เมื่อเจอกับสาวใช้อีกคน แต่พอหล่อนเห็นเธอก็ทำยังกับว่าเห็นผีอย่างงั้นแหละ รีบหนีไปทันที หนูอัญจึงเดินต่อเข้าไปด้านหลังและในที่สุดเธอก็เจอสิ่งที่ตามหา ‘เครื่องซักผ้า’ ถ้าเธอเอาพวกนี้โยนลงถังแล้วเธอจะใส่อะไรละ และสายตาก็เห็นราวแขวนเสื้อผ้าที่ตากไว้มากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย แต่ซักแล้ว หนูอัญเดินเลือกอย่างกับว่าเธอเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าก็ไม่ปาน เธอได้เสื้อแขนยาวสีเข้มที่เหมือนจะเล็กสุดของใครไม่รู้เธอหาสนใจอีกต่อไปแล้ว ต่อไปก็กางเกงเอวสามสิบสามใหญ่กว่าเธอเกือบสิบเซ็น แต่ก็ชั่งปะไร!เพราะน่าจะเป็นตัวที่เล็กที่สุดแล้ว และไม่ถึงสิบนาทีหนูอัญก็ออกมาจากห้องน้ำในครัวด้วยชุดที่ไปเลือกเฟ้นมาอย่างตั้งใจ เธอโยนเสื้อผ้าทุกชิ้นทั้งเล็กใหญ่ของเธอลงไปในเครื่อง น้ำยาซักและปรับผ้านุ่มวางเป็นระเบียบง่ายต่อการหยิบใช้ และหนูอัญก็หาที่นั่งเท้าคางรอ สามสิบนาทีต่อมาเธอก็นำเสื้อผ้าของตัวเองไปตาก มอสโคว์ในเดือนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงอุณหภูมิประมาณสิบองศาซึ่งเย็นมาก แต่เธอก็เลือกที่จะไม่กลับเข้าไปในบ้าน กางเกงที่เธอเอาเชือกมารัดขอบเอวไว้จนแน่นกับเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัวใหญ่ไม่ได้ทำให้เธออุ่นส
“ยังไม่มีใครตายนะ” ชอว์เอ่ยถาม ‘ใคร’ ในที่นี่ไม่ใช่หมายถึงคนของเขาแต่เขาหมายรวมถึงฝ่ายท่านวุฒิฯ ทั้งหมด ชายชุดดำที่รอบตัวพกอาวุธไว้มากมายตอบรับอย่างแข็งขัน “พวกแกเป็นใคร? ต้องการอะไร” เสียงตัวประกันชั้นสูงเอ่ยถามทันทีที่ชอว์เดินเข้ามา เขาทอดสายตากวาดมองคนที่ถูกจับไว้ทั้งหมดหกคน “ผมต้องการชีวิตของท่านและทรัพย์สินของท่านบ้างก็เท่านั้นครับ” ชอว์เอ่ยบอกอย่างสุภาพแต่น้ำเสียงราบเรียบฟังชวนขนลุกแปลกๆ หนูอัญที่เดินตามและยืนอยู่ด้านหลังชอว์ตลอด เธอขยับทันทีเมื่อได้ยินเช่นกัน แบบนี้มันไม่ถูก พรึ่บ! ฉึก ฉึก ชอว์มุ่นคิ้วเมื่อชายเสื้อถูกดึงอย่างตั้งใจ ควับ! เขาหันกลับมามองคนดึง “นะ…นี่…อึ้ก!!!!” ควับ!!! เมื่อท่านวุฒิฯ กำลังจะเอ่ยอะไ
ควับ!!! เอวบางถูกโอบและดึงจนหนูอัญล้มลงนั่งบนตักชอว์ที่เอาแผ่นหลังพิงรถหรูกันกระสุนไว้ วงแขนแข็งแรงข้างหนึ่งโอบกอดหนูอัญแนบลำตัวไว้แน่น ในขณะอีกข้างเขายังถืออาวุธไว้อย่างมั่นคง เสียงกระสุนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายชอว์ยังไม่มีใครยิงโต้ตอบกลับไป ม่อนยังนั่งอยู่ในรถหลังพวงมาลัยซึ่งแน่นอนว่าม่อนจะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพราะรถทั้งคันยังคงเป็นเกราะให้ทั้งสามชีวิตอยู่ตอนนี้ “กลัวมั้ย?” หนูอัญผงกศีรษะขึ้นมาจ้องหน้าจ้องตาคนถาม สายตาเธอบอกเค้าไปว่า ‘ถามโง่ๆ’ “ทำอะไรสักอย่างสิ เดี๋ยวก็ได้ตายก่อนกำหนดกันหมดหรอก” “เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย แปลกๆสักหน่อยทั้งๆที่คนของฉันจำนวนหนึ่งล่วงหน้ามาก่อน” ชอว์พูดพร้อมคิ้วขมวด “ป่านนี้ลูกน้องคุณคงตายกันไป
หนูอัญไม่พูดอะไรเธอพึ่งได้ออกมาจากคุกหลวงเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์เห็นจะได้ แล้วที่เธอมาอยู่ที่นี่ ศีรษะกลมผมยาวสลวยแหงนขึ้นมองทิวทัศน์รอบๆ เธอหมุนรอบตัวเองสองรอบและหยุดลงตรงหน้าเขา และแบมือยื่นไปตรงหน้าเขาในทันที “อะไร?” ชอว์ที่มองอากัปกริยานั่นอยู่ เอ่ยออกไป “ขอตังค์หน่อย เค้าเห็นร้านขายไอศกรีมตรงหัวมุมถนนตรงโน้น เค้าอยากกินไอศกรีม” “ไม่ใช่ตอนนี้! ไว้เสร็จงานแล้วจะพามากิน” “เสร็จงาน! เอ๋!!!! เดี๋ยวนะ! จะพาเค้าไปฆ่าคนด้วยเหรอ” หนูอัญร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ชอว์ไม่ตอบแต่เขายิ้มร้ายใส่เธอ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ทำให้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บหนูอัญไว้ข้างกาย เพราะฉะนั้นเขาจะต้องทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นเพราะเธอจะต้องกลายมาเป็น ‘อัญมณีอสูร’
ชอว์ยังเดินหน้ากระทำต่อไปเรื่อยๆ จนริมฝีปากเขาแห้งผาก เมื่อเห็นธารน้ำจากโพรงสาวหลั่งไหลออกมาไม่หยุด หนูอัญหอบหายใจไปพร้อมๆกับครางออกมา อ๊ะ! ชอว์ทนต่อสิ่งเย้ายวนตรงหน้าต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาดึงมือออกจากทั้งกลีบสาวและแท่งเนื้อของตัวเอง ใบหน้าขยับฝังลงเข้าหากลีบสาวอู้ยยยยยย!!! “ชอว์!!!!!!" หนูอัญกรีดร้องเรียกชอว์เสียงดังลั่น เมื่อปลายลิ้นของเขาแทนที่นิ้ว เสียงกรีดร้องของเธอช่างเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นของเขาเหลือเกิน ที่แท้พวกเธอรู้สึกแบบนี้เองเหรอถึงได้ร้องขอส่วนบุญออกมาแบบนั้น สิ่งที่หนูอัญคิดอยู่บิดเบือนไปจากความจริงอยู่มาก ชอว์นอกจากไม่เคยจูบผู้หญิงคนไหนมาก่อน เขาก็ไม่เคยใช้ปากและลิ้นกับกลีบสาวของผู้หญิงคนไหนมาก่อนด้วย เรียวลิ้นตวัดถูไถดุนดันโลมเลียกวัดแกว่งอย่างกับว่าผ่านประสบการณ์แบบนี้มาไม่น้อย ใครจะเชื่อว่าการดื่มด่ำสายธารแห่งความสาวมันช่างหอมหวานดั่งได้กินน้ำเพิ่มอายุวัฒนะก็ไม่ป่าน
พรืดดดด ชอว์กระชับอ้อมกอดมากขึ้นจนเนื้อแท้ท่อนบนแนบแน่นบนแผ่นอกกำยำ เขาสัมผัสได้ถึงยอดเกสรที่เบียดเสียดสีกับแผ่นอกเขา แค่นี้ก็ทำให้เรียวลิ้นฉกฉวยเร้าร้อนมากยิ่งขึ้นในโพรงปากหวาน ลิ้นเล็กไร้เดียงสายิ่งหนัก แต่ความไร้เดียงสานี้ไม่ว่าเธอจะขยับหรือทำอะไรเขาก็พึงพอใจทุกครั้ง จ๊วบ จุ๊บ! ชอว์ผละออกจากริมฝีปากแดงอย่างอ้อยอิ่ง เพื่อมาดูดรั้งเรียวคอเล็กขาวเสียงดังอีกครั้ง หนูอัญสั่นสะท้านซ่านเสียวและความรู้สึกนี้ก็วิ่งผล่านไปทั่วเรือนกายของเธอ แต่ที่หนักสุดบริเวณใจกลางสาวที่ตอนนี้เธอรู้สึกถึงการบีบรัดแปลกๆ ชอว์เลื้อยโลมเลียกัดเรียวคอขาวจนเกิดรอยแดงมากมายอีกครั้ง เสียงครางเล็กๆดังออกมาไม่ขาดสาย พรืดดดด แขนเล็กเกาะกุมไหล่กำยำไว้แน่น เมื่อชอว์ผละดึงร่างบางออกห่างเล็กน้อย ใบหน้าคมโน้มลง อื้มมมม หนูอัญครางออกมาเสียงดังระคน เมื่อยอดเกสรอกเต่งตึงถูกโพรงปากร้อนของเขาครอบครองอีกครา เ
หนูอัญไม่ตอบ เธอกระพริบตาถี่ขึ้นเพื่อไล่น้ำตาไม่ให้มันเอ่อออกมามากกว่านี้ ดวงตาเธอจับจ้องมองนัยน์ตาสีเทาที่มองจ้องเธอยู่ตลอดเวลา ดวงตาทั้งสองต่างมองกันและกันเหมือนดั่งมีแม่เหล็กต่างขั้วที่กำลังดูดซึ่งกันและกัน กว่าหนูอัญจะรู้สึกตัวลมหายใจเธอก็เป่ารดริมฝีปากชอว์ไปเสียแล้ว ระยะที่ห่างกันของริมฝีปากที่แทบจะไม่เหลือช่วงห่าง คำแหบพร่าก็ดังขึ้นมาเบาว่า “จูบของฉันยังเป็นของหนูอัญเพียงคนเดียว” สิ้นเสียงแหบพร่านั้น ริมฝีปากทั้งสองก็ประกบปิดช่องว่างระหว่างกันทันที ร่างบางถูกดึงเข้ามาเบียดร่างกำยำ ริมฝีปากเล็กถูกเปิดทางด้วยปลายลิ้นที่ฉกเข้ามาอย่างเร้าร้อน หนูอัญไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้เรียวลิ้นร้อนล้วงล้ำเข้าสู่โพรงปากหวานอีกครั้ง หนูอัญยอมรับเลยว่าเธอไม่เคยคิดถึงจูบครั้งแรกระหว่างเขากับเธออีกเลย แต่ทำไมนะเมื่อได้พบเจอกันอีกครั้ง เธอถึงรู้สึกแน่นหน้าอกเพราะจู่ๆเธอกำลังคิดว่าตัวเธอกำลังจะเป็นโรคหัวใจโตเสียแล้ว และมันจะเต้นแรงเร็วแบบนี้ทำไมกัน