จางไป่เจิงได้ยิน ก็ขมวดคิ้วแน่นทันทีเจรจา?ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือมาถามหาเอาความกระมัง!ทันใดนั้นสีหน้าของเขาไม่สบอารมณ์สุดขีดเขากลับไม่กลัวชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเพียงแต่หลี่หลงหลินขุดศพในสุสาน เรื่องนี้ต่ำช้าเกินไปหากชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปจนถึงเมืองหลวง ฝ่าบาทจะคิดเช่นไร เหล่าขุนนางจะคิดเช่นไร?รัชทายาทต้าเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่ขุดศพอย่างต่ำช้าต้าเซี่ยจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ใด?“เฮ้อ...”จางไป่เจิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ลงท้ายข้ายังต้องตามเช็ดก้นให้รัชทายาทสินะ!”เรื่องมาถึงขั้นนี้ จางไป่เจิงเองก็อับจนหนทาง เดินมาถึงกระโจมใหญ่แห่งหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พบทูตของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือท่านนี้ยโสโอหัง สีหน้าเย่อหยิ่ง เห็นจางไป่เจิงเดินเข้ามา ทันใดนั้นยิ้มเย็นพูดว่า “แม่ทัพจาง พวกเราเองก็เป็นคนคุ้นเคยกัน ได้พบหน้ากันในสนามรบหลายครั้ง ข้าไม่ขอพูดไร้สาระแล้ว!”“รัชทายาทของพวกเจ้าทำอันใด เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ!”“วันนี้เจ้าจะต้องมอบคำอธิบายให้พวกเราชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนืออย่างหนึ่ง!”สีหน้าจางไป่เจิงไม่สบอารมณ์ ลอบร้อง
หลี่หลงหลินเดินเข้ามา ดึงซูเฟิ่งหลิงไปข้างหลัง สบมองจางไป่เจิง “มีเรื่องใดก็มาหาข้า! รังแกสตรี ใช้ได้ที่ไหนกัน!”จางไป่เจิงชี้ทางศพกองเท่าภูเขาของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ถามไล่เรียงว่า “องค์ชาย ตกลงท่านทำอันใด?”หลี่หลงหลินผายมือ “อย่างที่เจ้าเห็น ขุดศพอย่างไรเล่า!”จางไป่เจิงโมโหจนหัวเราะออกมา “ขุดศพ? องค์ชาย ปกติท่านทำตัวเหลวไหลไร้สาระในเมืองหลวงก็ช่างเถอะ! แต่ที่นี่คือดินแดนทางเหนือ พวกเรามาออกรบ ไม่ใช่เล่นสนุก!”หลี่หลงหลินยิ้มเย็นแล้วพูดว่า “เล่นสนุก? แม่ทัพจาง เจ้าดูเหมือนไม่พอใจข้ามาก! เจ้าพูดว่าข้ากำลังเล่นสนุก แม่ทัพจางอย่าได้ลืมเล่า ใครเป็นคนรักษาเมืองซั่วเป่ยแห่งนี้เอาไว้ได้!”จางไป่เจิงพูดไม่ออกในทันใดทุกคนบนโลกล้วนคิดว่าเขาจางไป่เจิงรักษาเมืองซั่วเป่ย ต่อต้านชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ทำให้ต้าเซี่ยสงบสุขทว่าจางไป่เจิงกลับรู้ดีอยู่ภายในใจผู้ที่รักษาเมืองซั่วเป่ยเอาไว้ได้ แท้จริงแล้วไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นรัชทายาทการกระทำเหลวไหลไร้สาระตรงหน้าท่านนี้เมืองซั่วเป่ยตกอยู่ในสถานการณ์คับขันถึงสองครั้ง เกือบจะเสียเมืองไปครั้งแรกหิมะตกหนัก อากาศหนาวเหน็บเป็นหลี่หลงหล
เช้าตรู่จางไป่เจิงนั่งอยู่ภายในค่ายเพียงลำพัง ใบหน้าเปี่ยมกังวล รินเองดื่มเองยิ่งสุราไหลลงกระเพาะก็ยิ่งโศกเศร้ามากเท่านั้น!โจมตีเมืองซั่วเป่ยได้ยากยิ่ง!ช่วยเหลือภรรยาและลูกที่ถูกลักพาตัวไปกลับยากเทียมฟ้าทว่าทำให้จางไป่เจิงเป็นกังวลที่สุดกลับเป็นพวกเพี้ยนซูเฟิ่งหลิงและหลี่หลงหลินคู่นี้เขาได้รับข่าวว่าเมื่อคืนทั้งสองคนพาทหารห้าร้อยนายฉวยโอกาสยามวิกาลออกจากค่าย ก็ไม่รู้ไปทำอันใด จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมา“เฮ้อ...”จางไป่เจิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ยกจอกเหล้าดื่มรวดเดียวจนหมด “ฝ่าบาทตรากตรำต่อสู้มาครึ่งชีวิต ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือน ถึงขั้นให้รัชทายาทมาเป็นผู้ตรวจการกองทัพที่แนวหน้า สร้างความวุ่นวายให้ข้า!”“ไม่ได้การ...”“รอพวกเขากลับมาแล้ว ข้าจะต้องสั่งสอนแรงๆ สักที!”“ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องไล่พวกเขากลับไป!”“ที่นี่อันตรายเกินไป ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเขาสมควรอยู่!”หลี่หลงหลินเป็นรัชทายาท โอรสสวรรค์ของต้าเซี่ยซูเฟิ่งหลิงเป็นเลือดเนื้อที่ยังเหลืออยู่ของสกุลซูหากเกิดอันใดขึ้นกับสองคนนี้ จางไป่เจิงรับผิดชอบไม่ไหวยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองคนยังเหลวไหลไร้สาระเกินไป...ชั่วขณะนี้เอง อง
“ขุด!”ซูเฟิ่งหลิงออกคำสั่งแม้ว่าเหล่าทหารมีความสงสัยภายในใจ แต่คำสั่งทหารสำคัญดุจขุนเขา ไม่อาจขัดคำสั่งได้พวกเขาฉวยโอกาสตอนดาวอ่อนแสง เหวี่ยงจอบในมือ ขุดศพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือออกมา โยนลงบนรถม้า ส่งกลับเข้าค่ายใหญ่ทหารรักษาการณ์ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือบนเมืองซั่วเป่ย ในที่สุดก็พบการเคลื่อนไหวในสุสานร้าง รีบไปแจ้งเซียวหง“อะไรนะ?”หลังเซียวหงได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไป ไม่กล้าเชื่อหูของตน “เจ้าพูดว่าเมื่อคืนรัชทายาทต้าเซี่ยพาคนมาขโมยศพในสุสานร้าง?”“ไป!”“ตามข้าไปดูให้เห็นเองกับตา!”เซียวหงพาแม่ทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทั้งหมดมาบนกำแพงเมือง ทอดสายตามองไป ปรากฎว่ามองเห็นคนต้าเซี่ยกลุ่มหนึ่งกำลังทำลับๆ ล่อๆ ที่สุสานร้าง ขุดศพออกมาแล้วใส่ในรถม้าผู้เป็นหัวหน้า ก็คือแม่ทัพหญิงผู้สง่างามซูเฟิ่งหลิง ยังมีรัชทายาทต้าเซี่ยผู้น่าเกรงขามหลี่หลงหลิน“สารเลว!”ทันใดนั้นดวงตาเซียวหงแดงก่ำ สบถด่าออกไป “หลี่หลงหลิน เจ้าไม่ใช่คน! แม้แต่รัชทายาทต้าเซี่ยก็ทำเรื่องต่ำต้อยอย่างขโมยศพพรรค์นี้ได้ นี่ก็คิดออกมาได้! ยิงธนู! รีบยิงธนูให้ข้า ยิงหลี่หลงหลินให้ตาย!”เหล่าทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือแ
ซูเฟิ่งหลิงมองเงาหลังเปี่ยมโทสะของจางไป่เจิง เผยสีหน้าลังเลใจ “องค์ชาย พวกเราไม่ได้ทำเกินไปใช่หรือไม่ อย่างไรเสียภรรยาและลูกของแม่ทัพจางก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนะเพคะ”“ท่านคุยโวโอ้อวดว่าภายในเจ็ดวันจะโจมตีเมืองซั่วเป่ยโดยไม่เปลืองกำลังทหาร อีกทั้งยังพาคนที่ถูกลักพาตัวไปทั้งหมดกลับมาอย่างปลอดภัย”“ปรากฎว่าร้องเพลงดื่มกินเล่นสนุกทุกค่ำคืน”“แม่ทัพจางย่อมยากจะไม่สบอารมณ์...”หลี่หลงหลินยิ้มหยัน สายตาตกลงบนใบหน้าซูเฟิ่งหลิง “สนมรัก คงไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็ไม่เชื่อข้าหรอกนะ?”ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้ เพียงแต่ ตกลงท่านจะโจมตีเมืองซั่วเป่ยอย่างไร ข้าคิดไม่ออกจริงๆ เมืองซั่วเป่ยนี้แข็งแกร่งดุจทอง หากฝืนโจมตีแล้วล่ะก็ จะต้องมีคนตายมากมาย”หลี่หลงหลินถอนหายใจ “ใครพูดว่าข้าจะโจมตีเมืองซั่วเป่ยกันเล่า?”แม่ทัพย่อมโจมตีด้วยกลยุทธ์ รองลงมาคือโจมตีด้วยวาจา รองลงไปอีกคือใช้กำลังทหาร และต่ำที่สุดคือการโจมตีเมืองภายในตำราพิชัยยุทธ์ โจมตีเมืองเป็นกลยุทธ์ต่ำที่สุดหากไม่ถึงขั้นอับจนหนทาง หลี่หลงหลินไม่มีวันโจมตีคูเมืองซูเฟิ่งหลิงแปลกใจ “ไม่โจมตีเมือง?
ทุกคนในที่นั้นล้วนเผยสีหน้าตกตะลึงจางไป่เจิงพลังญาณตื้นเขิน?ล้อเล่นอะไรกัน!ตอนนี้จางไป่เจิงเป็นนักรบผู้ทรงพลังที่สุดในกองทัพ ต่อสู้อย่างตรากตรำมาครึ่งชีวิต ออกศึกนับครั้งไม่ถ้วน!เขาถึงขั้นถูกหลี่หลงหลินพูดว่าพลังญาณตื้นเขิน?แม้แต่ซูเฟิ่งหลิงเองก็ตกตะลึงพรึงเพริดสีหน้าจางไป่เจิงเปี่ยมโทสะเขาเพิ่งพ่ายแพ้ บัดนี้หลี่หลงหลินยังวางตัวโอ้อวดต่อหน้าตน!ใครยังจะทนไหวกันเล่า!หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “หากเจ้าไม่เชื่อแล้วล่ะก็ พวกเรามาเดิมพันกันสักตั้ง”จางไป่เจิงพยักหน้าพูดว่า “ข้าน้อยเองก็กำลังคิดเช่นนี้!”หลี่หลงหลินพูดว่า “นับตั้งแต่วันนี้ไป ภายในสิบวัน ไม่ว่าข้าทำอันใดในกองทัพ เจ้าก็ห้ามเอ่ยถาม ข้าอยากทำอันใดก็ทำอันนั้น!”จางไป่เจิงพูดเสียงคร่งขรึม “เช่นนั้นหากผ่านไปสิบวัน ไม่สามารถยึดเมืองซั่วเป่ยกลับมาได้เล่า?”หลี่หลงหลินหัวเราะ “หากไม่สามารถยึดเมืองซั่วเป่ยกลับมาได้ ข้าย่อมกลับจวน ไม่มีวันสร้างปัญหาให้แม่ทัพจางในสนามรบอีก!”จางไป่เจิงรับคำ “คำใดคำนั้น!”เขากระจ่างอยู่ภายในใจ ต่อให้หลี่หลงหลินทำเรื่องเหลวไหลไร้สาระในกองทัพสิบวันแล้วอย่างไรเล่า?ขอเพียงหลี่หลงหลิ