ตอนที่ 5 ถูกจับได้
“อึก อึก คุณหนู คุณหนูของข้าไปอยู่ที่ใดเจ้าคะ ป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้างทำไมถึงให้วิญญาณสตรีนางอื่นเข้ามาอยู่ในร่างของตนเองเช่นนี้”
“ซูซูเจ้าตั้งสติเสียก่อนเถอะ คุณหนูของเจ้าอาจจะไม่ได้ไปที่ใดนางอาจจะอยู่ในร่างเดียวกันกับข้า เพราะไม่ว่าความทรงจำความรู้สึกของนางที่มีต่อทุกคนยังคงอยู่ ใช่ว่าข้าเองจะอยากมาแย่งร่างของนางเสียหน่อย แต่เพราะสวรรค์ต่างหากส่งข้ามา” อี้หานรีบประคองตัวของซูซูให้ลุกขึ้นก่อนที่ทุกคนจะเห็นเข้า มาอยู่ในจวนอ๋องทุกคนที่นี่ล้วนเป็นคนของอ๋องหวังหมิง "ต่อให้เจ้าร้องไห้โวยวายคุณหนูของเจ้าจะกลับมา ตอนนี้เจ้าต้องอยู่เคียงข้างช่วยเหลือข้า ข้าเชื่อว่าการที่สวรรค์ส่งข้ามาย่อมมีเหตุผล” ซูซูสะอึกไห้พยักหน้าปาดน้ำตาออกจากใบหน้า
“ข้าขอโทษเพคะ เพราะข้าเป็นห่วงคุณหนูแต่คำพูดของท่านก็เป็นความจริงต่อให้ข้าร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตาคุณหนูของข้าก็คงไม่กลับมาอยู่ดี "
“ข้าเชื่อว่าวันหนึ่งนางอาจจะกลับมาแน่ ๆ ตอนนี้เราออกไปที่ห้องโถงเถอะ เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่าท่านชินอ๋องจะมากินอาหารเช้ากับข้า”
“เพคะพระชายา” ซูซูคิดตามคำพูดของอี้หานไม่แน่นี่อาจจะเป็นลิขิตจากสวรรค์ให้วิญญาณนางนี้มาช่วยเหลือคุณหนูของตน
ฝั่งด้านชินอ๋องหวังหมิง
หลังจากที่เขากลับมาจากด้านนอก สภาพกลับมาวันนี้ทั้งเหน็ดเหนื่อยและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนข้างขวาแต่เขาก็แสร้งว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นรีบเข้ามาที่ห้องเมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นท้องนภา
“ท่านบาดเจ็บให้ข้าเรียกหมอมาตรวจร่างกายหรือรักษาก่อนไม่ดีกว่าหรือ หากออกไปเช่นนี้อาจจะทำให้เป็นไข้เพราะบาดแผลเอาได้” คนสนิทของหวังหมิงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ยืนมองนายท่านกำลังเปลี่ยนอาภรณ์
“บาดแผลแค่นี้ไม่ทำให้ข้าตายหรอกนะ เจ็บเล็กน้อยแค่นี้เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราทำถือว่าคุ้มค่า” หวังหมิงครุ่นคิดเรื่องที่ไปทำมาก่อนหน้านี้ เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำพร้อมกลุ่มทหารที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี แอบซ่อนปกปิดตัวตนลอบดักทำร้ายอีกฝ่ายระหว่างทางที่คนพวกนั้นกำลังดำเนินการทำตามแผน หวังหมิงรู้ทันในแผนการคนของพวกนั้นเพราะมีสายสืบแฝงตัวอยู่แจ้งเบาะแสให้เขาได้รู้ทันการ ว่าฝ่ายนั้นจะทำใส่ร้ายโดยการบุกไปทำร้ายขโมยเสบีองของกองทัพทหาร และทิ้งหลักฐานมัดตัวว่าเป็นฝีมือของชินอ๋องหวังหมิง แต่เขาได้จัดการคนพวกนั้นและโชคดีที่ไม่ได้มีฝีมือมากพอที่จะล้มทหารของหวังหมิงได้ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บเพราะไปแย่งชิงของที่คนพวกนั้นมีอยู่คือป้ายประจำตัวของเขา ช่างน่าแปลกป้ายนี่ไม่ใช่ของปลอมแต่มันเป็นของเขาจริง ๆ ทำให้หวังหมิงสงสัยว่าในจวนของเขาต้องมีหนอนของอีกฝ่ายแอบซ่อนตัวอยู่ เรื่องนี้เขาจะให้คนสนิทตามหาอย่างเงียบ ๆ ไม่ให้สายผู้นั้นรู้ตัว
“แล้วท่านจะแต่งตัวออกไปที่ใดตั้งแต่เช้าตรู่ไม่นอนพักก่อนหรือขอรับ”
“ข้าจะไปเสวยอาหารเช้ากับพระชายารอง หากไม่ไปจะทำให้ผู้อื่นสงสัยเอาได้ เจ้าอย่าลืมไปทำเรื่องที่ข้าบอกไปอย่าทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวเด็ดขาด หากเจ้าสงสัยผู้ใดเฝ้าตามดูทุกความเคลื่อนไหว
“ขอรับ”
ตำหนักพระชายารอง
เวลาผ่านไปชั่วครู่ชินอ๋องหวังหมิงมาปรากฏตัวอยู่หน้าตำหนักพระชายารองเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ พรางสูดลมหายใจเข้าเต็มที่ อยากรู้เหลือกเกินว่าวันนี้ชายารองจะมีลูกไม้อะไรที่จะหนีจากเขาได้อีก
“เจ้าคงนอนสบายทั้งคืนเลยสินะ วันนี้ข้าชักไม่อยากอาหารแล้วสิเพียงแค่เห็นใบหน้าของเจ้าก็ไม่อยากอาหารเสียแล้ว"
“เช่นนั้นก็เป็นการดีเพคะ ข้าเองก็ไม่อยากจะร่วมโต๊ะอาาหารกับท่านนักหรอก นี่พวกเจ้าเก็บของไปให้หมด ข้าจะไปหาพระชายาเอกเสวี่ยหมิ่น” อี้หานกวักมือเรียกสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงนั้น 3-4 คนเพื่อให้พวกเขาเก็บของดีเสียอีกที่เขาไม่อยากอาหารเพราะนางเองก็ไม่อยากจะกินให้อืดท้องเช่นเดียวกัน
“ไม่ต้องเก็บอย่างไรก็มาแล้วกินเสียหน่อยถือว่าเป็นพิธีสุดท้ายจริง ๆ ต่อจากนี้คงไม่มีเรื่องที่ข้าจะมาที่ตำหนักนี่อีกแล้ว ข้างนอกมีสตรีงดงามมากมายยิ่งหอคณิกาไม่ว่าจะมองไปทางใดล้วนมีแต่สตรีงดงามชวนน่ามองไม่เหมือนชายารองไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่น่ามองสักนิด” หวังหมิงนั่งลงที่เก้าเหลือบตามองอี้หานเล็กน้อยเชาเห็นแววตาของนางที่เต็มไปด้วยความดีใจที่เขาบอกว่าจะไม่มาที่ตำหนักนี้อีก หวังหมิงกระตุกยิ้มมุมปากพอเข้าใจในเจตนาของนางที่ไม่อยากใกล้ตนเพราะประวัติเรื่องราวฉาวโฉวของเขาที่สร้างมา พอเข้าใจว่านางรังเกียจตนและไม่อยากเข้าใกล้
นางนั่งลงเก้าอี้ตัวด้านหน้าสาวรับใช้กำลังเข้ามาตักข้าวใส่ถ้วยใบเล็ก อีกนางกำลังยกน้ำมาเติมที่แก้วครั้นนั้นหวังหมิงคิดแผนการเปิดโปงเรื่องใบหน้าของอี้หานได้ เขายื่นเท้าไปต่อหน้าสาวใช้ที่กำลังเดินตรงเข้าไปใกล้อี้หานทำให้นางสะดุดเท้าของหวังหมิงล้มเหยือกน้ำหลุดมือกระเด็นใส่กายของอี้หานจนใบหน้าของนางเปียกปอนไปหมด หวังหมิงรีบชักเท้าเข้ามาเก็บ
“กรี๊ด ! พระชายาเพคะหม่อมฉันผิดไปแล้วหม่อมฉันมิได้ตั้งใจ” สาวใช้ร้องกรีดออกมาด้วยความตกใจรีบลุกนั่งก้มหน้าลงกับพื้นเพื่อขอให้นางอภัยให้ความซุ่มซ่ามของตนยามนี้ ซูซูเห็นรีบตวาดต่อว่าและกำลังจะเข้าไปช่วยเหลือพระชายาแต่ก็ถูกท่านชินอ๋องปัดมือและเข้าไปถึงตัวพระชายาก่อนตนเองอีกด้วย
“เจ้ามันซุ่มซ่ามทำให้พระชายาเปียกปอนไปหมดต้องถูกเฆี่ยน พระชายาเพคะเข้าไปเปลี่ยนอาภรณ์ก่อนนะเพคะเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ร่างกายของพระชายายิ่งอ่อนแอ”
“พระชายาของข้าช่างโชคร้ายแต่เช้าเลย มา ๆ ข้าจะช่วยเช็ดให้ส่่วนเจ้าไปทางใดก็ไปอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีกไม่อย่างนั้นข้าจะสั่งโบยเจ้าให้หลังลายแม้ว่าพระชายารองจะน่าเกียจไม่เป็นที่โปรดปรานแต่นางก็เป็นพระชายาของข้า” สาวใช้ร่างกายสั่นเทารีบก้มหัวลงแนบพื้นครั้งแล้วครั้งเล่าที่ท่านอ๋องเมตตา
“เพคะท่านอ๋อง ”
อี้หานตกใจไม่ใช่เพราะตนเองเปียกแต่เพราะใบหน้าของนางยามนี้คงเปียกไม่เหลือร่องรอยของการแต่งหน้า ยิ่งเครื่องแต่งหน้ายุคสมัยนี้ไม่ติดทนและไม่กันน้ำอย่างนี้มีหวังอ๋องหวังหมิงจับได้แน่ ๆ
“เป็นความกรุณาที่ท่านชินอ๋องเป็นห่วงข้า ข้าต้องขอไปเปลี่ยนอาภรณ์เสียก่อนเพคะ ไม่อยากให้ท่านอ๋องได้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของข้ามากกว่าเดิม” หวังหมิงลุกขึ้นเดินเข้าไปดึงกายของนางเอาไว้ก่อนที่นางจะลุกหนีเข้าไปที่ห้อง ยามนี้นางอยู่ในอ้อมแขนแกร่งใบหน้าตื่นตระหนก เงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจ
“จะรีบไปที่ใด ข้าเห็นใบหน้าของพระชายาตอนนี้หรือตอนไหนก็เหมือนกันทั้งนั้น เอ๊ะ! ทำไมใบหน้าของเจ้าไม่เป็นเหมือนอย่างที่ข้าเห็นเมื่อครู่” เขาค่อย ๆ ใช้ปลายแขนเสื้อเช็ดใบหน้าของนาง อี้หานมิอาจจะดิ้นหนีเพราะมือหนาของเขาอีกข้างโอบกอดเอวของนางเอาไว้แน่น หัวใจของนางเต้นแรงระรัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตนเองถูกจับได้แล้ว
“ฮึ ฮึ พระชายาของข้าเป็นสตรีที่งดงามเหตุใดต้องปกปิดใบหน้าที่แท้จริงด้วย เช่นนี้ต้องถูกลงโทษ” หวังหมิงก้มลงกระซิบข้างหูทำเอาร่างบางเย็นยะเยือกราวกับรู้ชะตากรรมตนเอง
ตอนที่ 27 เลือกชินอ๋องเพียงไม่เกินครึ่งชั่วยาม แม่ทัพจัดการเหล่าทหารของใต้เท้าจางจนหมดสิ้นทุกคน หน้าวังหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง ทหารจัดการเก็บซากศพไปโยนทิ้งให้แร้งให้กากิน ส่วนหลางอี้ถูกจับตายเช่นเดียวกัน ตระกูลจางถูกจับทุกคนรวมถึงใต้เท้าที่เข้าร่วมก่อการกบฏครั้งนี้ทุกตระกูล สายของชินอ๋องหวังหมิงพาแม่ทัพบุกทลายที่ซุกซ่อนของใต้เท้าจางเสวี่ยหมิ่นไม่ทันได้ตั้งตัวหนีจึงถูกจับกุมมาที่คุกหลวง การตัดสินโทษของใต้เท้าจางคือการประหารเจ็ดชั่วโคตรเสวี่ยหมิ่นมิอาจจะหลบหลีกได้ นางกรีดร้องเสียสติเมื่อเห็นท่านพ่อถูกประหารนำหัวไปเสียบประจานอยู่หน้าวังหลวง ผู้คนชั่วช้าได้รับโทษที่ตนเองกระทำเอาไว้ ตอนนี้ทุกอย่างในวังหลวงคลี่คลายไร้ใต้เท้าชั่วช้าคิดไม่ดีต่อราชวงศ์อีก3 วันต่อมาจวนชินอ๋องหวังหมิงหลังจากที่จับกุมใต้เท้าจางได้ชินอ๋องแต่งตั้งให้ซูอี้หานขึ้นมาเป็นพระชายาเอก เหม่ยหนิงได้รับความเมตตาจากหวังหมิงให้กลับมาทำงานในจวนเช่นอย่างเคย ตอนนี้นางอยู่ห้องเครื่องแรก ๆ ทุกคนในจวนต่างพากันรังเกียจนางเพราะเสวี่ยหมิ่นเจ้านายของนางเป็นคนโหดเหี้ยมหักหลังได้แม้กระทั่งสวามีของตน
ตอนที่ 26 เริ่มเคลื่อนไหวเสวี่ยหมิ่นไม่หยุดนางลูบไล้บนอกแกร่งอย่างลืมตัว ร่างกายของหลางอี้สั่นสะท้านรีบจับมือของเสวี่ยหมิ่นให้หยุดกระทำก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้“ข้าบอกให้ท่านหยุดได้แล้ว ทำไมถึงไม่หยุดเล่ายามนี้ข้ามิใช่เด็กชายตัวน้อยที่คอยให้ท่านหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนและนะขอรับ”“ข้าก็ไม่ได้มองเจ้าเป็นเด็กชายตัวน้อยที่เมื่อก่อนถูกข้ารังแกเสียหน่อย ” หลางอี้มิอาจจะทนได้อีกต่อไปจับปลายคางของนางให้เผยอขึ้นก่อนจะบดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงด้วยความถวิลหา ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัวสมองขาวโพลนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เลือดในร่างกายเริ่มพลุ่งพล่านโอบกอดคอของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว เคลิบเคลิ้มกับรสจุมพิตที่เขามอบให้ทั้งสองแลกสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลไปตามกระแสน้ำ เหล่าแมลงปอเป็นพยานรักในครั้งนี้ เสวี่ยหมิ่นรู้สึกดีมาก ๆ จนแปลกใจว่าวันนั้นที่นางนอนกับชินอ๋องหวังหมิงใช่เรื่องจริงหรือไม่? จนกระทั่งความเจ็บปวดกับความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันทำให้นางรู้ตัวทันทีว่านางถูกชินอ๋องหลอกลวงเข้าแล้ว และนี่คือครั้งแรกที่นางนอนกับบุรุษ ยิ่งทำให้นางแค้นชินอ๋องมากกว่า
ตอนที่ 25 เสวี่ยหมิ่นหนีไปฝั่งด้านอี้หาน นางกลับมาที่ตำหนักด้วยความผ่อนคลาย คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่นางเปิดโปงความผิดของเสวี่ยหมิ่น“หม่อมฉันไม่คิดเลยนะเพคะว่าพระชายาเสวี่ยหมิ่นจะโหดร้ายโยนความผิดให้แก่สาวใช้ที่จงรักภักดีต่อนางเช่นนั้น ”“เพราะนางไม่เคยรักใครมากกว่าตนเองนะสิ เอาล่ะตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายต่อจากนี้ข้าคงได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย วันนี้อากาศช่างดีเสียจริง” อี้หานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก ยามราตรีมาเยือนหวังหมิงกลับเข้ามาจากข้างนอกค่ำคืนนี้เขาก็ไปที่ตำหนักของซูอี้หานเช่นเดิม ทั้งสองนั่งกอดกันอยู่บนเตียงในห้องที่มีเพียงแสงเทียนริบหรี่ กลิ่นกำยานคละคลุ้งเต็มอากาศ“ต่อจากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ ”“เรื่องของเสวี่ยหมิ่นนะหรือ? ข้าคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วนางไม่ยอมให้ตนเองถูกลงโทษแน่ ๆ ข้าให้คนของข้าเฝ้าจับตามอง นางจ้างวานให้สาวใช้นำจดหมายไปมอบให้แก่ใต้เท้าจางค่ำคืนนี้ในจวนของข้าคงจะมีหนูแอบซ่อนตัวเข้ามาขโมยของ เรารีบเข้านอนกันเถอะคนพวกนั้นจะได้ทำตามแผน”“เดี๋ยวสิเพคะ ท่านจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือได้อย่างไรกัน”“ซูอี้หานเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ามิได้
ตอนที่ 24 โยนความผิด เขาได้อ่านและยอดที่จ่ายคนงานในจวนอีกทั้งซื้อของเข้าห้องเครื่องไม่ตรงกับที่ลงบันทึกเอาไว้ ยอดเงินในคลังหายไปทุกครั้งที่ทำการเบิกจ่าย ยิ่งตรวจสอบยิ่งเห็นว่าระยะเวลาที่หายไปคือช่วงที่พระชายาเสี่ยวหมิ่นดูแล เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระชายาเอกเขาได้ตรวจสอบลายมือของทั้งสองมันไม่มีตรงใดที่เหมือนกันสักนิด“ทูลท่านชินอ๋องข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้วมีการหายไปและจำนวนของที่เข้ามาไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ออกไปจริง ๆ และการตรวจสอบลายมือทั้งสองไม่เหมือนกันด้วยพะย่ะค่ะ พร้อมทั้งหมึกในบันทึกกระหม่อมตรวจสอบแล้วเป็นหมึกที่เขียนมานาน หากจะเกิดการเขียนใหม่จากพระชายารองคงมิใช่ เพื่อความเป็นธรรมกระหม่อมอยากให้พระชายาทั้งสองเขียนลายมือตนเองลงใส่กระดาษต่อหน้าทุกคนเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์พะย่ะค่ะ” เจิงหลงเดินเข้ามาพร้อมหมึกและพู่กันวางลงบนโต๊ะซูอี้หานเดินมาหยิบพู่กันอย่างมั่นใจเขียนลงบนกระดาษเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ลายมือของนางเหมือนที่นางส่งให้ใต้เท้าทุกตัวอักษร เสวี่ยหมิ่นเริ่มสั่นกลัว นางสั่นเทาค่อย ๆ เดินไปหยิบพู่กันเขียนลงบนกระดาษครานั้นนางก็คิดได้‘แม้จะตรวจสอบว่าเป็นข้าที่เขียนลงข้
ตอนที่ 23 เอาคืนซูซูประคองอี้หานเข้าตำหนักสำรวจร่างกายไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บนางสบายใจขึ้นมาพร้อมสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่“พระชายาเพคะ คนพวกนั้นไม่ได้ทำอันใดแล้วจับตัวพระชายาไปทำไมเพคะ หรือว่าต้องการเบี้ยอัฐ”“คนพวกนั้นถูกพระชายาเสวี่ยหมิ่นสั่งการมาให้จับตัวข้า ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่านางไม่เคยหวังดีกับข้าและเรื่องการยักยอกเงินนางต้องมีแผนใส่ร้ายข้าแน่นอน ในเมื่อร้ายมาข้าก็จะร้ายกลับจะเล่นงานข้าหรือ? ข้าจะเอาคืน”“แต่ว่าพระชายาเอกมีอำนาจมากนะเพคะ ไหนจะท่านพ่อของนางอีก คงไม่มีทางปล่อยให้พระชายชายารองใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแน่นอน”“ข้าไม่กลัวหากเรายอมนาง นางก็คิดจะรังแกเราฝ่ายเดียว รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องที่นางยักยอกเงินแจ้งกับทุกคนได้ทราบอย่างทั่วถึง คอยดูว่านางจะทำหน้าเช่นไรในเมื่อต้องการใช้แผนนี้จัดการข้าแต่ข้าชิงลงมือก่อน”“ข้าเป็นห่วงพระชายาจริง ๆ นะเพคะ อยู่อย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ”“ใจของข้าปรารถนาอยากอยู่อย่างสงบแต่อีกฝ่ายระรานข้าก่อน ข้าต้องปกป้องตนเองให้นางได้เห็นว่าข้าไม่ใช่สตรีโง่เขลาที่รังแกได้ง่าย ๆ อีกอย่างตั้งแต่วันนี้ชินอ๋องสั่งการให้องครักษ์เงาคอยปกป้องดูแลข้า เจ้
ตอนที่ 22 ไม่มีวันได้ใจ ฝั่งด้านเสวี่ยหมิ่นนางกลับมาที่ตำหนักเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ก่อนหน้านี้นางไปดูการแสดงละครกับอี้หานตอนนั้นความโกรธเกรี้ยวที่มีต่ออี้หานยิ่งเห็นสายตาของหวังหมิงจ้องมองนางไม่กระพริบสายตาแถมยังถูกหวังหมิงตำหนิยิ่งทำให้นางอิจฉา จึงบอกแก่อี้หานว่านางเจ็บท้องขอเวลาสักครู่ อี้หานไม่ได้คิดอันใดคิดว่าเสวี่ยหมิ่นเจ็บท้องจริง ๆ และตอนนั้นนางกำลังสนุกสนานกับการแสดงจึงไม่ได้ตามเสวี่ยหมิ่นไป นางเดินไปเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังนั่งดื่มสุราจึงว่าจ้างให้ไปจับตัวอี้หานและทำให้เกิดความวุ่นวาย พานางไปให้ไกลที่าสุดหรือในป่าลึกและปล่อยนางทิ้งไปเสียสตรีอ่อนแอเช่นนางคงไม่มีทางหาทางออกจากป่าได้ ชายฉกรรจ์รับคำว่าจ้างเพราะเห็นเบี้ยอัฐที่เสวี่ยหมิ่นโยนมาให้มากจนตนตาโตเพราะความโลภ นางจึงบอกรูปลักษณ์ของอี้หานพร้อมสีผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่มาวันนี้ งานนี้มิใช่เรื่องยากชายฉกรรจ์จึงรับปากจะทำทันที เสวี่ยหมิ่นเดินกลับมายืนข้างกายของอี้หานเพื่อให้คนกลุ่มนั้นได้เห็นว่าสตีนางใดที่เขาต้องจับตัวไป แคร่ก!!'เสียงประตูเปิดเข้ามาเสวี่ยหมิ่นตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเหม่ยหนิงนางโล่งอกขึ้นมาทั