เมื่อความรักต้องผ่านอุปสรรคและการจากลา ธามและอาชวินจะสามารถกลับมาหากันได้อีกครั้งหรือไม่?
Lihat lebih banyakในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างธามและอาชวินเริ่มมีรอยร้าวที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ ความเงียบของธามที่เคยเป็นเครื่องหมายของความมั่นคง กลับกลายเป็นช่องว่างที่อาชวินรู้สึกว่า เขาไม่สามารถข้ามไปถึงได้
การทำงานของธามทำให้เขาต้องเดินทาง แลได้พบปะผู้คนหลากหลาย ที่มีทั้งอำนาจและสถานะทางสังคม
ขณะที่อาชวินซึ่งทำงานในวงการศิลปะและสื่อสร้างสรรค์ มักอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป มีรายได้ไม่แน่นอน และต้องดิ้นรนเพื่อแสดงตัวตน
เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้าง เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มทวีความรุนแรง ทั้งเรื่องสถานะทางการเงินของอาชวิน
การใช้ชีวิตที่ไม่หรูหราของอาชวิน มันไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ครอบครัวของธามคาดหวัง
สิ่งเหล่านี้สร้างแรงกดดันให้กับธามมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งธามเริ่มฟังเสียงรอบตัวมากกว่าคำพูดของคนที่เขารัก
วันหนึ่ง ธามได้รับแรงกดดันจากครอบครัวให้แต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและชาติตระกูล และในวันนั้นเอง เขาตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับอาชวิน
“อะไร? มีอะไรอีก?” เสียงที่เข้มขึ้น และหน้าตาที่มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
“นายจะบอกฉันเมื่อไหร่?” ความกดดันเอ่ยออกมาทางน้ำเสียง พร้อมกับความท้อแท้ที่คนเอ่ยยังรู้สึกได้ ว่าตัวเองนั่นอ่อนแอเพียงใด
“เรื่องอะไร เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนี่ ไม่ใช่หรือ?” ใบหน้าแสนยุ่ง และคิดว่า ถ้าทำกิริยาอย่างนี้ออกไป อีกคนต้องไม่พอใจ
“ที่นายบอกเลิกฉัน เพียงเพราะต้องไปแต่งงานกับคนที่พ่อกับแม่หาให้ แค่นั้นเหรอ เรื่องของเราที่ผ่านมา มันไม่มีความหมายอะไรกับนายเลยใช่ไหม!?” ที่ถาม เพราะในใจของอาชวินตอนนี้เหมือนจะทำให้เขากลายเป็นคนบ้าอยู่แล้ว
“มันเคยมี... อาร์ต... แต่ตอนนี้... เรื่องของเรามันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว” ทั้งที่ในใจของธามนั้นแทบแหลกสลาย แต่เขาก็ยังคงทำเสียงเข้มแข็ง และไม่ใยดีกับอาชวินในนาทีนี้ ดวงตาที่เผยออกมาว่าเสียใจ ทว่าคนเป็นเจ้าของก็กักเก็บมันเอาไว้
“ทำไม? ฉันทำอะไรผิด... ธาม ฮึ...” อาชวินตัดพ้อ แต่ในตอนท้าย เขาก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงหยัน ๆ
“นายไม่ผิดหรอก ฉันแค่มีเวลาให้นายไม่มากเท่าที่นายต้องการเท่านั้นเอง เราอาจจะไม่ใช่คนของกันและกันอีกต่อไป เข้าใจหรือเปล่า”
“อย่างนั้นหรือ?” อาชวินดวงตาแดงก่ำ มองหน้าธามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่ได้ยิน
“ก่อนหน้าก็รักกันมาก แต่ตอนนี้หมดรักสิ”
“ใช่... การตอบสนองเรื่องที่นายเรียกร้องต่าง ๆ ฉันมีให้นายได้น้อยกว่าคนอื่นไง ไม่เท่าคนอื่น...” พร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงไปในลำคอ
“คนอื่นหรือ? นี่... ที่นายพูดออกมานั้นหมายถึงใคร? นายพูดเหมือนกับว่า ฉันมีใครนะธาม” อาชวินเอาแต่ส่ายหน้า กับข้อกล่าวห้าที่ธามยัดเยียดให้
“ช่างเถอะ! พูดถกเถียงกันไป แล้วมันจะได้อะไร?”
“คนหมดใจว่างั้นสิ แต่... ฮ่า...” อาชวินหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้าคลั่ง
“ที่นายพูดว่าไม่รักแล้ว... ที่ผ่านมามันไม่มีค่า ไม่มีความหมายอะไรเลย นี่... พูดกันตามตรงดีกว่า นายไม่อยากคบหากับฉันต่อ ฉันเข้าใจนะธาม แต่ฉันขอเหตุผลที่แท้จริงของนายเถอะ มันคืออะไรกันแน่?”
อาชวินยังคงใช้สายตาคาดคั่น ถ้าเหตุผลที่ธามบอกเขามาตรงๆ ว่าเพราะอะไร บางทีอาชวินก็อาจจะยอมถอย หรือไม่ก็อยู่ในสภาพที่ยังคบหากันอยู่ มีกันและกัน และจับมือต่อสู้ฝันฝ่า
ณ เวลานี้ ในดวงตาของธามว่างเปล่าเกินไป...
จนคนที่มองตาของธามอยู่ รู้สึกเศร้า และปวดร้าวในใจมาก ๆ
อาชวินคิดวนเวียน และกลับหวนไปคิดถึงเรื่อง ที่ทนายความ ทนายรัชตะได้มาพูดคุยกับเขา
พร้อมกับข้อเสนอต่าง ๆ อย่างเรียกร้อง ที่คุณนายผกามาศ คุณแม่ของธามต้องการ และเหตุผลที่มากมาย จนอาชวินได้ยิน ยังปวดหัว...
แต่สรุปได้ตั้งหมดจากการสื่อสารของทนายรัชตะ ก็คือ... จะเอาเท่าไร ที่จะให้เดินออกไปจากชีวิตของลูกชายของท่าน
อาชวินรู้แล้วว่า... ทนายรัชตะเป่าหูและหว่านล้อมเขาไม่ได้ แต่ว่า... ธามคงจะถูกคุณแม่ของเขาล้างสมองไปแล้ว
“โอเค... ฉันเริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่...” อาชวินเว้นระยะ
“ทำไมนายถึงได้พูดเหมือนว่า ฉันมีคนอื่น? ฮึ-ฮึ” แววตาของอาชวินเหยาะหยัน
“ฉันไม่เคยนอนกับใครนะ... ธาม... เราคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง จนตอนนี้! ฮึ... มันกี่ปีเข้าไปแล้ว จะสิบปี! แล้วมั้ง! อ้อ... ถ้าฉันจะให้บอกละเอียดกว่านี้ก็ได้อีกนะ เก้าปีแปดเดือน จนถึงวันนี้อีกยี่สิบสี่วัน!”
แล้วก็หยุดพูด อาชวินหัวเราะเสียงรวนตามอารมณ์ที่หวั่นไหว
“นายยังระแวงฉันอีกเหรอ? ว่าฉันจะมีคนอื่น นี่! มันต้องเรียกว่าหาเรื่องชัด ๆ จริงไหม?”
อาชวินมองสบตากับธามจนแทบจะทะลุได้อยู่แล้ว
“…” ธามไม่พูด จากที่สบตากับอาชวินแน่น กลายเป็นหลบสายตา ก่อนจะผินหน้าไปทางอื่น พลางถอนหายใจยาว ๆ ทำเป็นนิ่งแบบทองไม่รู้ร้อน
“พูดสิ! ทำไมนายไม่พูดวะธาม ฮึ! ทำไมนายยังจะมาระแวงกันอีก พูดความจริงยังจะดีกว่า มาใส่ร้ายป้ายสีฉัน ฉันดีไม่พอเหรอ? ฉันทำอะไรที่มันใจร้ายเหรอ? ฉันดูเป็นคนสำส่อนเหรอไง? นอกใจ! ดูมั่วมากเลย จริงดิ?” ช้อนสายตามอง น้ำตาที่พยายามสกัดกลั้นเอาไว้นานแล้ว ค่อย ๆ ซึมเอ่อท่วมท้นดวงตา แต่อาชวินก็รีบเช็ดออก
“ที่ผ่านมา นายไม่เคยจะเชื่อใจฉันเลยเหรอวะ? แม่ง! โคตร!” ทั้งเจ็บใจ ปวดใจ ใบหน้าของอาชวินแสดงความรู้สึกทั้งหมอ สองมือกำแน่น จนเส้นเลือดตรงมือและแขนขึ้นปูดโปน
“อาร์ต… ฉัน… แค่…” เสียงเครือ...
“อ๋อ... จะตีจากกัน เพราะฉันมันคนจน ทางฝ่ายนั้นมันรวยกว่าสินะ นายชอบใช้ของแพงนี่ ชอบของแบรนด์เนม ชอบที่จะสุขสบาย อยากได้อะไร ถ้ากับฉัน นายก็ต้องรอ ใช่ไหม?”
“อย่ามาดูถูกกันนะ ถ้าเป็นเรื่องนี้ ฉันไปนานแล้ว” เสียงขืน ไหล่ไหวโยก
“อาร์ต… นายไม่เปลี่ยนต่างหาก นายยังทำงานแบบนั้น ใช้ชีวิตแบบนั้น วัน ๆ ใครต่อใคร ก็เอาแต่พูด ๆ พูด ๆ พูดกรอกหูฉัน แล้วยัง…”
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
Komen