ชิวเหวินซวงที่ฟังอยู่ด้านข้างคอยสังเกตท่าทีของเซียวหลินเทียน เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของเซียวหลินเทียน ชิวเหวินซวงก็สังหรณ์ใจได้ว่าไม่ดีแล้ว! นางมองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความตื่นตกใจ! หญิงผู้นี้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป! ก่อนหน้านั้นหลิงอวี๋จะมีคารมคมคายดีอย่างนี้ได้อย่างไรกัน! ชิวเหวินซวงอาศัยที่เซียวหลินเทียนมิได้สังเกตเห็นตน รีบขยิบตาให้กับหลิงหลานและหลิงผิง หลิงผิงถูกคำพูดของหลิงอวี๋ที่ให้ตื่นตะลึงเข้า! นางติดตามหลิงอวี๋มานานถึงเพียงนี้ มิเคยพบว่าหลิงอวี๋จะสามารถเอ่ยออกมาเช่นนี้ได้! นางไม่รู้เลยว่าจะต้องหักล้างหลิงอวี๋กลับจากที่ใด! หลิงหลานสามารถอดกลั้นได้มากกว่าหลิงผิง นางฟังไป พลางทั้งคิดวิธีตอบโต้กลับ เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนกำลังจะล่าถอยไป ในใจของหลิงหลานก็เคลื่อนไหวขึ้นมา นึกออกแล้ว! หลิงหลานแสร้งหวาดกลัวเอ่ยออกมา “พระชายา ทำไมท่านถึงได้พูดจาได้เก่งกาจ พวกเราฝีปากไม่ดีสู้ท่านไม่ได้!” “ทว่าความจริงอย่างไรเสียก็คือความจริง! ต่อให้ท่านจะเอ่ยออกมาได้น่าฟังเพียงใด ก็มิอาจปิดบังความจริงที่ท่านทรยศท่านอ๋องไปได้!” “ท่านอ๋อง… พวกบ่าววันนี้ต่อให้จะต้องออกไป!” “เพื่อไ
อย่ารังแกเด็กและคนจน! อย่าบีบบังคับผู้คนขึ้นเขาเหลียงซาน!(1) เพราะว่าเจ้าจะไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่สิ้นหวังหมดหนทางแล้วจะระเบิดพลังอันน่าตื่นตกใจเพียงใดออกมา หลิงอวี๋ได้ยินเสียงร้องเรียกเสียดแทงหัวใจของเสี่ยวเมา ก็เหมือนราวกับถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง นางจ้องมองไปยังเซียวหลินเทียนอย่างดุร้าย ชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินเข้มที่นั่งอยู่บนรถเข็น ใบหน้าหล่อเหลาสูงส่งราวกับเทพเจ้า ผู้ควบคุมอำนาจแห่งความเป็นตายเอาไว้! ต่อให้เขาจะใช้แรงเพิ่มมากขึ้น นางหลิงอวี๋ก็จะสู้จนสุดแรงจนกว่าจะตายไป! หลิงอวี๋คนก่อนหน้านั้นตายไปในมือของเซียวหลินเทียนแล้วครั้งหนึ่ง! หรือว่าครั้งนี้ ชีวิตของนางเองก็จะถูกทำลายด้วยน้ำมือของเขาอีกครั้ง! ไม่! ไม่ควรจะมีจุดจบเช่นนี้! ดวงตาคู่งามของหลิงอวี๋ระเบิดความดื้อรั้นของนางในชาติที่แล้วออกมา! ชายสารเลว เจ้าไม่ยอมให้ข้าได้มีชีวิตดี ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นนั้นก่อนที่ข้าจะตาย ก็จะต้องลากเจ้าลงนรกไปด้วย! หลิงอวี๋คลำมีดผ่าตัดที่แอบเอาไว้ตรงช่วงเอว ไม่สนใจแส้ที่พันอยู่ตรงลำคอ กระโจนไปยังเบื้องหน้าอย่างแรง... ปลายมีดที่แหลมคมตกลงบนลำคอของเซียวหลินเทียน นางกร
หลิงอวี๋ไม่ได้ป้องกันเลยแม้แต่น้อย ถูกทุบตีไปเช่นนี้จนกระเด็นลอยออกไป พลันพ่นเลือดออกมาพลางอากาศ “ปัง!” ร่างกายที่ผอมบางของหลิงอวี๋กระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะกระอักเลือดสดออกมาเป็นจำนวนมาก! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างพังทลายลง ดวงตามือดำ แล้วสลบไป เรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้เร็วเกินไป เร็วจนแม้แต่เซียวหลินเทียนเองก็ไม่ทันได้คาดคิด เขาและทุกคนต่างพากันตกตะลึง มีเพียงชิวเฮ่าเท่านั้นที่คุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง เอ่ยยอมรับผิดอย่างสงบนิ่ง “ท่านอ๋องได้โปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วย! สถานการณ์เร่งด่วน ข้าน้อยเกรงว่าหลิงอวี๋ที่คลุ้มคลั่งจะปลงพระชนม์ท่านเข้า จึงได้ฉวยโอกาสจัดการนาง! ข้าน้อยยินดีรับโทษผิดพ่ะย่ะค่ะ!” “ท่านอ๋อง ท่านพี่เองก็ทำอะไรมิได้เช่นกันเพคะ! เมื่อครู่นี้ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ...ต่างก็พากันคิดว่าพระชายาปลงพระชนม์ท่านอ๋อง!” ชิวเหวินซวงรีบวางเสี่ยวเมาลง คุกเข่าลงด้านหน้าของเซียวหลินเทียนเพื่อร้องขอชีวิต เซียวหลินเทียนเม้มริมฝีปาก ชิวเฮ่ามีใจปกป้องเจ้านาย เขาจะกล่าวโทษชิวเฮ่าได้อย่างไร! เขามองไปยังหลิงอวี๋ที่ยังคงนอนอยู่บนพื้น จู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ยกมือข
หลิงอวี๋ไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นางมาที่ใดกัน?นางหันไปมองรอบ ๆ ก็มองเห็นสมุนไพรหลายชนิดที่เติบโตในหมู่วัชพืช ด้านบนนั้นยังมีดอกไม้เล็ก ๆ สีม่วงอยู่สองสามดอกสมุนไพรเหล่านั้นดูคุ้นตา…หลิงอวี๋ปีนขึ้นไปอย่างยากลำบากไม่ผิดแน่ เป็นที่แห่งนั้นที่นางและปู่ไปขุดค้นหญ้าวานรมาจากทางตอนใต้!ว่ากันว่า ลิงจะได้รับบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะนำสมุนไพรชนิดนี้คาบเอาไว้ในปาก สามารถเสริมสร้างกระดูก สร้างเส้นเอ็น และผิวหนังน่าเสียดายที่ในตอนนั้นพวกเขาขุดมาเพียงแค่ไม่กี่ต้นเท่านั้นเมื่อกลับมา คุณปู่เป็นเพราะว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตไปทันทีรอจนเมื่อหลิงอวี๋ฟื้นคืนจากความเจ็บปวด ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว หญ้าวานรนั่นและกระเป๋าเดินทางหายไปเพราะอุบัติเหตุ…ไม่คิดเลยว่าจะยังพบเห็นได้ที่นี่ฟ้าไม่ได้ลืมข้า!หลิงอวี๋ไม่สนใจอะไรมากนัก ดึงหญ้าวานรออกมาสองต้น ขยี้มันแล้วยัดใส่ปากหวังว่าหญ้าวานรจะมีผลชุบชีวิตขึ้นมาจริง ๆ !หลิงอวี๋เคี้ยวหญ้าวานรที่ทั้งขมและฝาด ก่อนจะผล็อยหลับไปและไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไหร่…“ท่านแม่…”มือเล็กร้อนคู่หนึ่งลูบลงบนใบหน้าของหล
หลิงอวี๋ทำการรักษาซ่อมแซมตรงส่วนกระดูกซี่โครงให้เสี่ยวเมาอีกครั้ง นี่เป็นเพียงแค่การแก้ไขเท่านั้น นางจึงไม่ได้ใช้ยาชากับเสี่ยวเมาเสี่ยวเมาก็ทนเจ็บให้หลิงอวี๋รักษาให้อย่างว่าง่ายเขาไม่มีการร้องใด ๆ ทำเพียงแค่กัดฟันทนไป ปล่อยให้เหงื่อเย็น ๆ หยดลงมาหลิวอวี๋เห็นแล้วก็ปวดใจ แต่ก็แอบชื่นชมอยู่ด้วยเด็กผู้นี้ ยังเด็กแค่นี้ก็สามารถอดทนได้ถึงเพียงนี้ เติบโตไปจะต้องเป็นผู้ชายที่มีอนาคตที่ดีแน่นอน!“ถ้าหากเจ็บมาก เจ้าก็ร้องออกมาเถอะ แม่ไม่หัวเราะเยาะเจ้าหรอก!” นางพูดปลอบใจ“ข้าไม่เจ็บขอรับ!”เสี่ยวเมาพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ท่านแม่ต่างหากที่เจ็บ พวกเขาหวดแส้ใส่ท่านแม่ตั้งห้าสิบแซ่! ท่านแม่ไม่ร้องเลยสักแอะ! เสี่ยวเมาก็จะไม่ร้องเช่นกัน! ”“เสี่ยวเมาอยากเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยว ท่านลุงปี้บอกว่า ผู้ใหญ่ที่จิตใจเด็ดเดี่ยว เมื่อได้รับบาดเจ็บจะไม่มีทางร้องไห้!”หลิงอวี๋หัวเราะ เจ้าเด็กนี่ ช่างเข้มแข็งนัก!ผู้ชายเฮงซวยอย่างเซียวหลินเทียนผู้นั้น มีลูกชายเช่นนี้ไม่รู้สึกรู้จักภูมิใจ แถมยังไปใจดำสงสัยเขาอีก!ไม่ช้าก็เร็วคนเลวอย่างเซียวหลินเทียนก็จะต้องเสียใจ!ว่าแต่ท่านลุงปี้นี่คือใครกัน?
แม่นมลี่กับหลิงซินเข้าห้องมาเห็นหลิงอวี๋ดูสบายดี กำลังนอนคุยกับเสี่ยวเมาอยู่บนเตียง พวกนางก็ตกตะลึงไป“ฮือ ๆ ...สวรรค์คุ้มครองจริง ๆ ! พระชายาไม่เป็นอะไร! ประเดี๋ยวพวกบ่าวจะไปวัด ไปเพิ่มเงินค่าน้ำมันหอมเสียหน่อยเจ้าค่ะ...”ภายใต้อาการตกใจของแม่นมลี่ นางก็พนมมือ ร้องไห้ขอบพระคุณเทพเจ้าทุกองค์ไปด้วยหลิงอวี๋มองเห็นผ้าเปื้อนเลือดที่พันอยู่บนหัวของแม่นมลี่ ในตอนนั้น แม่นมลี่คำนับต่อเซียวหลินเทียนเพื่อขอร้องให้เขาปล่อยตัวเธอไป!การบาดเจ็บนี้มันเกิดขึ้นจากครั้งนั้นเพื่อนในยามทุกข์ยากนั้นคือเพื่อนแท้ แม่นมลี่ปฏิบัติต่อนางเทียบเท่าแม่แท้ ๆ ของนางได้แล้ว!“แม่นมลี่ เจ้าไม่ได้ติดแผ่นปิดแผลที่ข้าให้เจ้าไปรึ?” หลิงอวี๋จำได้ว่าตัวเองให้อผ่นปิดแผลนางไปสองอันนะติดแผ่นปิดแผลบาง ๆ หนึ่งอันก็พอแล้ว!“แผ่นปิดแผลที่เหลือถูกหลิงหลานแย่งไปให้หลิงผิงแล้วเจ้าค่ะ!”แม่นมลี่บอกอย่างแค้นเคือง“นางชั้นต่ำนั่น แย่งแผ่นปิดแผลของข้าไป!”“บ่าวขอให้นางเอาอาหารให้พวกเรา แต่นางไม่ให้ ทั้งยังสาปแช่งพระชายาอีก บอกว่าไม่ช้าก็เร็วพระชายาก็ต้องตาย อย่าได้ไปสิ้นเปลืองอาหารเลย!”หลิงอวี้หรี่ตาลง อาหารที่นางได้กิน
หลิงอวี๋แย้มรอยยิ้มเย็นชา ต่อไปนี้ นางจะไม่มีทางทนพวกเขาอีกต่อไปแล้ว!ทันทีที่นางตื่นเต้นขึ้นมา ก็รู้สึกวูบวาบที่หน้าอก แล้วกลิ่นคาวเลือดก็ตีขึ้นมาในปาก ยังไม่ทันจะได้ตอบสนองอะไร ปากของนางก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมาแม่นมลี่กับเสี่ยวเมาต่างก็ตกใจเสี่ยวเมาจับชายเสื้อของหลิงอวี๋เอาไว้แน่นทันที พลางร้องออกมาอย่างหวาดกลัว “ท่านแม่… อย่าทำให้เสี่ยวเมากลัวสิขอรับ!”แม่นมลี่เองก็รีบพุ่งเข้าไปพยุงหลิงอวี๋ไว้ ตกใจน้ำตารื้น “ทูนหัวของบ่าว! ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ!”“เจ้าเพิ่งจะบุกออกมาจากประตูมรณะ ร่างกายยังอ่อนแออยู่ รักษาตัวให้ดีก่อนไม่ได้รึ?”“พระชายา… บ่าวไม่เป็นอะไร พระชายาไม่ต้องโกรธแค้นแทนบ่าวหรอกเจ้าค่ะ!”หลิงซินเองก็ตกใจ เข้าไปพยุงหลิงอวี๋คนละข้างกับแม่นมลี่“พระชายาสบายใจเถิดเจ้าค่ะ! ขอเพียงพระชายาสบายดี บ่าวจะได้รับความคับข้องใจบ้างก็ไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ!”ที่หน้าอกของหลิงอวี๋ยังคงวูบไหวเจ็บปวดอยู่บ้าง ที่มุมปากก็ยังมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง นางพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยให้ทั้งสองคนกดให้นอนลง เสี่ยวเมาใช้มือเล็ก ๆ ดึงนางเอาไว้อย่างกังวล น้ำตาก็ซึมออกมาด้วยความตกใจแต่ก็ค้างอยู่
“ไม่เป็นไร ข้าก็มิได้มีชื่อเสียงอันใดอยู่แล้ว ยังจะต้องกลัวใครหัวเราะเยาะอีกรึ?”หลิงอวี๋ตำหนิ หากจะอายคนที่ต้องอายคือ เซียวหลินเจียน ที่ทำให้พระชายาของตัวเองอับจนถึงขั้นต้องเอาชุดไปขาย!เขาเป็นอ๋องยังไม่กลัวจะอับอายเลย นางจะกลัวทำไมเล่า!“ท่านแม่ ภายภาคหน้าข้าโตแล้ว จะหาเงินให้ได้มาก ๆ มาให้ท่านแม่ซื้อชุดใหม่ ๆ เองขอรับ!”เสี่ยวเมาลูบที่มือของหลิงอวี๋เพื่อปลอบโยนนางหลิงอวี๋ยิ้ม เห็นหลิงซินดูลำบากใจจึงเอ่ย “ไปเถอะ! เชื่อข้า หลังจากผ่านพ้นสองสามวันนี้ไป ข้าจะทำให้ชีวิตของพวกเจ้าดีขึ้นเรื่อย ๆ เอง!”แม่นมลี่ไม่ได้ห้ามอีก นางมองท่าทางที่หลิงอวี๋พูดจายังดูอ่อนแรงอยู่ ก็ยอม ๆ ไปพระชายาเกือบจะสิ้นชีวิตไปแล้ว ยังจะต้องไปสนใจเรื่องของนอกกายกับชื่อเสียงไปทำไมเล่า!แม่นมลี่และหลิงซินเลือกเสื้อผ้าที่มีราคาแพง เมื่อห่อเรียบร้อยแล้วก็ให้หลิงซินเอาออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์“พระชายา พักผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจะไปล้างครัวเสียหน่อย ข้างในนั้นฝุ่นเขรอะนัก!”แม่นมลี่เดินงก ๆ เงิ่น ๆ ออกไปหลิงอวี๋มองแผ่นหลังของแม่นมอย่างปวดใจ แต่ร่างกายนางอ่อนแอ ไม่สามารถไปช่วยได้จึงทำได้เพียงให้แม่นมลี่ทำไปก
หากหยางหงหนิงบอกทันทีว่าจะมิชอบเย่หรงแล้ว หลงเพ่ยเพ่ยย่อมมิเชื่อแต่ตอนนี้หยางหงหนิงบอกว่าต้องการเวลา หลงเพ่ยเพ่ยจึงเชื่อสนิทใจนางจัดเส้นผมที่กระเซิงของหยางหงหนิงให้อย่างสงสารพลางปลอบใจว่า “ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะ เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องผ่านพ้นไปได้แน่นอน!”“อืม!”หยางหงหนิงพยักหน้า และเงยหน้าขึ้นยิ้มให้หลงเพ่ยเพ่ย “เรื่องที่บอกว่าจะไปเที่ยวสระเก้ามังกรครั้งก่อน เจ้าอย่าลืมนะ รอให้แผลเย่หรงรักษาหายดี ข้าก็น่าจะปรับสภาพจิตใจได้แล้ว!”“ถึงเวลานั้น เจ้าจะได้เห็นด้านใหม่ของข้า!”หลงเพ่ยเพ่ยพยักหน้า “รอให้แผลเย่หรงรักษาหายดี ข้าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยวด้วยกัน!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ หลงจิ้งและเจ้าแห่งทิศใต้ต่างก็คิดจะช่วยมารดาของเย่หรงออกมา หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกว่าการไปสระเก้ามังกรสามารถสำรวจตำแหน่งที่ตั้งได้ จึงมิคิดจะผิดคำพูดหยางหงหนิงได้รับคำรับปากของหลงเพ่ยเพ่ยแล้วก็จากไปเพียงแต่นางมิได้ออกจากจวนตระกูลเย่เสียทีเดียว นางตรงไปยังเรือนของเย่ซวินเพื่อดำเนินการตามแผนเมื่อไปถึงเรือนของเย่ซวิน กลับมิเห็นเย่ซวินอยู่ที่นั่นหยางหงหนิงยังมิรู้เรื่องที่เย่ซวินถูกขังอยู่ในหอบรรพบุรุ
ตนเองทำเพื่อเย่หรงไปตั้งมากมาย ถึงขนาดยอมกล้ำกลืนฝืนทนเสียหน้าไปอ้อนวอนองค์หญิงหานเยวี่ยอย่างน่าสงสาร ถึงได้โอสถรักษาแผลระดับสูงนี้มาแต่เย่หรงกลับคายออกมา นี่มิใช่เพราะต้องการรักษาระยะห่างกับตนหรอกหรือ?เหตุใดเย่หรงถึงได้ดื้อด้านเช่นนี้?เขาแค่กังวลว่าหากรับยาของตนไปแล้ว จะทำให้หลงเพ่ยเพ่ยมิพอใจมิใช่หรือ?หยางหงหนิงคิดไปเองตอนนี้นางคิดเพียงอย่างเดียวว่า เย่หรงกับหลงเพ่ยเพ่ยลอบคบหากันแล้ว ดังนั้นเย่หรงถึงได้ผลักไสตนมาโดยตลอดมิฉะนั้นต่อให้ใจของเย่หรงแข็งดั่งหินผา ก็ต้องถูกความรักของนางทำให้ใจอ่อนไปแล้ว!ความโกรธของหยางหงหนิงพลุ่งขึ้นมาในบัดดลมีชั่วขณะหนึ่งที่นางแทบจะควบคุมตนเองมิได้ อยากจะฉวยโอกาสที่เย่หรงยังอ่อนแออยู่ตอนนี้ ยัดยาพิษให้เขาตาย ๆ ไปเสียแต่หยางหงหนิงก็ยังคงกดข่มความโกรธของตนไว้อย่างสุดกำลัง นางมิอาจปล่อยเย่หรงไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้ เขาเลือกหลงเพ่ยเพ่ยใช่หรือไม่?เช่นนั้นนางก็จะให้เย่หรงกับหลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นสามีภรรยากันในปรโลก!หยางหงหนิงนึกถึงแผนการของเย่ซวิน ในแววตาฉายประกายความอำมหิต แต่ภายนอกกลับแสร้งทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจย่อตัวลงนางเก็บโอสถรักษาแผลระดับสูงข
เย่หมิงและเย่ซวินเป็นพี่น้องที่รักกันอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะปิดบังฮูหยินเย่ไว้ตามคำสั่งของท่านผู้เฒ่าเย่ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเย่ซวินในยามที่อาการติดยากำเริบขึ้นมานั้นเขาก็ยังทนมิได้อยู่ดี“ยาแก้ปวดมิสามารถใช้ส่งเดชได้!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมา “หากเย่ซวินมิพึ่งความตั้งใจของตนในการเลิกยาแล้วให้ยาแก้ปวดแก่เขา เช่นนี้แม้เขาจะเลิกยาได้ แต่ก็จะติดยาแก้ปวดเช่นกัน!”เย่หมิงเองก็เข้าใจหลักการของเครื่องยาสมุนไพรเช่นกัน ไหนเลยจะมิรู้หลักการนี้แต่เขาก็ยังคงเอ่ยออกมาอย่างวิงวอน “เช่นนั้นให้เขาแค่หนึ่งหรือสองเม็ดก็พอ หากเขาทนมิได้จริง ๆ ข้าจึงจะให้เขา แต่หากเขาทนได้ ข้าก็จะมิให้เขา!”หลิงอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบขวดยาออกมาเทยาแก้ปวดสามเม็ดให้กับเย่หมิง“ขอบคุณนะ!”เย่หมิงรีบเก็บไปอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบกับหลิงอวี๋ “อย่าบอกท่านปู่กับท่านพ่อเรื่องที่ข้ามาขอยาจากเจ้านะ หากพวกเขารู้เข้าต้องดุด่าข้าจนตายแน่!”“อื้ม!”หลิงอวี๋เอ่ยกำชับเขา “เย่หมิง ท่านเองก็ต้องควบคุมให้เหมาะสม บางครั้งหากท่านเห็นใจและช่วยเหลือเขา แต่แท้จริงแล้วเป็นการทำร้ายเขาอยู่!”“ข้ารู้!”เย่หมิงพยักหน้าอย่างระมัดระ
นี่คือโชคชะตาหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากในแง่ของความได้เปรียบนั้นท่านพ่อของตนสู้เจ้าแห่งทะเลมิได้หากเจ้าแห่งทะเลควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้ จวนเจ้าแห่งทิศใต้ก็จะยิ่งมิสามารถต่อกรกับเจ้าแห่งทะเลได้เลยหรือว่าครอบครัวของตนจะต้องถูกเจ้าแห่งทะเลกำจัดจนหมดสิ้นเสียแล้ว?“อย่าเพิ่งท้อแท้ไป รอให้พี่สามของเจ้าสืบจนรู้ที่มาของขี้ผึ้งหอมเสียก่อน แล้วพวกเราจะไปทำลายแหล่งยาของพวกเขากัน การทำเช่นนี้ต่างหากจึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะบังคับให้บุตรหลานเหล่านั้นเลิกยากันได้!”หลิงอวี๋เห็นว่าสีหน้าของหลงเพ่ยเพ่ยดูเศร้าหมอง จึงเอ่ยปลอบใจนางออกไปเถาจื่อฟังแล้วก็แอบหัวเราะอยู่ในใจ หลิงอวี๋มิสงสัยตนแม้แต่น้อย ทั้งยังคุยเรื่องลับ ๆ มากมายถึงเพียงนี้ต่อหน้านางอีกรอให้นางส่งข่าวเหล่านี้ไปให้ชายาเจ้าแห่งทะเลก่อนเถิด ชายาเจ้าแห่งทะเลจะต้องดีใจอย่างแน่นอนเถาจื่อลืมเรื่องราวในอดีตที่ฝ่าฟันมากับหลิงอวี๋ไปจนหมดสิ้นแล้ว ยามนี้ในหัวของนางถูกชายาเจ้าแห่งทะเลงปลูกฝังความทรงจำใหม่เข้าไปแล้วในความทรงจำใหม่นี้ เถาจื่อมีตัวตนใหม่นางคือบุตรีของชายาเจ้าแห่งทะเล ทั้งยังเป็นท่าน
เซียวหลินเทียนเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึก “ตอนนี้เผยอวี้ก็กังวลว่าหากหลิงหว่านแข็งแกร่งเกินไปจนมิยอมพึ่งพาใครแล้วจะยิ่งมิยอมแต่งงานกับเขา!”หลิงอวี๋มิได้ต่อต้านเซียวหลินเทียนมากถึงเพียงนั้นแล้วเมื่อนางฟังมาถึงตรงนี้ แม้ว่าจะยังจำเรื่องราวในอดีตมิได้ แต่รู้สึกได้ว่าหลิงหว่านสามารถยืนด้วยตนเองได้ หากต้องเผชิญหน้ากับตระกูลเผยก็เชิดหน้าชูตาได้เช่นกันขณะที่นางกำลังฟังเซียวหลินเทียนพูดถึงบรรดาคนที่ตนรู้จักในฉินตะวันตก ในใจของนางก็เกิดความปรารถนาขึ้นมา นางอยากจะไปพบญาติสนิทมิตรสหายเหล่านี้ที่ฉินตะวันตก“อาอวี๋ เมื่อเรื่องที่นี่จบสิ้นแล้ว เจ้ากลับฉินตะวันตกกับข้าเถิด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ “ข้าพูดกับเก๋อเฟิ่วฉินไปอย่างชัดเจนแล้ว ชาตินี้จะไม่มีใครมาแทนที่ตำแหน่งของเจ้าในใจข้าได้!”“พวกเรากลับไป ไปเลี้ยงดูเยวี่ยเยวี่ยให้ดี! สิ่งที่ข้าติดค้างพวกเจ้าไว้เมื่อก่อน ข้าจะชดเชยให้ทั้งหมด!”หลิงอวี๋พยักหน้า “เมื่อช่วยแม่นมอูและแม่ของเย่หรงออกมาได้แล้ว ข้าจะกลับไปกับพวกท่าน!”หลิงอวี๋รับปากที่จะกลับไปกับเซียวหลินเทียนก็เพื่อไปพิสูจน์ความจริง ส่วนเรื่องที่ว่าจะยังเป็นสามีภรรยากับเซียวห
คำถามในชุดนี้คือสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนมิสามารถตอบได้ทั้งสองมองหน้ากันไปมา รู้สึกเพียงว่าแดนเทพเต็มไปด้วยวิกฤติ ความซับซ้อนในความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเหล่านี้ทุกสิ่งเป็นดังหลุมลึกหลุมหนึ่ง“พวกเราทำทั้งสองสิ่งไปพร้อมกันดีกว่า ด้านหนึ่งคือการตามหาที่อยู่ของแม่นมอูและขันทีโม่ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือคิดหาวิธีช่วยมารดาของเย่หรง!”หลิงอวี๋เอ่ยขึ้นมาด้วยความกังวล “วันนี้เจ้าแห่งทะเลมิสามารถล้วงความลับของหยกหล้าสุขาวดีไปได้ เขาจะต้องมีแผนสำรองอยู่เป็นแน่ พวกเรามีเวลามิมากแล้ว!”เซียวหลินเทียนพยักหน้า “ตอนนี้พวกเขารู้ตัวตนของพวกเราอย่างชัดแจ้งแล้ว มหาปราชญ์เองก็คงจะมิปล่อยไปง่าย ๆ เช่นกัน หากช่วยเหลือมารดาของเย่หรงและแม่นมอูออกมาได้แล้ว พวกเราก็ไปจากเมืองหลวงแดนเทพกันก่อนเถิด!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนแล้วอดมิได้ที่จะเอ่ยถามออกไป “เซียวเยวี่ยสบายดีหรือไม่?”ที่จวนเจ้าแห่งทะเล ชายาเจ้าแห่งทะเลก็เอ่ยถึงเซียวเยวี่ยเช่นกัน ทั้งคำพูดและน้ำเสียงล้วนใช้ชีวิตของเซียวเยวี่ยมาข่มขู่หลิงอวี่เรื่องนี้ทำให้หลิงอวี๋คิดเรื่องปัญหาของเซียวเยวี่ยอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกว่า เซียวเยวี่ยถูก
ภายในห้องหลิงอวี๋เล่าเรื่องที่ตนได้ประสบที่จวนเจ้าแห่งทะเลให้เซียวหลินเทียนฟังเมื่อเล่าถึงท่านอาสุ่ยใช้วิชาดูดกลืนวิญญาณกับหลิงอวี๋เพื่อหลอกล่อให้นางบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดี เซียวหลินเทียนก็รู้สึกกังวลขึ้นมา“สตรีผู้นั้นปลอมเป็นท่านแม่ของข้า เพียงแต่ข้าลืมหลานฮุ่ยจวนไปจึงมิได้หลงกล!”หลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “หลังจากนั้นข้าก็นึกถึงสิ่งที่ปรมาจารย์เย่พูดกับข้าไว้ จึงได้ลองใช้หยกหล้าสุขาวดีควบคุมนาง และนั่นคือวิธีที่ข้าหนีรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้!"“เสียดายที่พลังของข้าสู้เจ้าแห่งทะเลมิได้ อีกทั้งเขาก็ยังเป็นคนที่จิตแข็งมากด้วย มิฉะนั้นข้าคงจะลองควบคุมเจ้าแห่งทะเลดู!”หลังจากเซียวหลินเทียนได้ยินเช่นนี้ก็แอบรู้สึกดีใจที่หลิงอวี๋สูญเสียความทรงจำไป มิฉะนั้นก็คงจะหลงกลไปกับแผนการร้ายของท่านอาสุ่ยไปแล้ว“เซียวหลินเทียน ก่อนหน้านี้ข้าได้ยอมรับตัวตนไปภายใต้การควบคุมของท่านอาสุ่ยแล้ว! เจ้าแห่งทะเลเองก็รู้ว่าพวกเราใกล้ชิดกัน และเขาก็รู้ตัวตนของท่านด้วย!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไป “ท่านพักฟื้นสักสองวัน แล้วหาโอกาสออกจากเมืองหลวงแดนเทพไปโดยเร็วจะดีกว่า!”เซียวหลินเทียนมองไปที่นาง “เจ้ามิไปห
หัวใจของเก๋อเฟิ่งฉิงจมดิ่งลงนี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนพูดกับตนชัดเจนเช่นนี้ ้เช่นนั้นก็แสดงว่าเซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วและไม่มีทางยอมรับนาง!“พี่ใหญ่ ข้า… ข้าจะมิแย่งชิงความโปรดปรานกับพี่หญิงหลิงอวี๋ ขอเพียงได้อยู่ข้างกายท่าน จะให้ข้าเป็นนางสนมข้าก็ยินดี!”เก๋อเฟิ่งฉิงทุ่มสุดตัวแล้ว ทั้งยังเอ่ยออกไปอย่างร้อนรน“ข้าจะให้ความเคารพพี่หญิงหลิงอวี๋ จะมิทำให้ท่านลำบากใจ!”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “เฟิ่งฉิง อาอวี๋เป็นคนที่มิยอมทนกับสิ่งที่ตนยอมรับมิได้! ข้ามิอยากให้เป็นเพราะเจ้าจึงเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของข้ากับอาอวี๋!”“ในเวลาเดียวกัน ข้าก็มิยินดีที่จะให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมเช่นกัน!”“เฟิ่งฉิง ข้ามองเจ้าเป็นน้องหญิงของข้า นี่คือคำพูดจากใจจริง!”“ข้าหวังว่าเจ้าจะได้พบกับบุรุษที่ดี คนที่จะปฏิบัติกับเจ้าเช่นเดียวกับที่ข้าปฏิบัติต่ออาอวี๋ คนที่จะมิยอมให้เจ้าเสียใจ และมิยอมให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมแม้เพียงเล็กน้อย!”“เฟิ่งฉิง จะต้องมีคนที่มองเห็นความดีของเจ้าแน่นอน แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องฝืนใจตนเองด้วยเล่า!”ใต้หล้านี้มีบุรุษเช่นนี้ด้วยหรือ?เก๋อเฟิ่งฉิงรู้สึกสิ้นหวัง
หานเหมยพูดทุกสิ่งที่ควรจะพูดออกไปจนหมดหลังจากที่นางออกไป เซียวหลินเทียนก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานหานเหมยพูดถูก นิสัยของหลิงอวี๋เป็นคนประเภทที่ยอมหักมิยอมงอ นางไม่มีทางยอมที่ตนจะแต่งงานกับเก๋อเฟิ่งฉิงแน่ส่วนก่อนหน้านี้เขาเองก็มิได้มีแผนที่จะแต่งงานกับเก๋อเฟิ่งฉิงเช่นกันหากว่าเพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณที่เก๋อเฟิ่งฉิงที่ช่วยชีวิตไว้แล้วต้องแต่งงานกับนาง เช่นนั้นก็ดูจะเลอะเลือนมากเกินไปดังนั้นเมื่อเก๋อเฟิ่งฉิงมาดูแลเขา เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกไปตรง ๆ “น้องหญิงเก๋อ ประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปส่งเจ้ากลับไปที่บ้านตระกูลเก๋อนะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นก็ฝืนยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “พี่ใหญ่ เป็นเพราะข้าอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้แล้วรบกวนพวกท่านใช่หรือไม่?”“ซูจู๋เด็กมิรู้ความผู้นั้น นางไปบอกกับท่านย่าของข้าว่าข้าออกไปเที่ยวเล่นกับท่าน หากจู่ ๆ กลับไปเช่นนี้ ท่านย่าของข้าจะต้องสงสัยเป็นแน่!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเรื่องนี้ก็รู้ทันทีว่าเก๋อเฟิ่งฉิงกำลังอ้าง แต่เขาก็มิอยากเปิดโปงนางเขาจึงนิ่งไปสักพักหนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “เจ้านั่งลงสิ! ข้าอยากคุยกับเจ้าสักหน่อย!”เก๋อเฟิ่งฉิงมีลางสังหรณ์ที่มิ