Share

บทที่ 11

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
ฮูหยินผู้เฒ่าซูพยักหน้า “มีเหตุผล! แต่ว่า จะตามหาผู้อยู่เบื้องหลังอย่างไร?”

หลี่หลงหลินยิ้ม “ง่ายมาก! เจ้าหกร่วมมือกับโม่เป่ยเผ่าหมาน ต้องมีการส่งจดหมายหากันอย่างแน่นอน! จดหมายเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะซ่อนในห้องหนังสือ! ขอเพียงลอบเข้าไปในห้องหนังสือ ขโมยจดหมายออกมา ก็จะได้หลักฐาน!”

ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเป็นปม “ง่ายดายเช่นนี้เชียวหรือ?”

หลี่หลงหลินยักไหล่ “มิเช่นนั้นเล่า? เมียจ๋า หรือเจ้ามีความคิดอื่นที่ดีกว่านี้?”

ดวงหน้างดงามของซูเฟิ่งหลิงฉายความโมโห “ขืนท่านเรียกข้าว่าเมียจ๋าอีก ข้าจะฆ่าท่านทิ้ง!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ย “พอแล้วๆ! พวกเจ้าสองสามีภรรยาหยุดทะเลาะกันได้แล้ว! ข้าคิดว่า ความคิดเห็นหลงหลิน ก็ใช้ได้! แต่ว่า ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด!”

“เฟิ่งหลิง ด้วยความสามารถของเจ้า ลอบเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก ขโมยจดหมาย ไม่ใช่เรื่องยากกระมัง?”

ซูเฟิ่งหลิงลังเลเล็กน้อย “ไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่รู้ว่าผังจวนขององค์ชายหกเป็นเช่นไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าห้องหนังสืออยู่ที่ใด”

หลี่หลงหลินตบแผงอกแล้วพูด “เรื่องนี้ง่าย! เมื่อก่อนข้าไปจวนพี่หกบ่อยครั้ง หลับตาก็รู้ว่าห้องหนังสืออยู่ที่ใด! ข้าไปกับเจ้าเอง!”

ซูเฟิ่งหลิงตกตะลึง “ท่านเนี่ยนะ?”

มองสีหน้ายิ้มแย้มของหลี่หลงหลิน ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกว่าเขาพึ่งพาไม่ได้แม้แต่น้อย!

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางเลือกอื่น

รอกระทั่งกลางดึก ซูเฟิ่งหลิงเปลี่ยนเป็นชุดสีดำ ใช้ผ้าปิดหน้า แล้วตรงไปยังจุดนัดพบ

สีหน้าของซูเฟิ่งหลิงฉายความดูแคลน “ท่านทำได้หรือไม่กันแน่!”

หลี่หลงหลินกลับมองตนด้วยสีหน้าหลงใหล จิปาก คล้ายกำลังวิจารณ์รูปร่างของตน

ซูเฟิ่งหลิงโมโหยิ่งนัก แต่ไม่อาจทำอะไรหลี่หลงหลินได้ “ไม่เอาไหนจริงๆ! นึกไม่ถึงว่าข้าจะเชื่อท่าน ตาบอดไปแล้วจริงๆ! อย่าเป็นตัวถ่วงของข้า อยู่ข้างนอกคอยดูลาดเลาให้ข้าด้วย! ห้องหนังสืออยู่ที่ทิศทางใด ข้าเข้าไปคนเดียว!”

หลี่หลงหลินชี้ไปทิศทางหนึ่ง

ซูเฟิ่งหลิงหมดความอดทนนานแล้ว ใช้วิชาตัวเบา กระโดดข้ามกำแพง

นางหันกลับมามอง โมโหเป็นฟืนเป็นไฟแทบจะในทันที

เพียงชั่วพริบตา หลี่หลงหลินหนีไปอย่างไร้ร่องรอย!

“ช่างเป็นคนขี้ขลาดจริงๆ!”

ซูเฟิ่งหลิงเพียงคิดว่าตนต้องแต่งงานกับคนไม่เอาถ่านเช่นนี้ นางกระวนกระวายใจยิ่งนัก

ฟู่!

ซูเฟิ่งหลิงพ่นลมหายใจ ร่างอรชนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วภายใต้แสงจันทร์ เพียงไม่นานก็เข้าไปในจวนขององค์ชายหก

ตามทิศทางที่หลี่หลงหลินชี้ ซูเฟิ่งหลิงหาห้องหนังสือเจออย่างรวดเร็ว ลักลอบเข้าไปผ่านช่องหน้าต่าง

“จดหมาย...จดหมาย...”

ซูเฟิ่งหลิงเพิ่งมาถึงโต๊ะหนังสือ ยังไม่ได้เริ่มหา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก

ออกไปทางช่องหน้าต่าง เห็นชัดว่าไม่ทันแล้ว

ภายใต้ความเร่งรีบ ซูเฟิ่งหลิงซ่อนตัวหลังม่าน

หลี่เซวียนผลักประตูเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก ทั้งยังด่าทอไม่หยุด “สารเลว! เจ้าเก้า เจ้าเก้าสารเลวจริงๆ! กล้าทำลายแผนการของข้า! ข้าต้องหั่นร่างมันเป็นชิ้นๆ จึงจะบรรเทาความคับแค้นใจของข้าได้!”

หลี่เซวียนอารมณ์เสีย โยนแจกันบนโต๊ะทิ้งจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ฉีกภาพอักษรจีนราคาแพงบนกำแพง ระบายความโกรธแค้นในใจ!

“เอ๊?”

หลี่เซวียนพบว่าหน้าต่างเปิดค้างไว้ สาวเท้าเดินมา

เขาจำได้ดีว่า ตอนตนออกไป หน้าต่างปิดสนิท

หรือถูกลมพัดจนหน้าต่างเปิดเช่นนั้นหรือ?

ซูเฟิ่งหลิงได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หัวใจบีบรัดจนแทบกระดอนออกมา

กลางดึก ลอบขโมยของในห้องหนังสือองค์ชาย แม้กระโดดลงแม่น้ำฮวงโหก็ไม่อาจแก้ตัวได้!

อีกทั้ง หลี่เซวียนกล่าวหาว่านางลอบสังหารองค์ชายก็ได้ แม้กระทั่งตระกูลซูก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย!

ทำอย่างไรดี...ทำอย่างไร...

ขณะที่ซูเฟิ่งหลิงอับจนหนทาง คิดว่าจะถูกจับได้แล้วนั้น ด้านนอกมีคนมารายงาน “องค์ชาย! องค์ชายเก้ามาขอพบ กล่าวว่ามีเรื่องจะหารือพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่เซวียนชะงักฝีเท้า ขมวดคิ้วเป็นปม “เจ้าเก้า? คนไม่เอาถ่านเช่นเขาจะมีเรื่องสำคัญอะไร? ให้เขาเข้ามา!”

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง

หลี่หลงหลินมาถึงห้องหนังสือ ทันทีที่เดินเข้ามาเขาเช็ดน้ำมูกและเช็ดน้ำตา “พี่หก! พี่หก! ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ!”

หลี่เซวียนฉงน “เจ้าเก้า! เจ้าเป็นอะไร? สำนึกผิด? เจ้าทำอะไรผิด?”

ใบหน้าของหลี่หลงหลินฉายความเศร้าหมอง “ข้าไม่ควรแย่งสตรีกับพี่หก! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่า พี่หกชอบเสือร้ายอย่างซูเฟิ่งหลิง!”

หลี่เซวียนเข้าใจทันที

ฟูมฟายตั้งนาน หลี่หลงหลินมาเพราะเรื่องนี้นี่เอง!

น้องเก้าคนนี้ของตน ไม่เอาถ่านจริงๆ!

กระทั่งเวลานี้ เขายังไม่รู้อีกหรือว่า ซูเฟิ่งหลิงเป็นหมากตัวสำคัญ ในแผนการก่อกบฏที่ตนวางไว้?

เดิมทีหลี่เซวียนคิดว่า หลี่หลงหลินทำลายแผนการของตน ด้วยความตั้งใจ

ดูเหมือนว่าตนจะคิดมากเกินไปแล้ว!

หลี่เซวียนรีบพูด “แท้จริงแล้ว ข้าก็ไม่ได้ชอบซูเฟิ่งหลิง เพียงแต่ข้าเห็นว่าเสด็จพ่อตกที่นั่งลำบาก อยากจะช่วยเสด็จพ่อแบ่งเบาก็เท่านั้น! คิดไม่ถึงว่า ฮูหยินผู้เฒ่าซูคิดแต่อยากจะให้หลานสาวแต่งงานกับเจ้า!”

“ในเมื่อเสด็จพ่อพระราชทานสมรส เป็นเรื่องที่ตัดสินใจแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลง”

“เจ้ากลับไปเถอะ! พี่ไม่เก็บมาใส่ใจ...”

แต่หลี่หลงหลินกลับยังคงไม่ยอม เขาพูด “เสด็จพ่อพระราชทานสมรสแล้วอย่างไรขอรับ? เสือสาวนั่นดุร้ายยิ่งนัก ไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อย ชายคนใดจะชอบนาง! พรุ่งนี้ข้าจะหย่ากับนาง ยกนางให้พี่หกขอรับ!”

ซูเฟิ่งหลิงซ่อนตัวหลังม่าน โมโหจนแทบจะขาดสติแล้ว

คำพูดเหล่านี้ของหลี่หลงหลิน เจตนากระมัง?

ต้องตั้งใจแน่นอน!

ข้าแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ?

เรือนร่างและรูปโฉมของข้า สิ่งใดบ้างที่ไม่ดีเลิศ?

อีกเรื่องหนึ่ง ข้าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สินค้า

เจ้าคิดอยากจะทิ้งก็ทิ้ง คิดอยากยกให้คนอื่นก็ยกให้คนอื่นเช่นนั้นหรือ?

สิ่งที่ทำให้ซูเฟิ่งหลิงบ้าคลั่งยิ่งกว่าก็คือ นึกไม่ถึงว่าหลี่เซวียนจะปฏิเสธ “เจ้าเก้า ความหวังดีของเจ้า ข้ารับไว้แล้ว! แต่ว่าสตรีดุร้ายดั่งเสืออย่างซูเฟิ่งหลิงคนนี้ ข้าก็ไม่อยากได้ เจ้าเก็บไว้คนเดียวเถอะ!”

“ดึกมากแล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าเองก็กลับไปพักเถอะ!”

หลี่เซวียนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับหลี่หลงหลิน จึงไล่แขก พาตัวเขาออกไป

หลังจากนั้น หลี่เซวียนแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น ชักดาบขึ้นมา เดินไปตรงหน้าต่าง ไม่พูดไม่จา แทงทะลุม่านหน้าต่าง!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 12

    พรึ่บ!ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!หรือตนคิดผิดแล้ว?เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น“แย่แล้ว!”“ตกหลุมพรางแล้ว!”หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลงหลังจากผ่านไปนานในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตนซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 13

    องค์ชายหกวางแผนมานานหลายปี ในการก่อกบฏ คล้ายทุกอย่างแยบยลทว่าแท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น!กุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์ คือทหารพันนายของตระกูลซู!หลี่เซวียนอยากจะเป็นเขยของตระกูลซู อยากใช้ทหารตระกูลซูในการก่อกบฏทว่าหลี่หลงหลินชิงลงมือก่อน ใช้ทหารตระกูลซูรักษาความสงบ!ความสำเร็จของจักรพรรดิ คือการขยายอณาเขต ความสำเร็จของข้าราชบริพาร คือการรักษาความสงบและฟังคำสั่งของจักรพรรดิ!หากตระกูลซูพลิกวิกฤตได้ สยบความโกลาหล สร้างคุณงามความดีครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็พลิกชะตาของตระกูลได้!เมื่อฮ่องเต้หวู่โสมนัส ต้องตกรางวัลอย่างงามแน่นอน!เวลานี้ตระกูลซูไร้บุรุษ เหลือเพียงหญิงหม้าย ภายใต้การสนับสนุนของจักรพรรดิ ใช่ว่าจะไม่อาจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!เพียงแต่องค์ชายหกก็ไม่ได้โง่เขลา ในเมื่อเขารู้แล้วว่าจดหมายหายไป ต้องเตรียมความพร้อมอย่างแน่นอน วางกำลังทหารซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวง!สีหน้าของหลี่หลงหลินเคร่งขรึม ถอนหายใจ “ทางออกเดียวของตระกูลซู คือใช้ตราพยัคฆ์มาช่วย นำทหารที่เหลืออยู่มาสยบความโกลาหลในเมืองหลวง! แต่ว่า องค์ชายหกต้องขัดขวางอย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้เปี่ยมไปด้วยอันตร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 14

    ฟ้าสลัวเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ...เสียงแส้แทรกผ่านอากาศ ดังก้องไปทั่วพระราชวังต้องห้ามขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊แบ่งเป็นสองแถว เดินเข้าไปในท้องพระโรงฮ่องเต้หวู่ในชุดเสื้อคลุมมังกร สวมมงกุฎ นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรเหนือศีรษะมีแผ่นป้ายสลักคำว่า ‘เที่ยงตรงโปร่งใส’ ทอประกายเจิดจ้า“ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”บรรดาข้าราชบริพารคุกเข่าทำความเคารพ กล่าวคำสรรเสริญท่ามกลางขุนนาง หลี่หลงหลินคุกเข่าทำความเคารพเช่นเดียวกัน เก็บอาการวางตัวปกติ ทว่าสายตากลับกลอกไปมา พิจารณารอบๆเขาไม่ได้ตกใจในความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ทว่ากำลังสังเกตสีหน้าขององค์ชายทุกคนโดยเฉพาะองค์ชายหก คือคนที่หลี่หลงหลินสังเกตเป็นพิเศษองค์ชายหกสัมผัสได้ถึงสายตาของหลี่หลงหลิน แต่กลับแกล้งทำหน้านิ่ง สายตามองตรง ไม่มองมาที่เขาสิ่งนี้ทำให้หลี่หลงหลินหัวเราะในใจดูเหมือนกำลังร้อนตัว!“ทุกคนยืนขึ้นได้!”เสียงน่าเกรงขามของฮ่องเต้หวู่ ดังขึ้นจากด้านบนหลังจากบรรดาขุนนางลุกขึ้น ขันทีเว่ยซวินที่ยืนอยู่ข้างฮ่องเต้หวู่พูด “ผู้ใดต้องการถวายฎีกา นำขึ้นมาได้เลย!”บรรดาขุนนางนิ่งเงียบ ไม่มีใครเดินออกมาแ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 15

    ณ ท้องพระโรงเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นติดต่อกัน สีหน้าของบรรดาขุนนางด้านชาไปหมดขโมยเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงมากแล้วไม่มีใครคิดว่า องค์ชายเก้าจะก้าวออกมาด้วยตนเอง ยอมรับว่าตนคือคนร้ายคนนั้น?สมองของเขา ถูกลาเตะแล้วหรืออย่างไร?เขาคงไม่คิดว่า ฮ่องเต้หวู่ปล่อยเขาไปครั้งหนึ่งแล้ว จะยอมปล่อยเขาไปครั้งที่สองกระมังเวลานี้ ฮ่องเต้หวู่เหยียดกายลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร หัวเราะด้วยความพิโรธ “เจ้าเก้า เจ้าคิดอยากจะตาย เจตนาทำชั่ว อย่ากล่าวโทษข้าที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก จับตัวลูกทรพีคนนี้ซะ!”“ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้น ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูอ่อนแอ “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีเรื่องอยากจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่หัวเราะในลำคอ “ว่ามา!”ฮ่องเต้หวู่ดื้อรั้นไม่ฟังความเห็นของผู้อื่นก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นไม่ให้โอกาสลูกชายในการอธิบายยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็นึกสงสัยเช่นเดียวกันเจ้าเก้าเป็นคนขี้ขลาด ไม่เอาถ่าน ทว่าไม่ได้โง่เขลาและบ้าคลั่งถึงขั้นนี้!หลี่หลงหลินพูด “เสด็จพ่อ ตอนกระหม่อมไปขอโทษพี่หก ในห้องหนังสือของเขา กระหม่อมบัง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 16

    ฟึบฟึบฟึบ...ลูกศรพุ่งทะลุชั้นอากาศ ปลิดชีพทหารรักษาพระองค์ด้านข้างองค์ชายหกทันที!ซุนกวางเสี้ยวในชุดเกราะเดินสับเท้าเข้ามาหาหลี่เซวียนอย่างรวดเร็ว สองมือยื่นชุดเกราะและมีดยาวให้เขา : “กระหม่อมมาช้าไปหนึ่งก้าว ทำให้องค์ชายต้องตระหนก โปรดทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ!”หลี่เซวียนสวมชุดเกราะพลางเหน็บมีด เอ่ยอย่างยิ้มเยาะ: “ไม่เป็นไร! ทุกอย่างอยู่ในแผนของเรา! ”เรา?เมื่อได้ยินหลี่เซวียนเรียกตัวเองว่าข้า ทุกคนในท้องพระโรงต่างก็แตกตื่น!ฝ่าบาทนั่งอยู่บนพระที่นั่งมังกร สีหน้ามืดมนและน่ากลัวมาก!เหล่าข้าราชการพลเรือนและทหารหลายร้อยคนพากันเอ่ยตำหนิ: “องค์ชายหก พระองค์กล้าที่จะกบฏ นี่เป็นความผิดร้ายแรง!" ”“เราคำนี้ พระองค์สามารถใช้แทนพระองค์เองได้งั้นหรือ?”“หรือว่า ท่านต้องการที่จะฆ่าบิดาแล้วก่อกบฏ? การเสียสติเช่นนี้ ฟ้าดินไม่อาจยอมรับได้! ท่านไม่กลัวถูกฟ้าผ่าหรือ? ”“ใช่! ท่านไม่กลัวจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์หรือว่าท่านก่อกบฏ จนชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปหมื่นปี! ”หลี่เซวียนถือมีดยาวในมือ ยกขึ้นเหนือศีรษะและหัวเราะอย่างดุเดือด: “ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉาวโฉ่ไปหมื่นปี? ช่างน่าขัน! ในโลกนี้ ผู้อ่อนแอเป็

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 17

    ว่ากันว่าพ่อเป็นเสือลูกไม่เป็นหมา!แต่ลูกชายตัวเองแต่ละคน ล้วนไร้ประโยชน์!เขาจะวางใจได้แต่งตั้งองค์รัชทายาท และมอบบ้านเมืองของต้าเซี่ย และประชาชนหลายล้านคนให้ไปอยู่ในมือพวกเขาได้ยังไง?“ห๊ะ?”และในขณะนี้ จู่ๆฝ่าบาทก็พบว่ามีร่างหนึ่งยืนอยู่กับที่ ไม่เพียงแต่ไม่กระวนกระวาย แต่เขายังแสดงสีหน้าสงบนิ่งอีกด้วย!แม้ภูเขาไท่ซานจะถล่มลงมาตรงหน้าสีหน้ายังไม่เปลี่ยน แม่น้ำหวงเหอตีบตันใบหน้าก็ยังไม่ตระหนก!เขาก็คือองค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน!ฝ่าบาทขยี้ตามองอย่างสงสัยว่าตนมองผิดไปหรือไม่เจ้าเก้าเป็นบุตรของพระชายาโหรวดังคํากล่าวที่ว่า รักบ้านก็รักอีกาที่อยู่บนหลังคาบ้านนั้นด้วยพระชายาโหรวคือนางสนมคนโปรดของฝ่าบาท ย่อมต้องรักลูกชายของนางมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าเก้าเป็นคนไร้ประโยชน์จริงๆ ทำตัวไร้สาระมากๆ ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายที่เข้มงวดกับเขาก็หวังที่จะให้เขาดีขึ้น จึงไม่ได้คาดหวังอะไรอีก!หากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อเจ้าเก้าต้องเผชิญกับการก่อกบฏ คงต้องร้องไห้หาพ่อร้องไห้หาแม่ และถึงขั้นกลัวจนฉี่รดได้! แต่ครั้งนี้การแสดงออกของเจ้าเก้านั้นเกินความคาดหมายของฝ่าบาทมากเขาไม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 18

    “ทหารตระกูลซู!”“คุ้มกัน!”ซูเฟิ่งหลิงถือทวนไว้ในมือ ชี้ขึ้นไปบนฟ้า!ทหารตระกูลซูตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน: “ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ”ไอสังหารอันมหึมา สะเทือนโลก!ฉากนี้ทําให้ทุกคนตะลึง!เหล่าองค์ชายและเหล่านางทหารต่างไม่ต้องพูดอะไร เมื่อเห็นกองกำลังเสริมมาถึง ทุกคนต่างก็ดีใจและร้องไห้ออกมา“รอดแล้ว!”“เรารอดแล้ว!”“แม่ทัพหญิงคนนี้น่าเกรงขาม สตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ นางเป็นใคร?”แม้ว่าชื่อเสียงของซูเฟิ่งหลิงจะโด่งดังมากอย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นซูเฟิ่งหลิงตัวจริงนอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ก็ยากมากที่จะจับคู่แม่ทัพหญิงผู้เลอโฉมสวยในชุดเกราะสีเงินและเสื้อคลุมสีแดง กับฉายาที่ร่ำลือกันว่าเป็นเสือโคร่งฝ่าบาทเองก็ตกใจเช่นกัน: “ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ทัพของใคร”หลี่หลงหลินยกยิ้มเล็กน้อย: “เสด็จพ่อนางก็คือซูเฟิ่งหลิงคู่หมั้นของกระหม่อมพะยะค่ะ!"ฝ่าบาทแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างไม่สามารถเก็บซ่อนได้: “ซูเฟิ่งหลิงหรือ? หรือนี่คือหมากที่เจ้าวางไว้? เจ้าคาดเดาไว้นานแล้วว่าเจ้าหกจะก่อกบฏหรือ? ”หลี่หลงหลินพูดอย่างถ่อมตัว: “เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ”“บังเอิญ...”ฝ่าบาทเหลือบมองหลี่หลงหลินอย่าง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 19

    ดวงตาของหลี่เซวียนแดงก่ำ เขาจ้องหลี่หลงหลินอย่างดุเดือด เกลียดชังจนถึงแก่นกระดูกเขาคิดคำนวณทุกอย่างไว้อย่างถี่ถ้วนแล้วเว้นเพียงเจ้าเก้าที่ไร้ประโยชน์คนนี้เท่านั้น!“ยุทธ์จับโจรเอาหัวโจก!”“แม่ทัพซุน!” “เจ้าไปฆ่าซูเฟิ่งหลิง เพื่อเป็นขวัญกําลังใจให้กับกองทัพของเรา!” หลี่เซวียนสูดลมหายใจลึก ควบคุมจิตใจให้สงบนิ่ง และออกคําสั่งกับซุนกวางเสี้ยวซุนกวางเสี้ยวเป็นแม่ทัพที่ดุร้ายคนแรกภายใต้การบังคับบัญชาของเขา!ทหารที่เหลืออยู่พันนายของตระกูลซู เดิมคือจะหนีกลับจากดินแดนทางเหนือ ขวัญกําลังใจทหารของพวกเขาต่ำมาก เมื่อซูเฟิ่งหลิงแม่ทัพรบจนตัวตาย งั้นขวัญกำลังใจทหารของทหารที่เหลืออยู่ของตระกูลซูคงพังทลายลงอย่างแน่นอน พ่ายแพ้โดยที่ยังไม่ได้ต่อสู้! ดวงตาของซุนกวางเสี้ยวฉายแววตาดูถูกเหยียดหยาม เขาเอ่ยเยาะเย้ย: “ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ว่านางจะชื่อเสียงโด่งดังสักเพียงใด จะมีความสามารถสักแค่ไหนเชียว? ขวานใหญ่ของรองแม่ทัพ หิวโหยมานานแล้ว! ไม่จําเป็นต้องร่วมมือกัน ก็ตัดหัวนางลงจากหลังม้าได้อย่างแน่นอน! ” เมื่อหลี่เซวียนเห็นว่าซุนกวางเสี้ยวมั่นอกมั่นใจมากเช่นนี้ เขาเพียงพยักหน้าและพูดว่า “ไ

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1296

    ณ จวนอ๋องตงไห่ นกพิราบสื่อสารตัวหนึ่งกางปีกบินมา เกาะลงบนบ่าของซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าสงสัยเคลือบแคลง: “ยามนี้มิมีการศึก เหตุใดจึงมีนกพิราบส่งสาส์นมา?” นางปลดกระบอกสาส์นจากขานกพิราบด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็พลันตกใจจนหน้าซีดเผือด “อะไรนะ!” ลั่วอวี้จู๋ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” ซูเฟิ่งหลิงยื่นสาส์นให้ลั่วอวี้จู๋ เอ่ยว่า: “พี่สะใภ้ เป็นสาส์นจากหนิงชิงโหวที่เมืองหลวง ในสาส์นเอ่ยว่า บัดนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตตามคำขอขององค์รัชทายาทแล้ว มีพระบัญชาให้ผู้อพยพนับแสนคนเดินทางมายังตงไห่ทันที” ลั่วอวี้จู๋อ่านสาส์นจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “องค์รัชทายาทเหตุใดจึงทรงทำตามอำเภอใจเช่นนี้? บัดนี้ราษฎรตงไห่เพิ่งจะพอมีพอกินประทังชีวิต องค์รัชทายาทกลับทูลขอผู้อพยพจากฝ่าบาทอีกนับแสนคน? ยังมิต้องพูดถึงว่าผู้อพยพเหล่านี้ต้องบุกป่าฝ่าดงข้ามน้ำข้ามเขามายังตงไห่ หนทางยาวไกล เมื่อมาถึงตงไห่แล้ว พวกเขาจะกินอะไร ดื่มอะไร?” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “พี่สะใภ้ ตอนนี้พวกเราไปหาองค์รัชทายาทที่ห้องหนังสือกันเถิด ดูว่าพระองค์ทรงมีแผนการเช่นไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1295

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยมีเสียงด่าทอดังกึกก้องสะท้านโสต! เหล่าขุนนางส่งเสียงอื้ออึง “อะไรนะ?” “เหตุใดผู้อพยพพวกนี้จึงยินยอมไปตงไห่?” “พระราชโองการยังมาไม่ถึงมิใช่หรือ?” เหล่าขุนนางมองหน้ากันเลิ่กลั่ก งุนงงสงสัยยิ่งนัก “พระราชโองการมาถึงแล้ว!” เสียงกังวานดังก้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย เหล่าผู้อพยพต่างมีสีหน้าตกตะลึงงัน “พระราชโองการ!” “ฝ่าบาททรงระลึกถึงพวกเราแล้ว รีบคุกเข่าลงเร็ว!” “...” ผู้อพยพนับแสนต่างค้อมกายลงคุกเข่า หมอบกราบถวายความเคารพอย่างสูง เว่ยซวินถือพระราชโองการ เดินผ่านเหล่าขุนนางไป มิได้สนใจแม้แต่น้อย มุ่งตรงไปยังค่ายผู้ลี้ภัย คลี่พระราชโองการออกช้า ๆ: “สนองโองการสวรรค์ ฝ่าบาทมีราชโองการดังนี้ ปัจจุบันผู้อพยพในเมืองหลวงอดอยากปากแห้ง มีผู้คนล้มตายเพราะความอดอยากเกลื่อนกลาด เป็นความทุกข์ร้อนในใจของข้า บัดนี้ตงไห่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สามารถแก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนของราษฎรได้ จึงมีบัญชาให้ผู้อพยพทั้งหนึ่งแสนคนในเมืองหลวง เดินทางไปยังตงไห่พร้อมกัน ชักช้ามิได้แม้เพียงครู่ยาม ห้ามผู้ใดขัดขวางโดยเด็ดขาด!” “จงปฏิบัติตามนี้!” สายตาของเว่ยซวินจับจ้องไปยังเหล่าเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1294

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แต่ละคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ต่างมองตาละห้อยมายังหนิงชิงโหว เสียงเด็กร้องไห้งอแงดังแว่วอยู่ข้างหู สภาพแวดล้อมในค่ายผู้ลี้ภัยยามนี้เลวร้ายอย่างยิ่ง ไม่มีขุนนางผู้ใดยินดีเข้ามารับผิดชอบ น้ำเน่าไหลนองไปทั่ว อากาศค่อย ๆ อุ่นขึ้น เริ่มมีแมลงวันแมลงหวี่แพร่พันธุ์ หนิงชิงโหวสูดลมหายใจลึก เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้เบื้องหน้าพวกท่านมีเพียงหนทางรอดเดียว ฉวยโอกาสที่อากาศยังมิได้ร้อนอบอ้าว รีบเดินทางไปยังตงไห่เพื่อพึ่งพิงองค์รัชทายาททันที เมื่อถึงตงไห่ องค์รัชทายาทย่อมไม่ทรงทำให้พวกท่านลำบากเป็นแน่ มิเช่นนั้นหากยังคงอยู่ในเมืองหลวงต่อไป ก็มีแต่ทางตายสถานเดียว!” หนิงชิงโหวสีหน้าเคร่งขรึม ผู้อพยพเบื้องหน้ามืดฟ้ามัวดิน มองไปสุดลูกหูลูกตา มิอาจเห็นจุดสิ้นสุดได้เลย นี่จะต้องมีผู้อพยพมากมายเพียงใดกัน และมีครอบครัวที่เคยสมบูรณ์พูนสุขสักกี่ครอบครัวกันเล่า? เพียงเพราะภัยสงคราม จึงต้องตกอยู่ในสภาพพลัดพรากไร้ที่อยู่อาศัย หนิงชิงโหวตวาดเสียงดัง: “ผู้ใดเชื่อมั่นในองค์รัชทายาท ผู้นั้นรอด! ผู้ใดกังขาในองค์รัชทายาท ผู้นั้นตาย!” แม้สุ้มเสียงของหนิงชิงโหวจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1293

    หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตผู้นี้ดึงดูดความสงสัยใคร่รู้ของเหล่าผู้อพยพได้ในที่สุด พวกเขาต่างพากันเดินเข้ามาหา ในไม่ช้า รอบกายของหนิงชิงโหวก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมายมหาศาลในสายตาของผู้อพยพ หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตปรากฏตัวที่นี่ ย่อมต้องเป็นผู้รับคำสั่งราชสำนักมาแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยเป็นแน่ เหล่าผู้อพยพต่างหยิบชามกระเบื้องในมือขึ้นมา วิงวอนขอเสบียงอาหารจากหนิงชิงโหว ทันใดนั้น หนิงชิงโหวกลับรู้สึกว่าตนเองช่างต่ำต้อยถึงเพียงนี้ แม้นได้อ่านตำราปราชญ์จนเจนจบ แต่ก็มิอาจหาหนทางแก้ไขปัญหาในความเป็นจริงจากในตำราเหล่านั้นได้ บัดนี้ราษฎรผู้ทุกข์ยากอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับจนปัญญา ไร้ความสามารถจะช่วยเหลือ จำนวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์เริ่มจะวุ่นวาย กระทั่งมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยเริ่มดึงทึ้งชายเสื้อของหนิงชิงโหว แต่หนิงชิงโหวก็มิได้หวั่นไหว ในแววตาของเขามีเพียงราษฎรผู้ทุกข์ยากเหล่านี้ นี่คือเขตเมืองหลวง ใต้พระบาทโอรสสวรรค์แท้ ๆ ในต้าเซี่ยอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ยังมีราษฎรเช่นนี้อีกเท่าใดกัน เขาเองก็ยากจะจินตนาการได้ พลันเกิดเพลิงแห่งความมุ่งมั่นลุกโชนขึ้นในใจของหนิงชิง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1292

    “ให้ผู้อพยพหนึ่งแสนคนไปตงไห่รึ?” เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างยิ่ง เจ้ากรมคลังเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “เว่ยกงกง สถานการณ์ที่ตงไห่ในยามนี้ หรือฝ่าบาทจะยังไม่ทรงทราบ? ราษฎรที่ตงไห่ต่างร้องทุกข์กันระงม หากส่งผู้อพยพหนึ่งแสนคนนี้ไปยังตงไห่ แล้วจะต่างอันใดกับการผลักไสพวกเขาให้ลงไปในหลุมไฟเล่า?” “ยิ่งไปกว่านั้น จลาจลของราษฎรที่ตงไห่ยังมิได้สงบลง หากส่งผู้อพยพอีกหนึ่งแสนคนนี้ไปอีก มิใช่เป็นการส่งเสริมให้คนชั่วเหิมเกริม เป็นการขุดหลุมฝังตนเองหรอกหรือ?” เหล่าขุนนางในราชสำนักล้วนตื่นตระหนก หรือว่าฝ่าบาทจะทรงเลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ? การจัดการกับผู้อพยพเช่นนี้ถือเป็นหนทางที่เลวร้ายที่สุด มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในราชสำนักยิ่งปั่นป่วนวุ่นวาย เจ้ากรมกลาโหมก้าวออกมายืนขวางหน้าเว่ยซวิน: “เว่ยกงกง หากในใจข้ายังพอมีมโนธรรมหลงเหลืออยู่ ยังคงห่วงใยทุกข์สุขของราษฎร และยังถือว่าพอจะมีกึ๋นอยู่บ้าง ข้าย่อมไม่ไปประกาศพระราชโองการเช่นนี้ของฝ่าบาทเป็นแน่!” ทันใดนั้น เพลิงโทสะในใจของเว่ยซวินก็ลุกโชนขึ้น ในฐานะขันทีในวัง สิ่งที่ชิงชังที่สุดคือการถูกผู้อื่นขุดคุ้ยปมด้อยของตน!

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1291

    มวลชนต่างเงียบงันไร้คำพูด เหล่าขุนนางทั้งร้อยต่างยึดถือความคิดที่ว่าธุระไม่ใช่ แขวนไว้สูงเสีย แม้นในเมืองหลวงจะมีผู้อพยพนับล้าน แล้วจะเกี่ยวข้องอันใดกับเหล่าเจ้ากรมผู้หลักผู้ใหญ่ในราชสำนักเช่นพวกเราเล่า? เงียบสงัด ณ ลานหยกขาว แม้นมีเข็มเล่มหนึ่งตกสู่พื้นยังได้ยินเสียง เจ้ากรมคลังเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ: “หรือว่าพวกท่านคิดจะนิ่งเงียบกันต่อไปเช่นนี้? คิดว่าเรื่องของผู้อพยพไม่เกี่ยวข้องอันใดกับขุนนางในราชสำนัก แต่บัดนี้หากยังคงปล่อยปละละเลยต่อไป เมืองหลวงก็จะถึงกาลวิบัติในไม่ช้า ถึงเวลานั้นฝ่าบาทคงไม่ทรงเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกท่านเป็นแน่” “ผลพลับย่อมเลือกผลนิ่มมาบีบ สุกรปีใหม่ย่อมเลือกตัวอ้วนมาเชือด ถึงเวลานั้น... หึหึ!” เจ้ากรมคลังกวาดตามองเหล่าขุนนางด้วยแววตาพิจารณาอย่างสนใจ เพียงชั่วพริบตา เหล่าขุนนางพลันส่งเสียงอื้ออึงด้วยความแตกตื่น หากสถานการณ์ดำเนินไปถึงขั้นที่เมืองหลวงเกิดจลาจลขึ้นจริง ๆ ฮ่องเต้หวู่ย่อมต้องดำเนินการสะสางกับเหล่าขุนนางเป็นแน่ ถึงเวลานั้น ทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนยากจะรอดพ้นจากความผิดไปได้! เหล่าขุนนางพลันตื่นตระหนกเสียขวัญ “บั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1290

    ฮ่องเต้หวู่ตบมือชื่นชม ตรัสว่า “คิดไม่ถึงว่าเจ้าเก้าจะมีความคิดยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ สามารถนำเกลือหมางเซียวของธรรมดาๆ เช่นนี้มาทำน้ำแข็งได้ ต่อไปภายหน้าน้ำแข็งก็จะลดต้นทุนลงได้ เข้าถึงบ้านเรือนของราษฎร ให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์”เว่ยซวินแย้มยิ้ม “ฝ่าบาท ยามนี้ทุกครัวเรือนของราษฎรตงไห่ต่างมีปลาที่จับได้กองเป็นภูเขา อากาศก็ค่อยๆ ร้อนขึ้น การจัดเก็บปลาเหล่านี้จึงเป็นปัญหาใหญ่อย่างแท้จริง ยามนี้เมื่อมีวิธีทำน้ำแข็งนี้แล้ว ราษฎรก็จะสามารถเก็บปลาเหล่านี้ไว้ได้นานขึ้นอีกหลายวัน ปัญหาทุพภิกขภัยก็จะคลี่คลายได้ นับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า “สหายพูดมีเหตุผล ข้ารู้อยู่แล้ว พ่อเสือย่อมไม่ให้กำเนิดลูกสุนัข! เจ้าเก้าไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวเป็นอันขาด หากข้าไม่ได้ทำความเข้าใจให้ชัดเจน ข้าเกรงว่าคงจะเข้าใจเขาผิดไปแล้ว!”“ไม่เลว ไม่เลว! การกระทำของเจ้าเก้าครานี้ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าพอใจมาก ส่งคำสั่งลงไป ข้าจะปูนบำเหน็จรางวัลใหญ่ให้องค์รัชทายาท!”เว่ยซวินพยักหน้า ทูลว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมจะไปถ่ายทอดคำสั่งเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาหลินพลันลุกขึ้นยืน ราวกับทรงนึกเรื่องใดขึ้นมาได้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1289

    แต่เมื่อครั้งหลี่หลงหลินเพิ่งไปถึงตงไห่ ก็สร้างผลงานใหญ่โต ทำให้ชาวประมงจับปลาได้มากมาย ทำให้ฮ่องเต้หวู่ทรงสงสัยยิ่งนักเว่ยซวินส่ายหน้า “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้เกรงว่าคงต้องให้ฝ่าบาททรงไปพบและสอบถามองค์รัชทายาทด้วยพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม “คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กคนนี้จะสร้างเรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ที่ตงไห่ โดยที่ข้าไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย”แววตาของฮ่องเต้หวู่จับจ้องไปยังชามที่ใส่น้ำแกงปลา พึมพำว่า “พูดไปก็น่าแปลก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะข้าคิดไปเองหรือไม่ แต่รู้สึกอยู่เสมอว่าน้ำแกงปลานี้ขาดรสชาติบางอย่างไป”ฮองเฮาหลินตกใจอย่างมาก “ฝ่าบาท เป็นเพราะฝีมือของหม่อมฉันไม่ดี ทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัยหรือเพคะ?”เว่ยซวินเองก็ตกใจ น้ำแกงปลานี้เป็นปลาหวงฮื้อใหญ่ชั้นดีที่หลี่หลงหลินส่งมาด้วยตนเอง หากฝ่าบาททรงติเรื่องน้ำแกงปลา ก็ไม่เท่ากับว่ากำลังติหลี่หลงหลินหรอกหรือ? หรือว่าเป็นเพราะประโยคที่ข้าพูดไปเมื่อครู่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัย?ฮ่องเต้หวู่ส่ายหน้าตัดว่า “ปกติข้าชอบกินปลาที่สุด แต่เนื้อปลาทั้งหมดที่เคยกินมามักจะมีกลิ่นคาวท

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1288

    ความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมด้วยความพอใจอย่างยิ่ง “เจ้าเก้านี่มักจะทำให้ข้าประหลาดใจได้เสมอจริงๆ”ฮ่องเต้หวู่ทรงยกน้ำแกงปลาเบื้องหน้าขึ้น ค่อยๆ ลิ้มรสความหวานละมุน รสชาติยังคงติดตรึง ยิ่งกว่าความอร่อยที่รับรู้ทางรสสัมผัสคือความรู้สึกอิ่มเอมในพระทัยเมื่อเห็นฝ่าบาททรงพอพระทัยยิ่งนัก ฮองเฮาหลินจึงรีบทูลว่า “ฝ่าบาท หากฝ่าบาททรงโปรด หม่อมฉันสามารถทำน้ำแกงปลาถวายฝ่าบาทได้ทุกวัน เพื่อบำรุงพระวรกายของฝ่าบาทเพคะ ยิ่งไปกว่านั้น แม้พระโอรสจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ นี่ก็เป็นความกตัญญูของเขาเพคะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงดื่มน้ำแกงปลาในชามจนหมดสิ้น ก็รู้สึกสบายพระวรกาย “ข้าไม่เคยได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่สดอร่อยถึงเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าที่ตงไห่จะมีปลาพันธุ์ดีรสเลิศเช่นนี้อยู่ด้วย วันนี้ข้าถือว่าได้อิ่มหนำสำราญแล้ว!”เมื่อเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงสำราญพระทัย ก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในใจของฮองเฮาหลินก็คลายลง นางกลัวว่าฮ่องเต้หวู่จะทรงลงพระอาญาแก่หลี่หลงหลิน ในความเห็นของฮองเฮาหลินแล้ว น้ำแกงปลาชามนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับชะตากรรมของหลี่หลงหลินทีเดียวฮ่องเต้หวู่มองไปที่เว่ยซวินอย่างสนพระทัยยิ่ง ตรัสว่า “สหาย เล่าให้ข้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status