Share

ตอนที่9 สตรีใจดำอำมหิต

last update Last Updated: 2025-09-05 11:44:34

วันคืนของการเป็นอาเปาผ่านพ้นไปอย่างช้าๆ จากวันเป็นเดือน แต่เวลายิ่งผ่านไป งานที่อาโต๋วโยนมา ไม่สิ มอบหมายให้ฉู่ชิงเฟิงก็เริ่มมากมายขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาทำงานคล่องแล้ว ก็ควรแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน ทำให้จากเดิมที่มีอาโต๋วคอยช่วยเวลาที่เขาหมดแรงทำงานไม่ทัน ตอนนี้เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แต่อ๋องหนุ่มยังไม่มีความคิดจะกลับสู่ฐานะเดิมในเร็ววันนี้

แน่นอนว่าพองานหนักขึ้น ท้องไส้ของเขาก็ยิ่งปั่นป่วน เสียงพุงน้อยๆ ร้องขออาหารใส่ท้องนั้นดังพอๆ กับเสียงโอดครวญที่ดังขึ้นอยู่ภายในใจของเขา

แต่สตรีใจดำอำมหิตอย่างหลินเสี่ยวหรานกลับให้หลินอ้ายส่งแต่ข้าวแข็งๆ โปะกับข้าวที่มีแต่ผักล้วนๆ ไม่มีเนื้อผสมมาให้ทุกเมื่อเชื่อวัน

ช่างใจจืดใจดำไร้คุณธรรมยิ่ง!

ฉู่ชิงเฟิงคิดไปพลางพุ้ยข้าวเข้าปากเคี้ยวแล้วกลืนมันลงไปพลางพร้อมกับความเคียดแค้นที่พองฟูอยู่เต็มท้อง

“คอยดูเถอะหลินเสี่ยวหราน หากวันใดได้กลับคืนสู่ฐานะ เปิ่นหวางจะจับเจ้าไปขังเอาไว้แล้วให้กินแต่ผักทุกมื้อเยี่ยงนี้สักปีสองปี”

“เจ้าหมูอ้วน เจ้าว่าใครจะจับใครไปขังนะ” หลินอ้ายที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เอ่ยถาม เมื่อครู่นางยังอยู่ไกลจึงได้ยินไม่ถนัด

“เปล่าสักหน่อย” ฉู่ชิงเฟิงปฏิเสธอย่างเป็นธรรมชาติ เขาอยู่บ้านสวนสกุลหลินมาสักพักแล้ว จึงเริ่มคุ้นชินกับนิสัยใจคอของคนที่นี่ “ว่าแต่เจ้าเถิด มาหาข้ามีธุระอันใด”

“เจ้าไปแต่งเนื้อแต่งตัวเถิด วันนี้คุณหนูจะพาเจ้าเข้าไปในเมือง”

“ข้าไม่ไป” ฉู่ชิงเฟิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด หากเข้าไปในเมือง เพราะถึงแม้จะมิได้ป่าวประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เสด็จพ่อน่าจะให้คนตามหาเขาอยู่ในทางลับ และด้วยรูปร่างหน้าตาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คนของหน่วยลับจะต้องจำได้แน่ๆ ว่าเขาคือโซ่วอ๋องที่หายตัวไป

หลินอ้ายไม่อยากจะเชื่อหู ถึงอาเปาจะความจำเสื่อม แต่ก็ไม่น่าโง่ขนาดนี้ เพราะการเข้าเมืองก็เหมือนได้พักผ่อน เพราะพวกเขาไม่ต้องทำงานในบ้านเลยหนึ่งวัน แต่เจ้านี่กลับไม่อยากไปซะอย่างนั้น

แต่เอาเถอะ นางจะช่วยบอกใบ้ให้เอาบุญ เผื่อว่าเจ้านี่จะฉลาดขึ้นมาบ้าง

“คำสั่งของคุณหนูนะเจ้าปฏิเสธได้หรือ”

“ข้าเป็นคนมาอาศัยอยู่ก็จริง แต่ตามที่ตกลง คือข้าต้องใช้แรงงานแลกที่กินที่อยู่ หาใช่เป็นบ่าวใต้อาณัติของนางเต็มตัว ดังนั้นข้าย่อมมีสิทธิเลือกว่าจะออกไปข้างนอก หรือไม่ไป” ฉู่ชิงเฟิงพูดอย่างฉะฉาน จนหลินอ้ายชักไม่มั่นใจแล้วว่าที่ตัวเองปรามาสเขาว่าโง่นั้นถูกต้องหรือไม่

แต่ถึงอย่างไรวันนี้อาเปาก็ต้องเข้าเมืองไปกับคุณหนู แบบนี้นางคงต้องสร้างแรงกระตุ้นอีกสักหน่อย “ถ้าเจ้าไม่ไป ก็ต้องอยู่ทำงานทั้งหมดนี่คนเดียวนะ เจ้าคงไม่อยู่ให้โง่หรอกใช่ไหม”

“ข้าทำได้” แม้จะถูกข่มขู่ แต่ฉู่ชิงเฟิงก็บอกปัดอย่างรวดเร็ว จนหลินอ้ายเริ่มหงุดหงิดไม่วายกระทืบเท้าเร่าๆ

“โอ๊ย! อาเปา เจ้าไม่เรื่องมากสักวันได้หรือไม่”

“ข้าก็แค่ไม่อยากเข้าไปในเมือง เจ้าจะโมโหข้าไปใย”

“ที่ข้าโมโห เพราะเจ้ากำลังทำให้ข้าลำบาก”

“ข้าทำเจ้าลำบากด้วยเรื่องใด”

หลินอ้ายได้ฟังก็มีท่าทีชะงักงันราวกับถูกอะไรฟาดหัวขณะหนึ่ง จากนั้นสีหน้าของนาง น้ำเสียงของนางพลันแปรเปลี่ยนจนฉู่ชิงเฟิงตั้งรับไม่ทัน

“คุณหนูสั่งให้ข้ามาบอกความกับเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธ นี่ไม่เท่ากับว่าข้าทำงานล้มเหลวรึ เจ้าน่ะมันเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลา ส่วนข้าที่เป็นคนรับคำสั่งของคุณหนูมา จะโดนเจ้านายตำหนิที่ทำงานง่ายๆ แค่นี้ไม่สำเร็จอย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่” ดวงหน้าของหลินอ้ายแดงก่ำ น้ำตาแห่งความโมโหเริ่มคลอหน่วงที่ดวงตา ตั้งแต่ชายผู้นี้เข้ามาในบ้าน นางต้องโดนคุณหนูเอ็ดอยู่หลายครั้งเพราะเขา “อาเปา เจ้านี่มันแย่กว่าที่ข้าคิดไว้ตอนแรกเสียอีก”

แม้ทั้งสองคล้ายจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ทว่าฉู่ชิงเฟิงไม่เคยคิดว่าหลินอ้ายเป็นคนไม่ดี เพราะการที่นางไม่ไว้ใจคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเช่นเขา นั่นเพราะเป็นห่วงนายหญิงของตน หาใช่เพราะรังเกียจเขาอย่างแท้จริง

พอเห็นสตรีทำท่าจะร้องไห้จากความอัดอั้นเพราะเขา ฉู่ชิงเฟิงก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

“เรื่องแค่นี้นายหญิงของเจ้าคงไม่ดุเจ้าหรอก อย่าโมโหไปเลย”

“เจ้ามันจะไปรู้อะไร คุณหนูน่ะ...ฮือ คุณหนูบอกว่า ต้องเป็นเพราะข้าสื่อสารได้ไม่ดี เจ้าเลยไม่ให้ความร่วมมือเวลาคุณหนูฝากข้ามาบอกความกับเจ้า แต่ข้าว่ามันเป็นเพราะเจ้าเกลียดขี้หน้าข้าต่างหาก” คราวนี้น้ำตาหลินอ้ายร่วงลงมาแล้วจริงๆ

“ใครว่า ข้าไม่ได้เกลียดเจ้านะ ข้าแค่ไม่อยากไปเท่านั้นเอง”

“เจ้าอย่าโกหกเลย ไม่อย่างนั้นเจ้าจะสร้างความอับอายในฐานะสาวใช้ที่ไม่ได้เรื่องให้ข้าแบบนี้ทุกครั้งเหรอ” หลินอ้ายยกมือขึ้นมาปิดหน้า แล้วปล่อยโฮเสียงดังขึ้นอีกจนฉู่ชิงเฟิงเริ่มลนลาน

ต้องยอมรับว่าน้ำตาสตรีทำให้เขาจนใจจริงๆ

อย่างไรตนก็เป็นลูกผู้ชาย จะมามัวเห็นแก่ตัวต่อไปแบบนี้คงไม่ได้แล้ว

‘เป็นไงเป็นกัน ถ้าถูกคนจำได้ก็แค่กลับไปเป็นโซ่วอ๋องเร็วหน่อยเท่านั้นเอง’ ฉู่ชิงเฟิงคิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้น เตรียมตัวเข้าเมืองอย่างเสียมิได้

“หลินอ้ายอย่าร้องไห้เลยนะ ข้าจะไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้แหละ”

“จะ...เจ้าพูดจริงเหรอ” นางยังคงปิดหน้าปิดตาร้องไห้ต่อคล้ายไม่เชื่อถือ

“จริงสิ เจ้าก็รีบไปบอกคุณหนูเถอะ ข้าไปแต่งตัวล่ะ” พูดจบเขาก็รีบหมุนกายเดินจากไป

หลินอ้ายค่อยๆ กางนิ้วมือออกช้าๆ พอให้สายตาลอดออกมาจากง่ามนิ้ว ครั้นเห็นฉู่ชิงเฟิงรีบเดินไปแต่งตัวจริงๆ นางพลันปาดน้ำตาสองสามหยดที่ตัวเองเพียรเค้นออกมาทิ้งไป แล้วแล่นไปรายงานผลกับหลินเสี่ยวหรานอย่างร่าเริง

ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย มารยาหญิงก็ยังคงใช้ได้ดีดุจเดิมสินะ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่20 ข้าเจ็บ

    หลังจากจัดการกางเกงของตัวเองเรียบร้อยแล้ว บุรุษที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาพลันแทรกกายลงตรงกลางหว่างขาเรียว เขาลูบไล้เนินเนื้อเกลี้ยงเกลาอย่างพออกพอใจ แล้วค่อยๆ ขยับเข้าประชิดร่างบาง ดุนดันสะโพกส่งตัวตนเข้าไปพิชิตเส้นทางสู่สวรรค์หลินเสี่ยวหรานกรีดร้อง เมื่อถูกแท่งเพลิงร้อนลวกชำแรกความสาวเป็นครั้งแรก มันทั้งเจ็บทั้งตึงไปหมดจนไม่อาจกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้“อาเปา ขะ…ข้าเจ็บ”“อดทนอีกนิดนะ อีกประเดี๋ยวเจ้าจะรู้สึกดีขึ้น ดีเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เชียวล่ะ” ฉู่ชิงเฟิงล่อลวง พลางขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ พรมจูบทั่วดวงหน้างามผุดผาด รวมไปถึงกลีบปากเล็กน่ารักที่เอาแต่ร้องเรียก “อาเปา อื้อ อาเปา” ไม่หยุดหลินเสี่ยวหรานสั่นสะท้านไปทั้งร่าง นางทั้งเจ็บทั้งเสียดเสียว เมื่อเขาเร่งจังหวะตอกสะโพก บดเบียดลำกายจนเส้นทางรักร้อนฉ่า แต่ละครั้งที่เสาหลักแห่งเลือดเนื้อตอกตรึงเข้าหามันทั้งแรงขึ้นและลึกขึ้น กระทั่งความเป็นชายสอดลึกสุดเส้นทางสวรรค์ได้สำเร็จ“อื้อ…อาเปา”“รู้สึกดีแล้วใช่ไหมภรรยาข้า” เขากระซิบถามเสียงพร่า เมื่อรู้สึกได้ถึงความอิ่มเอมในน้ำเสียงนาง และแน่นอนว่าตอนนี้เขาเองก็รู้สึกดีที่ถูกความแน่นหนึบของนางตอดรั

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่19 ตั้งใจทำงาน

    “ที่แท้เจ้าก็คืออาเปา” ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มบางเบา เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าผู้มีพระคุณของนางเป็นผู้ใด“ข้าต้องขออภัยด้วยที่เป็นเพียงคนไร้หัวนอนปลายเท้า มิใช่คุณชายสูงศักดิ์ที่ไหน”“เจ้าไม่ผิดหรอกอาเปา ถ้าไม่มีเจ้าข้าคงโดนกระทำย่ำยีเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งไปแล้ว” หลินเสี่ยวหรานตอบเสียงเบาหวิว ฤทธิ์ยาทำให้ร่างกายนางอ่อนเปลี้ยราวกับไร้กระดูก ดวงตาพร่าลายไปหมด“เหลือเวลาไม่มากแล้ว คุณหนูหลินตัดสินใจเถอะ”แม้เขากับนางแทบไม่ได้พูดคุยกัน แต่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาเขาขยันตั้งใจทำงาน และคอยช่วยเหลือคนในบ้านสวนสกุลหลินอยู่เสมอ ถึงบางครั้งหลินอ้ายจะทำตัวไม่น่ารัก เขาก็มิได้ถือสา จนล่าสุดก็เพิ่งทวงความยุติธรรมให้กับงานตัดเย็บที่ทำขึ้นอย่างยากลำบากของนาง เห็นได้ชัดว่าเนื้อแท้เขามีจิตใจที่ดี ขยันอดทน ไม่โอ้อวด ซึ่งเป็นคุณสมบัติของบุรุษที่มีการศึกษาและถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ต่อให้ตอนนี้เขาจะความจำเสื่อม แต่ฐานะที่แท้จริงคงไม่ด้อยนัก ร้ายที่สุดก็คงไม่พ้นตระกูลพ่อค้าวาณิช[1] ในเมื่อเกาอี้ซินกลัวเหลือเกินว่านางจะได้ดิบได้ดีเกินหน้าเกินตาหลินผู่ซิน และนางก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป การเลือกอาเปามาเป็นสามีคงจ

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่18 ท่านเป็นใคร

    หลินเสี่ยวหรานที่กำลังหมดหวัง เห็นเงาสายหนึ่งพุ่งเข้ามา หลังจากนั้นนางก็ถูกใครบางคนพาตัวเข้าไปยังความมืดหลังแนวไม้ นางพยายามมองใบหน้าของคนที่มาช่วยนางจากปากเหว แต่ต้นไม้ใบหนาทึบเกินกว่าแสงจันทร์จะลอดเข้ามาให้เห็นได้ชัดเจน ในใจนางรู้สึกทั้งซาบซึ้งและนึกขอบคุณ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็รู้สึกไม่วางใจอย่างบอกไม่ถูก“ทะ...ท่านเป็นใคร”“...” ฉู่ชิงเฟิงไม่ตอบ เพราะตอนนี้เขากำลังเพ่งสมาธิไปเบื้องหน้า เพราะจับสัมผัสได้ว่ามีคนตามมาจากด้านหลัง ถึงฝีเท้าจะไม่เร็วมากนักเพราะบาดเจ็บ แต่ความเร็วระดับนี้ย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีฝีมือ หากเทียบกับอ๋องที่แค่อยากตั้งใจเรียน แต่ไม่ชอบฝึกวรยุทธเยี่ยงเขา นับว่าอยู่คนละชั้น มิหนำซ้ำตอนนี้เขายังมีสตรีที่น่าจะโดนวางยาอยู่ในอ้อมอก มองยังไงก็เสียเปรียบเต็มประตู เช่นนั้นก็ไม่ควรอวดเก่ง แต่ควรหาที่ซ่อนตัวจนกว่าจะปลอดภัยต่างหาก“ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ก็เป็นผู้มีพระคุณของข้าแล้ว”“อืม” เขาขานรับในลำคอ แล้วพุ่งไปเบื้องหน้า ไม่กล้าลดความเร็วลงแม้แต่นิดเดียว แต่มองไปทางใดก็ยังไม่เจอจุดที่น่าจะหลบซ่อนตัวได้ และเขาที่เพิ่งใช้วิชาตัวเบาอย่างเต็มที่เป็นครั้งแรกในชีวิต ก็เริ่

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่17 อีกด้านหนึ่ง

    อีกด้านหนึ่งฉู่ชิงเฟิงที่คิดถึงเนื้อจนทนไม่ไหวตัดสินใจซ่อมธนูสำหรับล่าสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องเก็บเครื่องมือ เพื่อออกไปล่ากระต่ายป่า แล้วเขาก็ค้นพบว่าการเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่วว่องไวขึ้น อีกทั้งกล้ามเนื้อแขนก็แข็งแกร่งจนง้างธนูได้สบายกว่าเดิมมากดูเหมือนการทำงานหนักในบ้านสวนสกุลหลินจะไม่ได้มีแต่มุมเลวร้าย เพราะตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มรูปงาม ร่างกายแข็งแรงกำยำจนสตรีใจสะท้านไปแล้ว ดูได้จากสายตาหญิงสาวที่เขาพบเจอที่ตัวอำเภอ จะมีก็แต่คุณหนูใหญ่สกุลหลินผู้เดียวที่ไม่รู้สึกรู้สา แล้วยังใจร้ายกับเขาไม่เลิกราในเมื่อนางคิดแต่จะทำให้เขาทนอยู่ที่นี่ต่อไม่ไหว เขาก็จะช่วยเหลือตัวเองโชคดีที่เขาชอบยิงธนู เพราะมันไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเยอะเหมือนพวกวิชากระบี่ แต่ด้วยเป็นคนร่างใหญ่อ้วนท้วนทำให้เขาขยับตัวบนหลังม้าได้ไม่คล่อง ส่งผลให้ผลงานการล่าสัตว์รั้งท้ายพี่น้องอยู่ทุกปี ผิดกับพวกเป้านิ่ง ซึ่งฝีมือของเขาถือเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาองค์ชาย แต่ก็มักถูกด้อยค่าด้วยคำพูดที่ว่าแค่ยืนยิงธนูอยู่กับที่จะไปมีประโยชน์ใช้สอยอะไรทว่าวันนี้เขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมร่างกายที่เคยอ้วนท้วนอุ้ยอ้าย ตอนนี้แข็งแรงกำย

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่16 โถ่ คุณหนู

    “ถึงบ่าวจะโง่เขลา แต่ใช่จะไม่รู้อะไรเลย ป่านนี้ชื่อเสียงของท่านคงถูกฮูหยินกับคุณหนูสี่ทำลายจนแทบไม่เหลือชิ้นดี แล้วแบบนี้จะไม่ให้บ่าวโกรธแค้นพวกเขาแทนท่านได้เยี่ยงไร”“พวกนางอยากทำอะไรก็ให้ทำไป เพราะสำหรับข้าในตอนนี้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการรักษาร่างกายให้หายดี”“ท่านถูกรังแกถึงเพียงนี้ เหตุใดถึงไม่เล่าให้ทางสกุลกัวฟังเล่าเจ้าคะ ถ้าให้เหล่าไท่จวินที่คนต่างเคารพนับถือช่วยออกหน้า จะต้องทวงความยุติธรรมคืนให้คุณหนูได้อย่างแน่นอน”“เพราะข้าแซ่หลิน มิได้แซ่กัว อีกอย่างท่านป้าสะใภ้กับท่านยายมีบุญคุณที่เลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่ ข้ามิอาจให้พวกท่านเหล่านั้นถูกคนตำหนิเอาได้ว่าก้าวก่ายเรื่องของคนสกุลอื่นโดยไม่จำเป็น”“โถ่ คุณหนู”“หลินอ้าย ถ้าทุกอย่างมันง่ายปานนั้น ข้าคงไม่ต้องมารักษาตัวไกลถึงจงมู่”“บ่าวกลัวเหลือเกินว่าฮูหยินจากสกุลเกาผู้นั้นจะจัดการให้ท่านแต่งกับบุรุษเสเพล ไร้ชื่อเสียง ไร้อนาคต” หลินอ้ายเป็นกังวลแทนเจ้านาย เพราะสตรีที่มีข่าวลือว่าร่างกายอ่อนแอมักไม่มีตระกูลใหญ่ต้องการ“พอได้แล้ว ข้าอยากแช่ตัวเงียบๆ” ใช่ว่าหลินเสี่ยวหรานจะไม่คิดอะไรเลย จึงอดหงุดหงิดไม่ได้“บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”“คืนน

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่15 เลื่อนลอย

    หลินเสี่ยวหรานได้รับการอบรมจากป้าสะใภ้ และเหล่าไท่จวินผู้เป็นยาย เติบโตมาเป็นดรุณีที่งดงามทั้งกิริยามารยาท งานบ้านงานเรือนล้วนจัดการได้ดี กระทั่งอายุได้สิบสามปีบิดาก็มาเจรจาขอนางคืนจากสกุลกัวต่อให้ไม่อยากคืนเท่าไร ก็ทำไม่ได้ เพราะนางแซ่หลิน มิได้แซ่กัว ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องออกจากปราการอันอบอุ่นปลอดภัยภายใต้ปีกของสกุลมารดา มาอยู่ภายใต้การปกครองของสตรีหน้าซื่อใจคดอย่างเกาอี้ซิน ชีวิตในฐานะคุณหนูใหญ่สกุลหลินที่ควรจะสดใสรุ่งโรจน์ และได้แต่งงานเข้าสกุลดีๆ กลับต้องจบลงด้วยการระเห็จมาอยู่ที่บ้านสวนในอำเภอเล็กๆ อย่างจงมู่ ทำให้บัดนี้หลินผู่ซินเฉิดฉายในฐานะคุณหนูภรรยาเอกจวนสกุลหลินเพียงผู้เดียวหลินเสี่ยวหรานได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้าอย่างเลื่อนลอยพอกลับถึงบ้านสวนสกุลหลิน ฉู่ชิงเฟิงก็ช่วยอาโต๋วกับหลินอ้ายขนข้าวของเครื่องใช้และเสบียงที่ซื้อมาไปเก็บ เขาเหลือบมองห่อกระดาษเคลือบน้ำมันที่ภายในมีเนื้อหมูติดมันชิ้นโตอย่างมีความสุข เพราะเชื่อว่าหลินเสี่ยวหรานจะต้องซาบซึ้งเรื่องเงินห้าตำลึง แล้วยอมให้เขาได้กินเนื้ออย่างที่ควรจะเป็นในวันพรุ่งนี้ ทว่า...ไม่มี!“นี่มันอะไรกันเนี่ย” ฉู่ชิงเฟิงแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status