Share

ตระกูลมู่ 3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-08 14:39:10

มู่เหรินมองบ้านเกิดเป็นครั้งสุดท้ายเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับมาอีก ท้องฟ้ามืดมิดยามค่ำคืนในเวลานี้บดบังร่างโปร่งบางที่ยืนใต้ร่มไม้ห่างไกลจากจวนพอประมาณ ส่วนผู้ติดตามขึ้นชื่อว่าเงาก็ยังคงเป็นเงาเหมือนที่ผ่านมา เหลือบตามองเงาร่างที่อยู่ไม่ห่างอย่างกังวล การที่ไม่ได้พูดคุยกับใครเลย คอยแต่หลบซ่อนตัวและแสดงฝีมือเท่านั้นจะเบื่อหน่ายกับโลกใบนี้และเหงามากแค่ไหน

          “หลิงหวางข้ามีข้อตกลงกับเจ้า หากเจ้าคิดจะติดตามข้าจงแสดงตนออกมาในฐานะสหายข้า หากทำไม่ได้แล้วจงเป็นเงาอย่าให้ข้ารับรู้ตัวตนของเจ้า”

          มู่เหรินเอ่ยบอกเสียงเรียบ เงาร่างนั้นนิ่งเงียบเพียงครู่ก่อนจะเลือนหายไปกับความมืด เขาถอนหายใจอย่างอ่อนใจ ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็ยังเลือกที่จะเป็นเงา

          “แต่เจ้ารู้ไหม ข้าอยากเป็นสหายเจ้ามากกว่าสิ่งที่เจ้าเป็น”

          มู่เหรินเอ่ยเสียงแผ่วไปตามสายลม ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อย ๆ กว่าหลิงหวางจะยอมออกจากเงาคงต้องใช้เวลาหรือไม่ก็ตัวเขาเกิดภัย คนเช่นนี้บิดาไปหามาจากที่ใดกัน เก่งกาจเรื่องวรยุทธ์และยังเก่งเรื่องปลอมตัวอีก

          ทว่าแม้โฉมหน้าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแต่กลิ่นอายเดิมยังคงอยู่ และนี่เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องที่เขาสามารถรับรู้และแยกแยะคนได้จากกลิ่นอายที่แผ่ออกจากร่าง ถึงเจ้าตัวจะหลบซ่อนที่ไหนแต่กลิ่นอายกลับไม่ได้หลบหลีกหนีตามไปได้

          มู่เหรินหมุนกายหันหลังออกเดินจากจวนมู่เมื่อถึงเวลาอันสมควร เพราะมองนานไปกว่านี้ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นและยังจะทำให้ตนเองยึดติดกับบ้านมากเกินไป ร่างโปร่งบางในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มกับห่อผ้าสีเดียวกันสะพายไหล่เดินจากไป ด้านหลังเป็นกระบี่เฉิงหยิ่งซึ่งแปลว่าเงา ความจริงกระบี่เล่มนี้เขาออกแบบให้เหมือนในหนังสือเลี่ยจื่อซึ่งเป็นหนังสือสมัยจั้นกั๋ว เห็นว่ามันงดงามและเหมาะกับมือเขาพอดี

          มู่เหรินใช้เวลาครึ่งคืนก็มานั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมนอกเมืองหลวงแคว้นฉี ผู้คนครึกครื้นเพราะเป็นทางผ่านของพ่อค้าและชาวยุทธ์ที่ต้องการมาท่องเที่ยว ทว่ายามนี้กลับทำให้เขาหน้าแดงก่ำกับข่าวลือที่ดังกระฉ่อนในตอนนี้

         “จริง ๆ ข่าวนี้ข้าได้ยินมาจากสำนักพิราบขาวรับรองไม่มีพลาด”

          “จะเป็นจริงได้เช่นไร คุณชายสี่ของแม่ทัพมู่ซู่เหลียนนั้นฉลาดหลักแหลมไม่ทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้หรอก”

          มู่เหรินกลืนน้ำชาลงคออย่างยากลำบาก ข่าวลือที่กำลังพูดคุยกันอยู่นี้ล้วนเกี่ยวกับเขา แม้จะไม่ค่อยมีคนรู้จักคุณชายสี่แห่งตระกูลมู่แต่เรื่องแบบนี้ท่านพ่อไยถึงกล้าเอามาเป็นโทษทัณฑ์ขับไล่เขาได้ แค่คิดก็อยากเอาหน้ามุดลงใต้โต๊ะแล้ว

          “ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายสี่จะเป็นบุรุษที่ชมชอบตัดแขนเสื้อมิหนำซ้ำยังหนีตามกันไปจนทำให้แม่ทัพเดือดดาลขับไล่ออกจากตระกูลมู่ หมดกันความรู้สึกเลื่อมใสของข้า คิดว่าจะฉลาดหลักแหลมแต่กลับทำเรื่องน่าอายเช่นนี้”

          ชายร่างผอมนั่งฝั่งตรงข้ามกับมู่เหรินกล่าวอย่างเดียดฉันท์และเสียความรู้สึก

          มู่เหรินรีบวางเบี้ยค่าอาหารมื้อเช้าก่อนจะหลบตาผู้คนออกจากโรงเตี๊ยม กลัวว่าจะมีผู้คนจำตนได้

          “ท่านพ่อทำข้าได้เจ็บแสบนัก”

          มู่เหรินสบถออกมาอย่างหงุดหงิดหัวเสียขณะเดินผ่านตลาดก่อนจะตัดสินใจซื้อหมวกปีกสานใบใหญ่ที่ปกปิดใบหน้ามาสวมโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่งกลับขมวดมุ่นอย่างครุ่นคิด จากเรื่องคุณชายสี่ตระกูลมู่ผู้ฉลาดล้ำดั่งสายธารแห่งปัญญากลับถูกกลบข่าวลือหนีตามบุรุษได้เพียงชั่วข้ามคืน น่านับถือคนออกข่าวลือจริง ๆ!

          “หลิงหวางออกมา”

          เมื่อออกมาพ้นเมืองจึงร้องเรียกเงาที่ตามเงียบ ๆ เสียงนิ่งเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ เงาร่างนั้นลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมออกมาก้มหน้าคุกเข่าเบื้องหน้า

          “เจ้ารู้ว่าท่านพ่อจะทำเช่นนี้หรือไม่”

          “ไม่ขอรับ”

          น้ำเสียงนุ่มทุ้มตอบกลับมา มู่เหรินเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ อาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เงาร่างนี้ยอมคุยกับเขา จำได้ว่าหลิงหวางมาติดตามเขาเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเขาอายุได้สิบเอ็ดปี คำตอบที่ได้รับไม่เกินจากที่คิดไว้ก่อนจะยื่นหมั่นโถวห้าลูกให้

          “กินก่อน ต่อไปนี้ไม่ต้องแอบตามแล้วเพราะยังไงข้าก็รู้อยู่ดีว่าเจ้าอยู่ตรงไหน”

          “ขออภัยขอรับ ข้ามิอาจทำได้” มู่เหรินมองคนปฏิเสธแล้วส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ขึ้นชื่อว่าเงาหากออกมาแล้วไซร้จะกลายเป็นเงาได้อย่างไร

          “ไม่เหงาหรือ ไม่ได้คุยกับใครและต่อไปนี้เจ้าจะไม่มีพี่น้องเหมือนในจวนมู่อีกแล้วนะ”

          “ไม่ขอรับ” น้ำเสียงหนักแน่นตอบกลับมาไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ

          “ไหน ๆ ท่านพ่อก็ออกข่าวลือว่าข้าหนีตามบุรุษมาแล้ว เจ้าก็มาเป็นบุรุษผู้นั้นแล้วกัน”

          มู่เหรินกล่าวเสียงเรียบแต่คนรับคำสั่งมีสีหน้าอึกอักเล็กน้อยใบหน้าแดงซ่านอย่างอับอาย เขายกยิ้มบางอย่างพึงใจ เรื่องอะไรเขาจะอับอายขายหน้าเพียงคนเดียว อย่างน้อยก็หาแพะ? มารับกรรมเป็นเพื่อน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ    วิชากระบี่หิมะ 1

    มู่เหรินมองคนตรงหน้าที่มีสีหน้าห่วงใยและยื่นจอกน้ำชามาให้ เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมดื่มน้ำชาที่อีกฝ่ายป้อนให้จนหมด หมิงตงฟางยกยิ้มพอใจก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่ช้าไม่เร็วนัก “ตงฟางเจ้าต้องเข้าณาฌเก็บตัวหนึ่งเดือนนับแต่นี้ไป” น้ำเสียงอ่อนโยนเมตตาดังมาจากในบ้าน แต่ก็ทำให้ร่างสูงที่เดินกลับไปหยุดเท้าลง หมิงตงฟางนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะมองที่มาของเสียงแล้วทอดถอนใจยาว เขาหันกลับไปมองศิษย์น้องและส่งยิ้มให้อ่อนโยนก่อนจะเอ่ยบอกสองประโยคและจากไปอย่างเงียบๆ “เห็นทีข้าคงไม่ได้พบศิษย์น้องมู่อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้แล้ว หมั่นฝึกฝนให้ดี” มู่เหรินมองตามร่างสูงที่จากไปอย่างเงียบๆ ทว่าในใจกลับครุ่นคิดว่า ศิษย์พี่หมิงตงฟางต้องแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดถึงจะสามารถสืบทอดเทพแห

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ   การเคลื่อนไหวของแต่ละแคว้น 3

    แค้วนฉี “รุกฆาต เจ้าแพ้แล้ว คราวนี้บอกข้าได้หรือยังว่าน้องสี่ของเจ้าไปอยู่ที่ใด” น้ำเสียงรื่นเริงและความยินดีกับชัยชนะของจื่อหวังองค์รัชทายาทของแคว้นฉีดังขึ้น ทว่าผู้ที่เล่นหมากรุกด้วยได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา “ฝ่าบาทคำตอบข้าก็ยังเป็นเช่นเดิม” มู่ฉุนเหยียนตอบกลับอย่างระอา ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนเมื่ออยู่ต่อหน้าจื่อหวังเวลานี้ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้อีกต่อไป เพราะตลอดหนึ่งเดือนมานี้เขาถูกลากมาเล่นหมากรุกกับองค์รัชทายาทตั้งแต่เช้ามืดจรดเย็น หากจื่อหวังมิใช่ว่าที่ฮ่องเต้คนต่อไปและเป็นสหายเขาคงได้ฝังกลบดินอีกฝ่ายไปแล้วแน่ๆ “ไม่รู้หรือว่าไม่อยากบอกกันแน่ ให้ตายสิ เจ้าจะปากแข็งไปอีกนา

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ   การเคลื่อนไหวของแต่ละแคว้น 2

    ทว่าแววตากลับเปี่ยมไว้ด้วยสติปัญญา มันดูล้ำลึกและน่าค้นหา คนที่วาดภาพนี้ขึ้นมาได้นั้นต้องมีระดับฝีมือขั้นปรมาจารย์อย่างแน่นอน คนที่งดงามและดูล้ำค่าเช่นนี้เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกแคว้นถึงได้มีการเคลื่อนไหวและอยากแย่งชิง ยิ่งข่าวลือที่อีกฝ่ายเป็นบุรุษที่ชื่นชอบตัดแขนเสื้อยิ่งทำให้ผู้คนอยากได้มาครอบครอง งดงามทั้งหน้าตา สติปัญญาและวรยุทธล้ำเลิศจะมีผู้ใดบ้างที่ขวานไขว่ในอำนาจไม่อยากครอบครอง! แต่ว่า... เหมือนเขาจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน “องค์ชายมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เหว่ยหยางละสายตาจากรูปภาพเสมือนจริงหันกลับไปมององครักษ์คู่พระทัย แม้ท่าทางดูเกียจคร้านทว่าดวงตาคู่คมกลับฉายแววล้ำลึกก่อนจะเอ่ยตอบ “ตา

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ    การเคลื่อนไหวของแต่ละแคว้น 1

    “หลิงหวางเจ้าต้องดื่มให้มากหน่อย ชาของศิษย์พี่หมิงนั้นช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยได้ เพราะฉะนั้นเราทั้งสองต้องรู้จักเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นี้” มู่เหรินบอกหลิงหวางด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งหลิงหวางก็รับมาดื่มอย่างไม่มีอิดออด เขายกยิ้มอย่างพอใจ การที่หลิงหวางไม่พูดไม่แสดงสีหน้าใช่ว่าจะไม่เหนื่อยล้าจากการฝึกฝนเพื่ออนาคตข้างหน้าต้องรักษาสุขภาพที่ดีเอาไว้ “หึ พวกเจ้านี่นะ” หมิงตงฟางรู้สึกไร้คำพูดที่จะกล่าวมองศิษย์น้องทั้งสองที่เข้ากันได้ดีโดยไม่ต้องพูดจาให้มากความ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคันยุบยุบที่หัวใจมันมีทั้งความเอ็นดูและอิจฉาที่ดูสองคนนี่จะรักใคร่กลมเกลียวกันดีจนรู้สึกว่า ตนเองนั้นเป็นคนนอก! เมื่อได้เวลายามเหม่า(05:00น.- 07:00น.)มู่เหรินกระโดดลงมาจา

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ   การฝึกซ้อมที่ไม่ธรรมดา 2

    “แล้วเมื่อไหร่นายน้อยจะเลิกสั่งสักทีละขอรับ ไม่เบื่อหรือขอรับถามทุกวัน” คำตอบและคำถามที่ยาวที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านทำให้มู่เหรินหันไปหรี่ตามอง เดี๋ยวนี้องครักษ์ส่วนตัวเขาพัฒนาแล้ว! น่าภูมิใจดีไหม? “จนกว่าจะเรียกข้าว่ามู่เหรินนั่นแหละ” มู่เหรินกอดอกมองหลิงหวางที่ทำหน้าเฉยเมยจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในมือยังมีเตาไฟที่เริ่มดับแล้ว “นายน้อยก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้” คำตอบเดิมๆ ของหลิงหวางทำให้มู่เหรินส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเอง วันนี้ยังไม่เห็นศิษย์พี่ผู้งดงามเหมือนหลุดพ้นจากทางโลกเลย ส่วนมากจะเห็นแค่เวลาทานข้าวเท่านั้นกลางวันจะหายไปจนน่าแปลกใจ ส่วนอาจารย์ก็เก็บตัวอยู่แ

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ    การฝึกซ้อมที่ไม่ธรรมดา 1

    “ขอบคุณท่านพี่หมิง เรียกข้ามู่เหรินเถอะขอรับ” หมิงตงฟางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเชื้อเชิญเข้าไปด้านใน มู่เหรินจึงได้เดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งมาหยุดที่โต๊ะน้ำชาซึ่งมีชายชรานั่งอยู่ แม้จะมากวัยแต่กลับดูทรงภูมิและน่าหวั่นเกรง คนผู้นี้คงเป็นอาวุโสกุ้ยกู๋แน่ๆ “ผู้เยาว์เรียกว่ามู่เหริน ขอคารวะผู้อาวุโสขอรับ” มู่เหรินยกมือประสานหมัดทำความเคารพชายชราตรงหน้าอย่างนอบน้อม หลิงหวางที่ตามมาเงียบๆ ก็ยกมือประสานหมัดคารวะอาวุโสกุ้ยกู๋ก่อนจะหลบไปอยู่มุมห้องด้านหลังนายน้อยเงียบๆ “ไม่ต้องมากพิธี ยกน้ำชาคารวะอาจารย์เถอะ” มู่เหรินยกยิ้มยินดีก่อนจะคุกเข่ารับน้ำชาจากหมิงตงฟางมาคารวะผู

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status