Share

ขโมยจุมพิต (2)

last update Last Updated: 2025-05-12 17:07:58

มู่เซียวเซ่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่เหลือบมองเตียงแม้แต่น้อย

“ดะ...” เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ไม่สิจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ นางยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการเลย เขาจะไปทั้งอย่างนี้ได้ไง

แค่เริ่มขยับปากประตูก็ปิดลงแล้ว นางเรียกเขาไว้ไม่ทัน และเรื่องที่นางคาดหวังก็ยังไม่สำเร็จ

สักพักคนตัวเล็กก็พาตัวเองลุกจากเตียงได้ นางนั่งบิดลำตัวอยู่บนเตียงไปมา เพื่อไล่ความเมื่อยล้าจากการนอนนิ่งอยู่นาน

“พระชายา” อาหลี่ที่คอยปรนนิบัติพระชายาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวหลังจากท่านอ๋องออกไปจึงรีบเข้ามา

ใบหน้าน้อย ๆ แดงก่ำ หุบยิ้มไม่ลงเมื่อเห็นว่าอาภรณ์ของผู้เป็นนายไม่เรียบร้อย

ลู่ผิงถิงก้มมองตัวเองแล้วรีบจัดระเบียบอาภรณ์ให้เข้าที่ รู้สึกอับอายที่อาหลี่ต้องมาเห็นนางในสภาพเช่นนี้ ช่างเถิดไม่จำเป็นต้องอธิบาย เข้าหอคืนแรกถ้าเขาไม่อยู่ห้องหอน่าอับอายกว่าเยอะ

อาหลี่ปรนนิบัติพระชายาสวมเสื้อผ้า พอคิดถึงใบหน้าแดงเรื่อของพระชายาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ไปเถิดเพคะ ท่านอ๋องน่าจะรอนานแล้ว”

“เหตุใดเขาต้องรอข้าด้วยเล่า”

“ได้เวลาเสวยยามเช้าแล้วเพคะ”

“อ้อ เป็นเช่นนี้...งั้นไปกัน” ลู่ผิงถิงประหม่าเล็กน้อย ไม่รู้จะเริ่มพูดคุยกับสามีอย่างไรดี

เมื่อเช้าแม้แต่หางตาเขาก็ไม่มองนางด้วยซ้ำ ระหว่างที่เดินไปก็คิดหาบทสนทนา ที่พอจะทำให้สามีเมตตาเอ็นดู ทว่าคิดไม่ออก ไม่เคยประจบประแจงผู้อื่นด้วยสิ

มาถึงโต๊ะรับประทานอาหาร กลับไม่มีใครรอนางอยู่อย่างที่อาหลี่บอก ลู่ผิงถิงรู้สึกโล่งใจที่ไม่เจอหน้าสามีในตอนนี้

เมื่อพระชายานั่งลงที่โต๊ะอาหาร พ่อบ้านจางก็เดินเข้ามาและส่งของบางอย่างให้ “ท่านอ๋องให้กระหม่อมนำมามอบให้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ”

ลู่ผิงถิงรับมาเปิดดูเป็นต่างหูหยกน้ำงามคู่หนึ่ง “แล้วท่านอ๋องเล่า”

“เอ่อ...คือ...”

“พูดมาเถิด จะอ้ำอึ้งเพื่อ” ลู่ผิงถิงไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นท่าทีลังเลของพ่อบ้านจาง เมื่อเช้าสิ่งที่นางคาดหวังก็ไม่สมหวังแล้ว ยังต้องมาเห็นท่าทีอึก ๆ อัก ๆ ของอีกฝ่าย ทำให้คำพูดของนางใส่อารมณ์เล็กน้อย

พ่อบ้านจางกลับเข้าใจผิด คิดว่าพระชายาไม่พอใจ ที่ท่านอ๋องไม่อยู่เสวยพระกระยาหารด้วย “กระหม่อมไม่ทราบ แต่เดี๋ยวกระหม่อมจะรีบไปตามกลับมาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าไม่รู้แล้วจะไปตามที่ใด”

“ก็หอ....” พ่อบ้านจางใช้มือปิดปากอย่างรวดเร็ว เขาเกือบจะหลุดปากบอกพระชายา ว่าท่านอ๋องไปหาแม่นางซู่เหยาที่หอเฟิ่งหวง

ลู่ผิงถิงเห็นท่าทีปิดปากลุกลี้ลุกลน ก็คาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายรู้ดีว่าสามีไปที่ใด แต่นางไม่ได้เปิดโปงเขา “ช่างเถิดข้ากินอิ่มแล้ว จะกลับไปเยี่ยมท่านแม่ที่จวนลู่ ถ้าท่านอ๋องกลับมาเจ้าก็บอกเขาแล้วกัน”

“ได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเตรียมรถม้าไว้ให้พระชายา”

หลังจากกินอิ่มลู่ผิงถิงก็พาอาหลี่ออกจากจวน “ไปหอเฟิ่งหวง” นางสั่งคนบังคับรถม้า

อาหลี่ที่ก้าวขึ้นรถม้าตามหลัง ด้วยความรู้สึกแปลกใจ พระชายาไม่ไปจวนตระกูลลู่ ทว่าไปหอเฟิ่งหวงแทน คงไม่ใช่เพราะว่าจะตามมาเอาเรื่องท่านอ๋องหรอกนะ ก็ใช่ ใครจนทนได้ที่สามีมาสนุกกับเหล่าบุปผางาม ถ้าเป็นนางก็คงไม่ทน

ถึงแม้จะข้องใจแค่ไหน อาหลี่ก็ไม่กล้าสอดปากถามเรื่องส่วนตัวของผู้เป็นนาย

ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าท่านอ๋องไม่มีกิจธุระอันใดให้ทำ ทุกครั้งที่ออกจากจวนก็จะไปสำราญที่หอเฟิ่งหวงกับเหล่าบุปผางามทั้งหลาย

ไม่รู้ตัวว่าลอบมองพระชายา ด้วยสายตาสงสัยบ่อยครั้งเกินไป จนพระชายายกมือขึ้นลูบใบหน้าตนเอง แล้วเอ่ยปากถาม “หน้าข้ามีสิ่งใดติดอยู่หรือ”

“ไม่มีเพคะ”

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงมอง”

“เปล่าเพคะ หม่อมฉันไม่ได้มอง” หลังจากถูกพระชายาถามอาหลี่ก็ก้มหน้าไปตลอดทาง

ก็เห็น ๆ อยู่ว่ามองยังปฏิเสธอีก ลู่ผิงถิงคล้านจะใส่ใจจึงปล่อยผ่านเรื่องการลอบมองของอาหลี่ไป

เมื่อมาถึงหอเฟิ่งหวง ลู่ผิงถิงก็ขึ้นไปที่ชั้นสอง ซึ่งเป็นชั้นของนักสืบข่าวเลี่ยงชื่อในเมืองหลวง ไม่ว่าข่าวใดหอเฟิ่งหวงไม่เคยทำให้ผิดหวัง อยู่ที่ว่ากระเป๋าของคนจ้างจะหนักหรือไม่ ดังนั้นนี่เป็นเรื่องสำคัญที่ลู่ผิงถิงต้องสืบ หลังจากออกมาจากจวนตระกูลลู่มาได้

ยังดีที่บิดาทำตามสัญญา ยกสินเดิมของมารดาให้เป็นสินเดิมของนางเข้าจวนอ๋อง มิเช่นนั้นนางคงไม่มีเงินมาสืบข่าวแบบนี้ได้แน่

ยามที่อยู่เรือนท้ายจวน ฮูหยินรองดูแลทุกอย่างในจวน บิดาก็วุ่นวายอยู่กับเรื่องค้าขาย จึงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยในจวน จนป่านนี้ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว บิดาก็ยังไม่รู้ถึงความลำบากของบุตรสาวคนโต ว่าอัตคัดเงินทองแค่ไหนหรือบางครั้งบิดาอาจจะรู้ แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้ ลู่ผิงถิงเองก็ไม่แน่ชัดในใจ

วันนี้อยากได้ข่าวของหมอเทวดาเหยียน เพื่อจะให้มารักษาอาการป่วยของมารดา และอยากได้ข่าวของพวกโจรที่ปล้นฆ่าลู่หงจื่อพี่ชายใหญ่ของตน

ซึ่งคดีของพี่ชายถูกปิดคดีไปนานแล้ว โดยที่คนร้ายทุกคนฆ่าตัวตาย ทำให้ลู่ผิงถิงสงสัยมาโดยตลอดว่าเรื่องนี้ยังมีเบื้องหลังที่ไม่ชัดเจน คนที่สละชีวิตไปเป็นเพียงแพะรับบาป ไม่ใช่คนบงการ

“ผู้ดูแลข้าต้องการสืบข่าวบางอย่าง”

“แม่นางอยากรู้ข่าวใดรึ ถ้ามีข่าวอยู่แล้วก็ตกลงแลกเปลี่ยนข่าวกับเงินได้เลย แต่ถ้าข้อมูลที่แม่นางอยากได้ทางเรายังไม่มี ก็ต้องใช้เวลาในการสืบหาเสียหน่อย”

“ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้หมอเทวดาเหยียนอยู่ที่ใด”

“สักครู่นะแม่นางข้าจะไปหาข้อมูล”

อาหลี่ที่เดินตามหลังพระชายามาตลอดถอนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก พระชายาไม่ได้มาหาท่านอ๋อง

หนึ่งเค่อผ่านไปผู้ดูแลคนนั้นก็กลับมา “แม่นางท่านโชคดีมาก อีกสี่วันหมอเทวดาเหยียนจะเดินทางมาพักที่หอเฟิ่งหวงของเรา”

“จริงหรือ” ลู่ผิงถิงดีใจมาก ฉีกยิ้มกว้างจนผู้ดูแลมองตาค้าง “ข้ามีอีกข่าวที่อยากสืบ คดีปล้นบุตรชายตระกูลลู่เมื่อหนึ่งปีก่อน”

“คดีนี้ปิดไปแล้วไม่ใช่รึ แม่นาง”

“รับสืบหรือไม่” ลู่ผิงถิงวางเงินลงไปหนึ่งร้อยตำลึง “ถ้าได้ข้อมมูลที่เป็นประโยชน์จะเพิ่มค่าจ้างให้ไม่อั้น”

ผู้ดูแลกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “รับขอรับ อีกหนึ่งเดือนแม่นางมารับข่าว ถ้าสืบมาได้ก็แลกเปลี่ยนเงินกับข่าวตามปกติ แต่ถ้าสืบไม่ได้ทางเราจะคืนเงินแค่บางส่วนนะขอรับ เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายระหว่างการสืบ”

“ได้” ลู่ผิงถิงจ่ายเงินและออกจากหอเฟิ่งหวง

รออีกสี่วันค่อยมาที่นี่ใหม่ เพื่อดูว่าหมอเทวดาเหยียนจะมาตามที่ได้รับข้อมูลไหม ซึ่งถ้ามาจริงความหวังเรื่องแก้พิษให้มารดาก็มีมากขึ้น

หลังจากออกจากหอเฟิ่งหวง ลู่ผิงถิงและอาหลี่ก็ไปที่จวนตระกูลลู่

ในขณะที่เดินเข้าเรือนท้ายจวนลู่ผิงถิงก็ได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วเบา คละเคล้าไปกับเสียงครางที่ดูเจ็บปวด ใจของลู่ผิงถิงกระตุกวูบ รีบวิ่งไปที่เรือนท้ายจวน

ภาพที่เห็นทำให้จิตใจร้อนรน แผดเสียงออกมาอย่างแค้นเคือง “พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ”

.......................................

เกลียดอิอ๋อง เมินลูกสาวฉันไปหานางคณิกา ชิชิ อยากได้กำลังใจจังเลย ใครอ่านแล้วมาเมนต์หน่อยพอได้ไหม นักเรียนฝึกเขียน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 3

    ลู่ผิงถิงคร้านจะสนใจเขาตอนนี้ตานางลืมแทบไม่ขึ้นแล้ว “หม่อมฉันง่วงแล้วเพคะ” จมูกโด่งของคนด้านข้างซุกไซร้ซอกคอทว่านางไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงหลับไปอย่างไม่รู้ตัวมู่เซียวเซ่อจุมพิตขมับภรรยาเบา ๆ จากนั้นก็ออกจากห้องไม่เช่นนั้นเขาคงก่อกวนนางจนตื่นแน่ เขาตรงไปยังห้องทรงอักษรเพื่อจัดการฎีกาที่เหลือ เกือบสว่างเขาถึงได้กลับมานอนกอดภรรยาเช้าวันต่อมาฮ่องเต้หนุ่มมู่เซียวเซ่อออกว่าราชการและสั่งการให้ลู่หงปินที่ถูกเลื่อนขั้นเป็นมหาเสนาบดี ไปจัดการช่วยเหลือชาวเมืองทางเหนือที่ถูกน้ำป่าถล่มเสียหายหลายหมู่บ้าน จัดการแจกเสบียงอาหาร เครื่องนุ่งห่มให้ชาวบ้าน ก่อสร้างบ้านเรือนที่เสียหาย และได้วางแผนเปิดการค้ากับต่างแคว้นเพื่อฟื้นฟูท้องพระคลังที่ว่างเปล่าฮ่องเต้ทรงห่วงใยปวงประชา ทรงงานหนักทุกวันเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี จวบจนเวลาสามปีทุกอย่างที่เฝ้าตั้งใจลงมือทำก็ผลิดอกออกผล ประชาชนอยู่ดีกินดี บ้านเมืองมั่งคั่ง ท้องพระคลังไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป“มำหม่ำ”เสียงบุตรชายร้องกินนมอยู่ในอ้อมกอดมารดา จนคนเป็นพ่อแบบเขาบางครั้งก็โมโห ที่ภรรยาสนใจแต่ลูกน้อยไม่สนใจเขาบ

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 2

    มู่เซียวเซ่อลืมตาขึ้น ถูกยั่วยวนเพียงนี้ใครจะทนได้ อดกลั้นอยู่ตั้งนานเพราะกลัวนางเหนื่อย ได้ยินนางบอกไม่เหนื่อยใครบ้างไม่ยินดี เจ้ามังกรที่เขากำลังกล่อมหลับ จะได้รับการปลอบประโลมแล้ว ดีใจสุด ๆดวงตาดอกท้อมองภรรยาหวานเยิ้ม จากนั้นจับมือของนางถอดสายคาดเอวรวมไปถึงถอดอาภรณ์ของเขาไปพร้อม ๆ กันลู่ผิงถิงเคยปรนนิบัติเขามาแล้วยามที่นางมีฤดูวันนั้น วันนี้นางจึงไม่เอียงอายเท่าไร ลิ้นเล็กเล็มเลียจุดอ่อนไหวของเขา เม็ดบัวทั้งสองข้างเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของนางมู่เซียวเซ่อครางในลำคออย่างเสียวซ่าน เขาแทบคลั่งที่ถูกกระตุ้น และตอนนี้เจ้ามังกรจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อยู่แล้ว “อ้าส์ ถิงเอ๋อร์เด็กดี ครอบครองมันให้พี่ที”ลู่ผิงถิงยิ้มมุมปากจากนั้นก็กรีดนิ้วไปบนหน้าท้องเขาไล่ไปหามังกรตัวเขื่อง จับรูดขึ้นลงเชื่องช้าแล้วหยุดมือลงกะทันหัน เห็นคิ้วของสามีเลิกขึ้นก็ยิ่งสุขใจ นางอยากกลั่นแกล้งที่เขาทิ้งให้นางรอคอยเพียงลำพังเมื่อครู่ “หม่อมฉันเริ่มเหนื่อยแล้ว นอนกันเถิดเพคะ”มู่เซียวเซ่อจับสตรีที่ยั่วยวนเมื่อครู่นอนลงจากนั้นก็จุมพิตดูดดื่มมาถึงขั้นนี้แล้วใครจะนอน เขาขบกัด

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 1

    มู่เซียวเซ่อในชุดสีแดงมงคลนั่งสง่าบนหลังม้า อาชาคู่กายที่ปราดเปรื่องในสนามรบ ถูกผูกผ้าสีแดงจนมันพ่นลมหายใจออกมาบ่อยครั้ง เขาได้แต่ปลอบมันด้วยการลูบขนบริเวณคอและเอ่ยติดสินบนมันแผ่วเบา “เสร็จงานจะให้หญ้าหวานของโปรดเจ้ามากหน่อย อย่างอแง” ด้านหลังของเขาเป็นขบวนสินสอดที่ตั้งใจนำมามอบให้ภรรยาชาวบ้านแถบนั้นมามุงดูด้วยความริษยา แสงระยิบระยับที่สะท้อนสายตา เป็นจำพวกเงินทองและเครื่องประดับที่พูนขึ้นมาจากหีบ และที่ปิดฝาไว้อีกมากมายคงจะเป็นผ้าไหมเนื้อดี รวมไปถึงโฉนดที่ดินและอื่น ๆ อีกมากมายชินอ๋องเสเพลเป็นเจ้าของหอเฟิ่งหวงใครก็ต่างเหลือเชื่อ สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านเหลือเชื่อยิ่งกว่าคือ เขาแสร้งเสเพลตบตาผู้คน ทว่าทำได้เหมือนจริงราวกับเป็นตัวเขาเองด้านในจวนลู่ บิดามารดาและพี่รองของลู่ผิงถิงอยู่กันพร้อมหน้า เวินหลินช่วยบุตรสาวประทินโฉม ส่วนลู่หงเวินนั่งยิ้มมองภรรยาและบุตร ไม่กล้าพูดคุยกับภรรยา“พระชายา ท่านอ๋องมาแล้วเจ้าค่ะ สินสอดยาวมากน่าจะสองร้อยหาบได้” อาหลี่วิ่งหน้าตาตื่นมาบอก นางตื่นเต้นเมื่อเห็นขบวนรับเจ้าสาวของท่านอ๋อง“ถิงเอ๋อร์” เวินหลินจับมือบุตรสาวอยากร

  • พระชายาจำยอม   บทส่งท้าย เสแสร้งอีกแล้ว (2)

    ลู่ผิงถิงเริ่มโมโห นางร้องไห้ใจแทบขาดทว่าเป็นเลือดไก่ “แล้วที่ท่านหายใจรวยรินเล่า”“ข้าคงเหนื่อยมาก” มู่เซียวเซ่อเริ่มใช้จมูกซุกซน ซอกซอนไปตามลำคอระหง เรียวลิ้นดูดดึงเลาะเล็มตามปลายคางจนมาถึงริมฝีปาก“หยุด”มู่เซียวเซ่อหยุดชะงักตามคำสั่งจากนั้นเลิกคิ้วมองใบหน้าหวานอย่างสงสัย“ท่านป่วยอยู่”“ข้าหายแล้ว” ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธอีก มู่เซียวเซ่อก็จู่โจมจุมพิตเร่าร้อน ปลดเปลื้องอาภรณ์คนตัวเล็กออกอย่างรวดเร็ว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยฝ่ามือลูบไล้เรือนร่างระหง เรียวลิ้นลากไล้ไปทั่วทุกซอกมุมลู่ผิงถิงอ่อนระทวยไปกับการโลมเล้าของเขา ทว่านางยังไม่ลืมชีวิตน้อย ๆ ในท้อง “อ้าส์...ท่านอ๋องหม่อมฉันตั้งครรภ์อยู่”“ข้าปรึกษาหมอหลวงแล้วว่าได้” มู่เซียวเซ่อกระซิบที่ข้างหูเสียงกระเส่า พร้อมงับติ่งหูเบา ๆ“นี่หมายความว่าไง ท่านไม่ได้ป่วยจริงหรือ” หูของมู่เซียวเซ่อถูกพระชายาดึงราวกับหนังยางยืด“โอ๊ย..จะ..เจ็บ...ถิงเอ๋อร์ปล่อยก่อน ข้าป่วยจริง ๆ นะแต่ดีขึ้นมากแล้ว” สายตาของมู่เซียวเซ่อล่อกแล่กขณะเอ่ยลู่ผิงถิงหรี่ตามองสามีคร

  • พระชายาจำยอม   บทส่งท้าย เสแสร้งอีกแล้ว (1)

    ได้ยินเช่นนั้นใจของลู่ผิงถิงก็ราวกับหล่นไปในเหวลึก ถึงกับดูใจครั้งสุดท้ายเลยหรืออาจเพราะทำงานจนลืมกินข้าว หรืออาจเพราะอ่านฎีกาไม่ยอมพักผ่อน ถึงได้เป็นหนักขนาดนี้ แม้ในใจยังไม่หายโกรธ แต่ความเป็นห่วงทำให้ลู่ผิงถิงรีบร้อนออกจากจวนอ๋องอย่างรวดเร็วบนเตียงกว้างสามีนอนใบหน้าซีดเซียว ริมฝีบางของเขาลอกเป็นขุย “ท่านอ๋อง เหตุใดเป็นอย่างนี้ไปได้” ลู่ผิงถิงน้ำตาไหลเมื่อเห็นสภาพของสามี“ถิงเอ๋อร์ ข้าปวดใจมากที่ต้องโกหกเจ้า” ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากไอ เลือดสีดำจุดเล็กติดมากับผ้าเช็ดหน้า “วันนั้นเพราะเสด็จพี่ต้องการสังหารข้า ถ้าข้าไม่ตายเจ้าจะไม่ปลอดภัย” พูดไปไอไป“พอแล้วเพคะ ไม่ต้องพูดแล้ว” ลู่ผิงถิงจับมือสามีไว้ หัวใจบีบแน่นที่เห็นสภาพอิดโรยของเขาหมอหลวงนำโอสถเข้ามา “ท่านอ๋องดื่มยาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าทำเอง เจ้าออกไปเถิด” ลู่ผิงถิงรับยามาเป่าแล้วป้อนให้สามีสายตารู้สึกผิดจับจ้องผู้เป็นภรรยา “ข้าไม่อยากโกหกเจ้าสักนิด ที่กระท่อมหลังนั้นคนของเสด็จพี่จับตามองเราตลอดเวลา ข้าหาโอกาสสารภาพกับเจ้าไม่ได้ ยกโทษให้ข้านะถิงเอ๋อร์”ลู่ผิงถิงเม้มริมฝีปากบาง

  • พระชายาจำยอม   ตามง้อภรรยา (2)

    “ฉึก” ปลายดาบแทงแผ่นหลังทะลุหัวใจของฮ่องเต้หนุ่มมู่เซียวเซ่อดีดลูกโลหะเหล็กก้อนกลมใส่มือผู้เป็นพี่ชาย กระบี่หล่นจากมือตกลงพื้น เขาคว้าข้อมือบางดึงเข้ามาในอ้อมกอดอย่างปลอดภัยลู่ไป๋อิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายแทงชายหนุ่มที่ตัวเองรักแล้วกอดเขาจากด้านหลังล้มลงพื้นไปด้วยกัน “ไม่ได้ร่วมผูกผม ก็ร่วมลงหลุมไปด้วยกัน” พูดแผ่วเบากระซิบที่ข้างหูฝ่าบาททำผิดมามากมายได้ทำอะไรเพื่อพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ถึงแม้จะทดแทนความผิดที่ผ่านมาไม่ได้ก็ตาม สำหรับพี่ชายใหญ่นางจะตามไปชดใช้ที่ปรโลกไม่นานคนของมู่เซียวเซ่อก็ควบคุมคนของมู่เซียวเหิงได้ณ จวนอ๋องมู่เซียวเซ่อตามง้อภรรยามาสามวันแล้วทว่าไม่เป็นผล นางไม่ยอมมองหน้า ไม่คุยด้วย เสด็จพ่อก็จะให้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างเดียว ไม่รู้ถึงความลำบากใจของบุตรชายคนนี้บ้างเลย“เซียวเซ่อ ข้ามาแล้ว” อู่เหยียนเอ่ยทักทายสหาย ความจริงเขาเข้าเมืองมาหลายวันแล้ว แต่พักอยู่ที่หอเฟิ่งหวง ไม่เข้าท้องพระโรงกับพวกจ้าวเฉา ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยงตายเล่า เขาเป็นแค่หมอคนหนึ่ง ไม่ได้มีวิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status