Home / รักโบราณ / วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด / บทที่ 22 น้ำนิ่งไหลลึก (2)

Share

บทที่ 22 น้ำนิ่งไหลลึก (2)

last update Last Updated: 2025-07-18 12:00:49

จูจวิ้นอี๋ย้ายสายตามายังหญิงสาวฝั่งตรงข้าม “น้องสะใภ้ ที่ศาลาริมน้ำมีงานเลี้ยงจิบน้ำชาร่วมด้วย เจ้าอยากไปนั่งผ่อนคลายกับข้าหรือไม่ นานทีปีหนได้อยู่กันประสาหญิงสาว เจ้าต้องดูแลน้องชายสามีข้าที่ตาบอดไร้กำลัง คงลำบากแย่แล้ว”

แค่พ่นวาจากลิ่นเหม็นเน่าก็โชยมาตามสายลม คิดว่าไป๋เฉินเซียงโง่จนฟังไม่ออกหรือว่าอีกฝ่ายกำลังถากถางตนอยู่

ไป๋เฉินเซียงปรายตามองไปทางสระบัวขนาดกว้างก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ มือเรียวที่ประสานกันบริเวณหน้าท้องกำแน่นจนรู้สึกเจ็บ คนที่ผ่านความตายมาแล้วหนหนึ่งย่อมฝังใจเป็นเรื่องธรรมดา หากไม่จำเป็น ไป๋เฉินเซียงไม่อยากเฉียดเข้าใกล้แม่น้ำใดเลยแม้เพียงครึ่งก้าว

จูจวิ้นอี๋สังเกตอาการประหลาดของไป๋เฉินเซียง ก็เอ่ยปากซ้ำ “น้องสะใภ้ เจ้ามีเรื่องลำบากใจหรือ”

ไป๋เฉินเซียงยิ้มตอบ ทั้งที่แผ่นหลังเปียกโซมไปด้วยเหงื่อเย็น “เปล่าเจ้าค่ะ”

จูจวิ้นอี๋ “เช่นนั้นเดินไปคุยไปดีหรือไม่”

ไป๋เฉินเซียงพยักหน้า

จูจวิ้นอี๋ยิ้มไม่ถึงดวงตาให้เถียนชิงคล้ายต้องการบอกใบ้บางสิ่ง

เถียนชิงมองตอบ “เช่นนั้นเดี๋ยวข้าตามไปนะเจ้าคะ เห็นว่าคุณหนูถังมาถึงแล้

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด   บทที่ 34 ทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุก (1)

    “เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร!” เสียงชายวัยกลางคนตวาดลั่นท่ามกลางห้องโถงสองสตรีหนึ่งบุรุษนั่งคุกเข่าก้มหน้างุดสะดุ้งตัวโยน ส่วนฮูหยินวูเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยสีหน้าอ่อนระโหยโรยแรง“ท่านพ่อ ท่านแม่…” วูหลิงอีเอ่ยเสียงสั่น“เจ้ายังกล้าเรียกท่านพ่อท่านแม่อีกรึ!” ใต้เท้าวูกัดฟันกรอด“ใต้เท้าวู ท่านอย่าได้ตำหนินางเลย แผนการนี้เป็นข้าที่คิดขึ้นมาเอง” ไป๋เฉินเซียงรวบรวมความกล้า จากนั้นยืดอกเพื่อยอมรับการกระทำของตนอย่างองอาจถึงอย่างไรนางก็ได้สะสางหนี้แค้นกับจูจวิ้นอี๋ไปแล้ว ส่วนหลานจิ้นถงไป๋เฉินเซียงรู้ดีว่าตนกำลังน้อยนิดจะต่อกรกับเขาอย่างไร คงต้องหวังพึ่งกฎแห่งกรรมและความยุติธรรมเสียแล้ว หากวันนี้นางต้องถูกส่งตัวเข้าคุกและโดนกุดหัวจนตายก็ไม่นึกเสียดายชีวิตอีกต่อไป“หึ!” วูจื่อหานสะบัดชายอาภรณ์เสียงดังพรึบ จากนั้นก็หย่อนกายลงนั่งด้วยความเดือดดาลฮูหยินวูเอื้อมสัมผัสหลังมือสามีแผ่วเบา ทั้งสองมองสบตากัน ฮูหยินวูส่ายหน้าเล็กน้อยประหนึ่งต้องการบอกว่าให้สามีของตนนั้นใจเย็นกว่านี้เสียหน่อยวูจื่อหานปรายตามองตัวปัญหาทั้งสามคนที่น

  • วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด   บทที่ 33 เพราะเหตุใด (2)

    ไป๋เฉินเซียงเห็นอีกฝ่ายยืนยันเช่นนั้นก็ประหนึ่งฟ้าถล่มลงตรงหน้า “ทะ…ท่านรู้มานานเท่าใดแล้วเจ้าคะ”“ก็สักพัก”ไป๋เฉินเซียงพูดไม่ออก หลินกวางหมิงจึงเอ่ยเพื่อทำลายบรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้น “แม่นางไป๋ ไม่สิ ข้าต้องเรียกเจ้าว่าสะใภ้รองหลานสินะ เจ้าทำได้อย่างไร ใบหน้าของเจ้าและอีเอ๋อร์จึงได้เหมือนกันราวกับแกะ”ไป๋เฉินเซียงยิ้มแหย “นี่เรียกวิชาแปลงโฉมเจ้าค่ะ”หลินกวางหมิงตาโต “ช่างร้ายกาจยิ่งนัก”ไป๋เฉินเซียงไม่อยากพูดพร่ำทำเพลงใดอีก “อยู่เช่นนี้ข้าก็อึดอัดเหมือนกัน”วูหลิงอีเอ่ย “แม่นางไป๋ ลำบากเจ้าแล้ว ถึงอย่างไรข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า”ไป๋เฉินเซียงพยักหน้าหลานอี้ซิน “หากเจ้าอึดอัดก็ปลดวิชาแปลงโฉมนี้ออกก่อนเถิด”ไป๋เฉินเซียงมองทุกคนสลับไปมา จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างนึกปลดปลง “เจ้าค่ะ”พริบตาใบหน้าจิ้มลิ้มงดงาม ก็แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าพริ้มเพราสะสวย หลานอี้ซินมองไป๋เฉินเซียงแทบลืมหายใจ ทั้งยังจ้องเขม็งตาไม่กะพริบไป๋เฉินเซียง “แบบนี้คง ไม่อึดอัดกันแล้วกระมัง”วูหลิงอียิ้มบาง สีหน้าของนางสลดลงพลันคว้ามือทั้ง

  • วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด   บทที่ 33 เพราะเหตุใด (1)

    ไป๋เฉินเซียงรู้สึกกระอักกระอ่วนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนสับสน กระนั้นก็ต้องเหลียวมองบุรุษข้างกายด้วยความฉงนเมื่อรถม้าเคลื่อนมาได้สักพักก็หยุดลง“ยังไม่ถึงจวนสกุลวูนี่เจ้าคะ”“เรามีบางอย่างต้องสะสางให้เรียบร้อยเสียก่อน”หลานอี้ซินคว้าแขนไป๋เฉินเซียงออกจากรถม้าด้วยความรวดเร็วเท้าเล็กเดี๋ยวเดินเดี๋ยววิ่งตามแรงดึง “ช้าก่อนเจ้าค่ะ เราจะไปที่ใดกันหรือเจ้าคะ”“ไปถึงเดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง” หลานอี้ซินผินหน้าไปยังหลีซงซึ่งทำหน้าที่เป็นสารถีจำเป็น “เจ้าพาคนนำของกำนัลไปยังจวนสกุลวูก่อน บอกว่าข้ากับฮูหยินจะตามไปโดยเร็ว ฮูหยินของข้าต้องการชมความงามของธรรมชาติชั่วครู่”ไป๋เฉินเซียงกะพริบตาถี่ “ข้าอยากชมตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ ไยท่านจึงคิดเองเออเองเก่งเพียงนี้”หลานอี้ซินแสร้งเมิน “ไปกันเถิดมีเวลาไม่มาก”หลานอี้ซินใช้มือทั้งสองคว้าเอวคอดไว้แน่น จากนั้นยกร่างระหงจนตัวลอยหวือขึ้นนั่งบนหลังม้า ร่างสูงกระโจนตามไปอย่างรวดเร็วพลางโอบแขนรอบเรือนร่างบอบบางเอาไว้ ไป๋เฉินเซียงใจเต้นระรัว ใบหน้าเกลี้ยงเกลาพลันซับสีแดงระเรื่อ“จับไว้ดี ๆ เล่า” ลมห

  • วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด   บทที่ 32 พิสูจน์ความจริงใจ

    ไป๋เฉินเซียงต้องเร่งเตรียมตัวเพื่อกลับบ้านเดิมอย่างกะทันหัน นางพยายามขบคิดหาทางออกให้ตัวเองเพราะยังไม่อยากเผชิญหน้ากับครอบครัวของวูหลิงอีอีกครั้งในยามนี้“หรือข้าต้องส่งจดหมายไปหานางกันนะ” ไป๋เฉินเซียงพึมพำเสียงเบาหลานอี้ซินรับรู้ได้ว่าสตรีข้างกายตนยามนี้กำลังเกิดความกังวล “เจ้าไม่อยากกลับบ้านเดิมหรือ”ไป๋เฉินเซียงสะดุ้ง “…เปล่าเจ้าค่ะ ข้าเอง…ข้าก็คิดถึงท่านพ่อท่านแม่มากเหมือนกัน หลายเดือนมานี้เกิดเรื่องราวมากมายข้าเลยหลงลืมไปชั่วขณะ”หลานอี้ซินพยักหน้า “เช่นนี้เอง ลำบากเจ้าแล้ว”ไป๋เฉินเซียงยิ้มแห้งขอด “ไม่เลยเจ้าค่ะ”“นอนเถิด พรุ่งนี้ต้องเร่งเดินทางแต่เช้า”จากท่วงท่านอนหงายมองเพดาน อยู่ ๆ ร่างระหงก็พลิกกายอย่างรวดเร็ว เดิมทีไป๋เฉินเซียงและหลานอี้ซินเคยนอนร่วมเตียงกันแทบจะนับครั้งได้ จมูกเชิดรั้นยื่นเข้าใกล้หูอีกฝ่ายพลางหรี่ตาลงจนแคบ ลมอุ่น ๆ ที่เป่ารินรดใบหูเป็นเหตุให้หลานอี้ซินใจเต้นระส่ำ“จะ...เจ้าเป็นอะไร”“ท่านเร่งร้อนเกินไปแล้วนะเจ้าคะ คืนนี้ข้ายังไม่รู้จะนอนหลับหรือไม่ ต้องตื่นเร็วเพียงน

  • วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด   บทที่ 31 เผยตัวตน

    เหตุการณ์ก่อนเดินทางไปยังเรือนหวังเหล่ย [1] “เจ้าบอกความจริงมา เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร” เสียงทุ้มตวาดลั่น สาวใช้ข้างกายของจูจวิ้นอี๋ตัวสั่น“ท่านแม่ทัพ คือ…”“หากยังอ้ำอึ้งข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้ง!”สาวรับใช้หลับตาแน่น ยามนี้นางกำลังถูกไต่สวนอย่างหนัก ร่างกายโดนทารุณสารพัดจนสภาพดูไม่จืด แขนขาห้อยต่องแต่งเพราะกระดูกแตกละเอียด“…นั่นเพราะสะใภ้ใหญ่อยากวางยาสะใภ้รองเจ้าค่ะ”หลานจิ้นถงตะคอกโกรธเคือง “ไยนางต้องทำเช่นนั้น”“ในงานวิจารณ์ภาพวาดหนก่อน สะใภ้รองทำให้สะใภ้ใหญ่ขายหน้า ครั้งนี้นางอยากเอาคืน แต่ไม่รู้เหตุใดสะใภ้รองจึงมีสติครบถ้วนไม่ถูกพิษ ทว่ากลับเป็นสะใภ้ใหญ่เองที่โดนพิษนั่น เกรงว่า…กาสุราอาจถูกสับเปลี่ยนเจ้าค่ะ”หลานจิ้นถงกำหมัดจนกายสั่นสะท้าน “บัดซบ!”ฉับ!มือหยาบกร้านตวัดดาบหนึ่งหนด้วยความเดือดดาล โลหิตสีแดงฉานกระเซ็นเปรอะกำแพงเก่าสีลอกล่อน สาวใช้คนสนิทของจูจวิ้นอี๋แต่กาลก่อนถูกปลิดชีพสิ้นลมในที่สุด หากเขาไม่กำจัดนางทิ้ง เ

  • วิวาห์ลวงรักแม่ทัพตาบอด   บทที่ 30 ผู้ร้ายตัวจริง

    อนุและบ่าวในเรือนหวังเหว่ยถูกไต่สวนจนถึงรุ่งสาง ทุกคนต่างไม่รู้เห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะวุ่นวายกันมาทั้งคืนแต่ก็ยังไร้เบาะแส หลานจิ้นถงจำต้องมาเยือนที่เรือนหวังเหล่ย“น้องรอง”มือหยาบระคายที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นจิบชะงักลงหลีซงค้อมศีรษะ “ท่านแม่ทัพ”หลานจิ้นถงพยักหน้าเป็นการทักทาย ร่างสูงเดินอ้อมไปยังเก้าอี้ไม้สักขัดเงาอีกด้าน หลานอี้ซินได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ริมฝีปากของเขาขยับยกเป็นรอยยิ้มจาง ๆ“พี่ใหญ่ เหตุใดวันนี้มาที่เรือนข้าแต่เช้า” แววตาของหลานอี้ซินยังคงดูเหม่อลอยไร้แสงเช่นเดิม นัยน์ตาเรียบเรื่อยทอดมองไปเบื้องหน้าหลานจิ้นถงสังเกตสีหน้าน้องชายพักหนึ่ง ต่อมาจึงตัดสินใจนั่งลงขนาบข้าง หลีซงเห็นเช่นนั้นก็เข้ามารินชาให้เขา ก่อนถอยห่างออกไปอย่างรู้หน้าที่หลานจิ้นถงมองควันสีขาวที่ลอยขึ้นจากชาถ้วยเล็ก ยามนี้เขาไม่อาจกระเดือกสิ่งใดให้ไหลผ่านลำคอของตนลงไปได้เลย“พี่ใหญ่ ท่านคงมีเรื่องไม่สบายใจกระมัง”หลานจิ้นถงถอนหายใจ “ข้าคิดว่าเจ้ารู้แล้ว”หลานอี้ซินตอบ “ข้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย”หลาน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status