แชร์

ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ผู้แต่ง: กานเฟย

บทที่ 1

ผู้เขียน: กานเฟย
“หลิงอวี๋!”

“ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...”

“มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!”

“หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!”

ใคร?

ใครกำลังพูดอยู่กัน

ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น

ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที...

จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว

“โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!”

“โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!”

เพียะ!

เพียะ!

เพียะ!

เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋

หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป...

หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร?

เมื่อครู่นี้เธอยังปีนภูเขาหิมะเหมยหลี่อยู่กับเพื่อน ๆ อยู่เลย!

ใช่แล้ว ในตอนนั้นจู่ ๆ ก็เกิดลมพายุแรงขึ้น...

หิมะบนภูเขาถล่มลงมา เธอตกลงมาจากยอดเขาสูง ทั้งร่างกายของเธอตกลงไปพร้อมกับหินที่ถล่มลงมาเข้าไปในหุบเขา...

เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบกับฉากนี้เข้า

หรือว่าเธอจะตกลงไปในรอยแยกของห้วงเวลา และเดินทางข้ามผ่านเวลามา?

แส้โบยลงมาบนศีรษะและใบหน้าของเธอ เด็กชายอายุสามขวบเป็นเหมือนกับแมวตัวใหญ่ที่คอยอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าวิ่งมาจากที่ใดกัน กอดหลิงอวี๋เอาไว้แน่น ส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

“อย่าตีท่านแม่ของข้า… ข้าไม่อนุญาตให้พวกเจ้าตีท่านแม่ข้า...”

ผู้ที่ทุบตีอยู่นั้นไม่คิดเลยว่า จู่ ๆ เขาจะพุ่งเข้ามา แส้ที่เหวี่ยงออกไปไม่ทันได้เก็บกลับคืน พลันฟาดลงบนกายของเด็กน้อย...

ตีจนเขาส่งเสียงร้องอย่างน่าสังเวชออกมา กระเด็นลอยออกไปจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง

หลิงอวี๋มองเด็กน้อยด้วยความตื่นตกใจ เมื่อมองเห็นร่างกายผอมบางของเขาล้มลงบนพื้นไร้ชีวิตราวกับตุ๊กตาผุพัง ในใจก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้...

ทันใดนั้น ในหัวก็ปั่นป่วนขึ้นมา ความทรงจำมากมายนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่ในจิตใจ...

“ต่อให้เจ้าวางแผนให้ข้าทำลายความบริสุทธิ์ของเจ้าไป ตัวข้าผู้เป็นอ๋องก็ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับเจ้า ข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว แม้แต่นิ้วมือของนาง เจ้าก็มิอาจจะเทียบได้!”

“หลิงอวี๋ เจ้าอาศัยบุญคุณที่ต้องทดแทนจากการรับดาบแทนข้า หยิบเอาป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้กับเจ้า เพื่อร้องขอให้องค์จักรพรรดิพระราชทานงานอภิเษกให้! ได้ ข้าจะแต่งงานกับเจ้า แต่ข้าจะไม่มีทางที่จะรักเจ้าไปตลอดชีวิตนี้!”

หลิงอวี๋เป็นหลานสาวของเสนาบดีเจิ้นหย่วน ตั้งแต่เล็กได้รับความรักมาโดยตลอด มีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม แต่กลับโง่เขลาเบาปัญญา

ในปีนั้น หลิงอวี๋เพิ่งจะมีอายุครบสิบห้าปี ครั้งแรกที่พบกับอ๋องอี้เซียวหลินเทียน ที่เอาชนะสงครามกลับเมืองหลวงมานั้น ก็รู้สึกหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหล่อเหลาของเขา

หลิงอวี๋พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมที่มีทั้งหมดของนาง เพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา...

เซียวหลินเทียนเกลียดนาง แต่งงานในวันที่สองก็ร้องขอที่จะไปยังสนามรบ ไปครั้งหนึ่งก็ถึงสี่ปี…

และหลังจากที่เซียวหลินเทียนจากไปแล้ว แปดเดือนหลังจากนั้นหลิงอวี๋ก็คลอดก่อนกำหนด ให้กำเนิดเด็กชายออกมา

คนภายนอกต่างก็คิดว่านางสวมเขาให้กับเซียวหลินเทียน...

เซียวหลินเทียนเองก็ถือว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกนอกสมรส แม้แต่ชื่อก็มิได้ตั้งให้!

เสี่ยวเมาเป็นชื่อที่คนรับใช้ในตำหนักตั้งให้กับเขา เพราะเห็นว่าเด็กน้อยผู้นี้ดูอ่อนแอนัก!

ครึ่งปีก่อนหน้านั้น

เซียวหลินเทียนกลับมาจากสนามรบ แต่สองขากลับพิการไป จำต้องนั่งอยู่บนรถเข็น

หลิงอวี๋เพื่อเอาอกเอาใจเซียวหลินเทียนแล้ว แต่งหน้าแต่งตัวทุกวัน เห็นเครื่องประดับ และอาภรณ์งดงาม ก็มักจะนำกลับมา และยังซื้อของจำพวกดาบ พู่กัน หมึก ให้กับเซียวหลินเทียนอีกด้วย

หลิงอวี๋ใช้เงินไปราวกับสายน้ำเพื่อเอาอกเอาใจ แต่มิทำให้เซียวหลินเทียนสั่นไหว กลับทำให้เซียวหลินเทียนขยะแขยงมากยิ่งขึ้น

คนที่มีเจตนาร้าย ที่มองว่านางโง่เขลา ก็วางอุบายให้นางต้องควักกระเป๋าออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

หลิงอวี๋ที่สุรุ่ยสุร่ายใช้สินเดิมของตนจนหมด และยังถูกสาวใช้หลิงผิงยุยง ใช้ชื่อของอ๋องอี้ไปยืมเงินดอกเบี้ยสูงเข้า...

สุดท้ายแล้วเมื่อไม่อาจคืนเงินได้ และก็ถูกหลิงผิงยุยงเข้าอีกเข้าอีกครั้ง จึงลอบขโมยมรดกตกทอดของพระชายาองค์ก่อนมารดาของท่านอ๋องออกไปขายเพื่อใช้หนี้...

สุดท้ายแล้ว ถูกเฮยจื่อบุตรบุญธรรมของอ๋องอวี๋พบเข้า หลิงอวี๋ก็ยังคงโง่เขลาฟังคำยุยงของหลิงผิงอีกครั้ง หลอกเฮยจื่อไปขายเพื่อใช้หนี้อีก......

ในตอนที่ตามหาเฮยจื่อกลับมาได้นั้นก็ถูกทุบตีจนร่างกายบอบช้ำ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย นี่ถึงได้เป็นการยั่วยุให้อ๋องอี้โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก จนหวดแส้โบยนางจนตายไป...

หลิงอวี๋เรียงลำดับความทรงจำในใจจนเสร็จแล้ว ในใจก็เกิดความคิดหนึ่งเข้า!

เธอที่เป็นแพทย์อัจฉริยะมาจากศตวรรษที่ 21

อัจฉริยะทางการแพทย์ที่กลายเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยทางการแพทย์อิสระภายในหน่วยสืบราชการลับเมื่ออายุได้ 16 ปี ยังมิทันได้แสดงพรสวรรค์ความสามารถอย่างเต็มที่ ก็ถูกสวรรค์โยนลงมาในสถานที่แปลกประหลาดนี่เข้าอย่างนั้นหรือ?

แล้วยังมาจบด้วยการอยู่ในร่างผู้โง่เขลาอีกหรือ?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Saijai Wongsuwan
โง่ขนานแท้
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
จบอยู่ในร่างผู้โง่เขลา ?
goodnovel comment avatar
papaporn sala
ให้อัปเดตตอนที่ซื้อไว้หายเกลี้ยงเลย ทำยังไงอยากได้ I'd เดิม เติมเหรียญไว้ตั้งเยอะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2564

    เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว!หลงหมิงคนนี้เป็นตัวปลอม!หลิงอวี๋และเย่หรงก็มิได้อยู่ในรถม้าเช่นกัน!เซียวหลินเทียนพลันคิดได้ว่า ในเมื่อตนเองยังได้รับข่าวว่าตระกูลจงเจิ้งและเหล่าจอมมารต่างมุ่งหน้ามาเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดี แล้วหลงหมิงจะมิรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร!เขาไม่มีเวลาให้เสียเปล่า จึงได้สร้างตัวแทนและกับดักขึ้นมาเพื่อลวงตาคนทั้งหลายเซียวหลินเทียนมิอาจจินตนาการได้ว่าหลงหมิงลอบขึ้นไปบนยอดเขาหินคู่ภายใต้การจับตามองของเขาได้อย่างไร แต่ในความรีบร้อนนั้น เขาก็คิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งบางทีวิญญาณหยินดวงจิตหยางอาจมิได้อยู่บนยอดเขาหินคู่เลยตั้งแต่แรก สถานที่ที่เรียกว่ามีตำแหน่งที่ตั้งสูงชันและถูกแม่นางเฟิ่งยึดครองแห่งนี้ เป็นเพียงฉากบังตาที่สร้างขึ้นเพื่อให้พวกเขาทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจเท่านั้นเซียวหลินเทียนหันขวับไปมองหาท่านผู้เฒ่าเย่อย่างบ้าคลั่ง แต่กลับเห็นเพียงท่านผู้เฒ่าเย่ยืนอยู่มิไกลด้วยสีหน้างุนงง ราวกับว่าตัวเขาเองก็มิเข้าใจว่าเกิดกระไรขึ้นเช่นกันเซียวหลินเทียนพุ่งเข้าไปหาในทันที ความเคารพที่เคยมีต่อท่านผู้เฒ่าเย่เลือนหายไปจนหมดสิ้น เขาคว้าคอเสื้อของท่านผู้เฒ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2563

    ร่างของหลงเพ่ยเพ่ยลอยอยู่กลางอากาศ นางไม่มีเวลาแม้แต่จะเปลี่ยนท่าร่าง และมองเห็นรอยยิ้มอันเหี้ยมโหดของหยางหงหนิงได้อย่างชัดเจน“นางแพศยา ไปตายซะ!”ในขณะที่ผงแป้งเหล่านั้นกำลังจะโปรยใส่ใบหน้าของหลงเพ่ยเพ่ย ทันใดนั้นนางก็สะบัดแขนเสื้ออย่างแรง พลังอันแข็งแกร่งที่มาพร้อมกับลมกรรโชกได้พัดพาผงแป้งเหล่านั้นกลับไปในทันทีรอยยิ้มอันบ้าคลั่งของหยางหงหนิงยังมิทันจะปรากฏเต็มที่ ก็เห็นผงยาที่ตนโปรยออกไปพุ่งกลับมาหาตนเอง นางตกใจจนต้องทิ้งตัวลงกลิ้งกับพื้นเพื่อหลบผงยาเหล่านั้นหลงเพ่ยเพ่ยร่อนลงมาจากฟ้า กระบี่ในมือแทงตรงไปยังแผ่นหลังของหยางหงหนิงแต่ในขณะที่ปลายกระบี่กำลังจะทิ่มแทงเข้าสู่ร่างของหยางหงหนิง แส้เก้าท่อนเส้นหนึ่งก็ตวัดมาจากด้านข้างพันเข้ากับกระบี่ของหลงเพ่ยเพ่ยแรงดึงอันมหาศาลกระชากหลงเพ่ยเพ่ยจนร่างของนางเซไปด้านข้างนางรีบหันกลับไปมองด้วยความตื่นตระหนกก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาของหลงซินปรากฏขึ้นในม่านตาหลงเพ่ยเพ่ยยังมิทันได้ชักกระบี่กลับฝ่ามือของหลงซินก็ฟาดเข้ามาฉัวะ…หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกเพียงว่าหน้าอกของตนถูกกระแทกอย่างรุนแรง ร่างกายก็ปลิวกระเด็นถอยหลังไปความหวานคาวคละคลุ้งขึ้นมาใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2562

    เมื่อหลงซินเห็นผู้คนมากมายกระโจนออกมาจากรอบทิศ เขากลับมิตื่นตระหนกแม้แต่น้อย พลางแค่นเสียงเย็นชา “พวกเจ้าทั้งหมดมารนหาที่ตายกันรึ?”“ถ้าเช่นนั้น ก็ให้พวกสวะอย่างพวกเจ้าได้เห็นฝีมือขององค์รัชทายาทผู้นี้เสียหน่อย!”กล่าวจบ หลงซินก็โบกสะบัดแส้เก้าท่อนในมือ ใช้เท้ากระตุ้นม้าทะยานไปข้างหน้าแส้เก้าท่อนอันแข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้นพลิกแพลงไปมาอย่างคล่องแคล่ว สะบัดขึ้นลงกลางอากาศพร้อมด้วยไอสังหารอันน่าสะพรึงกลัวดุจงูพิษเย็นเยียบที่กำลังเริงระบำมือสังหารจากตำหนักปีกเงินผู้หนึ่งพุ่งเข้าปะทะกับหลงซินเป็นคนแรก เขาถูกแส้เก้าท่อนฟาดเข้าใส่ร่างเต็ม ๆ พริบตานั้นแขนข้างหนึ่งก็ขาดกระเด็นไปเลือดสดและแขนที่ขาดลอยคว้างขึ้นไปกลางอากาศ มือสังหารผู้นั้นเจ็บปวดจนต้องทิ้งตัวลงไปนอนกลิ้งกับพื้น แต่ยังมิทันที่จะลุกขึ้นยืน แส้เก้าท่อนของหลงซินก็จู่โจมมาถึงอีกครั้งมือสังหารรู้สึกราวกับมีอสรพิษเย็นเยียบรัดพันรอบลำคอ เขาแทบไม่มีโอกาสได้ตอบโต้กลับ ก็ได้ยินเสียงดัง “แกร็ก” มาจากต้นคอหลงเพ่ยเพ่ยซึ่งอยู่ข้าง ๆ เห็นกับตาว่าแส้เก้าท่อนนั้นเกี่ยวศีรษะของมือสังหารจนลอยขึ้นไปกลางอากาศวิธีการอันโหดเหี้ยมและนองเลือด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2561

    ใกล้เข้ามาแล้ว เซียวหลินเทียนซึ่งยืนอยู่บนที่สูงมองปราดเดียวก็เห็นหลงหมิงที่ควบม้านำมาเป็นคนแรก ส่วนด้านหลังนั้นตามมาด้วยกองทัพหลวงในชุดเกราะเต็มยศกำลังคุมรถม้าที่ขังหลิงอวี๋และเย่หรงเอาไว้ข้างกายของหลงหมิงคือเสิ่นฮ่าว เขาก็ขี่ม้าตัวสูงใหญ่และสวมชุดเกราะสีดำเช่นกัน แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนชุดเกราะสะท้อนประกายแวววาว ทำให้เขาดูองอาจผึ่งผายและหยิ่งผยองผู้ที่ขนาบข้างตามมาอีกคนคือหยางหงหนิงในชุดสีแดงสด นางมาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานการตายของหลิงอวี๋หลงหมิงได้ให้สัญญากับนางไว้ว่า ขอเพียงให้เย่หรงช่วยตามหาผลึกมังกรจนพบ ในท้ายที่สุดก็จะมอบตัวเย่หรงให้กับนางหยางหงหนิงเริ่มขบคิดในใจแล้วว่าจะลากเย่หรงที่ถูกล่ามโซ่ดั่งสุนัขไปเดินประจานทั่วท้องถนนในเมืองหลวงได้อย่างไรนางต้องการให้หลงอิง หยางซูและทุกคนที่เคยเห็นเย่หรงปฏิเสธนางในวันวานได้เห็นกับตาตัวเองว่าเย่หรงต้องคลานสี่ขาเหมือนสุนัขนางจะประกาศให้คนเหล่านั้นรู้ว่า มิใช่เย่หรงที่มิต้องการแต่งงานกับนาง แต่เป็นนางเองที่มองมิเห็นเขาอยู่ในสายตาอีกแล้วบุรุษร่างผอมที่อยู่เคียงข้างอีกฝั่งหนึ่งคือหลงซิน เขาสวมชุดเกราะเช่นกัน แต่เพราะร่างกายที่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2560

    ท่านผู้เฒ่าเย่ก็เข้าใจคำพูดของเซียวหลินเทียนเช่นกัน เขามิรู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย กลับกัน ในใจนั้นพลุ่งพล่านไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง“เมื่อครั้งอดีต ตระกูลใหญ่ของเราต่างร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับฝูไห่อย่างมิคิดชีวิต แต่หลายร้อยปีให้หลัง พวกเรากลับต้องมาเข่นฆ่ากันเองเพื่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียว!”“นี่คือความก้าวหน้า หรือว่าความถดถอยกันแน่?”“ฝูไห่ยังมิถูกปล่อยออกมา พวกเราก็กลับมาสู้รบกันเองเช่นนี้แล้ว หากเขาออกมาเห็นภาพนี้เข้า จะมิหัวเราะเยาะพวกเราเหล่าตระกูลใหญ่หรอกหรือว่า ที่ทำไปทั้งหมดนั้นสูญเปล่า?”“พี่ใหญ่ของข้าเคยบอกว่า มหันตภัยแห่งแดนเทพนั้นน่ากลัวยิ่งนัก แต่ข้ากลับรู้สึกว่า การสู้รบกันเองภายในพวกเราต่างหากคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด!”กำเนิดจากรากเหง้าเดียวกัน เหตุใดต้องเผาผลาญกันอย่างเร่งร้อนถึงเพียงนี้!มิว่าตระกูลเหล่านี้จะสกุลเย่ สกุลจงเจิ้ง หรือสกุลเฉียว ล้วนเป็นราษฎรของแดนเทพ เป็นชีวิตคนที่มีเลือดเนื้อทั้งสิ้น!ท่านผู้เฒ่าเย่ร่ำไห้น้ำตานองหน้า ทุบหน้าอกทึ้งผมด้วยความเจ็บปวดใจ “หากบรรพบุรุษของตระกูลใหญ่ทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ จะมิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2559

    เมื่อหลงเพ่ยเพ่ย ท่านผู้เฒ่าเย่และคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของเซียวหลินเทียน ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามกันหากฝูไห่ถูกช่วยออกมาได้ นั่นก็คือมหันตภัยครั้งใหญ่หลวง!มหันตภัยครั้งนี้น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าการที่หลงหมิงได้เป็นจักรพรรดิเสียอีก หรือว่าแดนเทพจะต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตงกู่อวี้และฝูไห่อย่างสมบูรณ์แล้วกระนั้นหรือ?“หลงหมิง เจ้าคนสารเลวนั่น เขามิรู้หรือไรว่าหากปล่อยตัวฝูไห่ออกมาแล้วผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร?”เย่ซื่อเจียงโกรธจนสบถออกมาในอดีต บรรพบุรุษของหลงอี้และหวงฝู่หลินต่างร่วมกันทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถกว่าจะสามารถผนึกจอมมารตนนั้นไว้ใต้ภูเขาหิมะได้ ชัยชนะในสงครามครั้งนั้นได้มาอย่างยากลำบากยิ่ง มีผู้คนล้มตายนับมิถ้วนบรรพบุรุษของตระกูลเย่เองก็เสียชีวิตในสนามรบครั้งนั้นเช่นกันบัลลังก์ของตระกูลหลงนั้นตั้งมั่นอยู่ได้ก็เพราะกองกระดูกจำนวนมหาศาลเหล่านี้!ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลหลง หลงหมิงมิคิดที่จะนำพาทุกคนร่วมสร้างความรุ่งเรือง แต่กลับมุ่งมั่นศึกษาเพียงวิธีที่จะสังหารธิดาของตนเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีมาครอบครอง และเพื่อให้ตนมีชีวิตเป็นอมตะคนเห็นแก่ตัวเช่นนี้จะมีคุณสม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status