LOGIN"อาการที่คุณพ่อเป็นเรียกว่า Couvade Syndrome ค่ะ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแพ้ท้องแทนเมีย" ผมนั่งอึ้งตั้งใจฟังสูตินรีแพทย์หญิงกำลังพูดถึงอาการที่ผมเผชิญหลายวันที่ผ่าน หลังจากที่รู้ว่าเมียรักกำลังตั้งท้อง จากที่แค่อารมณ์อ่อนไหวมันก็เริ่มลุกลามไปถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอยากกินอะไรแปลก ๆ ตอนแรกพ่อของผมก็บอกมาคร่าว ๆ เพราะท่านเคยประสบมากับตัวเอง แต่ผมก็ยังไม่เชื่อเต็มที่กระทั่งได้ฟังจากปากหมอจริง ๆ"มีแบบนี้ด้วยเหรอครับ" ผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าที่ฟังต่อกันมา ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีอยู่จริง ทั้งยังมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการอีกด้วย"อาการเหล่านี้มีหลายสาเหตุค่ะคุณพ่อ เกิดจากระดับฮอร์โมนโปรแลคตินเปลี่ยนแปลง เป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับความผูกพันและพฤติกรรมพ่อแม่สูงขึ้น และฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลงทำให้มีอารมณ์อ่อนไหวมากขึ้น หรือเกิดจากความเครียดและความกังวล จึงส่งผลต่อสภาพจิตใจ คล้ายกับว่าที่คุณแม่ บางครั้งเป็นเรื่องของความเห็นอกเห็นใจ จนร่างกายเกิดอาการคล้ายคนท้อง เช่น คลื่นไส้ ปวดหลัง น้ำหนักขึ้น อารมณ์แปรปรวน สุดท้ายก็อาจจะเป็นการที่ร่างกายปรับตัวเข้าสู่บทบาทคุณพ่อ สมองเริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่
ในห้องนอนของเรามีแต่ความเงียบงันไร้เสียงของคนพูดคุย วันนี้เป็นคิวของผมและไคเรนที่ต้องมานอนปรับสารทุกข์สุขดิบด้วยกันสองคน ทว่าสิ่งที่เราทำคือกลับกำลังนอนมองเพดานโดยไม่มีใครพูดออกมา หลังจากสิ้นสุดงานวันเกิดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านทั้งผมและไคเรนก็เหมือนมีเรื่องให้คิดตลอดทั้งเย็น"แด๊ด/ไคเรน" อยู่ ๆ ทั้งผมและลูกก็ใจตรงกัน เรียกชื่อกันพร้อมใจเสียอย่างนั้น"ลูกพูดก่อน" ผมเป็นฝ่ายพยักพเยิดให้ลูกชายเป็นคนเริ่ม"แด๊ดพูดก่อนสิครับ" ทว่าคือเรื่องปกติที่เราสองคนจะเถียง ไคเรนกลับโยนมาให้ผมอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องสำคัญเราคงได้เถียงกันอีกยาว"ลูกคิดว่าเดลตา อิงดาว อิงฟ้าเป็นยังไง" สามคนที่ผมกำลังพูดถึงคือลูกของไอ้ดีแลนและเจโรมเพื่อนผมเอง ทั้งสามอายุหนึ่งขวบวัยกำลังน่ารักจึงอยากรู้ว่าไคเรนจะคิดเหมือนผมมากน้อยแค่ไหน"ยังไงเหรอครับ?" แต่คำถามผมคงยากไปสำหรับเด็กหกขวบ ผมคงต้องพูดออกไปตรง ๆ"ถ้าจะมีเด็กที่หน้าเหมือนไคเรน นาน่า หรือแด๊ดสักคนวิ่งเล่นในบ้านลูกจะโอเคหรือเปล่า?""แด๊ดหมายถึงขออนุญาตผมมีน้องใช่ไหมครับ" ผมพยักหน้ารับ ผมกำลังหมายถึงสิ่งนั้นนั่นแหละ"ผมอยากมีน้องครับ เรื่องที่ผมอยากจะบอกแด๊ด
เช้าวันหยุดอีกวันทันทีที่ลืมตาขึ้นก็ไร้ร่างภรรยาสุดที่รักที่นอนด้วยกันทั้งคืน เวลาเช้า ๆ แบบนี้เธอคงออกไปหาไคเรนแล้ว คิดได้อย่างนั้นผมจึงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้ลงไปทานข้าวพร้อมกัน"ไปไหนกันหมด" ผมถามป้านิดที่ห้องอาหาร หลังจากเดินตามหาสองแม่ลูกทั่วบ้านก็ไร้ร่างของพวกเธอ ไปไหนก็ไม่ได้บอกผมล่วงหน้าทั้งเธอยังไม่ส่งหรือตอบข้อความทั้งแม่ทั้งลูก"เห็นว่าไปเดินสวนนะคะ ได้ยินหนูนานะบอกว่าอยากจะปลูกต้นไม้เพิ่ม" ทำไมเธอไม่บอกผม…คำถามนี้แล่นเข้ามาในหัว ยอมรับตามตรงว่าผมเริ่มน้อยใจเพราะไม่เพียงแค่ลูกชายที่มีความลับ แต่รู้สึกเหมือนถูกปิดบังจากครอบครัวหรือเพราะผมทำอะไรผิดไปทำไมเหมือนถูกปฏิบัติอย่างหมางเมินขนาดนี้"นายจะรับอาหารเลยไหมคะ ป้าจะได้เตรียมให้เลย""ไม่ล่ะครับ ผมไม่หิว" ผมว่าจบก็เดินออกไปทันที ตรงเข้าไปห้องทำงานด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจผมไม่เข้าใจว่าไอ้อาการน้อยใจที่นับวันก็ยิ่งทวีคูณมันมาอย่างไร โดยปกติก็ไม่ใช่คนที่จะคิดมากหรือคิดเล็กคิดน้อย หรือเพราะผมหลงภรรยามากเกินไปจึงทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้า แค่ถูกเมียกับลูกทิ้งไปเดินสวนใกล้ ๆ กลับรู้สึกอยากร้องไห้เสียอย่างนั้นให
"ทำอะไรกันอยู่" ผมนั่งลงข้าง ๆ สองแม่ลูกที่กำลังพูดคุยด้วยใบหน้าคร่ำเครียด แต่พอมีผมเข้ามาเพิ่มเหมือนว่าบทสนทนาก็หยุดลงอย่างชะงัก แล้วพร้อมใจกันมองผมนิ่ง ๆ เม้มปากแน่นราวกับว่าไม่อยากให้ผมเข้าร่วมหรือได้ยินในสิ่งที่พูดกัน"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" ไคเรนออกปากปฏิเสธในเวลาต่อมา ยิ่งสร้างความแปลกใจให้ผมใหญ่ ก็เห็นอยู่ว่าหน้าเครียดกันพอสมควร หรือเพราะปัญหาที่พวกเขาคุยกันก่อนนอนยังไม่เคลียร์ จึงต้องมาคุยกันเพิ่มเติมโดยไม่อยากให้ผมรู้เช่นเดิม"คุณแด๊ดหิวไหมคะ หนูไปหาของว่างมาให้นะ" ผมมองตามคนที่ว่าจบก็เดินออกไปในทันที พิรุธเห็น ๆ ทั้งแม่ทั้งลูก"ผมไปเอาเกมมาเล่นดีกว่า" ตามติดไปด้วยลูกชายของผมที่เดินหนีเข้าบ้านอีกคน ผมได้แต่ไตร่ตรองกับสองแผ่นหลังนั้นเงียบ ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านบ้างแล้วตรงไปหาภรรยาที่วุ่นวายกับอาหารว่างตามที่บอกก่อนเข้ามา"เดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ คุณแด๊ดไปนั่งรอในสวนก่อนนะ" นานะบอกผมแล้วงุ่นง่านกับการหาขนมมาจัด แต่ผมรู้ว่านั้นเป็นเพียงแค่ข้ออ้างที่จะทำตัวยุ่งเพื่อกันผมถามในสิ่งที่เธอไม่อยากตอบ"มันไม่อันตรายมากใช่ไหมครับ" แต่ผมก็ยังไม่ถอย สิ้นเสียงของผมคนตัวเล็กก็หยุดทุกการกระท
สวัสดีครับ ผมไคโรเอง…ได้เจอกันจริง ๆ สักทีนะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าชีวิตหลังจากที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของผมคนหนึ่งครบหนึ่งปีพอดี เธอชื่อนานะที่ทุกคนคงจะรู้จักกันดี หญิงสาวที่อายุห่างกับผมถึงแปดปี ขณะที่ผมอายุย่างเข้าสามสิบเอ็ดส่วนเธอก็ยี่สิบสามปี ใช่…ผมมีเมียเด็ก แล้วเด็กคนนี้ก็ดันน่ารักจนผมอดใจไม่ไหวจับทำเมียซะเลย หนึ่งปีที่ผ่านมาผมทั้งรักและหลงเธอหนักกว่าเดิม ทั้งนิสัยและทัศนคติเรียกได้ว่าได้ใจผมไปเต็ม ๆ เธอรักผมและลูกมาก มากจนบางทีเธอก็ลืมนึกถึงตัวเอง แค่เพียงเห็นพวกเรามีความสุขเธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่าง โดยเฉพาะกับลูกชายตัวดีของผม เธอทั้งเอาใจใส่ ให้ความรักความอบอุ่นจนเด็กที่ไม่เคยได้รับจากแม่ที่แท้จริงรู้สึกจะรู้สึกขาดแคลน ได้รับจนผมรู้สึกว่ามันจะล้นเอาด้วยซ้ำ เพราะทุกลมหายใจของเธอมีแต่ไคเรน ทั้งเข้าและออกก็จะนึกถึงลูกอยู่เสมอ จนบางทีผมเองก็นึกน้อยใจ ก็เมียเล่นสนใจผมน้อยกว่าลูกในไส้ ใช่…ผมกำลังหวงเมียจากลูกของตัวเอง"คุณแด๊ด…อย่างอนสิคะ" นานะนั่งลงบนตักของผมพร้อมทั้งทำเสียงออดอ้อน ในขณะที่ผมเบือนหน้าออกไม่ยอมมองหน้าเธอ อาการนี้ทุกคนคงดูออกว่าผมกำลังงอนเมียหนักมาก"
ห้องลับห้องปิดตายที่นานะยังคงคาใจมาตลอดว่ามันคือห้องอะไร ในตอนที่ไคโรเปิดประตูเข้ามาจากที่ดีดดิ้นเธอก็สงบลงแล้วกวาดสายตาไปมองรอบห้องทันทีร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน จากคนที่ต่อต้านกลับกลายเป็นนิ่งสนิทเพราะของที่ทุกอย่างที่อยู่ในห้องทำเธอถึงกับพูดไม่ออก"ชอบไหม?" ไคโรเผยยิ้มถามคนที่นั่งเงียบ ภายในห้องสีขาวถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีฟ้าอ่อนเพิ่มความสบายตา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสายธารา โดยมีรูปปลาโลมาท่ามกลางทะเลแสนกว้างที่ถูกจ้างวาดด้วยศิลปินระดับโลกแปะข้างฝาผนังทำเพื่อเธอโดยเฉพาะ ทั้งยังมีต้นไม้จริงสองสามต้นในกระถางรูปสวยปลูกเอาไว้ที่ระเบียงห้อง ลูกแก้วคริสตัลและกล่องดนตรีที่ห่วงแหนถูกนำมาประดับอยู่ในห้องนี้ พร้อมกับข้าวของของเธอที่ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเป็นเจ้าของคนใหม่ของที่แห่งนี้"ชะ ชอบค่ะ" นานะกวาดมองพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า นี่มันห้องนอนในฝันของเธอชัด ๆ"ผมดีใจนะที่คุณชอบ ไม่รู้ว่าจะเทียบกับบ้านสวนของพ่อผมได้ไหม แต่อีกไม่นานผมจะเนรมิตบ้านสวนของจริงอย่างที่คุณชอบมาให้นะ" ชายหนุ่มว่าจบก็ฉีกยิ้มกว้าง สมกับความตั้งใจที่เขาควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง เพื่อให้มันออกมาด







