Accueil / โรแมนติก / สัญญาในอ้อมกอด / ตอนที่ 2 คืนฝนตกและเปลือยใจ

Share

ตอนที่ 2 คืนฝนตกและเปลือยใจ

last update Dernière mise à jour: 2025-09-05 00:36:48

ฝนยังคงตกพรำ…

เสียงละอองน้ำกระทบกระจกหน้าต่าง เป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของเธอที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

นิรินยังซบอยู่ในอ้อมแขนของเขาอ้อมแขนที่เงียบ แต่กลับปลอดภัยกว่าทุกพื้นที่ในชีวิต

ตั้งแต่เธอหลุดปากบอกว่า “เหนื่อย” พี่บอยไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

เขาเพียงแค่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น...แน่นพอให้เธอมั่นใจว่า เธอไม่ได้ถูกทิ้งไว้ลำพัง

มือเล็กวางอยู่บนอกเขา อกที่แกร่ง เงียบ และมั่นคง

นิรินเงยหน้าขึ้นช้า ๆ

“พี่บอย…”

เขาขานรับในลำคอ เพียงแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยน้ำหนัก

“ถ้าหนูจะขออะไรสักอย่าง...พี่จะว่ามั้ย”

เขานิ่งไปนิด ก่อนจะสบตากับเธอ

“ลองพูดสิ”

นิรินสูดลมหายใจลึก แล้วเอื้อมมือแตะไหล่เขา

เสียงเธอเบาเหมือนจะสลายไปพร้อมสายฝน

“คืนนี้…อย่าปล่อยให้หนูอยู่คนเดียวเลยนะ”

คำขอที่ไม่ได้มีแค่ความอ้อนวอน แต่เต็มไปด้วยความกลัวที่จะต้องว่างเปล่าอีกครั้ง

พี่บอยไม่ตอบด้วยคำพูด เขาเพียงกดจูบลงบนหน้าผากเธอช้าและมั่นคง

นิรินเป็นฝ่ายค่อย ๆ ปลดเสื้อเขาออกเอง

เสื้อยืดสีหม่นหลุดจากตัว เผยให้เห็นไหล่กว้างและผิวอุ่นที่เธอเคยเห็นผ่านสายตา แต่ไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดเช่นนี้

มือเธอสั่นน้อย ๆ แต่ก็ไม่หยุด

เขายังนิ่ง ไม่ดึง ไม่ขัดขืน ไม่เร่งรัด

ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายคืบเข้ามาหา

ริมฝีปากเธอแตะแก้มเขาเบา ๆ

“ขอให้คืนนี้...หนูได้เลือกเองสักคืนก็ยังดี”

เขาโน้มลงจูบเธออย่างเงียบงัน ลมหายใจหนักซ่านตามซอกคอ ทิ้งร่องรอยอุ่น ๆ บนผิวขาวที่สั่นสะท้าน

มือใหญ่เลื่อนลงแตะตรงสะโพก กดเบา ๆ พอให้เธอสะดุ้ง

แต่เขายังคงไม่พูดสักคำ เพียงปล่อยให้สัมผัสแทนคำตอบ

ลิ้นอุ่นลากผ่านไหปลาร้าลงแนวอก ทิ้งรอยจูบบางเบาเหมือนจดจำเธอไว้

นิรินกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกได้ถึง ความชื้นเอ่อคลอใต้ท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว

เขาคุกเข่าลงตรงหน้า มองขึ้นมาด้วยสายตาเรียบลึก

นิรินแทบลืมหายใจ เมื่อริมฝีปากหยาบกร้านของเขาประกบจูบเบาๆตรงกลีบเนื้ออย่างละเมียดละไม

เสียงครางแผ่วหลุดจากริมฝีปากเธอ กลืนหายไปกับเสียงฝนที่แรงขึ้นนอกหน้าต่าง

ร่างกายเธอสั่นสะท้าน มือจิกลงบนไหล่เขาโดยไม่รู้ตัว

แต่พี่บอยยังไม่เร่งเร้า

เขาเพียงฟังเสียงและรสชาติของเธอผ่านสัมผัส ละเลียดทุกจังหวะอย่างคนที่อยากให้คืนนี้...เป็นการเริ่มต้นที่ไม่มีวันลืม

นิรินหายใจขาดห้วง ทุกครั้งที่ลมหายใจของเขาเป่ารดลงมาบนกลีบเนื้ออ่อนไหว ร่างกายเธอร้อนวูบทั้งที่อากาศรอบตัวเย็นเฉียบด้วยละอองฝน

“พี่บอย…” เธอเรียกเสียงสั่น ทั้งที่มือยังจิกไหล่เขาแน่น

เขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคู่นั้นนิ่งลึก ราวกับกำลังฟังทุกถ้อยคำจากร่างกายเธอมากกว่าปาก

ปลายนิ้วยังคงกดนุ่มนวลลงตรงขอบโพรงนุ่มแล้วค่อย ๆ ลากวนเบา ๆ

“อื้อ…” เสียงครางหลุดจากริมฝีปาก นิรินกัดปากตัวเองแน่น ยิ่งพยายามกลั้นก็ยิ่งเผลอสะท้าน

ฝนข้างนอกเทกระหน่ำแรงขึ้น แต่ภายในห้องกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวใจสองดวงที่ดังประสานกัน

เสียงเสื้อผ้าที่ขยับเสียดสีกันฟังชัดเจนยิ่งกว่าเสียงฟ้าคะนอง

เขาโน้มลงอีกครั้ง คราวนี้ไม่เพียงแค่แตะริมฝีปาก หากแต่ ละเลียดชิมช้า ๆ ตามกลีบเนื้อที่บวมอิ่ม

ความเปียกชื้นเอ่อคลอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอต้องแอ่นสะโพกรับโดยไม่รู้ตัว

“พี่…หนูจะทนไม่ไหวแล้ว” เธอพร่าเสียง ดวงตาเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่เกิดจากความเสียวซ่านเกินทน

พี่บอยยังคงไม่พูดสักคำ

แต่สายตาที่จ้องกลับมานั้นหนักแน่นเสียยิ่งกว่าคำสัญญาใด ๆ

เขาลากปลายลิ้นขึ้นช้า ๆ จากก้นร่องถึงปลายยอด ก่อนจะดูดเบา ๆ ที่กลีบเล็กด้านบน

นิรินตัวสั่น ขาอ่อนแรงจนต้องเกาะต้นคอเขาไว้แน่น

เสียงครางของเธอสลับกับเสียงฝนราวกับบทเพลงต้องห้ามที่ไม่มีใครได้ยินนอกจากเขา

ทุกการสัมผัสของเขาทำให้เธอรู้ว่าคืนนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป

เธอล้มตัวลงบนเตียง หอบหายใจแรงเหมือนเพิ่งผ่านพายุ

พี่บอยเลื่อนตัวขึ้นมาทาบด้านข้าง มือใหญ่ยังโอบไหล่เธอแน่น

เขาไม่พูดอะไร มีเพียงปลายนิ้วลูบกรามเธอเบา ๆ แล้วกดหน้าผากชนกับหน้าผากอย่างมั่นคง

“คืนนี้…หนูไม่อยากอยู่คนเดียว” เสียงเธอยังคงสั่นเครือ

เขาตอบด้วยการกอดร่างเล็กแน่นขึ้น

ทิ้งสัมผัสละเมียดไว้บนผิวกายเธออย่างไม่เร่งรีบ ราวกับต้องการสลักทุกความอ้างว้างของเธอให้หายไปกับฝน

นิรินยังหอบถี่ ร่างกายสั่นสะท้านด้วยรสของสัมผัสเมื่อครู่

แต่หัวใจกลับเต้นแรงยิ่งกว่าพายุฝนด้านนอก

เธอค่อย ๆ ยกมือขึ้น สั่นเล็กน้อย ก่อนจะวางลงบนแผ่นอกกว้างของเขา

ความร้อนที่แผ่ซ่านจากอกนั้นทำให้เธอเหมือนได้ยึดเหนี่ยวอะไรบางอย่าง

“พี่…” เธอเรียกอีกครั้ง เสียงเบาจนแทบไม่ต่างจากลมหายใจ

เขามองเธอด้วยสายตาที่เงียบขรึม แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น

ไม่พูด ไม่เร่งเร้า เพียงรอให้เธอเลือก

นิรินกัดริมฝีปาก แล้วเลื่อนมือลงต่ำ

เธอไม่กล้ามองหน้าเขา ตากลับก้มลงมองปลายนิ้วที่ค่อย ๆ ไล่จากหน้าท้องแกร่งลงมา

ปลายนิ้วแตะผ่านขอบกางเกงผ้าเนื้อหนา

เพียงเท่านั้นหัวใจเธอก็เต้นแรงเสียจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอก

พี่บอยยังคงนิ่ง

แต่ฝ่ามือใหญ่กลับยกขึ้นโอบมือเล็กของเธอไว้แน่น ไม่ได้ห้าม หากแต่เป็นการยืนยันว่า…เขาอนุญาตให้เธอทำตามใจ

นิรินสูดหายใจลึก ข่มความสั่นสะท้านในอก

มือเธอจึงกดลงช้า ๆ ลูบไล้เหนือเนื้อผ้าที่ปกปิดบางสิ่งที่กำลังร้อนจัดอยู่ด้านใน

เธอสะท้านเหมือนตัวเองถูกไฟลวก ทั้งที่ยังไม่เห็น ไม่ได้สัมผัสจริง ๆ

เพียงแค่รู้ว่ามี ความแข็งขึง รออยู่ใต้กางเกงนั้นก็ทำให้ใจเธอเต้นจนแทบแตก

“หนู…อยากรู้สึกว่าพี่อยู่ตรงนี้จริง ๆ” เธอสารภาพเสียงสั่น

พี่บอยกดหน้าผากลงกับหน้าผากเธอแน่นขึ้น

แววตาที่ทอดมองมาเต็มไปด้วยความเงียบ แต่ก็เหมือนคำตอบหนักแน่นที่สุด

นิรินกลืนน้ำลาย ก่อนจะปล่อยให้มือลูบวนช้า ๆ ตรงส่วนนูนใต้ผ้า

ความอุ่นร้อนที่สะท้อนกลับมาทำให้เธอหน้าร้อนจัดจนแทบร้องออกมา

แต่เขายังคงนิ่ง ให้เธอเป็นฝ่ายเลือก ให้เธอเป็นคนก้าวข้ามความกลัวและความเหงาคืนนี้ด้วยตัวเอง

เสียงฝนยังตกพรำไม่หยุด

ร่างเล็กแนบอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง เธอรู้แล้วว่า…คืนนี้จะไม่มีคำว่าเดียวดายอีกต่อไป

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนที่ 41 รอยยิ้มบนทางกลับบ้าน

    รถยนต์เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ ท้องฟ้ายามเย็นเปลี่ยนสีอ่อนลงเล็กน้อยนิรินนั่งข้าง ๆ คนขับมือยังวางบนตัก รู้สึกเก้อเขินจากบรรยากาศมื้อบ่ายที่เหมือนเดตครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกพี่บอยขับไปเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ต่างจากใบหน้าขรึมที่เธอคุ้นเคยนิรินหันไปมอง เห็นรอยยิ้มชัดก็รีบเบือนหน้าหนี“พี่…บอยยิ้มอะไรคะ” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย“ยิ้มเฉย ๆ” เขาตอบสั้น ๆ สายตายังคงจับจ้องที่ถนนลาดยาง“เฉย ๆ ที่ไหนกันเล่า…” เธอบ่นพึมพำในลำคอ กัดริมฝีปากแน่น หัวใจกลับเต้นแรงไม่หยุดเขาเหลือบตามามองเพียงแวบเดียว แววตาคมวูบหนึ่งนั้นเหมือนจะบอกทุกอย่างที่เขาไม่พูดออกมา“เมื่อกี้…หนูกินสเต๊กเลอะปาก”“พี่!” นิรินเผลอตีแขนเขาเบา ๆ ด้วยความเขิน แก้มแดงจัดเสียงหัวเราเบาๆ ดังจากลำคอเขา เป็นเสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินบ่อยนัก แต่กลับทำให้รถทั้งคันเต็มไปด้วยความอบอุ่นมีชีวิตชีวามือใหญ่เลื่อนไปกุมมือเล็กๆที่วางอยู่ข้างเบาะโดยไม่พูดอะไรอีกนิรินเม้มปากแน่น แต่ยอมปล่อยให้เขาจับไว้ หัวใจที่พองโตเหมือนจะล้นอกถนนสายเล็กทอดยาวไปข้างหน้า พี่บอยขับรถเงียบ ๆ ตามสไตล์ของเขา แต่เมื่อใกล้

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนที่ 40

    แสงอรุณสาดลอดช่องไม้เข้ามาในห้อง เสียงไก่ขันดังไกลๆ ปลุกให้บ้านสวนค่อยๆ ตื่นขึ้นพี่บอยลืมตา ตั้งใจฟังเสียงรอบตัว ก่อนจะค่อย ๆ ดันแขนออกจากร่างเล็กที่ยังนอนซุกหลับอยู่ข้างกายเขาลุกออกที่นอน เดินออกมาสูดอากาศยามเช้าที่ชื้นจากน้ำค้าง กลิ่นดินผสมกลิ่นหญ้าสดใหม่ชัดเจนจนใจเขาสงบนิ่งสายตาคมทอดมองไปยังเพิงไม้หลังใหม่ที่อยู่ไม่ไกล คาเฟ่ใหม่ ที่เพิ่งสร้างเสร็จวันสองวันโดยเขาและช่างมานพส่วนลูกมือก็คือน้องกันต์พี่บอยเดินไปเปิดประตูไม้ บานพับส่งเสียงเอี๊ยดเบา ๆ ภายในห้องกว้างยังหอมกลิ่นไม้ใหม่ โต๊ะไม้สี่เหลี่ยมวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เก้าอี้หวายถักใหม่เอี่ยมเครื่องชงกาแฟวางเด่นบนเคาน์เตอร์หลังงจากที่นิรินได้ลองชงไปแล้วเมื่อวาน ข้าง ๆ ยังมีถุงเมล็ดกาแฟ กับโถแก้วใส่คุกกี้ที่แม่เพิ่งอบเมื่อคืนเขาเดินดูช้าๆ วนรอบร้าน ลองเปิดไฟดูทีละดวง จนหลอดไฟสีเหลืองสว่างนวลไปทั่วเสียงเครื่องปั่นไฟเล็กๆ ดังเบาๆ แต่ทุกอย่างทำงานปกติเรียบร้อยดีเขายืนมองผ่านกระจกหน้าร้าน และรั้วไม้เก่า ๆ ที่เอียงไปข้างหนึ่งยังอยู่ที่เดิม มันคือที่มาของชื่อร้านริมรั้วนั้นเอง น้องกันต์เพิ่งปลูกต้นพริกกับมะเขือไว้ แม

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนที่ 39 ค่ำคืนหลังจดทะเบียน

    มือใหญ่กดมือเล็กกลับไปกอบกุมแท่งเนื้อที่แข็งปนร้อนเสียงของเขากระซิบข้างหู “อย่าหยุด…ทำต่อสิครับเมียรัก”“พี่…พี่บอย” นิรินเสียงสั่นพร่า แก้มแดงจัด ร่างบางนอนสั่นสะท้านอยู่ใต้ร่างของเขาพี่บอยโน้มตัวลง ริมฝีปากหนาจุ้บข้างแก้ม ไล้ผ่านลงมาที่ซอกคอ หยอกเย้าด้วยการดูดอย่างแผ่วเบาจนเธอครางหลุด“อื้อ…พี่...”มือใหญ่ปลดกระดุมชุดนอนช้า ๆ เผยผิวนวลเนียนและอกอิ่มที่สั่นไหวกับลมหายใจปลายนิ้วหยาบคลึงวน ขยี้ยอดอกจนร่างเล็กสั่นเกร็ง ความเสียวแล่นขึ้นสันหลังบรรยากาศห้องในไม้ที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรข้างนอก กับเสียงลมหายใจที่หนักของทั้งคู่ และแสงจันทร์ที่ลอดช่องหน้าต่างมาตกบนเรือนกายสองร่างพี่บอยไล้ริมฝีปากต่ำลง จนถึงกลีบเนื้อที่ซ่อนความหวานเขาแหวกช่อบุปผาออกช้า ๆ ก่อนก้มลงละเลียดราวกับจะจดจำรสชาติของกลีบเนื้อนั้นให้ขึ้นใจ“พี่…อย่าทรมานหนู” เสียงเธอพร่ำสั่น มือเล็กจิกเสื่อจนยับ น้ำหวานเอ่อคลอจากความชุ่มฉ่ำในช่องแคบบอยเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมเต็มไปด้วยแรงข่มอารมณ์ เขาขยับกายขึ้น ค่อย ๆ ดันแท่งเนื้อที่แข็งปนร้อนเข้าครอบครองทีละช่วงความคับแน่นทิ่มแทงเบา ๆ ทำให้คนตัวเล็กสะท้านเฮือก “อ๊ะ…พี่บ

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนที่ 38 กลับบ้านพร้อมของใหม่

    รถยนต์คันใหญ่แล่นกลับเข้าสู่ถนนลูกรัง ข้าวของที่ซื้อมาเต็มท้ายรถ ทั้งถุงเสื้อผ้า รองเท้าใหม่ของแม่และกันต์ วางซ้อนเรียงเป็นกองเล็ก ๆ มุมหนึ่งยังมีหมวกกันน็อกใหม่วางเคียงกับเอกสารจองมอเตอร์ไซค์คันเล็ก ที่ร้านรับปากว่าจะส่งมาถึงบ้านพรุ่งนี้เช้ากันต์นั่งเบาะหลัง ใบหน้าเปื้อนยิ้มไม่หยุด มือยังคอยจับเชือกรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ไม่วาง“พี่บอย…ขอบคุณครับ ผมจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด”พี่บอยเหลือบมองผ่านกระจกหลัง สายตาขรึมแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น“ไม่ต้องรีบโตนักหรอกกันต์ แค่ดูแลแม่กับพี่สาวให้ดี ก็พอ”แม่ที่นั่งข้าง ๆ น้ำตาคลออีกครั้ง พยายามเอ่ยเสียงเบา“แม่ซาบซึ้งจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วลูก”นิรินก็กอดถุงเสื้อผ้าไว้แน่น ใบหน้าแดงเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่“พี่…บอยขอบคุณจริง ๆ นะ” เสียงเธอสั่นพร่า แต่เต็มไปด้วยความหมายที่เกินกว่าคำพูดพี่บอยไม่ได้ตอบ เพียงยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบา ๆ ระหว่างรถโยกไปตามทางลูกรังเมื่อถึงบ้านสวน เสียงสุนัขเห่าไล่รถดังรับเหมือนทักทาย ข้าวของถูกขนเข้าบ้านกันวุ่นวาย แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกันต์ลองสวมเสื้อใหม่วิ่งออกไปให้แม่ดู แม่หัวเราะเสียงใสเหมือนกลับไปเป็นสาวอีกครั้งเย็นนั้น ทั้ง

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนที่ 37 วันที่บ้านสวนมีชื่อใหม่

    บ่ายวันนั้น แดดแรงจัด แต่ลมจากทุ่งนาก็ยังพัดเอื่อย ๆ คลายความร้อนเสียงเครื่องยนต์คันใหญ่แล่นมาตามถนนลูกรัง ฝุ่นคลุ้งตามแรงล้อ ก่อนจะเลี้ยวเข้าอำเภอเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้สองชั้นเก่าแก่ ร้านขายของปะปนอยู่ไม่ไกลจากตลาดสดนิรินนั่งเบาะข้างคนขับ มือเล็กกำเอกสารในตักแน่น ดวงตาตื่นเต้นปนกังวลเบาะหลัง แม่กับกันต์แต่งตัวเรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะหาได้ เสื้อเชิ้ตสีจางกับรองเท้าคู่เก่า กลายเป็นชุดพิธีสำคัญของวันนี้เสียงเครื่องยนต์ดับลง พี่บอยหันมาบอกสั้น ๆ น้ำเสียงขรึมแต่หนักแน่น“ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวอ้นจัดการให้เอง”ไม่นานนัก ชายหนุ่มในชุดข้าราชการก็เดินลงมาจากบันไดอาคารอำเภออนุชาเพื่อนเก่าสมัยเรียนของพี่บอย รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมชวนให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น เขาตบไหล่เพื่อนเสียงดัง ปุ“โห ไอ้บอย! กี่ปีแล้ววะไม่ได้เจอกัน เอ็งโทรมานี่แทบไม่เชื่อหู”“นัดไว้แล้วนี่อ้น เรื่องนี้ช่วยหน่อยนะ” พี่บอยตอบเสียงเรียบ แต่แฝงความขอบคุณในแววตาอนุชาหันไปยกมือไหว้แม่ แล้วยิ้มให้กับนิรินกับกันต์“ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องเอกสารโอนที่ดิน ผมดูเองทุกขั้นตอน”บรรยากาศในห้องโถงอำเภอเงียบสงบ มีเพียงเสียงพัดลมตั้

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนที่ 36 หนี้ที่ถูกปิดตาย

    ญาติคนนั้นเม้มปากแน่น พยายามสวนกลับเสียงแข็ง“แต่หนี้มันก็ยังอยู่นะโว้ย ดอกก็ติด โฉนดก็ยังค้ำไว้อยู่ดี จะทำเป็นลืมไม่ได้หรอก!”พี่บอยที่นั่งนิ่งมานาน ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างใหญ่บังสายตาญาติคนนั้นจนเงาสะท้อนคลุมทั้งตัว เขาเดินไปหยิบเอกสารหนา ๆ ในบ้านเอาวางลงบนโต๊ะไม้เสียง ปั้ก“ไม่ต้องมาทวงอะไรอีกแล้ว” เสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่นดังขึ้นทั่วห้อง “เพราะผมปิดบัญชีหนี้ก้อนนั้นไปหมดแล้ว”ญาติคนนั้นตาเบิกกว้าง รีบก้าวเข้ามาดูใกล้ ๆ เมื่อเห็นตัวอักษรชัดเจนว่าเป็นใบปิดบัญชีจากธนาคารจริง ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที“มะ…ไม่จริง! นี่เอ็ง…” เสียงสั่นเครือ“จริง” พี่บอยพูดสวนทันที ดวงตาคมกริบจ้องเขม็ง “ต่อให้คิดจะเล่นแผนอะไรอีก ก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องโฉนดบ้านสวนนี้อีกแล้ว”มานพหัวเราะลั่น “ฮ่า ๆ ๆ หงายเงิบแล้วไง! อยากจะเอามาแซะให้ขายที่ง่าย ๆ แต่สุดท้ายก็หน้าแตกยับ”กันต์ถึงกับยิ้มกว้าง สะใจที่ได้เห็นคนที่เคยทำร้ายครอบครัวพี่สาวต้องเจอแบบนี้นิรินยกมือขึ้นปิดปาก น้ำตาเอ่อเต็มขอบตา เธอหันมองพี่บอยด้วยหัวใจสั่นไหวชายที่ไม่เพียงปกป้องเธอ แต่ยังลุกขึ้นสู้แทนสิ่งที่เธอไม่เคยทำได้มาก่อนญาติค

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status