แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: กานเฟย
“นำนางเข้าไป!”

ถึงแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าหลิงอวี๋วันนี้ดูประหลาดไป แต่ถ้าไม่ช่วย เฮยจื่อก็คงจะตาย

เขาทำได้เพียงแค่เดิมพันกับมัน

หลิงอวี๋เหลือบมองเขา นางเดินเข้าไปอุ้มเสี่ยวเมาออกมาส่งให้แม่นมลี่พากลับไปดูแลบาดแผล

จากนั้นก็เอ่ยกับลู่หนานใบหน้าเคร่งคนนั้นว่า “เตรียมห้องสะอาดให้ข้าห้องหนึ่ง น้ำร้อน เหล้า ผ้าปูที่นอนสะอาด… เจ้า ทหารทั้งสองนาย!”

สิ่งที่เอ่ยออกมาก่อนหน้านั้นลู่หนานสามารถฟังเข้าใจได้ แต่ทหารสองคน และตนเองนั้นมันคืออะไรกัน?

หลิงอวี๋เมื่อเห็นว่าเขาดูประหลาดใจ ก็เอ่ยเสียงขรึมออกมา “ตอนที่ข้าจัดการบาดแผลให้กับเฮยจื่อนั้น ต้องการคนคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก ห้ามมิให้ใครเข้ามารบกวนข้า!”

นางมองไปยังชิวเฮ่าอย่างยั่วยุ แล้วจงใจเอ่ย “โดยเฉพาะคนบางคน ข้าเกรงว่าจะมีคนจงใจทำให้เฮยจื่อต้องตาย แล้วมาใส่ร้ายข้า!”

ชิวเฮ่าโมโหเสียจนเส้นเอ็นตรงหน้าผากกระตุกเต้น มือของเขาวางอยู่บนด้ามของดาบ เกลียดที่ไม่อาจพุ่งเข้าไปฟันหญิงผู้นี้ให้ตายได้!

เมื่อถูกคนชั้นต่ำเปิดเผยออกมาเช่นนี้ ต่อไปหากว่าเหวินซวงเข้าใกล้ท่านอ๋อง ไม่รู้ว่าจะถูกคนมากมายเท่าไหร่ที่จับจ้อง!

หญิงผู้นี้จะต้องเป็นอุปสรรคใหญ่ในการเป็นพระชายาอ๋องอี้ของน้องสาวแน่!

มิอาจปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่ต่อได้!

ชิวเหวินซวงพบว่า หลิงอวี๋วันนี้แปลกประหลาดจริง เกรงว่ายาลับของหลิงอวี๋คงจะช่วยเฮยจื่อไว้ได้จริง

ชิวเหวินซวงกลอกตา จงใจเอ่ยอย่างร้อนรน

“ท่านช่วยเฮยจื่อ ต้องการคนช่วยเหลือ ให้ข้าช่วยท่านเถิด!”

หลิงอวี๋มองนางราวกับอยากหัวเราะก็ไม่หัวเราะออกมา “แม้แต่พี่ชายของเจ้าข้าก็ยังไม่เชื่อ เจ้าก็ด้วย!”

ในที่สุดชิวเหวินซวงก็ตระหนักได้ว่า หลิงอวี๋กลัวว่าพี่ชายของนางจงใจทำลายแผนของนาง ในฐานะน้องสาวของชิวเฮ่า นางจะไว้ใจอย่างนั้นหรือ?

หลิงอวี๋ผู้นี้เปลี่ยนไปเป็นฉลาดหลักแหลมตั้งแต่เมื่อใดกัน?

ชิวเหวินซวงรู้สึกได้ถึงการคุกคามบางอย่างอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น!

เกรงว่าคนจะสงสัยตนเข้า ชิวเหวินซวงจึงรีบแก้ต่าง

“พวกเราเป็นใครท่านอ๋องรู้ดี ท่านอย่าได้ใช้ความคิดของคนเลวทรามมาตัดสินผู้อื่น!”

“ท่านมิให้พวกเราเห็นวิธีการช่วยเฮยจื่อ หรือว่าคิดจะอาศัยโอกาสนี้ฆ่าเฮยจื่อ?”

“ข้าและคนของข้าล้วนแต่อยู่ในมือท่านอ๋องของพวกเจ้า เฮยจื่อตายไป สำหรับพวกเราแล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่า?”

หลิงอวี๋ไม่คิดที่จะสนทนากับนางต่าง จ้องมองไปยังเซียวหลินเทียน “จะให้ช่วยเฮยจื่อ หรือว่าจะให้พูดพล่ามกันต่อ?”

เซียวหลินเทียนจ้องมองหลิงอวี๋อย่างดุร้าย โบกมือออกไป “ทำตามที่นางบอก...”

ลู่หนานรีบไปจัดเตรียม ไม่ถึงสิบห้านาทีก็จัดเตรียมทุกอย่างที่หลิงอวี๋ต้องการจนพร้อม

ในตอนที่หลิงอวี๋เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยนั้น ใครจะไปรู้ว่า ลู่หนานกลับเข็นเซียวหลินเทียนเข้ามาด้วย

ทันใดนั้นหลินอวี๋ก็นิ่งอึ้งตะลึง เซียวหลินเทียนตามเข้ามาด้วย แล้วตนเองจะนำอุปกรณ์การแพทย์จากห้วงเวลาออกมาได้อย่างไรกัน!

“ชิวเฮ่าห้ามเข้ามา เจ้าเกรงว่าจะจงใจทำให้เสียเรื่อง! ข้าเข้ามาจับจ้องเจ้า เจ้าคงจะไม่มีข้ออ้างอันใดแล้วใช่หรือไม่?” เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาอย่างไร้ซึ่งอารมณ์

หลิงอวี๋หมดคำจะเอ่ย ลอบยินดีที่เมื่อครู่นี้ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว

กระเป๋าที่นางพกติดกายมาด้วยนั้น ได้จัดเตรียมอุปกรณ์รักษาอย่างง่ายเอาไว้แล้ว

นางเปิดกระเป๋านำหน้ากากออกมาสวมแล้วเดินไปทางเฮยจื่อ

หลิงอวี๋เพิ่งจะเข้าใกล้ก็รู้สึกได้ความรู้สึกแน่นหน้าอกที่ร่างกายแบกรับเอาไว้ ในปากนั้นราวกับมีเลือดอุดตันอยู่ทำให้หายใจอย่างยากลำบาก

นางตกตะลึงไป สถานการณ์ของเฮยจื่อดูจะเลวร้ายเสียยิ่งกว่าของแม่นมลี่

เฮยจื่อนั้นมีอาการหายใจลำบากแล้ว มีเลือดสะสมอยู่ในช่องเยื่อบุของปอดแล้ว!

ไม่เหมือนกับเสี่ยวเมาที่สามารถบรรเทาให้ดีขึ้น เมื่อคงที่แล้วก็สามารถรักษาได้!

ไม่สามารถจัดการได้ด้วยการอาศัยเพียงไม่กี่สิ่งก็จัดการได้เหมือนครั้งก่อน!

ในสถานการณ์เช่นนี้ เฮยจื่อต้องได้รับออกซิเจน จอภาพ และการผ่าตัดอย่างทันท่วงที!

แต่เซียวหลินเทียนมองดูอย่างตั้งใจจากด้านข้าง นางจะนำเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านี้ออกมาโดยไม่ถูกสงสัยได้อย่างไร?

สมองของหลิงอวี๋ประมวลอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น นางก็นึกถึงยาสลบฤทธิ์แรงที่อยู่ในกระเป๋า

ยาสลบนี้ทำขึ้นเป็นพิเศษ สามารถทำให้ช้างสลบได้ภายในสิบวินาที…

ในใจคิดอยู่ นางก็หยิบเข็มฉีดยาออกมาแล้วเดินไปหาเซียวหลินเทียน

เซียวหลินเทียนระมัดระวังตัวมาก และไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้เขา เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋เข้ามาใกล้ เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "อย่าเข้ามาใกล้ข้า!"

“หากหม่อมฉันไม่เข้าไปใกล้ท่าน หม่อมฉันจะให้ท่านดูยาพิเศษที่ช่วยเฮยจื่อได้อย่างไร? ท่านจะต้องตรวจสอบก่อนจึงจะวางใจได้!”

หลิงอวี๋เดินเข้าไปโดยที่หน้าไม่เปลี่ยนสีพลางเอ่ยออกมา

เซียวหลินเทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นเข็มฉีดยาแปลก ๆ ในมือของหลิงอวี๋แล้ว เขาก็ควรจะตรวจสอบมันจริง ๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ไพโรจน์ ทุ่งหลวง
พระเอกมันโง่ทุกตัว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2602

    ขณะที่ฉีเต๋อกำลังยืนเฝ้าอยู่อย่างสง่าผ่าเผย จู่ ๆ เขาก็เหลือบไปเห็นสตรีผู้หนึ่งกำลังจ้องมาที่ตนมิวางตาฉีเต๋อปรายตามองไปแล้วหันไปทางอื่นอย่างมิสนใจ แต่หลังจากนั้น ฉีเต๋อกลับหันกลับมาอีกครั้ง แล้วจ้องมองสตรีผู้งดงามนางนั้นอย่างมิอยากจะเชื่อสายตาใบหน้าของสตรีผู้นั้นแย้มยิ้มละมุน และกำลังมองเขาอย่างอบอุ่นและแฝงไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู“ฮองเฮา… องค์จักรพรรดิ…”เมื่อฉีเต๋อเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋ได้ชัดเจน ต่อจากนั้นก็เห็นเซียวหลินเทียนด้วย เขาจึงมิรีรอรีบพุ่งไปคุกเข่ากลางถนนทันที น้ำเสียงเขาสะอื้นไห้ และน้ำตาไหลรินจนเต็มใบหน้าหนึ่งปีกว่าแล้ว!พวกเขาทั้งหมดต่างก็เงยหน้ารอคอยองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่ในที่สุดก็กลับมาอย่างปลอดภัยอย่างมีความหวัง!“ฮองเฮา… หนึ่งปีกว่าแล้ว บ่าวยังคิดว่าท่าน… ท่าน...”ฉีเต๋อตื้นตันเสียจนพูดมิออกเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงที่อยู่ด้านข้างก็ต่างพากันมองไปทางขันทีเสี่ยวฉีที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์รัชทายาทกำลังคำนับให้บุรุษสตรีคู่หนึ่งรู้สึกตื้นตันจนพูดมิออกเช่นกันกระทั่งองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านั้นพินิจพิจารณาหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนทันทีที่มองไป พวกเขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2601

    ภายใต้การชี้แนะของท่านลุงหลี่ หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนจึงได้เห็นชลประทานขุดใหม่ที่เรียงรายอย่างดีเป็นระเบียบ และเป็นประโยชน์ให้ราษฎรที่ทำการเกษตรได้จริง ๆทั้งสองคนพูดคุยกับครอบครัวของท่านลุงหลี่อยู่อีกสักพักใหญ่ จึงได้รู้ข่าวจากคนในครอบครัวของท่านลุงหลี่ว่าในราชสำนักมิได้เกิดเรื่องใหญ่ใด ๆ ขึ้น ทุกอย่างล้วนดำเนินไปตามแผนพัฒนาที่หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนวางไว้ก่อนหน้านี้อย่างเรียบร้อยทั้งสองคนรู้สึกปลื้มใจยิ่งนัก จากนั้นก็กล่าวลาครอบครัวท่านลุงหลี่ และจ่ายเงินซื้อม้าสองตัวกลับเมืองหลวง“ข้ามิคาดคิดเลยจริง ๆ ว่าในราชสำนักจะสงบสุขเช่นนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกก่อนหน้านี้เพื่อที่จะแย่งชิงบัลลังก์กัน เหล่าองค์ชายต่างก็วางแผนหลอกลวงกัน และต่อสู้กันเองภายในเดิมทีเซียวหลินเทียนคิดว่า เมื่อตนและหลิงอวี๋มิอยู่ในราชสำนัก อาศัยท่านอดีตเสนาบดีและท่านอ๋องเฉิงก็คงมิอาจควบคุมพวกคนชั่วร้ายเหล่านั้นได้ไหนเลยจะคิดว่าแม้ตนจะมิอยู่ ในราชสำนักก็สามารถสงบเรียบร้อยได้เช่นกันหลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกไป “แม้ใจคนจะยากแท้หยั่งถึง แต่พวกเราก็ต้องเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เป็นคนใจดีเพคะ ดังเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2600

    เมื่อได้ยินหลิงอวี๋เอ่ยถามเช่นนั้น ลูกสะใภ้ของท่านลุงหลี่ซึ่งเป็นสตรีซื่อ ๆ คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้พร้อมทั้งเอ่ยถามว่า “น้องหญิง เจ้าเลี้ยงวัวเลี้ยงแกะเป็นหรือไม่?”“เย็บปักถักร้อยเล่า เป็นหรือไม่?”“หมู่บ้านตระกูลหลี่ของพวกเรามีโรงงานอยู่หลายแห่งทีเดียว ทั้งหมดล้วนเหมาะให้สตรีไปทำงานทั้งนั้น!”“ขอเพียงเจ้ามิเกียจคร้านและขยันทำงาน มินานก็จะมีชีวิตอยู่อย่างราบรื่นในหมู่บ้านตระกูลหลี่แน่นอน!”ลูกชายของท่านลุงหลี่ก็เข้ามาเช่นกัน เขาเอ่ยก็กับเซียวหลินเทียนว่า “ดูเจ้าท่าทางมีการศึกษา หากทำไร่นามิไหว ขอเพียงรู้ตำรา ข้าก็สามารถแนะนำเจ้าให้ไปเป็นครูที่หออักษรในหมู่บ้านได้นะ!”เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ตกตะลึง เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนตนเคยมาหมู่บ้านตระกูลหลี่ หมู่บ้านนี้ไม่มีแม้แต่หออักษรเนื่องด้วยความยากจนข้นแค้นนี่เขาเพิ่งจากไปเพียงปีกว่า ไหนจึงจัดตั้งหออักษรได้แล้วเล่า?“ท่านลุง ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยมาที่นี่ หมู่บ้านของพวกท่านแร้นแค้นยิ่ง แค่จะมีกินให้อิ่มท้องก็ยังเป็นปัญหา แล้วไหนมิได้มาสักพักใหญ่ เหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงไปมากถึงเพียงนี้หรือ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามออกไปอย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2599

    สิบสองนักษัตร สิบสองประตู หากด้านในมีความรู้ที่ล้ำสมัยทั้งหมด เช่นนั้นเมื่อเรียนรู้และนำมาใช้อย่างถูกทางก็สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติได้แต่หากพบเจอคนเช่นอูอวี๋หลานหรือหลงหมิง เมื่อคนเช่นนั้นได้เรียนรู้แล้วก็อาจกลายเป็นหายนะต่อผู้คนในใต้หล้าได้!การที่เจ้าของตำหนักใต้ดินตั้งนาฬิกาทรายเอาไว้ บางทีอาจจะเป็นเพราะคิดว่าในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ คนที่มีวาสนาได้เข้ามาในตำหนักใต้ดินสามารถเรียนรู้ได้เท่าใดก็ตามนั้นไปเถิด!หลิงอวี๋คิดถึงขั้นที่ว่า บางทีการจะได้เรียนรู้สิ่งใด ก็อาจขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคนด้วย“พวกเรากลับกันเถิดเพคะ!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิอยากจากตำหนักใต้ดินไปเช่นนี้ แต่นางก็รู้ดีว่าโชคชะตาของตนและเซียวหลินเทียนกับตำหนักใต้ดินได้สิ้นสุดลงแล้วต่อให้พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อและใช้ความพยายามอย่างหนัก ก็มิอาจเปิดประตูบานนี้ได้หากตำหนักใต้ดินแห่งนี้ยังมีโอกาสในการเปิดครั้งสุดท้าย ก็ให้เป็นโอกาสของผู้มีวาสนาคนอื่นเถิด!“ไปกันเถิด!”ภายใต้คำชี้แนะของหลิงอวี๋นั้นทำให้เซียวหลินเทียนคิดได้เช่นกัน เขาจึงจูงมือหลิงอวี๋ แล้วทั้งสองก็เดินลงจากภูเขาไปด้วยกัน“อาอวี๋ เจ้าคิดว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2598

    “เซียวหลินเทียน เมื่อครู่ท่านบอกว่าเห็นว่ามีคนเข้าไป ท่านรู้ได้อย่างไร?”เดิมทีหลิงอวี๋ยังคิดว่าตนกับเซียวหลินเทียนคือคนแรกที่เข้าไปในตำหนักนี้ มิคาดคิดว่าจะมีคนเข้าไปก่อนหน้าแล้วทันใดนั้น นางก็นึกถึงก้อนหินลึกลับก้อนนั้นของอูอวี๋หลาน หรือว่าก่อนหน้านี้อูอวี๋หลานจะเคยเข้ามา?ภายในห้องที่ตนเข้าไปมิพบหินเช่นนั้น บางทีเซียวหลินเทียนอาจจะพบหรือ?“ศพหนึ่งศพ!”“ศพ?”หลิงอวี๋ตกใจจนเอ่ยออกไปโดยมิรู้ตัว “เช่นนั้นก็แสดงว่ามีคนเคยเข้ามาก่อนหน้าเราจริง ๆ หรือ?”“เขาตายอย่างไรเพคะ? หรือว่าเพราะอยู่เกินเวลาจนออกมามิได้ จึงถูกขังอยู่ด้านในจนตาย?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วแล้วตอบออกไป “ข้าตรวจดูแล้ว เป็นศพบุรุษ ใบหน้าดำคล้ำ ดูจากลักษณะแล้วถูกพิษจนตาย!”“แต่ร่างกายของเขาคงสภาพดีมาก น่าจะเป็นดังที่เจ้าว่า เป็นเพราะอากาศที่พิเศษภายในตำหนักจึงเป็นเช่นนั้น!”เซียวหลินเทียนพูดแล้วก็หยิบแหวนพระสุเมรุและหยกที่นำมาจากศพยื่นให้หลิงอวี๋“เมื่อครู่ตอนอยู่ด้านในข้าไม่มีเวลาตรวจดูให้ละเอียด เจ้าลองดูหยกนี้ที บนหยกสลักมังกรไว้ด้วย!”“หรือว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลหลง?”หลิงอวี๋รับหยกมา จี้หยกทำมาจากหยกเนื้อด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2597

    หลิงอวี๋สงบจิตใจแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวทั้งเจ็ดก็เห็นว่าดวงดาวทั้งเจ็ดนั้นประเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเรียงแถวกัน ประเดี๋ยวก็เคลื่อนไหวอีกในตอนนี้หลิงอวี๋ยังมิสามารถเข้าใจความหมายของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังคงพยายามจดจำรูปแบบการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างเต็มที่กระทั่งดวงดาวทั้งเจ็ดมิเปลี่ยนแปลงแล้ว หลิงอวี๋จึงได้พบว่าเวลาผ่านไปมากแล้วนางจึงรีบวิ่งออกมาแล้วเข้าไปในประตูปีกุนภายในห้องนี้มีเมล็ดพันธุ์วางอยู่จำนวนมากและมีหลากหลายชนิด​ ทำให้คนที่มิคุ้นเคยด้านการเกษตรนักเช่นหลิงอวี๋มิสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเมล็ดอะไรบ้างแต่นางก็มิได้สนใจแล้วเช่นกัน นางคว้าเมล็ดเหล่านั้นหลายกำใส่ไปในกระเป๋าเดิมทีนางคิดจะเก็บเข้าไปในมิติ แต่นางพบว่าในตำหนักใต้ดินนี้มิสามารถใช้มิติได้นางรู้สึกกังวลขึ้นมา​ นี่น่าจะเป็นเขตกำบังที่เจ้าของตำหนักติดตั้งไว้กระมัง มิฉะนั้นด้วยหยกหล้าสุขาวดีในตัวของตน ก็เพียงพอที่จะย้ายตำหนักใต้ดินแห่งนี้เข้าไปได้เลยทีเดียวเมื่อหลิงอวี๋กำลังจะไปสำรวจประตูที่สาม ในนาฬิกาทรายก็เหลือทรายอยู่เพียงเล็กน้อยแล้วหลิงอวี๋รู้สึกค่อนข้างเสียดาย จึงรีบเปิดประตูมะแมเข้าไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status