Share

ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา
ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา
Penulis: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์

บทที่ 1

Penulis: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ภายในห้องหับวิจิตรงามสง่า สาวน้อยนางหนึ่งสวมชุดวิวาห์หรูหรานั่งอยู่หน้ากระจก ดวงหน้างามพิลาสของนางเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

มารดาของสาวน้อยกำลังแต่งตัวให้นาง มองดูลูกสาวตรงหน้าอย่างทั้งปลาบปลื้มและปวดใจ ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่กำลังจะออกเรือนแล้ว ดวงตาของนางแดงเรื่ออย่างอดไม่อยู่ “เดิมทีแม่อยากให้เจ้าอยู่ข้างกายอีกสักสองปี คิดไม่ถึงว่าเพิ่งถึงวัยปักปิ่นก็มีราชโองการประทานสมรสของฝ่าบาทลงมาเสียแล้ว”

เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยปลอบ “ลูกแต่งเข้าราชวงศ์ไปเป็นชายาอ๋อง พรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศทรัพย์ศฤงคาร แพรพรรณอาหารชั้นเลิศ ชีวิตย่อมสุขสบายเป็นแน่แท้ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ลูกจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน”

“จ้ะๆๆ ลูกสาวแม่เป็นคนมีวาสนา คุณหนูสกุลใหญ่มีตั้งมากมาย ฮองเฮาทอดพระเนตรปราดเดียวก็เลือกเจ้าเป็นชายาของเหิงอ๋อง เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของฮองเฮา ฮองเฮายังโปรดเจ้ามากถึงเพียงนี้ วันหน้าจะต้องไม่ดูดายเจ้าแน่นอน” เฝิงจิ้งย่วนปีติยินดีจนน้ำตาไหล คิดถึงว่าเหิงอ๋องหล่อเหลาสง่างาม ความสามารถด้านศิลปศาสตร์โดดเด่น ทรงอำนาจบารมี ลูกสาวโฉมงามล่มเมือง เชี่ยวชาญทั้งดนตรี หมากล้อม เขียนพู่กันและวาดภาพ สกุลเจียงซึ่งเป็นตระกูลบัณฑิตก็ยังเหมาะสมกับเหิงอ๋อง

“ท่านแม่พูดถูกเจ้าค่ะ” เจียงเฟิ่งหัวตอบรับคล้อยตาม

เฝิงจิ้งย่วนเปลี่ยนจากเศร้าโศกเป็นยินดี กำชับอย่างละเอียดว่า “หรวนหร่วน ยามอยู่ในบ้านเจ้าคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ พวกเราย่อมทะนุถนอมเจ้าประหนึ่งของล้ำค่า แต่บัดนี้เจ้าจะออกเรือนแล้ว แต่งงานไปเป็นภรรยาผู้อื่นไม่เหมือนตอนอยู่ที่บ้าน สตรีแต่งงานก็คือการย้ายเข้าไปอยู่ในครอบครัวใหม่ แต่งเข้าไปเป็นสะใภ้ราชวงศ์ยิ่งแตกต่างจากแต่งเข้าครอบครัวคนธรรมดาทั่วไป ต่อไปเจ้าจะต้องรู้ความ รักษาธรรมเนียมมารยาท จัดการเรื่องราวต่างๆ ด้วยตนเอง สงบเสงี่ยมเจียมตัว สนับสนุนสามีอบรมบุตร กตัญญูต่อพ่อแม่สามี...”

“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ” เจียงเฟิ่งหัวกอดมารดาของนาง ดวงตาฉายแววเย็นเยียบ ความเมตตาของราชวงศ์ก็แค่ลมปากเท่านั้น เย็นชาเป็นที่สุดแล้ว

ชาติก่อนนางก็รักษาธรรมเนียมมารยาท จัดการเรื่องราวต่างๆ ด้วยตนเอง สงบเสงี่ยมเจียมตัว อุทิศตนปรนนิบัติแม่สามี กระทั่งโอนอ่อนเอาใจ นางเป็นชายาที่เปี่ยมคุณธรรมและว่านอนสอนง่ายที่สุดแล้วในบรรดาชายาอ๋อง

น่าเสียดายที่ความอ่อนโยนโอนอ่อนรู้ความของนางไม่อาจแลกมาซึ่งความเสน่หาของสามี มีเพียงความเพิกเฉยเย็นชาของสามี ความเอ็นดูที่แม่สามีมีต่อนางก็ไม่ใช่เรื่องจริง ที่เลือกนางเป็นชายาของเหิงอ๋องก็เพราะบิดาพอนับได้ว่าเป็นขุนนางมือสะอาดในราชสำนัก สามารถลดความระแวงที่ฝ่าบาทมีต่อเหิงอ๋องได้ก็เท่านั้น รอจนนางหมดคุณค่าให้ใช้สอยเมื่อใดก็จะถูกเขี่ยทิ้งทันที

สุดท้าย เหิงอ๋องได้ครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ แต่กลับแต่งตั้งชายารองซูถิงหว่านเป็นฮองเฮา ส่วนนาง แค่เพราะว่าให้กำเนิดทายาทสองคนจึงฝืนใจแต่งตั้งให้เป็นเสียนเฟย

ที่น่าขันกว่านั้นก็คือคืนเข้าหอของเขากับนางสำเร็จเสร็จสิ้นลงภายใต้ฤทธิ์ของยา มิฉะนั้นเขาคงไม่มีวันแตะต้องนางไปชั่วชีวิต ไม่ได้รับความรักจากสามี ทั้งยังต้องเผชิญกับความเย็นชารังเกียจของสามี ชีวิตของนางในจวนเหิงอ๋องจึงมิเป็นสุข

นางนึกว่าสวรรค์ยังเมตตาต่อนางบ้าง แค่ครั้งเดียวนางก็ตั้งครรภ์หน่อเนื้อราชวงศ์ นางเข้าใจว่าเมื่อมีลูกแล้ว สามีจะเอ็นดูนางเพราะเห็นแก่ลูกน้อยบ้าง อย่างน้อยก็ใกล้ชิดกับนางกว่านี้สักนิด แต่นางก็เข้าใจผิดไปอีกครั้ง การเกิดของลูกน้อยทำให้เขายิ่งชิงชังรังเกียจนางกว่าเดิม

สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาไม่ปรองดอง ลูกทั้งสองก็เริ่มรังเกียจนาง ถึงขั้นไม่ยินดีเข้าใกล้นางผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้า สิ่งที่นางเสียใจที่สุดก็คือชั่วชีวิตนี้ไม่เคยได้เลี้ยงดูลูกน้อยทั้งสอง สุดท้าย นางก็ตรอมใจตายไปด้วยวัยเพียงสามสิบห้าปี

อาจเป็นเพราะสวรรค์เวทนานางจึงให้นางย้อนกลับมาตอนอายุห้าขวบอีกครั้ง สิบปีมานี้นางไม่ข้องแวะกับโลกภายนอก พากเพียรพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เพื่อรอราชโองการประทานสมรสของฮ่องเต้นี่เอง

ในเมื่อเซี่ยซางถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะได้เป็นบุรุษผู้สูงศักดิ์และทรงอำนาจที่สุดในใต้หล้า นางก็จะไม่ปล่อยให้อำนาจที่มาเคาะประตูถึงที่หลุดลอยไป ขณะเดียวกัน นางก็จะอาศัยอำนาจของเขากลายเป็นสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดในใต้หล้า ชาตินี้นางจะไม่ยอมก้มหน้ายอมจำนนอีกแล้ว ยิ่งไม่มีทางเปิดโอกาสให้ซูถิงหว่าน ไม่ว่าต้องใช้วิธีการแบบไหน นางก็จะต้องกลายเป็นมารดาของแผ่นดินให้จงได้

เมืองเซิ่งจิงในวันนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษ เสียงตีฆ้องร้องป่าวดังก้องท้องถนน

ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้เจียงเฟิ่งหัวบุตรีคนรองของภรรยาเอกสกุลเจียงแต่งงานกับเหิงอ๋องเซี่ยซางเป็นชายาอ๋อง โดยให้คนจากกรมพิธีการจัดงานมงคลสมรส ขบวนรับเจ้าสาวยาวเหยียดมาหยุดลงตรงหน้าจวนสกุลเจียง ยิ่งใหญ่อลังการไม่เป็นรองผู้ใดในเซิ่งจิง

เจียงเฟิ่งหัวแต่งกายเต็มยศนั่งลงบนเกี้ยวเจ้าสาวของราชวงศ์ นับแต่วันนี้เป็นต้นไปนางก็คือสะใภ้ราชวงศ์ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของราชสกุล เป็นชายาของเหิงอ๋องอย่างเป็นทางการ ว่าที่ชายารัชทายาท แม้แต่ตำแหน่งฮองเฮาของฮ่องเต้เซวียนจงนางก็จะกุมเอาไว้อย่างแน่นหนา

ขบวนสินเดิมแสนอลังการ รัตนชาติตระการตา ขบวนรับเจ้าสาวแสนยิ่งใหญ่มุ่งหน้าไปยังจวนเหิงอ๋องประดุจมังกรตัวยาว ผู้สัญจรไปมาหยุดเท้าชมแล้วก็ต้องอุทานว่าช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้อย่างอดมิได้

นางคิด ถึงเซี่ยซางจะไม่ยินดีแต่งงานกับนางแค่ไหน วันนี้ก็ยังต้องสวมชุดเจ้าบ่าวมารอนางอยู่หน้าประตูจวนอ๋องแต่โดยดี ฮองเฮาจะเสด็จมาร่วมพิธีและประทานพร

ชาตินี้ นางจะไม่ก้มหน้ายอมจำนนงอมืองอเท้ารอความตายอีกแล้ว

นางรู้เพียงว่า ผู้ใดไม่เห็นแก่ตัวแล้วไซร้ ฟ้าดินจักลงทัณฑ์

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด เสียงขุนนางผู้ดำเนินพิธีกล่าวว่า “เชิญท่านอ๋องเตะประตูเกี้ยว[1]” ดึงความคิดคำนึงของเจียงเฟิ่งหัวกลับคืนมา นางพลันหยัดแผ่นหลังตั้งตรง มงกุฎหงส์ที่ประดับทองฝังหยกกดจนลำคอนางปวดร้าว แต่นางก็ต้องอดทนเอาไว้

นางหนักแน่นสง่างามมาแต่ไหนแต่ไร วังหมัวมัวจากในวังมาสั่งสอนธรรมเนียมมารยาทให้นางในจวนเป็นเวลาหนึ่งเดือน ทุกคนกำชับย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามนางทำผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวในวันพิธีมงคลสมรส นางก็เพียงแต่พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย

ประตูเกี้ยวเปิดออก ขุนนางผู้ดำเนินพิธีวางผ้าไหมแดงลงบนมือนาง ตามด้วยมือขาวผ่องที่เห็นข้อต่อชัดเจนยื่นเข้ามา นางวางนิ้วเรียวงามลงเบาๆ สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบจากปลายนิ้วของเขา นางสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่ไม่ต้องการให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้จากบรรยากาศรอบกายเขา ชาติก่อนนางมัวแต่จมอยู่ในห้วงปีติยินดีจึงไม่ทันสังเกต ยามนี้จึงเข้าใจว่าเขาไม่ได้ตัวเย็น แต่เป็นสัญญาณที่ร่างกายเขาปฏิเสธสัมผัสของนางซึ่งแสดงออกมาโดยสัญชาตญาณต่างหาก แต่นางก็ไม่สนใจอีกแล้ว

เหิงอ๋องในชุดเจ้าบ่าวหรูหราเดินนำหน้านางด้วยฝีเท้าหนักแน่น เจียงเฟิ่งหัวมีสาวใช้ประคองให้เดินหน้าไปอย่างแช่มช้า นางไม่สนใจเสียงโห่ร้องของแขกเหรื่อด้านข้าง เพียงจดจ่อกับรองเท้าปักลายบุปผาของตนเอง

หลังจากนางก้าวข้ามกระถางไฟไป รองเท้าปักลายบุปผาของนางก็เหยียบลงบนชายชุดเจ้าบ่าวของเซี่ยซาง เห็นเขาโซเซวูบ ผ้าไหมแดงในมือหล่นลงในกระถางไฟแล้วติดไฟในบัดดล ต่อจากนั้นสะเก็ดไฟก็ลุกลามไปตามผ้าไหมแดงในมือเจียงหร่วน ทุกคนล้วนหลีกเลี่ยงโดยสัญชาตญาณ เจียงเฟิ่งหัวมองดูผ้าไหมแดงมีไฟลุกพรึ่บ ตกใจจนทำอันใดไม่ถูก ท่ามกลางความลนลานเหมือนว่านางไปสะดุดอะไรบางอย่างจนถลาล้มไปทางกระถางไฟโดยตรง

ชั่วขณะเดียวกัน เซี่ยซางเห็นดังนั้นก็ยื่นมือมารวบเอวนางไว้โดยสัญชาตญาณ เขาสัมผัสได้ว่าเอวของนางบอบบางอ้อนแอ้น อ่อนนุ่มราวไร้กระดูก

เจียงเฟิ่งหัวถลาเข้าซบแผงอกเขาโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ต่อจากนั้นชุดเจ้าสาวของนางก็ตกลงไปในกองไฟเช่นกัน เซี่ยซางเห็นอย่างนั้นก็หมุนตัวอุ้มคนขึ้นมา ความตั้งใจเดิมของเขาไม่ได้ต้องการใกล้ชิดกับนาง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ถึงขั้นเห็นคนประสบอันตรายแล้วไม่ช่วยเหลือ ต่อหน้าธารกำนัล เขายิ่งไม่อาจผลักนางออกอย่างเสียกิริยา

ผู้ใดจะคาดว่าเจียงเฟิ่งหัวกลับแนบชิดเขามากกว่าเดิม โอบรอบคอเขาเหมือนหวาดกลัวสุดขีด กลิ่นกายหอมกรุ่นของหญิงสาวแทรกเข้ามาในโพรงจมูกเขา

เขาก้มลงมองก็เห็นดวงหน้าพิลาสล้ำที่เครื่องหน้าประณีตงดงามดวงหนึ่ง คิ้วนางดุจจันทร์เสี้ยว ขนตาไหวระริก ดวงตาคู่งามเบิกโพลงทอประกายหวั่นหวาดหลังได้รับความตกใจและความตื่นตระหนก ใครเห็นเป็นต้องหวั่นไหว ริมฝีปากแต้มชาดปานดอกอิงบานสะพรั่ง เป็นโฉมสะคราญดุจภาพวาดโดยแท้

----------------------------------------------

[1] ขั้นตอนหนึ่งในพิธีแต่งงานยุคศักดินาจีน เจ้าบ่าวเตะเกี้ยวเจ้าสาวเพื่อแสดงว่าตนเองมีอำนาจเหนือฝ่ายหญิง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 486

    ซึ่งก็หมายความว่า ฮ่องเต้ทรงไว้ใจหัวหน้าขันทีเฉาและผู้บัญชาการซาง ในอนาคต เมื่อเซี่ยซางเข้าวังก็จะมีคนของตัวเองกลุ่มหนึ่งไว้ให้เขาใช้งานเช่นกันเซี่ยซางกล่าวว่า “อันที่จริง พวกเราต่างก็มิใช่รู้คำตอบแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ยังจำเป็นต้องให้เขาสารภาพสิ่งใดอีกเล่า? และต่อให้เขาสารภาพออกมาว่าเป็นสกุลซูที่แอบวางสายลับไว้ในวัง เสด็จพ่อก็คงไม่นำตัวเขาไปเผชิญหน้ากับคนสกุลซูอยู่ดี อีกทั้งตอนนี้พวกเราก็ยังแตะต้องสกุลซูไม่ได้ด้วย”“อันที่จริง เรื่องที่เศรษฐีหวังต้องการปรักปรำราชครูเจียงนั้นไม่สามารถทนต่อการตรวจสอบได้ พ่อค้าผู้หนึ่งจะวางแผนละเอียดเพียงนี้มาให้ร้ายขุนนางราชสำนักได้อย่างไร เสด็จพ่อก็แค่ทรงต้องการให้บัณฑิตในใต้หล้าได้ยิน เพื่อมอบผลลัพธ์ให้พวกเขาเท่านั้นเอง”และที่เหล่าบัณฑิตสนใจก็มีแค่ผลลัพธ์เท่านั้น เพียงเท่านี้ก็พอแล้วส่วนเรื่องความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับเจียงหวยจะมีผู้ใดมาจัดการ มิได้อยู่ในการพิจารณาของฮ่องเต้อยู่แล้ววันนี้เจียงหวยชะตาแข็ง เป็นเพราะเขาโชคดีฮ่องเต้หรี่ตาลง “เจ้าพูดต่อไปสิ”“สกุลซูกุมอำนาจทางทหารจำนวนมากไว้ในมือมานานหลายสิบปีแล้ว นับตั้งแต่เสด็จปู่ยังทรงมีพระชน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 485

    ในเวลาเดียวกัน ฮ่องเต้ก็ใช้ข้ออ้างว่ายังมีเรื่องต้องจัดการ มอบหมายการทดสอบเหล่าบัณฑิตให้ท่านราชครูพานรับผิดชอบ ส่วนเขาก็กลับห้องทรงอักษรไปก่อนแล้วเมื่อยืนอยู่ที่นี่ ฮ่องเต้ก็รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา รู้สึกเพียงว่ามีดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองเขา เขากล่าวด้วยสุรเสียงเย็นชาว่า “เฉาเต๋อ”“บ่าวอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าขันทีเฉารู้ว่าฮ่องเต้จะบันดาลโทสะแล้ว“คนอยู่ที่ไหน?” ฮ่องเต้ถามอย่างเย็นชา“ทูลฝ่าบาท ท่านผู้บัญชาการซางได้คุมขังคุณชายพันหน้าไว้อย่างลับๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ พร้อมรับพระบัญชาจากฝ่าบาทตลอดเวลาพ่ะย่ะค่ะ”“ลับๆ? ตอนนี้เรายังเหลือความลับใดอีกหรือ? เจ้าเป็นถึงหัวหน้าขันที คนในวังมีใจทรยศขายข่าวเจ้ากลับไม่รู้ แล้วเราเลี้ยงเจ้าไว้จะยังมีประโยชน์ใดอีก” ฮ่องเต้พิโรธยิ่งเฉาเต๋อหวาดหวั่นจนคุกเข่าลงกับพื้น “ฝ่าบาทโปรดทรงระงับโทสะ อย่าทรงพิโรธจนเสียสุขภาพเด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ บ่าวทราบความผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้บ่าวสืบได้ความแล้วว่าผู้ที่ติดต่อกับแม่ทัพซูมีนามว่าอู๋ฉางโซ่ว และได้ให้คนควบคุมตัวไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ บ่าวถามออกมาแล้วว่าที่แท้เขาเป็นคนที่เคยปรนนิบัติคังชินอ๋องมาก่อน นับตั้งแต่ค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 484

    “เรื่องที่แม่คิดจะรับคนให้ซางเอ๋อร์ หรวนหร่วนก็อย่าได้คิดมากไปเลย เจ้าก็รู้ว่าบุรุษล้วนจิตใจโลเล ปีก่อนเขายังไม่ใช่ซูถิงหว่านไม่ยอมแต่ง แล้วต่อมาเป็นเช่นใดเล่า ยังมิใช่รักใคร่จนตัวห่างกันมิได้กับหรวนหร่วนเจ้าหรือ ยามนี้ผ่านไปหนึ่งปีเขาก็ไปถูกใจสตรีสามัญชนนางหนึ่งแล้วรับนางเป็นเหลียงเชี่ยอีก ในอนาคตเมื่อเข้าวังแล้ว ก็ยังจะต้องรับชายารองอีกสองสามนาง”น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนสนิทสนมขึ้นมา “แม่เห็นเจ้าเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ จริงๆ ตอนนี้ในท้องเจ้ามีเด็กอยู่ เจ้าก็ครองความได้เปรียบ ในจุดนี้ถือว่าเจ้าชนะไปแล้ว”“โดยเฉพาะในอนาคตเรื่องที่สตรีนางใดจะสามารถเข้าสู่จวนได้ หากพวกนางมีนายหญิงของจวนเป็นผู้รับเข้าจวนด้วยตนเอง พวกนางก็ย่อมจดจำความดีของเจ้า แต่หากเป็นผู้ชายไปเกาะแกะแล้วรับตัวเข้ามา พวกนางก็จะหยิ่งยโส ไม่เห็นนายหญิงของจวนอยู่ในสายตา”“มีพวกที่ชอบยั่วยวนบางคนยังจะครองความโปรดปรานไว้คนเดียวอีก ดังนั้นหรวนหร่วนเอ๋ย ที่แม่พูดเรื่องพวกนี้กับเจ้าล้วนเป็นการคิดเพื่อเจ้าทั้งนั้น”“เจ้าดูซูถิงหว่านสิ เป็นซางเอ๋อร์ชอบนางเองใช่ไหมล่ะ แล้วนางเคยเคารพเจ้าผู้เป็นนายหญิงของจวนอย่างแท้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 483

    อีกด้านหนึ่ง เจียงเฟิ่งหัวไปยังตำหนักคุนหนิงเพื่อคารวะฮองเฮาอีกครั้งเมื่อฮองเฮาเห็นนางเข้าวังก็ประหลาดใจอยู่บ้างเช่นกัน “เหตุใดหรวนหร่วนจึงเข้าวังมาเล่า?”“ลูกเข้าวังมากับองค์รัชทายาทเพคะ คิดจะมาลองชุดที่ใช้ในพิธีสถาปนาเสียหน่อย ตอนเช้าสนทนาเป็นเพื่อนเสด็จพ่ออยู่ครู่หนึ่ง แต่พวกเขามีราชกิจต้องทำ ลูกจึงคิดมาคารวะเสด็จแม่แทนเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวไม่แน่ใจว่าฮองเฮารู้เรื่องที่เกินขึ้นในตำหนักหน้าหรือไม่ แต่ดูจากการแสดงออกของฮองเฮา นางคล้ายจะไม่อยากรู้เรื่องราชสำนักเท่าใดนัก“ควรมาลองสักหน่อยจริงๆ” จากนั้นนางก็หันไปกล่าวกับสี่หมัวมัวว่า “ไปเรียกนางข้าหลวงโจวของกองภูษามา บอกว่าพระชายารัชทายาทเข้าวังมาแล้ว ถามพวกนางว่าชุดพิธีการทำไปถึงไหนแล้ว ให้เอามาลองที่ตำหนักคุนหนิงสักหน่อย”“ไม่ต้องรบกวนนางข้าหลวงโจวแล้ว อีกครู่ลูกจะไปลองสวมเองเพคะ อันที่จริงนางข้าหลวงโจวก็มักไปวัดขนาดที่จวนอ๋องเป็นประจำเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว “เป็นเพราะลูกมิได้พบเสด็จแม่มานานแล้ว จึงอยากมาสนทนากับเสด็จแม่เพคะ”เฉิงฮองเฮาก็มิได้ฝืนใจ นางไล่ข้ารับใช้ในตำหนักออกไปจากนั้นก็จับมือนางมากุมไว้อย่างสนิทสนม “สุดท้ายซางเอ๋อร์

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 482

    เมื่อฮ่องเต้ได้ฟังคำให้การของเศรษฐีหวัง ก็ตรัสอย่างเคร่งขรึมว่า “ซางหง คุมตัวคนเข้ามาเถอะ!”ผู้บัญชาการซางมัดคนไว้พร้อมนานแล้ว รอเพียงพระบัญชาจากฮ่องเต้เท่านั้นคุณชายพันหน้ายังคงสวมใบหน้าที่เหมือนหวังชิงไม่มีผิดเพี้ยน ฮ่องเต้พินิจเขากับหวังชิง “เหมือนกันไม่มีผิดจริงๆ บนโลกยังมีวิชาเปลี่ยนหน้าที่ลึกล้ำเช่นนี้ เดิมเจ้ามีหน้าตาเช่นใดกัน? เจ้าลองเปลี่ยนต่อหน้าเราดูเสียหน่อย”คุณชายพันหน้าถูกมัดมือมัดเท้า “ขอฝ่าบาทโปรดทรงคลายมัดให้ข้าน้อยก่อน ข้าน้อยถึงจะเปลี่ยนโฉมหน้าให้ฝ่าบาททอดพระเนตรได้พ่ะย่ะค่ะราชองครักษ์รีบถือดาบใหญ่ก้าวเข้ามา ผู้บัญชาการซางกล่าวว่า “ชาวยุทธ์พวกนี้ล้วนมีทักษะแปลกพิสดาร ไม่อาจเชื่อพวกเขา โปรดทรงระวังจะมีหลุมพรางพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้รักชีวิตอย่างที่สุด เขาจึงถอยหลังเล็กน้อย แล้วถามอีกว่า “ในเมื่อเจ้ารับเงินจากสกุลหวังเพื่อสอบแทนหวังชิง แล้วเหตุใดเจ้าต้องใส่ความราชครูเจียงด้วย? เรื่องนี้เกี่ยวข้องอันใดกับราชครูเจียง?”คุณชายพันหน้าคิดบทพูดไว้นานแล้ว “มิใช่ข้าน้อยต้องการใส่ร้ายราชครูเจียง แต่เป็นสกุลหวังที่คิดแค้นราชครูเจียงมาตลอดที่ในอดีตไม่ยอมรับหวังชิงเป็นศิษย์ รา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 481

    วังหลวง รอจนบัณฑิตนับร้อยยืนอยู่ในลานจัตุรัสของพระราชวัง เซียวอวี้และพี่น้องสกุลเฉิงก็อยู่ในนั้น กระทั่งยังมีบุตรชายของตระกูลขุนนางอีกจำนวนมากด้วยเดิมคนจำนวนมากล้วนไม่กล้ามา เป็นราชครูพานให้กำลังใจพวกเขา มอบโอกาสให้พวกเขาได้พบฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็เป็นศิษย์ของท่านราชครูพานเช่นกัน ในบรรดาคนเหล่านี้ก็มีลูกศิษย์ของราชครูพาน นี่จึงเป็นการสร้างความนิยมให้ฮ่องเต้อีกระลอก พร้อมกับลบล้างความขลาดกลัวในใจของทุกคนไปพวกเขาตอบรับการเรียกตัวของราชครูพานอย่างพรักพร้อม พากันเข้าร่วมเป็นขบวนใหญ่อย่างพร้อมพรักมีระเบียบ ดูแล้วคึกคักเปี่ยมด้วยพลังแห่งความรุ่งโรจน์ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางมาที่เชิงบันไดหน้าพระตำหนักจินหลวน มองดูดวงหน้าอันอ่อนเยาว์สดใสแต่ละดวง ราชครูพานนำทุกคนถวายบังคม “เกล้าทั้งหลายน้อมถวายพระพรฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี”ฮ่องเต้เหลือบมองเจียงจิ่นเหยียนคราหนึ่ง ความหมายคือเขาก็เป็นบัณฑิตในปีนี้สมควรกลับสู่กลุ่มได้แล้วจากนั้นก็เห็นเจียงจิ่นเหยียนถอดหมวกขุนนางออกแล้วเข้าไปยืนอยู่ในขบวนเช่นกันใบหน้าของฮ่องเต้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเป็นมิตร “ล้วนไม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status