Share

ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
Author: กานเฟย

บทที่ 1

Author: กานเฟย
“หลิงอวี๋!”

“ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...”

“มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!”

“หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!”

ใคร?

ใครกำลังพูดอยู่กัน

ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น

ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที...

จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว

“โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!”

“โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!”

เพียะ!

เพียะ!

เพียะ!

เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋

หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป...

หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร?

เมื่อครู่นี้เธอยังปีนภูเขาหิมะเหมยหลี่อยู่กับเพื่อน ๆ อยู่เลย!

ใช่แล้ว ในตอนนั้นจู่ ๆ ก็เกิดลมพายุแรงขึ้น...

หิมะบนภูเขาถล่มลงมา เธอตกลงมาจากยอดเขาสูง ทั้งร่างกายของเธอตกลงไปพร้อมกับหินที่ถล่มลงมาเข้าไปในหุบเขา...

เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบกับฉากนี้เข้า

หรือว่าเธอจะตกลงไปในรอยแยกของห้วงเวลา และเดินทางข้ามผ่านเวลามา?

แส้โบยลงมาบนศีรษะและใบหน้าของเธอ เด็กชายอายุสามขวบเป็นเหมือนกับแมวตัวใหญ่ที่คอยอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าวิ่งมาจากที่ใดกัน กอดหลิงอวี๋เอาไว้แน่น ส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

“อย่าตีท่านแม่ของข้า… ข้าไม่อนุญาตให้พวกเจ้าตีท่านแม่ข้า...”

ผู้ที่ทุบตีอยู่นั้นไม่คิดเลยว่า จู่ ๆ เขาจะพุ่งเข้ามา แส้ที่เหวี่ยงออกไปไม่ทันได้เก็บกลับคืน พลันฟาดลงบนกายของเด็กน้อย...

ตีจนเขาส่งเสียงร้องอย่างน่าสังเวชออกมา กระเด็นลอยออกไปจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง

หลิงอวี๋มองเด็กน้อยด้วยความตื่นตกใจ เมื่อมองเห็นร่างกายผอมบางของเขาล้มลงบนพื้นไร้ชีวิตราวกับตุ๊กตาผุพัง ในใจก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้...

ทันใดนั้น ในหัวก็ปั่นป่วนขึ้นมา ความทรงจำมากมายนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่ในจิตใจ...

“ต่อให้เจ้าวางแผนให้ข้าทำลายความบริสุทธิ์ของเจ้าไป ตัวข้าผู้เป็นอ๋องก็ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับเจ้า ข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว แม้แต่นิ้วมือของนาง เจ้าก็มิอาจจะเทียบได้!”

“หลิงอวี๋ เจ้าอาศัยบุญคุณที่ต้องทดแทนจากการรับดาบแทนข้า หยิบเอาป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้กับเจ้า เพื่อร้องขอให้องค์จักรพรรดิพระราชทานงานอภิเษกให้! ได้ ข้าจะแต่งงานกับเจ้า แต่ข้าจะไม่มีทางที่จะรักเจ้าไปตลอดชีวิตนี้!”

หลิงอวี๋เป็นหลานสาวของเสนาบดีเจิ้นหย่วน ตั้งแต่เล็กได้รับความรักมาโดยตลอด มีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม แต่กลับโง่เขลาเบาปัญญา

ในปีนั้น หลิงอวี๋เพิ่งจะมีอายุครบสิบห้าปี ครั้งแรกที่พบกับอ๋องอี้เซียวหลินเทียน ที่เอาชนะสงครามกลับเมืองหลวงมานั้น ก็รู้สึกหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหล่อเหลาของเขา

หลิงอวี๋พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมที่มีทั้งหมดของนาง เพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา...

เซียวหลินเทียนเกลียดนาง แต่งงานในวันที่สองก็ร้องขอที่จะไปยังสนามรบ ไปครั้งหนึ่งก็ถึงสี่ปี…

และหลังจากที่เซียวหลินเทียนจากไปแล้ว แปดเดือนหลังจากนั้นหลิงอวี๋ก็คลอดก่อนกำหนด ให้กำเนิดเด็กชายออกมา

คนภายนอกต่างก็คิดว่านางสวมเขาให้กับเซียวหลินเทียน...

เซียวหลินเทียนเองก็ถือว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกนอกสมรส แม้แต่ชื่อก็มิได้ตั้งให้!

เสี่ยวเมาเป็นชื่อที่คนรับใช้ในตำหนักตั้งให้กับเขา เพราะเห็นว่าเด็กน้อยผู้นี้ดูอ่อนแอนัก!

ครึ่งปีก่อนหน้านั้น

เซียวหลินเทียนกลับมาจากสนามรบ แต่สองขากลับพิการไป จำต้องนั่งอยู่บนรถเข็น

หลิงอวี๋เพื่อเอาอกเอาใจเซียวหลินเทียนแล้ว แต่งหน้าแต่งตัวทุกวัน เห็นเครื่องประดับ และอาภรณ์งดงาม ก็มักจะนำกลับมา และยังซื้อของจำพวกดาบ พู่กัน หมึก ให้กับเซียวหลินเทียนอีกด้วย

หลิงอวี๋ใช้เงินไปราวกับสายน้ำเพื่อเอาอกเอาใจ แต่มิทำให้เซียวหลินเทียนสั่นไหว กลับทำให้เซียวหลินเทียนขยะแขยงมากยิ่งขึ้น

คนที่มีเจตนาร้าย ที่มองว่านางโง่เขลา ก็วางอุบายให้นางต้องควักกระเป๋าออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

หลิงอวี๋ที่สุรุ่ยสุร่ายใช้สินเดิมของตนจนหมด และยังถูกสาวใช้หลิงผิงยุยง ใช้ชื่อของอ๋องอี้ไปยืมเงินดอกเบี้ยสูงเข้า...

สุดท้ายแล้วเมื่อไม่อาจคืนเงินได้ และก็ถูกหลิงผิงยุยงเข้าอีกเข้าอีกครั้ง จึงลอบขโมยมรดกตกทอดของพระชายาองค์ก่อนมารดาของท่านอ๋องออกไปขายเพื่อใช้หนี้...

สุดท้ายแล้ว ถูกเฮยจื่อบุตรบุญธรรมของอ๋องอวี๋พบเข้า หลิงอวี๋ก็ยังคงโง่เขลาฟังคำยุยงของหลิงผิงอีกครั้ง หลอกเฮยจื่อไปขายเพื่อใช้หนี้อีก......

ในตอนที่ตามหาเฮยจื่อกลับมาได้นั้นก็ถูกทุบตีจนร่างกายบอบช้ำ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย นี่ถึงได้เป็นการยั่วยุให้อ๋องอี้โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก จนหวดแส้โบยนางจนตายไป...

หลิงอวี๋เรียงลำดับความทรงจำในใจจนเสร็จแล้ว ในใจก็เกิดความคิดหนึ่งเข้า!

เธอที่เป็นแพทย์อัจฉริยะมาจากศตวรรษที่ 21

อัจฉริยะทางการแพทย์ที่กลายเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยทางการแพทย์อิสระภายในหน่วยสืบราชการลับเมื่ออายุได้ 16 ปี ยังมิทันได้แสดงพรสวรรค์ความสามารถอย่างเต็มที่ ก็ถูกสวรรค์โยนลงมาในสถานที่แปลกประหลาดนี่เข้าอย่างนั้นหรือ?

แล้วยังมาจบด้วยการอยู่ในร่างผู้โง่เขลาอีกหรือ?

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Saijai Wongsuwan
โง่ขนานแท้
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
จบอยู่ในร่างผู้โง่เขลา ?
goodnovel comment avatar
papaporn sala
ให้อัปเดตตอนที่ซื้อไว้หายเกลี้ยงเลย ทำยังไงอยากได้ I'd เดิม เติมเหรียญไว้ตั้งเยอะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2602

    ขณะที่ฉีเต๋อกำลังยืนเฝ้าอยู่อย่างสง่าผ่าเผย จู่ ๆ เขาก็เหลือบไปเห็นสตรีผู้หนึ่งกำลังจ้องมาที่ตนมิวางตาฉีเต๋อปรายตามองไปแล้วหันไปทางอื่นอย่างมิสนใจ แต่หลังจากนั้น ฉีเต๋อกลับหันกลับมาอีกครั้ง แล้วจ้องมองสตรีผู้งดงามนางนั้นอย่างมิอยากจะเชื่อสายตาใบหน้าของสตรีผู้นั้นแย้มยิ้มละมุน และกำลังมองเขาอย่างอบอุ่นและแฝงไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู“ฮองเฮา… องค์จักรพรรดิ…”เมื่อฉีเต๋อเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋ได้ชัดเจน ต่อจากนั้นก็เห็นเซียวหลินเทียนด้วย เขาจึงมิรีรอรีบพุ่งไปคุกเข่ากลางถนนทันที น้ำเสียงเขาสะอื้นไห้ และน้ำตาไหลรินจนเต็มใบหน้าหนึ่งปีกว่าแล้ว!พวกเขาทั้งหมดต่างก็เงยหน้ารอคอยองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่ในที่สุดก็กลับมาอย่างปลอดภัยอย่างมีความหวัง!“ฮองเฮา… หนึ่งปีกว่าแล้ว บ่าวยังคิดว่าท่าน… ท่าน...”ฉีเต๋อตื้นตันเสียจนพูดมิออกเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงที่อยู่ด้านข้างก็ต่างพากันมองไปทางขันทีเสี่ยวฉีที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์รัชทายาทกำลังคำนับให้บุรุษสตรีคู่หนึ่งรู้สึกตื้นตันจนพูดมิออกเช่นกันกระทั่งองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านั้นพินิจพิจารณาหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนทันทีที่มองไป พวกเขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2601

    ภายใต้การชี้แนะของท่านลุงหลี่ หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนจึงได้เห็นชลประทานขุดใหม่ที่เรียงรายอย่างดีเป็นระเบียบ และเป็นประโยชน์ให้ราษฎรที่ทำการเกษตรได้จริง ๆทั้งสองคนพูดคุยกับครอบครัวของท่านลุงหลี่อยู่อีกสักพักใหญ่ จึงได้รู้ข่าวจากคนในครอบครัวของท่านลุงหลี่ว่าในราชสำนักมิได้เกิดเรื่องใหญ่ใด ๆ ขึ้น ทุกอย่างล้วนดำเนินไปตามแผนพัฒนาที่หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนวางไว้ก่อนหน้านี้อย่างเรียบร้อยทั้งสองคนรู้สึกปลื้มใจยิ่งนัก จากนั้นก็กล่าวลาครอบครัวท่านลุงหลี่ และจ่ายเงินซื้อม้าสองตัวกลับเมืองหลวง“ข้ามิคาดคิดเลยจริง ๆ ว่าในราชสำนักจะสงบสุขเช่นนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกก่อนหน้านี้เพื่อที่จะแย่งชิงบัลลังก์กัน เหล่าองค์ชายต่างก็วางแผนหลอกลวงกัน และต่อสู้กันเองภายในเดิมทีเซียวหลินเทียนคิดว่า เมื่อตนและหลิงอวี๋มิอยู่ในราชสำนัก อาศัยท่านอดีตเสนาบดีและท่านอ๋องเฉิงก็คงมิอาจควบคุมพวกคนชั่วร้ายเหล่านั้นได้ไหนเลยจะคิดว่าแม้ตนจะมิอยู่ ในราชสำนักก็สามารถสงบเรียบร้อยได้เช่นกันหลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกไป “แม้ใจคนจะยากแท้หยั่งถึง แต่พวกเราก็ต้องเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เป็นคนใจดีเพคะ ดังเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2600

    เมื่อได้ยินหลิงอวี๋เอ่ยถามเช่นนั้น ลูกสะใภ้ของท่านลุงหลี่ซึ่งเป็นสตรีซื่อ ๆ คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้พร้อมทั้งเอ่ยถามว่า “น้องหญิง เจ้าเลี้ยงวัวเลี้ยงแกะเป็นหรือไม่?”“เย็บปักถักร้อยเล่า เป็นหรือไม่?”“หมู่บ้านตระกูลหลี่ของพวกเรามีโรงงานอยู่หลายแห่งทีเดียว ทั้งหมดล้วนเหมาะให้สตรีไปทำงานทั้งนั้น!”“ขอเพียงเจ้ามิเกียจคร้านและขยันทำงาน มินานก็จะมีชีวิตอยู่อย่างราบรื่นในหมู่บ้านตระกูลหลี่แน่นอน!”ลูกชายของท่านลุงหลี่ก็เข้ามาเช่นกัน เขาเอ่ยก็กับเซียวหลินเทียนว่า “ดูเจ้าท่าทางมีการศึกษา หากทำไร่นามิไหว ขอเพียงรู้ตำรา ข้าก็สามารถแนะนำเจ้าให้ไปเป็นครูที่หออักษรในหมู่บ้านได้นะ!”เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ตกตะลึง เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนตนเคยมาหมู่บ้านตระกูลหลี่ หมู่บ้านนี้ไม่มีแม้แต่หออักษรเนื่องด้วยความยากจนข้นแค้นนี่เขาเพิ่งจากไปเพียงปีกว่า ไหนจึงจัดตั้งหออักษรได้แล้วเล่า?“ท่านลุง ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยมาที่นี่ หมู่บ้านของพวกท่านแร้นแค้นยิ่ง แค่จะมีกินให้อิ่มท้องก็ยังเป็นปัญหา แล้วไหนมิได้มาสักพักใหญ่ เหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงไปมากถึงเพียงนี้หรือ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามออกไปอย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2599

    สิบสองนักษัตร สิบสองประตู หากด้านในมีความรู้ที่ล้ำสมัยทั้งหมด เช่นนั้นเมื่อเรียนรู้และนำมาใช้อย่างถูกทางก็สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติได้แต่หากพบเจอคนเช่นอูอวี๋หลานหรือหลงหมิง เมื่อคนเช่นนั้นได้เรียนรู้แล้วก็อาจกลายเป็นหายนะต่อผู้คนในใต้หล้าได้!การที่เจ้าของตำหนักใต้ดินตั้งนาฬิกาทรายเอาไว้ บางทีอาจจะเป็นเพราะคิดว่าในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ คนที่มีวาสนาได้เข้ามาในตำหนักใต้ดินสามารถเรียนรู้ได้เท่าใดก็ตามนั้นไปเถิด!หลิงอวี๋คิดถึงขั้นที่ว่า บางทีการจะได้เรียนรู้สิ่งใด ก็อาจขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคนด้วย“พวกเรากลับกันเถิดเพคะ!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิอยากจากตำหนักใต้ดินไปเช่นนี้ แต่นางก็รู้ดีว่าโชคชะตาของตนและเซียวหลินเทียนกับตำหนักใต้ดินได้สิ้นสุดลงแล้วต่อให้พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อและใช้ความพยายามอย่างหนัก ก็มิอาจเปิดประตูบานนี้ได้หากตำหนักใต้ดินแห่งนี้ยังมีโอกาสในการเปิดครั้งสุดท้าย ก็ให้เป็นโอกาสของผู้มีวาสนาคนอื่นเถิด!“ไปกันเถิด!”ภายใต้คำชี้แนะของหลิงอวี๋นั้นทำให้เซียวหลินเทียนคิดได้เช่นกัน เขาจึงจูงมือหลิงอวี๋ แล้วทั้งสองก็เดินลงจากภูเขาไปด้วยกัน“อาอวี๋ เจ้าคิดว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2598

    “เซียวหลินเทียน เมื่อครู่ท่านบอกว่าเห็นว่ามีคนเข้าไป ท่านรู้ได้อย่างไร?”เดิมทีหลิงอวี๋ยังคิดว่าตนกับเซียวหลินเทียนคือคนแรกที่เข้าไปในตำหนักนี้ มิคาดคิดว่าจะมีคนเข้าไปก่อนหน้าแล้วทันใดนั้น นางก็นึกถึงก้อนหินลึกลับก้อนนั้นของอูอวี๋หลาน หรือว่าก่อนหน้านี้อูอวี๋หลานจะเคยเข้ามา?ภายในห้องที่ตนเข้าไปมิพบหินเช่นนั้น บางทีเซียวหลินเทียนอาจจะพบหรือ?“ศพหนึ่งศพ!”“ศพ?”หลิงอวี๋ตกใจจนเอ่ยออกไปโดยมิรู้ตัว “เช่นนั้นก็แสดงว่ามีคนเคยเข้ามาก่อนหน้าเราจริง ๆ หรือ?”“เขาตายอย่างไรเพคะ? หรือว่าเพราะอยู่เกินเวลาจนออกมามิได้ จึงถูกขังอยู่ด้านในจนตาย?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วแล้วตอบออกไป “ข้าตรวจดูแล้ว เป็นศพบุรุษ ใบหน้าดำคล้ำ ดูจากลักษณะแล้วถูกพิษจนตาย!”“แต่ร่างกายของเขาคงสภาพดีมาก น่าจะเป็นดังที่เจ้าว่า เป็นเพราะอากาศที่พิเศษภายในตำหนักจึงเป็นเช่นนั้น!”เซียวหลินเทียนพูดแล้วก็หยิบแหวนพระสุเมรุและหยกที่นำมาจากศพยื่นให้หลิงอวี๋“เมื่อครู่ตอนอยู่ด้านในข้าไม่มีเวลาตรวจดูให้ละเอียด เจ้าลองดูหยกนี้ที บนหยกสลักมังกรไว้ด้วย!”“หรือว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลหลง?”หลิงอวี๋รับหยกมา จี้หยกทำมาจากหยกเนื้อด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2597

    หลิงอวี๋สงบจิตใจแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวทั้งเจ็ดก็เห็นว่าดวงดาวทั้งเจ็ดนั้นประเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเรียงแถวกัน ประเดี๋ยวก็เคลื่อนไหวอีกในตอนนี้หลิงอวี๋ยังมิสามารถเข้าใจความหมายของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังคงพยายามจดจำรูปแบบการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างเต็มที่กระทั่งดวงดาวทั้งเจ็ดมิเปลี่ยนแปลงแล้ว หลิงอวี๋จึงได้พบว่าเวลาผ่านไปมากแล้วนางจึงรีบวิ่งออกมาแล้วเข้าไปในประตูปีกุนภายในห้องนี้มีเมล็ดพันธุ์วางอยู่จำนวนมากและมีหลากหลายชนิด​ ทำให้คนที่มิคุ้นเคยด้านการเกษตรนักเช่นหลิงอวี๋มิสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเมล็ดอะไรบ้างแต่นางก็มิได้สนใจแล้วเช่นกัน นางคว้าเมล็ดเหล่านั้นหลายกำใส่ไปในกระเป๋าเดิมทีนางคิดจะเก็บเข้าไปในมิติ แต่นางพบว่าในตำหนักใต้ดินนี้มิสามารถใช้มิติได้นางรู้สึกกังวลขึ้นมา​ นี่น่าจะเป็นเขตกำบังที่เจ้าของตำหนักติดตั้งไว้กระมัง มิฉะนั้นด้วยหยกหล้าสุขาวดีในตัวของตน ก็เพียงพอที่จะย้ายตำหนักใต้ดินแห่งนี้เข้าไปได้เลยทีเดียวเมื่อหลิงอวี๋กำลังจะไปสำรวจประตูที่สาม ในนาฬิกาทรายก็เหลือทรายอยู่เพียงเล็กน้อยแล้วหลิงอวี๋รู้สึกค่อนข้างเสียดาย จึงรีบเปิดประตูมะแมเข้าไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status