"...ยังไงก็แล้วแต่ กูเชื่อว่าถ้ามึงไม่ยอมตัดใจจากคัพเค้ก ชีวิตมึงวุ่นวายแน่นอน"
"คนอย่างกู แค่แอบรักก็ผิดแล้วเหรอวะ?" ผมถามออกมาพร้อมกับยกยิ้มอย่างเย้ยหยัน ที่ผ่านมาแค่อยู่เฉยๆ ไม่เคยแสดงตัวว่าชอบเลยสักครั้งมันยังผิดอยู่อีกหรือไง "ก็คนมันมีเจ้าของแล้ว รอดูตัวมึงเองก่อน ถึงคิวมึงเมื่อไหร่มึงจะหวงไหมรอดูได้เลย" ไอ้ฉลามส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะหยัดตัวลุก สีหน้าบ่งบอกเหลือเกินว่าคนอย่างมันล่วงรู้เรื่องของอนาคตแม่งทุกเรื่อง ส่วนลีโอกับติณห์ที่ฟังอยู่ก็ยังปล่อยใจลอยๆ ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ออกมาอยู่ดี ผมเดินออกมาจากห้องของฉลามพร้อมกับยกโทรศัพท์เพื่อโทรออกหาคนบางคนที่กำลังนึกถึง รอสายไม่นานปลายทางก็กรอกเสียงตอบกลับมา ( องศาว่าไงลูก ) "ช่วงบ่ายมี๊พอจะมีเวลาว่างบ้างไหมครับ ผมมีเรื่องอยากคุยกับมี๊หน่อย" ( เรื่องอะไรเหรอลูก ไม่สะดวกเข้าบ้านเหรอ? ) "ไม่อยากให้แด๊ดดี้รู้เรื่องครับ กลัวไม่สบายใจ" ( เข้าใจแล้ว องศาอยากให้มี๊ออกไปเจอที่ไหน ) "ร้านประจำของเราดีไหมครับ จำได้ว่ามี๊ชอบชาร้านนั้นมากเลย" ( ได้เลย บ่ายโมงมี๊ออกไปนะ ) "ครับ" ผมตอบรับคนในสายก่อนจะละโทรศัพท์ออกจากหู มีหลายเรื่องที่อยากคุยกับคนเป็นแม่ อยากคุยกันแค่สองคน ไม่ต้องเป็นทางการมากนักแด๊ดดี้จึงไม่จำเป็นต้องมา GREEN CAFE "...หม่ามี๊หวัดดีครับ" "เอ๋ มี๊มาช้าหรือองศามาเร็วเอ่ย" เปี่ยมรักก้าวขาเข้ามาในร้านกาแฟและพุ่งตรงไปยังโต๊ะที่ลูกชายจองไว้ องศายังดูแลตัวเองเรื่องการแต่งกายดีเยี่ยม หนุ่มแฝดของแม่โตเป็นหนุ่มมาก จะเรียนจบอยู่ร่อมร่อไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวังเรื่องอะไรเลย "ผมผ่านมาพอดีครับเลยมารอก่อน เครื่องดื่มรับเหมือนเดิมไหมครับ" "เหมือนเดิมจ๊ะ" คนเป็นแม่หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ สายตามองตามหนุ่มแฝดที่เดินไปสั่งเครื่องดื่ม แอบเห็นว่าสาวๆ ในร้านมองตามด้วยความสนใจ "หล่อเหมือนพ่อตอนหนุ่มๆ ไม่แปลกเลยถ้าสาวจะเยอะ" คนเป็นแม่พึมพำยิ้มๆ ไม่นานเกินรอองศาก็เดินกลับมาที่เดิม "รอคิวนิดนึงนะครับ วันนี้ลูกค้าเยอะเลย" "ไม่มีปัญหา องศาอยากคุยอะไรกับมี๊เหรอลูก พูดได้เลยนะ" "เรื่องของขวัญ" เปี่ยมรักวางกระเป๋าบนโต๊ะก่อนจะพยักหน้ารับ "น้องขวัญเป็นอะไรหรือเปล่าลูก" "เมื่อคืนของขวัญบอกว่าฝันร้าย น้องดูกลัวและตกใจมาก ผมไม่แน่ใจว่าขวัญเป็นแบบนี้บ่อยแค่ไหน" "ตายจริง ของขวัญยังไม่เลิกฝันแบบนี้อีกเหรอ" เปี่ยมรักยกมือขึ้นทาบอก สีหน้าหลุดความกังวลออกมาอย่างชัดเจน "น้องบอกอะไรลูกบ้าง" "เขาบอกว่า...เขาเกือบไม่ได้กลับมา มันมีเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอครับมี๊ คนเราจะฝันถึงเรื่องแย่ๆ ได้ตลอดจริงๆ เหรอ" "ของขวัญดวงตก พระท่านว่าเจ้ากรรมนายเวรตามเจอ เขาพยายามจะเอาน้องไปตอนที่น้องหลับ ที่เขายังเอาไปไม่ได้เพราะองศา ตัวเลขดวงชะตาขององศาตรงกับของน้อง ดวงชะตาของเราอุปถัมภ์น้องอยู่ ได้ถามน้องหรือเปล่าว่าน้องฝันว่าอะไรบ้าง" ผมถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะส่ายหน้ากลับไป "มี๊รู้ว่าองศาไม่โอเคที่อยู่ดีๆ ก็มามีคู่หมั้นทั้งที่ไม่ได้รักกันมาก่อน มี๊เชื่อเรื่องโชคชะตามากกว่าความบังเอิญนะลูก โชคชะตาทำให้เรามาเจอกับเรื่องแบบนี้ การช่วยคนเป็นเรื่องที่ดี ถ้าองศาเหนื่อยมี๊ก็อยากให้องศาอดทนต่อก่อน แบบนั้นพอได้ไหมลูก" "ผมยังมีอีกเรื่องที่อยากถามมี๊ตรงๆ" เปี่ยมรักพยักหน้ารับ คนเป็นแม่พร้อมให้โอกาสพูดในสิ่งที่ลูกกังวลได้เสมอ หนุ่มแฝดคนนี้ไม่มีเรื่องอะไรปิดบังแม่อยู่แล้ว องศากล้าพูด กล้าคุย กล้าที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน "อีกหนึ่งเดือนเต็มจะถึงวันเกิดของขวัญ มี๊คิดว่าทุกอย่างมันจะจบได้จริงๆ ไหมครับ" "องศากลัวฝั่งนั้นผูกมัดเหรอ" "บางครั้งก็คิดว่าเรื่องมันอาจจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เรื่องที่คุยกันมันอาจจะง่ายเกินไป เหตุการณ์จริงเราไม่สามารถเดาเอาเองได้เลย" "บ้านนั้นรับปากเราชัดเจน มี๊ขอเวลาองศาถึงแค่วันเกิดน้องเท่านั้น วันข้างหน้าถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีไหมลูก มี๊ไม่อยากให้องศาคิดมากเกินไป" มือแม่แตะลงที่หลังมือหนุ่มแฝดผู้เป็นบุตรชายคนโตอย่างอ่อนโยน "แค่ทำหน้าที่ของตัวเองตอนนี้ให้ดีที่สุด แล้วต่อจากนี้มี๊จะไม่ขออะไรองศาอีกเลย" "ครับ เอาเป็นว่าระหว่างนี้...ผมจะดูแลของขวัญให้ดีที่สุด" อย่างน้อยๆ หากวันหนึ่งที่ต้องจากกัน ก็คิดว่าผมทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแล้วเท่านั้นก็พอ! [ END ] -ของขวัญ- ( ...ว่าไงจ๊ะคนป่วย สรุปป่วยหรือแฮงค์กันแน่เอาดีๆ ) "ปวดหัวนิดหน่อย ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว" ( แล้วนี่อยู่กับใครอ่ะ ) "จะอยู่กับใครล่ะ ก็อยู่คนเดียวไง" ( จริงดิ... ) "พูดแบบนี้แปลว่าอะไร" ฉันมองยัยมีนที่อบยิ้มส่งผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะที่จ้องจับผิดฉัน ( ก็คนป่วยดูสดใสผิดหูผิดตานี่นา การมียาดีอยู่ใกล้ๆ มันก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้อารมณ์และสีหน้าดีขึ้นมาป่ะล่ะ ) "อยู่คนเดียว" ( หมุนกล้อง ) "ยัยมีน" ( เถอะน่าหมุนกล้องหน่อย ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าหล่อๆ ของคู่หมั้นใครบางคน แต่ขอดูก่อนเถอะว่าคนป่วยกำลังทำอะไร ) ฉันย่นจมูกใส่คนที่ต่อรองแบบปิดหูปิดตาไม่คิดจะฟังเสียงของเพื่อนเลยสักนิด ก่อนจะหมุนกล้องไปยังหน้าจอไอแพดเพื่อให้มีนเห็นในสิ่งที่ฉันกำลังสนใจ ( ดูอะไรอยู่อ่ะ ) "วิธีทำอาหาร" ( ห๊ะ! ) "เสียงดังเกินไปแล้ว แค่ดูวิธีทำอาหารเมนูง่ายๆ ก็แค่นั้นเอง" ( เดี๋ยว! อะไรทำให้เพื่อนฉันอยากลุกขึ้นมาทำอาหารกันจ๊ะ ขอคำตอบแบบที่ชัดเจนที่สุดในสามโลกเลยนะ ) "เกินไปแล้ว ก็แค่อยากทำอาหารเป็นเหมือนคนอื่นบ้าง อยาก...น่ารักในสายตาพี่องศามั้ง" ฉันเฉลยออกมาด้วยรอยยิ้ม และแน่นอนยัยมีนยิ้มตามอย่างชอบใจ ( แกน่ารักขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนมันจะไม่ชอบวะขวัญ ฉันว่านะ ตัวตนของแกนี่แหละที่มันจะทำให้พี่องศาชอบแก ) "แกก็พูดเหมือนกับว่าตอนนี้เขาไม่ได้ชอบฉัน" ฉันมองยัยมีนอย่างงุนงง ทบทวนคำพูดของเพื่อนแล้วรู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล ( ไม่ๆ หมายถึงสิ่งที่แกไม่สบายใจไง แกสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างแกและพี่องศา ฉันก็กำลังบอกแกอยู่นี่ไงว่าพี่เขาชอบแกอยู่แล้ว ผู้ชายหน้าไหนก็เถอะ ต่อให้จะเย็นชาสักแค่ไหนแต่ถ้าเจอความน่ารักของแกเข้า ร้อยทั้งร้อยยังไงก็หลงเพื่อนฉันชัวร์ ) "ชมฉันเกินไปแล้ว ช่วงเย็นแกว่างไปซุปเปอร์มาเก็ตกับฉันไหมอ่ะ อยากไปซื้อของมาติดห้องครัว" ( ไม่ชวนพี่องศาของแกไปด้วยล่ะ ) "อยากชวนนะ แต่ไม่เอาดีกว่า บางทีฉันก็คิดว่าการที่ฉันพยายามเรียกร้องมากเกินไปมันอาจจะทำให้พี่องศาไม่ชอบก็ได้ แกเป็นเพื่อนสนิทของฉันนะมีน แกต้องรู้สิว่าก่อนที่ฉันจะเกิดอุบัติเหตุ ตัวตนของฉันมันเป็นยังไง สรุปพี่องศาชอบที่ฉันเป็นแบบไหน" ( เอ่อ...เขาก็ชอบที่แกเป็นแกนั่นแหละ อย่าคิดมากสิขวัญ เชื่อฉันเถอะว่าไม่มีใครไม่รักแก ) ฉันยิ้มให้ยัยมีน ยอมรับว่ามีนทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะมาก ความน้อยอกน้อยใจหายเป็นปลิดทิ้ง มีความหวังขึ้นมาเยอะเลย! ------------"พะ พี่องศา" ตากลมสวยสั่นระริกเมื่อร่างกายถูกร่างสูงกว่าโน้มลงมาทาบทับ แผ่นหลังบางแนบชิดกับเตียงกว้างเป็นจังหวะเดียวกับที่อีกคนกดเข่าแทรกเข้ามากลางหว่างขาส่งผลให้เรียวขาขาวแยกออกจากกันทันที"เดี๋ยวพี่ดูดพิษไข้ให้" ริมฝีปากผ่าวร้อนบดเบียดเข้าหากันแน่น พวงแก้มเนียนแดงระเรื่อ ความน้อยอกน้อยใจหายเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่คู่หมั้นหนุ่มกลับมา"ทำไมแก้มถึงแดงขนาดนี้ ไข้ขึ้นหรือเปล่า" ฉันส่ายหน้ารัวๆ แทนคำตอบ อีกคนเลยพิสูจน์ด้วยการกดหน้าผากลงมาแนบชิด ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดกันและกันยิ่งพานกระตุ้นให้ใจดวงน้อยเต้นแรงฉันหลับตาลงเมื่อพี่องศาชกชิมริมฝีปากของฉันอีกครั้ง ดูดดุนทั้งบนและล่างก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าหาซอกคอขาว ขนอ่อนลุกซู่ไปทั้งกายเพียงแค่ริมฝีปากขบเม้มซ้ำๆ ร่างบางบิดเร่าๆ ตอบสนองความเสียวซ่าน เสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาอย่างแผ่วเบาคนตัวโตจึงยอมผละตัวออกห่าง แต่การกระทำของเขาต่อจากนั้นมันยิ่งกระตุ้นก้อนเนื้อของอกทางด้านซ้ายได้ดีกว่าเดิม"พะ พี่องศา จะทำอะไรคะ" "ดูไปเรื่อยๆ ก่อนไหม" ฉันกัดปากตัวเองอย่างแรงเมื่อฝ่ามือหนาสอดเข้ามาใต้สะโพก ดึงกางเกงนอนของฉันลงต่ำจนเปลือยเปล่าแบบที่เขาต้องการไม่เพีย
-ของขวัญ-[องศา : กินแล้วครับ] ข้อความที่เด้งกลับหลังจากที่ฉันส่งไปเกือบสองชั่วโมงให้ความรู้สึกเรียบเฉย ว่างเปล่า อยู่ดีๆ มันก็ไม่มีความตื่นเต้นแบบที่ควรจะเป็นฉันมองข้อความนั้นที่มันโชว์บนหน้าจอแม้ไม่ต้องเปิดอ่าน เพราะมันเป็นเพียงข้อความสั้นๆ มองเฉยๆ จนกระทั่งหน้าจอโทรศัพท์ดับลงอีกครั้งตากลมจึงมองออกไปทางอื่นแทนฉันพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนจากเดิมเป็นการนอนคว่ำ ดึงผ้าห่มสีขาวสะอาดที่ทั้งผืนถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นหอมจากน้ำยาซักผ้าและกลิ่นโลชั่นบำรุงผิวที่ฉันใช้ประจำมาคลุมไว้ทั้งตัวเหลือแค่ใบหน้าจิ้มลิ้มโผล่พ้นออกมาคิดทบทวนสิ่งที่เจอมาเงียบๆ และไม่ปฏิเสธว่ากำลังคิดว่าคู่หมั้นหนุ่มกำลังนอกใจ!ปิ๊งป่อง!เสียงสัญญาณจากหน้าประตูห้อง ส่งผลให้ตากลมสวยตวัดหันไปยังทิศทางของประตูทันที หัวใจที่ผ่านความชามาหมาดๆ กลับมาเต้นแรงอีกครั้งเพียงแค่ฉันคิดว่าคนที่อยู่หน้าห้องคือใครมีนไม่มาเวลานี้แน่ๆ หรือถ้าจะมาอย่างน้อยๆ ก็ต้องส่งข้อความมาบอกก่อน ไม่มีทางโผล่มา แบบที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าแบบนี้อย่างแน่นอนปิ๊งป่อง! เสียงสัญญาณหน้าห้องดังซ้ำกระตุ้นให้ฉันยอมลุกจากเตียง มองผ่านช่องเล็กๆ ของประตูจึงได้รู้ว่าคนที่อยู
พี่เซย์ขับรถมาส่งฉันโดยมีพี่จีน่านั่งข้างๆ พี่จีน่าพยายามคุยกับฉันตลอดทางแต่บอกตรงๆ ว่าฉันไม่มีกระจิตกระใจจะคุยเลย เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รอจนกระทั่งรถของพี่เซย์เลื่อนมาจอดหน้าคอนโดพี่จีน่าก็ตามลงมาส่งฉันด้วย"ขอบคุณนะคะพี่จีที่มาส่งทั้งที่ฝนตกหนักมากเลย" "น้องขวัญไม่สบายใจเรื่องอะไรหรือเปล่าบอกพี่ได้นะ น้องขวัญดูไม่โอเคเลย หรือคิดมากที่องศามันไม่รับสาย ให้พี่โทรให้ดีไหม" "ไม่เป็นไรค่ะพี่จี ถ้าหนูโทรแล้วพี่องศาไม่รับ แต่ถ้าเป็นพี่จีโทรแล้วพี่องศารับ มันก็อาจจะแปลว่าพี่องศาไม่ได้อยากคุยกับหนูตอนนี้ไหมคะ" ฉันพยายามฝืนยิ้ม เช่นเดียวกับพี่จีที่ส่ายหน้าไปมาทันที"ไม่สิ มันต้องไม่เป็นแบบนั้น" พี่จีน่าดึงมือฉันไปจับเอาไว้หรือตอนนี้สิ่งที่ฉันคิดมาก มันกำลังทำให้พี่จีน่ากังวลตาม หรือฉันควรคุยกับพี่จีน่าหรือถามออกไปตรงๆ ว่าสิ่งที่ฉันเห็นมันหมายความว่ายังไง ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วถ้าฉันถามฉันจะได้รับความจริงหรือเปล่า หลายคำถามมันตีกันรวนอยู่ในหัว แทบแยกไม่ออกเลยว่าควรจัดการกับความรู้สึกในตอนนี้ยังไงดี"พี่ขอโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ" ฉันปลดล็อกโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะยื่นมันให้พี่จีน่า
-ของขวัญ-มหาวิทยาลัย"...พี่จี" ฉันโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่สาวที่ยืนเหม่ออยู่นาน ตอนแรกลังเลว่าจะรอให้พี่จีเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนค่อยทัก ทว่ารุ่นพี่สาวกลับไม่ยอมก้าวขาออกมาจากตรงนั้นสักที สีหน้าเหมือนคนกำลังเก็บบางสิ่งบางอย่างมาคิดอยู่ในหัว เหมือนคนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ"น้องขวัญ" พี่จีน่าสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉัน สีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีส่งผลให้ฉันผายมือไปที่ฝั่งร้านกาแฟทันที"กาแฟสักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "ดีเลยค่ะ น้องขวัญรีบไหมไปกับพี่นะ" "ไม่รีบค่ะ ขวัญรอเพื่อนอยู่พอดี""เคเลย" พี่จีน่าตรงไปยังร้านกาแฟพร้อมฉัน เราสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันก่อนจะเดินมานั่งรอด้วยกัน"เมื่อคืนกลับดึกมากเหรอคะ เหมือนคนนอนน้อยเลย" "งั้นเหรอ วันนี้พี่แต่งหน้าไม่สวยหรือเปล่า รีบๆ หน่อย" รุ่นพี่สาวรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเข้าไปที่กล้องหน้าเพื่อเช็กใบหน้าของตัวเอง"เหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ค่ะพี่จี แต่ยังสวยเหมือนเดิมนะคะ" "ปากหวานนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ สวยก็ใช่ว่าจะสวยสำหรับทุกคน" "คะ?" ฉันเอียงคอมองสบตากับคนตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พี่จีน่าพูดมันหมายความว่ายังไงหมายความว่ามีใครสักคนบอกว่า
S2 PUB"...น้องคนนั้นสวยว่ะ กูล็อกเป้าเรียบร้อย ห้าทุ่มเจอกัน!" ฉลามดีดปลายนิ้วพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตาคมทอดมองไปยังร่างบอบบางของคนที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสดใสฉลามมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ชัดเจนกว่าทุกคนเสมอ ชอบคนไหนมันก็เอาคนนั้น มีแต่ผมนี่แหละที่ขยับทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้สักที"มึงเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะหลาม รถไฟไม่เคยชนกันหน่อยเหรอวะ เหมือนกูต้องยอมก้มหัวคารวะให้มึงเป็นอาจารย์ว่ะ" "กลัวเหี้ยไรวะ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว ว่าไม่ได้จะคบจริงจังแบบนั้น รู้กันทั้งสองฝ่ายแล้วแบบนั้นจะเรียกร้องให้ได้เหี้ยไร" "มึงนี่โชคดีเหมือนกันนะ ควงไม่เคยซ้ำหน้าแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลยสักที" ลีโอมองหน้าเพื่อนแบบเหนือความคาดหมาย ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีใครสู้มันได้จริงๆ"วันนี้จีน่าไม่มาถูกปะ? เงียบ เงียบนี่แปลว่าอะไรวะ ไม่รู้หรือขี้เกียจตอบ" "แล้วมึงถามใคร?""ถามเหี้ยเซย์ไง มันสนิทกับจีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอวะ" "มึงมากกว่ามั้งที่สนิทกับยัยนั่นมากกว่ากู" เซย์เอ่ยขึ้นมาบ้าง วันนี้สีหน้าของมันค่อนข้างเซ็งถึงเซ็งมาก แต่ก็นะ เซย์ก็ยังเป็นเซย์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร"กูเนี่ยนะสนิ
-องศา-"...แม่ขา" เสียงสดใสของคนตัวเล็กข้างกายทักทายคนที่นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว ขาเรียวก้าวเร็วๆ ไปที่เบื้องหน้าก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างรวดเร็ว"รอนานไหมคะ" "ไม่นานจ๊ะแม่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน" ผมยกมือไหว้เมื่อแม่ของขวัญเบนสายตามาที่ผม รอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้า ผมมักจะเจอกับรอยยิ้มนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน"ไปกินข้าวกันมาเหรอลูก" "ใช่ค่ะ คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังคะให้หนูทำอะไรให้ทานไหม" "หืม? ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้เลยนะ" ของขวัญยิ้มแห้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากอวดในสิ่งที่ตัวเองกำลังพยายาม"หนูตั้งใจจะเรียนทำอาหารค่ะ นี่คิดว่าถ้ามีเวลาว่างจะเข้าคอร์สเรียนเลยนะคะ มันต้องดีมากๆ เลยแหละ""ขนาดนั้นเชียวเร้อ แบบนี้ในอนาคตแม่คงไม่ต้องจ้างแม่บ้านล่ะมั้ง ลูกสาวจะทำอาหารเก่งแล้วนี่นา" "ได้นะคะ แต่ต้องขอเวลาเรียนรู้ก่อน รอแบบใจเย็นๆ นะคะ" แม่ของขวัญระบายรอยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น สังเกตเห็นว่าฝ่ามือลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน"คุณแม่คุยกับพี่องศารอก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูไปหาขนมและน้ำผลไม้มาให้ทานค่ะ" "ขอบใจนะลูก" ของขวัญหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่จากนั้นก็รีบลุกออกไป ปล่อยให้ผมอยู่กับแ