Share

ตระกูลมู่ 4

last update Last Updated: 2025-08-08 14:40:04

หลังจากบังคับขู่เข็ญหลิงหวางออกจากเงาตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มไม่ต่างจากตน บนหัวมีหมวกปีกสานใบใหญ่ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดทั้ง ๆ ที่หน้าตาออกจะธรรมดา ท่าทางจะไม่ชอบให้ใครมองหน้าจริง ๆ ไม่สิ นี่แค่เป็นหน้าหลอก ๆ ของเจ้าตัวมากกว่า แต่เรื่องนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจเพราะอย่างไรเขาก็จดจำคนผู้นี้จากกลิ่นอายรอบตัว

          มู่เหรินมองแผนที่ในมือเพื่อมุ่งหน้าไปยังหุบเขาปีศาจตามคำแนะนำของบิดา แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะแผนที่มิได้บ่งบอกว่าหุบเขาปีศาจอยู่ที่ใดเพราะในประวัติศาสตร์สมัยจั้นกั๋วก็ไม่ได้เล่าเกี่ยวกับหุบเขาปีศาจอีกด้วย เมื่อเงยหน้ามองเพื่อนร่วมเดินทางก็ต้องเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ การที่ให้ออกมาจากเงาทำให้ชีวิตมืดมนขนาดนั้นเชียวหรือ

          “อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินเอง”

          เอ่ยบอกเสียงเรียบก่อนจะก้มมองหาจุดสำคัญ หากเดาไม่ผิดไม่อยู่แคว้นฉีก็ต้องอยู่แคว้นฉิน แต่ว่ามันอยู่ระหว่างเหนือกับใต้ที่ห่างกันไกลมาก เพราะเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ในจีนแคว้นฉินถึงไม่มาโจมตีแคว้นฉี

          “เจ้ารู้จักหุบเขาปีศาจหรือไม่” ในเมื่อไม่รู้จึงเอ่ยถามคนข้างกายที่ยืนนิ่ง ๆ หลิงหวางเงยหน้ามามองเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ

          “หุบเขาปีศาจอยู่หุบเขาสูงลึก รายล้อมด้วยป่าดงดิบแทบจะหาผู้คนมิได้ขอรับ”

          คำตอบที่ได้รับทำให้มู่เหรินหรี่ตามองหลิงหวาง รู้ว่าเขาฉลาดหลักแหลมแต่ช่วยรู้หน่อยเถอะว่าโจทย์แค่นี้เขาไม่รู้หรอก อีกอย่างนี่เป็นครั้งแรกที่ออกจากบ้านเชียวนะ

          “เจ้าติดตามข้ามาห้าปีไม่รู้หรือว่านี่เป็นการออกจากบ้านครั้งแรกของข้า”

          “ขออภัยขอรับ ข้าเองก็เพิ่งเคยออกมาพร้อมกับท่านขอรับ”

          คำตอบเรียบนิ่งของคนตรงหน้าทำให้มู่เหรินอึ้งไปเล็กน้อย คนอย่างนี้เรียกว่ากวนเบื้องล่างด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเอาจนเขาพูดไม่ออก ได้แต่คิดทบทวนตำราในสมองไปมา

          “หากจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่แคว้นฉิน”

          คำกล่าวของนายน้อยทำให้หลิงหวางมองตามอย่างไม่เข้าใจเพราะนายน้อยไม่ได้ออกจากเมืองหลวงแคว้นฉีเลย แต่ก็ยอมเดินตามไปแม้จะไม่รู้เส้นทางแต่ความฉลาดล้ำของคุณชายมู่เหรินไม่มีทางผิดพลาด แต่ว่าแคว้นฉินอยู่คนละทิศกับแคว้นฉี แล้วอีกกี่เดือนเล่าจะไปถึงหากเดินด้วยสองเท้าเช่นนี้

          “ข้าไม่ได้รีบร้อน เดินทางไปเรื่อย ๆ ถึงเมื่อไรก็เมื่อนั้น”

          คำกล่าวเหมือนมานั่งอยู่กลางใจทำให้หลิงหวางสะท้านในอกอย่างหวาดหวั่น หรือว่านายน้อยจะมีวิชาอ่านใจ?

          มู่เหรินมองแผนที่ พอจะเข้าใจแล้วจึงเก็บไว้ในอกเสื้อเช่นเดิม หันไปมองผู้ติดตามเพียงคนเดียวที่ไม่พูดไม่จาแล้วส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ สงสัยเขาจะมากับคนใบ้ ดีที่เขาพออ่านสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายออกแม้จะไม่เห็นแววตาที่ปกปิดด้วยหมวกสานก็ตาม

         มู่เหรินมองดูรอบกายด้วยแววตานิ่งเฉย แม้จะไม่ได้ออกมานอกเมืองบ่อยนักแต่ทุกอย่างเบื้องหน้าล้วนเหมือนกันไปหมด มีแต่ป่า ป่า...และริมธาร ในช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิทำให้สีสันดอกไม้งดงามตา ธรรมชาติที่งดงามเช่นนี้หาได้ยากในโลกปัจจุบัน ถือว่าเขาโชคดีที่เกิดมาใหม่ในที่แบบนี้

          เขาไม่รู้ว่าที่นี่คือยุคไหนกันแน่แต่มีด้วยกันเจ็ดแคว้นใหญ่ที่มีอำนาจแข็งแกร่งได้แก่ ฉี ฉู่ เยียน หาน จ้าว เว่ย ฉิน หากคาดเดาเขาคงเกิดในช่วงยุคจั้นกั๋วเพราะมีหลายอย่างที่สอดคล้อง ถามว่าเขากลัวที่จะทำประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไหม บอกเลยว่าไม่ เพราะเรื่องของอนาคตเขาไม่รับรู้แล้ว หากตายจากที่นี่แล้วไปเกิดใหม่อีกครั้งก็ไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหนอีก สู้ทำตามใจตัวเองเสียดีกว่า หรือไม่ที่นี่อาจเป็นมิติคู่ขนานก็เป็นได้

          “หลิงหวางเจ้ามีพี่น้องหรือไม่”

          มู่เหรินเอ่ยถามคนข้างหลังที่ตามมาเงียบ ๆ เสียงใบไม้เสียดสีและลมพัดทำให้รู้สึกสบายใจ

          “ไม่มีขอรับ เงาทุกคนที่อยู่กับแม่ทัพล้วนเป็นเด็กกำพร้าขอรับ”

          คำตอบของหลิงหวางทำให้มู่เหรินนิ่งเงียบเดินตามเส้นทางรถม้าไปเรื่อย ๆ ที่ยุคนี้เขาไม่ได้แปลกใจเพราะในซีรีส์จีนที่เคยดูมาส่วนมากนักฆ่าหรือผู้ติดตามจะเป็นเด็กกำพร้าซะส่วนมากและใช่ว่าทุกคนจะโชคดีเหมือนเขาที่เกิดในตระกูลร่ำรวย

          “งั้นต่อไปนี้เจ้าก็มาเป็นพี่น้องข้าแล้วกัน”

          “ข้าน้อยมิกล้า ขอเพียงได้ติดตามรับใช้นายน้อยก็พอแล้วขอรับ” คำยืนยันหนักแน่นของหลิงหวางไม่ได้เกินจากที่คาดไว้และเขาเองก็ไม่อยากบีบบังคับ

          ทั้งคู่เดินออกมาไกลมากมู่เหรินจึงหยุดพักและดูแผนที่อีกครั้ง แม้จะบอกว่าไม่รีบแต่เขาเองก็ไม่อยากเสียเวลาในการฝึกวิชาเพิ่มอีกเพราะไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีอันตรายอันใดอีก

          “อีกสิบลี้ก็จะถึงเมืองหลินจือ เราจะหาซื้อม้าที่นั่น”

          มู่เหรินเงยหน้าจากแผนที่บอกผู้ติดตามเพียงคนเดียวที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ จากนั้นจึงเก็บแผนที่หยิบซาลาเปาไส้เห็ดหอมยื่นให้หลิงหวางทานเป็นอาหารกลางวัน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่สามารถปฏิเสธเขาได้

         

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ    วิชากระบี่หิมะ 1

    มู่เหรินมองคนตรงหน้าที่มีสีหน้าห่วงใยและยื่นจอกน้ำชามาให้ เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมดื่มน้ำชาที่อีกฝ่ายป้อนให้จนหมด หมิงตงฟางยกยิ้มพอใจก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่ช้าไม่เร็วนัก “ตงฟางเจ้าต้องเข้าณาฌเก็บตัวหนึ่งเดือนนับแต่นี้ไป” น้ำเสียงอ่อนโยนเมตตาดังมาจากในบ้าน แต่ก็ทำให้ร่างสูงที่เดินกลับไปหยุดเท้าลง หมิงตงฟางนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะมองที่มาของเสียงแล้วทอดถอนใจยาว เขาหันกลับไปมองศิษย์น้องและส่งยิ้มให้อ่อนโยนก่อนจะเอ่ยบอกสองประโยคและจากไปอย่างเงียบๆ “เห็นทีข้าคงไม่ได้พบศิษย์น้องมู่อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้แล้ว หมั่นฝึกฝนให้ดี” มู่เหรินมองตามร่างสูงที่จากไปอย่างเงียบๆ ทว่าในใจกลับครุ่นคิดว่า ศิษย์พี่หมิงตงฟางต้องแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดถึงจะสามารถสืบทอดเทพแห

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ   การเคลื่อนไหวของแต่ละแคว้น 3

    แค้วนฉี “รุกฆาต เจ้าแพ้แล้ว คราวนี้บอกข้าได้หรือยังว่าน้องสี่ของเจ้าไปอยู่ที่ใด” น้ำเสียงรื่นเริงและความยินดีกับชัยชนะของจื่อหวังองค์รัชทายาทของแคว้นฉีดังขึ้น ทว่าผู้ที่เล่นหมากรุกด้วยได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา “ฝ่าบาทคำตอบข้าก็ยังเป็นเช่นเดิม” มู่ฉุนเหยียนตอบกลับอย่างระอา ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนเมื่ออยู่ต่อหน้าจื่อหวังเวลานี้ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้อีกต่อไป เพราะตลอดหนึ่งเดือนมานี้เขาถูกลากมาเล่นหมากรุกกับองค์รัชทายาทตั้งแต่เช้ามืดจรดเย็น หากจื่อหวังมิใช่ว่าที่ฮ่องเต้คนต่อไปและเป็นสหายเขาคงได้ฝังกลบดินอีกฝ่ายไปแล้วแน่ๆ “ไม่รู้หรือว่าไม่อยากบอกกันแน่ ให้ตายสิ เจ้าจะปากแข็งไปอีกนา

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ   การเคลื่อนไหวของแต่ละแคว้น 2

    ทว่าแววตากลับเปี่ยมไว้ด้วยสติปัญญา มันดูล้ำลึกและน่าค้นหา คนที่วาดภาพนี้ขึ้นมาได้นั้นต้องมีระดับฝีมือขั้นปรมาจารย์อย่างแน่นอน คนที่งดงามและดูล้ำค่าเช่นนี้เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกแคว้นถึงได้มีการเคลื่อนไหวและอยากแย่งชิง ยิ่งข่าวลือที่อีกฝ่ายเป็นบุรุษที่ชื่นชอบตัดแขนเสื้อยิ่งทำให้ผู้คนอยากได้มาครอบครอง งดงามทั้งหน้าตา สติปัญญาและวรยุทธล้ำเลิศจะมีผู้ใดบ้างที่ขวานไขว่ในอำนาจไม่อยากครอบครอง! แต่ว่า... เหมือนเขาจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน “องค์ชายมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เหว่ยหยางละสายตาจากรูปภาพเสมือนจริงหันกลับไปมององครักษ์คู่พระทัย แม้ท่าทางดูเกียจคร้านทว่าดวงตาคู่คมกลับฉายแววล้ำลึกก่อนจะเอ่ยตอบ “ตา

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ    การเคลื่อนไหวของแต่ละแคว้น 1

    “หลิงหวางเจ้าต้องดื่มให้มากหน่อย ชาของศิษย์พี่หมิงนั้นช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยได้ เพราะฉะนั้นเราทั้งสองต้องรู้จักเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นี้” มู่เหรินบอกหลิงหวางด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งหลิงหวางก็รับมาดื่มอย่างไม่มีอิดออด เขายกยิ้มอย่างพอใจ การที่หลิงหวางไม่พูดไม่แสดงสีหน้าใช่ว่าจะไม่เหนื่อยล้าจากการฝึกฝนเพื่ออนาคตข้างหน้าต้องรักษาสุขภาพที่ดีเอาไว้ “หึ พวกเจ้านี่นะ” หมิงตงฟางรู้สึกไร้คำพูดที่จะกล่าวมองศิษย์น้องทั้งสองที่เข้ากันได้ดีโดยไม่ต้องพูดจาให้มากความ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคันยุบยุบที่หัวใจมันมีทั้งความเอ็นดูและอิจฉาที่ดูสองคนนี่จะรักใคร่กลมเกลียวกันดีจนรู้สึกว่า ตนเองนั้นเป็นคนนอก! เมื่อได้เวลายามเหม่า(05:00น.- 07:00น.)มู่เหรินกระโดดลงมาจา

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ   การฝึกซ้อมที่ไม่ธรรมดา 2

    “แล้วเมื่อไหร่นายน้อยจะเลิกสั่งสักทีละขอรับ ไม่เบื่อหรือขอรับถามทุกวัน” คำตอบและคำถามที่ยาวที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านทำให้มู่เหรินหันไปหรี่ตามอง เดี๋ยวนี้องครักษ์ส่วนตัวเขาพัฒนาแล้ว! น่าภูมิใจดีไหม? “จนกว่าจะเรียกข้าว่ามู่เหรินนั่นแหละ” มู่เหรินกอดอกมองหลิงหวางที่ทำหน้าเฉยเมยจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในมือยังมีเตาไฟที่เริ่มดับแล้ว “นายน้อยก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้” คำตอบเดิมๆ ของหลิงหวางทำให้มู่เหรินส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเอง วันนี้ยังไม่เห็นศิษย์พี่ผู้งดงามเหมือนหลุดพ้นจากทางโลกเลย ส่วนมากจะเห็นแค่เวลาทานข้าวเท่านั้นกลางวันจะหายไปจนน่าแปลกใจ ส่วนอาจารย์ก็เก็บตัวอยู่แ

  • มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ    การฝึกซ้อมที่ไม่ธรรมดา 1

    “ขอบคุณท่านพี่หมิง เรียกข้ามู่เหรินเถอะขอรับ” หมิงตงฟางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเชื้อเชิญเข้าไปด้านใน มู่เหรินจึงได้เดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งมาหยุดที่โต๊ะน้ำชาซึ่งมีชายชรานั่งอยู่ แม้จะมากวัยแต่กลับดูทรงภูมิและน่าหวั่นเกรง คนผู้นี้คงเป็นอาวุโสกุ้ยกู๋แน่ๆ “ผู้เยาว์เรียกว่ามู่เหริน ขอคารวะผู้อาวุโสขอรับ” มู่เหรินยกมือประสานหมัดทำความเคารพชายชราตรงหน้าอย่างนอบน้อม หลิงหวางที่ตามมาเงียบๆ ก็ยกมือประสานหมัดคารวะอาวุโสกุ้ยกู๋ก่อนจะหลบไปอยู่มุมห้องด้านหลังนายน้อยเงียบๆ “ไม่ต้องมากพิธี ยกน้ำชาคารวะอาจารย์เถอะ” มู่เหรินยกยิ้มยินดีก่อนจะคุกเข่ารับน้ำชาจากหมิงตงฟางมาคารวะผู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status