Share

บทที่ 3

Author: จี้เวยเวย
“แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ย

เพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”

“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”

นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริง

ครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!

“ไอ้สารเลว!”

หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปาก

ซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคลนทำให้อับอายเช่นนี้!

“ผลั่ก ผลั่ก ผลั่ก !”

กำปั้นกระแทกเข้าไปไม่หยุด ซ่งจืออวี้เกรี้ยวกราดคล้ายสิงโต น้องหญิงที่พวกเขาวางไว้อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เหตุใดต้องเสียใจเพียงนี้!

“คุณชายซ่ง ท่านรีบยั้งมือเดี๋ยวนี้!”

ฉินซวงซวงเห็นหลินจือเยว่ถูกต่อยจนตาแดงแล้ว ถลันเข้าไปขวางหน้าหลินจือเยว่ จากนั้น...ถูกซ่งจืออวี้ตบหน้าแรงๆ หนึ่งฉาด

“นางแพศยา เจ้านับเป็นตัวอะไร? ขวัญกล้าทำลายงานแต่งของน้องหญิงข้า!”

ซ่งรั่วเจินมองการกระทำของพี่สามบ้านตน ลอบปรบมือร้องว่าดีในใจ ทำได้เยี่ยมมาก!

“ซ่งจืออวี้ เจ้าต่อยข้าก็ช่างเถอะ มีสิทธิ์อะไรมาตบซวงซวง?”

หลินจือเยว่เห็นฉินซวงซวงถูกตบก็ทนไม่ได้ หนึ่งหมัดเหวี่ยงไปทางซ่งจืออวี้

ดวงตาคู่สวยของซ่งรั่วเจินหรี่เล็กลง ชายหลายใจคนนี้ยังคิดลงมือกับพี่ชายนาง? ฝันไปเถอะ!

นางหยิบหินขึ้นมาหนึ่งก้อนอย่างไม่ตั้งใจขว้างออกไปแล้ว มองเห็นหินเล็กๆ ถูกขว้างออกไปกระแทกเข้ากับข้อเท้าของหลินจือเยว่อย่างแรง ทำให้เขาเซถลาคุกเข่าลงตรงหน้าซ่งจืออวี้

ซ่งจืออวี้ “…?”

“หลินจือเยว่ เพื่อเงินเจ้าถึงขั้นไม่สนศักดิ์ศรี แต่หากเจ้าต้องการคุกเข่าก็ควรคุกเข่าให้น้องหญิงข้า คุกเข่าให้ข้าล้วนไม่มีประโยชน์!”

ซ่งรั่วเจินเกือบหลุดหัวเราะออกมาแล้ว ช่างเป็นพี่สามแสนดีของนางจริงๆ!

สีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึงจนน่ากลัว ฉินซวงซวงประคองเขาขึ้นมา ใบหน้าแดงก่ำโมโหเดือดดาล “เมื่อครู่เป็นฝีมือใคร? ใครปาหินใส่ข้า!”

ไม่มีคนตอบ

“น่ากลัวกรรมตามสนองแล้วกระมัง?” ซ่งรั่วเจินแสร้งตกตะลึง “ฟ้าดินมีวิญญาณ คนผู้นี้ไร้ยางอายเกินไป ย่อมถูกสวรรค์ลงโทษ”

หลินจือเยว่กำลังจะขยับ ฉินซวงซวงก็เปิดปากปกป้องแล้ว “แม่นางซ่ง ระหว่างเจ้าและท่านโหวยังมีเยื่อใยต่อกัน เปล่งวาจาเช่นนี้ใจร้ายเกินไปหรือไม่?”

“ข้าใจร้าย?” ซ่งรั่วเจินนั่งบนเก้าอี้ที่เฉินเซียงยกมา ในมือขาดเมล็ดแตงให้แทะระหว่างรับชมละครฉากสนุก นางเหยียดนิ้วชี้ไปทางหลินจือเยว่ “หนึ่งคนใช้เงินของข้าเลี้ยงดูหญิงอื่น หนึ่งคนไม่มียางอายยึดครองว่าที่สามีของข้า พวกเจ้าสองคนสมคบคิดกัน เหตุใดยังกล้าพูดว่าข้าใจร้ายเล่า?”

“นางคนต่ำช้าไร้ยางอาย!” ซ่งจืออวี้เผยสีหน้ารังเกียจ หันมองน้องหญิงของตนอย่างสงสาร “น้องหญิงไม่ต้องกังวล เจ้าคือไข่มุกล้ำค่าของพวกเราสกุลซ่ง ไฉนเลยจะสามารถถูกนางแพศยาพรรค์นี้รังแกได้?”

“ข้าว่าหลินจือเยว่เองก็ตาบอด งานแต่งนี้ยกเลิกก็ช่างเถอะ!”

“เข้ามา ย้ายของของบ้านข้าสกุลซ่งทั้งหมดออกไป หากขนไม่หมดก็ทุบทิ้งเสีย สิ่งของของบ้านข้าสกุลซ่ง พวกเขาไม่คู่ควร!”

มองเห็นเครื่องประดับหลากหลายชนิด ผ้าแพรต่วน เงินในคลังไปจนถึงตั่งเตียงโต๊ะแปดเซียน แม้แต่กระถางดอกไม้ก็ถูกยกออกไป กระเบื้องที่ถูกปูใหม่บนหลังคาถูกทุบทิ้ง แสงแดดเจิดจ้าสาดเข้าเรือน

ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้นอย่างพึงพอใจ “คนที่มาจัดงานเลี้ยงถือของตามข้าไป จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกับราษฎรริมถนนหน้าจวนข้าสามวัน!”

หลินจือเยว่โมโหจนสีหน้าเขียวคล้ำ ซ่งรั่วเจินกลับกระแทกสมุดบัญชีเล่มหนึ่งใส่

“เว้นเสียแต่ของที่ข้านำไป ท่านโหวยังติดค้างข้าแปดล้านตำลึง ต้องนำไปส่งให้ถึงจวนสกุลซ่งของข้าภายในหนึ่งวัน หาไม่แล้วข้าจะไปฟ้องร้องต่อศาลกับท่าน!”

“อะไรนะ? แปดล้านตำลึง?” สีหน้าหลินจือเยว่เปลี่ยนไปแล้ว “เพียงสองปีสั้นๆ จวนโหวจะสามารถใช้จ่ายเงินมากเพียงนี้ได้อย่างไร?”

“ท่านโหวอย่าเพิ่งร้อนใจ ทุกรายการล้วนบันทึกไว้ในสมุดบัญชีทั้งหมดแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น สองปีมานี้ท่านส่งจดหมายถึงข้าสิบสองฉบับ ทุกครั้งล้วนอ้าปากขอเงิน หรือท่านแกล้งไม่รู้?”

ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ขณะเดินออกจากจวนหลินโหว ก็ปลดป้ายจวนหลินโหวลงมาแล้ว

“เพล้ง” เสียงดังขึ้น แตกออกเป็นสี่ห้าส่วน

“ป้ายนี้เองก็เป็นข้าสั่งให้คนทำขึ้นเมื่อหลายวันก่อน บัดนี้ไม่ได้ใช้งาน ทำลายทิ้งก็ไม่เกินไปกระมัง?”

ซ่งรั่วเจินปรายสายตาเย้ยหยันให้หลินจือเยว่แวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวอย่างมั่นคงออกจากจวนหลินโหว แต่กลับมองเห็นเงาร่างสง่างามน่าเกรงขามสายหนึ่งที่หน้าประตู

ฝ่ายชายหล่อเหลาเปล่งประกาย ชุดผ้าแพรสีดำขับเน้นให้เขาสง่างามไม่ธรรมดา ดวงตาดำดุจหมึกคู่นั้นคล้ายหลุมลึก สงบไร้คลื่น สุขุมสง่างาม

สายตากวาดมองอย่างแปลกใจแวบหนึ่ง ดวงชะตาของคนผู้นี้ดีกว่าหลินจือเยว่อีกกระนั้นหรือ?

ฉู่จวินถิงสบมองซ่งรั่วเจินที่แก้แค้นอย่างมีความสุขตรงหน้า ในใจให้นึกแปลกใจ เห็นได้ชัดว่าชาติก่อนซ่งรั่วเจินกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ตลอด ปูทางต่อสะพานให้หลินจือเยว่จนเขาประสบความสำเร็จไปทั้งชาติ หรือว่า...นางเองก็กลับชาติมาเกิด?

นี่...น่าสนใจยิ่งนัก!

ณ จวนสกุลซ่ง

“เจินเอ๋อร์ เหตุใดจึงกลับมา?”

หลิ่วหรูเยียนก้าวเท้าฉับไวขึ้นไปด้านหน้า สายตาเปี่ยมความตกตะลึง กลับบ้านมารดาในวันแต่งงาน มีหลักการนี้ที่ใดกัน?

“ท่านแม่ ข้าไม่แต่งแล้ว”

“จวนโหวเฮงซวยอะไร น้องหญิงห้าไม่แต่งแล้ว ก่อนนี้ข้าเห็นหลินจือเยว่ดูเป็นคนที่พึ่งพาได้ คิดไม่ถึงเรื่องที่ทำออกมาน่ารังเกียจเพียงนี้ วันแต่งงานกลับตบแต่งภรรยาหลวงศักดิ์เทียมกันอีกคน ไม่เห็นหัวคนสกุลซ่งแล้วกระนั้นรึ?”

ซ่งจืออวี้ยังระบายโทสะภายในใจไม่หมด เพียงเปิดปากก็บ่นยาวเป็นพรวนคล้ายจุดประทัด

“ฉินซวงซวงอะไรนั่น หลายปีก่อนคลั่งใคล้หลงใหลองค์ชายสามอยู่ตลอด บัดนี้อายุมากแล้วแต่งไม่ออกจึงตกลงแต่งงานกับหลินจือเยว่ สรุปว่าไอ้คนไม่ได้เรื่องคนนั้นรีบตอบตกลงเห็นเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง วันนี้ตีหัวเขาไม่แตกช่างไม่สบอารมณ์จริงๆ!”

“อะ อะไรนะ?” สีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ สุ้มเสียงสิ้นหวัง “เหตุใดจวนสกุลหลินเหยียดหยามลูกสาวข้าเพียงนี้ พวกเราสกุลซ่งทำผิดต่อพวกเขาที่ใด?”

ซ่งรั่วเจินตาไวมือไว รีบประคองนางไว้ก่อน “ท่านแม่ ท่านอย่าเสียใจไปเลย วันนี้ข้าไม่แต่ง ท่านสมควรดีใจแทนข้าต่างหาก”

“ยังไม่ต้องพูดว่าข้าและเขาหมั้นหมายกันตั้งแต่แรก ครานั้นเป็นเขาคุกเข่าภายในจวนขอข้าแต่งงาน เขายังเป็นสหายร่วมเป็นร่วมตายกับพี่ใหญ่อีกด้วย ขอเพียงเป็นคน ล้วนไม่ทำไม่ดีต่อข้า แต่วันนี้เขาสามารถทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไร้คุณธรรม ไร้มโนธรรม เห็นแก่ตัวไม่มีหัวใจ”

“หากข้าแต่งกับเขาแล้ว นั่นต่างหากถึงสิ้นหวังชั่วชีวิต”

หลิ่วหรูเยียนจับมือนาง สายตาเปี่ยมสงสาร “บัดนี้นายท่านหายตัวไป พี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าล้วนเกิดเรื่อง อยู่ในช่วงตระกูลเผชิญวิกฤตพอดี เดิมทีข้าอยากให้เจ้าแต่งกับหลินโหวเพื่อให้มีชีวิตสงบสุข คิดไม่ถึงว่า…”

“เจินเอ๋อร์ ล้วนเป็นแม่ทำร้ายเจ้าแล้ว คิดว่าหลินโหวจะเป็นคนที่สามารถฝากฝังไว้ได้คนหนึ่ง!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Meaw Tewika
แม่อ่อนแอแท้ๆ ไม่ไหวๆๆ เฮ้อ
goodnovel comment avatar
Lek Chatchalai Sirilaowattanatham
เรื่องราวน่าสนใจมาก
goodnovel comment avatar
Aimjit Jerapa
เรื่องราวสนุกน่าติดตาม..
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1470

    เพียงฮูหยินผู้เฒ่าได้ยิน ความปวดใจแผ่ซ่านอยู่ภายในสายตานางรู้ว่าอวี้หลงกตัญญูมาโดยตลอด อุปนิสัยยิ่งไม่ต้องพูดมาก ได้เห็นสองพี่น้องขัดแย้งกันจนคุ้นชิน ตอนนี้รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก“เป็นพ่อแม่ทำผิดต่อเจ้า”จนกระทั่งเหออวี้หลงออกไปแล้ว เหออวี้เฉิงจึงค่อยเข้ามาเยี่ยมมารดาตอนที่ทั้งสองเดินสวนกัน ต่างมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ สบถเสียงเย็นชาใส่แล้วเดินผ่านไป“ท่านแม่ ท่านรู้สึกเช่นไรขอรับ?”เหออวี้เฉิงมองมารดาของตนด้วยความเป็นห่วง “ระยะนี้ในบ้านไม่ค่อยสงบ ท่านต้องระวังตัวให้มาก เพิ่มคนติดตามไว้ข้างกายสักสองสามคน”“แม่ไม่เป็นไร วันนี้ก็เป็นเพราะแม่เองที่ไม่ระวัง ตอนนี้ในจวนก็ไม่ค่อยสงบจริงนั่นล่ะ แม่เป็นห่วงที่สุดก็คือพวกเจ้าสองพี่น้อง” “แม่รู้ว่าตั้งแต่เล็กเจ้ากับพี่ชายก็ไม่ค่อยลงรอยกัน แม่เองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด บ้านคนอื่นพี่น้องล้วนรักใคร่กลมเกลียวกัน แต่ทำไมพวกเจ้าสองคนเพียงแค่เจอกันก็ต้องมีเรื่องทะเลาะ”“ตอนนี้พวกเจ้าก็โตกันหมดแล้ว สภาพพี่ใหญ่เจ้ากลายเป็นเช่นนี้ เจ้าก็เห็นเองกับตา อย่าได้ทะเลาะกับพี่ใหญ่เจ้าอีกเลย”ฮูหยินใหญ่ถอนหายใจยาว “เรื่องตำแหน่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1469

    เหออวี้หลงตอบโต้กลับไป “เจ้าคิดว่าข้าไม่มีสมองเหมือนเจ้าหรือ? ข้าได้พบพระชายาฉู่อ๋องเองกับตา นี่ถึงขอของล้ำค่ามาได้!”ได้ยินดังนั้น เหออวี้หลงชะงักไป ภายในสายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อวูบหนึ่งนี่คือหยกที่พระชายาฉู่อ๋องมอบให้จริงหรือ?หากไม่เห็นเองกับตา ก็ยากจะทำใจเชื่อได้จริงๆ หรือว่าสมบัติล้ำค่าล้วนเป็นเช่นนี้?เห็นว่าเหออวี้เฉิงหุบปากแล้ว เหออวี้หลงไม่เสียเวลาอีก สาวเท้าฉับไวเข้าไปในห้อง มองเห็นสีหน้าเผือดซีดของมารดาตนที่กำลังนอนบนเตียง“หมอมาแล้วหรือ?” เหออวี้หลงเอ่ยถามแม่นมที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกาย“ท่านโหว หมอมาตรวจอาการก่อนแล้ว พูดว่าฮูหยินผู้เฒ่าไม่เป็นไร เพียงได้รับความตกใจเท่านั้น กอปรกับความหนาวเย็น น่ากลัวว่าเป็นหวัดไปแล้ว สองวันนี้จะต้องพักผ่อนในจวนดีๆ เจ้าค่ะ”เหออวี้หลงวางใจลงแล้ว “เช่นนั้นก็ดี เดิมทีร่างกายท่านแม่ก็อ่อนแออยู่แล้ว วันนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้อีก พวกเจ้าจะต้องใส่ใจปรนนิบัติให้ดี”“เจ้าค่ะ ท่านโหว”ตอนนี้เอง ฮูหยินใหญ่เองก็ฟื้นแล้ว มองเห็นใบหน้าอิดโรยเผือดซีดของลูกชายตน ตาแดงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ปวดใจอย่างสุดระงับ“อวี้หลง ลำบากเจ้าจริงๆ จะต้องเป็นข้าและ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1468

    เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องเหล่านี้ซับซ้อนถึงเพียงนี้ แต่เขาไม่เคยถามไถ่ถึงสถานการณ์ภายในจวนจิ้งเป่ยโหวมากนัก รู้เพียงสถานการณ์ของเหออวี้หลงเท่านั้น“อาหารยกมาแล้ว พวกเรากินข้าวก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าค่อยไปดูที่จวนจิ้งเป่ยโหว ทำความเข้าใจสถานการณ์สักหน่อย”ทุกคนพยักหน้าลง ชิมรสชาติอาหารของหอเยาเยว่ด้วยกันหยางอ๋องลอบดีใจ ต่อให้ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับอูเยว่เอ๋อร์ทำให้รำคาญใจไปบ้าง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถกระชับความสัมพันธ์กับฉู่อ๋องได้บัดนี้ได้เห็นความยอดเยี่ยมของพี่สะใภ้ เขารู้สึกเลื่อมใสยิ่งนัก!......เหออวี้หลงรีบเดินทางกลับจวนจิ้งเป่ยโหว“สถานการณ์ของท่านแม่เป็นเช่นไร?”“พี่ใหญ่ ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นภายในจวนบ่อยๆ วันนี้ท่านแม่ไม่ทันระวังตกลงไปในบ่อน้ำ ท่านถึงขั้นยังมีใจออกไปภายนอกอีกนะ!”คุณชายรองเหออวี้เฉิงสบมองเหออวี้หลงอย่างเย้ยหยัน “อิงตามที่ข้าเห็น ความกตัญญูของท่านคงไม่ใช่ว่าเสแสร้งทำออกมาหรอกกระมัง บัดนี้ได้รับสืบทอดตำแหน่งแล้ว ก็ไม่สนใจอีก”“วันนี้ข้าออกไปทำธุระ เจ้าอย่าพูดเหลวไหลไร้สาระ!”สีหน้าเหออวี้หลงเคร่งขรึมลงไป ต่อให้เขาและเหออวี้เฉิงเป็นพี่น้องแท้ๆ แต่ความสัม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1467

    เหออวี้หลงรีบหยิบเงินที่เตรียมไว้ดีแล้วตั้งแต่แรกออกมา อันที่จริงเขาถึงขั้นคิดมาก่อนว่าขอให้คนช่วยชีวิต บางทีราคาอาจสูงเทียมฟ้าอย่างไรเสียก็ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิต แต่เงินหนึ่งหมื่นตำลึงในตอนนี้ น้อยกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากนักพระชายาฉู่อ๋องช่างมีเมตตาโดยแท้ นางคือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิต!ซ่งรั่วเจินมองเห็นตั๋วเงินเต็มกระเป๋าของเหออวี้หลง ก็รู้ว่าคนผู้นี้เตรียมไว้ดีแล้วตั้งแต่แรก“พระชายาฉู่อ๋อง เหล่านี้ล้วนเป็นน้ำใจของข้า...”เหออวี้หลงมอบตั๋วเงินในมือทั้งหมดไป“พูดแล้วว่าหนึ่งหมื่นตำลึงก็คือหนึ่งหมื่นตำลึง รับมากกว่านี้จะผิดกฎของข้า”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ ดึงเงินหนึ่งหมื่นตำลึงออกจากมือเหออวี้หลง ยื่นหยกคุณภาพต่ำชิ้นหนึ่งให้“ท่านเก็บหยกนี้ไว้ให้ดี เจ้าส่งนี้สามารถช่วยกำบังท่านจากเคราะห์ร้ายและรักษาชีวิตของท่านได้”เหออวี้หลงรับไปด้วยสองมืออย่างเคารพนบนอบ รู้สึกแปลกอย่างมากภายในใจ เขามองออกว่าหยกชิ้นนี้คุณภาพต่ำ ด้วยฐานะของพระชายาฉู่อ๋อง จะต้องไม่สวมแน่แต่เขารู้ว่าของที่พระชายาฉู่อ๋องมอบให้จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่า สามารถช่วยเขาให้พ้นเคราะห์ได้!“ขอบคุณพระชายาฉู่อ๋องมาก ข้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1466

    หอเยาเยว่หลังจากพวกซ่งรั่วเจินนั่งลงแล้ว หยางอ๋องสั่งให้ร้านอาหารยกอาหารเลิศรสทั้งหมดขึ้นมาหนึ่งชุด นี่ถึงเอ่ยปากว่า“ไม่ขอปิดบัง ข้ามีสหายสนิทคนหนึ่ง ก็คือเหออวี้หลงแห่งจวนจิ้งเป่ยโหว แต่ไม่รู้ช่วงนี้เป็นอันใดไป ภายในจวนเขาเกิดเรื่องอยู่บ่อยครั้ง”“เมื่อหลายวันก่อนยิ่งแล้วใหญ่ ข้าออกจากบ้านพร้อมเขา แจกันบนชั้นสองตกลงมาใส่หัวของเขา แตกจนได้เลือด”หยางอ๋องเผยสีหน้าซับซ้อน “หากเรื่องทำนองนี้บังเอิญเกิดขึ้นหนึ่งครั้ง บางทีนั่นอาจเป็นเหตุไม่คาดฝัน แต่ช่วงนี้เขาซวยบ่อยๆ เรื่องพรรค์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งสองครั้ง”“ดังนั้น ข้าจึงคิดว่าเรื่องนี้มีอันใดซ่อนอยู่หรือไม่ หาไม่แล้วก็ยากจะนึกออกได้ว่าคนผู้หนึ่งจะซวยได้ถึงเพียงนี้!”เพียงเมิ่งชิ่นได้ยิน ก็หันมองทางซ่งรั่วเจิน นึกถึงเมื่อแรกนางฟังคำเกลี้ยกล่อมของรั่วเจิน นี่ถึงรักษาชีวิตเอาไว้ได้คนอื่นอาจไม่มีวิธีรับมือต่อเรื่องนี้ แต่ถามรั่วเจิน นั่นสามารถถามออกมาได้จริงๆ!“คุณชายเหอท่านนี้มาหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามหยางอ๋องพยักหน้า “มา ตอนนี้อยู่ด้านนอกนั่น ข้าใคร่ครวญดูแล้วหากพี่สะใภ้ยอมข้าก็จะให้เขาเข้ามา หากไม่ยอม นั่นก็ช่างเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1465    

    จวนเหลียงอ๋อง หลังจากที่ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว จวนอ๋องก็กลับคืนสู่ความสงบ บ่าวไพร่รอบด้านก็ถอยออกไปหมด เหลือเพียงเหลียงอ๋องกับพระชายาเหลียงอ๋องสองคน บรรยากาศหนักอึ้งอย่างน่าประหลาด “ข้าเคยสั่งเจ้าหรือไม่ว่า ออกไปก่อเรื่องให้น้อย ๆ หน่อย?” เหลียงอ๋องน้ำเสียงเย็นชา ดูเหมือนน้ำเสียงนิ่งสงบ แต่กลับทำให้ฉีชิงอีใจหายใจคว่ำ ฉีชิงอีรีบคุกเข่าลงทันที “ท่านอ๋อง เดิมทีหม่อมฉันก็ไม่อยากก่อเรื่อง เพียงแต่ซ่งรั่วเจินนั่นเกินไปจริงๆ!” “ท่าทางนางหยิ่งยโส ไม่เห็นหม่อมฉันอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย แล้วยังจงใจยั่วยุหม่อมฉัน หม่อมฉันทนไม่ไหวไปชั่วขณะหนึ่ง จึงทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมา” “เจ้าควรรู้สถานะในราชสำนักของฉู่อ๋องในตอนนี้ เขากำลังมีอำนาจ เจ้าหาเรื่องพวกเขาในเวลานี้ มีแต่จะนำปัญหามาให้ข้า” แววตาของเหลียงอ๋องดุดันและเหี้ยมเกรียม ช่วงนี้เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผิดปกติ แม้แต่ในราชสำนัก ทุกคนต่างก็สรรเสริญฉู่อ๋อง คิดว่าเขาฉลาด สุขุมรอบรู้ วิทยายุทธ์สูงส่ง นับว่าเป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุดในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย แต่เขาก็ไม่เคยใส่ใจเลย สำหรับเขาแล้ว สิ่งเห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status