นางละทิ้งคนรักที่หักหลัง ทิ้งแม้กระทั่งชื่อเดิม แต่กลับมาพบกับท่านอ๋องแห่งม่านโจว นางกลัวตัวตนจะถูกเปิดเผยจึงหลีกหนี แต่เขากลับสนใจและตามติดดุจเงา “ใครใช้ให้นางปากแข็ง ถ้าไม่ชอบแล้วจูบตอบข้าทำไมเล่า!” "ไป๋หรูเฟย" หนีความผิดหวังทั้งในตัวคนรักเก่า และบิดามาจากเมือง "ซานตง" นางเลือกที่จะมาที่เมือง "ม่านโจว" เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับพบกับเขา.... "จ้าวเฟิงหมิง" ท่านอ๋องที่ปกครองเมืองม่านโจว เขาสุขุมและเด็ดขาดในการปกครองคนและกองทัพ แต่เมื่อพบกับนาง เขาก็เกิดสนใจนางขึ้นมาจนตามสืบ แต่เมื่อสืบลึกลงไปแล้ว เขาก็ยิ่งอยากรู้ว่านางเป็นใครมาจากไหน จากแค่เริ่มสนใจตามหน้าที่ กลายเป็นความผูกพัน ยิ่งนางหลบหลีกเขาเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากติดตาม “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ค่อยชอบหน้าข้านะ ไม่อยากต้อนรับข้างั้นหรือไป๋หรูเฟย” จากแค่อยากยั่วโมโหเพื่อผ่อนคลาย กลับกลายเป็นความชอบไปโดยไม่รู้ตัว จากชอบ...ก็เริ่มตามติด และอยากอยู่ใกล้ ๆ จนตามหึงหวง...
ดูเพิ่มเติมร้านขนมหรูเฟย“ไม่ได้นะเพคะพระชายา นั่งอยู่เฉย ๆ เถิดเพคะ”หรูเฟยลุกขึ้นมาหยิบขนม เพื่อจะนำออกไปหน้าร้านแต่กลับถูกจินถานดึงเอาไว้“พี่หรูเฟยท่านอย่ายืนตรงนี้สิเพคะ เดินไปนั่งในสวน แต่ถ้าไม่รู้จะทำอะไรก็กลับตำหนักไปก่อนเถิดเพคะ เดี๋ยวหกล้มไปท่านพี่จะหาว่าข้าไม่ดูแลท่านเอานะ"“ท่านหญิงเพคะ! เหตุใดจึงต่อว่าพระชายาเช่นนั้น พระชายาเพคะ…”“แม่นมเซี่ยอย่าไปต่อว่านางเลย อันถิงก็มักจะพูดเช่นนี้ท่านยังไม่ชินอีกหรือ ข้าไปนั่งตามที่นางสั่งดีกว่าจะได้ไม่วุ่นวายคนอื่นด้วย”“หม่อมฉันพยุงไปเองนะเพคะ”แม่นมเซี่ยเป็นฝ่ายช่วยพยุงนางไปนั่ง ตอนนี้อันถิงแทบจะทำงานแทนนางได้ทุกอย่างในร้านแล้ว เพราะหรูเฟยสอนให้นางเริ่มดีดลูกคิดและทำบัญชี แม้ว่าจะยังไม่เก่งมากแต่อันถิงเป็นเด็กหัวไว สอนเพียงนิดเดียวก็จำได้แล้ว หรูเฟยนั่งมองทั้งสามคนดูแลลูกค้า สักพักอันถิงก็ยกขนมมาวางให้นาง“นี่อะไรหรือ”“พี่หรูเฟยเมื่อครู่นี้ข้าตะคอกใส่ท่านรุนแรงไปหน่อย เพราะเป็นห่วงกลัวว่าท่านจะหกล้ม ข้าขอโทษด้วยเพคะ"“เด็กดี ข้าต่างหากที่มาเพิ่มความวุ่นวายให้เจ้า นี่หมั่นโถวที่เจ้าทำเองหรือ ฝีมือเจ้าเก่งขึ้นมากเลยนะ”“ใช่เพคะ ข้าให้พี่จินถานส
“อะไรนะเพคะ เมื่อครู่นี้ในห้องอาบน้ำนั่น…ก็ตั้งหลายรอบแล้ว”“ข้ารู้ว่าเจ้าคงเหนื่อยสินะ เห็นแม่นมเซี่ยบอกว่าช่วงนี้เจ้าเอาแต่ง่วงนอนในช่วงบ่าย ขนาดสอนอันถิงเดินหมากเจ้ายังเผลอหลับ จริงหรือไม่”“หม่อมฉันแค่รู้สึกเพลียมากกว่าปกติ อีกอย่างอากาศเย็นร่างกายก็เลยมีแรงน้อยลงกระมังเพคะ”“เช่นนั้นเราก็ควรจะรีบกินให้อิ่ม แล้วพักผ่อนให้มาก ๆ คืนนี้ข้าจะไม่รังแกเจ้าแล้ว จะได้พักผ่อนให้เต็มที่”“เพคะ”ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันถึงหัวข้อเหล่านี้อีก แม้ว่าหรูเฟยเองจะยังรู้สึกเห็นใจท่านอ๋อง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยเขาและทำหน้าที่พระชายาให้ดีอย่างไร้ที่ติ ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนก็ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่านางเป็นสตรีที่เหมาะสมกับท่านอ๋องสิบวันถัดมา / ประชุมราชสำนัก“นอกจากเรื่องปัญหาชายแดนแล้ว ยังมีอะไรอีกหรือไม่”“ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมกับเหล่าขุนนางเห็นว่าในตอนนี้ บ้านเมืองสงบไร้ศึกสงคราม เหมาะสำหรับที่จะเพิ่มตำแหน่งสตรีสูงศักดิ์ เพื่อช่วยเหลือพระองค์คลายกังวลเกี่ยวกับ…”“พอเถอะใต้เท้าจาง สุดท้ายแล้วก็อยากให้ข้าแต่งตั้งสนม หรือไม่ก็พระชายารองเพิ่มงั้นสินะ”ใต้เท้าจางกระแอมออกมา และรีบหันไปหาคนอื่น ๆ เพื่อช่วย
ตำหนักท่านอ๋องวันนี้เป็นการประชุมราชสำนักประจำเดือนที่ค่อนข้างตึงเครียด เมื่อท่านอ๋องกลับมาถึงตำหนัก ก็มุ่งหน้าไปแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายในทันที เสียงประตูห้องอาบน้ำเปิดออกมา พระองค์คิกว่าหยวนจื่อนำผ้ามาให้จึงได้ตะโกนออกไป“วางเอาไว้แล้วออกไปเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการเอง”“เหตุใดจึงรีบไล่ถึงเพียงนี้เล่าเพคะ หม่อมฉันก็แค่อยากจะมาอาบน้ำให้พระองค์เท่านั้น”“หรูเฟยเจ้าเองหรือ แล้วหยวนจื่อเล่า”“หม่อมฉันให้หยวนจื่อไปรับอันถิงที่ร้านเพคะ วันนี้ควรจะกลับตำหนักเล็กได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนกับอาจารย์สอนวาดภาพ”“เช่นนี้เองสินะ”ไป๋หรูเฟยเดินมาใกล้ ๆ และพลันถอดชุดออกและเดินลงมาในสระน้ำอุ่น ท่านอ๋องกับนางแม้จะอภิเษกกันมากว่าสามเดือน แต่ก็ยังไร้วี่แววทายาท บัดนี้เริ่มถูกเหล่าขุนนางกดดันอีกครั้งด้วยเรื่องของผู้สืบทอด ซึ่งหากจะพูดให้ถูกก็คือ อยากให้ท่านอ๋องแต่งตั้งพระสนมเข้าวังมาเพิ่ม หรูเฟยรับรู้เรื่องนี้จากหยวนจื่อมาก่อนแล้ว จึงได้เข้ามาหาเขา“เอนศีรษะมาสิเพคะ วันนี้พระองค์คงเหนื่อยล้ามาก หม่อมฉันจะนวดให้นะเพคะ”“อืม… ยังคงเป็นเจ้าที่รู้ใจข้ายิ่งนัก วันนี้ประชุมหลายเรื่องมากจริง ๆ เลยรู้สึกล้า ก็เลยอยากอา
หรูเฟยมิได้ขัดขืน นางเพียงแค่โอบรอบคอเขาให้แน่นกว่าเดิมเพื่อให้ท่านอ๋องอุ้มไปที่ห้องนอน ซึ่งทั้งคู่มีค่ำคืนแห่งความทรงจำครั้งแรกด้วยกันที่นี่ และบัดนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ได้กลับมา“ยังจำได้หรือไม่”“จำได้สิเพคะ ไม่มีวันลืม”“เช่นนั้นเรามารำลึกความหลังกันอีกครั้ง ในวันนั้นเจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องวุ่นวายในใจ ครั้งนั้นพวกเราช่วยกันก้าวข้ามเรื่องนั้นมาได้ วันนี้มาที่นี่ในฐานะพระชายาของข้า ดังนั้นคืนนี้ก็เริ่มทำหน้าที่ของเจ้าเสียแต่โดยดี”“หม่อมฉันยินดีเพคะ”หรูเฟยเริ่มจากจูบเขาและค่อย ๆ ดึงฉลองพระองค์ของท่านอ๋องออกและเริ่มปลดเปลื้องชุดของตัวเองออกต่อหน้าเขา ท่านอ๋องแทบจะทนไม่ไหวเมื่อนางทำเช่นนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผิวเนื้อเนียนตรงหน้าที่ผ่านการขัดและอบร่ำสมุนไพรตามตำรับวังหลวง ทำเอาพระทัยท่านอ๋องสั่นไม่เป็นจังหวะ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว และเริ่มระเริงรักอุ่นเตียงก่อนที่เสียงดอกไม้ไฟลูกสุดท้ายจะดังขึ้น“อื้อ…อ๊าา เบาหน่อยเพคะ”“หอคอยในคืนนี้ไม่มีคนอื่น มีเพียงเราสองคน ต่อให้เจ้าร้องดังมากเท่าใดก็ไม่มีใครได้ยิน”“อ๊าา….”ลิ้นของเขาฉกช่วงชิงความหวานจากยอดปทุมคู่งามอีกครั้ง มือหนาบีบเคล้นจนนาง
“เฟิงหมิง! ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเหตุใด….”“ก็มาตอนที่เจ้ากำลังคิดแผนการจะหนีงานแต่งน่ะสิ”“ข้าเปล่านะเพคะก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย”ท่านอ๋องจับตัวนางพลิกขึ้นมา และทาบตัวลงไปกดทับนางเอาไว้มิให้หนีทันที เขาใช้นิ้วหยอกไปที่ปลายจมูกของนางอีกครั้ง“ก็ลองทำดูสิ ดูว่าเจ้าจะถูกลงโทษเช่นไร”“ท่านอย่าทำรุ่มร่ามนะ ข้าไม่อยากมีรอยบนตัวในช่วงนี้ อายคนอื่น”“อายทำไมกัน เจ้าคิดว่าพวกนู่กวนหรือหมัวมัวพวกนั้นไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนหรือ ไม่เอาน่ายิ่งเจ้ามีครรภ์เร็วเท่าใดก็ยิ่งดี ข้าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องตอบคำถามของเหล่าขุนนาง ก่อนหน้านั้นก็เร่งให้ข้าแต่ง หลังจากแต่งก็คงเร่งให้มีบุตร ไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ”“เหนื่อยหรือเพคะ”“นิดหน่อยน่ะ วันนี้หลังจากประชุมเสร็จ หลิวกงกงก็พาช่างภูษามาวัดตัวและคุยเรื่องงานอภิเษก เจ้ากรมพิธีการคนใหม่ก็เร่งทำผลงานเสียจริง เอาแต่ถามข้าไม่หยุดว่าเจ้าชอบหรือไม่ชอบอะไร แม้แต่ม่านในห้องส่งตัวยังถามอยู่ตั้งสามสี่ครั้งว่าข้าชอบหรือไม่ ขอเอนหลังนอนตักเจ้าพักสายตาสักครู่เถอะ"ท่านอ๋องขยับไปนอนที่ตักของหรูเฟย ซึ่งลุกขึ้นมานั่งและให้เขานอนที่ตัก มือนางถูกเขาดึงไปจูบและกอดเอาไว
หรูเฟยเงยหน้าขึ้นมา และประทับจูบลงบนจมูกคมคายตรงหน้า นางลูบไปตามใบหน้าคมของเขา ท่านอ๋องหลับตาคล้อยตามสัมผัสของนาง ริมฝีบางอุ่นของหรูเฟยค่อย ๆ บดลงมาประกบกับปากอิ่มของเขา ร่างของทั้งคู่เริ่มเบียดกันจนผ้าห่มเริ่มหลุดรุ่ยลงไปจากเตียง“หรูเฟย…ข้าสัญญาว่าจะเบามือ”“กอดหม่อมฉันเถิดเพคะ”ท่านอ๋องมิได้รั้งรอหลังจากนั้น เขาอดทนรอให้นางหายมาหลายวัน จนวันนี้ที่ทุกอย่างถูกจัดการจนจบสิ้น คนร้ายได้รับโทษตามที่สมควร และท่านอ๋องก็ทำตามที่เคยให้คำมั่นไว้ “จัดการให้หมดทุกคนไม่มีข้อยกเว้น”“ข้ารักเจ้ายิ่งนัก หากทนไม่ไหวก็รีบบอก ข้าจะอ่อนโยนลง”“ข้ารักท่านจ้าวเฟิงหมิง ได้โปรดรักข้าเถิดเพคะ”จุมพิตเร่าร้อนได้เริ่มขึ้น ท่ามกลางค่ำคืนอากาศที่เริ่มหนาวเย็นกลางฤดูใบไม้ร่วง แผลบนเรือนร่างของนางตอนนี้เริ่มหายสนิทแล้ว เหลือแค่ที่ศีรษะซึ่งยังต้องทำแผลอยู่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าหายดีแล้ว“อ๊ะ…ท่านอ๋อง…”หน้าอกอวบถูกเขาบีบเคล้น ยอดอกที่แข็งเป็นไตสู้มือเมื่อถูกลิ้นอุ่นโลมเลียจนเปียก ร่องรักที่เริ่มแฉะถูกกระตุ้นด้วยนิ้วเริ่มส่งเสียงออกมา บทรักท่านอ๋องเร่าร้อนขึ้นตามไฟปรารถนาที่ลุกท่วม “อ๊าา…เฟิงหมิง อื้อ…”เสียงบดกระแท
ความคิดเห็น