คำพูดของอาชาในวันนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของ ธง ราวกับคมมีดกรีดลึก "คุณกำลังล้ำเส้น และผมไม่ชอบให้ใครมาล้ำเส้นของผม" คำพูดที่ตอกหน้าเขาอย่างจังต่อหน้า
เหมย ผู้หญิงที่เขาต้องการและปรารถนา มันไม่ใช่แค่ความอับอาย แต่มันคือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอย่างไม่ไว้หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากลายเป็นเพียงพนักงานฝึกหัดภายใต้การปกครองของอาชา ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการช่างซ่อมบำรุงที่ เสือ เป็นผู้ควบคุม มันเหมือนกับการตอกย้ำว่าเขายังด้อยกว่าอาชามากแค่ไหน "พี่ธงเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นยืนเหม่อตั้งนาน" เมื่อมีรุ่นน้องช่างซ่อมบำรุงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาธงที่กำลังยืนดูการทำงานของเครื่องซีลถุงชา "เออไม่มีอะไรว่ะ พอดีคิดอะไรเพลิน ๆ แล้วนี่ไอ้ต้นหนาวมันไปไหนวะ ไม่เห็นมันมาเลย"ธงหันมาถาม "พอดีวันนี้มันหยุดวะ พี่นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้วผมนัดกับมันไว้ว่าจะไปเที่ยวบาร์ในตัวเมืองเชียงใหม่กัน พี่ไปป่ะล่ะ"ไอ้เต้รุ่นน้องช่างซ่อมบำรุงในสาขาแผนกเดียวกันเอ่ยปากชวนธง "เออไปดิวะเบื่อ ๆ เหมือนกัน แถมพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์แล้วด้วยคืนนี้ก็ตี้สักหน่อยก็ดีเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง..!"ธงที่อาสาเป็นคนเลี้ยงเหล้ารุ่นน้องในแผนกเพราะอยากจะซื้อใจคนพวกนี้ "โอ้โห งั้นคืนนี้ผมมีเจ้ามือแล้วดิ เดี๋ยวผมโทรบอกไอ้ต้นหนาวก่อน ว่าให้จัดสาว ๆ ไปด้วย พี่เอาด้วยคนป่ะล่ะ"ไอ้เต้หันมาถามด้วยสีหน้าไม่จริงจังนะ "เออแล้วแต่พวกมึงจะถวายกูเลย" ธงพูดแบบติดตลกตามประสา "งั้นเดี๋ยวไว้เจอกันนะพี่ประมาณสัก 19:00 น - 20:00 น เดี๋ยวผมขับรถมารับพี่นะพี่มารอผมตรงหน้าไร่ชาแล้วกันนะ" พูดจบไอ้เต้ก็ไปล้างไม้ล้างมือแล้วก็กลับไปที่หอพักของตัวเอง "เออ ๆ แล้วเดี๋ยวเจอกัน"ธงเองก็เดินกลับไปที่ห้องพักในไร่ชาพรหมเทพที่ได้จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ช่วยผู้จัดการฝึกหัดอย่างเขา ความกรุ่นโกรธในใจของธงไม่ได้จางหายไปไหน มันกลับกลายเป็นเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำความต้องการเอาชนะของเขาให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เขาไม่เคยคิดจะยอมแพ้ ขณะที่รุ่นน้องไอ้ต้นหนาวและไอ้เต้ออกไปสำราญกับสาวๆนั่งอยู่ข้างๆโต๊ะพวกมันเปิดเหล้ากินกันอย่างฉ่ำปอด ส่วนธงก็เดินมานั่งชิวๆตรงบาร์คิดตระหนักกระดกเดอะร็อคเพียวๆ 3-4 แก้วแต่ก็ยังไม่ได้ทำให้ธงเมาและลืมความโกรธแค้นของอาชาที่ได้กระทำต่อเขา การถูกดูแคลนซ้ำแล้วซ้ำเล่ากลับยิ่งกระตุ้นให้เขามุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเอง ขณะที่ธงกำลังนั่งกระดกเหล้าอย่างเพลิดเพลินใจก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งอยู่ข้างๆชายตามองธง เหมือนเป็นการให้ท่า รูปร่างสันทัดสวยอวบอั๋นตามสไตล์ผู้หญิงไทยแต่การแต่งหน้าเหมือนผู้หญิงสายฝอดูมั่นใจในชุดสีแดงเพลิง "สวัสดีครับผู้หญิงสวย ๆ อย่างคุณมาเที่ยวคนเดียวไม่เหงาหรอครับ"ธงที่มั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้าให้ถ้าเขาแล้วเขาจึงเปิดเกม "สวัสดีค่ะแล้วผู้ชายอย่างคุณมาเที่ยวคนเดียวไม่เหงาบ้างหรอคะ"ผู้หญิงปริศนาคนนั้นหันมาตอบธง ธงหันมาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วจับมือของผู้หญิงตรงหน้าขึ้นมาจูบหลังมืออย่างแผ่วเบา "ถ้าผมบอกว่า ผมเหงาคืนนี้คุณจะไปต่อกับผมหรือเปล่า"ธงพูดด้วยท่าทีเป็นต่อ "ก็ขึ้นอยู่กับว่า ของที่จะเอามาให้ฉันไปต่อได้ มันทำให้ฉันอยากจะอยู่ต่อหรือเปล่า"ผู้หญิงคนนั้นก็วางมาด "งั้นเราคงต้องไปเช็คของกันแล้วมั้งครับ" พูดจบธงก็จูงผู้หญิงคนนั้นเดินออกจากบาร์แล้ววางเงินไว้ให้กับรุ่นน้องอย่างไอ้ต้นหนาวและไอ้เต้ "เฮ้ยพี่ได้หญิงแล้วลืมน้องหรอวะ..!"สองคนถึงกับหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่อย่างธงพึ่งมาถึงก็ได้หญิงที่โคตรสวยเอ็กซ์เอาไปครอบครอง "แม่งพูดให้เกียรติผู้หญิงเขาหน่อย..!พวกมึงนี่ งั้นกูไปแล้วนะไว้เจอกันวันจันทร์เลย"ธงพูดจบก็เดินออกมาพร้อมกับเรียกแท็กซี่และพาผู้หญิงปริศนาที่ดูสวยสง่าต่อที่โรงแรมที่เขาได้เปิดเอาไว้ ธงพาหญิงสาวนิรนามขึ้นมาบนห้องสวีทสุดหรูของโรงแรม แสงไฟสีส้มนวลภายในห้องขับให้บรรยากาศดูอบอุ่นและเย้ายวนยิ่งขึ้น เธอเดินสำรวจห้องอย่างสนใจ ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นการตกแต่งที่หรูหรามีสไตล์ "ห้องสวยเหมือนที่คุยเลยนะคะ" หญิงสาวเอ่ยชมพลางหันมายิ้มให้ธง "ขอบคุณครับ ผมดีใจที่คุณชอบ" ธงตอบรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปรินไวน์แดงจากตู้เย็นขนาดเล็ก "รับไวน์สักแก้วไหมครับ?" "ยินดีค่ะ" เธอตอบรับ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาหนังตัวยาวอย่างสบายอารมณ์ ธงเดินมาส่งแก้วไวน์ให้เธอ แล้วนั่งลงข้างๆ เว้นระยะห่างพอสมควร ทั้งสองจิบไวน์โดยไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของพวกเขากลับสื่อสารกันอย่างลึกซึ้ง บรรยากาศเงียบสงัดมีเพียงเสียงเพลงคลอเบาๆ ที่ดังมาจากลำโพงมุมห้อง "เมื่อกี้คุณถามว่า 'ของ' ของคุณจะทำให้ฉันอยากไปต่อได้ไหม..." หญิงสาวเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ดวงตาคู่สวยจ้องมองมาที่ธงอย่างเปิดเผย "ตอนนี้ฉันเริ่มอยากรู้แล้วสิคะ ว่า 'ของ' ของคุณมันพิเศษแค่ไหน" ธงวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะข้างหน้า แล้วหันไปเผชิญหน้ากับเธออย่างช้าๆ "บางอย่างก็ต้องพิสูจน์ด้วยการสัมผัสครับ คุณว่าไหม?" เขาค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเนียนของเธออย่างเบามือ ปลายนิ้วลูบไล้เบาๆ สร้างความรู้สึกวาบหวามไปทั่วร่างหญิงสาว เธอหลับตาลงเล็กน้อย ซึมซับสัมผัสนุ่มนวลนั้น ธงค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปใกล้เธอ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากของเขาแตะลงบนกลีบปากอวบอิ่มของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มแรงกด จูบนั้นเริ่มต้นด้วยความอ่อนโยน แต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า หญิงสาวค่อยๆ เอียงศีรษะรับจูบ สองมือของเธอยกขึ้นโอบรอบคอของธงอย่างไม่ได้ตั้งใจ จูบนั้นทวีความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นของทั้งสองเริ่มแตะเกี่ยวกันอย่างเสน่หา ราวกับต้องการสำรวจทุกซอกทุกมุมในโพรงปากของกันและกัน เสียงครางหวานแผ่วเบาดังออกมาจากลำคอของหญิงสาว เมื่อธงเริ่มลูบไล้แผ่นหลังของเธอผ่านเนื้อผ้าชุดเดรสสีแดงเพลิง สัมผัสอันร้อนรุ่มนั้นจุดประกายความปรารถนาในตัวเธอให้ลุกโชน ธงค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกเล็กน้อย มองสบตาเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ "ผมว่า...เราไม่ต้อง 'เช็คของ' กันแล้วมั้งครับ เพราะตอนนี้...ผมรู้แล้วว่าคุณพิเศษแค่ไหน" หญิงสาวเผยรอยยิ้มเย้ายวนใจ "เช่นกันค่ะ...คุณธง" แล้วทั้งสองก็โผเข้าหากันอีกครั้ง จมดิ่งสู่ห้วงแห่งความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม ค่ำคืนอันยาวนานเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเสน่หาอย่างแน่นอน...ธงเริ่มปฏิบัติการตามแผนของดารินอย่างเคร่งครัด เขายังคงส่งของขวัญและดอกไม้ให้เหมยเช่นเคย แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหมยมากยิ่งขึ้น เช่น "รู้ว่าเธอเหนื่อย พักผ่อนบ้างนะ" หรือ "หวังว่าดอกไม้ช่อนี้จะทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาบ้าง" ซึ่งเป็นข้อความที่ดารินแนะนำให้ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์"พี่ส่งดอกไม้ให้ครูเหมยทุกวันเลยอ่ะผมเป็นครูเหมยนี้ผมละลายหมดแล้วนะ"ไอ้เต้เดินมาแซวธงเมื่อเห็นว่ายังคงใช้ให้เต้ไปส่งดอกไม้"มันก็ต้องขยันหน่อยเว้ย.!!อยากได้เขากลับมาก็ต้องเอาใจเขาบ้าง"ธงพูดลอยๆ"คราบพี่" ไอ้เต้กับไอ้ต้นหนาวถึงกับหลุดหัวเราะในขณะเดียวกัน ธงก็เริ่มหาโอกาสพูดคุยกับเหมยมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์ที่พบกันโดยบังเอิญในที่ทำงาน หรืออ้างเรื่องงานเข้ามาพูดคุย "อรุณสวัสดิ์ครับเหมย" ธงที่มาคาเฟ่แต่เช้าเพื่อมาดักรอเหมยและลิลลี่ที่จะมานั่งในห้องประจำเพื่อเรียนหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศไม่ใช่ภายในบ้านพักตากอากาศ"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ธง"เหมยยิ้มให้อย่างเป็นมิตรช่วงนี้เธออาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ธงยังคงส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ หรือดอกไม้มาให้เหมย แต่คราวนี้เขาใช้วิธีที่แนบเนียนขึ้น เช่น ฝากคนอื่นมาให้ หรือวางทิ้งไว้ในที่ที่เหมยจะพบเจอโดยบังเอิญ ช่วงจังหวะนี้เขาตัดคู่แข่งอย่างเมฆินทร์ออกไปได้สักพักใหญ่เขาจะต้องเร่งรีบทำคะแนนโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเหมยและอาชาได้ยกระดับความสัมพันธ์ไปไกลเกินกว่าที่เขาจะแทรกกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอาชาโดยตรง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการย้ำเตือนการมีอยู่ของเขาในชีวิตเหมยอย่างต่อเนื่อง "พี่ธงจีบครูไหมครูภาษาไทยของน้องลิลลี่หรอ เนี่ยพี่ให้ผมเอาดอกไม้ไปวางนี่รอบที่สามแล้วนะ"ไอ้เต้หันมาพูดเมื่อธงติดสินบนให้เต้เอาดอกไม้ไปส่งให้เหมย "จีบเจิบอะไร เมื่อก่อนกูกับเหมยเคยเป็นแฟนกันมาก่อนสมัยมหาลัยนู่น"ส่งแกล้งพูดเสียงดังให้เสือได้ยินเรื่องราวของเขา "จริงดิพี่ ไอ้เต้ทำสีหน้าตกอกตกใจตามด้วยไอ้ต้นหนาวที่เดินผ่านมาได้ยินเข้าจังๆ "โหพี่โลกโคตรกลมอ่ะ"ไอ้ต้นหนาวที่เดินตามมาตะโกนสมทบแล้วมาตั้งใจฟังสิ่งที่ธงเล่าคนละแบบกับที่เสือได้ยินมาจากปากของคนอื่นเลย "กูกับเหมยเมื่อก่อนก็รักกันมากแหละเป็นแฟนกันอยู่พักนึง แต่ก็ต้องแยกย้ายกันไปเติบโตวะ" "แต
หลังจากที่ธงได้ควงหญิงสาวปริศนาก็เหมือนวันเวลาผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น ธงเดินหน้าจีบเหมยอย่างหนักข้อขึ้นทุกวัน ทุกการกระทำของเขาแฝงไปด้วยความท้าทายต่ออาชา เหมยสอนลิลลี่เสร็จแล้วก็พาลิลลี่มานั่งเล่นที่คาเฟ่ในไร่ชาของพรหมเทพจุดประจำของลิลลี่และเหมยคือมุมเล็กๆที่มีห้องนั่งเล่นอาชาให้จัดเอาไว้เป็นโซนส่วนตัว "คุณครูขาอันนี้เป็นขนมชิ้นใหม่ใส่สตอเบอรี่ข้างบนโรยช้าด้วยค่ะ คุณครูอยากลองชิมไหมคะ" หนูน้อยลิลลี่ที่รักเหมยมากๆมักจะสรรหานู่นนี่นั่นมาให้เหมยได้กินอยู่เสมอแม้จะเป็นวัยเพียงแค่สี่ขวบแต่เธอก็รู้จักเอาอกเอาใจและรู้ว่าควรทำอย่างไรที่จะให้เหมยรักและเอ็นดูเธอ "วันนี้คุณครูไม่ทานของหวานแล้วนะคะ ลิลลี่ทานเถอะ วันนี้คุณครูทานกาแฟเป็นเพื่อนลิลลี่นะค่ะ" เหมยที่วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่เหมือนจะเป็นวันนั้นของเดือน "ก็ได้ค่ะคุณครู งั้นเดี๋ยวเรารอคุณลุงอาชาทำงานเสร็จ แล้วเรากลับไปที่บ้านกันนะคะเมื่อเช้านี้ลิลลี่ตัดดอกไม้ดอกกุหลาบไว้ให้คุณครูด้วยนะค่ะ" ลิลลี่ที่ให้ป้าแจ่มช่วยตัดดอกไม้เอาไว้ให้กับเธอเพราะเธออยากจะให้กับครูเหมยด้วยมือของเธอเอง "เรานี่นะน่ารักขึ้นทุกวัน ขอบคุณนะคะ" เหมย
อาชาเลื่อนมือลงไปบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงของเหมยอย่างแผ่วเบา แต่แฝงไว้ด้วยความกระหายอาชาอยากทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยนที่สุดเพื่อลบรอยแผลในใจให้กับเหมยในค่ำคืนนี้เขาจะสอนบทเพลงรักที่แสนหวานให้กับเหมย "ผมจะทำให้เหมยมีความสุขที่สุด... สุขกว่าครั้งไหน ๆ " อาชากระซิบเสียงพร่า สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากของเขาแตะลงบนกลีบปากอิ่มของเหมยอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ บดขยี้ลงไปอย่างนุ่มนวล แต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนและความปรารถนาที่ไม่อาจเก็บงำ ลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากของเหมยอย่างช่ำชอง เหมยตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป ความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวของเธอ มันร้อนแรงเสียจนเธอไม่คิดจะต่อต้านอีกต่อไป อาชาค่อยๆ ช้อนร่างบางของเหมยขึ้นมาในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม ราวกับเธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต เหมยโอบรอบคอเขาไว้แน่น ซบใบหน้าลงกับแผงอกแกร่งของเขา หัวใจของทั้งสองเต้นรัวเป็นจังหวะเดียวกัน ดังกว่าเสียงใดๆ ในห้องนั้น อาชาเดินตรงไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง เขาบรรจงวางเหมยลงบนเตียง
คำพูดของอาชาในวันนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของ ธง ราวกับคมมีดกรีดลึก "คุณกำลังล้ำเส้น และผมไม่ชอบให้ใครมาล้ำเส้นของผม" คำพูดที่ตอกหน้าเขาอย่างจังต่อหน้า เหมย ผู้หญิงที่เขาต้องการและปรารถนา มันไม่ใช่แค่ความอับอาย แต่มันคือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอย่างไม่ไว้หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากลายเป็นเพียงพนักงานฝึกหัดภายใต้การปกครองของอาชา ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการช่างซ่อมบำรุงที่ เสือ เป็นผู้ควบคุม มันเหมือนกับการตอกย้ำว่าเขายังด้อยกว่าอาชามากแค่ไหน "พี่ธงเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นยืนเหม่อตั้งนาน" เมื่อมีรุ่นน้องช่างซ่อมบำรุงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาธงที่กำลังยืนดูการทำงานของเครื่องซีลถุงชา "เออไม่มีอะไรว่ะ พอดีคิดอะไรเพลิน ๆ แล้วนี่ไอ้ต้นหนาวมันไปไหนวะ ไม่เห็นมันมาเลย"ธงหันมาถาม "พอดีวันนี้มันหยุดวะ พี่นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้วผมนัดกับมันไว้ว่าจะไปเที่ยวบาร์ในตัวเมืองเชียงใหม่กัน พี่ไปป่ะล่ะ"ไอ้เต้รุ่นน้องช่างซ่อมบำรุงในสาขาแผนกเดียวกันเอ่ยปากชวนธง "เออไปดิวะเบื่อ ๆ เหมือนกัน แถมพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์แล้วด้วยคืนนี้ก็ตี้สักหน่อยก็ดีเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง..!"ธงที่อาสาเป็นคนเลี้ยงเหล้ารุ่นน้องในแผนกเพราะ
วันนี้อาชากลับมาถึงที่บ้านด้วยความเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังดีใจที่เจอเหมยและลิลลี่เปรียบเสมือนครอบครัวที่สมบูรณ์แบบรอคอยให้อาชากลับมาที่บ้านพักตากอากาศนี้จากที่เคยเงียบเหงาก็มีชีวิตชีวาและรอยยิ้มของลิลลี่กับเหมยทำให้ที่นี่มีสีสัน"คุณเป็นอะไรมากไหมครับ เหมยรู้สึกอึดอัดกับคุณธงอยู่หรือเปล่า" ธงที่กำลังนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเปิดทีวีและเห็นเหมยกำลังนั่งเหม่อลอยคิดอะไรบางอย่างอาชาเป็นห่วงความรู้สึกของเหมยเพราะรู้ตั้งแต่ต้นสายปลายเหตุและยิ่งธงทำตัวแบบนี้อาชายิ่งรู้สึกโกรธแค้นแทนเหมย"ไม่หรอกค่ะ พี่ธงเขาก็เป็นคนแบบนี้แหละแล้วคุณอาชาล่ะคะวันนี้เป็นไงบ้าง"เหมยที่ได้ยอมรับหัวใจของตัวเองนานแล้วหลังจากที่มีความสัมพันธ์ทางกายและผูกพันทางใจกับอาชาภายในเวลาอันรวดเร็ว"วันนี้ลูกค้าที่ไร่ชาไม่ค่อยเยอะครับ ส่วนที่ มหาลัยก็มีคุณครูปริมคอยดูแลจัดการทุกอย่างโอเคมาก...อาชาพูดเว้นจังหวะ "แต่ผมคิดถึงเหมยนะ"อาชายังไม่วายจะหยอดคำหวานใส่เหมยทุกครั้งที่มีโอกาส"คุณอาชาไม่ต้องมาหยอดคำหวานใส่เหมยเลยนะคะ"เหมยแอบเขินจนหน้าแดงอาชาที่เห็นแบบนั้นก็รีบล