แชร์

บทที่ 725

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ฮ่าวอี้อัดบทสนทนาของพวกเขาเอาไว้

เขาได้ยินเย่มู่มู่บอกว่า หลูซีซื้อของให้เพื่อนของเขาได้!

เพื่อนของเขา?

ตามที่พวกเขาสืบเจอ หลูซีไม่มีเพื่อนเลยสักคน

คนสนิทเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ในบัญชีเครือข่ายโซเชียลออกไลน์ ยิ่งไม่มีเพื่อนสนิทที่ติดตามกัน

คนที่เขาส่งของให้เป็นใครกันแน่?

การค้นพบจุดนี้ ทำให้ฮ่าวตี้อดไม่ได้ที่จะตั้งใจฟังต่อไป

ทว่า เย่มู่มู่กับหลูซีกลับไม่ได้พูดคุยกันอีก

หลังรถจากรถเมื่อมาถึงคฤหาสน์ จางเฉินซีก็อดรนทนไม่ไหวที่จะมาหาเย่มู่มู่

“เถ้าแก่ คุณอ่านหนังสือแผนงานหรือยัง? เป็นยังไงบ้างครับ คิดจะลงทุนในบริษัทไหน?”

“โปรเจกต์ยิงลูกศรเพลิงลงทุนได้ไหม?”

“รอบแรกเดิมทีหนึ่งหมื่นล้าน แต่ผมกดมาได้ห้าพันล้าน ถ้าเรายิงสำเร็จ ต่อไปก็จะมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย”

เย่มู่มู่เลือกโปรเจกต์เครื่องจักรเอไอ และโปรเจกต์รถยนต์สะเทินอากาศสะเทินบก

กำไรของโปรเจกต์ลูกศรเพลิงน้อยนิดยังไม่ชัดเจนพอ

ต้องรอหารือกัน

ทว่าหุ่นยนต์เอไอ และรถที่ใช้สะเทินอากาศสะเทินบก ขุดเงินเธอหนึ่งหมื่นล้านไปจนเกลี้ยง

เธอไม่มีเงินอีกแล้ว

อ๊า ๆ ๆ...

เย่มู่มู่ขาดเงินทุกวัน มักจะขาดเงินอยู่บ่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 726

    ทำงานให้กองทัพตระกูลจ้านยังมีเสบียงอาหารให้อีกจะได้ข้าวสารหกชั่งทุกเดือน หากนำกลับไปต้มเป็นโจ๊ก บวกกับแผ่นแป้ง เสบียงอาหารหนึ่งเดือนของครอบครัวหนึ่งก็จะประหยัดเก็บไว้ได้เป็นกองทัพตระกูลจ้านที่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อชาวบ้านดีใจกันเป็นอย่างมาก!บุรุษกระโดดลงไปอาบน้ำในคูน้ำสตรีซักผ้า และล้างเนื้อล้างตัวอยู่ริมแม่น้ำผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า สบู่ ครีมอาบน้ำ ของเบ็ดเตล็ดเหล่านี้นำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้งส่วนนายทหารที่ฆ่าคนได้เยอะของกองทัพธงเหลือง ไม่มัวแต่แลกข้าวสารอีกต่อไปทว่าเริ่มแลกเป็นพัดลม ไฟฉาย สบู่หอม ผ้าขนหนู...นายทหารของกองทัพธงเหลืองที่ได้พัดลมและของเล็ก ๆ น้อย ๆ ตื่นตะลึงเป็นอย่างมากเจ้าสิ่งนี้พัดลมเย็นออกมาได้ด้วยหรือ?ไฟฉาย ตอนกลางคืนส่องแสงสว่างได้ ไม่จำเป็นต้องจุดเทียนสบู่หอมและครีมอาบน้ำช่างเปิดโลกใหม่แก่พวกเขาจริง ๆผมที่แห้งและเป็นสังกะตัง สางไม่ออก ใช้แชมพูและครีมนวดผมคู่กัน ไม่คิดเลยว่าจะสางได้อย่างไหลลื่นแล้วหนำซ้ำยังมีกลิ่นหอมด้วยพวกเขาเข้าใจแล้วว่า เหตุใดทุกครั้งที่ลงสนามรบฆ่าศัตรู ทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านจะบุกรุดหน้าไปอย่างตื่นเต้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 727

    “รองผู้บัญชาการแซ่สวีนามอี้ เป็นน้องชายของสนมสวี!”“คนผู้นี้เป็นคนยโสโอหัง ผิวเผินกองกำลังรักษาพระองค์มีผู้บัญชาการลั่วคอยสั่งการ ทว่าผู้ที่กุมอำนาจจริง ๆ คือสวีอี้ ตอนที่เรากับผู้บัญชาการลั่วมา เพิ่งนำคนมาเพียงสองร้อยคน ทว่าครานี้ไม่คิดเลยว่าสวีอี้จะมาพร้อมกับคนสองพันคน”“ท่านแม่ทัพ บุญคุณความแค้นของท่านกับแม่ทัพสวี คนทั้งราชสำนักต่างรู้กันทั่ว ตอนนี้ลูกชายเขามา ไม่ได้มีเจตนาดีแน่!”จ้านเฉิงอิ้นไม่มีภาพจำดี ๆ กับตระกูลสวีเท่าไรนักไม่ว่าจะเป็นสวีหวยหรือสวีกุ้ยเฟย แม้แต่กองกำลังเก่าของสวีหวยที่บากหน้ามาพึ่งกองทัพตระกูลจ้าน คนพวกนี้ไม่มีผู้ใดเลยที่จิตใจสงบเถียนฉินที่อยู่เบื้องหลังจ้านเฉิงอิ้นอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมาว่า “กงกง นี่เป็นกองทัพตระกูลจ้าน กองกำลังสองพันนายของเขานั่นยังจะต่อต้านได้อีกหรือ?”หวงกงกงสำลักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พลันฉีกยิ้มพลางพูดคล้อยตามไปด้วย “ใช่ เราประมาทแล้ว”จ้านเฉินอิ้นพาหวงกงกง เถียนฉินและสวี่หมิงกลับไปพวกมั่วฝาน เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋วและหยางชิงเหอรออยู่หน้าประตูแล้วภายในห้องโถงหารือ สวีอี้รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์นั่งอยู่ในที่นั่งประทาน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 728

    เขาชี้ตนด้วยความจองหอง จากนั้นก็โพล่งหัวเราะฮ่า ๆ ออกมา“ฮ่า เจ้าคิดจะฆ่าข้า? เลิกไร้เดียงสาได้แล้ว!”“ข้าเป็นคนโปรดของฝ่าบาทในตอนนี้ เป็นน้องชายของสวีกุ้ยเฟย เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของกองกำลังรักษาพระองค์ ไม่คิดเลยว่ารัฐทายาทที่ถูกแทนที่ได้ทุกเมื่อเช่นเจ้า คิดจะฆ่าข้า ไร้เดียง...”แม่ทัพคนอื่น ๆ เห็นหน้าปากแสนอัปลักษณ์ของเขาแล้ว สีหน้าก็ปั้นยากเป็นอย่างมากมั่วฝานผ่อนลมหายใจหนัก มือกำด้ามจับดาบม่อเตาไว้แน่น กำลังพยายามควบคุมไฟโทสะของตนเอาไว้สุดกำลังขณะที่สวีอี้หัวเราะอย่างยโสโอหังเป็นอย่างมาก...ฟิ้ว...ธนูทดกำลังในมือของหยางชิงเหอ ยิงเข้ากลางอกของสวีอวี้นางสะบัดมือ “ยิงครั้งแรกไม่มีประสบการณ์!”“ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดที่ยโสโอหังเช่นนี้มาก่อน! อดกลั้นไม่ไหวจริง ๆ ก็เลยลงมือ!”สวีอี้คิดไม่ถึงว่า จะมีคนกล้าฆ่าเขาจริง ๆดวงตาเขาเบิกกว้าง มองเลือดสดที่พุ่งออกมาจากหน้าอกของตนด้วยนัยน์ตาราวกับกลอง เลือดเปื้อนชุดแดงไปหมด“ไม่...ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าข้า”“ข้าคือรองผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาพระองค์ พวกเจ้าฆ่าข้า ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่...”“ทะ ทหาร ฆ่าพวกเขาให้หมด!

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 729

    มั่วฝานกล่าวด้วยความเดือดดาลว่า “คนไร้ประโยชน์เช่นเขา นอกจากปากสวะแล้วยังมีประโยชน์อะไรอีก?”หวงกงกงหัวเราะพลางตอบกลับ “ท่านอย่าเพิ่งโมโหไปเลย เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นแล้ว กองกำลังรักษาพระองค์ไม่ฟังผู้บัญชาการลั่ว แต่ต้องฟังเขาอย่างแน่นอน”“ตอนนี้ทหารองครักษ์ในวังเหลือเพียงกองกำลังรักษาพระองค์ไม่กี่หมื่นคนนี่แล้ว หากเก็บคนผู้นี้เอาไว้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะรู้ความลับภายในวังเป็นอย่างดีก็ได้”“ทำให้กองกำลังรักษาพระองค์หลายหมื่นนายเชื่อฟัง เขาคงทำได้แน่”“ตระกูลสวีเห็นเขาเป็นสมบัติล้ำค่า อยากได้อะไรได้ยิ่งกว่านั้นมาตั้งแต่เด็ก”“กระทั่งสวีกุ้ยเฟยยังปูทางให้เข้า ถึงได้ถูกส่งเข้าไปในวัง เขาต้องมีชีวิตอยู่ถึงจะบีบตระกูลสวีและสวีกุ้ยเฟยได้!”จ้านเฉิงอิ้นเอามือพ่ายหลังข้างหนึ่ง หลังเขาตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็กำชับซ่งอวิ๋นฮุยว่า“ยังช่วยชีวิตได้หรือไม่?”“ได้ขอรับ อยู่ในมือข้าไม่มีวันตายอยู่แล้ว!”“เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยที เก็บเอาไว้ให้มั่วฝานค่อย ๆ...ระบายความโกรธ!”สีหน้าของมั่วฝานถึงดีขึ้นมาเล็กน้อยส่วนเหล่ากองกำลังรักษาพระองค์ที่ปกป้องสวีอี้อยู่เมื่อครู่ ทั้งหมดคุกเข่าลง ก้มหน้าแล้วส่งอาวุธ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 730

    ตอนนี้ในเมืองมีอยู่หลายล้านคนผู้ลี้ภัยที่ไปเมืองหลวงได้ต่างก็ไปกันหมดแล้วภายในเมืองขาดแคลนเสบียงอาหารอย่างหนัก ในวังก็ไม่เหลือเสบียงอาหารแล้วผู้ลี้ภัยยึดจวนไปไม่น้อย และเริ่มมีการฆ่าคน กินคนแล้วมิหนำซ้ำยังมีการเปิดแผงลอยขายเนื้อกันแล้ว เนื้อที่นำมาแขวนขายก็คือเนื้อคนเมื่อคนเราอดอยากขนถึงขั้นสุด ไม่มีเสบียงอาหารให้กินแล้ว ก็เริ่มขยายขอบเขตให้กว้างขึ้นอย่างกำเริบเสิบสานด้วยการจับคนมากินเป็นอาหารปราบปรามผู้ลี้ภัย ชักช้ารีรอไม่ได้หลี่กงกงเองก็เล่าถึงสถานการณ์ภายในเมือง ทว่าในช่วงเวลาไม่กี่วัน โกลาหลยิ่งกว่าตอนหวงกงกงออกนอกเมืองเสียอีกเมื่อครู่ขณะที่สวีอี้หัวเราะเยาะมั่วฝาน หวงกงกงได้บอกสถานการณ์ของค่ายพักแก่หลี่กงกงแล้วครั้นหลี่กงกงได้ยินว่าพวกเขามีเสบียงอาหาร มีน้ำ และยังมีเนื้อให้กินทุกวัน…เขาไม่อยากกลับวังแล้ว!วันนี้หลี่กงกงมาเพียงลำพัง ไม่ได้มีผู้ติดตามตามมาด้วยเขาหิวจนลมหายใจโรยริน เป็นผู้ติดตามทั้งสองคนของหวงกงกง คนหนึ่งตักน้ำให้เขา ส่วนอีกคนให้ขนมปังไส้เนื้อแก่เขาชิ้นหนึ่งเขาถึงมีชีวิตรอดมาได้เขาไม่อยากกลับเข้าวังอีกแล้ว!ครั้นหลี่กงกงเห็นแม่ทัพทุกท่านไม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 1

    หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็มบางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่งมีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมาเธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคลมือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~อ้าก~เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจนานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 2

    จ้านเฉิงอิ้นหันขวับไปทางนั้น แจกันเขรอะฝุ่นตรงมุมผนังมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุดน้ำพุ่งรุนแรงมาก สาดถูกอาภรณ์ของเขากับหมอซ่งจนเปียกชุ่มเขาผุดลุกขึ้นยืน มือสองข้างกำแน่นจนสั่นน้อย ๆ“นี่ คือน้ำงั้นรึ?”ทุกคนไม่ได้เห็นน้ำมาครึ่งค่อนปีแล้ว หมอซ่งใช้สองมือกอบน้ำมาดื่มหวานเย็นชุ่มชื้น เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!เขาร้องเสียงดังด้วยความพลุ่งพล่านใจ “ท่านแม่ทัพ เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!”เหล่าทหารในด่านเจิ้นกวนเฝ้ารอน้ำทุกวัน รอมาครึ่งค่อนปีแล้วขุดหาแหล่งน้ำใต้ดิน ขุดไปสิบกว่าบ่อ ขุดลงไปลึกเกินสามสิบจั้ง[1]แล้วก็เจอแต่ทรายเหลืองแห้ง ๆ ไม่เจอน้ำแต่อย่างใดหมอซ่งนำชามแตกเป็นรูมารองน้ำให้แม่ทัพ ประคองด้วยสองมือที่สั่นระริก“ท่านแม่ทัพ ท่านลองชิมดูสิ”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือข้างเดียวรับมาจิบคำหนึ่ง หวานเย็นชื่นใจ เป็นน้ำสะอาดเขาดื่มรวดเดียวจนหมด!“สวรรค์ประทานน้ำอมฤต สวรรค์ไม่ได้ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าพินาศ!”สิ้นคำ นายทหารหลายนายก็ถลาเข้ามาด้วยความยินดี ใช้สองมือรองน้ำดื่มอึก ๆ ๆหมอซ่งรองน้ำให้แม่ทัพอีกชาม ส่งมาให้เขาดื่มนายทหารหลายนายนั้นดื่มน้ำไปพลางเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านแม่ทัพ เทพยดาบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 3

    จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยรินรู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อนนายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้านจ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกันอย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้นช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อหลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามาข้

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 730

    ตอนนี้ในเมืองมีอยู่หลายล้านคนผู้ลี้ภัยที่ไปเมืองหลวงได้ต่างก็ไปกันหมดแล้วภายในเมืองขาดแคลนเสบียงอาหารอย่างหนัก ในวังก็ไม่เหลือเสบียงอาหารแล้วผู้ลี้ภัยยึดจวนไปไม่น้อย และเริ่มมีการฆ่าคน กินคนแล้วมิหนำซ้ำยังมีการเปิดแผงลอยขายเนื้อกันแล้ว เนื้อที่นำมาแขวนขายก็คือเนื้อคนเมื่อคนเราอดอยากขนถึงขั้นสุด ไม่มีเสบียงอาหารให้กินแล้ว ก็เริ่มขยายขอบเขตให้กว้างขึ้นอย่างกำเริบเสิบสานด้วยการจับคนมากินเป็นอาหารปราบปรามผู้ลี้ภัย ชักช้ารีรอไม่ได้หลี่กงกงเองก็เล่าถึงสถานการณ์ภายในเมือง ทว่าในช่วงเวลาไม่กี่วัน โกลาหลยิ่งกว่าตอนหวงกงกงออกนอกเมืองเสียอีกเมื่อครู่ขณะที่สวีอี้หัวเราะเยาะมั่วฝาน หวงกงกงได้บอกสถานการณ์ของค่ายพักแก่หลี่กงกงแล้วครั้นหลี่กงกงได้ยินว่าพวกเขามีเสบียงอาหาร มีน้ำ และยังมีเนื้อให้กินทุกวัน…เขาไม่อยากกลับวังแล้ว!วันนี้หลี่กงกงมาเพียงลำพัง ไม่ได้มีผู้ติดตามตามมาด้วยเขาหิวจนลมหายใจโรยริน เป็นผู้ติดตามทั้งสองคนของหวงกงกง คนหนึ่งตักน้ำให้เขา ส่วนอีกคนให้ขนมปังไส้เนื้อแก่เขาชิ้นหนึ่งเขาถึงมีชีวิตรอดมาได้เขาไม่อยากกลับเข้าวังอีกแล้ว!ครั้นหลี่กงกงเห็นแม่ทัพทุกท่านไม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 729

    มั่วฝานกล่าวด้วยความเดือดดาลว่า “คนไร้ประโยชน์เช่นเขา นอกจากปากสวะแล้วยังมีประโยชน์อะไรอีก?”หวงกงกงหัวเราะพลางตอบกลับ “ท่านอย่าเพิ่งโมโหไปเลย เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นแล้ว กองกำลังรักษาพระองค์ไม่ฟังผู้บัญชาการลั่ว แต่ต้องฟังเขาอย่างแน่นอน”“ตอนนี้ทหารองครักษ์ในวังเหลือเพียงกองกำลังรักษาพระองค์ไม่กี่หมื่นคนนี่แล้ว หากเก็บคนผู้นี้เอาไว้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะรู้ความลับภายในวังเป็นอย่างดีก็ได้”“ทำให้กองกำลังรักษาพระองค์หลายหมื่นนายเชื่อฟัง เขาคงทำได้แน่”“ตระกูลสวีเห็นเขาเป็นสมบัติล้ำค่า อยากได้อะไรได้ยิ่งกว่านั้นมาตั้งแต่เด็ก”“กระทั่งสวีกุ้ยเฟยยังปูทางให้เข้า ถึงได้ถูกส่งเข้าไปในวัง เขาต้องมีชีวิตอยู่ถึงจะบีบตระกูลสวีและสวีกุ้ยเฟยได้!”จ้านเฉิงอิ้นเอามือพ่ายหลังข้างหนึ่ง หลังเขาตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็กำชับซ่งอวิ๋นฮุยว่า“ยังช่วยชีวิตได้หรือไม่?”“ได้ขอรับ อยู่ในมือข้าไม่มีวันตายอยู่แล้ว!”“เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยที เก็บเอาไว้ให้มั่วฝานค่อย ๆ...ระบายความโกรธ!”สีหน้าของมั่วฝานถึงดีขึ้นมาเล็กน้อยส่วนเหล่ากองกำลังรักษาพระองค์ที่ปกป้องสวีอี้อยู่เมื่อครู่ ทั้งหมดคุกเข่าลง ก้มหน้าแล้วส่งอาวุธ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 728

    เขาชี้ตนด้วยความจองหอง จากนั้นก็โพล่งหัวเราะฮ่า ๆ ออกมา“ฮ่า เจ้าคิดจะฆ่าข้า? เลิกไร้เดียงสาได้แล้ว!”“ข้าเป็นคนโปรดของฝ่าบาทในตอนนี้ เป็นน้องชายของสวีกุ้ยเฟย เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของกองกำลังรักษาพระองค์ ไม่คิดเลยว่ารัฐทายาทที่ถูกแทนที่ได้ทุกเมื่อเช่นเจ้า คิดจะฆ่าข้า ไร้เดียง...”แม่ทัพคนอื่น ๆ เห็นหน้าปากแสนอัปลักษณ์ของเขาแล้ว สีหน้าก็ปั้นยากเป็นอย่างมากมั่วฝานผ่อนลมหายใจหนัก มือกำด้ามจับดาบม่อเตาไว้แน่น กำลังพยายามควบคุมไฟโทสะของตนเอาไว้สุดกำลังขณะที่สวีอี้หัวเราะอย่างยโสโอหังเป็นอย่างมาก...ฟิ้ว...ธนูทดกำลังในมือของหยางชิงเหอ ยิงเข้ากลางอกของสวีอวี้นางสะบัดมือ “ยิงครั้งแรกไม่มีประสบการณ์!”“ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดที่ยโสโอหังเช่นนี้มาก่อน! อดกลั้นไม่ไหวจริง ๆ ก็เลยลงมือ!”สวีอี้คิดไม่ถึงว่า จะมีคนกล้าฆ่าเขาจริง ๆดวงตาเขาเบิกกว้าง มองเลือดสดที่พุ่งออกมาจากหน้าอกของตนด้วยนัยน์ตาราวกับกลอง เลือดเปื้อนชุดแดงไปหมด“ไม่...ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าข้า”“ข้าคือรองผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาพระองค์ พวกเจ้าฆ่าข้า ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่...”“ทะ ทหาร ฆ่าพวกเขาให้หมด!

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 727

    “รองผู้บัญชาการแซ่สวีนามอี้ เป็นน้องชายของสนมสวี!”“คนผู้นี้เป็นคนยโสโอหัง ผิวเผินกองกำลังรักษาพระองค์มีผู้บัญชาการลั่วคอยสั่งการ ทว่าผู้ที่กุมอำนาจจริง ๆ คือสวีอี้ ตอนที่เรากับผู้บัญชาการลั่วมา เพิ่งนำคนมาเพียงสองร้อยคน ทว่าครานี้ไม่คิดเลยว่าสวีอี้จะมาพร้อมกับคนสองพันคน”“ท่านแม่ทัพ บุญคุณความแค้นของท่านกับแม่ทัพสวี คนทั้งราชสำนักต่างรู้กันทั่ว ตอนนี้ลูกชายเขามา ไม่ได้มีเจตนาดีแน่!”จ้านเฉิงอิ้นไม่มีภาพจำดี ๆ กับตระกูลสวีเท่าไรนักไม่ว่าจะเป็นสวีหวยหรือสวีกุ้ยเฟย แม้แต่กองกำลังเก่าของสวีหวยที่บากหน้ามาพึ่งกองทัพตระกูลจ้าน คนพวกนี้ไม่มีผู้ใดเลยที่จิตใจสงบเถียนฉินที่อยู่เบื้องหลังจ้านเฉิงอิ้นอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมาว่า “กงกง นี่เป็นกองทัพตระกูลจ้าน กองกำลังสองพันนายของเขานั่นยังจะต่อต้านได้อีกหรือ?”หวงกงกงสำลักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พลันฉีกยิ้มพลางพูดคล้อยตามไปด้วย “ใช่ เราประมาทแล้ว”จ้านเฉินอิ้นพาหวงกงกง เถียนฉินและสวี่หมิงกลับไปพวกมั่วฝาน เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋วและหยางชิงเหอรออยู่หน้าประตูแล้วภายในห้องโถงหารือ สวีอี้รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์นั่งอยู่ในที่นั่งประทาน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 726

    ทำงานให้กองทัพตระกูลจ้านยังมีเสบียงอาหารให้อีกจะได้ข้าวสารหกชั่งทุกเดือน หากนำกลับไปต้มเป็นโจ๊ก บวกกับแผ่นแป้ง เสบียงอาหารหนึ่งเดือนของครอบครัวหนึ่งก็จะประหยัดเก็บไว้ได้เป็นกองทัพตระกูลจ้านที่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อชาวบ้านดีใจกันเป็นอย่างมาก!บุรุษกระโดดลงไปอาบน้ำในคูน้ำสตรีซักผ้า และล้างเนื้อล้างตัวอยู่ริมแม่น้ำผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า สบู่ ครีมอาบน้ำ ของเบ็ดเตล็ดเหล่านี้นำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้งส่วนนายทหารที่ฆ่าคนได้เยอะของกองทัพธงเหลือง ไม่มัวแต่แลกข้าวสารอีกต่อไปทว่าเริ่มแลกเป็นพัดลม ไฟฉาย สบู่หอม ผ้าขนหนู...นายทหารของกองทัพธงเหลืองที่ได้พัดลมและของเล็ก ๆ น้อย ๆ ตื่นตะลึงเป็นอย่างมากเจ้าสิ่งนี้พัดลมเย็นออกมาได้ด้วยหรือ?ไฟฉาย ตอนกลางคืนส่องแสงสว่างได้ ไม่จำเป็นต้องจุดเทียนสบู่หอมและครีมอาบน้ำช่างเปิดโลกใหม่แก่พวกเขาจริง ๆผมที่แห้งและเป็นสังกะตัง สางไม่ออก ใช้แชมพูและครีมนวดผมคู่กัน ไม่คิดเลยว่าจะสางได้อย่างไหลลื่นแล้วหนำซ้ำยังมีกลิ่นหอมด้วยพวกเขาเข้าใจแล้วว่า เหตุใดทุกครั้งที่ลงสนามรบฆ่าศัตรู ทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านจะบุกรุดหน้าไปอย่างตื่นเต้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 725

    ฮ่าวอี้อัดบทสนทนาของพวกเขาเอาไว้เขาได้ยินเย่มู่มู่บอกว่า หลูซีซื้อของให้เพื่อนของเขาได้!เพื่อนของเขา?ตามที่พวกเขาสืบเจอ หลูซีไม่มีเพื่อนเลยสักคนคนสนิทเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในบัญชีเครือข่ายโซเชียลออกไลน์ ยิ่งไม่มีเพื่อนสนิทที่ติดตามกันคนที่เขาส่งของให้เป็นใครกันแน่?การค้นพบจุดนี้ ทำให้ฮ่าวตี้อดไม่ได้ที่จะตั้งใจฟังต่อไปทว่า เย่มู่มู่กับหลูซีกลับไม่ได้พูดคุยกันอีกหลังรถจากรถเมื่อมาถึงคฤหาสน์ จางเฉินซีก็อดรนทนไม่ไหวที่จะมาหาเย่มู่มู่“เถ้าแก่ คุณอ่านหนังสือแผนงานหรือยัง? เป็นยังไงบ้างครับ คิดจะลงทุนในบริษัทไหน?”“โปรเจกต์ยิงลูกศรเพลิงลงทุนได้ไหม?”“รอบแรกเดิมทีหนึ่งหมื่นล้าน แต่ผมกดมาได้ห้าพันล้าน ถ้าเรายิงสำเร็จ ต่อไปก็จะมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย”เย่มู่มู่เลือกโปรเจกต์เครื่องจักรเอไอ และโปรเจกต์รถยนต์สะเทินอากาศสะเทินบกกำไรของโปรเจกต์ลูกศรเพลิงน้อยนิดยังไม่ชัดเจนพอต้องรอหารือกันทว่าหุ่นยนต์เอไอ และรถที่ใช้สะเทินอากาศสะเทินบก ขุดเงินเธอหนึ่งหมื่นล้านไปจนเกลี้ยงเธอไม่มีเงินอีกแล้วอ๊า ๆ ๆ...เย่มู่มู่ขาดเงินทุกวัน มักจะขาดเงินอยู่บ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 724

    “นี่ตั้งห้าร้อยล้านเชียวนะ!”“คุณชายจาง จะโอนให้เถ้าแก่คุณภายในสามวัน ผมขอกลับไปรวบรวมเงินก่อน!”จางเฉินซีพยักหน้า “ได้ กลับไปเถอะ”เถ้าแก่อวี้เดือดดาล พลางเดินออกไปพร้อมก่นด่าผู้ปกครองคนอื่นอีกห้าคน คนที่ตื่นตาที่สุดก็ยังเป็นนายธนาคาร เขาบอกว่าจะกลับไปรวบรวมเงินผู้ปกครองที่เหลือเห็นดังนั้น ต่างก็ยินดีประนีประนอมเป็นการส่วนตัว และจะให้ค่าทำขวัญก้อนหนึ่งขอเพียงปล่อยลูกบ้านพวกเขาไปจางเฉินซีตอบตกลง ขอแค่เงินเข้าบัญชี เรื่องอื่นก็พูดง่ายอย่าคิดจะเบี้ยวหนี้เชียว!ถึงยังไงถ้าเบี้ยวหนี้จริง ๆ ล่วงเกินตระกูลจางแห่งโลกการลงทุนไม่ต้องพูดถึง ต่อไปหากลูกของพวกเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวแล้วสุดท้าย ผู้อำนวยการโรงเรียนฉีกยิ้มพลางส่งผู้ปกครองพวกนี้กลับไปเขารับรองกับเย่มู่มู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า จะเพิ่มความปลอดภัยของพวกเด็ก ๆ ในโรงเรียนให้ดียิ่งขึ้นยังดีที่หลูซีเป็นนักเรียนที่มีจิตสำนึกของความยุติธรรมเขามีความสามารถทว่าไม่เคยรังแกเพื่อนนักเรียนเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน จางเฉินซีก็ฉีกยิ้มพร้อมพูดกับหลูซีว่า “มองไม่ออกเลย ว่านายมีความสามารถแต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 723

    “ลูกของพวกคุณไม่ได้ทำเรื่องพรรค์นี้เป็นครั้งแรก จะต้องมีบันทึกประวัติอาชญากรรมแน่นอน!”“การโต้แย้งในชั้นศาลจริง ๆ หลูซีสามารถแก้ตัวพ้นผิดได้ แต่บันทึกประวัติอาชญากรรมของลูกพวกคุณจะต้องถูกเปิดเผยออกมาอย่างแน่นอน!”“อ้อจริงสิ เถ้าแก่ของเราไม่ใช่คนธรรมดา เธอมีบริษัทไลฟ์สดที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ ยอดผู้ติดตามมากถึงสองร้อยล้าน ถ้าพูดถึงอิทธิพลที่มีต่อผู้คน พวกคุณรวมกัน ยังใช่ว่าจะสู้เธอได้!”“พูดถึงอำนาจเงิน ฉันแนะนำว่าพวกคุณอย่าเอาไข่ไปชนกับหินจะดีกว่า!”“พูดถึงภูมิหลัง พวกคุณมีแต่จะแพ้ราบคาบยิ่งขึ้นไปอีก”“ฉันหวังว่าหลังจากนี้จะไม่เห็นลูกของพวกคุณที่เมืองหลวงอีก เพราะฉันไม่กล้ารับรองว่า หลูซีเห็นพวกเขาครั้งหนึ่ง ก็จะซ้อมครั้งหนึ่ง”“พวกคุณก็รู้ดีว่า เด็กคนนี้ลงมือไม่รู้จักหนักเบา ถ้าซ้อมจนตายขึ้นมา! ก็อย่าโทษว่าฉันไม่เตือพวกคุณก็แล้วกัน!” เหวินเหลียนเยว่อยู่ในชุดชุดทำงานมาตรฐาน ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย วางมาดเลขามีความรู้ทว่าเมื่อกล่าวคำพูดดุเดือดรุนแรงออกมา ก็ทำเอาผู้ปกครองตำแหน่งสูงตัวสั่นเทิ้ม!พวกเขาล้วนเปลี่ยนสีหน้าอากาศเช่นฝุ่น ในห้องเงียบกริบ!หลูซีลงมือโหดเหี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 722

    “นายตายแน่!”“พวกนายกดเขาเอาไว้ จางเชา เอาไม้เบสบอลของนายมาให้ฉัน ให้ฉันตีขาเขาให้หักก่อน!”ผู้ชายร่างสูงใหญ่สี่คนเข้ามาก่อน ขณะเตรียมลงมือกดเขาเอาไว้ทันใดนั้น หลูซีที่ใบหน้าไร้ความรู้สึกก็กระโดดเตะขึ้นมาเตะในคราเดียวกระเด็นไปสี่คนใช่แล้ว!เขาเตะทีเดียวกระเด็นไปทั้งสี่คน!สี่คนนั้นถูกเตะไปบนผนังก่อนจะกลิ้งลงมา เนื่องจากมีคนหนึ่งไปตกกระทบกับอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์ล้มลงบนพื้นโครมคราม ๆหลังพวกเขากลิ้งไปรอบหนึ่ง ก็ไม่ลุกขึ้นมาอีกสี่คน มีสามคนที่หมดสติไปคนหนึ่งนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้นผมเหลืองกับจางเชาที่เหลือเห็นอุบัติเหตุตรงหน้า ก็อึ้งกิมกี่ไปจางเชาที่ถือไม้เบสบอลอยู่ตาลายไปเลย เขากล่าวทั้งตัวสั่นเทิ้มว่า “อวี้เฟิง ไม่ถูกต้องสิ ไป...”อวี้เฟิงรั้งตัวจางเชาที่คิดจะหนีเอาไว้ ก่อนจะแย่งไม้เบสบอลมา“ตั้งแต่ฉันโตมาจนป่านนี้ ยังไม่ได้เคยกลัวใคร วันนี้เขาต้องตาย!”เขาถือไม้เบสบอลเดินเข้าไปไม้เบสบอลยังไม่ทันตีถูกหลูซี ก็ถูกเขาหักแขนในมุมที่แสนเจ้าเล่ห์ ด้วยความเร็วสูงสุดเคร้ง~ไม้เบสบอลหล่นลงมาอวี้เฟิงกอดแขนพลางถอยหลังหลายก้าว กำลังครวญครางด้วยความเจ็บปวด “

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status