นิลกาฬทำหน้าเซ็ง แต่ถ้าให้เธอเดินกลับไปยังรถตัวเองในตอนนี้คนเดียว เธอก็คงไม่เอาอีกเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อมีทางเลือกไม่มากนักเธอจึงนั่งนิ่ง ตั้งใจว่าจะติดรถเขาไปถึงหน้าหน้าโรงพยาบาลแล้วต่อแท็กซี่กลับแทน
ดวงตากลมโตสอดส่ายไปในทิศที่เคยเห็นเงาดำอีกครั้ง ก่อนจะลอบถอนหายใจโล่งอกเมื่อไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไรอีกแล้ว
“เป็นหมอประสาอะไร ถึงโง่ให้คนเดินตามมาจนจะถึงตัวอยู่แล้ว”
คชามองสีหน้าที่ยังปรากฏร่องรอยความตื่นตระหนกของหมอสาว ใจนึกเป็นห่วงแต่สิ่งที่พูดออกมา กลับเป็นคำตำหนิเสียมากกว่าการปลอบใจไถ่ถาม ครั้นจะแก้คำพูดเสียใหม่อีกคนก็หน้าหงิก มองตาขวาง
“ฉันไม่ได้โง่นะ”
นิลกาฬเถียงแล้วสะบัดหน้าใส่คนปากเสียอย่างแง่งอน มองไปยังสถานที่เกิดเหตุก่อนจะพูดความคิดในมุมของตัวเองออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“วันนี้ฉันแค่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ก็ปกติเขาไม่เคยเข้ามาใกล้ขนาดนี้นี่นา”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพียงแต่วันนี้มันออกจะโชคร้ายไปหน่อยตรงที่เธอดันจอดรถไกลกว่าปกติ จนทำคนแปลกหน้าคนนั้นมีโอกาสเข้าหาเธอได้
หากเมื่อครู่คนที่เข้ามาขวางไว้ไม่ใช่คชา เธอไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ใบหน้าคมพลันถมึงทึงขึ้นมาทันที อะไรคือไม่ใช่ครั้งแรก?
คชาตั้งใจจะบ่นคนข้าง ๆ อีกสักชุด ทว่าวินาทีที่สายตาสะดุดเข้ากับรอยเลือดที่ข้อศอก ความสนใจก็มุ่งไปยังบาดแผลจนหมด
“เอาแขนมา”
“ฮะ?”
นิลกาฬทำหน้างง พอเห็นเขาจ้องช่วงกลางลำตัวเขม็งสองแขนก็ตวัดขึ้นโอบกอดตัวเอง เหล่มองด้วยแววตาไม่ไว้ใจ
“อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันอีกนะ!”
คชาถอนหายใจพรืดใหญ่ สภาพแบบนี้ใครมันจะไปคิดลง! แต่เพราะขี้เกียจพูดซ้ำสองจึงยื่นมือไปหา ถือวิสาสะดึงให้หญิงสาวโน้มตัวเข้ามาใกล้
“นี่!”
“เธอเลือดออก”
คชาโพล่งสวนก่อนจะมีคนตีโพยตีพาย สายตาสำรวจบาดแผลอย่างถี่ถ้วน กระทั่งเห็นว่ามันไม่หนักหนานักจึงเงยหน้าขึ้นมามองดุ
“ทำไมถึงทำอะไรไม่ระวังตลอดเลยฮึ?”
ความใกล้ชิดและกลิ่นกายหอมสะอาดทำเอาหัวใจกระตุกวูบ เลิ่กลั่กกระแอมไอกลบเกลือนอาการผิดปกติของตัวเอง แสร้งทำเป็นชักสีหน้าหงุดหงิด
“ฉันไม่ตายเพราะแผลแค่นี้หรอกน่า”
“อ้อเหรอ?”
คชาย้อนถามกลั้วหัวเราะ มาทำเป็นฟอร์มใส่ นี่เธอไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าแก้มตัวเองแดงแค่ไหน และยิ่งเขาเห็นแววตาวูบไหวของคนเขิน เขาก็ยิ่งรู้สึกอยากกลั่นแกล้งเธอให้เขินไปมากกว่านี้
“ตามใจแล้วกัน คาดเข็มขัดด้วย”
“นายส่งฉันที่หน้าโรงพยาบาลก็พอนะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเองได้”
“อย่ามาอวดดีได้ไหม คาดเข็มขัดซะ หรือจะให้ฉันคาดให้”
นิลกาฬค้อนขวับ “คาดทำไม อีกแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเอง”
“อ้อ อยากให้คาดให้”
“มะ..ไม่ ไม่ต้อง”
ทั้งที่ใจไม่อยากทำหากพอเห็นชายหนุ่มโน้มตัวมาหา บวกกับในหัวเผลอนึกถึงคำพูดและการกระทำรุ่มร่ามเมื่อตอนเที่ยงขึ้นมา เธอก็สะดุ้ง รีบกระชากเข็ดขัดนิรภัยมาคาดเอง
กึกกึก
แรงกระชากทำให้สายเข็มขัดนิรภัยล็อคและดึงมาได้แค่ครึ่งทาง หญิงสาวจึงกระตุกซ้ำ ๆ เพื่อให้มันคลายล็อก แต่ก็ไร้ผล
“ใจเย็นสิแม่คุณ เดี๋ยวมันได้พังพอดี”
เจ้าของรถมองแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ เอื้อมมือไปวางทับลงบนหลังมือเรียวแล้วบีบเบา ๆ หวังให้เธอหยุดกระทำแล้วปล่อยเข็มขัด
อารามความตกใจทำให้นิลกาฬหันขวับ ตั้งใจจะเอ็ดที่เขาปากว่ามือถึงกับเธออีกแล้ว แต่แล้วร่างก็แข็งทื่อหยุดทุกความเคลื่อนไหวเมื่อพบว่าใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้เสียจนปลายจมูกเธอเฉียดจะโดนข้างแก้มเขาอยู่รอมร่อ
“อื้อ!”
หญิงสาวรีบหดคอทันควัน ดวงตาสีนิลชำเลืองมองปฏิกิริยาแข็งเกร็งของเธอแล้วยิ้มขัน อยากจะเสนอแก้มอีกสักทีแต่เพราะเห็นเธอตกใจจนลืมหายใจ เขาเลยยอมผละออกห่างหลังกดหัวเข็มขัดเข้ากับที่รับเรียบร้อยแล้ว
“แก้มฉันนุ่มกว่าแก้มเธออีกนะ ลองดูมะเผื่อจะติดใจ”
ให้เธอจูบกับปูนซีเมนต์ยังดีซะกว่า เหอะ!
“เสร็จแล้วก็ถอยออกได้แล้วค่ะ!”
ถึงถ้อยคำจะฟังดูสุภาพหากแววตาและน้ำเสียงนั้นฟ้องชัดว่าคนเขินได้กลายเป็นคนเคืองไปแล้ว
ยิ่งพอนิลกาฬนึกถึงเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มเคยเอาเปรียบเธอที่โรงแรม Nava เมื่อเดือนก่อน เธอก็รีบผลักเขาออกห่าง ไม่อยากตอบโต้ให้เสียอารมณ์
เพราะอย่างน้อยเขาก็มีแก่ใจยื่นมือเข้ามาช่วยเธอจากสถานการณ์คับขัน ถึงมันจะเป็นเพราะความบังเอิญก็เถอะ
++++++++++++++
ในซีรี่ส์มีทั้งหมด 5 เรื่อง
1. คชา x หมอนิล จาก ทำไมถึงเป็นเธอ 2. หมอนัท x หมอฟ้าใส จาก รักอำพราง 3. หมอเกมส์ x น้ำค้าง จาก รักอำพรางคู่พิเศษ 4. ต้นไม้ x ใบบัว จาก เพื่อน(ไม่)จริง 5. อาร์ม x ยูกิ จาก กับดักรักร้าย สามารถอ่านแยกกันได้ค่ะ เพียงแค่มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันในบางฉากเท่านั้น“ทะ...ทับทิม หนูมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”นิลกาฬกระชับเสื้อคลุมอาบน้ำให้แน่นขึ้น ส่งสายตาให้สามีไปจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนหย่อนสะโพกลงนั่งข้าง ๆ ร่างป้อมของลูกสาว“ตั้งแต่คุณพ่อกับคุณแม่เล่นไล่จับค่ะ”นิลกาฬหลุดยิ้มออกมา แก้มนวลเห่อร้อนจนแดงก่ำหลังได้ยินคำตอบใสซื่อของลูกสาว แต่ก็นึกขอบคุณความไร้เดียงสาของเธอที่ทำให้คำเรียกของกิจกรรมเมื่อครู่ดูน่ารักขึ้นถนัดตา“ค่ะ แล้วนี่ทับทิมเข้ามาในห้องนอนคุณแม่ทำไมคะ”“มาตามไปทานข้าวค่ะ ทับทิมมารอ แต่น้องไพลินหิวจนรอไม่ไหวก็เลยลงไปกับน้องเพทายแล้ว”นิลกาฬทำตาโตเมื่อมารู้ทีหลังว่าไม่ได้มีแค่ทับทิมที่ได้ยินเสียงกิจกรรม ทว่าลูก ๆ ของเธอได้ยินกันอย่างเท่าเทียมถ้วนหน้ายังดีที่ลูก ๆ คิดว่าพวกเธอแค่เล่นไล่จับ นี่ถ้าลูก ๆ โตจนรู้ความ เธอคงไม่ต้องเอาปี๊บคลุมหัวแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำเลยหรือเรื่องนี้คงต้องโทษคนหื่นที่เอาแต่ใจไม่รู้จักเวล่ำเวลา เบิ้ลแล้วเบิ้ลอีกจนลูก ๆ ต้องมาตามให้ไปทานข้าวเนี้ย!“คุณแม่คะ”“คะ?”นิลกาฬคลี่ยิ้มละมุนพลางสบสายตาใสแป๋วของลูกสาว รอฟังสิ่งที่เธอจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าใจดี แม้ในใจจะกำลังร้อนรนเพราะกลัวลูกน้อยจะสงสัยและเอ่ยถามถึงกิจ
ร่างบางยืนขาสั่นระริก มือเกาะเคาน์เตอร์แน่นจนซีดขาว ในขณะที่ร่างกายโยกคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นของคนด้านหลังจนหน้าจะพุ่งเข้าไปติดกับกระจกอยู่รอมร่อใบหน้าหวานแดงซ่าน บิดเบี้ยวเหยเกเมื่อมือหนาเลื่อนมาบีบเคล้นเต้าอวบอย่างรุนแรง จนเนื้ออ่อนแดงเถือกและปริ้นออกมาตามง่ามนิ้ว ทว่าความเจ็บนั้นกลับช่วยเพิ่มความร้อนแรงของบทรักให้โหมกระพือมากขึ้นไปอีก“อ๊ะ พี่คชา เจ็บนะ”“เจ็บหรือเสียว หื้มมม พี่ให้นิลตอบใหม่?”“ทะลึ่ง”“อาส์ ที่รักกก พี่อยากได้อีกคน พี่ขอได้ไหมคะ”“พะ...พอแล้วค่ะ นิลจะกลายร่างเป็นแม่วัวอยู่แล้วนะ”นิลกาฬบ่นอุบพลางเอี้ยวตัวหันกลับไปค้อนใส่คนหื่นที่ยังคงมีความคิดในการปลุกปั้นลูกน้อยคนที่ 4 อีกแล้วขยันทำแต่ไม่ถามเธอสักคำว่าขยันคลอดหรือเปล่า นี่ตกลงจะทำลูกหรือทำทีมฟุตบอลกันแน่“อ๊ะ!”นิลกาฬทำตาโตด้วยความตกใจเมื่อคนด้านหลังกระชากร่างของเธอให้แอ่นขึ้นทั้ง ๆ ที่ท่อนล่างยังคงทำหน้าที่ตอกตรึงเธออย่างร้อนแรงไม่หยุด มือข้างนึงเลื่อนมาตรึงคางมนของเธอไว้แน่นพลางบังคับให้สบกับสายตาหยาดเยิ้มของเขาผ่านทางกระจกเงาตรงหน้า“แม่วัวที่ไหนจะสวยขนาดนี้คะ ดูสิคะ สวยจะตายยยย”“อ๊ะ ไม่ต้องมาปากหวานใส
นิลกาฬถลึงตาดุใส่สามีที่ยิ้มร่าด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งยอง ๆ สองมือโอบสองลูกน้อยมากอดไว้อย่างหลวม ๆ หันไปมองหน้าลูกสาวคนโตด้วยสายตาอ่อนโยนแล้วเอ่ยถามใหม่อีกครั้ง"นอกจากก่อกองทรายแล้วมีอะไรอีกคะ"ทับทิมกระพริบตาปริบ ๆ ทำท่านึกทบทวนถึงสิ่งที่คุณแม่พร่ำสอน ก่อนจะพยักหน้าแรง ๆ หลายทีแล้วพูดสิ่งที่จำได้ออกมา"คุณแม่บอกว่าทับทิมต้องไปโรงเรียน ต้องทำการบ้าน แล้วก็ดูแลน้อง ๆ ค่ะ"นิลกาฬอมยิ้มดีใจที่ลูกน้อยยังจำได้ แม้จะหลงลืมและพาน้อง ๆ เล่นทโมนเยี่ยงเด็กผู้ชายอยู่บ่อย ๆ ก็ตาม"ใช่ค่ะ หนูดูสิคะ น้องเพทายตัวเปียกหมดแล้ว อีกเดี๋ยวต้องเป็นหวัดแน่ ๆ เลย หนูคงไม่อยากเห็นน้องป่วยใช่ไหมคะ"ทับทิมมองตามสายตาคุณแม่ไปยังน้องชายที่เป็นเสมือนลูกสมุนมือขวาของตัวเองที่เปียกมะลอกมะแลก เด็กน้อยหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้ารับว่าเห็นด้วย สีหน้าของเธอสลดลงด้วยความรู้สึกผิดไปหลายส่วน"งั้นพาน้องไปอาบน้ำกันเนอะ เดี๋ยวคืนนี้คุณแม่จะให้คุณพ่อเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนอีกนะคะ""เย้ ๆ ๆ ไปค่ะ ๆ"ทับทิมฉีกยิ้มกว้างพลางปรบมือระรัวด้วยความดีใจ ก่อนจะหันไปกอดคอน้องชายที่ปรบมือตามอย่างรักใคร่"ป่ะ
@หลายปีต่อมาร่างบางก้ม ๆ เงย ๆ ง่วนกับการจัดจานของอาหารมื้อเย็นสำหรับครอบครัว แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขหลังแต่งงานได้ไม่นานนิลกาฬก็ตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลมาเปิดคลีนิคเป็นของตัวเอง เพื่อจะได้มีเวลาให้ครอบครัวและตัวเองมากขึ้น"เรียบร้อยยยย"นิลกาฬปรบมือเบา ๆ ให้ตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ หลังลงมือเข้าครัวทำอาหารมื้อพิเศษนี้ด้วยตัวเอง ก่อนเงยขึ้นมาชะเง้อมองหาพ่อลูกที่พากันออกไปเล่นก่อกองทรายด้านนอกตั้งแต่บ่ายแก่ ๆ แล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับเธอวางมือจากงานตรงหน้าแล้วก้าวตรงไปยังประตู ตั้งใจจะออกไปตามคนที่สนุกจนติดลมให้เข้าบ้านกันได้แล้ว ตากแดดตากลมนานเกินไปเดี๋ยวจะพาลไม่สบายกันทั้งคู่แต่ยังไม่ทันจะได้ออกไปไหน หญิงสูงวัยที่ทางบ้านส่งให้มาช่วยดูแลเจ้าตัวเล็กก็เดินสวนเข้ามาซะก่อนดวงตากลมโตทอดมองร่างเล็กที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของคนตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มละมุน ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอ็นดูสงสัยจะเล่นจนเหนื่อยจัด หลับคอพับเชียว!"ป้าจันทร์เห็นพี่คชาไหมคะ""อยู่ที่หาดนู้นค่ะ พอดีคุณหนูง่วงแล้ว ป้าก็เลยพากลับมาก่อน"จันทร์ แม่นมที่เลี้ยงสองหนุ่มของตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาตั้งแ
คชาช่วยหยิบเครื่องปรุงต่าง ๆ มาวางเตรียมไว้ให้ภรรยา ทั้งยังหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ พอดีคำและหั่นแครอทให้เป็นลูกเต๋าชิ้นเล็ก ๆ ไว้รออีกด้วย ถึงจะทำอาหารได้แย่แต่ฝีมือการลงมีดของเขาก็ใช้ได้นะแววตาชื่นชมทอดมองภรรยาคนเก่งที่โชว์ฝีมือควงตะหลิวได้อย่างคล่องแคล่วตาไม่กระพริบ ถึงตัวเขาจะไม่ถนัดงานครัวแต่เธอกลับทำได้ดี ช่างเหมาะสมลงตัวกับเขาเป็นที่สุด“พี่คชาคะ นิลขอน้ำตาลหน่อยค่ะ”คชาหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระปุกเล็ก ๆ สีขาวที่วางอยู่ไม่ไกลมาส่งให้ภรรยาอย่างรวดเร็วมือเล็กที่กำลังหยิบน้ำตาลขึ้นมาจากกระปุกชะงักเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงเนื้อสัมผัสของเครื่องปรุง คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันด้วยความฉงนพลางยกนิ้วที่มีเครื่องปรุงอยู่ส่งเข้าปากตัวเองแทนที่จะโรยลงกระทะ“อื้ออ ชัดเลย!”นิลกาฬหลับตาปี๋เมื่อรสชาติของเครื่องปรุงแผ่ซ่านไปทั่วลิ้นเล็ก ว่าแล้วเชียวทำไมข้าวผัดของสามีถึงเค็มปร่าขนาดนั้น ที่แท้พ่อคุณก็เล่นหยิบเกลือมาโรยแทนน้ำตาลนี่เอง“คะ เมื่อกี้นิลว่าอะไรนะคะ”นิลกาฬยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่ตอบคำถามของสามีแต่ยัดนิ้วเรียวที่ยังมีเศษของเครื่องปรุงติดอยู่ เข้าไปในปากหนานั้นแทน“อื้อ นิล!! แค่ก ๆ
ซ่าาา ซ่าาา“อื้อ”เสียงเกรียวคลื่นสาดกระทบเข้าหาชายฝั่งเป็นจังหวะ ผ้าม่านสีขาวสะอาดตาบิดพลิ้วไปตามแรงลมที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ช่วยปลุกให้เจ้าสาวหมาด ๆ ขยับตัวตื่นขึ้นมาในที่สุดแพขนตาหนางอนค่อย ๆ ขยับขึ้นลงอย่างช้า ๆ พร้อมกับเปลือกตาที่เผยอเปิดออกสู้แสงแดดอ่อนในยามเช้า มือเล็กยื่นออกไปควานหาความอบอุ่นที่เธออิงแอบมาค่อนคืนก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งเหยิงเมื่อพบว่าข้างกายนั้นว่างเปล่าหายไปไหนของเขาแต่เช้าเนี้ย ทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันแรกของการชีวิตคู่แท้ ๆ เวลาแบบนี้เขาควรจะนอนกอดเธอแล้วกล่าวต้อนรับว่า ‘อรุณสวัสดิ์ค่ะภรรยา’ สิ ตาทึ่ม!นิลกาฬบ่นอุบอยู่ในใจ มือเล็กคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำที่ชายหนุ่มวางเตรียมไว้ให้ที่ปลายเตียงมาสวมใส่ ก่อนพยุงกายขึ้นลุกยืนแล้วออกไปเดินตามหาสามีที่หายหัวไปตั้งแต่เช้าด้วยสีหน้าบึ้งตึงขาเรียวชะงักเล็กน้อยขณะก้าวลงบันได เสียงอึกทึกครึกโครมสลับกับเสียงสบถถ้อยคำหยาบคายกดังเป็นระยะ ๆ ลอยออกมาจากห้องครัวของชั้นล่าง คล้ายกับว่ามีใครบางคนกำลังจะถล่มมันทิ้งมากกว่ากำลังทำอาหารร่างบางเดินมาหยุดฝีเท้าลงที่หน้าประตูห้องครัว ยกมือขึ้นกอดอกพลางทิ้งน้ำห