ของขวัญมัดจำ“แม่นอนคนเดียวได้แน่นะครับ” เขาถามแม่ขึ้นมาทันที เมื่อรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ แล้วแม่ของเขาบอกว่าจะค้างที่นี่“ตาคิน นี้แกเห็นแม่อายุ ห้าขวบหรือไง ลืมไปแล้วหรือว่าแม่น่ะ ห้าสิบกว่าแล้วนะ” นิตยาตวัดตามองลูกค้าขึ้นมาทันที“แต่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่รู้แหละ! ผมจะไปตามป้าภัทรให้มานอนเป็นเพื่อน” อคิราห์ขึ้นมา พร้อมบอกว่าจะให้แม่บ้านที่เป็นแม่ของธวัฒน์มาอยู่เป็นเพื่อน เผื่อว่าแม่ต้องการอะไร“แล้วแต่แกเลย ส่วนแกก็รีบ ๆ ขึ้นไปนอนเสียละ การงานก็มีต้องทำ อย่านอนดึกมากล่ะ” เมื่อเห็นว่าขัดลูกชายไม่ได้ นิตยาจึงต้องยอมอ่อนข้อให้ แล้วเอ่ยปากไล่ลูกชายขึ้นไปพักผ่อนทันที“ผมนอนไม่ดึกหรอกครับ แค่เกือบเช้าแค่นั้นเอง” เมื่อแม่พูดเช่นนั้น อคิราห์ก็เอ่ยแหย่แม่กลับไปทันที อย่างรู้ทันกัน“ตาคิน! คอยดูน่ะสักวันแม่จะพาเมียแกหนี” นิตยาค้อนใส่ลูกชายอย่างไม่ยอมแพ้ โดยเอาหญิงสาวมาขู่เขาทันที“อย่าแม้แต่จะคิดเชียวล่ะแม่ พรากผัวพรากเมียเขามันบาปน่ะ” เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ตอบโต้แม่กลับในทันที“หึ...กล้าเรียกน้องเขาว่าเมีย มีอะไรยืนยันหรือมัดจำเขาไว้บ้างยัง” นิตยาเค้นหัวเราะเยาะใส่ลูกชาย“นั่นสิน่ะ ทำ
พยายามตีสนิทตกเย็นเย็นนี้นิตยาขอค้างที่นี่กับลูก โดยอ้างว่าเดินทางกลับไปลำบากเพราะเธอยังคงใช้ไม้เท้าค้ำยันอบู่ เพราะยังเดินเองไม่ได้“เอ่อ คุณป้าขึ้นไปนอนที่ด้านบนดีกว่านะคะ” สิตาพัชร์พูดขึ้นมา เมื่อเดินมาหานิตยาที่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟาที่เดิม“เรียกแม่เถอะ” นิตยาเอ่ยบอก เมื่อได้ยินหญิงสาวยังเรียกว่าป้า“คุณแม่นอนด้านบนดีกว่าคะ เดี๋ยวหนูช่วยพยุงไปนะคะ” สิตาพัชร์เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง แต่รอบนี้หญิงสาวยังคงทนตัวเองว่าหนู“เรียกแทนตัวเองว่าแพรเถอะน่ะ แม่ว่าน่ารักดีออก แม่ว่าแม่นอนห้องข้างล่างนี้แหละ ขึ้นลงบันไดไม่ค่อยสะดวก เดี๋ยวจะลำบากพวกลูกเอา” นิตยาเอ่ยบอกเธอออกไปเพราะเกรงใจลูก มาค้างกัยลูกยังจะลำบากลูก ๆ อีกเพราะเอ็นดูในความน่ารักตามวัยของเธอ ถึงแม้เธอจะอายุเพียงเท่านี้ แต่การกระทำของเธอช่างรู้ความเสียเหลือเกิน เธอตกหลุมรักแม่สาวน้อยคนนี้เข้าแล้วสิ“ตามใจท่านเถอะแพร พี่จะไปโรงอาหารน่ะ แพรจะไปด้วยไหม” อคิราห์พูดขึ้นมา เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน หลังจากที่ออกไปสั่งงานคนงานมา“พี่คินไปคนเดียวเถอะคะ แพรขออยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ที่นี่ดีกว่า เผื่อท่านต้องการอะไรเพิ่ม” หญิงสาวเอ่ยตอบเขา พร้อมกับส่
ความจริงก็คือ...“นี้ตาคินไปไหนเหรอ ไม่เห็นมาต้อนรับทีมงานเขาเลยเป็นเจ้าของไร่แบบไหนกัน ไอ้วัฒน์โทรฯตามเจ้านายแกด่วนเลย บอกว่าแม่มาหาให้รีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย” นิตยาที่วันนี้หอบสังขารตัวเองมาหาลูกชายถึงที่บ้าน กลับไร้แม้แต่เงาของลูกชาย เพราะลูกชายไม่อยู่เลย เลยต้องลำบากธวัฒน์ลูกน้องคนสนิทที่ต้องรับหน้าแทนอีกเช่นเคย“ครับ ๆ เดี๋ยวผมตามให้” ธวัฒน์รับคำ แล้วรีบต่อสายหาเจ้านายหนุ่มเจ้าของไร่ทันทีส่วนทางด้านของอคิราห์เอง เมื่อเพื่อนทั้งสองกลับไปแล้ว ก็หวังว่าจะได้พักผ่อนที่นี่ต่ออย่างสบายใจ ไม่มีใครมารบกวนแล้ว แต่กลับต้องทำหน้าไม่สบอารมณ์ เมื่อลูกน้องคนสนิทอย่างธวัฒน์โทรศัพท์มาแจ้งว่า นิตยา แม่ของเขามาหาถึงที่บ้าน จึงรีบให้เขากลับไปที่บ้านด่วนอคิราห์จึงจำใจต้องทำตามคำสั่งของแม่ ปั่นจักรยานพาสิตาพัชร์กลับเข้ามาที่บ้านทันที โดยผ่านทางทีมงานถ่ายทำอยู่พอดี แต่เขาที่เป็นเจ้าไร่หากได้สนใจอะไรไม่ จึงรีบปั่นจักรยานพาหญิงสาวกลับมาที่บ้านโดยเร่งด่วน“คนที่ปั่นจักรยานผ่านเมื่อกี้นั้นใครหรือค่ะ ลักษณะท่าทางดูเหมือนไม่ใช่คนงานที่นี่เลย” พัชร์สิตานางเอกสาวถามทางทีมงานขึ้นมา เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเข้า
เคารพการตัดสินใจของเพื่อน“อะไรน่ะ! เธอเป็นคนที่มึงจับมาผิดตัว เพราะเข้าใจผิดคิดว่าคือคนเดียวกับที่พ่อมึงมีสัมพันธ์ด้วย แต่ตัวจริงคือพี่สาวต่างแม่ที่หน้าตาเหมือนกัน” เธียรวัฒน์สบถออกมา แล้วพูดขึ้นมาทันที ที่ได้ฟังคำอธิบายจากอคิราห์เล่าทั้งหมดมาจนจบ“ไม่น่าล่ะกูถึงว่าหน้าตาคุ้น ๆ ที่แท้ก็เป็นน้องสาวดารานี้เอง” ธีรเมธพูดเสริมขึ้นมาทันที เมื่อจับใจความสำคัญได้“แล้วมึงจะเอาไงต่อเพื่อน ดูเธอก็ยังเด็กด้วย เกิดพ่อแม่เธอรู้เข้า ไม่เอามึงเข้าคุกเหรอ” เธียรวัฒน์ถามขึ้นมาอีกครั้ง เพราะจากที่สังเกตอาการหนักใจของเพื่อน และเรียบเรียงความหมายดูจากเพื่อนเล่า“แม่เธอเสียแล้ว ส่วนพ่อก็ไม่ได้เลี้ยงดู แต่กูจะไปส่งเธอแน่นอน แล้วทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง” อคิราห์เล่าบอกอีกครั้ง เพราะตั้งใจจะทำตามที่พูดเอาไว้จริง ๆ“ถูกต้องคือยังไงของมึง” ธีรเมธถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด“รับผิดชอบเธอ” เขาพูดออกมาตามตรง เพราะตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกทันที ที่ได้รับรู้ตัวตนของเธอแล้ว“มึงชอบน้องเขาเหรอไอ้คิน” เธียรวัฒน์ถามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเพื่อนจะเอาจริงอย่างที่พูดไว้แน่ แต่ก็ถามดูเพื่อความแน่ใจ“กูไม่รู้ แต่กูรู้ส
ถูกเซอร์ไพรส์กลับทางด้านสองหนุ่มเพื่อนซี้อย่างเธียรวัฒน์และธีรเมธ วันนี้ก็แวะมาหาเขาที่ไร่โดยไม่แจ้งให้เขาทราบล่วงหน้า และก็เป็นจังหวะที่ทีมงานทางกองถ่ายมาถึงพร้อมกันกับพวกเขาพอดี“ที่ไร่มันมีงานอะไรว่ะ ทำงานครึกครื้นเป็นพิเศษ” เธียรวัฒน์พูดขึ้นทันที เมื่อเห็นผู้คนมากมายกำลังวุ่นวายกันไปหมด“นั่นสิ แล้วเจ้าของไร่มันไปไหน ไม่ออกมาต้อนรับเลย” ธีรเมธพูดเสริมขึ้นมาอีกคน แล้วหันซ้ายแลขวาก้ไม่พบกับเจ้าของไร่แห่งนี้“ธวัฒน์เจ้านายแกไปไหน แล้วนี่มีงานอะไรกัน” เธียรวัฒน์จึงหันไปถามทางธวัฒน์ที่เดินมาหาพวกเขาอยู่พอดี“อ่อ วันนี้ทางกองถ่ายละครมาขอใช้สถานที่ไร่เพื่อถ่ายทำ ส่วนคุณคินแอบหนีไปพักผ่อนแล้วครับ งานทั้งหมดผมเลยต้องมาจัดการแทนครับ” ธวัฒน์เอ่ยตอบสองหนุ่มกลับไป“ไอ้นี่มันแปลกคน มีแต่ดาราสาวสวย ๆ ทั้งนั้นเลย ไอ้เธียรไปดูหน่อยไหม” ธีรเมธพูดถึงเพื่อนเขาอย่างอคิราห์ แล้วหันมาแซวทางเธียรวัฒน์อีกคน“ไม่หว่ะ กูไม่ชอบพวกดารา” เธียรวัฒน์รีบปฏิเสธทันควัน โดยไม่ต้องคิดเลย เพราะเขาไม่ชอบสาวสวยพวกนั้นจริง ๆ“แล้วมึงจะไปไหนไอ้เธียร ไอ้คินมันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่” ธีเมธถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังมุ่งหน้
อยากเปลี่ยนสถานะสัปดาห์ต่อมากรุงเทพมหานครวันนี้เป็นวันที่นางเอกสาวอย่างพัชร์ต้องเดินทาง ไปถ่ายทำที่ต่างจังหวัดแล้ว ซึ่งโลเคชั่นของทางกองถ่ายคือ ไร่องุ่น และสถานที่เหมาะที่สุดคือ ไร่อคิราห์“อยากไปด้วยจังเลย” เทวินทร์พูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างออดอ้อน เมื่อขับรถมาส่งหญิงสาวที่จุดนัดหมายพร้อมออกเดินทางแล้ว“เดี๋ยวพราวก็กลับมาแล้วคะ ไปไม่กี่วันเองน่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบพร้อมกับไม่ลืมที่จะส่งสายตาหวานเยิ้ม พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เขาด้วยอีกที“ไม่ให้วินไปด้วยจริง ๆ เหรอ” เทวินทร์ถามขึ้นมาอีกครั้ง เผื่อว่าหญิงสาวอยากจะเปลี่ยนใจกระทันหันขึ้นมาบ้าง“ถ้าวินไปทุกคนก็รู้สิคะ ว่าเราเป็นอะไรกัน วินอยากเป็นข่าวเหรอ” หญิงสาวเอ่ยบอก พร้อมกับใบหน้าที่ดูท้าทายชายหนุ่มคนขับ“ครับ เดินทางปลอดภัยนะ” เขาจึงจับใจยอมรับ แล้วเอ่ยบอกเธอด้วยความเป็นห่วง และก็ไม่ลืมที่จะมอบจูบอันแสนหวานนั้นให้เธอ ไร่อคิราห์“ทั้งหมดก็มีแค่นี้แหล่ะ ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ แล้วอย่าไปวุ่นวายกับกองถ่ายของเขาหากไม่ได้รับอนุญาตจากผม กลับไปทำงานได้แล้ว ขอบคุณทุกคนมากครับ” อคิราห์เอ่ยบอกเมื่อเรียกคนงานทุกคนมาประชุมกัน เพื่อชี้แจงรายละเ