ธงยังคงส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ หรือดอกไม้มาให้เหมย แต่คราวนี้เขาใช้วิธีที่แนบเนียนขึ้น เช่น ฝากคนอื่นมาให้ หรือวางทิ้งไว้ในที่ที่เหมยจะพบเจอโดยบังเอิญ
ช่วงจังหวะนี้เขาตัดคู่แข่งอย่างเมฆินทร์ออกไปได้สักพักใหญ่เขาจะต้องเร่งรีบทำคะแนนโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเหมยและอาชาได้ยกระดับความสัมพันธ์ไปไกลเกินกว่าที่เขาจะแทรกกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอาชาโดยตรง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการย้ำเตือนการมีอยู่ของเขาในชีวิตเหมยอย่างต่อเนื่อง "พี่ธงจีบครูไหมครูภาษาไทยของน้องลิลลี่หรอ เนี่ยพี่ให้ผมเอาดอกไม้ไปวางนี่รอบที่สามแล้วนะ"ไอ้เต้หันมาพูดเมื่อธงติดสินบนให้เต้เอาดอกไม้ไปส่งให้เหมย "จีบเจิบอะไร เมื่อก่อนกูกับเหมยเคยเป็นแฟนกันมาก่อนสมัยมหาลัยนู่น"ส่งแกล้งพูดเสียงดังให้เสือได้ยินเรื่องราวของเขา "จริงดิพี่ ไอ้เต้ทำสีหน้าตกอกตกใจตามด้วยไอ้ต้นหนาวที่เดินผ่านมาได้ยินเข้าจังๆ "โหพี่โลกโคตรกลมอ่ะ"ไอ้ต้นหนาวที่เดินตามมาตะโกนสมทบแล้วมาตั้งใจฟังสิ่งที่ธงเล่าคนละแบบกับที่เสือได้ยินมาจากปากของคนอื่นเลย "กูกับเหมยเมื่อก่อนก็รักกันมากแหละเป็นแฟนกันอยู่พักนึง แต่ก็ต้องแยกย้ายกันไปเติบโตวะ" "แต่วันนี้โชคชะตากูกลับมาเจอเขาอีกครั้งกูเลยอยากจะขอลองเริ่มต้นใหม่กับรักแรกดู" มันเป็นคำพูดที่ดูเหมือนจะเท่และสวยหรูแต่ใครจะรู้ในคำพูดนั้นแม่งหลอกลวงคนฟังเกือบ 90%. "โห่พี่แม่งโคตรเท่อ่ะ"รุ่นน้องทั้งสองที่อยู่ในแผนกเดียวกันต่างเอ่ยปากชมไอ้ธงเป็นคำเดียวว่าเท่ เสือที่เห็นแล้วก็ได้ยินเฝ้าสังเกตการณ์ทุกอย่างอยู่เงียบๆเขาไม่ใช่ว่าจะไม่รับรู้แต่เขาเลือกที่จะเงียบและเก็บรายละเอียดเอาไว้ในใจ อาชาเองก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวธง เขาเห็นว่าธงยังคงวนเวียนอยู่ใกล้เหมย และการกระทำของธงก็ยิ่งแนบเนียนและยากที่จะจับผิดมากขึ้นเรื่อยๆ อาชารู้สึกหงุดหงิดและไม่สบายใจ แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกได้เต็มที่เพราะธงอยู่ในสถานะพนักงานของเขา เสือ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมธงก็รู้สึกถึงบรรยากาศมาคุระหว่างอาชาและธง เสือเป็นคนซื่อสัตย์ต่ออาชา และคอยจับตาดูความประพฤติของธงอยู่ห่างๆ แม้ธงจะดูเหมือนตั้งใจทำงานดี แต่เสือก็สัมผัสได้ถึงเจตนาแอบแฝงบางอย่าง ขณะที่เสือเข้ามารายงานสถานการณ์ทางสิงคโปร์เรื่องการเปิดมหาวิทยาลัยให้กับอาชาได้ฟังอยู่ๆอาชาก็ได้พูดสวนขึ้นมาเหมือนจิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว "ไอ้ธงมันกำลังท้าทายอำนาจแล้วมายุ่งกับผู้หญิงของกู"อาชาพูดขึ้นมาลอยๆ "นายครับ..!" เสือพูดน้ำเสียงแผ่วเบาเขารู้ดีว่าอาชากำลังหมายถึงอะไร "มึงรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น นับวันนับวันข่าวที่ไอ้ธงมันพูดไปทั่วว่าเคยเป็นคนรักเก่าของเหมย ทำให้เหมยรู้สึกอึดอัด แล้วมันก็ทำให้กูกำลังดูแย่ในสายตาของลูกน้องคนอื่น" "ผมทราบดีครับนาย วันที่พวกมันเริ่มพูดคุยกันผมก็อยู่ในสถานการณ์ตรงนั้น แต่ถ้าจะให้ห้ามคนไม่คิดหรือไม่ซุบซิบนินทาคงเป็นไปได้ยาก" "จับตาดูมันไปก่อน ถ้าจนถึงที่สุดแล้วมันยังทำตัวแบบนี้อยู่กูอาจจะต้องส่งมันไปนรกก็เป็นได้" "ครับนาย"เสือตอบรับเบาๆ ความตึงเครียดระหว่างอาชาและธงกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เสมือนเชื้อเพลิงที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ ในมุมมืดของบาร์หรูแห่งหนึ่ง ดาริน อดีตคนรักของอาชาผู้ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับมรสุมชีวิตจากหมายศาลและค่าใช้จ่ายที่ร่อยหรอ ได้บังเอิญพบกับ ธงค่ำคืนนั้นผ่านไปตามสไตล์ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ผูกพัน ดารินผู้ซึ่งรักสนุกและธงผู้ซึ่งไม่คิดจะผูกมัด ได้เริ่มต้นบทสนทนาที่ดูเหมือนจะไร้สาระ และได้มีสัมพันธุ์ทางกายกับธงและยังคงติดต่อกันเรื่อยมา "วันนี้ทำไมคุณดูเครียดจังเลยคะธง"ดารินที่นวดหัวเบา ๆ ให้กับธงที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดตาในโรงแรมหรู "ผมกำลังตามจีบแฟนเก่าแต่ดันตอนนี้เป็นคนพิเศษของเจ้านายผมซะงั้น ผมไม่ได้อยากได้เธอคืนแต่ผมอยากตอกผู้ชายที่กำลังทำให้ผมเสียหน้า" ดารินจึงได้สอบถามและตั้งใจฟังสิ่งที่ธงกำลังพูดคุย "เราก็พบกันมา 2-3 ครั้งแล้วดายังไม่รู้เลยว่าธงทำงานอะไรอยู่ที่ไหนคะ"ดารินเริ่มให้ความผูกพันแต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการอันชั่วร้าย บทสนทนาสัพเพเหระนำพาไปสู่เรื่องราวในที่ทำงานของธง ธงผู้ซึ่งกำลังกลัดกลุ้มเรื่องอาชาและเหมย ได้ระบายทุกสิ่งทุกอย่างให้ ดารินฟังอย่างหมดเปลือก ดารินฉลาดพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องราว เธอซักไซ้ไล่เรียงจนได้รู้ว่าอาชามีผู้หญิงในใจอยู่แล้ว นั่นคือเหมย "เหมยงั้นเหรอ?" ดารินยิ้มเหยียดหยัน แหล่งเงินที่เธอหมายตามาโดยตลอดกำลังจะถูกแย่งชิงไป เธอไม่มีทางยอม เรื่องเงินทองคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ เมื่อธงเล่าถึงความคับแค้นที่เขามีต่ออาชา และความปรารถนาที่จะเอาชนะเพื่อช่วงชิงเหมยกลับมา "คุณเคยเป็นแฟนกับคุณอาชาจริง ๆ หรอ"ธงที่ตั้งข้อสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่เก็บนำเอาไว้เขาถามอย่างตั้งใจ "ใช่ค่ะ ดาเคยเป็นแฟนเก่าของอาชาสมัยเรียนต่างประเทศด้วยกันแต่ด้วยตอนนั้นเราสองคนยังเด็กมากก็เลยแยกย้ายกันมาเติบโต"ดารินโกหกธงใช้คำพูดที่สวยหรูโดยที่ไม่ได้พูดออกไปว่าเธอได้ทำชั่วระยำอะไรไว้กับอาชา "แล้วคุณกลับมาประเทศไทยทำไมล่ะ"ธงที่ถาม "ดากลับมาเที่ยวนะคะ แต่วันนั้นบังเอิญมาเจอกับอาชาแล้วก็รู้ว่าตอนนี้อาชาเปิดกิจการไร่ชาเลยมาเที่ยวดู แล้วก็ยังมีความรู้สึกเก่าๆกันอยู่เอาอย่างนี้ไหมคะ........ ดารินก็มองเห็นโอกาสทอง เธอเสนอข้อตกลงกับธงอย่างรวดเร็ว "ถ้าธงช่วยดาทำให้เหมยกับอาชาแตกกันได้ ดาจะช่วยให้ธงได้สิ่งที่แกต้องการ" ธงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ข้อเสนอของดารินฟังดูดีเกินกว่าจะปฏิเสธได้ เขาต้องการแก้แค้นอาชา และดารินก็เป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว น่าจะช่วยเขาได้มาก เขาจึงตกลงรับข้อเสนอทันที "ผมตกลงรับข้อเสนอของคุณณดา งั้นเราก็ร่วมมือกันเอาสิ่งที่เป็นของของเราคืนมา"ธงที่อยากเอาชนะอาชาใจจะขาดเขาจึงคิดอาจเอื้อมทำสิ่งที่เกินตัว ดารินเริ่มวางแผนการอย่างแยบยล เธอให้คำแนะนำแก่ธงถึงวิธีที่จะแทรกซึมเข้าไปในชีวิตของเหมยอย่างแนบเนียน พร้อมทั้งบอกวิธีที่จะสร้างความบาดหมางระหว่างเหมยและอาชา ดารินไม่ได้ต้องการแค่การแยกทั้งสองออกจากกัน แต่เธอต้องการให้อาชาเจ็บปวดทรมานที่สุด และการที่เขาเสียเหมยไป ก็จะทำให้เขาไม่มีความสุขอีกต่อไป "ธงต้องทำให้เหมยรู้สึกว่าอาชาไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเธอ และธงคือคนที่เข้าใจเธอที่สุด" ดารินบอกธงด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ทำให้อาชาต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขารัก โดยเฉพาะผู้หญิงที่เขาทะนุถนอม" ธงรับคำสั่งด้วยความมุ่งมั่น แรงแค้นที่เขามีต่ออาชา ประกอบกับคำแนะนำจากดาริน ทำให้เขารู้สึกมีพลังและพร้อมที่จะเดินหน้าทำฃตามแผนการร้ายนี้อย่างเต็มที่ สถานการณ์ยิ่งทวีความซับซ้อนขึ้นไปอีก ดารินซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังกำลังบงการธงให้ทำลายความสัมพันธ์ของอาชาและเหมย ....ธงเริ่มปฏิบัติการตามแผนของดารินอย่างเคร่งครัด เขายังคงส่งของขวัญและดอกไม้ให้เหมยเช่นเคย แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหมยมากยิ่งขึ้น เช่น "รู้ว่าเธอเหนื่อย พักผ่อนบ้างนะ" หรือ "หวังว่าดอกไม้ช่อนี้จะทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาบ้าง" ซึ่งเป็นข้อความที่ดารินแนะนำให้ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์"พี่ส่งดอกไม้ให้ครูเหมยทุกวันเลยอ่ะผมเป็นครูเหมยนี้ผมละลายหมดแล้วนะ"ไอ้เต้เดินมาแซวธงเมื่อเห็นว่ายังคงใช้ให้เต้ไปส่งดอกไม้"มันก็ต้องขยันหน่อยเว้ย.!!อยากได้เขากลับมาก็ต้องเอาใจเขาบ้าง"ธงพูดลอยๆ"คราบพี่" ไอ้เต้กับไอ้ต้นหนาวถึงกับหลุดหัวเราะในขณะเดียวกัน ธงก็เริ่มหาโอกาสพูดคุยกับเหมยมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์ที่พบกันโดยบังเอิญในที่ทำงาน หรืออ้างเรื่องงานเข้ามาพูดคุย "อรุณสวัสดิ์ครับเหมย" ธงที่มาคาเฟ่แต่เช้าเพื่อมาดักรอเหมยและลิลลี่ที่จะมานั่งในห้องประจำเพื่อเรียนหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศไม่ใช่ภายในบ้านพักตากอากาศ"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ธง"เหมยยิ้มให้อย่างเป็นมิตรช่วงนี้เธออาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ธงยังคงส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ หรือดอกไม้มาให้เหมย แต่คราวนี้เขาใช้วิธีที่แนบเนียนขึ้น เช่น ฝากคนอื่นมาให้ หรือวางทิ้งไว้ในที่ที่เหมยจะพบเจอโดยบังเอิญ ช่วงจังหวะนี้เขาตัดคู่แข่งอย่างเมฆินทร์ออกไปได้สักพักใหญ่เขาจะต้องเร่งรีบทำคะแนนโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเหมยและอาชาได้ยกระดับความสัมพันธ์ไปไกลเกินกว่าที่เขาจะแทรกกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอาชาโดยตรง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการย้ำเตือนการมีอยู่ของเขาในชีวิตเหมยอย่างต่อเนื่อง "พี่ธงจีบครูไหมครูภาษาไทยของน้องลิลลี่หรอ เนี่ยพี่ให้ผมเอาดอกไม้ไปวางนี่รอบที่สามแล้วนะ"ไอ้เต้หันมาพูดเมื่อธงติดสินบนให้เต้เอาดอกไม้ไปส่งให้เหมย "จีบเจิบอะไร เมื่อก่อนกูกับเหมยเคยเป็นแฟนกันมาก่อนสมัยมหาลัยนู่น"ส่งแกล้งพูดเสียงดังให้เสือได้ยินเรื่องราวของเขา "จริงดิพี่ ไอ้เต้ทำสีหน้าตกอกตกใจตามด้วยไอ้ต้นหนาวที่เดินผ่านมาได้ยินเข้าจังๆ "โหพี่โลกโคตรกลมอ่ะ"ไอ้ต้นหนาวที่เดินตามมาตะโกนสมทบแล้วมาตั้งใจฟังสิ่งที่ธงเล่าคนละแบบกับที่เสือได้ยินมาจากปากของคนอื่นเลย "กูกับเหมยเมื่อก่อนก็รักกันมากแหละเป็นแฟนกันอยู่พักนึง แต่ก็ต้องแยกย้ายกันไปเติบโตวะ" "แต
หลังจากที่ธงได้ควงหญิงสาวปริศนาก็เหมือนวันเวลาผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น ธงเดินหน้าจีบเหมยอย่างหนักข้อขึ้นทุกวัน ทุกการกระทำของเขาแฝงไปด้วยความท้าทายต่ออาชา เหมยสอนลิลลี่เสร็จแล้วก็พาลิลลี่มานั่งเล่นที่คาเฟ่ในไร่ชาของพรหมเทพจุดประจำของลิลลี่และเหมยคือมุมเล็กๆที่มีห้องนั่งเล่นอาชาให้จัดเอาไว้เป็นโซนส่วนตัว "คุณครูขาอันนี้เป็นขนมชิ้นใหม่ใส่สตอเบอรี่ข้างบนโรยช้าด้วยค่ะ คุณครูอยากลองชิมไหมคะ" หนูน้อยลิลลี่ที่รักเหมยมากๆมักจะสรรหานู่นนี่นั่นมาให้เหมยได้กินอยู่เสมอแม้จะเป็นวัยเพียงแค่สี่ขวบแต่เธอก็รู้จักเอาอกเอาใจและรู้ว่าควรทำอย่างไรที่จะให้เหมยรักและเอ็นดูเธอ "วันนี้คุณครูไม่ทานของหวานแล้วนะคะ ลิลลี่ทานเถอะ วันนี้คุณครูทานกาแฟเป็นเพื่อนลิลลี่นะค่ะ" เหมยที่วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่เหมือนจะเป็นวันนั้นของเดือน "ก็ได้ค่ะคุณครู งั้นเดี๋ยวเรารอคุณลุงอาชาทำงานเสร็จ แล้วเรากลับไปที่บ้านกันนะคะเมื่อเช้านี้ลิลลี่ตัดดอกไม้ดอกกุหลาบไว้ให้คุณครูด้วยนะค่ะ" ลิลลี่ที่ให้ป้าแจ่มช่วยตัดดอกไม้เอาไว้ให้กับเธอเพราะเธออยากจะให้กับครูเหมยด้วยมือของเธอเอง "เรานี่นะน่ารักขึ้นทุกวัน ขอบคุณนะคะ" เหมย
อาชาเลื่อนมือลงไปบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงของเหมยอย่างแผ่วเบา แต่แฝงไว้ด้วยความกระหายอาชาอยากทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยนที่สุดเพื่อลบรอยแผลในใจให้กับเหมยในค่ำคืนนี้เขาจะสอนบทเพลงรักที่แสนหวานให้กับเหมย "ผมจะทำให้เหมยมีความสุขที่สุด... สุขกว่าครั้งไหน ๆ " อาชากระซิบเสียงพร่า สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากของเขาแตะลงบนกลีบปากอิ่มของเหมยอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ บดขยี้ลงไปอย่างนุ่มนวล แต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนและความปรารถนาที่ไม่อาจเก็บงำ ลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากของเหมยอย่างช่ำชอง เหมยตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป ความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวของเธอ มันร้อนแรงเสียจนเธอไม่คิดจะต่อต้านอีกต่อไป อาชาค่อยๆ ช้อนร่างบางของเหมยขึ้นมาในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม ราวกับเธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต เหมยโอบรอบคอเขาไว้แน่น ซบใบหน้าลงกับแผงอกแกร่งของเขา หัวใจของทั้งสองเต้นรัวเป็นจังหวะเดียวกัน ดังกว่าเสียงใดๆ ในห้องนั้น อาชาเดินตรงไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง เขาบรรจงวางเหมยลงบนเตียง
คำพูดของอาชาในวันนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของ ธง ราวกับคมมีดกรีดลึก "คุณกำลังล้ำเส้น และผมไม่ชอบให้ใครมาล้ำเส้นของผม" คำพูดที่ตอกหน้าเขาอย่างจังต่อหน้า เหมย ผู้หญิงที่เขาต้องการและปรารถนา มันไม่ใช่แค่ความอับอาย แต่มันคือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอย่างไม่ไว้หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากลายเป็นเพียงพนักงานฝึกหัดภายใต้การปกครองของอาชา ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการช่างซ่อมบำรุงที่ เสือ เป็นผู้ควบคุม มันเหมือนกับการตอกย้ำว่าเขายังด้อยกว่าอาชามากแค่ไหน "พี่ธงเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นยืนเหม่อตั้งนาน" เมื่อมีรุ่นน้องช่างซ่อมบำรุงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาธงที่กำลังยืนดูการทำงานของเครื่องซีลถุงชา "เออไม่มีอะไรว่ะ พอดีคิดอะไรเพลิน ๆ แล้วนี่ไอ้ต้นหนาวมันไปไหนวะ ไม่เห็นมันมาเลย"ธงหันมาถาม "พอดีวันนี้มันหยุดวะ พี่นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้วผมนัดกับมันไว้ว่าจะไปเที่ยวบาร์ในตัวเมืองเชียงใหม่กัน พี่ไปป่ะล่ะ"ไอ้เต้รุ่นน้องช่างซ่อมบำรุงในสาขาแผนกเดียวกันเอ่ยปากชวนธง "เออไปดิวะเบื่อ ๆ เหมือนกัน แถมพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์แล้วด้วยคืนนี้ก็ตี้สักหน่อยก็ดีเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง..!"ธงที่อาสาเป็นคนเลี้ยงเหล้ารุ่นน้องในแผนกเพราะ
วันนี้อาชากลับมาถึงที่บ้านด้วยความเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังดีใจที่เจอเหมยและลิลลี่เปรียบเสมือนครอบครัวที่สมบูรณ์แบบรอคอยให้อาชากลับมาที่บ้านพักตากอากาศนี้จากที่เคยเงียบเหงาก็มีชีวิตชีวาและรอยยิ้มของลิลลี่กับเหมยทำให้ที่นี่มีสีสัน"คุณเป็นอะไรมากไหมครับ เหมยรู้สึกอึดอัดกับคุณธงอยู่หรือเปล่า" ธงที่กำลังนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเปิดทีวีและเห็นเหมยกำลังนั่งเหม่อลอยคิดอะไรบางอย่างอาชาเป็นห่วงความรู้สึกของเหมยเพราะรู้ตั้งแต่ต้นสายปลายเหตุและยิ่งธงทำตัวแบบนี้อาชายิ่งรู้สึกโกรธแค้นแทนเหมย"ไม่หรอกค่ะ พี่ธงเขาก็เป็นคนแบบนี้แหละแล้วคุณอาชาล่ะคะวันนี้เป็นไงบ้าง"เหมยที่ได้ยอมรับหัวใจของตัวเองนานแล้วหลังจากที่มีความสัมพันธ์ทางกายและผูกพันทางใจกับอาชาภายในเวลาอันรวดเร็ว"วันนี้ลูกค้าที่ไร่ชาไม่ค่อยเยอะครับ ส่วนที่ มหาลัยก็มีคุณครูปริมคอยดูแลจัดการทุกอย่างโอเคมาก...อาชาพูดเว้นจังหวะ "แต่ผมคิดถึงเหมยนะ"อาชายังไม่วายจะหยอดคำหวานใส่เหมยทุกครั้งที่มีโอกาส"คุณอาชาไม่ต้องมาหยอดคำหวานใส่เหมยเลยนะคะ"เหมยแอบเขินจนหน้าแดงอาชาที่เห็นแบบนั้นก็รีบล