ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีดำเดินเข้ามาในผับพร้อมกับพี่กันต์ที่เดินตามหลังมา ทั้งสองคนตกเป็นเป้าสายตาของคนในผับคนหนึ่งตัวเล็กหน้าหวาน อีกคนตัวสูงใหญ่หน้านิ่งพร้อมเชือดทุกคนที่เข้ามายุ่งกับคนตรงหน้า
“พี่กันต์เข้าไปนั่งด้วยกันข้างในก็ได้นะครับ” ลินเอ่ยบอกพี่กันต์หลังจากที่เดินมาส่งเขาถึงหน้าห้องวีไอพี
“ไม่เป็นไรครับคุณหนู”
“ถ้างั้นพี่กันต์อยากนั่งดื่มก็เต็มที่เลยนะครับ” พี่กันต์ก้มหัวให้คนเป็นนายเล็กน้อยก่อนลินจะเดินเข้าไปในห้อง
ลินเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าตัวเองมาเป็นคนสุดท้าย คนที่อยู่ในห้องจ้องมองมาที่อลินตาเป็นจุดเดียวก่อนสกายจะเดินมาหาเขาแล้วลากไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน
“สวัสดีครับน้องลินไม่เจอกันนานเลยนะครับ” ศิลาเอ่ยทักทายเพื่อนของน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน
“ครับพี่ศิลา” ลินส่งยิ้มให้พี่ศิลา ก่อนจะหันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่ข้างพี่ศิลาพร้อมกับมองมาที่เขาอย่างไม่วางตา
ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวจ้องมองมาที่ลินนิ่งๆ
“ไม่ทักทายพี่หน่อยเหรอครับ” คนตัวสูงเอ่ยท้วงร่างบาง
“สวัสดีครับคุณคีรัน” ลินเอ่ยทักคนตัวสูงพร้อมพูดเน้นทุกคำ จนอีกฝ่ายหน้าหน้านิ่งใส่เขา ทำไมละก็อยากให้ทักทายไม่ใช่หรือยังไง
“หู๊ยยย~ โอ๊ย! ไอ้รันไอ้สัตว์” ศิลาทำหน้าแซวเพื่อนที่โดนคนตัวเล็กพูดทักทายอย่างห่างเหิน ก่อนจะโดนคีรันโยนก้อนน้ำแข็งมาใส่หัวอย่างแรง
“พูดมากมึงอะนั่งแดกเงียบๆ ไป”
“อย่าเพิ่งตีกันสิครับ มาฉลองให้กับความโสดของกายก่อนสิ นี่ๆ ชนนน หมดแก้วนะทุกคน” สกายพูดขึ้นพร้อมบอกให้ทุกคนยกแก้วเหล้าที่ตัวเองจัดการชงให้เข้มๆ ทุกแก้ว ให้ทั้งสามคนยกขึ้นมาชนกับตัวเอง
“ชงเข้มขนาดนี้มึงจะมอมกูหรือไง” ลินพูดขึ้นเมื่อเห็นสีเหล้าในแก้วที่เพื่อนชงมาให้ สีเข้มขนาดนี้ทำไมมันไม่เทแต่เหล้ามาให้เขาเลยล่ะ
ไอ้เพื่อนบ้าเอ๊ย!
“ฮ่าๆ จอยๆ น่ะมึงแค่นี้ไม่ระคายคอมึงหรอกมั้ง ทีเมื่อก่อนแดกเยอะกว่านี้ยังเอามึงไม่ลงเลย”
“ไอ้กายหุบปาก!” ลินชี้นิ้วคาดโทษเพื่อน ก่อนจะยกแก้วเหล้าป้อนมันให้เงียบปากไป พลางมองไปที่คนตัวสูงที่นั่งมองมาที่ตัวเองด้วยว่าเจ้าตัวจะได้ยินที่เพื่อนเขาพูดหรือเปล่า
น้ำสีอำพันไหลลงคอของลินจนหมดแก้ว อลินตาเบ้หน้าออกมาเล็กน้อยเพราะรสขมของเหล้าที่ดื่มเข้าไป แก้วแล้วแก้วเล่าที่สกายชงมาให้เขาอย่างไม่ขาดสาย แก้วว่างเมื่อไหร่ไอ้เพื่อนตัวดีก็รีบชงใส่แก้วให้เขาดื่ม
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ตอนนี้สกายกับพี่ศิลาพากันนั่งร้องเพลงปลอบใจกันไปมา ลินเหลือบมองไปที่คนตัวสูงก็เจอสายตาของคนตรงหน้าที่มองมาที่เขาอย่างไม่วางตาตั้งแต่เขาเข้ามาในห้องจนถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ยังไม่เลิกมองมาที่เขา
มองอะไรนักหนาก็ไม่รู้
ตกดึกร่างบางก็เริ่มมึนๆ เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป อลินตาพยายามลุกขึ้นยืนแต่ก็ยากลำบากเพราะสติของตัวเองตอนนี้ไม่เต็มร้อย คีรันที่นั่งมองร่างบางอยู่ตลอดเวลาก็เดินเข้ามาพยุงตัวของเขาเอาไว้ก่อนที่จะล้ม
“จะไปไหน”
“ไป ขะ เข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวพี่พาไป” คนตัวเล็กพยักหน้ายอมให้อีกฝ่ายพาไปเข้าห้องน้ำเพราะตอนนี้เขาไม่ไหวจริงๆ ถ้าเพราะต้องมายืนเถียงกับคนตัวสูงมีหวังฉี่ราดตรงนี้แน่ๆ ยอมวันหนึ่งก็ได้
หลังจากที่พาคนตัวเล็กไปเข้าห้องน้ำกลับออกมาก็เห็นว่าสองพี่สองพี่น้องสกายกับไอ้ศิลาสลบคาไมค์ไปด้วยกันทั้งคู่ คีรันพาคนตัวเล็กมานั่งที่โซฟาตัวเดินก่อนจะลุกเดินไปหยิบเสื้อตัวนอกของตัวเองมาคลุมขาเรียวของคนเมาเอาไว้ เขานั่งลงข้างร่างบางพร้อมให้อีกฝ่ายเอนตัวลงมาพิงอกของตัวเองเอาไว้
“ใครบอกให้ใส่ขาสั้นมาครับ คนมองทั้งร้านเลยเห็นมั้ย” คีรันพูดพร้อมกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มของคนที่นั่งพิงตัวเองอยู่อย่าฉวยโอกาส
“อื้อออ อย่าบ่นได้มั้ยเล่า” คนตัวเล็กพูดขึ้นพร้อมทำปากคว่ำใส่คนตัวสูง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งตัวตรงและจ้องมองไปที่คีรันด้วยใบหน้างอนๆ
แก้มแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของเหล้าที่ดื่มเข้าไปทำให้เจ้าตัวดูน่ามันเขี้ยวขึ้นไปอีกจนคีรันอดที่จะเอื้อมมือไปลูบแก้มแดงๆ นั่นเอาไว้ไม่ไว้ ก่อนจะโดนอีกฝ่ายปัดมือออกไม่ให้สัมผัสตัวเอง
“เป็นคนขี้บ่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อก่อนไม่เห็นบ่นลินแบบนี้เลย”
“ก็ตอนนั้นลินไม่ได้อยู่คนเดียวนี่ครับ” คนตัวเล็กที่ได้ยินคีรันพูดแบบนั้นพลันน้ำตาก็เอ่อคลอรอบดวงตาสวย และร่วงไหลลงมาเปื้อนเสื้อสีขาวของตัวเองจนเกิดเป็นรอยน้ำตา
“ฮึก ละ แล้วทำไมพี่รันถึงทิ้งลินไป อึก ทำไมพี่รันถึงไม่กลับมาหาลินทำไมถึงต้องนอกใจลินด้วย ฮึก” ลินพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมาเมื่อนึกไปถึงวันนั้น วันที่ร่างสูงทิ้งตัวเองไปกับใครอีก
“พี่ไม่เคยนอกใจลินนะสักครั้งก็ไม่เคย พี่ขอโทษที่จู่ๆ พี่หายไป เพราะมันเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นพี่ถึงไม่มีเวลาได้บอกกับลิน” มือหนาเอื้อมมือไปจับแขนของคนตัวเล็กเอาไว้ แต่ก็โดนสะบัดมือออก
“ข้ออ้าง! เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยพี่ถึงทิ้งลินไปตั้งแปดปี แล้วจู่ๆ ก็กลับมา ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“.....”
“จิตใจพี่ทำด้วยอะไรเห็นความรู้สึกลินเป็นของเล่นหรือไง ฮึก พี่ทำเหมือนลินไม่มีหัวใจคิดจะกลับมาก็กลับมาอย่างนั้นเหรอ ฮึก” อลินตาร้องไห้จนตัวโยนพร้อมกับพรั่งพรูความรู้สึกของเขาออกมาให้คนตรงหน้าได้รับรู้
“ลินเกลียดพี่ ลินไม่อยากคิดถึงพี่แล้ว”
“ขอโทษ อึก อย่าพูดว่าเกลียดพี่ได้มั้ยคนดี พี่ขอโทษนะครับหนูฟังพี่อธิบายก่อนได้มั้ย” อลินตามองหน้าของคีรันก่อนจะชะงัก เมื่อเห็นว่าดวงตาของคนตัวสูงตอนนี้มีน้ำตาคลออยู่
“ผมไม่อยากฟัง ผมอยากกลับบ้านแล้ว” อาการเมาเมื่อกี้เกือบจะหายเป็นปลิดทิ้งและแทนที่มาด้วยอารมณ์โมโห โกรธคนตรงหน้าแทน ร่างบางลุกขึ้นยืนหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือเอาไว้ก่อนจะเดินออกไป
คีรันเห็นแบบนั้นก็รีบเดินตามคนตัวเล็กไปด้วยความเป็นห่วงทิ้งให้สองพี่น้องนอนอยู่ที่ห้องนี้ แล้วค่อยบอกการ์ดของร้านให้พาทั้งสองคนไปพักที่โรงแรมข้างๆ
ร่างบางเดินร้องไห้ออกมาจากผับพร้อมเดินตรงมาที่รถที่มีพี่กันต์กับบรู๊คยืนรออยู่ คีรันวิ่งตามคนตัวเล็กออกมาหลังจากที่เดินไปบอกเด็กในร้านให้เข้าไปพาสองพี่น้องไปพักที่โรงแรมข้างๆ แต่ก่อนที่จะได้เข้าใกล้คนตัวเล็กร่างกายของรันก็รู้สึกปวดแปล๊บที่หน้าท้องก่อนจะล้มลงกับพื้น
กันต์ที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็หยิบปืนขึ้นมาพร้อมเล็งไปที่รถเก๋งสีดำที่ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาคีรันที่นอนนิ่งอยู่ที่พื้น
“บรู๊ค! คุ้มกันคุณหนูเอาไว้” กันสั่งให้บรู๊คคุ้มกันลินเอาไว้ส่วนตัวเองก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยคีรัน
อลินตามองไปตามหลังของพี่กันต์ที่วิ่งไปทางคีรันก่อนจะเบิกตามกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าคีรันนอนนิ่งอยู่ที่พื้น ร่างบางรีบวิ่งไปดูก่อนจะนั่งลงพร้อมมองสำรวจคีรันไปด้วย ก็เห็นว่าอีกฝ่ายถูกยิงที่หน้าท้องก่อนจะสลบลงต่อหน้าอลินตา
“พี่รัน!”
คีรันถูกพามารักษาตัวที่บ้านใหญ่ของอลินตาเพราะที่นี่มีหมอประจำตัวของลิน และเครื่องมือครบทุกอย่างพร้อมรักษาให้คนตัวสูงหาย ระหว่างที่รอให้หมอรักษาคีรัน ลินก็สั่งให้กันต์ไปสืบว่าใครเป็นคนส่งมือปืนมาเก็บคีรัน และคีรันกำลังมีปัญหากับใคร
กันต์รับคำสั่งจากนายน้อยก่อนจะเดินออกไป
เวลาผ่านไปจนเกือบ 2 ชั่วโมงคุณหมอประจำตัวของลินก็เดินออกมาจากห้อง ร่างบางรีบเดินเข้าไปถามอาการจากหมอทันที
“ถูกยิงที่ท้องสองนัดไม่โดนจุดสำคัญมาก ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ” อลินตาถอนหายใจออกมาเบาๆ พอได้ยินที่หมอบอก
“แล้วอีกนานมั้ยครับกว่าเขาจะฟื้น”
“อีกวันถึงสองวันครับ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ ขอโทษที่รบกวนเวลานอนด้วยนะครับ”
“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ แล้วตอนเช้าหมอจะเข้ามาตรวจอาการอีกที” อลินตาพยักหน้าให้หมอ ก่อนที่หมอจะเดินออกจากห้องไป
คนตัวเล็กลากเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างเตียงคนเจ็บพร้อมมองสำรวจร่างกายของเขาไปด้วย โดนยิงขนาดนี้ไปมีเรื่องกับใครเขาเข้าหรือเปล่านะ หรือว่าไปกวนตีนใครเขาไว้เขาถึงได้ส่งมือปืนมายิงเอาแบบนี้
ลินคิดในใจอย่างขำๆ แต่ดวงตาก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาเพราะกลัวอีกคนจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ แม้ปากจะด่าว่าคีรันสารพัดแต่ลึกๆ ในใจยังไงอลินตาก็ยังรักคีรัน ถึงตอนนี้จะยังไม่ทราบเหตุผลที่คีรันทิ้งตัวเองไปเมื่อแปดปีก่อนก็ตาม
“รีบฟื้นขึ้นมาให้ลินด่าก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบตาย”
รุ่งเช้าอลินตาตื่นขึ้นมาจัดการธุระของตัวเองเสร็จก่อนจะเดินลงไปดูอาการของคีรันที่พักอยู่อีกห้องหนึ่ง เปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอคุณหมอกำลังตรวจอาการของคนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียงพอดี ลินจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“เป็นยังไงบ้างครับหมอ” ลินถามถึงอาการของคนเจ็บบนเตียง
“อาการปกติดีครับ เหลือแค่รอฟื้นขึ้นมา”
“อีกนานมั้ยครับกว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา”
“ต้องรอดูอาการต่อไปเรื่อยๆ ครับแต่หมอว่าไม่เกินพรุ่งนี้คุณเขาฟื้นแน่นอนครับ”
“ขอบคุณครับหมอ” หมอเดินออกจากห้องไปลินจึงเดินไปยืนอยู่ข้างเตียงแทนที่หมอพร้อมมองไปที่คีรันที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง
เสียงเรียกเข้ามือถือแผดดังขึ้นอลินตาที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปก็ชะงัก ก่อนจะเดินไปดูมือถือของคีรันที่มีสายโทรเข้ามา
‘ตาแก่’
คนตัวเล็กทำหน้างงเล็กน้อยเมื่ออ่านชื่อคนที่โทรเข้ามาก่อนจะถือวิสาสะรับสายนั้น ก่อนจะเอ่ยเสียงใสทักทายปลายสาย
“สวัสดีครับ”
‘นั่นใคร?’ เสียงทุ้มปลายสายเอ่ยถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนรับสายไม่ใช่เสียงลูกชายของตัวเอง
“ผมเป็นรุ่นน้องพี่รันครับ” ลินเอ่ยบอกปลายสายกลับไป และเดาว่าคนที่โทรเข้ามาคือพ่อของคีรันแน่ๆ เพราะเสียงฟังดูมีอายุไม่น่าจะใช่วัยเดียวกับคีรัน
‘แล้วไอ้รันไปไหนบอกมันมารับสายหน่อย’
“ตอนนี้พี่รันหลับอยู่ครับ”
‘ปลุกมันขึ้นมาคุณสายกับฉันที เดี๋ยวนี้เลย’ เสียงเอ่ยปลายสายสั่งเขา อลินตาจึงตัดสินใจบอกความจริงกับพ่อของคีรันไปเพราะไม่รู้จะโกหกต่อยังไง
“คือ พี่รันโดนยิงครับตอนนี้ปลอดภัยแล้วแต่ยังไม่ฟื้นครับ”
‘ว่ายังไงนะ! ไอ้รันถูกยิงอย่างนั้นเหรอ แล้วลูกน้องมันที่นั่นทำไมมันไม่โทรบอกกูวะว่าลูกกูโดนยิง แม่ง!’ เสียงเข้มพูดขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห จนลินต้องเอามือถือออกห่างจากหูก่อนจะได้ยินเสียงปลายสายพูดด่าลูกน้องตามมาทีหลัง
‘แล้วตอนนี้รันอยู่ที่ไหน อยู่โรงพยาบาลอะไร’
“เอ่อ… คือตอนนี้พี่รันรักษาตัวอยู่ที่บ้านของลิน ถ้าพี่รันฟื้นแล้วเดี๋ยวลินจะให้พี่รันติดต่อกลับไปนะครับ”
‘.....’ ปลายสายเงียบไปเมื่ออลินตาพูดจบ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ฮัลโหลครับคุณลุง”
‘หนูชื่ออะไรนะ’ น้ำเสียงพ่อของคีรันเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่เขารับสาย จากเสียงดุๆ เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงปกติจนอลินตาแปลกใจ
“ลินครับ”
'อืม... งั้นป๊าฝากดูแลพี่เขาด้วยนะ ถ้ารันฟื้นแล้วฝากบอกให้โทรกลับมาหาป๊าด้วยล่ะ'
“ครับ?” หลังจากนั้นพ่อของคีรันก็วางสายไปพร้อมกับทิ้งให้ลินยืนงงอยู่ตรงนั้น
“แปลกทั้งพ่อทั้งลูก”
เวลาล่วงเลยผ่านมาจนตอนนี้อาทิตย์หน้าอลินตาก็ต้องเตรียมของใช้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยเพราะถึงเดือนที่เขาใกล้จะคลอดแล้ว ตอนนี้ว่าที่คุณพ่อลูกสองก็เริ่มยุ่งๆ อยู่กับงานที่บริษัทเพราะเขาต้องมอบหมายหน้าที่ให้กับอีกคนเพราะคีรันอยากจะหยุดทำงาน 3 เดือนเพื่อออกมาดูแลลูกแฝดช่วยอลินตาตอนแรกที่ลินรู้ก็ไม่ยอมเพราะไม่อยากให้คีรันหยุดงานนานเกินไปเผื่อมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นที่บริษัท คีรันก็บอกกับเขาว่าคนที่ตัวเองมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทแทนคีรันในช่วงที่คีรันหยุดงานเป็นคนที่อยู่กับเขามานานและไว้ใจได้ แล้วคีรันก็ไม่ได้ให้คนนั้นมาดูแลแค่คนเดียวแต่จะมีป๊าของเขาเข้ามาดูแลช่วยด้วยอีกคนคนตัวสูงบดจมูกลงบนแก้มจ้ำม่ำของคุณแม่ลูกสองที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเด็กแรกเกิดอยู่ที่เตียงนอนเพื่อรอคีรันอาบน้ำเสร็จแล้วเข้านอนพร้อมกัน“อื้ออ!!”“หอมจัง” พูดจบก็เดินมาอ้อมเตียงมาฝั่งที่ตัวเองนอนก่อนจะขึ้น
เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที
สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล
คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq
“ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล
"ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที