ฉันเดินมาที่ห้องตัวเองพอเดินมาถึงก็เห็นกลุ่มเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง เพื่อนฉันมี มีอยู่ 6 คน มีคุณแม่สามคน คือ ใบหยก เจมมี่ แล้วก็น้ำส้ม ส่วนผู้หญิงก็มี แพรไหม เฟรม แล้วก็แพท เอาจริงๆ ก็สนิททั้งห้องแหละ แต่นี่คือสนิทมากๆ พอฉันเดินเข้ามาไอ้ใบหยกก็รีบลุกขึ้นและพูดขึ้นมา
“ทุกคนคะ ได้โปรดลุกขึ้นยืนเพื่อนต้อนรับหัวหน้าห้องสุดสวยแสนสตรองและชอบท้าชน ปรบมือต้อนรับคุณหนูมิลินท์ค่ะ” แปะ แปะ แปะ!! ฉันหัวเราะก่อนจะเอากระเป๋ามาวางไว้ที่โต๊ะตัวเองและฉันนั่งกับไอ้ฟร้อนเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปมองพวกมันและถามออกไปแบบงงๆ “ใครบอกว่ากูจะเป็นหัวหน้าห้องคะแม่” “กูไงคะ และก็เพื่อนทุกคน มา เมื่อครบองค์ประชุมตั้งเตาเลยจ่ะ วันนี้กูรู้มาว่ามีนักเรียนจะเข้ามาห้องเราสามคน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน” “อิมิมึงฟังก่อนสิ เอาสติ๊กเกอร์มาแปะสมุดอีกละ” ฉันเงยหน้ามองไอ้น้ำส้มก่อนจะหัวเราะก่อนจะเอามือเท้าคางและถามมันกลับไปแบบงงๆ “หึหึ มึงก็พูดมาสิแม่ หูก็ได้ยินอยู่” “อิหยก มึงเก็บๆ แล้วมึงตั้งใจฟังนะแม่ กูจะบอกว่าผู้ชายหนึ่งในสองคนที่จะมาอยู่ห้องเรามีรอยสักภาษาอังกฤษตรงคอแล้วก็ตรงต้นแขน มึงจำได้บ้างยัง คิดสิแม่” ฉันส่ายหน้าหลังเพื่อนฉันพากันหันมาถาม แล้วฉันจะรู้จักใครได้วะ “ใครล่ะ กูจะรู้ได้ไงล่ะแม่” “โอ๊ย ขัดใจค่ะ ก็เซทท์ไง” เอาล่ะ คิ้วขมวดเข้ากันมากขึ้นกว่าเดิม แค่รูปลักษณ์ยังคิดหนักนี่มาถามเหมือนฉันเคยเจออะ แต่ก็มั่นใจว่าไม่นะ “ใครคือเซทท์” “ก็หลานชายครูประพันธ์ที่สอนวิทยาศาสตร์ไงคะ” “คิกๆ คนที่มึงเหยียบเท้าเค้าวันที่เค้ามาแข่งกีฬาที่โรงเรียนเราอะ” “อ๋อ แล้วพูดให้ครบค่ะ นายนั่นเหยียบเท้ากูแล้วไม่ขอโทษกูก่อน กูเลยทักทายตามมารยาท” “ไอ้สัสเอ๊ย หรรษาแน่มึงงานนี้” “แล้วทำอยู่ๆ เค้าถึงย้ายมาวะ โรงเรียนนั้นก็เหมือนโรงเรียนเรานะ แล้วเค้าก็สร้างชื่อให้โรงเรียนด้วย” “เออ นั่นดิ” “กูได้ยินว่าเค้าเน้นไปทางกีฬาซะเยอะ ไม่ค่อยส่งงาน ครูประพันธ์เลยเป็นห่วง เค้าเลยให้หลานมาอยู่นี่” “ไปข้างล่างกันเถอะ ช่างเรื่องนายนี่เถอะค่ะ” “แต่กูเชื่อว่ามาที่นี่งานเค้าครบทุกชิ้นแน่ๆ” “เออ เพราะหัวหน้ากูคือตัวตึงค่ะ” ฉันยืนขึ้นก่อนจะเก็บของเข้าลิ้นชักใต้โต๊ะของตัวเองก่อนจะตอบเพื่อนตัวเองกลับไปตามที่คิด “แล้วแต่เวรแต่กรรมเถอะค่ะ กูทวงถ้านายนั่นไม่ส่งก็แล้วแต่เค้าค่ะ” “จ้า หนูจะรอดูจ้า” “เนาะๆ เปิดเรื่องมากัดกันอย่าให้จบแบบหวานเวอร์นะคะแม่ เดี๋ยวพวกหนูจะเป็นเบาหวานเอา” “ไอ้เพื่อนบ้า ไปค่ะ move” “จ้า!!” ฉันเดินลงมาด้านล่างหาซื้อขนมกินกับเพื่อน สักพักก็ได้ยินสัญญาณให้ไปเข้าแถว เลยพากันเดินมาที่ลานกิจกรรม แต่ดีหน่อยมันเป็นเข้าแถวในโดมใหญ่ๆ มีหลังคา แดดเลยไม่โดน ลมก็พัดเย็นๆ อือหื้อ บรรยากาศดีมาก แล้วโรงเรียนฉันเหมือนอยู่ในซีรีส์เลยอะ คือต้นไม้เยอะมากๆ ร่มรื่นแบบสุดๆ ฉันชอบบรรยากาศที่โรงเรียนตัวเองมาก เหมือนอยู่ต่างประเทศเลยอะ พื้นที่สีเขียวเยอะมากๆ โรงเรียนฉันได้รางวัลเรื่องนี้ด้วยนะเธอ ฉันยืนกอดอกแล้วก็คุยกับเพื่อนในห้องที่แถวอยู่สักพักเพื่อนฉันที่ยืนอยู่ข้างหลังก็สะกิดแล้วก็ดึงเสื้อนักเรียนฉันหลายรอบมากพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “มิลินท์ มิลินท์ มึงหันมา” “ทำไม มีอะไร” “เซทท์มาแล้วมึง” “อิเชี้ย ออร่าผัวมากแม่ ผมก็ผัว ตาก็ผัว เบ้าหน้าก็ผัว ส่วนสูงก็ผัว ผิวก็ผัว รอยสักก็โคตรจะผัว อิสัสเอ๊ย ผัวทุกตรงเอาปากกามาวงก็ไม่พอ” “อิสัส กูชอบๆ เดี๋ยววันนี้กูจะโพสต์” “เครดิตด้วยค่ะ” “จ้า อิคนขี้หวง” “เออ ช่างเค้าเถอะ” ฉันกอดแล้วก็ตอบไอ้พวกนี้กลับไปแบบไม่ใส่ใจ แต่เพื่อนในห้องก็คือตื่นเต้นกันไม่หยุด เพื่อนใหม่อะเนาะ แต่พรุ่งนี้ก็เพื่อนเก่าแล้วปะ ตื่นเต้นอะไรกัน “มึง แต่เค้าดีมาก อร้าย อย่าทำหน้างอสิมึง ต้องยิ้มให้เค้า งานดีขนาดนี้มาหน้างออะไร เดี๋ยวแม่จะตีนะ” “อิหยก ยืนดีๆ เก็บอาการด้วย มึงดูหน้าจะกินหัวอยู่แล้วมั้ง” “หัวใจเหรอแม่” “หัวกูนี่แหละ” “พรืดด เราควรตั้งคณะนะเอาจริง” “กูเห็นด้วย โบ๊ะบะทุกดอก” “ไอ้พวกบ้าเอ๊ย ยืนดีๆ เลย” “จ้า!” Part เซทท์ “อืม วันแรกก็สายซะแล้วกู” ผมขับรถสปอร์ตสีแดงเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของโรงเรียน อ๋อ สวัสดีครับ ผมเซทท์ ชนรพ ปุญญธาราทรัพย์ ผมเป็นลูกชายคนเล็ก มีพี่ชายสองคนแรกชื่อ เซ้นต์ อายุ 31 ส่วนคนที่สองชื่อ ซัน อายุ 27 ปี อายุห่างจากผมมากๆ เหมือนผมลูกหลงอะแหละ ไม่เชื่อก็ดูชื่อจริงผมดิ ไม่ชนะตรงไหน ตอนนี้ผมอายุ 17 ปี ตอนนี้ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเอกชน CC ส่วนสูงของผม 189 น้ำหนัก 69 คือพ่อแม่ผมสูง อีกอย่างผมชอบเล่นกีฬามากๆ วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ว่ายน้ำ คือกีฬาทุกชนิดผมเล่นหมด บวกกับกินนมแล้วก็พวกอาหารเสริมที่แม่ผมบำรุงด้วยแหละส่วนสูงมันเลยพุ่งขึ้นมา ส่วนรายได้ของผม ตอนนี้ผมแข่งรถ แมตช์หนึ่งค่าเดิมพันมันก็มากน้อยต่างกันออกไป แต่ผมมีสนามแข่งเป็นของตัวเอง จัดแข่งบ้าง คนมายืมจัดง่ายต่างๆ บ้าง แต่ตอนนี้พี่ชายผมช่วยดูแลอยู่ เพราะเอาจริงๆ ผมก็ยังเด็กเกิน ถึงแม้จะเป็นงานแต่เราประสบการณ์ก็ยังน้อยในส่วนของธุรกิจ ทุกครั้งแต่มีคนมาใช้สถานที่ก็แบ่งรายได้กันไป รายของผมก็มาจากตรงนี้แล้วก็มีของพ่อกับแม่และพี่ชายทั้งสองคนให้ค่าขนมเป็นรายเดือน โอนตรงเข้าบัญชี พ่อผมเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดพิจิตรนี่แหละแล้วก็ยังมีอีกหลายสาขาอยู่ในจังหวัดใกล้เคียง ส่วนพี่ชายคนโตก็เป็นหมอแล้วก็คงรับช่วงต่อ ส่วนผมกับพี่คนที่สองก็มีหุ้นส่วนอยู่ในนั้นแล้วก็ได้เงินปันผลทุกปี ส่วนพี่คนที่สองเค้าก็ทำธุรกิจนำเข้าแล้วก็ส่งออกพวกอาหารแล้วก็ผลไม้ เงินในบัญชีตอนนี้กับสมบัติที่ทางครอบครัวให้มาก็ถือว่าผมไม่ต้องทำอะไรก็ไม่ลำบากแล้วก็ซื้อของที่ชอบได้แบบสบายๆ แต่ผมไม่ได้คิดจะเอาเงินตรงนี้มาใช้ เอาไว้ใช้กับอะไรที่มันสำคัญจริงๆ ตอนนี้ผมซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้โรงเรียนเอาไว้ห้องหนึ่ง เพราะบ้านใหญ่ผมอยู่ไกลมากพอสมควรขับรถไปกลับก็ไม่ไหว แล้วผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับ หรือมาสั่งให้ทำนู่นทำนี่อะไรแบบนั้นอะ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ทำ ถ้าชอบก็ทำเอง เพราะแบบนี้แหละมั้งลุงของผมเลยเป็นห่วง คือผมไม่ได้ชอบเรียนขนาดนั้นอะ ชอบเล่นกีฬาแล้วก็แข่งรถมากกว่า เค้าเลยปรึกษากันให้ผมมาเรียนที่นี่ “โทษนะครับ แถวของห้อง ม.5/2 อยู่ตรงไหนเหรอครับ” “อ๋อ เดี๋ยวพาเดินไปส่งค่ะ” “บอกก็พอครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ เต็มใจ” “ครับ” พอเดินมาถึงเพื่อนในแถวแล้วก็รอบข้างต่างก็ทักทายแล้วก็ยิ้มให้ ผมก็แค่ก้มศีรษะเป็นการทักทายแต่ก็ไม่ได้ยิ้มอะไรหรอก แต่ก็คุยกับเพื่อนผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน ผู้ชายอะเนาะ คุยกันง่าย ผมกอดอกแล้วก็มองไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังคุยกับเพื่อนในแถว มันคุ้นมากนะ ตัวขาวๆ ผมตรง ผมสวยเลยแหละสีดำยาวลงมาถึงเอว กระโปรงก็เลยเข่าขึ้นไป แล้วจังหวะหันมาเท่านั้นแหละ แม่งใช่เลย ยัยฟันเหล็ก ยัยผู้หญิงตัวสั้นที่เคยมาเหยียบเท้าผมนี่แหละ แล้วตอนนี้ยัยนั่นมองมาที่ผมนิ่งๆ ถ้าเอามีดปาดคอผมได้ยัยนี่คงทำไปแล้วมั้ง “เฮ้อ กว่าจะจบกิจกรรมหน้าเสาธง ขนาดว่าโรงเรียนเราร่มรื่นแม่งยังร้อนขนาดนี้เลยเนาะ” “จริงมึง พอมาเจอแอร์แบบนี้ค่อยเริ่ดหน่อย” ฉันสะกิดเพื่อนจากนั้นก็ทำกิจกรรมหน้าเสาธงพอทำกิจกรรมเรียบร้อยก็พากันแยกย้ายเข้าห้อง ฉันก็เดินเข้าห้องมานั่งที่ของตัวเอง แล้วเพื่อนๆ ก็ทยอยเดินเข้ามา พอฉันเห็นอาจารย์ที่ปรึกษาจะเดินเข้ามาเลยหันมาบอกเพื่อนทุกคนที่ลุกขึ้นแล้วก็พูดคุยกัน มันก็ธรรมดาสำหรับการเปิดเทอมนั่นแหละ “เฮ้ยๆ! นั่งที่ๆ! ครูมาแล้ว” ผมแล้วก็เพื่อนอีกสองคนเดินตามอาจารย์เข้ามาในห้อง พอเข้ามาอาจารย์ก็เริ่มพูดกับนักเรียนที่นั่งกันอยู่ในห้อง “อะๆ น่ารักมากจ่ะ เด็กน้อยที่น่ารักของครู วันนี้ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำ อะ เราเริ่มแนะนำตัวกันเลยลูก” “สวัสดีค่ะ ชื่อฟางนะคะ” “สวัสดีครับ กวินครับ” “สวัสดีครับ เซทท์ครับ” “โอเค จ่ะ เดี๋ยวเราทำความรู้จักกันเพิ่มเติมเนาะ แพรไหมลูก” “คะครู” “เราเปลี่ยนที่นั่งได้ไหมลูก ครูจะให้เซทท์ไปนั่งกับมิลินท์ อ๋อ นั่นมิลินท์นะจ๊ะ เป็นหัวหน้าห้องและช่วยครูดูแลพวกเรา ใครมีอะไรบอกกับมิลินท์ได้เลยนะ มิลินท์ครูฝากดูแลเซทท์ด้วยนะ ดูแลเป็นพิเศษเลยนะจ๊ะ ครูประพันธ์ขอมา ส่วนแพรไหมเดี๋ยวนั่งคู่กับฟางนะลูก ส่วนกวินเด็กๆ พาเพื่อนไปนั่งด้วยลูก กระปรี้กระเปร่ากันหน่อยจ่ะเด็กๆ ที่น่ารักของครูแนน กินยานอนหลับกันมาตอนเช้าหรือเปล่าคะเนี่ย” “คิกๆ” “กวินนั่งกับเราก็ได้” “เราก็ได้นะ” อือหื้อ ฟ้าถล่มใส่ฉันจริงๆ อะ ทำไมวะ ตอนนี้ไอ้แพรก็กำลังเก็บของแล้วย้ายไปนั่งกับเพื่อนใหม่ แล้วตอนนี้นายนั่นก็เดินมาแล้วนั่งลงข้างๆ ฉัน ฉันเลยขยับเก้าอี้ออกมาจากเขา เพราะตอนที่นั่งกับไอ้แพรคือนั่งเกือบจะสิงกันได้นั่นแหละ แต่ ครืดด “นี่ อย่ามายุ่งกับฉัน” “ทำไม เธอเป็นเทพเจ้าเหรอ” ผมถามยัยตัวแล้วก็ดึงเก้าอี้ยัยนี่กลับมา เพราะแม่งทำเหมือนผมเป็นเชื้อโรคอะ แล้วพอยัยนี่ตอบมาเท่านั้นแหละอยากจะเตะให้ลอยออกไปนอกห้อง แล้วแม่งไม่รู้คนหรือหลอดไฟ ในห้องนี้ยัยนี่แม่งขาวสุดอะ ผมว่าขาวแล้วนะ มาเทียบกับยัยนี่ผมหมองขึ้นมาเลย “ฉันไม่ชอบหน้านาย” “ฉันชอบหน้ากลมๆ ของเธอมากมั้ง” “เอาแล้วเว้ยอิหยก” “คริคริ อะไรคะแม่” “มึงรอดูเลย เพื่อนกูได้สลัดความโสดแน่ๆ” “อะ ทุกคนคะ เดี๋ยวครูจะจับบัดดี้ให้เหมือนเดิมนะคะ ใครคู่ใครก็กติกาเดิม ดูแลกันและกัน ช่วยเหลือกันนะคะ และหากใครคนใดคนหนึ่งถูกลงโทษคนนั้นต้องโดนด้วย ลุ้นในไลน์ห้องเรานะคะ “ “ค่ะ” “ครับ” ฉันกับเพื่อนทุกคนตอนนี้กำลังจะมองจอมือถือแต่ยังดูได้ไม่กี่คนไอ้บ้าที่นั่งข้างๆ ก็ดึงโทรศัพท์ฉันไป มารยาทมันกวนมากนะ ฉันเลยหันไปแย่งโทรศัพท์คืน “นี่ เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา” “ไม่ ฉันดูด้วยสิ ฉันยังไม่มีไลน์ห้องปะ หน้าที่นี้มันของเธอนะ หัวหน้าห้องไม่ใช่เหรอเธออะ” “อร้ายย!!” “งื้ออ” ผมกำลังเถียงกับยัยตัวแสบแล้วใช้มือจับแขนยัยนี่ไว้สักพักก็ได้ยินเสียงเพื่อนเหมือนกรี๊ดออกมาเลยหยุดแล้วได้ยินยัยตัวแสบหันไปถามเพื่อนด้านหลัง “มีอะไรวะ” “มึงดูคู่บัดดี้สิแม่” ฉันขมวดคิ้วก่อนจะหันมามองคนตัวสูงก่อนจะบอกเขาออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เอาโทรศัพท์มาวางตรงนี้ ด่วนๆ” ผมมองยัยตัวแสบที่ตอนนี้หน้างอมากอะ ถ้าลงแข่งความหน้างอกับปลาทูก็ชนะปลาทูแน่ๆ ผมเอาโทรศัพท์วางแล้วพอดูไปที่หน้าจอก็เห็นว่าผมเป็นบัดดี้กับคนชื่อมิลินท์ มิลินท์เหรอ ฮึ แบบนี้จะจัดให้หนัก ตำแหน่งเยอะเหลือเกิน พอยัยนี่เห็นก็รีบเรียกครูที่ปรึกษาขึ้นมา “คุณครูคะ” “หึหึ ไม่มีการเปลี่ยนคู่นะจ๊ะ เพราะหลักฐานครูมี ฝากดูแลเพื่อนด้วยนะจ๊ะลูกสาวคนสวยของคุณครู เซทท์ถ้ามีอะไรบอกมิลินท์ได้เลยนะลูก” “ครับ” “เอาล่ะจ่ะ วันนี้เราเจอกันแค่นี้ก่อนเนาะ ขอให้ลูกศิษย์ที่น่ารักของครูมีความสุขตลอดปีการศึกษานี้เลยนะจ๊ะ ที่สำคัญคอยดูแลกันและกันนะลูก อ๋อ มิลินท์ เราลืมทำความเคารพกันค่ะลูกสาว” “นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพคุณครูแนนที่เราเคารพรักมากที่สุดในดวงใจพร้อมกันค่ะ” “คริคริ สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ ฮ่า” “หึหึ ไอ้แสบ”12.40 นาที“มิลินท์ ครูประพันธ์เรียกพบน่ะ”ฉันที่กำลังนั่งกินขนมกับเพื่อนอยู่ที่โซนพักผ่อนของโรงเรียนแล้วก็นั่งเมาส์เรื่องทั่วไป สักพักเพื่อนต่างห้องก็วิ่งมาตาม ฉันเลยขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้น“ขอบใจนะ แล้วไปที่ไหนล่ะ ห้องพักครูเหรอ”“เปล่าๆ ที่ศูนย์อาหาร”“อ๋อ อะเค พวกมึงรอกูอยู่นี่ก็ได้”“ไม่เป็นไร ไปด้วยกัน เดี๋ยวกูนั่งรอ โต๊ะเก้าอี้เรามีเยอะแยะ”“เคๆ”ตู้มมมม!!“เชี้ย ไอ้เซทท์ มึงว่ายเร็วฉิบหาย”ผมว่ายน้ำไปกลับ 500 เมตร จากนั้นก็ถอดแว่านตาแล้วตอบรุ่นพี่ในชมรมกีฬากลับไปแบบปกติ อ๋อ แล้วพอครูชูศักดิ์เค้าผู้ว่าผมย้ายมานี่เลยทาบทามให้มาอยู่ชมรมกีฬาด้วยกัน ผมก็ตอบรับครูเค้า เพราะผมก็ชอบอยู่แล้ว และตอนนี้ผมก็สนิทกับรุ่นพี่รุ่นน้องทุกคนเรียบร้อยแล้ว มันผู้ชายด้วยกันแล้วก็คุยกันไม่ยากอะ“อือ นี่ความเร็วปกติ ถ้าให้ว่ายเร็วกว่านี้ก็ทำได้”“เชี้ยย แล้วมึงเล่นได้ทุกกีฬาเลยเหรอวะ”“อืม จำความได้ก็แข่งกีฬามาตลอด”“โคตรสุด กูว่าแล้วทำไมมึงแม่งชำนาญขนาดนี้”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะตอบเพื่อนในชมรมกลับไปพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก“ไม่ขนาดนั้นหรอก ไอ้ที่แพ้ก็มี ใครจะชนะทุกครั้งที่ลง”“แล้วถ้ามึงต้องแข่งกับโรงเรียน
1 อาทิตย์ต่อมา “เซทท์ มายแมพวิชาภาษาไทยที่อาจารย์เขาให้ทำอยู่ไหน เอามา จะรวบรวมเอาไปส่งแล้ว” “ไม่มี” ฉันกำลังนั่งเรียงเลขที่ใบงานให้คุณครูพอได้ยินไอ้บ้านี่ตอบมาเท่านั้นแหละแม่ แล้วเป็นแบบนี้แทบจะทุกวิชา คือทุกวิชาเลยดีกว่ายกเว้นวิชาพละ ทำไมมันไม่ไปเรียนโรงเรียนกีฬาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ “นายไม่คิดจะเปลี่ยนคำตอบบ้างหรือไงห๊ะ เย็นนี้กลับไปทำแล้วพรุ่งนี้เอามาให้ฉันด้วย ฉันจะตามส่งให้” ผมหันไปทางยัยตัวแสบที่ตอนนี้หน้าบูดไปหมด แต่ผมก็ไม่ชอบจริงๆ อะ เรียนรู้เรื่องแล้วทำไมต้องให้ทำอะไรที่มันเยอะแยะด้วยวะ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ส่ง” “ไอ้เซทท์!” “อะไร อย่านะเว้ย” ฉันตวัดสายตาไปมองไอ้บ้านี่แบบเหลืออด ตอนนี้ฉันอยากจะเอามือควักลูกตามันออกมาแล้วโยนลูกตามันขึ้นไปหลังคาอาคารเรียนจริงๆ “มิๆ ใบตอง ดอกไม้สด อุปกรณ์สำหรับทำพานมาครบแล้วค่ะสาว” “เออๆ พวกผู้ชาย เดี๋ยวช่วยกันดันโต๊ะไปไว้รอบห้องนะ จะใช้พื้นที่กลางห้องทำพานไหว้ครู เดี๋ยวกูเอางานไปส่งครูก่อนแล้วจะกลับมาเลือกคนถือพาน” “เคๆ” “คิกๆ มึง เราต้องล็อกมง มึงไปบอกเพื่อนให้เลือกเซทท์ถือพานคู่กับไอ้มิ เพราะฝั่งผู้หญิงยังไงก็คุณมิลินท์ของกูอยู่ละ
“มันบ้าหรือเปล่าวะน่ะ” ฉันบ่นพึมพำออกมาแล้วก็เก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วจากนั้นกลุ่มเพื่อนฉันแล้วก็เพื่อนผู้หญิงในห้องก็เริ่มล้อขึ้นมา “งู้ยยย ฝากซื้อของแล้วไม่ต้องจ่ายเงินแบบนี้ได้เหรอคะสาว” “อือ ถ้าเป็นแฟนก็คงได้ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมันคืออะไรเหรอแม่ เฟื่อนปะ” “พวกมึงหยุดเลยค่ะสาว มันก็อาจจะนิสัยรวยไง” “วงเล็บ กับมึงคนเดียวค่ะสาว ฮัลโหล” “หยุดฮัลโหล อย่าเพิ่งฮัลโหลค่ะ พวกมึงก็เห็นว่าไอ้นั่นมันบ้า วันๆ กินยาครบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยาหมดแล้วมั้ง อาการแม่งถึงขาดๆ เกินๆ” “ฮ่าๆ ไอ้สัสเอ๊ย” “เออ น้ำกูเกือบพุ่ง มันควรเป็นโมเมนต์หวานๆ ปะ” “มิๆ เปิดเพลงนะ” “เออๆ เปิดเลย ประตูมันเป็นกระจกอยู่แล้วปิดไว้แบบนั้นแหละ” “เค” ผมซื้อของเสร็จเรียบร้อยก็ถือขนมขึ้นมาบนห้องแล้วก็เดินเข้ามาหายัยตัวแสบแล้วก็นั่งลงข้างๆ และส่งถุงของให้ยัยนี่ไป “นี่นายไปเหมาศูนย์อาหารมาเหรอวะ” “ฉันหิวปะ เอาไป จะได้หยุดพูด” ฉันมองถุงของที่ไอ้บ้านี่มันซื้อมา แม่ง 2 ถุงใหญ่ๆ มันไม่คิดจะไปไหนแล้วมั้ง ฉันรับถุงของมาแล้วก็หยิบเบอร์เกอร์ขึ้นมา แล้วมันกำลังร้อนๆ ผักก็สด งื้ออ มันดีมาก เพราะโรงเรียนฉันเค้าทำแบบสดๆ แล้วเนื้อคือหนา
ปั้ง! ปั้ง!อืม ไม่ใช่เสียงอะไรหรอก เสียงไอ้บ้านั่นแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ที่ตอนนี้กำลังตบวอลเลย์กันแบบเมามันส์ ฉันถอนหายใจก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วก็เปิดหนังดูจากนั้นก็หยิบขนมมันฝรั่งห่อใหญ่ที่ซื้อมาขึ้นมากินปี๊ด!“พักก่อนๆ”“เชี้ยเซทท์ มึงเสริฟ์ลูกแรงฉิบหาย”ผมเท้าเอวพร้อมกับพยักหน้าแล้วตอบทุกคนที่เล่นด้วยกันออกไป“อืม มันเป็นต่อเวลาลงแข่ง ส่วนมากคนที่ไม่แข็งจริงๆ รับลูกเสริฟ์ความแรงขนาดนี้ไม่ได้ อีกอย่างเอาไว้ใช้เสริฟ์แบบจี้ พวกมึงเพิ่มแรงทุกครั้งที่ซ้อมเดี๋ยวแรงก็ถึง”“แหม่ ครูชู ยิ้มไม่หุบเลยนะ”“นั่นดิ ครูไม่เก็บอาการเลยนะ”“หึหึ นี่พยายามเก็บอย่างที่สุดแล้วเว้ย”“อือหื้อ นี่ขนาดว่าเก็บแล้วนะ”ผมยิ้มมุมปากก่อนจะมองที่ครูชูศักดิ์แล้วยิ้มให้ท่าน เพราะปีที่แล้วที่ผมมาแข่งกับที่นี่ผมก็ชนะแล้วก็ได้แชมป์ไป“งั้นเดี๋ยวพวกเราพักกันก่อน ไปนั่งกินน้ำนั่งกินขนม เดี๋ยวครูจะลองให้ผู้หญิงเล่นบ้าง”“ครับครู”“เซทท์”ผมหันมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาก็น่ารักอยู่นะ แต่ดูท่าทางจะเรียบร้อยมากอะ ใส่ชุดกีฬาของทางโรงเรียนแสดงว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกัน“ว่า”“น้ำไ
ผมจับมือยัยตัวแสบแล้วก็พากันเดินลัดเลาะมาที่ลานจอดรถสำหรับรถจักรยานยนต์ แล้ววันนี้ผมเอาลูกชายคนล่าสุดของผมมา เป็นรถบิ๊กไบค์ ของแบรนด์หนึ่งที่ตัวย่อคือตัว H รุ่น NEW CBR1000RR-R SP 30th Anniversary แล้วที่ผมชอบคือการออกแบบของรถที่มันพิเศษแล้วก็เฉพาะจริงๆ เพราะมันเป็นรุ่นฉลองครบรอบด้วยแหละ ทางแบรนด์เลยออกแบบให้ดูพิเศษ ที่สำคัญคือตัวเลขบนถังที่ไม่ซ้ำกันทำให้รถของคุณมีคันเดียวในโลก ส่วนเรื่องราคาก็ช่างมันเถอะ เพราะผมไม่ได้ซื้อเอง คันนี้พี่ชายผมซื้อให้ ผมปล่อยมือยัยตัวแสบก่อนจะนั่งคร่อมบนรถและหยิบหมวกกันน็อคมาใส่แล้วก็เปิดกระจกของหมวกกันน็อกขึ้นจากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วหันมาหายัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ“มา เหยียบขึ้นมา”“นายอย่าแกล้งฉันนะ”ฉันมองคนตัวสูงพร้อมกับกำชับเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะรถมันสูงมากอะเธอ จะก้าวขึ้นประหนึ่งรถจักรยานยนต์แบบธรรมดาก็ไม่ได้ ฉันยังไม่เคยรู้สึกว่าขาสั้นมาก่อนเลยอะ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกละ“หึหึ เออ ขึ้นมา ใครเขาแกล้งอะไรเธอ”ผมเลื่อนกระเป๋าสะพายไปด้านหลังแล้วก็วางไว้บนเบาะพอยัยตัวแสบก้าวขึ้นเลยช่วยประคองโดยที่ผมใช้มือจับขายัยตัวแสบเอาไว้จนยัยนี่ขึ้นมานั่งเรียบร้อย
Rrrrrrฉันกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวโดยที่ไม่ได้สนใจไอ้บ้านี่หรอก ปล่อยเบลอไปเลยจ่ะ พอได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาพอเห็นเป็นไอ้เจมมี่โทรมาเลยรีบกดรับสาย“เออ ว่า”[สาว!! มึงไปไหนกับเซทท์อะแม่]“แล้วมึงเห็นได้ไง”[อ่ะ กูกำลังซื้อหนังไก่ทอดอยู่จ่ะ แล้วไม่ใช่แค่กูที่ตื่นเต้นนะคะ ตอนนี้ทุกคนที่เห็นคือเขาตื่นเต้นกันหมดอะ สรุปมึงไปไหนคะหญิง อร้าย กูเขิน]“หยุดค่ะ มึงโทรมาก็ดีละ มารับกะ”ผมได้ยินยัยนี่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนพอรู้ว่ายัยนี่กำลังจะบอกให้เพื่อนมารับผมเลยใช้มือดึงโทรศัพท์ของยัยนี่มาแล้วก็กดวางสายก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋า“นี่ เอาโทรศัพท์ฉันมา”“ฉันไม่ให้ ฮึ มีปากแล้วเหรอเธออะ ฉันคิดว่าเอาปากทิ้งไปละ”“ถ้ามีแล้วปากหมาแบบนายฉันไม่มีให้หนักหน้าฉันหรอก”ฉันตอบไอ้บ้านี่จบก็หันมากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง จะได้รีบกินรีบแยกย้ายเพราะเหม็นหน้าไอ้บ้านี่แบบสุดๆ“ไม่ต้องกลัวหนักหรอก เพราะหน้าเธอใหญ่มีที่เหลืออีกเยอะแยะ”ผมตอบยัยนี่กลับไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนแรกก็คิดว่ายัยนี่จะหายละ แต่อาการแม่งมากกว่าเดิม เอาใจยากฉิบ“คุณลุง เท่าไหร่คะ”ฉันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จเรียบร้อยโด
05.15 นาที“พี่ๆ สวัสดีค่ะ พวกหนูฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”“จ้า ไหนมาให้แม่กอดหน่อย นี่ แล้วคำพูดเหมือนเป็นคนห่างไกลเนาะ”“คิกๆ”ฉันกอดพี่เปียแล้วก็ยิ้มให้พี่ๆ คนอื่นๆ คือรุ่นพี่เขาเป็นสาวสองที่ฝีมือเป็นเริ่ดมาก พี่เค้าเป็นออกแบบแล้วก็ตัดชุดต่างๆ ให้กับโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดรำ ชุดดรัมเมเยอร์ ชุดไม่พอแต่งหน้าทำผมคือที่สุด แล้วถ้ามีงานทางโรงเรียนก็ให้พี่เขาแต่งให้ตลอด เห็นกันมาตั้งฉันเด็กอะเธอ“รำแปดคนใช่ไหมลูก ทีมเดิม”“ใช่ค่ะแม่”“พวกหนูก็มาช่วยแต่งตัวเหมือนเดิมค่ะแม่”“จ้า นี่ เดี๋ยวแม่ให้ดูชุดใหม่ที่แม่ตัด”“แม๊ มันจึ้งมาก ดีย์!”“ใช่แม่ ไอ้หยกพูดถูก สวยมากเลยอะ”“มาๆ งั้นเราเริ่มเลยดีกว่า ลูกๆ ชอบแม่ก็ดีใจ”ฉันพยักหน้าแล้วก็พากันนั่งลงจากนั้นพวกพี่เขาก็เริ่มแต่งหน้าให้ ชุดสวยมากจริงๆ อะ ฉันชอบมาก ส่วนชุดที่พี่เขาที่ตัดมาสวยมาก สะไบด้านในเป็นสีน้ำเงิน ด้านนอกเป็นสีแดงปักเลื่อม ผ้าถุงสีแดงแต่มีลวดลายและสีน้ำเงินแทรกมาด้วย แพทเทิร์นเหมือนชุดเจ้าสาวเลยอ อ๋อ แล้วที่เป็นสีแดงกับสีน้ำเงินเพราะสีประจำโรงเรียนของฉันคือ สีแดงกับสีน้ำเงินนั่นเองจ่ะ“เรารวบหรือปล่อยผมดีวะ”“กูว่ารวบแล้วปล่อยห
“ค่ะ ในลำดับต่อไปเป็นการแสดงรำไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/2 ชื่อการแสดงว่า รำเชิญขวัญ นำแสดงโดย 1.นางสาวธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ 2. นางสาวสุดารัตน์ ยิ้มละมัย 3.นางสาวจันทร์ดาว เมธีพงศ์…”พอคุณครูเริ่มแนะนำชื่อฉันยกมือไหว้ครูอาจารย์และบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็แบ่งฝั่งละ 4 คน แล้วก็ถือพานที่ใส่กลีบดอกไม้สด ที่มีทั้งกลีบกุหลาบ ดอกมะลิ กลีบดอกดาวเรือง ข้าวตอก ถั่ว งา เป็นของมงคลทั้งหมด ฉันกับเพื่อนเพื่อนก็พากันเดินมาอยู่ตรงมุมด้านในของเวทีของทั้งสองฝั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็นจอ LED แล้วก็เป็นกราฟิกลายไทย มีคนคอยปรับแสงสีเสียง คือเริ่ดมากอะ“ไอ้อาร์ม มึงดูพานด้วยนะ เดี๋ยวกูมา”ผมหันไปบอกไอ้อาร์มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เพราะเขาจัดแถวแบบเป็นห้องอยู่แล้ว ส่วนคนตัวแทนที่ถือพานก็นั่งสองแถวด้านข้างซ้ายสุด ซึ่งเขาก็จัดไว้เป็นระเบียบมากแล้วอะ“แล้วมึงจะไปไหนวะ”ผมหยิบกล้องขึ้นมาแล้วก็เอาสายกล้องคล้องไว้ที่แขนก่อนจะกดเปิดแล้วตอบไอ้อาร์มกลับไป“ไปถ่ายรูปยัยหัวเน่าของพวกมึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูมา ดูพานดีๆ นะมึง เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวยัยนั่นกินหัวกูอีก”“พรืด เออ หัวหน้าของกูนี่อยู่ในทุกส่วนประสาทของมึ
ฉันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็มาแต่งตัว ฉันเลยหยิบกางเกงขาสั้นสีขาวแล้วก็เสื้อครอปคอสี่เหลี่ยมสีฟ้าอ่อนแขนตุ๊กตาแล้วก็มีเว้าด้านหลังนิดหน่อย มีโบว์ผูก ผมก็ปล่อยยาวไปเลย แต่งหน้าเบาๆ รองพื้น เขียนคิ้ว ทาลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ ปัดแก้มนิดหน่อย ปัดขนทา ลงแป้ง ฉีดสเปรย์น้ำแร่ล็อกเครื่องสำอาง“ที่คาดผม โอเค เดี๋ยวไปตัดผมดีกว่า ยาวเกินไปละ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกพอเห็นผมตัวเองที่ตอนนี้คือยาวมาถึงจะถึงเอวอยู่แล้วอะ ถ้าดัดวอลลุ่มก็ไม่เท่าไหร่ แต่วันไหนที่ปล่อยผมตรงมันก็ยาวเกิน แล้วไดร์ผมแต่ทีแทบจะร้องขอชีวิต พอแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาที่ห้องนอนจากนั้นก็เปิดไฟกลางห้องก่อนจะเดินมาเรียกคนตัวสูงพร้อมกับเขย่าตัวเขาไปด้วย“เซทท์ เซทท์”“หื้อ”“ตื่นได้แล้ว ไปอาบน้ำจะได้มากินข้าว ถ้านายยังเมื่อยอยู่กินข้าวเสร็จนายค่อยมานอนใหม่ ลุก”“อือ”ผมรู้สึกตัวหลังจากได้ยินยัยตัวแสบเรียก เลยลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง แล้วพอสติมันเริ่มมาก็มองยัยตัวแสบที่ตอนนี้กำลังจัดตุ๊กตาเอาไว้บนหัวเตียง พอนึกขึ้นมาได้เลยรีบบอกยัยนี่เรื่องที่พี่ในชมรมเค้าชวนไปกินหมูกระทะ“เธอ”“หื้อ มีอะไร ลุก จะเก็บที่นอน”ฉันบอกคนตัวสูงหลังจากจัดตุ๊กตาแล
คือนายนี่กำลังจะพูดว่าเขาชอบฉัน ใช่ปะวะ หรือความหมายเป็นประโยคคำถาม ฉันมองหน้านายนี่ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป“เดี๋ยวนะ คือ นายกำลังจะบอกว่านายชอบฉันเหรอ ฉันตีความหมายของประโยคถูกใช่ไหมวะ”“ฮึ อาการฉันขนาดนี้ละ แล้วที่ผ่านมาเธอคิดว่าฉันเข้าหาเธอทำไมไหนเธอบอกฉันสิ”“เอ้า ก็เป็นเพื่อนกันไง นายอาจจะไว้ใจฉันมากๆ อะไรทำนองนั้น”ผมเลิกคิ้วมองยัยตัวแสบซึ่งอาการผมแม่งออกตั้งแต่สองอาทิตย์แรกแล้วมั้ง ผมเลยหัวเราะออกมาในลำคอก่อนจะตอบยัยตัวแสบออกไป“ชีวิตกูเนาะ ทำให้ขนาดนี้แม่งยังถูกมองว่าเป็นเพื่อนอยู่อีก”“ก็ที่ผ่านมานายไม่ได้พูดปะ ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร”ฉันตอบนายนี่ออกไปตามที่ตัวเองคิด เพราะเขาไม่ได้พูดจะให้เราคิดเข้าข้างตัวเองมันก็ไม่ใช่ บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลแบบอื่นที่ทำให้ ถ้าไม่พูดให้ชัดเจนฉันก็ไม่คิดไปเอง มันอาจจะมีเขินบ้างในบางโมเมนต์แต่ก็ไม่ได้เอามาคิดเข้าข้างตัวเองขนาดที่ว่าคิดว่าเขาชอบอะ“แล้วถ้าฉันยังไม่พูดออกมาฉันก็ยังได้เป็นแค่เพื่อนเธออยู่แบบนั้นอะนะ”“ก็ใช่ไง ก็สถานะที่มันเป็นอยู่คือเพื่อน นายจะให้ฉันเป็นอะไรกับนายล่ะถ้านายไม่พูดไม่บอก”“อือหื้อ ยัยซาลาเปาสอดไส้อำมหิต”“เดี๋ยวนายจะโดนนะ
“อะ”ผมส่งเหรียญทองกับกล่องสีแดงๆ ให้ยัยตัวแสบก่อนจะดึงยัยนี่เดินมาที่ห้องแต่งตัวของนักกีฬาโดยที่เพื่อนของยัยตัวแสบก็เดินตามมาด้วย“มันคืออะไรในกล่องอะ”“ไม่รู้ดิ ฉันก็ยังไม่ได้เปิดดู เธอก็เปิดสิ”“ไม่เอาอะ มันของนาย นายเอาไปเปิดเอง”“เธอเปิดหรือฉันเปิดมันก็เหมือนกันแหละ”“งู้ยยย ขนาดนี้แล้ว เปิดเลยแม่”ฉันส่ายหัวเพราะฉันก็อยากให้เขาที่เป็นเจ้าของเห็นมันเป็นคนแรก อีกอย่างมันก็ไม่ใช้ของเรา“ไม่เอา”“งั้นยืนรออยู่นี่นะ ไปอาบน้ำก่อน”ผมบอกยัยตัวแสบเพราะตอนนี้ร่างกายผมมันก็ปกติละ ไม่ได้เหนื่อยอะไร พอเข้ามาผมก็รีบอาบน้ำสระผม อือหื้อ พอร่างกายโดนน้ำเย็นแล้วโคตรดี ผมอาบน้ำเสร็จก็หยิบผ้าขนหนูสองผืนมาพันเอวไว้ผืนหนึ่งส่วนอีกผืนก็เช็ดผม แล้วในจังหวะนั้นเพื่อนในชมรมก็เปิดของในกล่องกำมะหยี่สีแดงดูพอดี“เชี้ยย สร้อยคอทองคำหนักหนึ่งบาท มีใบรับรองแล้วมีจี้ทองที่มันเป็นโลโก้ของโรงเรียนแต่ข้างในมีรูปวอลเลย์ด้วยว่ะ”“เออ ลงยาด้วยตรงจี้ด้วย สวยว่ะ คือถ้าใส่ในโรงเรียนก็รู้เลยอะว่ามาจากชมรมเรา”“นี่ไงที่ครูชูบอกว่าเป็นรางวัลที่เป็นความลับอะ ถ้าชนะเลิศผู้อำนวยการมีของขวัญพิเศษมอบให้ด้วย”“กูดูหน่อย”ผมมองห
ฉันนั่งอยู่สักพักคนตัวสูงก็เดินมาหาหลังจากเค้าเดินไปคุยกับครูแล้วก็ถือผ้าเย็นมาค่อนข้างจะหลายห่อกับสปอนเซอร์มาสองขวด ส่วนตอนนี้ในสนามก็กำลังเตรียมตัวแข่งของคู่ที่สองพรึ่บ!“เตี้ย แกะผ้าเย็นให้หน่อยดิ”ผมส่งห่อผ้าเย็นแล้วก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ตอนนี้สภาพนักกีฬาที่เป็นตัวจริงแต่ละคนแม่งหมดสภาพอะ ผมตอนนี้ไม่อยากจะทำอะไรเลย“อืม”ฉันมองคนตัวสูงที่ตอนนี้เหงื่อท่วมตัวไปหมด เหมือนพลังหมดอะ แล้วไม่ใช่แค่เค้าหรอก นักกีฬาแทบจะทุกคนคือสภาพเดียวกัน“นั่งดีๆ”ผมที่ถูกยัยตัวแสบจับเงยหน้าขึ้นมานิดหน่อยแล้วยัยนี่ก็เอาผ้าเย็นที่ขนาดมันเป็นผ้าขนหนูผืนขนาดกลางๆ เช็ดที่หน้าแล้วก็ตามลำคอ ผมเลยใช้มือหมุนฝาสปอนเซอร์แล้วก็ยกดื่ม อือหื้อ ผ้าเย็นๆ กับสปอนเซอร์แม่งดีจัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงยัยตัวแสบถามขึ้นมาผมเลยหันไปมอง“นี่ แล้วนายไม่ทักทายครูที่โรงเรียนเก่าหน่อยเหรอ”ฉันถามคนตัวสูง เพราะตอนนี้เหมือนเค้าทำเป็นไม่รู้จักอะ ทั้งๆ ที่ตอนนี้เพื่อนเค้าแล้วก็ครูที่ดูแลก็อยู่ฝั่งฉันนะ แต่คนตัวสูงส่ายหน้าแล้วก็ตอบกลับมา ฉันก็แกะผ้าเย็นอีกผืนเช็ดตามที่หน้าแล้วก็บริเวณที่คอให้อีกรอบ“ไม่ หลังจบการแข่งขันค่อยทัก”“ทำไ
ผมถือถุงผ้าแล้วก็จับมือยัยตัวแสบเดินออกมาที่สนาม ซึ่งตอนนี้คนเยอะไปหมดเลยอะ ที่นั่งก็เริ่มจะเต็ม ขนาดว่าพื้นที่เยอะมากนะ เพราะนักเรียนของโรงเรียนอื่นๆ ก็สามารถเข้ามาดูได้ด้วย แล้วจอ LED คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็เริ่มประจำอยู่ที่จุดต่างๆ แล้วผมก็ได้ยินเสียงที่คุ้นมากเรียกผมขึ้นมา“ไอ้เซทท์!”ฉันกับคนตัวสูงหันไปมองตามเสียงเรียก แล้วก็เห็นผู้ชายน่าจะวัยเดียวกันแล้วน่าจะรู้จักคนตัวสูงเป็นอย่างดีวิ่งเข้ามาหาเขาแล้วก็ส่งยิ้มมาให้ ฉันก็ยิ้มตอบกลับไป“สวัสดีครับ แฟนเซทท์เหรอ พวกเราเป็นเพื่อนเซทท์”“ใช่ๆ เราชื่อเบสนะ”“ได้ข่าวว่าพวกมึงทักกูนะ หน้ากูอยู่ฝั่งนี้มั้ง”“พรืด ครับๆ แต่กูเห็นหน้ามึงแล้วปะ ขอมองจุดพักสายพักตาก่อนได้ปะ”“มึงพากันกลับไปเลยไป”“ฮ่าๆ อาการออกจัด จับมือขนาดนี้พวกกูก็รู้แล้วปะ”“เพื่อนชั่ว นี่พวกไอ้ต้ม เพื่อนสนิทที่โรงเรียนเก่าที่เคยเล่าให้ฟัง”ผมพยักหน้าเป็นเชิงทักทายกับกลุ่มเพื่อนสนิทแล้วก็หันมาบอกยัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ“อ๋อ สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ชื่อมิลินท์ค่ะ เป็น”“แล้วพวกมึงทีมเดิม”“ครับผม แต่จะเรียกว่าทีมเดิมไม่ได้ เพราะขาดมึงไง”“เออว่ะ จะร้องไห้
Rrrrrฉันที่กำลังหมุนตัวดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจก อ่อ วันนี้ฉันใส่เสื้อคอปกสีขาวแล้วหน้าอกข้างขวาก็ปักโลโก้ของโรงเรียนเป็นสีแดงส่วนกระโปรงก็ลายสก็อตสีแดงเหมือนเดิม ผมก็ปล่อยจ่ะ ดัดวอลลุ่มเบาๆ แต่งหน้าแบบธรรมชาติ ใสๆ เหมาะกับวัย ดีย์!! พอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเลยหยิบขึ้นมาแล้วก็กดรับ“ฮัลโหล ว่า”“เธอทำอะไรเสร็จยัง”“เสร็จแล้ว”พอยัยนั่นบอกว่าแต่งตัวเสร็จแล้วผมเลยเปิดประตูห้องของยัยตัวแสบเข้ามา พอมองไปรอบๆ ก็ยังไม่เห็นใคร ผมเลยเดินไปที่ห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดจังหวะที่กำลังจะเปิดยัยตัวแสบก็เปิดออกมาพอดี“เชี้ย! นายมาทำไม”“ฉันรีบ ไป เดี๋ยว”ฉันมองไอ้บ้านี่ที่ลากแขนฉันออกมาจากห้องแต่ยังไม่ทันจะไปไหนเลยเขาก็หันกลับมามองที่ฉันนิ่งๆ“อะไรของนายอีก”“ไปเปลี่ยนกระโปรง เอาตัวที่มันยาวกว่านี้”ผมพูดจบก็ดันยัยตัวสั้นเข้าไปในห้อง มันมีซับก็จริงแต่มันก็สั้นปะวะ“โอ๊ย! อย่า ไม่เอา”“ไปเปลี่ยน”“ไม่เอา ถึงจะเปลี่ยนได้มันก็เหมือนกันแหละ”“งั้นเธอก็เอากระโปรงที่มันใส่คู่กับเสื้อแขนยาวใส่ไปแล้วเอาชายเสื้อไว้ข้างใน”“ไม่เอา แบบนั้นไม่สวย”ฉันพยายามดันตัวเองแล้วก็ใช้มือจับกับขอบประตูเอาไว้ แม่ คือ
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็พากันนั่งคุยเรื่องต่างๆ ทั่วไป พอกินข้าวเสร็จก็กินยา จากนั้นก็เดินเข้ามาในห้อง แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่เสื้อกล้ามสีขาวแล้วก็กางเกงขาสั้น พอเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินออกมาที่เตียงและล้มตัวลงนอนก่อนจะหยิบตุ๊กตาของยัยนั่นมากอดไว้ แล้วในจังหวะที่กำลังจะหลับยัยตัวแสบก็เดินเข้ามาพอดี“นี่ นายเอาตุ๊กตาของฉันมา”“ไม่ ตัวนี้ฉันขอละกัน เธอมีจนจะเปิดร้านขายได้อยู่ละ”“แต่ฉันชอบตัวนี้ เอามา”ฉันขึ้นมาบนเตียงแล้วพยายามดึงตุ๊กตาของตัวเองคืนมา ฉันนอนกอดน้องทุกวันปะ แล้วฉันพรีน้องมาด้วยนะ พอฉันเข้ามาแย่งนายนี่ก็นอนคว่ำหน้าตุ๊กตาก็อยู่ใต้ตัวเขา“นายจะเอาคืนมาไหม”“ไม่ โอ๊ย ลงไปเลยนะเว้ย”ผมหันมามองยัยตัวแสบที่อยู่ๆ ก็มานั่งทับอยู่บนหลังแล้วมันก็หายใจไม่ค่อยสะดวก“นายเอาของฉันคืนมา ทำไมนายนิสัยแบบนี้ห๊ะ”“เธอมันไม่มีน้ำใจปะ”ฉันเม้มปากก่อนจะโน้มตัวลงไปหาแล้วก็ใช้แขนสอดเข้าไปใต้คอของเขาและออกแรงรั้งคอเขาขึ้นมา“โอ๊ย ถ้าฉันคอหักขึ้นมานะ”“ฉันก็สมน้ำหน้านายไง เอาของฉันคืนมา”“หึหึ ท่านี้นุ่มดีนะ”ผมเงยหน้ามองยัยตัวแสบก่อนจะยักคิ้วให้ เพราะตอนนี้ยัยนี่แม่งจะเอาชนะจนไม่ทันระวังว่าศี
07.25 นาทีRrrrrrr“อือ”“งื้อ ใครโทรมาวะ”ฉันที่หลับตาอยู่ใช้มือควานหาโทรศัพท์บนที่นอนพอหาเจอก็กดรับสายที่โทรเข้ามา แต่ยังทันจะได้พูดอะไรออกไปก็ได้ยินเสียงเพื่อนดังออกมาจากโทรศัพท์“กรี๊ด!! อิมิ อิมิ อร้ายยย!!”“อือ เตี้ย จะนอน หยุดกรี๊ดเลย”ผมรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงกรี๊ด ยัยนี่แม่งเหมือนจะวอร์มเสียงแต่เช้าอะ ผมเลยใช้ขาก่ายหมอนข้างแล้วก็ดึงเข้ามาใกล้ๆ แล้วก็หลับตาลงอีกรอบ“อึดอัด มึงกรี๊ดทำไม”“อิมิ อิมิ สาว มึงลืมตา โอ๊ย กูลนลานมากนะ”“เออ จริง อร้าย”“พวกมึงเป็นไรกันวะ วันนี้กูยังไม่ไปโรงเรียนนะ ไข้นายนี่ยังอยู่ที่เดิมอยู่เลย”“จ่ะสาว มึงระวังติดไข้เค้านะแม่”“เออ คิกๆ ดูแลกันแน่นขนาดนั้นอะ”“หื้อ”“สาว มึงเอาหน้าจอโทรศัพท์ออกจากหูสิ แล้วเอาไว้ตรงหน้ามึงอะ แล้วมึงค่อยๆ ลืมตานะ”ฉันขมวดคิ้วแล้วตอนนี้มันยังง่วงอยู่เลยอะ ตาก็ไม่อยากจะลืม เพราะเมื่อคืนตื่นมาเช็ดตัวให้นายนี่ทั้งคืน แต่ตอนนี้ก็เช้าละ ต้องหาอะไรให้นายนี่กินด้วยจะได้กินยายังไงก็ต้องตื่น ฉันเลยทำตามเพื่อน พอลืมตาเท่านั้นแหละ แม่งเอ๊ย ผ้าอนามัยที่โฆษณาว่าแนบชิดสนิททั้งคืนยังให้ไม่ได้เท่านี้เลย คือฉันนอนกอดนายนี่อยู
“ฮาย ว่าไงจ๊ะหัวหน้าห้องคนสวย มาซื้ออะไรจ๊ะ”“งื้อออ กูคิดถึงพวกมึงมากเลยอะ”“กูก็คิดถึงมึงมากแม่ ไม่มีมึงห้องเงียบมาก แล้วทำไมไม่ไปโรงเรียน มึงไม่สบายเหรอ ไม่สบายแล้วมึงลงมาซื้อของเองทำไมโทรมาบอกพวกกูให้ซื้อไปให้ก็ได้”“นั่นสิ ทำไมดื้อแบบนี้คะ”ฉันหัวเราะเบาๆ หลังจากเพื่อนจับตัวแล้วก็ใช้มือวางบนหน้าผาก ฉันเลยรีบบอกเพื่อนฉันกลับไป“บ้า คนที่ไม่สบายอะ ไอ้เซทท์นู่น มันไปสักแล้วก็ไม่ได้กินยา กูอยากจะด่าแต่แม่งก็ไม่สบายอยู่ เดี๋ยวรอมันฟื้นตัวก่อนกูเตรียมคำด่าไว้หมดละ”“คิกๆ แม่ มึงบ่นจนเซทท์มันไม่อยากมีหูแล้วนะ”“เออจริง ฮ่าๆ”“ฮึ พวกมึงพูดเหมือนนายนั่นเลยอะ แม่งไม่ชอบให้กูบ่นให้กูด่าแต่ก็ชอบทำให้กูของขึ้น เดี๋ยวกูดูอาการนายนี่วันนี้ก่อน ถ้ายังไม่ดีคงจะลาอีกสักวัน แต่พรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น ตอนนี้ไข้มันเริ่มลงบ้างละแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง กูกลัวไข้มันจะกลับมาแล้วช็อค อีกอย่างนายนั่นก็อยู่คนเดียว”ฉันอธิบายรายละเอียดให้เพื่อนฟังระหว่างรอเครปญี่ปุ่นที่สั่งไว้สองอัน ตอนนี้ข้าวต้มก็ทำไว้เรียบร้อยแล้ว เลยไม่รีบมาก แล้วดูเพื่อนฉัน“อิมิ มึงเหมือนเป็นเมียจริงๆ ของเซทท์มากอะ มึงรู้ตัวไหม อันนี้กูไม