“ว่าอย่างไร” เขาถามย้ำแต่ไป๋เล่อชิงยังนิ่งอยู่ นางกำลังทำตัวไม่ถูกนี่นา เมื่อก่อนเคยได้พูดคุยกับเขายาวๆ แบบนี้ที่ใด มีแค่กลางวันร่วมมื้ออาหารห้ามพูด กลางคืนร่วมเตียงไม่คุย ระหว่างวันก็ทำงานนู่นนี่นั่นแทบไม่พบหน้า “ชิงชิง...” อู๋หมิงเรียก“หืม”“เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้า”“ท่านพี่ ข้าอยากกอดท่านเช่นนี้ ไม่อยากห่างอีก นี่คือคำตอบ”อู๋หมิงได้ยินก็ร้องอ้อ ค่อยยิ้มออกแล้วกล่าว “ได้ ต่อไปข้าจะกอดเจ้าให้มากขึ้น บ่อยขึ้น ดีหรือไม่?”“อื้ม” ไป๋เล่อชิงยิ้มกว้าง กระชับอ้อมแขนแน่น “กอดเฉยๆ นะ ห้ามทำอย่างอื่น”คิ้วเข้มขมวดวูบ “ไม่ได้สิ”ทั้งสองมองหน้ากันพลันหลุดหัวเราะออกมาบรรยากาศแห่งความสุขโอบล้อมรอบตัวพวกเขา ภายในห้องคล้ายมีบุปผาเบ่งบานกระจายรอบทิศทาง หวานชื่นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่ตอนอยู่ผิงเจียก็ยังไม่เคยมีบรรยากาศเช่นนี้มุมหนึ่ง สามีภรรยากำลังกอดกันกลมเกลียว แต่ภายในห้องเดียวกันอยู่คนละมุมยามนี้นั้น กลับมีเรื่องคอขาดบาดตายโจวเจินโบกตาโตอย่างมิอาจโตกว่านี้ได้ เมื่อเห็นแผงอกราบเรียบของเจาจวิ้น ทะ ที่แท้... หลิวหนิงเป็นผู้ชาย!ชั่วเวลานั้นหญิงสาวก็ฉุกคิดในบางสิ่ง รีบยกมือปิดหน้าอกต
เจาจวิ้นยักคิ้วหลิ่วตา “ข้าเองก็เข้าใจท่านมิใช่รึ? แค่มองตาก็รู้ใจว่าท่านกำลังจะทำอะไร”สามีภรรยาจะเผยความจริงเคลียร์ใจกันล่ะซิ! หึหึ!“ว่าแต่ให้นางอยู่ด้วยนะ ข้าคร้านคอยห้ามนางไม่ให้กีดกันท่านกับภรรยา เหนื่อยเหลือเกิน” นางในที่นี้ เจาจวิ้นย่อมหมายถึงโจวเจิน อู๋หมิงร้องอืมในลำคอเจาจวิ้นยังไม่ทันตั้งตัว เสื้อก็พลันถูกอู๋หมิงฉีกออกดังแกว่ก นมปลอมหล่นพื้นดังตุ่บ“...!?” แผงอกตึงแน่นพลันเปิดเปลือยต่อสายตาไป๋เล่อชิงหญิงสาวเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง“พ่ะ พี่หนิง!”อู๋หมิงถามนาง “ครานี้เจ้าเข้าใจแล้วหรือยัง?”ไป๋เล่อชิงอ้าปากทำท่าจะพูดแต่พูดไม่ออกสักคำที่แท้ก็เช่นนี้! เป็นแบบนี้นี่เอง! หลังจากจ้องมองจนกระจ่างใจ พวงแก้มนางก็พลันเปลี่ยนเป็นริ้วสีแดงระเรื่อทั้งแถบ เพราะเจาจวิ้นนั้นนอกจากไม่ปิดยังเชิดหน้ายืดอกผึ่งผายเผยกล้ามหน้าอกกล้ามหน้าท้องอย่างไม่มีเขินอาย จนขนปุยสีดำโผล่รำไร เห็นไปถึงไหนต่อไหนเรียกได้ว่าหน้าด้านไร้ยางอายอย่างแท้จริงไป๋เล่อชิงไอโคลกดังแค่กๆ “พ่ะ พอแล้ว” ทนมองไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะอู๋หมิงปล่อยมือจากเจาจวิ้น เดินมานั่งลงขอบเตียง ลูบหลังลูบไหล่ให้นางหายจากอาการไอแห้งก่อนค
ในห้องของโจวเจินบนเตียงยามนี้หญิงสาวกำลังเปลือยกายท่อนบนนอนคว่ำหน้าให้ใครอีกคนทาน้ำมันขี้ผึ้งแล้วนวดๆ“อา...พี่หนิง นวดเก่งมาก ข้ารู้สึกสบายตัวยิ่ง” เหมือนเข้าร้านนวดในยุคสมัยที่จากมาเลยเชียวคนถูกชมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ใจเต้นระส่ำ เพราะสัดส่วนกำยำตรงท้องน้อยกำลังครัดเคร่งอย่างมาก ได้ลูบไล้เนื้อเนียนเนิ่นนานเช่นนี้ บุรุษใดจะทนได้เท่าเขา หาได้มีไม่“อืม...อาโยวรู้สึกสบายก็ดีแล้ว”เจาจวิ้นถึงขั้นเผลอพูดด้วยน้ำเสียงปกติของบุรุษ ทำเอาโจวเจินลืมตาพรึบ เหตุใดพี่หนิงเสียงทุ้มต่ำแผ่วพร่าแปลกๆทว่าจังหวะนั้น ไม่ทันถามเสียงเคาะประตูพลันดัง“อาหนิง ออกมา” เสียงเข้มสั่งการโจวเจินสะดุ้งเล็กน้อย เจาจวิ้นขมวดคิ้วนิ่วหน้าถามโดยไม่ละมือจากเนื้อนุ่มลื่นมือ “มีอะไร?” “รีบออกมาเดี๋ยวนี้ หาไม่ข้าจะพังประตูเข้าไป”ทั้งสองในห้องพลันตกใจ โจวเจินรีบลุกขึ้นสวมเสื้อ ในขณะที่เจาจวิ้นสบถในลำคออย่างหงุดหงิด มันใช่เวลาไหม? คนกำลังจู๋จี๋เคลิบเคลิ้มเมื่อเจาจวิ้นเดินมาเปิดประตู พลันถูกมือของอู๋หมิงจับสาบเสื้อลากตัวไปอีกทางอย่างกะทันหัน “อ๊า” ตัวปลิวตามมือชนิดตั้งตัวไม่ทัน “อ๊ะ! พี่หนิง!” โจวเจินชะงัก รีบวิ
หมับ! อู๋หมิงกอดไป๋เล่อชิงแนบอก“ช่างเถอะ แค่เจ้ายังไม่ตายก็ดีมากแล้ว” ริมฝีปากอุ่นชื้นพึมพำชิดริมหูขาว “ดีเหลือเกิน” ลมหายใจร้อนผ่าวทำหญิงสาวขนลุกเกลียว “แค่นี้ก็พอ” ความอุ่นซ่านจากร่างบุรุษทำเอาสตรีในอ้อมแขนตัวอ่อนยวบยาบดุจขี้ผึ้งเหลวไป๋เล่อชิงถอนหายใจ ไม่เสแสร้งแกล้งลืมแล้วก็ได้ “เอาล่ะ ท่านพี่หมิง เรามาพูดคุยเปิดอกเถอะ”อู๋หมิงขมวดคิ้วแน่น เริ่มระแวง“เจ้าจำข้าได้แล้ว?”หญิงสาวพยักหน้า “ข้าไม่เคยลืม”นางจะมาไม้ไหนอีก? ภรรยาคนนี้ ผู้อื่นอาจมองว่านุ่มนิ่มเหนียมอาย แต่เขารู้ดีว่านางใจกล้าปานใด หาไม่ นางจะได้แต่งงานกับเขาหรือไร? แน่นอนว่าเขาชอบนางตั้งแต่แรกเห็น แต่ยังไม่ทันเกี้ยวพา เพราะมัวแต่ซื่อบื้อเรื่องอิสตรีอยู่ ส่วนเหตุการณ์วางยาวันนั้นก็ค่อนข้างจวนตัว ทำให้เขาจำยอมเข้าไปประสมโรงอย่างไม่ทันเลี่ยง มิเช่นนั้นนางอาจบ้าบิ่นเลือกบุรุษอื่นแทนเพื่อให้ทันการณ์เรื่องถูกจับแต่งงานกับตาเฒ่าบ้าตัณหาชายหนุ่มถามเสียงหวั่น “เจ้าจะคุยเรื่อง?”สีหน้าไป๋เล่อชิงจริงจังยิ่งขึ้น “เรื่องของเราปะไร”อู๋หมิงเลิกคิ้ว “ว่า...”หญิงสาวผลักอกเขาเบาๆ อ้อมแขนอบอุ่นที่รั้งนางจึงค่อยๆ คลายออก“ข้าสำนึก
เสียงสุนัขขู่ที่เงียบที่สุดยังคงเกิดขึ้นตรงหน้า แน่นอนว่าขนาดคนอย่างโจวเจินยังขวางอู๋หมิงไม่ได้ นับประสาอันใดกับสัตว์เล็กจ้อยแค่ตัวหนึ่งไม่นานเขาก็อุ้มไป๋เล่อชิงกลับเข้าเรือนถึงห้องนอน ยังดูแลจัดการผลัดอาภรณ์เช็ดเนื้อตัวให้อีกด้วยช่วยมิได้ เขาคือสามีและนางคือภรรยา เรือนร่างล้วนเคยเห็นและเคยสัมผัสมาหมดแล้วจึงไม่นับว่าล่วงเกินชายหนุ่มว่าต่อ “เจ้าดูไม่ตกใจที่เสื้อผ้าถูกเปลี่ยน”สตรีบนเตียงชะงักกึก ตัวเกร็งแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ อา...จริงด้วย พลาดแล้ว!จังหวะกำลังนึกคำโต้แย้งให้รอดในวันนี้ไปก่อน ฝ่ามือใหญ่ก็จับไหล่ที่นอนหันหลังอยู่ ให้กลับมาอีกด้านไป๋เล่อชิงแข็งตัวสุดกำลัง กระนั้นมีหรือจะต้านไหว สุดท้ายก็แพ้พ่ายให้แรงของชายผู้นั่งอยู่ริมเตียงด้านหลัง จำต้องหันหน้าไปหาเขาแต่โดยดี“ชะ ชายหญิงแตกต่าง ท่านโปรดสำรวม ประเดี๋ยวภรรยาของท่านมาเห็นเข้า ท่านจะมีปัญหาหลังเรือนนะ”เสียงขู่ผะแผ่วอู้อี้เหมือนลูกแมว อู๋หมิงร้องฮึ ถามเสียงเย็น “ภรรยาของข้า! ใคร?”“พี่หญิงหลิวหนิงปะไร ท่านไป รีบไป” โบกมือไล่ ไม่อยากคุยด้วยนาน เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันอย่างรุนแรงเนื่องจากรักสามเศร้า ทั้งนาง เขา แล้วก
ห้องด้านข้างยามนี้ก็มีสตรีสะลึมสะลือเช่นกันครั้นได้สติแต่ยังไม่ลืมตา เพียงพลิกนอนตะแคงให้สบายตัวพลางนึกว่าตนเองหลับไปตอนไหนในที่สุดไป๋เล่อชิงก็จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่านางกำลังพูดคุยกับฮุยฮุยแล้วก็กล่อมมันหลับ แต่เป็นนางเองที่พล็อยหลับไปด้วย สงสัยวิ่งไล่กันจนเหนื่อย หญิงสาวพลันขมวดคิ้วนิ่วหน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงเตียงนอนนุ่มๆ ของตัวเอง มิใช่ผืนหญ้าตรงรั้วรึ? นางย้ายตัวเองมานอนที่นี่ได้อย่างไร? สุดท้ายก็ต้องตกใจเมื่อลืมตาแล้วเห็นตัวเองที่ไม่ได้ใส่ชุดเดิมเสื้อผ้าชุดใหม่กับเนื้อตัวที่สะอาดสะอ้านนี้...เมื่อเหลือบตาขึ้นไป๋เล่อชิงก็ต้องสูดลมหายใจเฮือก ตื่นตะลึงสุดขีด เพราะเห็นบุรุษคุ้นตานั่งอยู่ริมเตียงตรงหน้าอู๋หมิง!หญิงสาวเบิกตาโต สมองอื้ออึง ได้ยินเสียงทักทายอันทุ้มต่ำที่ห่างเหินมานานดังขึ้นใกล้ใบหน้า“เจ้าตื่นแล้วหรือ?”ไป๋เล่อชิงกะพริบตา สีหน้าเหลอหลา ทำตัวไม่ถูก เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? มาทำไม? มาหานางหรือ? ไม่! ไม่ใช่หรอก!หญิงสาวคิดสงสัยอย่างสับสน ในใจรู้สึกว้าวุ่นที่สุด แต่ภายนอกยังนอนนิ่งเป็นหิน ไม่ขยับแม้แต่น้อยอู๋หมิงเห็นนางไร้ปฏิกิริยาเหมือนคนเลื่อนลอย