เพียงพูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ดันแท่งร้อนที่ปวดหนึบมานานแล้ว เข้าไปทีละนิด อันหลินกรีดร้องออกมา เพราะความคับแน่นที่เขามอบให้ ไม่นานเขาก็นิ่งไป เพราะเพียงเข้าได้แค่ส่วนหัว ก็ทำให้ความเสียวนั้น เกือบทำให้เขาไปไม่รอดเช่นกัน
"ให้ตายเถอะ ไม่เคยคิดว่ามันจะถึงขั้นนี้"
“ฮึก! ข้าเจ็บ มันแน่นมาก อื้อ”
“อย่าดิ้นนะอันหลิน หากเจ้ายิ่งดิ้น มันจะยิ่งรัดข้าแน่นมากขึ้น และทำให้ทนไม่ไหว อาจจะทำให้เจ้าเจ็บได้”
“แต่ว่า อ๊าา!!”
นางถึงฝั่งไปอีกครั้ง เพียงแค่เขาดันหัวเข้าไปอีกนิดเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้ นางจะช่วยเขาที่กำลังทำตัวไม่ถูก ส่งมังกรยักษ์ที่เหลือเข้าไปด้านในจนสุดทางได้ เพียงเท่านั้นเขาก็เริ่มร้อนรุ่ม และเกือบจะเป็นลมไปเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าสตรีตรงหน้า จะทำให้เขาคลั่งเกือบตายเช่นนี้
“ไม่ได้แล้ว ให้ตายเถอะข้างในนี้ทั้งรัดทั้งแน่น อาา…”
“อ๊าา อวี้หยาง อ๊าา”
เสียงของนาง ราวกับปลุกสัญชาตญาณดิบของเขาให้ตื่นขึ้นเต็มที่ ไฟราคาและตัณหาทั้งหลาย ที่เคยมีเกิดขึ้นในใต้หล้า ยังหาคำเปรียบกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้ มันยิ่งกว่าเปลวเพลิงปรารถนาที่เร่าร้อนกว่าครั้งใด ๆ ที่เขาเคยเจอ
“อันตรายเกินไปแล้ว อาาา…”
เขาขยับเพียงไม่กี่ครั้ง ก็ส่งนางและตัวเองไปถึงฝั่งได้อีกครั้ง อันหลินแม้จะดูอ่อนแรง แต่กลับกอดเขาแน่น ราวกับว่าไม่อยากให้เรื่องในคืนนี้จบลงเพียงเท่านี้ แน่นอนว่าเขาเองก็เช่นกัน ใครมันจะไปยอมได้เล่า เพียงแต่สอดใส่ไม่กี่ครั้งก็จบเสียแล้ว เขาจะยอมได้เช่นไรกัน
“อันหลินของข้า เจ้าช่างงดงามยิ่งนัก น่าหลงใหลมากกว่าผู้ใด เจ้าจะทำให้ข้าเป็นบ้าตาย”
“อ๊ะ! ข้าควรทำอย่างไร”
“นอนเฉย ๆ ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”
“อื้อ…อ๊าา อ๊าาา”
เขายกเรียวขานางขึ้นมา และฝังจูบไปที่ข้อเท้าเล็กนั้นเบา ๆ ก่อนจะกระแทกเข้าไปอีกครั้ง จนนางกระดกบั้นท้ายลอยขึ้นมารับ เขายกบั้นท้ายกลมกลึงเข้ามา และจับโยกอย่างชำนาญ อันหลินจับผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น และครางเสียงหลง เมื่อเพลงรักที่เร่าร้อนและรุนแรง ปะทุขึ้นอีกครั้ง
“อ๊าา ร้อนมาก จะทนไม่ไหวแล้ว อ๊าา!!”
อันหลินราวกับล่องลอยอยู่บนนภา ที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆเบาบาง แต่ร่างกายนาง กลับร้อนดุจไฟแผดเผา ความต้องการที่ไม่จบสิ้นนี้ ทำให้นางไม่เข้าใจ แม้นว่าเหมือนจะทรมาน แต่นางก็ยังต้องการให้เขาทำไม่หยุด
“คนดีของข้า เจ้าคงเมื่อยแล้วสินะ”
เขาจับนางมากอดจากด้านหลังและค่อย ๆ จัดท่าให้นางคุกเข่าสี่ขา อันหลินเคยเห็นแต่เพียงนิยายเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าในความเป็นจริงนั้น จะมีการทำท่าทางเช่นสุนัขแบบนี้ด้วยจริง ๆ
“ฮึก!! อ๊าา ละ ลึกมากเลย สะ เสียว อ๊าา”
อวี้หยางเองก็เสียวจนเขาพูดไม่ออกเลยสักคำ ไม่คิดว่าสตรีตัวเล็กอย่างจ้าวอันหลิน จะสามารถรับมือความกระหายของเขา ได้นานถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะดูเหนื่อยล้า แต่ทุกท่วงท่าที่เขาเชิญชวน นางก็ตอบรับและเข้าร่วมอย่างเต็มใจ
“อื้อ…จูบข้าสิอวี้หยาง กระแทกเข้ามาอีก อ๊าา เช่นนั้นแหละ อ๊าา”
ในตอนนี้เอง เขาถึงเห็นว่านาง ตอบรับความต้องการเขา ได้เป็นอย่างดี เขาปรนเปรอนางจนหนำใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมจบง่าย ๆ
“มีท่าใดบ้าง ที่ข้าสามารถควบคุมท่านได้”
“นี่เจ้ายังอยากจะควบคุมข้า แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงหรือ”
“แน่นอนสิ บอกมาสิ ท่านสอนข้าได้นี่อวี้หยาง”
นางก้มลงจูบเพื่อยั่วยวนเขา อวี้หยางที่ห่างหายจากเรื่องเช่นนี้มานาน เขามีหรือจะไม่ตอบรับ
“อ๊ะ”
เขาจับร่างเปลือยของนางมานั่งคร่อมบนกายของเขา เมื่อเริ่มเอนตัวพิงที่หัวเตียงในท่าสบายเล็กน้อย ก็หันมาสบตานางอีกครั้ง อันหลินมอบจุมพิตให้เขาอีกครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณว่า นางพร้อมที่จะเรียนรู้แล้ว
“เคยขี่ม้าหรือไม่”
“ย่อมเคยแน่นอน แม้นว่าองค์หญิงเช่นข้าจะไม่เอาไหน แต่ข้าชอบขี่ม้ามากที่สุด”
“เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูสิ มันไม่ยากหรอก เพียงแค่…อาา อันหลินเจ้าเบาหน่อยอย่าบีบแรงนัก มัน…”
“ท่านรู้สึกหรือ ข้าเพียงอยากสัมผัสมันสักครั้ง”
“อาา…รอก่อนองค์หญิง เบา ๆ หน่อย อาา ค่อย ๆ ใส่เข้าไป”
“อ๊ะ อื้อ…อ๊าา เสียวมาก อ๊าา”
เขารู้ว่าฤทธิ์สุราที่นางดื่ม มีผลในการกระทำตอนนี้ หากนางไม่เมา คงไม่กล้าทำ แต่เขาไม่สนใจอีกแล้ว ตอนนี้ไฟปรารถนาที่กำลังโหมกระหน่ำ แทบจะทำให้สายฝนข้างนอก เบากว่าพายุข้างในเสียอีก
“อ๊าา อวี้หยาง มันดีมากเลย อ๊าา…”
เสียงที่นางร่อนเอวกระแทก กล้ามเนื้อที่สอดประสาน และสองเต้าคู่งามชวนมองตรงหน้า ก็พลันทำให้อวี้หยางอดไม่ได้ที่จะช่วยนางอีกครั้ง ลิ้นของเขากวาดกลืนยอดอกตูม สลับบีบเคล้นจนเกิดรอย ตอนนี้ทั่วร่างของนางมีแต่รอยแดงที่เขาพรมจูบไว้ทั่วกาย นางไม่สนใจเลยสักนิด และกำลังแอ่นกายให้เขาจัดการ หน้าอกอวบของนางอย่างเต็มใจ
“เอาอีก แรงอีก ช่วยข้าด้วยอวี้หยาง อ๊าา ใกล้แล้ว อีกแล้วว อ๊าา!!”
นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอย่างไร เรื่องเหล่านี้ไม่เคยมีคนสอน ก็ได้ปฏิบัติเลย
“จูบข้าทีอวี้หยาง ข้าจะตายอยู่แล้ว อ๊าา!!”
เขาไม่เพียงดึงนางเข้ามาจูบ เขาเริ่มจับสะโพกกลมตรงหน้า ขยับขึ้นลงประสานเด้งรับ จนอันหลินอ้าปากออกมา เพื่อระบายความเสียวพร้อมกรีดร้องเสียงหลง ราวกับกำลังท่องอยู่ในวิมานแห่งสวรรค์
“อ๊าาา ไม่ไหวแล้ว อ๊าาา….”
นางฟุบกายลงมาซบอกกว้าง หลังจากเกร็งตัวอยู่สักพักบนร่างของเขา อวี้หยางลูบไล้ไปทั่วเรือนผมที่เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาประปราย เขาหอมที่แก้มนางสุดลมหายใจ
“เก่งมาก”
“ยังมีท่าใดอีก ที่เรายังมิได้ทำ"
“ว่าอย่างไรนะ เจ้ายังอยากจะลองทำอีกหรือ”
“ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นพวกร้อนวิชา หากอยากรู้แล้ว ก็ต้องลองทุกอย่างสิ สอนข้าเถอะนะ”
“เจ้าแน่ใจหรือว่าไหว”
“มีท่านอยู่ด้วย มีหรือจะไม่ไหว”
“เช่นนั้นก็ได้”
อันหลินรู้แล้วว่า วิธีเอาชนะความกลัวในค่ำคืนฝนตก ควรทำเช่นไร ตอนนี้เสียงพายุด้านนอก เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกัน มิให้เสียงครางนางลอดออกไป เพราะนางครางดังมากจริง ๆ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกขอบคุณพายุฝนกระหน่ำเช่นนี้
“อ๊าา ท่านี้ยอดไปเลยอวี้หยาง สะ เสียวมาก อ๊าา”
เขาจับนางนอนตะแคง และยกขานางขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะสอดเข้าไปสุดทางและกระแทกถี่ ๆ มือหนาเอื้อมมาบีบเคล้นหน้าอกนุ่ม เพื่อกระตุ้นอารมณ์นาง จมูกคมซุกไปฝังจูบที่ซอกคอ เพื่อสูดกลิ่นหอมที่เขาไม่มีวันลืม
“อาา…. อันหลิน!!”
“เร็วขึ้นอีก อ๊าา จะไม่ไหวแล้ว อ๊าา”
เขาเองก็เช่นกัน คิดไม่ถึงเลยว่าค่ำคืนแรกกับจ้าวอันหลิน จะยาวนานกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ในตอนแรกคิดว่าเพียงรอบเดียว หรืออย่างมากก็สองรอบ องค์หญิงอย่างนาง ก็คงจะทนไม่ไหวและสลบคาเตียง แต่ใครจะคิด…
“ข้าเคยอ่านในนิยาย เห็นพวกเขาบอกว่าในอ่างอาบน้ำ...”
“พอได้แล้ว นี่ก็ดึกแล้ว เจ้าควรจะพักผ่อนไม่ควรหักโหม อีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรกของเจ้า เหตุใดจึงไม่กลัวเลยสักนิดเล่า”
เขาถามระหว่างที่ดึงนางเข้ามากอด ร่างบางเบียดกายเข้ามายั่วเขาอีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าสตรีตัวเล็กผู้นี้ จะรับมือยากกว่าที่คิด หากเขามิได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าเป็นคนแรกของนาง ก็คงคิดว่าจ้าวอันหลิน เป็นอย่างที่คนอื่น ๆ ร่ำลือกัน ตอนนี้นางหันมาจับใบหน้าของเขา และสบตาอีกครั้ง พร้อมกับจูบเน้นไปที่ริมฝีปากหนาตรงหน้า
“เพราะว่าเป็นท่าน ข้าจึงไม่รู้สึกกลัว และเพราะเป็นท่าน ข้าจึงรู้ว่าจะปลอดภัย ข้าเชื่อใจว่าท่านจะไม่โกหกข้า ใช่หรือไม่…อวี้หยาง”
“ก็ได้ ข้ารับปากท่าน”อวี้หยางกอดนางแนบแน่น ยากเหลือเกินที่จะทำใจคลายอ้อมกอดนี้ออกไป แต่ภารกิจที่เหลือ ยังต้องการเขาไปดำเนินการให้จบ ในเมื่อตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่ขั้นสุดท้ายเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็จะรีบจัดการเรื่องของแคว้นและ…จ้าวอันหลิน“ข้าไปนะ”“เดี๋ยวก่อน”อันหลินเดินไปที่โต๊ะ และหยิบบางอย่างออกมา มันเป็นถุงหอมที่นางแอบทำเอาไว้นานแล้ว เดิมทีก็คิดว่าจะเก็บเอาไว้เอง แต่นับตั้งแต่อวี้หยางเข้ามาในตำหนัก นางก็เริ่มหัดเย็บปักสิ่งนี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยชอบงานเหล่านี้เลย“นี่เป็นถุงหอมที่ข้าเย็บเอง ท่านเอาไปสิ”อวี้หยางมองถุงหอมที่ผูกพู่สีแดงอยู่ ในนั้นมีกลิ่นที่คุ้นจมูกของเขา ซึ่งเป็นกลิ่นที่นางมักจะใช้อยู่เป็นประจำ เขารับและดึงมาสูดกลิ่นทันที“สิ่งนี้จะเป็นตัวแทนเจ้า จะได้เหมือนมีเจ้าอยู่ข้างกายข้าตลอดเวลา ขอบใจมากนะอันหลิน”“ท่านชอบก็ดีแล้ว ข้าไม่ถนัดงานปักเย็บ ก็เลยทำได้เพียงแค่นี้ มิได้ปักอะไรเอาไว้”“ขอเพียงเป็นสิ่งที่เจ้าให้ อย่างไรก็มีค่าสำหรับข้าเสมอ”นางกอดเขาอีกครั้ง ไม่คิดมาก่อนเลยว่า เพียงแค่เขาบอกว่าจะกลับหอหรูเยว่เพียงไม่กี่วัน กลับทำให้นางรู้สึ
“เดี๋ยวก่อนสิ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน ท่านไปที่ไหนมากันแน่ แล้วจู่ ๆ ทำไมจึงมีเรื่องด่วนเข้ามาเล่า”“ข้าก็อยากจะบอกนะ แต่ว่าตอนนี้อย่าพึ่งพูดจะได้ไหม ซานหูกับเจาอินออกไปข้างนอก เรามีเวลาไม่นานเท่าใด หากอยากรู้ข้าจะบอก แต่คงต้องหลังจากนี้ก่อน”“อ๊ะ อวี้หยางคนผีทะเล…อื้อ เบาหน่อยสิมันยังช้ำอยู่เลย”“ข้าจะอ่อนโยน”“อื้อ…อ๊าา”เมื่อปลดชุดนางออกได้ เขาก็ไม่รอที่จะให้นางขัดขืน และเริ่มดึงชุดของตัวเองออกด้วยเช่นกัน เมื่อตอนเข้ามาเขาลงกลอนแน่นหนา แต่คิดว่าช่วงเวลานี้ คงไม่มีใครกล้ามายุ่งกับทั้งสองเป็นแน่“อ๊าา เบาหน่อยสิ ดูดเสียงดังไปแล้ว ท่านอดอยากมาจากไหน อ๊าา”นางต่อว่าเขา แต่ก็กอดศีรษะของเขาแน่น เมื่ออวี้หยางดูดดึงหน้าอกของนาง พร้อมกับใช้นิ้วสอดเข้ามากลางร่องศึก ที่พึ่งพักไปได้ไม่กี่ชั่วยาม“อ๊าา อวี้หยาง ช่วยด้วย!”เขารู้ว่านางอ่อนไหวมากขนาดไหน เพียงแค่ถูกเล้าโลมนิดหน่อยนางก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็เช่นกัน ช่วงเวลากลางวันที่เห็นเรือนร่างนางชัดเจนเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่งตาย“ฮึก! อึ๊ยย!!”"เจ็บอยู่หรือไม่"นางส่ายศีรษะเป็นคำตอบ เมื่อเช้านางแช่น้ำอุ่นเพื่อคลายกล้ามเนื้อไปแล้ว
อวี้หยางกอดนางแน่นกว่าเดิม เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ความรักจะทำให้มีความสุข จนเอ่อล้นออกมาเช่นนี้ เพียงแค่มีนางอยู่ในอ้อมกอด เขาก็ไม่ต้องการสิ่งใดไปมากกว่านี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ เขายังมีบางเรื่องที่ยังปิดบังนางอยู่ และมิอาจบอกตอนนี้ได้“อวี้หยาง ไม่ว่าท่านจะเป็นใครมาจากที่ใด ข้าก็หาได้สนใจไม่ ขอเพียงท่านอยู่ข้างกายข้าตลอดไป ได้หรือไม่”เพียงแค่นางเอ่ยขึ้น ก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันที เขามาที่นี่เพื่อต้องการให้นางพาเข้าวัง และจะได้สืบหาข่าวของกบฏเมืองชิงโจว บัดนี้เขากับจิ่นหลงก็ทำภารกิจเกือบสำเร็จแล้ว เหลือก็เพียงแต่ ถอนกำลังออกจากวังหลวงเสิ่นตู และจากไป….“คืนนี้ดึกมากแล้ว เจ้าก็เหนื่อยมาก นอนเถอะ ฝนหยุดตกแล้ว”“ท่านจะไม่ทิ้งข้าไป ใช่หรือไม่”“หากยังมีแรงพูดเช่นนี้ ข้าจะจูบเจ้าจนกว่าเจ้าจะยอมนอน”“คิดว่าข้ากลัวคำขู่นั้นของท่านหรือ”“องค์หญิงโลภเกินไปแล้ว”“เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะนอน”อันหลินหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน แต่คนที่กอดนางอยู่กับเริ่มครุ่นคิดบางอย่าง จนทำให้นอนไม่หลับ บัดนี้เขาได้ก้าวข้ามผ่านเส้นกั้นต้องห้ามที่ขีดเอาไว้เอง ซึ่งมีจ้าวอันหลินเป็นผู้ทำลายกำแพงหนาของเขา ลงไปจนหมดสิ้นเดิมทีคิด
เพียงพูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ดันแท่งร้อนที่ปวดหนึบมานานแล้ว เข้าไปทีละนิด อันหลินกรีดร้องออกมา เพราะความคับแน่นที่เขามอบให้ ไม่นานเขาก็นิ่งไป เพราะเพียงเข้าได้แค่ส่วนหัว ก็ทำให้ความเสียวนั้น เกือบทำให้เขาไปไม่รอดเช่นกัน"ให้ตายเถอะ ไม่เคยคิดว่ามันจะถึงขั้นนี้"“ฮึก! ข้าเจ็บ มันแน่นมาก อื้อ”“อย่าดิ้นนะอันหลิน หากเจ้ายิ่งดิ้น มันจะยิ่งรัดข้าแน่นมากขึ้น และทำให้ทนไม่ไหว อาจจะทำให้เจ้าเจ็บได้”“แต่ว่า อ๊าา!!”นางถึงฝั่งไปอีกครั้ง เพียงแค่เขาดันหัวเข้าไปอีกนิดเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้ นางจะช่วยเขาที่กำลังทำตัวไม่ถูก ส่งมังกรยักษ์ที่เหลือเข้าไปด้านในจนสุดทางได้ เพียงเท่านั้นเขาก็เริ่มร้อนรุ่ม และเกือบจะเป็นลมไปเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าสตรีตรงหน้า จะทำให้เขาคลั่งเกือบตายเช่นนี้“ไม่ได้แล้ว ให้ตายเถอะข้างในนี้ทั้งรัดทั้งแน่น อาา…”“อ๊าา อวี้หยาง อ๊าา”เสียงของนาง ราวกับปลุกสัญชาตญาณดิบของเขาให้ตื่นขึ้นเต็มที่ ไฟราคาและตัณหาทั้งหลาย ที่เคยมีเกิดขึ้นในใต้หล้า ยังหาคำเปรียบกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้ มันยิ่งกว่าเปลวเพลิงปรารถนาที่เร่าร้อนกว่าครั้งใด ๆ ที่เขาเคยเจอ“อันตรายเกินไปแล้ว อาาา…”เขาขยับเพียงไม่
อวี้หยางนั่งนิ่งไปทันที นี่นางกำลังจะบอกว่า “นางชอบเขา” งั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ เรียกชายหนุ่มมาดื่มจนเมาขนาดนี้ อีกอย่างที่เขาพึ่งจะรู้ นางรู้ตัวมาตลอด ว่าเขาแอบจูบนางในทุกค่ำคืนที่นอนร่วมเตียงกัน“นี่เจ้า… ชอบข้าหรือ”“อุ๊บ! ข้าเผลอพูดออกไปแล้ว เจ้าอย่าไปบอกเขาเชียวนะ เขาน่ะ.. ชอบขัดใจข้า เห็นคนอื่นดีกว่าข้า”“ใครบอก! ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ ที่ข้าทำทุกอย่าง ก็เพราะเป็นห่วงเจ้าทั้งนั้น”“จริงหรือ”“ข้าจะโกหกเจ้าไปทำไม อันหลินที่เจ้าพูดมาเมื่อครู่นี้…อันหลิน!”“ข้าอยาก…อาเจียน!”เขารีบอุ้มนางไปที่หน้าต่าง พลันลูบหลังเมื่อนางอาเจียนหลังจากที่ดื่มสุราเข้าไปมากกว่าสามไห คืนนี้ช่างวุ่นวายยิ่งนัก เขาเอื้อมมาหยิบน้ำให้นางบ้วนปากอยู่หลายครั้ง สุดท้ายดูเหมือนว่าองค์หญิงจะเริ่มสร่างเมาแล้ว“ขอบใจมาก… เจ้าเองหรือ เหตุใดไม่พักผ่อน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าไม่ต้องมาสนใจข้า”อวี้หยางดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด อันหลินเซถลาเข้ามาอย่างง่ายดายเพราะยังไม่สร่างเมา เมื่อถูกเขากอดเช่นนี้ หัวใจนางก็เริ่มเต้นแรงอีกครั้ง“อะ อวี้หยางเจ้าจะทำอะไร”“ในเมื่อท่านเองก็รู้แล้วว่าข้าจะทำอะไร เหตุใดยังต้องถามอีก”“เจ้า…”
ยิ่งนานวัน ทั้งคู่ก็เริ่มหวั่นไหว แม้แต่อันหลินเอง ก็รู้สึกหวงอวี้หยางเช่นกัน ดูได้จากการที่นางพาเขาออกไปนอกวัง และมีสตรีอื่นมองหน้าเขา นางก็มักจะชักสีหน้าไม่พอใจตอนนี้ในวังหลวง เริ่มซุบซิบเรื่องของที่ปรึกษาอวี้ขององค์หญิง แม้ว่าบางคน จะไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยก็ตาม แต่เพราะเขาอยู่ในตำหนัก นานกว่าหนึ่งเดือน เรื่องนี้จึงเป็นที่สนใจขึ้นมา“พวกปากยื่นปากยาว สนใจแต่เรื่องของตัวเองไปเถอะ ระวังว่าวันไหนข้าโมโหขึ้นมา แม้แต่สนมขั้นต้าอิ้ง พวกเจ้าก็จะมิได้เป็น”“องค์หญิง หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”“รู้ก็ดีแล้ว เช่นนั้นก็ตบปากตัวเองกันเสียเถอะ แล้วสายตาของเจ้า มองให้มันถูกที่ ก่อนที่ข้าจะสั่งควักลูกตาของเจ้าออกมา”“พะ เพคะองค์หญิง หม่อมฉันมิกล้าแล้วเพคะ”เหล่าพระสนม พากันตบปากตัวเองจนเสียงดังลั่น ไปทั่วอุทยานหลวง อวี้หยางลอบยิ้มออกมา นาน ๆ ครั้งที่เขาจะเห็นว่า อันหลินแสดงอำนาจและลงโทษคนหลังจากเรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น อิ่นซานถงก็ไม่กล้ามายุ่งกับนางอีกเลย ครั้งนี้ฝ่าบาทสั่งลดขั้นของนา งลงไปถึงสองขั้นในคราวเดียว เพียงเพราะนางกล้าล่วงเกินองค์หญิงอันหลิน นั่นก็แสดงว่า ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับองค์หญิงอันหลินม