ถูกใจก็จัด
พี่กานไปได้ไม่นาน ก็เดินกลับมาคนเดียวดูท่าจะไม่เป็นผลสำเร็จแฮะ เห็นจ้องมองกันขนาดนี้นึกว่าจะยอมมาให้เปย์สักหน่อย ดูท่าฉันคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ
“พี่กานทำหน้านิ่งขนาดนี้ ดูท่าไม่เป็นผลสินะคะ ไม่เป็นไรคะ ออยแค่ลองถามดูเฉย ๆ”
“ไม่เป็นไรนะแก น้อง ๆ คนอื่น ๆ ก็บริการดี” ยัยแพรวหันมาปลอบใจก่อนที่ เด็ก ๆ คนอื่น ๆ จะเอาใจฉันต่อเหมือนเดิม
“ป่าวหรอกน้องออย น้องเขาตกลงนะ เพียงแต่....”
“แต่อะไรคะ ฉันวางแก้วลงก่อนจะจ้องมองพี่กานฟังอย่างตั้งใจ”
“เด็กคนนี้ไม่เคยรับใคร เลยบอกว่าถ้าเป็นน้องออยเขายอมแต่ขอนั่งโต๊ะแยกไปสองคน”
ฉันถึงกับเลิกคิ้ว ก่อนจะหันไปมอง ผู้ชายคนนั้นบนเวที ซึ่งตอนนี้กำลังกอดอกยืนพิงผนังมองมาที่ฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่ฉันกลับชอบมันดูนิ่ง แบดหลบในดี แถมหล่อถูกใจ
“โห...เด็กมันแรงนะเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยรับใครจริง ๆ พี่กานโกหกเพื่อเรียกค่าตัวรึเปล่าคะ” ยัยแพรวถึงขนาดเบิกตาโต พลางหยอกล้อ พี่กาน
“พี่สาบานเลย มันไม่เคยรับใคร หมายถึงน้องคนนั้นนะ นาน ๆ ทีถึงจะโผล่มาร้านนี้ด้วยซ้ำ ว่าไงล่ะคะน้องออยยังสนใจไหม” พี่กานหันมามองฉันเพื่อยืนยันอีกครั้ง
“แน่นอนสิคะ เรียกกี่ดื่มก็จัดมาเลย โต๊ะแยกก็ดีค่ะ ขอมุมลับตาคนหน่อยโดยเฉพาะลับตายัยแพรวเนี่ย”
“แหม...เจอเด็กถูกใจแล้วแรดเลยนะแก” ยัยแพรวกรอกตามองบนใส่ฉัน
“ไหนบอกให้ฉันรีบหา นี่ก็ตั้งใจหาอยู่นะ”
“ค่า....ตามสบายเลยค่า...” ยัยแพรวตอบฉันก่อนจะหันไปสนใจเด็กข้าง ๆ มัน
“งั้นน้องออยตามพี่มาค่ะ พี่มีโต๊ะดี ๆ จริง ๆ ก็เจ้าตัวนั่นแหละรีเควสว่าขอเป็นโต๊ะนั้น”
“ได้สิคะ” ฉันยิ้มก่อนจะเดินตามพี่กานไป รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันแฮะที่จะได้ให้เด็กที่ถูกใจดูแล ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มาก่อนจริง ๆ
เมื่อฉันถูกพามายังห้องส่วนตัว พี่กานก็สั่งให้เด็กเอาเครื่องดื่มมาบริการก่อนที่จะให้ฉันนั่งรออยู่ในนี้ เพื่อรอน้องคนนั้นเข้ามา
ฉันนั่งรอสักพัก พลางดื่มไปจนหมดแก้ว ประตูห้องส่วนตัวก็เปิดขึ้น เด็กหนุ่มหน้านิ่งที่อยู่บนเวทีคนนั้นเดินเข้ามาพลางถือสูทไว้บนบ่า ชุดต่างจากเมื่อครู่ไปจริง ๆ ราวกับโดนบังคับให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้ามาในห้องนี้
หนุ่มหล่อคนนั้นนั่งลงข้างฉันอย่างไม่สบอารมณ์ เหมือนโดนบังคับให้มานั่ง ใบหน้าไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม แต่นั่นแหละที่ถูกใจฉัน ทำเอาฉันหัวเราะลั่นแบบไม่อาย
“ฮ่า.........” ฉันอ้าปากหัวเราะกว้างจนคนข้าง ๆ หันมามองฉันหน้าบึ้งตึง
“มีอะไรน่าขำ....” หนุ่มหล่อมองหน้าหาเรื่อง แต่ฉันไม่ถือสาหรอกมันเท่ดี
“เปล่า ๆ อยากดื่มหน่อยมั้ย จะได้หายเครียดบ้าง”
“เหอะ...รวย???” ผู้ชายปากร้ายแบบนี้ดู้ท้าทายดีแฮะ
“รวยมากอยู่นะ ไม่ต้องห่วงจ่ายไหวขี้ปะติ๋ว” ฉันตอบไปพลางกลั้นขำ เพราะคำตอบของฉันพานทำเอาคนข้าง ๆ กำหมัดแน่น แถมมองค้อนฉันไม่หยุด
“สรุปที่อยากดื่มกับผมเพราะ.....”
“ถูกใจ..........ตั้งแต่หัวจรดตีน” ฉันตอบตรง ๆ ไม่อ้อมคอมแถมยกดื่มไม่หยุดโดยไม่รอให้คนข้าง ๆ มาคอยเอาใจ เอาจริงนะถ้าคนมันใช่ต่อให้นั่งเฉย ๆ ก็ชอบ และอิ่มเอมใจแล้วแค่นี้แหละ
“คุณอายุเท่าไหร่” จู่ ๆ เขาก็ประเดิมด้วยการถามอายุ จริง ๆ ถ้ามองในการบริการมันดูเสียมารยาทจริง ๆ แต่พอเป็นคนหน้าบึ้งตึงตรงหน้านี้ ก็ถือว่าปกติล่ะมั้ง ซึ้งฉันก็ไม่ได้อายที่จะบอกอายุหรอก ยังไงหนุ่มหล่อตรงหน้าก็เจอกันแค่ในร้านวันนี้เท่านั้น
“27 โสดด้วย” ฉันตอบไปตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม
“ถือว่ายังมีสามัญสำนึก นึกว่าจะโกหกบอกว่า 20”
“ฮ่า....แล้วพี่จะโกหกไปทำไมละคะน้อง แล้วน้องอายุเท่าไหร่ล่ะ”
“22”
“22 งั้นเหรอวัยกำลังดีเลยนะ แต่ว่า.....”
“ทำไมผมมันเด็กไปงั้นเหรอ”
“น้องไม่ได้เด็กไปหรอก แต่พี่แก่ไปต่างหาก น้องก็คิดแบบนั้นใช่ไหมล่ะ”
“ก็...ไม่ได้แย่”
“แต่ก็ไม่ได้ดีใช่มั้ยล่ะ...แต่ช่างเถอะวันนี้มาทำให้พี่สาวคนนี้อารมณ์ดีก็พอ อยากดื่มอะไรพิเศษมั้ยสั่งได้เลยนะ”
“เหอะ ที่สั่งนี่ก็หลายหมื่นแล้วรึเปล่า”
“คงงั้น ไม่เป็นไรหรอกนาน ๆ ทีจะมีเวลามาเสวยสุขให้หนุ่มหล่อคอยบริการ แม้จะไม่ได้บริการสักนิดก็เถอะ ฮ่า....”
“แล้วอยากให้ทำอะไรเป็นพิเศษ” เด็กหนุ่มตรงหน้าเอนหลังพิงโซฟา นั่งไขว้ห้างหล่อจริงพ่อคุณ
“ชงเครื่องดื่มให้ก็พอ”
“แค่นี้???? โต๊ะอื่นเขายังให้ทำตั้งมากมาย”
“แล้วเด็กพี่จะยอมทำให้กันเหรอคะ”
“ก็ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงล่ะก็นะ ยังไงพี่ก็จ่ายเงินมาแล้ว”
“ถึงไม่ทำให้ก็จ่ายให้อยู่ดี นั่งเฉย ๆ ก็ได้ แค่กินเหล้ามองหน้าน้องพี่ก็มีความสุขแล้ว”
“หยอดเก่งขนาดนี้ ปล่อยโสดมาจน 27 ได้ไง”
“ยังไม่เจอคนที่ใช่ ว่าแต่อยากเป็นคนที่โดนอ่อยมั้ยล่ะ พี่เต็มใจอ่อยน้องนะ อย่างเช่นนี่...ก็เรียวขา ฮ่า........” ฉันทำเป็นจับชายเดรสถกมันขึ้นโชว์เรียวขาขาวเล็ก ๆ แกล้งหยอกไป
“...” น้องเขาทำหน้าเลิกคิ้วนิ่งมองมาที่ฉัน สงสัยคงจะแหยะการกระทำฉันน่าดู ฉันก็แกล้งไปงั้น ความดัดจริตที่ทำก็แค่ในร้านแบบนี้ที่ปลดปล่อยได้ล่ะนะ
“ล้อเล่น ๆ ... พี่ไม่กินเด็กหรอก มา ๆ ดื่มกันดีกว่า”
ฉันนั่งดื่มกับน้องเขาไปสักพักเริ่มรู้สึกเมามายแต่ยังคงมีสติอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าน้องเขาเริ่มจะเป็นกันเองมากขึ้น แต่ก็ยังปากร้ายแซะคนแก่กว่าอย่างฉันไม่พัก แต่ไม่เป็นไร ตลกดี พอได้ปล่อยจอยคุยกับคนแปลกหน้ามันก็รู้สึกดีนะ เพราะไม่ต้องกดดันว่าต้องวางท่ายังไง
“น้องมีแฟนรึยัง” ประโยคนี้เป็นประโยคคำถามของฉันเอง
“อยากรู้???”
“แน่สิ มาทำงานแบบนี้พี่จะได้วางตัวถูก พี่ไม่แตะต้องคนมีแฟนนะมันผิดศีล”
“ก็สมกับเป็นคนอายุ 27 จริง ๆ”
“จะย้ำว่าพี่แก่ เอาเถอะตอบมาก่อน”
“ไม่มี แต่ถ้าสมมติ ผมมีแล้วพี่จะทำไง”
“อ่อ...ก็หาเด็กใหม่ที่โสดนะสิ”
“เหอะ...” สีหน้าน้องเขายักคิ้วบึ้งตึงเหมือนชวนตียังไงยังงั้น
“โอ๊ย....อย่าถือสาพี่เลย พี่คงไม่มาที่นี่บ่อย ๆ หรอกอย่างวันนี้ก็แค่โดนลากมา แต่ถ้าพี่มาพี่จะเรียกใช้บริการน้องแน่นอน ไม่มีลิมิตดื่ม อิอิ” ฉันหันไปสนใจเครื่องดื่มน้ำเมาบนโต๊ะ ก่อนที่น้องเขาจะผสมให้ไม่หยุด และฉันก็รับมันมาดื่มราวกับกินน้ำเปล่า
“ตาลายจัง”
“พอ....ไม่ต้องดื่มแล้ว” เสียงเด็กหนุ่มพูดขึ้น
“ทำไมน้องมีสองคน” ฉันที่พยายามลืมตามองคนข้าง ๆ แต่ตอนนี้ภาพที่เห็นเหมือนภาพซ้อนราวกับมีแฝดนั่งข้างกัน
“พี่เมาล่ะ..”
“หล่อจัง...”
“...”
“หล่อจริง..คบกับพี่ป่าวน้อง แต่ตอนนี้เวียนหัว ขอนอนก่อนนะ พรึ่บ (Zzz)”
“พี่....จะมานอนตรงนี้ไม่ได้ครับ พี่...เฮ้อ....ปากบอกจีบ แต่ชื่อยังไม่เอ่ยถามสักนิด ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย ตลกชะมัด”
หนทางรักษาเมื่อฉันกลับไปที่ห้องพักแพทย์ ก็ทำการค้นหาโรงพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่คุณหมอท่านนั้นแนะนำมาทันที“ประเทศนี้คุ้น ๆ แฮะ เดี๋ยวนะหรือว่าฉันจะให้แพรวช่วยได้ ครอบครัวแพรวอยู่ทางโน้นนินา” พอฉันนึกออกก็โทรหาแพรวทันทีOi : แกอยู่ไหนแพรวแพรววี่ : ว่าไงออยฉันก็อยู่ที่ห้องพักในตึกจิตเวชนะสิOi : ว่างออกมาเจอกันตอนนี้หน่อยมั้ย ด้านล่างตึกแกก็ได้แพรววี่ : ได้สิOi : เดี๋ยวเจอกันหลังคุยไลน์กันเสร็จฉันก็ปรี่ตัวไปตึกจิตเวชทันทีซึ่งแพรวเองก็นั่งตรงม้าหินอ่อนด้านล่างตึกรออยู่แล้ว แพรวที่เห็นฉันหน้าตาตื่นมาก็ทำหน้าตกใจ“เป็นอะไร หรือน้องเวย์เขา....”“ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่อาการก็ไม่ดีจริง ๆ น้องยังไม่ฟื้นสติเลย”“ใจเย็น ๆ ฉันว่าต้องมีวิธีรักษา”“เพราะพอมีทางแม้จะหนึ่งเปอร์เซ็นต์ฉันก็จะทำเนี่ยแหละ แพรวแกต้องช่วยฉันนะ”“จะให้ฉันช่วยไงละออย ถ้าฉันช่วยได้ฉันก็จะช่วย”“ฉันจำได้ว่าแกเคยอยู่ประเทศนี้มาก่อนใช่ไหม” ฉันยื่นมือถือที่มีรายละเอียดของโรงพยาบาลและผู้เชียวชาญให้แพรวดู"อืม..ใช่นี่มันประเทศที่ญาติฉันอยู่เอง บ้านเกิดของอาเอ็ดเวิร์ดล่ะ ฉันก็จบหมอจากมหาวิทยาลัยที่นั่น โรงพยาบาลนี้
เจียนตาย“เวย์ลูกน้า...เขา...เขา ฮือ..” ยังไม่พฉันจะได้ฟังคำตอบจากแม่ของ เวย์ คุณน้าเขาก็ร้องไห้ออกมาเสียก่อน พานทำให้ฉันอกสั่นขวัญแขวนไปหมด“คุณน้าใจเย็น ๆ นะคะ เกิดอะไรขึ้นกับเวย์คะ”“ลูกน้า...ถูกรถชนบาดเจ็บสาหัสอาการหนัก 50/50 หนูออยน้าจะทำยังไงดี ฮือ....”“คุณน้าอยู่โรงพยาบาลไหนคะ ออยจะรีบไปด่วนเลยค่ะ”มือไม้ฉันสั่นไปหมด เมื่อแม่ของเวย์บอกว่าเขาถูกรถชนยังไม่ฟื้น ตอนนี้เวย์ถูกพาส่งโรงพยาบาลที่ฉันทำงานอยู่ ฉันจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สุภาพพกบัตรเข้างานไปด้วย เผื่อจะช่วยคุณน้าดำเนินการอะไรได้บ้างฉันขับรถเหยียบคันเร่งด่วนจี๋มือไม้สั่น พยายามตั้งสติแม้ดวงตาจะมีน้ำตาเล็ดลอดซึมออกมาบ้าง แต่ฉันจะร้องไห้โฮไม่ได้เด็ดขาดเพราะฉันยังหวังว่าเขาจะไม่เป็นไรเมื่อมาถึง ฉันวิ่งหน้าตาตื่นไปยังแผนกห้องฉุกเฉิน บุคลากรหลายคนเดินมาถามฉันมากมายว่าเกิดอะไรกับฉัน ซึ่งเอาจริงฉันไม่สามารถตอบพวกเขาได้เพราะไม่งั้นฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่แน่ณ.ห้องฉุกเฉินฉันเดินมองหาคุณน้าทั่วบริเวณ จนพบผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งก้มหน้ากุมขมับ ดวงตาแดงก่ำรับ เธอดูไม่ได้แก่มากขนาดนั้นน่าจะอ่อนกว่าแม่ฉันสักเล็กน้อยแน่นอนฉันเองก็กล้า ๆ กล
สุขสันต์วันเกิดฉันถึงกับแข้งขาอ่อนไร้เรี่ยวแรง หายใจรัวระรินแต่ถามว่ามีความสุขมั้ยก็ต้องตอบว่ามีความสุขมาก ๆ เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูฉันก่อนจะหอมฟอดใหญ่ไปทั่วแก้ม“ดีขึ้นรึยังครับ”“ก็ดีขึ้น แต่พี่ไม่มีแรงยืนเลย”“พี่ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวผมจัดการเอง กอดคอผมไว้ก็พอ” เขาพูดจบ ก็ยกตัวฉันขึ้นในท่าลิงอุ้มแตง ฉันกอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกมาก แต่สองมือแกร่งของเขาก็โอบอุ้มฉันไว้อย่างนี้“อ่ะ...นี่มัน” ฉันรับรู้ได้ถึง ปลายหัวหยักของเขาที่ตอนนี้จ่ออยู่ช่วงล่างของฉันก่อนมันจะค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา“อั่ก...” เชี่ยเอ้ย..ลึกจนจุกไปหมด“พั่บ...พั่บ...พั่บ” เขาจับสะโพกของฉันขึ้นลงตามจังหวะของตนยิ่งเขาใกล้ถึงฝั่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งขยับฉันเร็วขึ้น แต่เพราะท่านนี้มันต้องใช้แรงมาก เสียงครางกับเสียงหอบหายใจของเขาก็แรงปะปนกันไปหมด“ผมไม่ไหวแล้วพี่...อึก...อื้อ...” เขากระตุกตัวแรงก่อนจะกอดร่างฉันแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ก่อนจะอุ้มฉันเดินไปที่ห้องนอนแล้วทิ้งร่างลงไปที่เตียงพร้อมกัน...“พอก่อนพี่เหนื่อย ขอพักนะ”“ได้...ผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นแต่ถ้าพี่ตื่นมาเมื่อไหร่จัดไปอีกรอบ ผมซื้อมาเยอะต้องใช้ให้คุ้ม”“คนบ้า!!!”
อดอยากปากแห้ง‘บรืน...บรืน’ เวย์กับฉันขับรถออกจากบ้านของฉัน ฉันที่นั่งอยู่ข้างคนขับได้ปรับเบาะเอนลงก่อนจะนอนอย่างสบายใจจนคนขับข้าง ๆ หันมามองเสี้ยววิก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อฉันนั่งไถ่มือถือเล่นในขณะที่รถยังคงแล่นไปตามถนนสายหลักมุ่งกลับคอนโด แต่แล้วเวย์ก็จอดรถเทียบข้างทางก่อนจะหันมาเอ่ยถามฉัน“ผมจะแวะร้านสะดวกซื้ออะไรไรหน่อยมั้ย”“ไม่ล่ะที่ห้องพี่ยังพอมีพวกเครื่องดื่ม ขนม”“งั้นเดี๋ยวมา รอในนี่ก่อนแล้วกัน”“อื้อ” ฉันหันไปพยักหน้าให้เวย์ก่อนที่จะสนใจไถ่มือถือต่อ นั่งรอไม่นานก็กลับมาพร้อมกับของมากมายในถุง จากนั้นเขาก็โยนมันไปเบาะนั่งด้านหลัง“ซื้ออะไรมากมายเนี่ย จะเอากลับคอนโดเหรอ”“ใช่ แต่เป็นคอนโดพี่นะ คืนนี้ผมจะนอนด้วย” ฉันที่นอนไถ่มือถืออย่างสบายใจ ถึงกับดีดตัวลุกนั่ง“หืม วันนี้จะมานอนด้วยเหรอ ทำไมล่ะ” ฉันหันไปจ้องคนข้าง ๆ“แล้วนอนไม่ได้รึไง” คนหน้าหล่อหันมายักคิ้วเป็นเชิงตั้งคำถาม“ก็ไม่ใช่ว่านอนไม่ได้ แต่งงไง ว่าทำไมถึงอยากนอนด้วยวันนี้”“ไม่อยากนอนกับแฟนแล้วจะให้ไปนอนกับผู้หญิงที่ไหนหรือว่า...โอ๊ย พี่ดึงหูทำไม” พอเวย์พูดคำว่าผู้หญิงที่ไม่ได้หมายถึงฉันขึ้นมาพานทำให้หัวฉันเดือดปุด
เปิดตัวห้องนอนหลังจากปะทะคารมกับพ่อแม่ไปแล้ว ฉันก็ขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงเตียงพลางหยิบมือถือขึ้นมาดูว่า เวย์ส่งข้อความมาบอกรึยังWAY : ผมถึงคอนโดแล้วOi : [อิโมจิ โอเค] [อิโมจิเศร้า]WAY : พี่เป็นอะไรOi : เวย์ คือว่า....เฮ้อ..WAY : หืม เป็นอะไรครับไม่สบายอะไรรึเปล่าOi : เมื่อกี้พ่อแม่พี่เห็น เราสองคนบนรถWAY : แล้ว???Oi : ไม่ตกใจรึไง พี่แทบคอขาดบาดตายเลยนะWAY : พ่อแม่พี่ไม่ชอบผม??Oi : ไม่ใช่แบบนั้น เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เวย์ว่างมั้ย แต่ถ้าเวย์ไม่ว่างพี่ก็ไม่ว่าอะไรWAY : ว่าง พรุ่งนี้เจอกัน งั้นรีบนอนเถอะยิ่งดื่มหนักมาอยู่Oi : โอเค คิดถึงนะคะฉันวางมือถือไว้บนหัวเตียงก่อนจะนอนไปทั้งแบบนั้น ดูซกมกใช่มั้ยล่ะ จริง ๆ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้บ่อยนะ แต่วันนี้เพราะดื่มหนัก โดนกดดัน พานทำให้ไม่มีแรงเลย ดังนั้นทำแบบนี้สักวันจะเป็นไรไปจริงมั้ย (Zzz)ฉันตื่นเช้าลุกขึ้นมา ขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดู ให้ตายเถอะเกือบ 10 โมงแล้วเหรอเนี่ยปกติแม่ต้องขึ้นมาเรียกกินข้าวเช้าไม่ใช่รึไงฉันเกาหัวหงึก ๆ ก่อนจะเดินไปอาบน้ำแปรงฟันหยิบเสื้อยืดเน่า ๆ กางเกงสั้น ที่ใส่ประจำตอนอยู่บ้าน รวม
โดนตั้งด่านสืบสวน“คนขี้เซาครับตื่นได้แล้ว” เสียงทุ้มหล่อปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ ฉันขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะมองตาปรือไปที่เวย์ ก่อนจะเบือนสายตามองไปด้านหลัง“อ่า ถึงบ้านพี่แล้วเหรอ”“ผมมาถูกทางไหม ใช่บ้านพี่รึเปล่า”“อืม บ้านพ่อแม่พี่เอง จอดตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่เดินเข้าไปเอง”“...”“ไม่โกรธใช่มั้ย รอให้พี่คุยกับพ่อแม่พี่ก่อนไว้จะพามาเที่ยวบ้านพี่นะ”“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” เวย์พูดแบบนั้นก็จริง แต่หน้าฟ้องว่างอนมากจนฉันต้องใช้สองมือจับใบหน้าเขาให้หันมาที่ฉัน“เวย์ มองพี่”“หืม...”“พี่รักเวย์นะคะ แน่นอนว่าถ้าคนนั้นจะเป็นใคร ต้องเป็นเวย์แน่นอนให้เวลาพี่หน่อย”“รู้แล้วนา...รีบเข้าบ้านเถอะครับ”“บอกไม่โกรธ แล้วทำไมไล่พี่เหรอ”“ไม่ได้ไล่” เขาพยายามจะฉีกยิ้มให้ฉันสบายใจแต่ดูไงก็เหมือนเด็กงอนเอาแต่ใจอ่ะ“เราจะไม่ได้เจอกันสองวันไม่คิดจะหอมก่อนพี่ลงรถรึไง” สิ้นคำฉันเวย์ใช้สองมือหนากุมใบหน้าฉันก่อนจะประกบริมฝีปากหนาลงทาบกับริมฝีปากบางของฉันอย่างเร็วจนฉันไม่ทันตั้งตัวเวย์ดูด ดึงริมฝีปากฉันอย่างเอาแต่ใจด้วยความรุนแรงปลางสอดลิ้นสากรุกล้ำโพรงปากฉัน พยายามกวัดเกี่ยวลิ้นบางฉันอย่างร้อนแรงจนฉันต้องสอดมือไปใต้รักแ