Share

ตื่นขึ้นมาพร้อมโลกใบใหม่ / 1

last update Dernière mise à jour: 2025-01-23 13:29:34

"อืม"

เสียงครางเบา ๆ ดังคลอขึ้น เปลือกตาที่ปิดสนิทขยับไปมาคล้ายคนกำลังจะตื่นนอน

"คุณหนู! คุณหนูฟื้นแล้ว"

เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ เธอ

แผ่นหลังรู้สึกเหมือนมีใครกำลังพยุงช่วยให้เธอลุกขึ้นนั่ง ทันทีที่ตาเปิดเต็มที่ปากเป็นกระจับก็ขยับร้องลั่น

"กรี๊ด!!"

"คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ?"

หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มทว่ากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเกรอะกรังของดินโคลนจนปกปิดความน่ารักเอ่ยถามด้วยความตกใจ

"เธอเป็นใคร!?"

ตื่นขึ้นมาเจอใครก็ไม่รู้แม้จะเป็นหญิงสาวเหมือนกันทว่าแปลกหน้ามีอันต้องตกอกอกใจบ้างละ

"คุณหนู คุณหนูจำบ่าวไม่ได้หรือเจ้าคะ นี่เสี่ยวโหรวเอง โหรวโหรวของคุณหนูไงเจ้าคะ"

คนที่เธอเพิ่งเคยพบพานเจอหน้าคาดตาครั้งแรกแนะนำตัว

"อะไรโหล ๆ นะ?"

คอน้อย ๆ เอียงมองสาวงามที่เคยเพียบพร้อมทุกอย่างแถมเป็นถึงหญิงงามอันดับต้น ๆ ของเมืองถังเหลียนทว่าเพียงแค่คืนเดียวที่นางหมดสติไปกลับฟื้นขึ้นมาด้วยท่าทางพิลึกพิลั่นแปลกประหลาดไปจนเสี่ยวโหรวตั้งรับไม่ทัน

"เสี่ยวโหรว บ่าวชื่อเสี่ยวโหรว ข้ารับใช้ข้างกายคุณหนูไงเจ้าคะ"

พูดไปเสียงสะอื้นไปเมื่ออีกคนทำท่าทางเหมือนไม่รู้จักตน โดยเฉพาะสายตาที่มองเหมือนตนนั้นเป็นคนแปลกหน้า เสี่ยวโหรวยิ่งรู้สึกใจหาย ปวดไปหมดทั้งใจ

"ฉันไม่มีคนรับใช้ นี่เล่นอะไรกันเนี่ย แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่สิ! ฉันถูกรถชน..."

คิ้วสวยขมวดมุ่นนึกคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างขึ้นทันทีที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้

"เอ๋... ทำไมไม่รู้สึกเจ็บเลยล่ะ แผลก็ไม่มี"

คิ้วสวยขมวดมุ่นพลางขบคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่จะตื่นขึ้นมา จินเยว่จำได้ว่าตนเองกำลังข้ามถนนตัดหน้ารถคันหนึ่ง แถมจำได้อีกว่ารถคันนั้นชนเธอเข้าอย่างจัง แต่ทำไมครั้นตื่นขึ้นมาถึงไร้บาดแผลและความเจ็บปวดเช่นนี้

"เอ๊ะ! ทำไมฉันใส่ชุดนี้ล่ะ?"

หลันจินเยว่จับชายแขนเสื้อที่บางพริ้วสลับกับถกชายกระโปรงขึ้นสำรวจดูชุดที่ไม่เคยเห็น ไม่สิ ต้องบอกว่าเคยเห็นบ่อยครั้งในซีรีส์ที่เธอดู แต่ไม่เคยสวมใส่มันเท่านั้นเอง

หมับ!

"คุณหนูทำอันใดรึเจ้าคะ?"

เสี่ยวโหรวรีบดึงชายกระโปรงนั้นลงพลางมองซ้ายมองขวาดูว่ามีใครเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่หรือไม่

"ก็จะสำรวจชุดนี้ไง เธอเปลี่ยนมันให้ฉันเหรอ แล้วคนที่ขับรถชนฉันหนีไปไหนแล้ว"

หลันจินเยว่ที่ยังไม่รู้ตัวว่าบัดนี้ดวงจิตของเธอได้ข้ามมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นแล้ว นางมองซ้ายมองขวาหาคนที่ขับรถชนเธอในความทรงจำสุดท้ายทว่ากลับไม่เจอ พบเพียงห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่งที่มีไม้ท่อนล้อมรอบช่องเว้นช่องให้พอมือน้อย ๆ สอดออกไปได้

"ที่นี่ที่ไหน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน!"

"คุณหนู! ช่วยด้วย ทหาร! มีใครอยู่ไหม? ช่วยคุณหนูข้าด้วย"

คนที่เพิ่งฟื้นสลบไปอีกครั้งเมื่อสภาพจิตใจเธอกำลังสับสนแถมดวงจิตที่มาโผล่อีกร่างยังเข้ากันได้ไม่ดีพอ

"คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว"

คนที่คอยดูแล เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คุณหนูที่สลบไปรอบที่สองเอ่ยด้วยความดีใจ

"เธออีกแล้ว! ตกลงว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?"

ดวงตาสวยมองสำรวจภายในสถานที่คับแคบมีเพียงแสงไฟจากคบไฟที่อยู่ด้านนอกสาดส่องเข้ามา

ตรงประตูมีโซ่เส้นใหญ่คล้องไว้ดูแล้วไม่จรรโลงใจเลยสักนิดเดียว

อากาศที่ใช้หายใจหายคอยังอับชื้นจนเธอถึงกลับต้องย่นจมูกสลัยกลั้นหายใจในบางเวลา

"คุณหนูจำบ่าวไม่ได้จริง ๆ หรือเจ้าคะ"

เสี่ยวโหรวเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น

บัดนี้แววตาคุณหนูตรงหน้าไม่มีแววเอ็นดูนางอีกต่อไปแล้ว

"ฉันจะจำเธอได้ยังไงเราเพิ่งเจอกันเมื่อกี้เองนะ"

"คุณหนู ท่านกำลังโป้ปดบ่าวอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ เพราะว่า... เพราะว่าสี่ยวโหรวพาคุณหนูไปหานายท่านไม่ได้คุณหนูเลยโกรธเสี่ยวโหรวใช่ไหมเจ้าคะ"

เสี่ยวโหรวพูดไปก็สะอื้นไห้ไปด้วยความรู้สึกผิด

"นายท่านคือใคร?"

"คุณหนู ฮื่อ ๆ บ่าวสำนึกผิดแล้ว อย่าแกล้งบ่าวแบบนี้อีกเลยเจ้าค่ะ"

เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปจับมือแน่งน้อยของคุณหนูนางอย่างขอความเห็นใจให้ยกโทษให้กับความผิดที่มิอาจแก้ไขได้

"ฉันไม่ได้โกรธเธอจริง ๆ นะ"

'ตกลงนี่เราอยู่ที่ไหน ทำไมสถานที่ก็ไม่คุ้นตา แถมสาวน้อยตรงหน้ายังแต่งตัวเหมือนสาวจีนย้อนยุคในซีรีส์ที่ชอบดูอีก หรือว่าฝัน? ต้องใช่แน่ ๆ ฉันกำลังฝันอยู่'

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status