แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: จิ่นหลี่ชีชี
คะแนนของเขานี้ ไม่ได้แย่ธรรมดานะ!

ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งร้อยวัน ก็ไม่รู้ว่าจะเพิ่มขึ้นได้ไหม

ยิ่งไม่รู้ว่าสู่เนี่ยนชูระดับเป็นยังไง จะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเธอได้ไหม

หากว่าไม่ได้ จะต้องทำยังไงถึงจะรักษาการติดต่อกับเธอได้

หลินโจวคิดไปคิดมา พลันรู้สึกได้ว่ามีสายตานึงจ้องมาทางเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

เขาหันไปก็มองเห็นสู่เนี่ยนชูรีบดึงสายตากลับไปอย่างประหม่า ก้มศีรษะลง ทำเป็นขีดขีดเขียนเขียนบนกระดาษ

ยัยคนนี้ ไม่มีกระดาษทดสอบของเมื่อวาน

ใช่สินะ

พวกเขามอหกแล้วทุกสัปดาห์จะมีทดสอบ1-2 ครั้ง

วันนี้คุณครูจะอธิบายข้อสอบอันที่ทดสอบไปเมื่อวาน

เธอเพิ่งย้ายมาวันนี้ ไม่มีข้อสอบก็ถือว่าปกติล่ะนะ

แต่เห็นเธอแบบนี้แล้วดูท่าว่าอยากจะยืมดูของเขาแต่ก็ไม่กล้า

ยัยคนนี้กลัวการเข้าสังคมจริง

หลิวโจวลอบคิดในใจ จากนั้นก็มองไปที่ข้อสอบของตัวเอง

ณ ตอนนี้เวลานี้ เขารู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากที่ตัวเองไม่ตั้งใจสอบให้ดี

ได้ยินว่าความประทับใจแรกสำคัญมาก ถ้าหากว่าหญิงสาวคนี้ไม่ขอบเขาแล้วล่ะทำอย่างไรดี

โว้ยมันน่าหงุดหงิดเสียจริง

แต่จะหงุดหงิดอย่างไร หลินโจวก็ทนไม่ได้กับท่าทางเมียงมองกล้าๆ กลัวๆ ของเธอแบบนั้น

เขาอยากจะเรียกเธอมาดูเสียเลยด้วยซ้ำ แต่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วเธอยังขี้กลัวแบบนี้ด้วย

ไม่รู้ว่าจะตกใจกลัวหรือเปล่า

หลิวโจวคิดแล้วคิดอีก ตั้งใจเลื่อนข้อสอบไปวางไว้ตรงกลางระหว่างสองคน

สู่เนี่ยนชูเหมือนค้นพบแผ่นดิใหญ่อันใหม่อย่างไรอย่างนั้น ดีใจจนยิ้มออกมา แต่ไม่นานก็หุบยิ้ม ค่อยๆ เหลือบมามองทางหลิวโจว

หลิวโจวพอใจกับสถานการณ์แบบนี้อย่างยิ่ง

แต่ว่าไม่นาน เขาก็พบว่าเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาขมวดคิ้วน้อยๆ ราวกับไม่เข้าใจกากบาทสีแดงบนกระดาษนี้ว่ามายังไง

หลิวโจวคิดแต่ว่าอยากจะมุดหายไปเสียเดี๋ยวนั้น

จะต้องคิดหาวิธีให้เรียนได้ดีขึ้นแล้ว

ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวหาจังหวะไปคุยกับหลิ่วชิงเยี่ยน ให้เธอและจางถลกหนังระดมอาจารย์มาช่วยเขาติวเพิ่ม

หลินโจวทางนึงคิดถึงความเป็นได้ของเรื่องนี้ อีกทางนึงก็คิดว่าทำไมคนอื่นย้อนเวลากลับมาถึงมีอภินิหารย์แต่เขากลับไม่มี

หากว่าในเวลานี้มีความสามารถเห็นแล้วจดจำได้ไม่ลืม ตัวเขาเองก็ไม่ต้องเครียดแบบนี้แล้ว

หลิวโจวยิ่งคิดยิ่งโมโห

ช่างเถอะ ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนดีกว่า

เรียนได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่ครั้งหน้าจะต้องไม่สอบได้ศูนย์อีกก็พอ

คิดดังนั้น หลิวโจวก็มองไปที่ข้อสอบของเขา

มองครั้งนี้ไม่อะไร เขาพบว่า ในข้อสอบที่หลิ่วชิงเยี่ยนอธิบายเหล่านั้นมันเข้าไปในหูของเขาอย่างชัดเจน

อีกทั้ง ยังจำได้หมดอีกด้วย

หลินโจวเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ว่าหัวของเขาปลอดโปร่งขนาดนี้

นี่...

นี่คงไม่ใช่สวัสดิการหลังจากกลับมาเกิดใหม่หรอกนะ

หลิวโจวรีบมองตามข้อสอบข้ออื่นไปเรื่อยๆ พบว่าคำตอบผิดทั้งหมดแล้ว เขารีบพลิกหนังสือเรียนวรรณกรรม

สู่เนี่ยนชูเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่นี้กำลังหาอะไรอยู่นะ

ทำไมพลิกหน้ากระดาษมั่วซั่วแบบนั้น

"เอ่อ นาย..."

ฉันกำลังดูบทความเดิมของข้อสอบข้อนี้"

สู่เนี่ยนชูหันไปมองข้อสอบข้อนั้นที่เขาชี้ แล้วก็มองไปที่หนังสือที่ถูกเขาพลิกอย่างมั่วซั่ว ก็รู้สึกอดรนทนไม่ได้

"ข้อนี้มาจากหนังสือมอห้าเล่มสองหน้าที่ 103..."

หลินโจวรีบหยิบหนังสือมอสี่เล่มสองวรรณกรรมโยนเข้าไปในโต๊ะ หยิบของมอห้าออกมา

พลิกไปหน้า 103 แน่นอนว่าเขาก็พบบทความนั้น

หลิวโจวตกตะลึงมองไปยังสู่เนี่ยนชู

ยัยเด็กข้างโต๊ะนี่ ไม่ธรรมดานะเนี่ย

สู่เนี่ยนชูรู้ว่าถูกมองก็รีบก้มหน้างุด ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป

หลินโจวก็ไม่ได้สนใจ เจาเปิดสมุดดูบทความเดิม

หลังจากอ่านไปรอบหนึ่ง เขาก็พบว่าตัวเองสามารถจำเนื้อหาบางส่วนได้

หลินโจวรีบอาศัยจังหวะนี้อ่านรอบที่สอง

ครานี้ บทความทั้งอันก็ประทับอยู่ในหัวเขาทั้งหมด

หลิวโจวตะลึงในนาทีนั้น

นี่เป็นสวัสดิการใหญ่หลังมาเกิดใหม่

นี่มันดีจริงๆ

ถือว่าเป็นอาวุธวิเศษในการเรียนเลยทีเดียว...
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 140

    คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 139

    สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 138

    มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 137

    ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 136

    “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 135

    “ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status