ร่างระหงเดินสำรวจภาพวาดด้านในด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม ฝีพู่กันเหล่านี้ช่างงดงามประหนึ่งมีชีวิต
“สะใภ้รองหลาน”
ไป๋เฉินเซียงหันหลังกลับก็พบกับบุรุษหน้าวสันต์ยืนส่งยิ้มละไมให้แก่ตน
“เอ่อ…ท่าน”
ซูซินกระซิบ “สะใภ้รอง คนผู้นี้คือคุณชายเถียนเยี่ยหัวเจ้าค่ะ”
“อ่า…เขาเองหรอกหรือ” ไป๋เฉินเซียงกระซิบตอบ
“ท่านจำเขาไม่ได้หรือเจ้าคะ แต่ก็อย่างว่าท่านเคยพบหน้ากับคุณชายเถียนไม่กี่หน ท่านจะใส่ใจได้อย่างไร”
ไป๋เฉินเซียงเลิกคิ้ว เบนความสนใจกลับมายังบุรุษตรงหน้าต่อ “ที่แท้เป็นคุณชายเถียน”
“ข้าคิดว่าท่านจำข้าไม่ได้แล้วเสียอีก”
ไป๋เฉินเซียงยิ้มฝืดเฝื่อน “จำได้สิเจ้าคะ จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร”
ซูซินอ้าปากหวอตะลึงค้าง ชายหนุ่มตรงหน้าเหลือบซ้ายแลขวา ไป๋เฉินเซียงมองตามสายตาของเขาด้วยความฉงน “คุณชายกำลังหาอะไรหรือเจ้าคะ”
“แล้ว…ท่านแม่ทัพไป๋หู่ไม่มาด้วยหรือ”
“อ้อ วันนี้ท่านพี่บอกว่ามีธุระเจ้าค่ะ” ไป๋เฉินเซียงตอบ
“ท่านพี่ มาทำอะไรตรงนี้เจ้าคะ แขกเหรื่อรอท่านอยู่ตั้งนานแล้ว...” สตร
ร่างระหงเดินสำรวจภาพวาดด้านในด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม ฝีพู่กันเหล่านี้ช่างงดงามประหนึ่งมีชีวิต“สะใภ้รองหลาน”ไป๋เฉินเซียงหันหลังกลับก็พบกับบุรุษหน้าวสันต์ยืนส่งยิ้มละไมให้แก่ตน“เอ่อ…ท่าน”ซูซินกระซิบ “สะใภ้รอง คนผู้นี้คือคุณชายเถียนเยี่ยหัวเจ้าค่ะ”“อ่า…เขาเองหรอกหรือ” ไป๋เฉินเซียงกระซิบตอบ“ท่านจำเขาไม่ได้หรือเจ้าคะ แต่ก็อย่างว่าท่านเคยพบหน้ากับคุณชายเถียนไม่กี่หน ท่านจะใส่ใจได้อย่างไร”ไป๋เฉินเซียงเลิกคิ้ว เบนความสนใจกลับมายังบุรุษตรงหน้าต่อ “ที่แท้เป็นคุณชายเถียน”“ข้าคิดว่าท่านจำข้าไม่ได้แล้วเสียอีก”ไป๋เฉินเซียงยิ้มฝืดเฝื่อน “จำได้สิเจ้าคะ จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร”ซูซินอ้าปากหวอตะลึงค้าง ชายหนุ่มตรงหน้าเหลือบซ้ายแลขวา ไป๋เฉินเซียงมองตามสายตาของเขาด้วยความฉงน “คุณชายกำลังหาอะไรหรือเจ้าคะ”“แล้ว…ท่านแม่ทัพไป๋หู่ไม่มาด้วยหรือ”“อ้อ วันนี้ท่านพี่บอกว่ามีธุระเจ้าค่ะ” ไป๋เฉินเซียงตอบ“ท่านพี่ มาทำอะไรตรงนี้เจ้าคะ แขกเหรื่อรอท่านอยู่ตั้งนานแล้ว...” สตร
รถม้าเคลื่อนมาหยุดที่เบื้องหน้าเรือนสกุลเถียนคันแล้วคันเล่า บรรดาคุณหนูคุณชายจากตระกูลขุนนางใหญ่โตล้วนแล้วแต่มุ่งหน้ามางานวิจารณ์ภาพวาดอย่างอุ่นหนาฝาคั่งถึงแม้ไป๋เฉินเซียงเป็นลูกขุนนางเช่นกัน ทว่าบิดาของนางก็เป็นเพียงขุนนางชั้นผู้น้อย ไป๋เฉินเซียงจึงไม่เคยคิดทำความรู้จักหรือตีสนิทกับผู้ใด มีเพียงบางครั้งที่ติดตามไป๋อีถิงออกจากจวน จึงได้ร่วมยืนอยู่ท่ามกลางวงสนทนาอันชวนอึดอัดของเหล่าคุณหนูโดยบังเอิญ ที่ไป๋อีถิงทำเช่นนั้นใช่ว่านางหวังดีอยากให้ไป๋เฉินเซียงได้เปิดหูเปิดตา ทว่าไป๋อีถิงไม่เคยเห็นนางเป็นน้องสาวเลยสักนิด ก็เพียงต้องการให้ไป๋เฉินเซียงมาช่วยถือข้าวของดั่งสาวใช้นางหนึ่ง เพื่อจะได้มีเรื่องคุยโวว่าตนเองอยู่เหนือลูกของอนุอย่างไรหญิงสาวพวกนี้ไม่อวดเครื่องประดับก็เครื่องแต่งกายราคาแพงหูฉี่ พวกนางมักมีใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มดั่งเป็นมิตร ทว่ากลับเคลือบไปด้วยยาพิษร้ายแรง สิ่งที่เหล่าคุณหนูสกุลใหญ่ถนัดมากที่สุดก็คือการพูดจากระทบกระเทียบกันและกัน โอ้อวดหยิ่งทระนง นิสัยของพวกนางส่วนใหญ่คือชอบข่มเหงผู้ที่ด้อยกว่าและเยินยอผู้ที่อยู่สูงกว่าโดยหวังเพียงผลประโยชน์ หน
“เจ้าทำน้ำกระเด็นเข้าตาข้าจนแสบไปหมดแล้ว”“อะ…อ้อ…ขออภัยเจ้าค่ะ” ไป๋เฉินเซียงยื่นมือเพื่อขอผ้าผืนเล็กคืน ทว่าหลานอี้ซินเลือกหดมือพร้อมผ้าไพล่ไว้ข้างหลัง“นั่งลง”“หา…”“ข้าบอกให้เจ้านั่งลง”ไป๋เฉินเซียงเหลอหลา ร่างระหงค่อย ๆ หย่อนกายตามคำสั่งดั่งต้องมนต์สะกด นัยน์ตารูปหงส์จับจ้องใบหน้าแท้จริงของตนบนคันฉ่องก็แอบประหวั่น ไม่กี่อึดใจร่างสูงก็ขยับเท้ามายืนขนาบหลังไป๋เฉินเซียงตั้งท่าลุกขึ้น แต่ก็ถูกมือกว้างคว้าไหล่เอาไว้แน่น“อย่าขยับ”กล้ามเนื้อบนใบหน้างามเริ่มเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย “ท่านพี่ เดี๋ยวข้าทำเองเจ้าค่ะ”หลานอี้ซินไม่พูด เขาใช้ผ้าสะอาดเช็ดเส้นผมให้ไป๋เฉินเซียงทีละช่ออย่างเบามือไป๋เฉินเซียงตื่นตะลึง แม่ทัพผู้กรำศึกก่อสงครามมาโดยตลอด กลับรู้จักปรนนิบัติเอาใจภรรยา ทั้งที่นางก็เป็นเพียงภรรยาในนามเท่านั้น“ท่านพี่อย่าลำบากเลยเจ้าค่ะ ท่านทำเช่นนี้ไม่เหมาะ” ไป๋เฉินเซียงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“อยู่นิ่ง ๆ” หลานอี้ซินดุไป๋เฉินเซียงจึงยอมสงบคำและนั่งตัวแข็งประหนึ่งหุ่นขี้ผึ้งตัวหนึ่ง“เจ้าบอกไ
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยกระทบเข้าโสตประสาท ขาเสลาเคลื่อนฝีเท้าขยับเข้าใกล้คันฉ่องบานใหญ่ ไป๋เฉินเซียงใช้ผ้าสะอาดเช็ดผมสีดำขลับดุจน้ำหมึกที่เปียกชุ่มทีละช่อ พลางเหลียวมองหลานอี้ซินที่เอาแต่นั่งตัวตรงแน่วดุจดินปั้นไม้แกะสลัก “ท่านพี่ไยนั่งนิ่งเพียงนั้น ง่วงหรือยังเจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าให้ซูซินมาเปลี่ยนน้ำให้เจ้าค่ะ”หลานอี้ซินกระแอม “ไม่ต้อง ข้ามาไม่นาน มีธุระต่อ”ไป๋เฉินเซียงขมวดคิ้ว “ดึกแล้ว ท่านยังมีธุระอีกหรือเจ้าคะ อีกอย่างข้ารู้มาว่าท่านได้พักรักษาตัวจนกว่าจะหายดีไม่ใช่หรือ ไยจึงมีธุระโน่นนี่ทุกคืน” ไป๋เฉินเซียงบ่นกระปอดกระแปด นางกลับไปง่วนกับการเช็ดผมเผ้าอีกหนครั้นช้อนเปลือกตาอีกครั้งก็ต้องสะดุ้งโหยง ไม่รู้ว่าหลานอี้ซินมายืนตรงหน้าของตนเมื่อใด กระทั่งเสียงไม้เท้ากระทบพื้นนางก็ไม่ได้ยิน ไป๋เฉินเซียงลูบคลำใบหน้าด้วยความร้อนรนไป๋เฉินเซียงลืมตัวไปเสียสนิท ว่ายามที่ตนชำระร่างกายจะสลัดคราบวิชาแปลงโฉมออกไปเพราะรู้สึกอึดอัด ร่างสูงโน้มกายลงแช่มช้า จมูกโด่งเป็นสันห่างจากใบหน้างดงามเพียงลมหายใจกั้นไป๋เฉินเซียงแทบหยุดหายใจ “ท่านพี่ ทำอะไรเจ้าคะ ละ…แล้ว ท่านมาต
“เจ้ามองหาผู้ใด” หลานอี้ซินเหลียวมองผู้ติดตามข้างกาย เขามองเห็นก็จริง ทว่าภาพนั้นไม่อาจแยกแยะสีหน้าผู้ใดได้“ท่านหมายถึงหมอหลวงหรือขอรับ”“เปล่า เจ้าเลิกมองหาเถอะ ข้าบอกหมอหลวงว่าไม่ต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อรักษาข้าให้ลำบากแล้ว”“อ้าว...เพราะเหตุใดหรือขอรับ ท่านนักพรตติงบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าให้หมอหลวงรักษาร่วมด้วยก็จะเป็นการดี ทั้งยังไม่เป็นที่เคลือบแคลงของผู้อื่น”“ไม่จำเป็น”หลานอี้ซินหมุนกายเดินจากไปทิ้งให้หลีซงจมอยู่กับสิ่งที่ได้ฟังด้วยความฉงนเวลาย่างเข้ายามซวี [1] ไป๋เฉินเซียงก็ยังไม่เห็นสามีกลับมาเยือนห้องนับตั้งแต่วันเข้าหอ ร่างระหงตั้งท่าลุกไปชำระร่างกายให้สบายตัว ทว่าเสียงไม้เท้าก็ดังกระทบพื้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนต้องขมวดคิ้วแน่นเขากลับมาแล้วหรือ?ไป๋เฉินเซียงเบนมองไปหน้าธรณีทางเข้า ริมฝีปากบางเม้มสนิทจนเป็นเส้นตรง ฝ่ามือเล็กเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจนชื้น ไม่รู้เหตุใดอยู่ ๆ หัวใจก็เต้นระรัวราวจ
“สะใภ้รอง วันนี้มีเทียบเชิญไปงานวิจารณ์ภาพวาดจากคุณหนูเถียนเจ้าค่ะ” ซูซินยื่นเทียบเชิญไปเบื้องหน้าไป๋เฉินเซียงเลิกคิ้ว “คุณหนูเถียน?”“หากท่านไม่สะดวก ตอบปฏิเสธไปเลยดีหรือไม่เจ้าคะ”ไป๋เฉินเซียงมองท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของซูซินก็เอ่ยถาม “ไยข้าต้องปฏิเสธ” มือเรียวคว้าเทียบเชิญมาเปิดอ่านซูซินก้มหน้างุดพูดเสียงค่อย “คือ…แต่เดิมท่านกับคุณหนูเถียนไม่ถูกชะตากันมิใช่หรือเจ้าคะ หากไปหนนี้นางจะต้องยกเอาเรื่องที่ท่านออกเรือนกับ…”ไป๋เฉินเซียงช้อนตามองซูซินด้วยสีหน้าเรียบเรื่อย “ข้าแต่งงานกับท่านพี่แล้วอย่างไรรึ”“ก็...คุณหนูเถียนนางชื่นชอบคุณชายหลินนี่เจ้าคะ ตอนนี้ท่านออกเรือนแล้ว หนำซ้ำยังเป็นท่านแม่ทัพ ตะ…ตาบอด คราวนี้ต่อให้บิดานางเป็นขุนนางขั้นสอง นางก็คงมีเรื่องมาถากถางท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”ไป๋เฉินเซียงตบเข่าดังฉาด ที่แท้สตรีสองนางก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันนี่เอง “ไป! ข้าจะไปงานวิจารณ์ภาพวาดนี่”ซูซินอึ้งงัน “สะใภ้รอง ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะ หากคุณชายหลินไปพบท่านที่นั่น ท่านจะไม่เสีย...”ไป๋เฉินเซียงยิ้มตาหยี โพล่งเสียงใสตัดบ