมาบอกกับรมิดาเพื่อให้เธอเริ่มถ่ายทำได้แล้ว ชนาธิปที่เห็นเธอนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์เขาก็เริ่มอยากแกล้งเธอขึ้นมาเพราะวันนี้เขารู้ว่าธันวาไม่ได้มาก็ไม่มีใครมาช่วยเธอได้แน่นอนเพราะไม่มีเทพบุตรสุดหล่อคอยปกป้องเขาก็มีสิทธิ์ที่จะแกล้งเธออย่างเต็มที่ เมื่อการถ่า
5พระเอกสุดหล่อของเรนโบว์ วันนี้เป็นวันแรกของละครเรื่องใหม่ที่รมิดาต้องออกกองไปถ่ายทำ รมิดาเตรียมตัวตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปที่ต่างจังหวัดเพื่อถ่ายละคร ซึ่งเธอต้องไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาหนึ่งเดือน “แม่คะหนูไปแล้วนะคะ” รมิดาบอกกับสายฝนแม่ของเธอก่อนที่จะออกจากบ้านของเธอ “ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก ไม่ต้องห่วงแม่แล้วก็ไม่ต้องห่วงหลานนะ เดี๋ยวแม่ดูแลเอง ส่วนนี้พระที่แม่ศรัทธาพกติดตัวไปด้วยนะ” สายฝนบอกกับลูกสาวพร้อมกับยื่นพระหนึ่งองค์ให้กับเธอ “ขอบคุณนะคะแม่ แม่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ แล้วก็ฝากหลานด้วยนะคะ มีอะไรโทรหาหนูได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” รมิดาบอกกับแม่แล้วก็เดินออกจากบ้านไปเพื่อโบกแท็กซี่ไปทำงาน รมิดาไปรวมตัวกับผู้กำกับและทีมงานอีกหลายคนเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางด้วยรถตู้ของทางบริษัท “พี่ปราบเราต้องไปเป็นเดือนอย่างนี้ พี่ไม่คิดถึงแฟนแย่หรอเนี่ย” รมิดาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของปรีติผู้กำกับที่เธอร่วมงานเป็นประจำ” “พี่ก็คงคิดถึงแต่ทำไงได้พี่ก็ต้องอดทนเพราะต้องหาเงินให้ลูกให้เมียนี่ไง ว่าแต่เราเถอะ แม่กับหลา
4ชีวิตของธันวา ธันวาเป็นนักแสดงหน้าตาดี เขาเป็นพระเอกชื่อดังในตอนนี้ เขาเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม เขาคือสามีแห่งชาติที่ผู้หญิงหลายคนหมายปอง “วันนี้มีสองฉากที่พี่ธันวาต้องได้ถ่ายนะคะ ฉากแรก...” ทีมงานสาวน้อยที่เพิ่งมาทำงานวันแรกเธอเป็นแฟนคลับของธันวา เธอพูดไปก็เขินไปจนธันวาหัวเราะให้กับความน่ารักของเธอ “ไม่ต้องเกร็งอย่างนั้นก็ได้ พี่ก็เป็นคนธรรมดาอย่างหนูนั่นแหละ ไม่ต้องเกร็งนะ” ธันวาพูดออกมายิ่งทำให้เธอเขินไปกันใหญ่ เพราะความหล่อ น่ารัก อบอุ่นของเขาทำให้เธอแทบคลั่ง “ไม่เขินได้ไงก็หล่อขนาดนี้ พี่เห็นเกือบทุกวันพี่ยังอดเขินไม่ได้เลย” พี่ช่างแต่งหน้าพูดขึ้นมาเมื่อเดินมาได้ยิน “พี่ก็พูดไป หล่ออะไรก็หน้าตาเหมือนคนทั่ว ๆ ไปนั่นแหละครับ อย่าชมนักเลย” ธันวาบอกกับเธอก่อนที่จะรับบทละครมาจากสาวน้อย “หนูขอตัวก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นหนูต้องละลายแน่ ๆ พี่ธันวาหล่อ น่ารัก อบอุ่นเกิน หนูไปแล้วนะคะ” นี่คือสิ่งที่ธันวาได้เห็นอยู่บ่อย ๆ คือการที่เห็นสาว ๆ เขินเขาอย่างนี้เป็นประจำ ธันวาเป็นพระเอกห