-ของขวัญ-
มหาวิทยาลัย "...พี่จี" ฉันโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่สาวที่ยืนเหม่ออยู่นาน ตอนแรกลังเลว่าจะรอให้พี่จีเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนค่อยทัก ทว่ารุ่นพี่สาวกลับไม่ยอมก้าวขาออกมาจากตรงนั้นสักที สีหน้าเหมือนคนกำลังเก็บบางสิ่งบางอย่างมาคิดอยู่ในหัว เหมือนคนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ "น้องขวัญ" พี่จีน่าสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉัน สีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีส่งผลให้ฉันผายมือไปที่ฝั่งร้านกาแฟทันที "กาแฟสักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "ดีเลยค่ะ น้องขวัญรีบไหมไปกับพี่นะ" "ไม่รีบค่ะ ขวัญรอเพื่อนอยู่พอดี" "เคเลย" พี่จีน่าตรงไปยังร้านกาแฟพร้อมฉัน เราสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันก่อนจะเดินมานั่งรอด้วยกัน "เมื่อคืนกลับดึกมากเหรอคะ เหมือนคนนอนน้อยเลย" "งั้นเหรอ วันนี้พี่แต่งหน้าไม่สวยหรือเปล่า รีบๆ หน่อย" รุ่นพี่สาวรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเข้าไปที่กล้องหน้าเพื่อเช็กใบหน้าของตัวเอง "เหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ค่ะพี่จี แต่ยังสวยเหมือนเดิมนะคะ" "ปากหวานนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ สวยก็ใช่ว่าจะสวยสำหรับทุกคน" "คะ?" ฉันเอียงคอมองสบตากับคนตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พี่จีน่าพูดมันหมายความว่ายังไง หมายความว่ามีใครสักคนบอกว่าพี่จีน่าไม่สวยและคนคนนั้นดันเป็นคนที่พี่จีน่าแคร์แบบนั้นหรือเปล่า? "พี่ก็เพ้อไปเรื่อยนั่นแหละ วันนี้มีเรียนเช้าเหมือนกันเหรอคะ" "ใช่ค่ะ หนูทำแซนวิชง่ายๆ มาฝากพี่องศาด้วยแต่ยังไม่เจอกันเลย" ฉันหยิบแซนวิชที่อยู่ในกล่องออกมาจากกระเป๋าผ้า แอบก้มมองของที่อยู่ด้านในเล็กน้อยกลัวว่ามันจะเสียหายระหว่างที่เดินทางมามหาวิทยาลัย แต่พอพบว่ามันยังดีเหมือนเดิมรอยยิ้มก็ค่อยๆ หลุดออกมา "ว้าว น่ารักอ่ะ ต้องทำให้มันขนาดนี้เลยเหรอ พี่ว่าน้องขวัญซื้อจากร้านหน้ามอ. ให้องศามันก็ได้ มันกินได้หมดแหละ" "หนูตั้งใจทำค่ะ มันอาจจะไม่ค่อยสวยและไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่หนูชิมแล้วมันพอกินได้อยู่นะคะ" "น่ารักนะเนี่ย องศามันจะรู้หรือเปล่าว่าคู่หมั้นของมันน่ารักขนาดนี้" พี่จีน่ามองหน้าฉันตาละห้อย มองแบบเสียดายก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนั้น "ทำไมพี่จีถึงมองแบบนั้นล่ะคะ หน้าหนู..." "ไม่มีอะไรติดเลยค่ะนอกจากความสวย น่ารักแล้วก็สดใส เหมาะกับองศาที่สุดแล้ว" ฉันยิ้มแทนคำตอบ เวลาได้คุยกับพี่จีน่าฉันรู้สึกโอเคมากๆ พี่จีน่าดูจริงใจมากจริงๆ "เจอน้องขวัญก็ดีแล้ว วันเสาร์นี้ว่างไหมคะ" "วันเสาร์นี้? ว่างนะคะ" "วันเกิดพี่ น้องขวัญพอจะมีเวลาให้พี่ไหมคะ" "วันเกิดเหรอคะ ว่างค่ะ" "แต่พี่จัดวันเกิดที่เขาใหญ่นะ ไปวันศุกร์ตอนเย็นกลับวันอาทิตย์ช่วงเย็นน้องขวัญไปกับพี่นะ ถือว่าไปเพื่อพี่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับองศา นะๆ" ฉันพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักและลูกอ้อนของพี่จีน่าไปโดยปริยาย "ได้เลยค่ะ แล้ววันศุกร์หนูต้องไปยังไงคะ" "ไปกับพี่เลยค่ะ คือต่างคนต่างไป ถ้าไอ้พวกนั้นมันขี้เกียจขับรถ มันก็คงจะยัดกันไปในรถคันเดียวนั่นแหละ ส่วนน้องขวัญไปพร้อมพี่เลย พี่ถือว่าน้องขวัญเป็นแขกคนพิเศษ ไปแบบไม่ต้องบอกพวกนั้นล่วงหน้า ดีเลย พวกนั้นจะได้ไม่หาเรื่องอะไรมาแกล้งพี่ได้อีก" ฉันยิ้มแทนคำตอบ พี่จีน่าน่ารักขนาดนี้ ไม่ให้แกล้งยังไงไหว แต่ฉันก็เชื่อแหละว่าพวกพี่ๆ แค่แกล้งแต่ไม่มีใครคิดร้ายกับพี่จีน่าอย่างแน่นอน ฉันแยกจากพี่จีน่าหลังจากที่ได้เครื่องดื่มของตัวเอง รออยู่พักใหญ่ๆ ถึงยอมไลน์ไปหาพี่องศา อยากรู้ถึงรสชาติแซนวิชที่ฉันทำ [ของขวัญ : กินแซนวิชหรือยังคะ อยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง] [องศา : ทำเอง?] [ของขวัญ : ใช่ค่ะ ทำเองเลย^^] [ของขวัญ : ถ้าพี่องศาคิดว่าต้องปรับปรุงตรงไหนบอกได้นะคะ] [องศา : อร่อยดี แต่ไม่ต้องเหนื่อยทำก็ได้] [ของขวัญ : แค่พี่ชอบก็พอแล้วค่ะ] [ของขวัญ : ไปเรียนแล้วนะคะ] ฉันพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้ม เหตุผลที่ลงทุนทำและคิดว่าพี่องศาต้องกินเพราะเมื่อคืนพี่องศาและเพื่อนๆ ของเขาไปดื่มกัน ช่วงเช้าก็คงไม่มีอะไรตกถึงท้องแน่ๆ อย่างน้อยๆ ก็คงเป็นเวลาที่เร่งรีบเลยทำให้ไม่มีเวลาทานอะไร และเหมือนว่าสิ่งที่ฉันคิดมันจะถูกต้องจริงๆ ฝนเทกระหน่ำลงมาในช่วงเวลาสี่โมงกว่า เพราะวันนี้มีงานค้างที่ต้องเคลียร์เลยได้กลับช้ามากกว่าทุกวัน วันนี้มีนก็ดันท้องเสียมีเหตุผลให้กลับก่อน ฉันเลยเป็นฝ่ายหงอยเวลาที่ต้องมองหารถกลับ และในหัวมันก็ดันคิดถึงคนแค่คนเดียวที่อยากให้มารับเวลานี้ เวลาที่ปลีกตัวออกไปหารถยากจริงๆ มือเรียวล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าในขณะที่ตากลมสวยมองออกไปรอบๆ บริเวณเผื่อจะมีเพื่อนคนไหนที่พอจะติดรถกลับได้บ้าง ฉับพลันตาของฉันกลับประสานเข้ากับแผ่นหลังของใครบางคน ซึ่งปลายนิ้วของฉันกำลังกดโทรออกหาเขาอยู่พอดี "พี่องศา..." เรียวปากเอิบอิ่มขยับเอ่ยเรียกชื่อนั้นอย่างแผ่วเบา รู้อยู่เต็มอกว่าต่อให้ฉันจะพยายามก้าวขาหรือวิ่งไปหาเขามันก็ไม่ทันแน่ๆ สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นก็คือยืนมองคู่หมั้นของตัวเอง ในขณะที่มือถือกำลังโทรออกและรอการรับสาย ทว่าไม่มีคนรับ สิ่งที่ฉันเห็นคือมีผู้หญิงคนหนึ่งถือร่มสีชมพูไปที่รถของพี่องศา ไม่ทันได้เห็นหน้าเห็นแค่ว่าผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปบนรถบนตำแหน่งที่ฉันเคยนั่ง พี่องศาเป็นคนเก็บร่มก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งของตัวเอง สายโทรศัพท์ที่อยู่ในมือถูกตัดไปแล้ว ตัวฉันเองก็ชาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ยังไม่อยากคิดว่าผู้หญิงคนนั้นที่ขึ้นรถเขาคือใคร ความรู้สึกสั่งให้ฉันโทรซ้ำ หากก่อนหน้านี้ที่ฉันโทรแล้วเขาไม่รับสาย เหตุผลคือโทรศัพท์อยู่ในรถ ในตอนที่รถถูกขับออกไปแล้วเขาก็ต้องรู้สิว่าฉันกำลังโทรหา แล้วน้ำตาบ้าๆ มันก็ซึมออกมาเพียงแค่ว่าเขาไม่รับสายฉัน โทรกี่ครั้งเขาก็ไม่รับอยู่ดี ฉันทำอะไรไม่ถูกจนต้องรีบเคลื่อนไหวตัวเองลงไปที่ชั้นล่าง พยายามคิดในแง่ดีว่าผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นพี่จีน่า แต่โชคชะตาไม่ได้ใจดีกับฉันเลยสักนิดเพราะฉันเจอพี่จีน่าอยู่ด้านล่างกับพี่เซย์ "นะ น้องขวัญ ยังไม่กลับเหรอคะ" พี่จีน่าดูตกใจมากที่เห็นฉัน และทั้งพี่จีและพี่เซย์ก็รีบผละออกจากกันทันที "เคลียร์งานที่ค้างส่งเพิ่งเสร็จอ่ะค่ะ" "แล้ว...น้องขวัญกลับยังไงคะ" "โทรหาพี่องศาแล้วค่ะ แต่พี่องศาไปรับสาย" ฉันพยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่น และไม่รู้เลยว่ามันหลุดความสั่นออกไปหรือเปล่า แต่พี่จีน่าหันมองสบตากับพี่เซย์ทันที "งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ" "พี่องศากลับแล้วเหรอคะ" "มันเพิ่งกลับไปอ่ะ ไม่รู้ว่ามันปิดเสียงหรืออะไร ไว้ถ้าพี่เจอมัน เดี๋ยวพี่บอกให้มันโทรกลับดีไหม" พี่จีน่าไม่ยิ้มเลย แต่มือที่คว้ามาจับมือฉันบ่งบอกว่าพี่จีน่าอยากปลอบใจ "เซย์ไปส่งน้องก่อน" "อืม" พี่เซย์ตอบรับสั้นๆ และปรายตามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ซึ่งฉันจำตำแหน่งนี้ได้ดีว่ามันมีรถพี่องศาจอดอยู่ก่อนหน้านี้ ดีไม่ดีทั้งพี่เซย์และพี่จีน่ารู้ดีว่าผู้หญิงที่นั่งรถออกไปกับพี่องศาคือใคร! ----------- ในตัวองศาไม่มีเลือดพ่อเลยสักนิด!-ของขวัญ-มหาวิทยาลัย"...พี่จี" ฉันโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่สาวที่ยืนเหม่ออยู่นาน ตอนแรกลังเลว่าจะรอให้พี่จีเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนค่อยทัก ทว่ารุ่นพี่สาวกลับไม่ยอมก้าวขาออกมาจากตรงนั้นสักที สีหน้าเหมือนคนกำลังเก็บบางสิ่งบางอย่างมาคิดอยู่ในหัว เหมือนคนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ"น้องขวัญ" พี่จีน่าสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉัน สีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีส่งผลให้ฉันผายมือไปที่ฝั่งร้านกาแฟทันที"กาแฟสักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "ดีเลยค่ะ น้องขวัญรีบไหมไปกับพี่นะ" "ไม่รีบค่ะ ขวัญรอเพื่อนอยู่พอดี""เคเลย" พี่จีน่าตรงไปยังร้านกาแฟพร้อมฉัน เราสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันก่อนจะเดินมานั่งรอด้วยกัน"เมื่อคืนกลับดึกมากเหรอคะ เหมือนคนนอนน้อยเลย" "งั้นเหรอ วันนี้พี่แต่งหน้าไม่สวยหรือเปล่า รีบๆ หน่อย" รุ่นพี่สาวรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเข้าไปที่กล้องหน้าเพื่อเช็กใบหน้าของตัวเอง"เหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ค่ะพี่จี แต่ยังสวยเหมือนเดิมนะคะ" "ปากหวานนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ สวยก็ใช่ว่าจะสวยสำหรับทุกคน" "คะ?" ฉันเอียงคอมองสบตากับคนตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พี่จีน่าพูดมันหมายความว่ายังไงหมายความว่ามีใครสักคนบอกว่า
S2 PUB"...น้องคนนั้นสวยว่ะ กูล็อกเป้าเรียบร้อย ห้าทุ่มเจอกัน!" ฉลามดีดปลายนิ้วพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตาคมทอดมองไปยังร่างบอบบางของคนที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสดใสฉลามมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ชัดเจนกว่าทุกคนเสมอ ชอบคนไหนมันก็เอาคนนั้น มีแต่ผมนี่แหละที่ขยับทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้สักที"มึงเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะหลาม รถไฟไม่เคยชนกันหน่อยเหรอวะ เหมือนกูต้องยอมก้มหัวคารวะให้มึงเป็นอาจารย์ว่ะ" "กลัวเหี้ยไรวะ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว ว่าไม่ได้จะคบจริงจังแบบนั้น รู้กันทั้งสองฝ่ายแล้วแบบนั้นจะเรียกร้องให้ได้เหี้ยไร" "มึงนี่โชคดีเหมือนกันนะ ควงไม่เคยซ้ำหน้าแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลยสักที" ลีโอมองหน้าเพื่อนแบบเหนือความคาดหมาย ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีใครสู้มันได้จริงๆ"วันนี้จีน่าไม่มาถูกปะ? เงียบ เงียบนี่แปลว่าอะไรวะ ไม่รู้หรือขี้เกียจตอบ" "แล้วมึงถามใคร?""ถามเหี้ยเซย์ไง มันสนิทกับจีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอวะ" "มึงมากกว่ามั้งที่สนิทกับยัยนั่นมากกว่ากู" เซย์เอ่ยขึ้นมาบ้าง วันนี้สีหน้าของมันค่อนข้างเซ็งถึงเซ็งมาก แต่ก็นะ เซย์ก็ยังเป็นเซย์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร"กูเนี่ยนะสนิ
-องศา-"...แม่ขา" เสียงสดใสของคนตัวเล็กข้างกายทักทายคนที่นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว ขาเรียวก้าวเร็วๆ ไปที่เบื้องหน้าก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างรวดเร็ว"รอนานไหมคะ" "ไม่นานจ๊ะแม่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน" ผมยกมือไหว้เมื่อแม่ของขวัญเบนสายตามาที่ผม รอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้า ผมมักจะเจอกับรอยยิ้มนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน"ไปกินข้าวกันมาเหรอลูก" "ใช่ค่ะ คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังคะให้หนูทำอะไรให้ทานไหม" "หืม? ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้เลยนะ" ของขวัญยิ้มแห้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากอวดในสิ่งที่ตัวเองกำลังพยายาม"หนูตั้งใจจะเรียนทำอาหารค่ะ นี่คิดว่าถ้ามีเวลาว่างจะเข้าคอร์สเรียนเลยนะคะ มันต้องดีมากๆ เลยแหละ""ขนาดนั้นเชียวเร้อ แบบนี้ในอนาคตแม่คงไม่ต้องจ้างแม่บ้านล่ะมั้ง ลูกสาวจะทำอาหารเก่งแล้วนี่นา" "ได้นะคะ แต่ต้องขอเวลาเรียนรู้ก่อน รอแบบใจเย็นๆ นะคะ" แม่ของขวัญระบายรอยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น สังเกตเห็นว่าฝ่ามือลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน"คุณแม่คุยกับพี่องศารอก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูไปหาขนมและน้ำผลไม้มาให้ทานค่ะ" "ขอบใจนะลูก" ของขวัญหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่จากนั้นก็รีบลุกออกไป ปล่อยให้ผมอยู่กับแ
บรรยากาศภายในร้านอาหารที่พวกพี่ๆ เลือกรอบตัวเต็มไปด้วยกลุ่มของนักศึกษา ออกจะเหมือนร้านนั่งชิลล์มากกว่าร้านอาหารที่ไว้สำหรับทานข้าวด้วยซ้ำไป"อาหารร้านนี้อร่อยมากเลยนะ น้องขวัญเคยมาไหม" "เคยจะมากับมีนค่ะพี่จี แต่พอมาถึงคือคนเยอะมากโต๊ะเต็มเลยไม่มีที่นั่งค่ะ" "นั่นไงว่าแล้วเชียว ทีหลังถ้าอยากมาบอกพี่นะ ร้านสาวของฉลามมันอ่ะ เดี๋ยวให้มันโทรจองโต๊ะให้" "ร้านแฟนพี่ฉลามเหรอคะ" ฉันตาโตเมื่อได้ฟัง ที่ออกจะตกใจเพราะเคยได้ยินว่าพวกพี่ๆ ไม่ได้มีแฟนกันเลยสักคน"สาวที่หมายถึงผู้หญิงของมันอ่ะ เคยคุยเคยได้แต่ไม่เคยคบอะไรแบบนี้" "มึงก็พูดซะกูดูเลวเลยนะจี น้องตกใจกันพอดี ว่าแต่เพื่อนน้องขวัญนี่คือโสดไหมครับ" "นั่นไงกูคิดไว้แล้วไอ้หลามว่ามึงต้องเล็ง ตึงจัด กะจะกวาดให้เรียบเลยหรือไง" พี่ลีโอควงแก้วในมือพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตบท้ายด้วยเสียงของพี่ติณห์ที่คัดค้านขึ้นมา"ลืมเหรอสัส องศามันห้ามยุ่งกับทุกคนที่อยู่รอบตัวคู่หมั้นมันเว้ย แม้แต่เพื่อนของน้องก็ไม่ได้ก็คงรู้แหละว่าพวกมึงมันเลวเกินไป" "สัส กระทืบซะกูยับเยินเลยนะมึง" เสียงหัวเราะในกลุ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันสนใจสิ่งที่พี่ติณห์พูดมากกว่า ไม่เคย
หลายวันต่อมามหาวิทยาลัย"...วันนี้แลดูสวยผิดหูผิดตานะ ส่องกระจกแล้วตอบมาว่าคิดเหมือนกันปะ" มีนทักทายประโยคแรกแล้วจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างมีความหมาย สายตากรุ้มกริ่มกระตุ้นรอยยิ้มสดใสได้เป็นอย่างดี"อะไรยังไง ฉันก็เหมือนเดิมไหม" "ก็วันนี้แต่งหน้าสวย ผมก็เป๊ะมาก เหมือนคนที่ดูแลตัวเองแบบสุดๆ อ่ะ" "ก็ต้องดูแลตัวเองไหม หรือจะบอกว่าแกไม่ดูแลตัวเอง" "เรื่องดูแลมันก็ดูแลแหละ แต่แบบมันอาจจะมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นไง" มีนหมุนร่างกายเพื่อหันหน้าเข้าหา เวลาที่ถูกจ้องหนักขึ้นฉันเองก็แทบวางสีหน้าไม่ถูกเหมือนกัน"อะไรของแกเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ ทำไมมองแบบนี้เล่า" "ช่วงนี้กำลังอินเลิฟปะ" "ก็เหมือนเดิม" "แต่แกสวยกว่าเดิม สดใสกว่าเดิมยิ้มเก่งกว่าเดิม คือทุกอย่างมันโอเคมากกว่าเดิมอ่ะ มันต้องมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นแหละ""ยัยมีน" "บอกมานะ ช่วงนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" ฉันคิดตามคำถาม และถ้าจะให้พูดกันตามความเป็นจริงเห็นว่ามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ"เงียบแบบนี้แปลว่า...""อื้อ มันก็ดีแหละ เดี๋ยวนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมาก" ฉันเขินหนักมากตอนที่เอ่ยคำนี้ ฉันใจฟูสุดๆ เวลาที่อยู่กับเขา ฉันชอบเวลาท
-องศา-"ขอบคุณนะคะที่ยอมอยู่ พี่องศาน่ารักเป็นบ้าเลย" คนได้ดั่งใจชมเปราะไม่ขาดปากเมื่อผมตอบรับการอยู่เป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าเศร้า ของขวัญในตอนนี้และสามสิบวินาที ก่อนหน้านี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ผมบอกว่าจะกลับเธอไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนอย่างตอนนี้ด้วยซ้ำ ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมกำลังมีบทบาททางความรู้สึกต่อเธอมากเกินไป"อยู่ได้นะ แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่" ของขวัญทำตาโตเมื่อได้ยินคำตอบของผม ตากลมๆ มองต่ำที่ช่วงกลางกายของผมอัตโนมัติ ขนาดตอนนี้ผมยังแต่งตัวเรียบร้อยยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาเลยทำไมดื้อได้ขนาดนี้วะ กล้ามองแบบนี้นี่เกินไปแล้วจริงๆ! "กำลังคิดอะไร" "ปะ เปล่า ไม่ได้กำลังคิดอะไรเลยค่ะ" "แน่ใจ?" ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักรัวๆ แทนคำตอบ แล้วใครจะดูไม่ออกว่าการยิ้มแห้งๆ แบบนี้มันเป็นเพราะเธอกำลังพูดจาเบี่ยงเบนจากความเป็นจริง"พี่แก้ผ้านอนได้ไหม""พี่องศาพูดจาทะลึ่งเกินไปแล้วค่ะ""แล้วการมองเป้าผู้ชายนี่คือทะลึ่งไหม" "มะ ไม่ได้ตั้งใจจะมองค่ะแต่ตามันดันไปเอง มันเป็นเรื่องบังเอิญต่างหากล่ะ" "เถียงข้างๆ คูๆ" "หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ รู้สึกเหนียวตัวมากเลย" ของขวัญเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับ