กับดักสัตว์นั้น เฉียวเนี่ยนไม่มีแรงแกะออกจริงๆ นั่นแหละแต่หลังจากนางลองดูอยู่พักหนึ่งก็พบว่า กับดักสัตว์ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กเส้นเล็กๆ ปลายอีกด้านของโซ่เหล็กถูกทับอยู่ใต้ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งนางใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงโซ่เหล็กออกมาจากใต้ก้อนหิน จากนั้นลากกับดักสัตว์ตัวนั้น เดินกะโผลกกะเผลกออกจากป่าแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเส้นทางควรเดินอย่างไร แต่นางก็รู้ว่าทิศทางที่นางมาคือทิศทางไหนแต่ไม่คิดเลยว่า เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นเงาคนวิ่งมาจากที่ไกลๆชั่วขณะหนึ่ง เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในภวังค์ เกือบจะคิดว่าเงาร่างนั้นคือจิ่งเหยียนไปแล้วนางคิดถึงจิ่งเหยียนมากเกินไปแล้วแต่ไม่นานนางก็รู้ตัวว่า คนคนนั้นที่จะอยู่เคียงข้างนางในยามที่นางหมดหนทางและเจ็บปวด จะไม่สามารถปรากฏตัวได้อีกแล้วในชีวิตนี้ดังนั้นนางจึงจํารูปร่างนั้นได้ทันที พยายามทําให้ตัวเองมองข้ามความเศร้าโศกในใจ ยกมุมปากขึ้นแล้วเรียก "พี่ไป๋"นางเดินกะโผลกกะเผลก ค่อนข้างหนักหนาเอาการอยู่ฉู่จืออี้เดินเข้าไปใกล้จึงพบว่านางกําลังลากกับดักสัตว์เดินมาด้วยแต่ก็รู้สึกโชคดีอยู่บ้างที่แผ่นไม้กั้นกับดักสัตว์ไว้ มิฉะนั้นด้วยแรงของกับดักสัตว์นี้ ข้
ปากแข็งพูดว่า "ข้า ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านางไปไหนแล้ว?"ดวงตาของฉู่จืออี้มืดครึ้มลง "ป้าชุนถามเจ้าเรื่องแกงไก่ ไม่ได้บอกว่าการหายตัวไปของนางเกี่ยวข้องกับเจ้า เจ้ากําลังสารภาพเองอยู่"เมื่อได้ยินอย่างนี้ ฝูวั่งก็ยิ่งอารมณ์รุนแรงมากขึ้น "ข้าเปล่านะ ท่านอย่าใส่ร้ายคนอื่น! ข้ากับนางไม่มีความแค้นต่อกัน ข้าจะทําร้ายนางทําไม?"แต่ยิ่งเขาเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทําให้เขามีพิรุธมากขึ้นป้าชุนก็โกรธแล้วเหมือนกัน นางคว้าไม้กวาดจากหลังประตูแล้วตีไปที่ฝูวั่ง "เจ้าสัตว์เดรัจฉาน! เจ้าพาคนไปไหนแล้ว รีบพูดมาเดี๋ยวนี้!"ฝูวั่งถูกตีจนร้องโอดโอยและวิ่งหนีไปทั่วบ้านแต่ก็ยังปากแข็ง "ข้าไม่รู้! ข้าไม่รู้!"แต่ไม่คิดเลยว่า เผลอแป๊บเดียวก็วิ่งมาถึงตรงหน้าฉู่จืออี้ จากนั้นก็ถูกฉู่จืออี้กดคอไว้ ขยับไม่ได้ทันทีน้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาย้อมไปด้วยความโกรธจางๆ "ที่เท้านางได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้มืดค่ำแล้ว หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ข้าจะจับเจ้าไปพบขุนนางแน่นอน ให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต"ได้ยินดังนั้น ฝูวั่งก็ยังปากแข็งเถียงกลับ "พี่ไป๋! เรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว ท่านก็ถือว่าดูข้าเติบโตขึ้นมา! ตอนนี้ทําแบ
เฉียวเนี่ยนนึกถึงตอนที่ถูกชิวอวี่จับเข้าไปในถ้ำนางก็วิ่งเข้าไปในป่าอย่างสิ้นหวัง วิ่งจนสุดทาง แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าอยู่ในป่ามานานแค่ไหนแล้ว สุดท้ายก็ยังให้เซียวเหิงแบกนางออกมานางไม่อยากทําผิดซ้ำอีกดังนั้นนางจึงวิ่งและสังเกตด้านหลังไปด้วยเมื่อเห็นว่าฝูวั่งไม่ยอมแพ้ นางก็เริ่มตื่นตระหนกท้องฟ้ายามค่ำคืนก็มืดครึ้มอยู่แล้ว เฉียวเนี่ยนมุดเข้าไปในป่าไม่นานก็พบว่า ในป่านั้นมืดจนมองอะไรไม่เห็นแล้วและสิ่งที่ทําให้นางกังวลมากที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้"เพียะ!"เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นนางก็เหยียบกับดักสัตว์เหมือนกัน!"ฝูวั่ง! เจ้าอย่าเข้ามาใกล้เลย!" เฉียวเนี่ยนอุทานอย่างตกใจ "ที่นี่มีกับดักสัตว์มากมาย ข้าก็ถูกดักไว้แล้วเหมือนกัน!"ได้ยินเช่นนี้ เสียงฝีเท้าของฝูวั่งก็หยุดลงจริงๆอาจเป็นเพราะคิดถึงเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บของเขา ในที่สุดฝูวั่งก็ไม่ได้ไล่ตามนางอีกต่อไปและหันหลังจากไปเขาคิดว่าที่นี่มืดสนิท มองไม่เห็นทางเลย เฉียวเนี่ยนเหยียบกับดักสัตว์ ขาได้รับบาดเจ็บ กลิ่นคาวเลือดต้องดึงดูดสัตว์ป่ามาแน่นอนนางไม่มีทางรอดกลับหมู่บ้านได้แน่!เฉียวเนี่ยนกลั้นลมหายใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเ
ในเวลานี้เอง ในลานบ้านพลันมีเสียงเคลื่อนไหวเล็กน้อยลอยมาเฉียวเนี่ยนตกใจ รีบลุกขึ้นไปมองในลานบ้าน ก็เห็นเงาคนคนหนึ่งแกว่งไกวอยู่ในลานบ้าน""ใครกัน?""ข้าเอง"เสียงค่อนข้างคุ้นเคยเฉียวเนี่ยนถามหยั่งเชิงว่า "ฝูวั่ง?""ใช่!" ฝูวั่งรับคํา จากนั้นก็เดินไปที่ประตูแล้วพูดว่า "แม่ข้าบอกว่าตอนกลางคืนต้มแกงไก่ไว้ สุดท้ายลืมไปเพราะเรื่องป้าตงฮวา เมื่อครู่นำไปอุ่นใหม่อีกรอบ ให้ข้านํามาให้!"ป้าชุนต้มแกงไก่ให้นางดื่มทุกวันจริงๆ นั่นแหละเฉียวเนี่ยนไม่ได้สงสัยอะไร จึงพูดว่า "ได้ เจ้าวางไว้ที่หน้าประตู เดี๋ยวข้าไปเอา""ได้!"อีกฝ่ายตอบรับทันทีไม่นาน เฉียวเนี่ยนก็เห็นฝูวั่งออกจากลานบ้านนางลุกขึ้นและเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ประตูเปิดประตูแล้ว บนพื้นมีแกงไก่ชามหนึ่งวางอยู่จริงๆ1นางค่อยๆ ย่อตัวลง ยกแกงไก่ขึ้น แต่ไม่คิดว่าในเวลานี้ มีเงาคนคนหนึ่งกระโดดออกมาจากมุมห้อง ไม่รอให้นางได้ตอบสนอง ก็ปิดปากนางไว้ในมือของอีกฝ่ายซ่อนยาสลบไว้เพียงลมหายใจเดียว เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกหน้ามืด ไร้สติโดยสิ้นเชิงไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว นางถึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองถูกคนแบกไว้บนไหล่"เจ้าเดินเร็วๆ
เมื่อฉู่จืออี้กลับไปถึงหมู่บ้านเหอวาน พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าจากที่ไกลๆ เขาจะเห็นลานบ้านของตัวเองเต็มไปด้วยผู้คนหัวใจของเขาจมดิ่งลงอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมีคนเห็นเขาแล้ว จึงตะโกนทันที "มาแล้ว มาแล้ว กลับมาแล้ว!"ทุกคนหันไปมองฉู่จืออี้พร้อมกันฉู่จืออี้เข้าไปในลานบ้าน มองปราดเดียวก็เห็นป้าตงฮวาที่กําลังนอนอยู่กลางลานบ้าน และยังมีเฉียวเนี่ยนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ นางเห็นเพียงในมือของนางถือเข็มปักลายดอกหนึ่ง กําลังปักลงบนร่างของป้าตงฮวา และดวงตาของป้าตงฮวาก็พร่ามัว คล้ายจะตื่นแต่ก็ไม่ตื่น"เกิดอะไรขึ้น?" ฉู่จืออี้ถามเสียงเข้มป้าชุนรีบก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า "สือโถวทะเลาะกับพ่อของเขาและวิ่งเข้าไปในภูเขาด้วยความโกรธ พ่อของเขาเกรงว่าเขาจะเป็นอันตราย จึงตามเขาเข้าไปด้วย ป้าตงฮวารออยู่ที่บ้านตั้งนาน เห็นว่าฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ร้อนใจจนสลบไป โชคดีที่เด็กคนนี้มีวิชาแพทย์ แค่สองเข็มก็ช่วยชีวิตคนกลับมาแล้ว"ได้ยินดังนั้น ดวงตาของฉู่จืออี้ก็ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย แล้วมองไปที่เฉียวเนี่ยนนางยังรู้วิชาแพทย์ด้วยเหรอ?ในตัวนางยังมีความลับซ่อนอยู่อีกมากแค่ไหนกันแ
เมื่อเห็นเงาของฉู่จืออี้เดินจากไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ป้าชุนทำได้เพียงถอนหายใจ แล้วหันกลับมาเอ่ยกับเฉียวเนี่ยนว่า "ข้าไปตุ๋นไก่ป่าก่อนแล้วค่อยมาใหม่"เอ่ยจบก็เดินจากไปเองเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ในเรือน มองตามป้าชุนไป แต่ก็เห็นชัดเจนว่าฝูวั่งไม่ได้จากไปเขายืนอยู่ที่เดิม มองเฉียวเนี่ยนผ่านหน้าต่างเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนมองมาทางเขา ฝูวั่งก็หลบสายตาแล้วตะโกนว่า "ท่านแม่รอข้าด้วย!"จากนั้นก็หันหลังเดินจากไปแต่เฉียวเนี่ยนไม่ได้พลาดสายตาของฝูวั่งเมื่อครู่นี้ขณะที่เขามองนาง แววตาซ่อนความเกลียดชังที่นางคุ้นเคยไว้เมื่อก่อน ยามที่หลินยวนแอบมองนาง ก็เป็นแบบนี้เช่นกันหนึ่งชั่วยามต่อมาในที่สุดฉู่จืออี้ก็มาถึงในเมือง เขาหาร้านอาหารที่คุ้นเคยขายของป่าที่ล่ามาได้ทั้งหมด จากนั้นได้เดินวนไปมา เลี้ยวเข้าไปในตรอกซอยเล็กๆ แล้วผลักประตูไม้เข้าไปและหายตัวไป"พี่ใหญ่""พี่ใหญ่"เสียงหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกันฉู่จืออี้พยักหน้านิดๆ ถึงพาพวกเขาเข้าไปในห้องเพิ่งนั่งลงได้ไม่นาน หนึ่งในนั้นก็ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากอก “พี่ใหญ่ นี่เป็นของที่คนแจกจ่ายตามถนนเมื่อเช้านี้ ข้าดูคุ้นๆ เลยนัดพี่น้องมาดู”ขณะเอ่
วันรุ่งขึ้นขณะที่เฉียวเนี่ยนตื่น ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฉู่จืออี้แล้วป้าชุนกำลังวุ่นอยู่ในครัวเฉียวเนี่ยนเดินกะเผลกไปที่ประตู มองป้าชุนด้วยความสงสัย “ป้าชุน วันนี้ทำไมตื่นเช้าขนาดนี้?”ฟ้ายังไม่สว่างเต็มที่เลย!ป้าชุนตักน้ำให้เฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตา ก่อนเอ่ยว่า “พอฟ้าสางไป๋อวี่ก็พาฝูวั่งเข้าป่าไปแล้ว วันนี้ข้าไม่มีอะไรทำที่ไร่ เลยมาช่วยงานที่นี่สักหน่อย”ขณะเอ่ย มุมปากก็แอบมีรอยยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน เฉียวเนี่ยนก็อดขอโทษป้าชุนไม่ได้ “ขอโทษป้าชุนด้วย เมื่อวานข้าพูดจาเรื่อยเปื่อยเพื่อข่มขู่ฝูวั่งเท่านั้น”ป้าชุนรีบพยักหน้า "ข้ารู้ ไอ้เด็กแสบนั่นต้องต้องขู่ให้หลาบจำง! เมื่อวานพอกลับไปก็ร้องไห้กับข้า รับปากว่าจะไม่เล่นพนันอีกแล้ว วันนี้ตื่นเช้าก็ขยันขันแข็ง หากเลิกนิสัยเสียๆ เหล่านั้นได้ ต่อไปก็ไปล่าสัตว์กับไป๋อวี่ ก็ถือว่ามีวิชาชีพเลี้ยงตัวเองได้แล้ว!”สำหรับฝูวั่ง ป้าชุนไม่ได้หวังอะไรมาก แค่มีกินมีใช้ก็พอ!ทันทีที่ได้ยินคำพูดของป้าชุน เฉียวเนี่ยนก็อดยกยิ้มจางๆ ไม่ได้ แต่คิดถึงเรื่องที่กลุ่มคนเหล่านั้นแกล้งเมาเมื่อคืนขึ้นมา ในที่สุดก็อดสงสัยไม่ไหว จึง ถามขึ้นว่า “ป้าช
เซียวเหิงเคยลักพาตัวคุณหนูของนางไป สุดท้ายก็เป็นเหตุให้คุณหนูของนางตกแม่น้ำฉางหยาง นางยังคงจำความแค้นนี้ขึ้นใจ!แม้นางจะมีฐานะต่ำต้อย ไม่สามารถทำอะไรเซียวเหิงได้แต่จากนี้ไปจะให้นางติดตามเซียวเหิงอย่างนั้นหรือ?"ฝันไปเถอะ!นางเอ่ยจบ ก็หันหลังเดินไปหาเซียวเหอเซียวเหอยังคงไม่พูดอะไร แต่หลังจากได้ยินคำพูดของหนิงซวง มุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวรอยยิ้มจางๆ นั้น ทิ่มแทงดวงตาของเซียวเหิงนักเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวเนี่ยนถึงไม่เต็มใจที่จะติดตามเขา แม้แต่สาวใช้ของนางก็ไม่เต็มใจ?ยามนั้น เขากำลังจะก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อจับตัวหนิงซวงทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเซียวเหอเอ่ยขึ้นมาเสียงเบาว่า "เหิงเอ๋อร์"เสียงเรียกอันแผ่วเบานั้น มิได้มีคำพูดใดตามมา แต่ความหมายของการข่มขู่ก็ชัดเจนอย่างยิ่งหากเซียวเหิงขวางทางหนิงซวงในยามนี้ เซียวเหอจะต้องลงมืออย่างแน่นอนแต่แล้วก็เห็นว่า บรรยากาศรอบตัวเซียวเหิงพลันกดดันลงมากไม่นึกเลยว่าจะเป็นหนิงซวงที่เอ่ยปากก่อน "ท่านแม่ทัพเซียว นิสัยของคุณหนูข้า ท่านย่อมทราบดีที่สุด แล้วเหตุใดถึงวันนี้ ท่านยังมาทำให้บ่าวลำบากใจอีก?"เสียงนั้นปนด้วยความสะอื้น
จี้เยว่หาม้าที่ดีที่สุดสามตัวในจวน ออกเดินทางในคืนนั้น และมุ่งหน้าไปยังที่ที่ห่างออกไปกว่าร้อยลี้ตลอดทางไม่ได้ราบเรียบ ศพหญิงสาวถูกพบในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง กว่าทั้งสามจะเดินทางไปถึงก็เป็นเที่ยงวันของอีกวันแล้วนอกหมู่บ้านมีคนของพวกเขามารอรับเซียวเหอลงจากม้า รีบเร่งเดินเข้าไปในหมู่บ้าน “คนอยู่ที่ใด?”“ยังอยู่ที่ริมน้ำ” ชายผู้นั้นพูดพลางกดเสียงทุ้มต่ำลง “ท่านแม่ทัพเซียวก็อยู่ด้วย”ทันทีที่ได้ยิน เซียวเหอก็ชะงักไปเล็กน้อย มองตามที่ชายผู้นั้นชี้ไป ก็เห็นริมน้ำไม่ไกล เซียวเหิงกำลังเปิดผ้าขาวที่คลุมศพออก จากนั้นได้แสดงสีหน้าขยะแขยงออกมาเห็นเช่นนั้น เซียวเหอก็อดวางใจไม่ได้จากท่าทางของเซียวเหิง ดูเหมือนว่านั่นไม่น่าจะใช่เฉียวเนี่ยนแต่ในเวลาต่อมา ในใจของเขากลับเกิดความโกรธขึ้นมาข่าวสารมาจากคนของเขา ทำไมเซียวเหิงมาถึงก่อนเขาได้?ด้านหลัง หนิงซวงเห็นศพที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาว ก็แทบทนไม่ไหวขาทั้งสองอ่อนแรง หากไม่ได้จี้เยว่ประคองไว้ คงล้มลงไปกองกับพื้นแล้วแต่นางก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หายใจเข้าลึกๆ สองครั้ง พร้อมกับปลอบใจตัวเองไม่หยุด "ไม่ใช่คุณหนู ไม่ใช่คุณหนูของข้า"เอ่ยพลางเดินตรง