เจียงซุ่ยฮวนหรี่ตาลง นางเพียงต้องการมีความรักอย่างสงบ ทว่ากลับมีผู้ต้องการเปิดเผยเรื่องของนาง"เจ้าช่างมีจิตใจดีนัก" เจียงซุ่ยฮวนใช้มือเท้าคาง ยิ้มเยาะเล็กน้อย"เช่นนี้เถิด หากเจ้ากล่าวเรื่องของข้ากับองค์ชายเป่ยโม่ ข้าจะกล่าวเรื่องที่เจ้ากับฉู่อี้ทำไว้ เจ้ามีความคิดเห็นว่าอย่างไร"เฉียนจิงอี๋ไม่สะทกสะท้าน "เผยออกไปก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสีย เรื่องที่ฉู่อี้จองจำฉู่เฉิน ก็ไม่มีผู้ใดเชื่ออยู่แล้ว""ส่วนเรื่องที่ข้าเป็นสหายของฉู่อี้ ข้าก็คิดว่าไม่มีผู้ใดเชื่อเช่นกัน""จริงหรือ" เจียงซุ่ยฮวนเอียงศีรษะเล็กน้อย "ฉู่อี้จงใจซ่อนศพปีศาจน้อยไว้ หวังจะใช้มันในพิธีบวงสรวงใหญ่ เช่นนี้ไม่รู้จะมีผู้ใดเชื่อหรือไม่"ใบหน้าเฉียนจิงอี๋พลันเปลี่ยนสี "เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"เจียงซุ่ยฮวนลอบโล่งใจ นางล่วงรู้เพียงว่า ฉู่อี้ซ่อนศพปีศาจน้อย ส่วนที่เหลือเป็นเพียงการเดาสุ่มแต่กลับเดาถูกจริง ๆ!"เจ้าอยากรู้หรือ ข้าไม่บอกหรอก" เจียงซุ่ยฮวนเผยรอยยิ้มเฉียนจิงอี๋ใบหน้ามืดครึ้ม เขาค่อย ๆ ยื่นมือไปหาเจียงซุ่ยฮวน "เดิมทีข้าต้องการพาตัวฉู่เฉินไปเท่านั้น แต่บัดนี้ ข้าต้องพาพวกเจ้าทั้งหมดไปแล้ว""ดีเลย" เจียงซ
"ข้าให้พวกองครักษ์ของเจ้าออกไป ก็เพื่อเห็นแก่พวกเขา เพราะบางครั้งยิ่งรู้มาก ก็ยิ่งอันตราย" ดวงตาของเฉียนจิงอี๋เปล่งประกายคมกริบดั่งคมมีด"ไม่เป็นไร องครักษ์ของข้าไม่หวั่นเกรงต่ออันตราย" เจียงซุ่ยฮวนยิ้มอย่างเย็นชา "บางทีพวกเขาอาจรู้มากกว่าที่เจ้ารู้เสียอีก"ม่านในห้องปิดกั้นแสงแดดไว้เกือบหมดเจียงซุ่ยฮวนอยู่ในแสงสลัว เสียงอันเยือกเย็นของนาง ทำให้บรรยากาศคล้ายภาพเงาอันลี้ลับเฉียนจิงอี๋นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เขาเอ่ยเสียงหนัก "คุณหนูเจียง ส่งตัวฉู่เฉินออกมาเถิด"เจียงซุ่ยฮวนวางถ้วยชาลง แล้วกล่าวเพียงสองคำ"ไม่ได้"เฉียนจิงอี๋กล่าว "เท่าที่ข้ารู้มา ฉู่เฉินโหดเหี้ยม ชอบทรมานนางกำนัล เจ้าเป็นผู้มีจิตใจดี ไม่ควรเกี่ยวข้องกับบุรุษเช่นนี้""นั่นเป็นฉู่เฉินในอดีต ตอนนี้เขาใจดี และเป็นคนดีมาก" เจียงซุ่ยฮวนกล่าวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า"ข้าว่ามิใช่เช่นนั้น" เฉียนจิงอี๋กล่าวเสียงอ่อนโยน "หากเขาเป็นคนดีจริง ไฉนจึงหนีมาหลบซ่อนอยู่ในเรือนของเจ้า นำพาอันตรายมาสู่เจ้า""นั่นก็เพราะสมบัติของเขาทั้งหมดอยู่กับข้า" เจียงซุ่ยฮวนตอบโดยไม่ต้องคิด ก่อนเปลี่ยนเรื่องสนทนา "จริงสิ เจ้าจ่า
ทั้งสองพยักหน้าให้ แล้วรีบขึ้นไปชั้นบนเจียงซุ่ยฮวนเดินเข้าไปในห้องแห่งหนึ่งบนชั้นสอง ก่อนนั่งลงไขว่ห้าง หยวนจิ่วยืนอยู่ด้านหลังของนาง ดวงตาคมกริบดั่งแมวในรัตติกาลไม่นาน เฉียนจิงอี๋ก็ก้าวเข้ามา ตั้งใจจะปิดประตู"คงไม่ต้องปิดกระมัง" เจียงซุ่ยฮวนกล่าวเรียบ ๆ "การบำรุงผิวพรรณใช้เวลาไม่นาน ไม่จำเป็นต้องปิดประตู"เฉียนจิงอี๋ยิ้ม "ไฉนเล่า หรือคุณหนูเจียงหวั่นเกรงว่าหากอยู่ร่วมกับข้าตามลำพัง จะส่งผลต่อชื่อเสียงของนาง""หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะรับผิดชอบเจ้าเอง" เฉียนจิงอี๋กล่าวอย่างอุกอาจขึ้นเรื่อย ๆ หยวนจิ่วที่ถูกละเลยถึงกับโกรธขึ้ง กัดฟันแน่น คนผู้นี้ช่างบังอาจนักที่กล้ากล่าวคำหยอกเย้าพระชายา!เขากำด้ามดาวกระจายแน่น เผื่อเฉียนจิงอี๋คิดก่อเรื่องไม่ดีต่อพระชายาเจียงซุ่ยฮวนกล่าวอย่างไร้อารมณ์ "ข้าเป็นหมอ หากอยู่ร่วมกับบุรุษตามลำพังแล้วเกิดข่าวเสียหาย เช่นนั้นข้าก็ต้องรับผิดชอบบุรุษหลายร้อยคน"คำพูดนี้ทำให้เฉียนจิงอี๋แปลกใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นบุรุษที่ต้องรับผิดชอบสตรี ครั้งแรกที่ได้ยินว่าสตรีต้องรับผิดชอบบุรุษน่าสนใจ ช่างน่าสนใจจริง ๆขณะที่เฉียนจิงอี๋เหม่อลอยไปครู่หนึ่ง ไป๋หลีแล
หยวนจิ่วถอยหลังโดยไม่ส่งเสียง มายืนอยู่เบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนเขาลดมือลงไปในแขนเสื้อ เตรียมพร้อมทุกเมื่อที่จะหยิบดาวกระจายออกมาไป๋หลี ปาฟาง และลิ่วลู่ เรียงตัวกันขวางอยู่หน้าประตู ใบหน้าล้วนฉายแววแข็งกร้าวแม้ว่าผู้มาเยือนจะเป็นแขก แต่แขกอย่างเฉียนจิงอี๋ พวกเขาไม่ต้อนรับลูกค้าที่นั่งอยู่ในมุมพักผ่อน เมื่อครู่ยังสนทนาเฮฮากันอยู่ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ก็พากันเงียบสนิท พลางชะโงกมองสถานการณ์ตรงหน้าอากาศในร้านหรงเยว่เก๋อคล้ายจะหยุดนิ่ง ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาแม้จะเผชิญกับท่าทีแข็งกร้าวของทุกคน เฉียนจิงอี๋กลับทำเหมือนไม่รับรู้ ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนในสายตาคนอื่น เฉียนจิงอี๋ดูเหมือนมีอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย รอยยิ้มปรากฏอยู่บนริมฝีปากแต่มีเพียงไป๋หลีและคนอื่น ๆ เท่านั้นที่มองออกว่ารังสีสังหารของเฉียนจิงอี๋แผ่ออกมาอย่างแนบเนียนพวกเขาได้รับคำสั่งให้รักษาความปลอดภัยของเจียงซุ่ยฮวน หากเฉียนจิงอี๋ไม่ลงมือ พวกเขาก็จะยังไม่เคลื่อนไหวก่อนทว่าเฉียนจิงอี๋กลับไม่ขยับไปทำอะไรต่อ ทำให้สถานการณ์ตกอยู่ในสภาพตึงเครียดเจียงซุ่ยฮวนมองเห็นว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมจะปะทะกัน นางก็รู้สึ
เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้ว "ท่านรู้จักเฉียนจิงอี๋ด้วยหรือ""ไม่รู้จัก แต่เคยได้ยินชื่อ" ฉู่เฉินหยิบปิ่นทองขึ้นมาพิจารณา "เขามีฝีมือยอดเยี่ยม แถมร่ำรวยมหาศาล""จริงสิ" ฉู่เฉินวางปิ่นทองลง แล้วหันกลับมา "ข้านึกบางอย่างขึ้นมาได้""เรื่องอะไร" เจียงซุ่ยฮวนถาม"ฉู่อี้รู้จักเฉียนจิงอี๋ ทั้งสองเป็นสหายสนิทกัน""ไม่น่าเชื่อ สองคนนี้เป็นสหายสนิทกันได้อย่างไร…" เจียงซุ่ยฮวนอึ้งไป ก่อนถาม "ท่านรู้ได้อย่างไร""อย่าประเมินฝีมือด้านสังคมของข้าต่ำไป" ฉู่เฉินยกกล่องจากชั้นเก็บของขึ้น พลางกล่าว "ทุกครั้งที่ฉู่อี้มาเยี่ยมข้า ข้าก็พยายามล้วงข้อมูลจากเขา ได้มาหลายอย่างเลย""เช่นว่าเขากินมังสวิรัติ หรือเคยมีหญิงคนหนึ่งที่เขาหลงใหล แต่นางกลับกระโดดบ่อน้ำจบชีวิต" ฉู่เฉินปัดฝุ่นจากเสื้อ "ข้อมูลเรื่องเขากับเฉียนจิงอี๋เป็นสหายสนิทกัน ข้าได้มาโดยบังเอิญ""เป็นเช่นนั้นเอง…" เจียงซุ่ยฮวนลูบคาง "ไม่น่าแปลกใจเลย เหตุใดในบรรดาบ่อนพนันทั่วเมืองหลวง หลี่ลี่ถึงเลือกไปที่ซิ่งหลง""ทั้งที่บ่อนนั้นคนเยอะนัก แต่ในวันที่องค์รักษ์ลับแอบจับหลี่ลี่ทั้ง ๆ ที่ระแวดระวังหนักหนา แต่กลับถูกเฉียนจิงอี๋พบเข้า"เจียงซุ่ยฮวนหยุดยืนค
"อยู่ในเมืองหลวงมาตั้งนาน แต่ไม่อาจเก็บเงินไว้ได้แม้แต่เหรียญเดียว ที่นี่คงไม่ถูกโฉลกกับข้าเป็นแน่""ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่อี้จะต้องรู้ว่าข้าแอบหนีออกมาภายในวันพรุ่งนี้ เขาหวาดกลัวว่าข้าจะเผยเรื่องของเขาออกไป จะต้องรีบส่งคนมาไล่จับข้าแน่นอน"ฉู่เฉินตัวสั่นเพราะความหนาวจนน้ำมูกไหล พลางกล่าวว่า "เจ้าเก้า เจ้าช่วยเตรียมเสบียงให้ข้าสักหน่อย ข้าต้องรีบออกจากเมืองหลวงก่อนที่ฉู่อี้จะรู้ตัว"เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้ว "อาจารย์ เวลามันกระชั้นชิดเกินไป""ข้าจะจัดห้องให้ท่าน ท่านพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน แล้วเราค่อยหารือกันอีกครั้งในรุ่งเช้า ดีหรือไม่"ฉู่เฉินส่ายหัว "หากข้ายังไม่ไปตอนนี้ ข้าก็คงต้องซ่อนตัวอยู่กับเจ้าตลอดไป จนกว่าฉู่อี้จะล้มเลิกการไล่ล่าข้า""แต่ข้าหมดใจแล้วกับเมืองหลวง ที่นี่คือสถานที่แห่งความเศร้าของข้า"เมื่อนึกถึงเงินที่กลายเป็นเถ้าถ่าน ฉู่เฉินก็รู้สึกปวดใจจนแทบหายใจไม่ออกขณะที่เจียงซุ่ยฮวนยังลังเล จู่ ๆ ไป๋หลีก็กล่าวขึ้นว่า "ถึงจะออกไปตอนนี้ก็ผ่านประตูเมืองไม่ได้อยู่ดี"เจียงซุ่ยฮวนกับฉู่เฉินหันไปมองไป๋หลีพร้อมกัน ฉู่เฉินเบิกตาโต "ไฉนเป็นเช่นนั้น"ไป๋หลีกล่าวว่า "เพื่อป้องกันเห
ฉับพลัน สีเลือดบนใบหน้าของฉู่เฉินก็จางหายไปหมดสิ้น "แล้วเงินที่ข้าซ่อนไว้ในเรือนเล่า"เจียงซุ่ยฮวนเม้มริมฝีปากพลางกล่าว "ตอนนั้นไฟลุกโชนหนักนัก เงินของท่านกับของอื่น ๆ ก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว""ไม่!!!"หิมะโปรยปราย สายลมเหนือเย็นยะเยือกฉู่เฉินทรุดเข่าลงกับพื้น "นั่นมันทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้า!!!"เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจ ตอนไฟไหม้ นางถูกจับตัวไป พอหวนกลับมา เรือนก็กลายเป็นเศษซาก อันของที่อยู่ด้านในก็มอดไหม้แทบหมดสิ้น"ส่วนทองดำของเจ้า ข้าให้คนช่วยค้นหาอยู่นานก็ไม่พบ"ฉู่เฉินถอดรองเท้าสีดำแล้วล้วงทองดำออกมา กอดไว้แน่นพลางกล่าวอย่างโล่งใจ "ดีที่ข้านำติดตัวไว้"เจียงซุ่ยฮวนโล่งใจไปบ้าง "ในเมื่อทองดำยังอยู่ ก็อย่าได้เศร้าไปเลย สักชิ้นหนึ่งก็คงมีค่ามากมายอยู่"ฉู่เฉินสั่นศีรษะ พลางกล่าวด้วยความเศร้า "เงินนั้นมีค่าแสนสำคัญ ข้าช่างทุกข์ใจนัก!"ภาพของฉู่เฉินในยามค่ำคืนยิ่งดูเปล่าเปลี่ยว เขาปิดหน้าสะอื้นพลางกล่าว "ปลาต้องร้องให้สายน้ำรับรู้ แล้วข้าร้องให้ผู้ใดรับรู้กันเล่า"เจียงซุ่ยฮวนกระแอมเบา ๆ "อาจารย์ คนทั้งเรือนรู้หมดแล้วว่าท่านร้องไห้"นอกจากไป๋หลีที่เฝ้ายามอยู่ ปาฟางและลิ่
เจียงซุ่ยฮวนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า "ศพของเด็กปีศาจที่ท่านว่า หมายถึงลูกของเจียงเม่ยเอ๋อร์หรือ""ใช่แล้ว!""แปลกจริง ๆ ฉู่อี้ต้องการมันไปทำไม""ใครจะไปรู้เล่า" ฉู่เฉินใช้มือชี้ไปที่ศีรษะ "ข้ารู้สึกว่าเขาดูไม่ค่อยปกติเลย"เจียงซุ่ยฮวนไม่ได้พบกับฉู่อี้มากนัก ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร แต่เมื่อจีกุ้ยเฟยให้ความหวังในตัวฉู่อี้ เช่นนั้นเขาย่อมต้องมีความสามารถแน่นอน"อาจารย์ ข้าลืมถามไป ท่านหนีออกมาได้อย่างไร"ฉู่เฉินกล่าวด้วยความไม่พอใจ "ข้าขุดอุโมงค์หนีออกมา""ดูตัวข้าที่เต็มไปด้วยโคลน ข้าคลานออกจากอุโมงค์จนร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่น ออกมาเจอกับหิมะก็เลยเป็นเช่นนี้""ท่านขุดอุโมงค์ในคุก ฉู่อี้ไม่พบเห็นหรือ" เจียงซุ่ยฮวนถามด้วยความสงสัย"ไม่มีทาง" ฉู่เฉินกล่าวอย่างภาคภูมิใจ "แม้ว่าฉู่อี้จะขังข้าไว้ในคุก แต่ก็ยังคงตอบสนองต่อคำขอของข้าทุกอย่าง""ข้าขอกระดาษเขามาวาดภาพมากมายแปะบนกำแพงเพื่อปิดทางเข้าอุโมงค์"เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจ "อาจารย์ ท่านดูหนังไม่เสียเปล่าเลยจริง ๆ""แน่นอนอยู่แล้ว"หยิ่งเถาผลักประตูเข้ามา "คุณหนู น้ำอาบเตรียมไว้แล้ว และหมูพะโล้ก็พร้อมแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ"เจียงซุ่
“ข้าเอง!” เงานั้นกระโดดขึ้นด้วยความยินดีเมื่อสองร่างเข้าใกล้กัน เจียงซุ่ยฮวนจึงเบาใจโดยสิ้นเชิง ใช่แล้ว คนผู้นั้นคือฉู่เฉินฉู่เฉินถูกโคลนหุ้มตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เหลือเพียงดวงตาและริมฝีปาก แม้ตัวจะสั่นเทาเพราะความหนาว แต่แววตากลับเปี่ยมสุข “เจ้าเก้า อาจารย์คิดถึงเจ้าจนแทบบ้าแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนถอดผ้าคลุมออกมาคลุมให้เขา “ข้าจะไปเรียกหยิ่งเถาและหงหลัวให้ต้มน้ำร้อน ให้ท่านอาบน้ำให้สบายกาย”“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก นานแล้วที่มิได้อาบน้ำ ร่างของข้าใกล้จะตกสะเก็ดเต็มทีแล้ว” ฉู่เฉินก้มลงสูดกลิ่นเสื้อผ้าตนเอง “โชคยังดี ไม่เหม็น”เจียงซุ่ยฮวนไม่กล้าทำร้ายจิตใจเขา จึงเปลี่ยนเรื่อง “ท่านอาจารย์ หิวหรือไม่ ข้าจะให้ป้าจางทำของอร่อยให้ท่านกิน”เขาน้ำตาคลอทันใดเจียงซุ่ยฮวนเข้าใจว่าเขาซึ้งใจจนน้ำตาไหล “อาจารย์ ข้าเป็นศิษย์ของท่าน ย่อมต้องห่วงใยท่านอยู่แล้ว”“วิเศษยิ่งนัก ในที่สุดข้าก็จะได้กินเนื้อแล้ว ข้าอยากกินหมูพะโล้ ไก่ย่างดิน และไส้หมูเคี่ยวน้ำตาล”“……”เจียงซุ่ยฮวนหันไปยังสามคนด้านหลัง “ลิ่วลู่ ไปปลุกหยิ่งเถาและหงหลัวให้ต้มน้ำ”“หยวนจิ่ว ไปปลุกป้าจางให้ลุกขึ้นมาทำอาหาร”“ปาฟาง เจ้าจงอยู่เฝ