Share

๒ อารมณ์แปรปรวน

last update Dernière mise à jour: 2025-05-03 15:37:40

เช้าวันรุ่งขึ้นฮั่วซูเม่ยตื่นขึ้นมาด้วยความเกียจคร้านปนเหนื่อยล้าไปทั่วทั้งร่าง นางสวมใส่อาภรณ์สีฉูดฉาดปักลวดลายเล็กน้อยประดับอย่างประณีตอีกทั้งยังรวบเกล้าผมขึ้นเป็นมวยสูงเฉกเช่นกับสตรีออกเรือนแล้ว

ฮั่วซูเม่ยปล่อยให้พวกสาวใช้จัดการได้อย่างตามใจ เพียงแต่การแต่งแต้มใบหน้านั้นนางเป็นคนลงมือจัดการเอง

อารมณ์วันนี้ของนางเบิกบานอย่างเห็นได้ชัด

พวกสาวใช้ที่อยู่บริเวณในห้องนั้นเห็นท่าทางของคุณใหญ่แล้วก็ต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความเกรงกลัว ไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นคุณหนูใหญ่อารมณ์ดีเช่นนี้

“มีเรื่องยินดีอันใดหรือเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้หญิงใจกล้าเปิดปากถามออกไป

ฮั่วซูเม่นเหลียวมอง “ข้ายิ้มไม่ได้หรือ” นางเอียงคอเลิกคิ้วถามก่อนจะยกมือลูบท้องของตนเอง “หากมารดาอารมณ์ดีบุตรในท้องก็อารมณ์ดีด้วยมิใช่หรือ”

“เจ้าค่ะ!” สาวใช้ผู้นั้นพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วย ถึงแม้ภายในใจจะรู้แล้วว่าเป็นเรื่องอันใดก็ตาม นางพอปะติดปะต่อได้ว่าคงเป็นเหตุการณ์ที่คุณใหญ่ยกเลิกงานหมั้นหมายจองคุณหนูรองเป็นแน่

แม้ทั้งคู่จะเป็นพี่น้องร่วมบิดากันแล้วอย่างไร

คุณหนูใหญ่ดันเกิดก่อนคุณหนูรองที่มีมารดาเป็นฮูหยินเอกมีผู้ใดบ้างจะพึงพอใจยอมรับเรื่องนี้ได้ อีกทั้งตั้งแต่เด็กยังเป็นนิสัยร้ายกาจคอยกลั่นแกล้งคุณหนูรองอยู่บ่อยครั้งทว่ากับยังมีฮูหยินผู้เฒ่าที่เอ็นดูคอยให้ท้ายอยู่เสมอ

ใบหน้าของฮั่วซูเม่ยเจื่อนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “วันนี้พวกเจ้าทำได้ดี” นางพลางเบิกลิ้นชักลวงถุง ๆ หนึ่งออกมาก่อนจะวางลงบนโต๊ะ

“เอาไปแบ่งกันเสีย” นางพูดพลางลุกขึ้น

พวกสาวใช้เห็นแล้วก็พลันตาลุกวาวแต่กลับไม่มีผู้ใดใจกล้าหยิบจับแตะต้องถุงเงินนั้นเลย เกรงว่าจะเป็นสิ่งของที่ขโมยมาจากผู้อื่น

ว่ากันตามตรงมารดาของคุณหนูใหญ่หรือฮูหยินรองนั้นเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าธรรมดาเท่านั้นมิได้มีฐานะร่ำรวยอันใดและถึงแม้ตอนจากไปจะทิ้งสินเดิมไว้ให้คุณหนูใหญ่แต่นั้นก็เป็นเพียงเศษเงินสำหรับพวกคนรวยเท่านั้น

แต่คุณหนูใหญ่มองดูแล้วกับใช้เงินมือเติบสวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่นัก

ฮั่วซูเม่ยเลิกคิ้วถาม “ไม่เอาหรอกหรือ”

“…..”

“เงินพวกนี้หากพวกเจ้าแบ่งกันแล้วอย่างไรก็มากกว่าเงินทั้งเดือนที่สกุลฮั่วมอบให้อยู่ดี” สายตาของนางปรายมองสาวใช้พวกนี้ที่เอาแต่ก้มหน้ามองเท้า ฮั่วซูเม่ยยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นก็ออกไปซะ”

“ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่!”

จู่ ๆ สาวใช้ใจกล้าผู้หนึ่งก็พุ่งเข้ามาคว้าถุงเงินไว้ในมือก่อนจะทำความเคารพแล้วจึงออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วทันที

ฮั่วซูเม่ยได้แต่หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์

เมื่อก่อนนางใช้ชีวิตอย่างลำบากจริง ๆ ถึงจะมีฐานะเป็นคุณหนูใหญ่แต่กลับไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างที่ควร ซ้ำตอนมารดาจากไปแล้วนางมิต่างกับเป็นภาระของจวนสกุลฮั่ว

ผ่านไปครู่ใหญ่ท้องของนางก็พลันส่งเสียงร้องดังโครกครากเสียแล้ว ฮั่วซูเม่ยเบื่อที่จะกินข้าวผู้เดียวดังนั้นในความคิดของนางจึงออกไปจวนไปประจบพบเจอฮูหยินผู้เฒ่าเสียหน้า

“คุณหนูจะไปที่ใดหรือเจ้าค่ะ”

ฮั่วซูเม่ยก้าวเท้ายังไม่พ้นขอบประตูก็พลันมีสาวใช้ผู้หนึ่งยืนกางแขนขวางทางไว้เสียแล้ว

นางขมวดคิ้วมอง “หลีกไป”

“บ่าวทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ”

พอได้ยินถ้อยคำนี้นางเข้าใจความมหายกระจ่างแจ้งทันที “ฮั่วฮูหยินสั่งให้เจ้าเป็นสุนัขจับตามองข้าหรือ”

ประโยคของคุณหนูตรงหน้าทำเอานางเจ็บแสบไม่น้อย “บ่าวมิใช่สุนัขเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้นี้ทำท่าอวดดียกมือเท้าสะเอวเชิดใบหน้ามองเหยียดสตรีตรงหน้า

“คนนิสัยใจคอร้ายกาจเฉกเช่นคุณหนูใหญ่สมควรอยู่ในเรือนไม่พบผู้ใดเลยจะดีกว่า”

“อืม” ฮั่วซูเม่ยขานรับ

“ฮั่วฮูหยินนับว่าเลี้ยงสุนัขตัวนี้ได้ดี”

สตรีผู้นั้นคิดหรือว่าอำนาจเพียงเท่านี้จะจัดการนานได้ เช่นนั้นนางก็คงไม่อยู่รอดมาได้นานเพียงนี้ จากที่เดิมที่อารมณ์ของนางดี ๆ กลับย่ำแย่ลงเล็กน้อย

ใบหน้าของฮั่วซูเม่ยเคร่งขรึมขึ้นทันที พลางเสแสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เช่นนั้นบุตรชายของเซียนหยางชินอ๋องคงต้องทนหิวโหยตลอดทั้งวันแล้วกระมัง”

 

ครั้งล่าสุดที่ไหวห่าวซีมาเหยียบจวนชินอ๋องคงจะเป็นช่วงเมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้ เมื่อสังเกตมองดูรอบ ๆ จวนแล้วเหมือนไม่มีอันใดเปลี่ยนไปมากนักนอกจากอารมณ์ขุ่นมัวของสหายเบื้องหน้า

“ข่าวดีเช่นนี้ปล่อยให้ข้าได้ยินจากปากผู้อื่นได้อย่างไร”

ไหวห่าวซีมีฐานะเป็นผู้ตรวจตราแผ่นดิน เขาจึงออกไปว่าราชการต่างอำเภออยู่บ่อยครั้งและวันนี้พอกลับถึงจวนยังไม่ทันจะได้พักเหนื่อยหายใจแต่กลับได้ยินข่าวหนึ่งแว่วผ่านหูจึงเร่งรีบควบม้ามายังจวนชินอ๋องทันที

“เหตุใดไม่พานางมาให้ข้ารู้จักหน่อยเล่าเซียนหยาง”

ในขณะที่เซียนหยางชินอ๋องนั้นกลับมีสีหน้าอึมครึมไม่สู้ดี ทั่วทั้งตัวแฝงกลิ่นอายสังหารอย่างกระอักกระอ่วน

“ออกไปจากจวนของข้าซะ!” แววตาของเขาแข็งกร้าว

ไม่ต้องเอ่ยปากพูดเขาก็รู้ว่าบุรุษตรงหน้าหมายถึงเรื่องอันใดกัน วันนี้เซียนหยางชินอ๋องเข้าวังหลวงประชุมท้องพระโรงตั้งแต่เช้าตรู่แต่กลับถูกถามคาดคั้นถึงประเด็นเรื่องทำคุณหนูใหญ่จวนสกุลฮั่วตั้งครรภ์แทน

ไหวห่าวซียิ้มกว้างราวกับกำลังยียวนอารมณ์อีกฝ่าย “ดูท่าแล้วเจ้าคงทำคุณหนูจวนฮั่วตั้งครรภ์จริง ๆ”

คราแรกเขาคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือจอมปลอมเท่านั้นแต่พอเห็นท่าทางของสหายแล้ว

นี่เป็นเรื่องจริงแน่!

“หึ! บุตรในครรภ์ของนางจะใช่ลูกข้าจริงหรือ” เซียนหยางหันขวับมองสหายตาขวาง

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

“บางทีอาจเป็นแผนการของคุณสกุลฮั่ว”

“เพ่ย! เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นัก คุณหนูฮั่วหรือจะกล้าเอาชื่อเสียงของตนเองมาเดิมพันกับเจ้า!”

“ทำไมจะไม่ได้เล่า”

เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นหรือช่วงเวลาย้อนกลับไปนั้น เซียนหยางเชื่อว่าสตรีผู้นั้นจงใจโกหกเพื่อหลอกลวงเขาแน่

ไหวห่าวซีกลอกสายตามองบนถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เจ้าเองก็กำลังจะคิดจะตบแต่งคุณหนูรองสกุลฮั่วมิใช่หรอกหรือ…เช่นนั้นหากได้ตบแต่งคนพี่แทนจะเป็นไรไป”

“นางทำงานอยู่หอคณิกา”

“…..”

“ข้าพบเจอนางที่นั่น”

มิใช่ว่าในครรภ์ของนางเป็นบุตรของผู้อื่นหรือ ความสงสัยนี้ทำให้ภายในใจของหยางเซียนชินอ๋องว้าวุ่นไม่สงบนิ่ง เขาอยากจะเร่งไปจวนสกุลฮั่วถามให้รู้เรื่องแน่ชัดทว่าการกระทำเช่นนั้นเสมือนกับยิ่งเป็นการตอกย้ำ

เซียนหยางถอนหายใจฮึดฮัดไม่พอใจอยู่เฮือกใหญ่

“เป็นหญิงคณิกาแล้วอย่างไรกัน ค่ำคืนนั้นมีเพียงเจ้าและนางต่างรู้ดีมิใช่หรือ” ไหวห่าวซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

หากเขาจำไม่ผิดสหายตรงหน้าเพียงแต่ต้องการตบแต่งสตรีสกุลฮั่วเพียงเพราะต้องการผลประโยชน์เท่านั้น ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วเปลี่ยนน้องเป็นพี่นับว่าไม่ขาดทุน

ประโยคนั้นเท่านั้นเซียนหยางพูดไม่ออกทันที

หากในครรภ์นางเป็นบุตรของเขาจริง…จะทำอย่างไรดี

ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ค่ำคืนเดียวแต่ภายหลังจากนั้นเขายังมีความรู้สึกว่ากลิ่นกายของนางยังคงไม่จางหาย

สตรีผู้นั้นมีความหอมมิต่างจากดอกไม้

ซ้ำเขายังเป็นคนแรกของนาง…

ไหวห่าวซีแค่นเสียงเยาะเย้ย “เหอะ! ดูท่าทางของเจ้าแล้ว ข้าสมควรจะต้องเตรียมของรับขวัญหลานผู้แรกเลยหรือไม่”

“กับผีน่ะสิ!”

ในใจของเซียวหยางชินอ๋องยังหวังว่าสตรีผู้นั้นตั้งใจจะยกเลิกงานหมั้นของน้องสาวหรือทำให้คนสกุลฮั่วขายหน้าเท่านั้น

“ข้าจะไปจวนสกุลฮั่ว!”

 

 

 

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๖ ครอบครัวพร้อมหน้า

    ผู้ใดกันเอ่ยปากจะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนบุตรสาวให้ดีไม่ตามใจนางจนเสียคนเกรงว่าคงเป็นฮั่วซูเม่ยกระมังที่หูฝาดได้ยินผิดไปเอง หากเอ่ยถึงเซียนหยางคนผู้นั้นน่ะหรือ…นางไม่เคยเห็นเขาปฏิเสธอาหนี่ว์เลยแม้แต่สักครึ่งคำด้วยซ้ำ“ท่านพ่อ!”น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยขึ้นเสียงดังพลางกระโดดวิ่งเต้นตามหาผู้เป็นบิดาของตน“ท่านพ่ออยู่ที่ใดเพคะ!”“ท่านพ่อเจ้าค่ะ!”ฮั่วซูเม่ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอนางได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้พลันรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “อาหนี่ว์! เสียงเจ้าดังจนทำเขาตกใจตื่นแล้ว”“เอะ! แอ้ๆๆ แอ้!” เสียงของเด็กทารกในห่อผ้าสะดุ้งพลันหวีดร้องไห้จ้าด้วยความตกใจเมื่อถูกรบกวน“น้องข้าตื่นแล้วหรือ” ซูหนี่ว์หยุดชะงักก่อนตะโกนถามออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ก็ใช่น่ะซิ!” ฮั่วซูเม่ยตะโกนตอบ“ชู่ว์~~ เข้าใจนางหน่อยอาหยวน พี่สาวของเจ้าก็เป็นคนเสียงดังเช่นนี้” ฮั่วซูเม่ยพลางอุ้มเด็กน้อยในห่อผ้าขึ้นแนบอก เกลี้ยกล่อมให้หยุดร้องไห้“ท่านแม่!”ซูหนี่ว์ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ตรงหน้ามารดา สายตาของนางมองเลยสอดส่องเข้าไปในห่อผ้าอย่างไม่วางตา “ส่งมาให้ข้าเถอะ”“…..”“แอ้! แอ้ๆๆๆ” ทารกยังคงตะเบ่งเสียงร้องไม่

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๕ บทสรุปของทุกอย่าง

    ‘หนึ่ง…คำนับฟ้าดิน’‘สอง…คำนับบิดามารดา’‘สาม…คำนับกันและกัน’‘ส่งตัวเข้าหอ’เสียงของแม่สื่อร้องตะโกนดังก้องประกาศขั้นตอนพิธีการสำคัญต่าง ๆ ตามหน้าที่ขนบธรรมเนียมผ่านมาเกือบปีแล้วในที่สุดก็ถึงเวลาเหมาะสมสำหรับ งานมงคลสมรสอย่างเป็นทางการเสียทีระหว่างเซียนหยางชินอ๋องและฮั่วซูเม่ยโดยมีฟ่านฮองเฮาจื่อฮ่องเต้เป็นผู้จัดการให้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะสามหนังสือหรือหกพิธีการจัดแจงตามให้เหมาะสมในเมื่อฮั่วซูเม่ยตัดขาดไม่เกี่ยวข้องออกจากจวนสกุลฮั่วมานานแล้ว ดังนั้นฟ่านฮองเฮาจึงเป็นแม่งานฝ่ายเจ้าสาวให้ส่วนเซียนหยางชินอ๋องนั้นแม้ตอนแรกเขาเอ่ยปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองทว่ากับถูกจื่อฮ่องเต้ข่มขู่หากไม่ได้ทำให้น้องชายร่วมอุทรผู้เดียวเกรงว่าตอนตายลงโลงไปคงไม่หลับตาแน่เป็นเช่นนี้แล้วคนทั้งคู่จึงไม่สามารถเอ่ยขัดได้เลยแม้แต่สักครึ่งคำจื่อฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรสวมใส่อาภรณ์สีทองแล้วยังปักด้วยดิ้นทองเป็นลวดลายมังกรน่าเกรงขามอีกหน เคียงข้างด้วยฟ่านฮองเฮาสวมใส่อาภรณ์ที่ตัดเย็บอย่างประณีตในชุดสีทองประดับลวดลายสวยงามเช่นกันเหล่าขุนนางสูงต่ำทั้งหลายและแขกมากมายต่างรายล้อมอยู่รอชื่นชมความงดงามของคู่บ่า

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๔ บุตรสาวหน้าตาคล้ายนาง

    ต้นฤดูไม้ใบผลิอากาศหนาวเริ่มคลายลงบ้างแล้ว ในขณะที่ช่วงยามนี้จวนชินอ๋องกำลังวุ่นวายบ่าวรับใช้และหมอหญิงหลาย สิบคนต่างกำลังเดินเข้าออกจากเรือนหลักหนึ่งทำหน้าที่ของตนเองเพียงเพราะฮั่วซูเม่ยสตรีของเซียนหยางชินอ๋องเจ็บท้องใกล้จะ คลอดแล้ว“อดทนอีกนิดเพคะ” ชิงอันพลางเอ่ยบอกอาการเป็นระยะฮั่วซูเม่ยนอนอยู่บนเตียง สภาพใบหน้าหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด “มารดาจะตายแล้ว!”นางรู้สึกหน่วงที่ท้องและเจ็บจริง ๆ“ใจเย็นเถอะ ๆ อีกไม่นาน” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นปลอบใจเซียนหยางยืนอยู่ข้างๆ เตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกระวนกระวายและไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากจับมือนาง ไว้แน่นราวกับหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดนั้นได้เซียนหยางเห็นสภาพของนางเช่นนี้มาสองชั่วยามได้แล้ว หากเขาเจ็บแทนได้คงดีไม่น้อย“เมื่อไหร่นางจะคลอด”“…..”หมอหญิงสามสี่คนที่ตรวจดูอาการพอได้ยินน้ำเสียงทุ้มของชินอ๋องเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ จึงสะดุ้งตาม ๆ กัน “อีกไม่นานเจ้าค่ะ"อีกไม่นาน?“ข้าถามว่าเมื่อไหร่” สายตาคมกริบพลันปรายไปมอง ฉายความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“เกรงว่าทารกน้อยผู้นี้คงจะตัวใหญ่ไม่น้อยถึงขั้นไม่ยอมออกเลยทำให้หวางเฟยเจ็บปวดไม่น้อย”

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๓ วันส่งท้ายปี

    พอได้ยินประโยคนี้แล้วฮั่วซูเม่ยตกใจเล็กน้อยก็จะปรายสายตาเหลียวไปมองเซียนหยางอยู่ข้าง ๆ ที่เอ่ยแทรกขึ้น“เกรงว่าคงทำให้พี่สะใภ้ผิดหวังแล้ว” เซียนหยางไม่มีทางยอมแน่ บุตรของเขาที่กำลังเกิดจากฮั่วซูเม่ยสมควรเรียกเขาว่าบิดาแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้นสีหน้าของฟ่านฮองเฮาผิดหวังเล็กน้อย “เช่นนั้นหรือ” นางมีความรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยผู้นี้ตั้งแต่ในครรภ์จริง ๆ ดูท่าแล้วออกมาคงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มไม่น้อย“คงไม่เป็นอันใดกระมัง” นางหันไปพูดกับเซียนหยางก่อนจะปรายสายมากลับมามองสตรีตรงหน้าฮั่วซูเม่ยถือวิสาสะจับมือของฟ่านฮองเฮาไว้ก่อนจะวางลงบนท้องของตนเอง “ไฉนเจ้าเด็กนี้เขาจะไม่ดีใจกันมีท่านป้าเป็นถึงฮองเฮางดงามเพียงนี้” นางไม่ได้คิดมากอันใดอยู่แล้ว เพียงแค่มีคนเอ็นดูเจ้าเด็กคนนี้ตั้งแต่ในครรภ์ก็นับว่าเกินไปสักหน่อยแล้วจื่อฮ่องเต้พลางเดินเข้ามาโอบไหล่ภรรยาไว้ “หากเจ้าอยากมีนักเช่นนั้นให้ข้าลงมือได้เลยหรือไม่”ไฉนนางจะไม่อยากมีกัน…ว่ากันตามตรงแล้วเขาและนางก็ตบแต่งกันมาหลายปีแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววเลยว่าผู้เป็นภรรยาจะตั้งครรภ์เสียทีด้วยสุขภาพของนางที่เป็นอยู่ตอนนี้ฟ่านฮองเฮาส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “สุขภาพข

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๒ เริ่มเข้าที่เข้าทาง

    “กลับมาแล้วหรือ”ฮั่วซูเม่ยรออยู่ในเรือนไม่ยอมนอนอยู่นานสองนานพอเห็นประตูถูกผลักเข้ามาปรากฏเรือนร่างกำยำคุ้นเคย นางจึงปากถามพลางลุกเดินเข้าไปหาเซียนหยางพลันถอยหลังหนี“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าไม่ต้องรอ ไฉนยังไม่นอนอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเรียบนิ่ง สายตาคมกริบไล่สำรวจนางตั้งแต่บนลงร่างจงใจยั่วยวนเขาหรอกหรือ?อาภรณ์ชุดนอนผืนบางแนบสนิทไปกับเรือนร่างจนมองเห็นส่วนโค้งเว้าทุกส่วน เรือนผมดำปล่อยสยายยาวอยู่หลัง“บอกแล้วอย่างไรว่าจะรอ” ใบหน้าคนงามระบายยิ้มกว้าง นางมองเข้าไปในนัยน์ตาคมกริบคู่นั้นจึงเห็นความรู้สึกผิดที่ถูกกลบเกลื่อนเอาไว้เล็กน้อย“……” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่” ฮั่วซูเม่ยเดินไปอีกครั้งแต่เซียนหยางก็พลันถอยห่างอีก นางจึงขมวดคิ้วมุ่นทันทีคราแรกที่บุรุษผู้นี้ทำเช่นนี้นางจึงคิดเสียว่าเขาอาจจะตกใจก็ได้ ทว่าพอเป็นเช่นนี่ฮั่วซูเม่ยรู้ว่าเริ่มไม่ปกติแล้ว“เนื้อตัวข้าสกปรกยังไม่ทันได้อาบน้ำ” เซียนหยางเอ่ยอย่างเร่งรีบเกรงว่านางจะเข้าใจผิดเอาได้หาว่าเขารังเกียจฮั่วซูเม่ยไล่สายตาสำรวจสังเกตจึงพบว่าฝ่ามือของบุรุษผู้นี้นั้นมีคราบสีแดงคลายเลือดแห้งติดอยู่ ดวงตาเมล็ดซิ่งค่อย ๆ เงยขึ้นส

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๑ เป็นรองเพียงนาง

    การแต่งงานของฮั่วซูเม่ยและเซียนหยางถูกจื่อฮ่องเต้กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงอย่างไรเซียนหยางก็เป็นน้องชายร่วมอุทรผู้เดียวของจื่ออ๋องเต้ย่อมต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าผู้ใดแน่จื่ออ๋องเต้นั่งพูดคุยอยู่จวนชินอ๋องต่อราวหนึ่งก้านธูปเห็นว่าคงรบกวนเวลาพักผ่อนของน้องสะใภ้มากเกินไปจึงไม่รั้งอยู่ต่อ “วันหน้าเจ้าก็พานางเข้าวังไปพบพี่สะใภ้เสีย”ฮั่วซูเม่ยระบายยิ้มจาง ๆ “เกรงว่าคงจะรบกวนฝ่าบาทเกินไปแล้วเพคะ”“เหอะ! รบกวนอันใดกันนับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”ในความคิดของนางจื่อฮ่องเต้ผู้นี้เป็นถึงผู้ปกครองแคว้นเหนือกว่าผู้คนหลายพันหลายหมื่นชีวิตแต่กลับไม่หยิ่งทะนงถือตัวเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกประหม่าในคราแรกจึงคลายลงไปหมดสิ้นเซียนหยางกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแล้วแต่พอเหลียวเห็นรอยยิ้มของสตรีข้างกายเป็นอันต้องกลืนคำพูดนั้นลงท้องไป เกรงว่าหากนางอยู่แต่จวนคงเบื่อหน่ายไม่น้อยได้พูดคุยกับผู้อื่นคงดี“เจ้าอยากไปหรือไม่”ฮั่วซูเม่ยพลางทำท่าครุ่นคิดสักเล็กน้อย “หากเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเช่นนั้นข้าสมควรต้องคารวะพี่สะใภ้เสียหน่อยแล้ว”“ดี!” จื่อฮ่องเต้ตอบรับหัวเราะเบา ๆ “นางต้องเอ็นดูเจ้าเหม

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status