ยามเซิน (15.00-17.00 น.) แสงแดดสีทองอ่อน ๆ สาดส่องไปยังลานฝึกซ้อมในพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามและโอ่อ่า เมิ่งซีในชุดฝึกรัดกุมกำลังประมือกับสามีอย่างจริงจัง ร่างกายของนางสูงเพียงไหล่ของเขาเท่านั้น ทำให้นางต้องใช้ความรวดเร็วและความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวเข้าสู้ ด้วยท่วงท่าที่คล้ายกับศิลปะก
ห้องทรงงานที่อบอุ่นแสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องเข้ามาภายในห้องทรงงานอันกว้างขวางขององค์ฮ่องเต้ จ้าวอวี้กำลังนั่งอยู่บนแท่นบรรทมที่ถูกดัดแปลงให้เป็นโต๊ะทรงงานขนาดใหญ่ ภายในห้องเต็มไปด้วยกองฎีกาและตำราโบราณมากมาย แต่บรรยากาศกลับไม่ได้ดูตึงเครียดเลยแม้แต่น้อยจ้าวอวี้หันไปมองลูกชายคนโต องค์รัชทายาทอวิ๋นเจ
5 ปีต่อมาตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา แคว้นเว่ยได้ฟื้นคืนจากเถ้าธุลีและผงาดขึ้นใหม่อีกครั้ง ภายใต้การปกครองของราชวงศ์จ้าว การขึ้นครองราชย์ของจ้าวอวี้และเมิ่งซีในฐานะฮ่องเต้และฮองเฮาองค์ใหม่ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากราษฎรทุกหมู่เหล่า พวกเขาทั้งสองไม่ได้เป็นเพียงผู้ปกครอง แต่ยังเป็นผู้ที่นำพาคว
เมิ่งซีหันไปมองสามีของนางด้วยสายตาแห่งความพึงพอใจ"ยังเป็นท่านพี่ที่รู้ใจข้าที่สุด... เอาเป็นว่าข้าจะไม่ทำให้ท่านพี่ผิดหวังเจ้าค่ะ"ในใจของเมิ่งซีรู้สึกดีใจจนอยากจะโห่ร้องออกมา เพราะคนเหล่านั้นที่ถูกจัดการไป ย่อมมีทรัพย์สินมากมายที่ได้จากการโกงกินแอบซ่อนไว้ที่จวน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะฉลาดมากน้อยแค่ไหน
แสงแดดยามบ่ายคล้อยเริ่มอ่อนแรงลง ทอดเงาต้นไม้ให้ยาวขึ้นไปตามพื้นดิน ไท่ซ่างหวงโฮ่วในชุดผ้าฝ้ายธรรมดาเดินเก็บผักอยู่ในสวนอย่างสบายใจ มือของนางค่อย ๆ เด็ดใบผักใส่ตะกร้าอย่างเบามือ สายตาก็ทอดมองไปยังธรรมชาติรอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความสงบเงียบและอุดมสมบูรณ์ นางรู้สึกเหมือนได้กลับคืนสู่รากเหง้าของตนเองอีกครั
หลายวันต่อมารถม้าของเหวินลั่วและเสี่ยวซือเคลื่อนตัวเข้ามาในหมู่บ้านเถียนสุ่ย อนุฉินกับทุกคนที่อยู่ในรถม้าต่างก็ชะเง้อคอมองออกไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ภาพเบื้องหน้าคือหมู่บ้านที่ดูสงบและอุดมสมบูรณ์อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีบ้านเรือนและอาคารพักคนงานตั้งเรียงรายอยู่หลายแห่ง พื้นที่ในแปลงนาเต็มไป