แตงไทยสาวสวยผู้ที่ตั้งใจว่าจะโสดตลอดชีวิต แต่แล้วความตั้งใจของเธอก็สั่นคลอน เมื่อมาเจอหนุ่มหล่ออย่างกำนันหิน ปฏิบัตการอ่อยผู้ชายก็เกิดขึ้น
View More'แตงไทย' หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดปี ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาจากมือถือปลุกดังขึ้น
04:30 น. เป็นเวลาที่เธอต้องตื่นในเช้าวันนี้ เพราะ 'ตาทอง' ผู้เป็นพ่อได้กำชับเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าต้องตื่นเวลานี้ เพื่อมานึ่งข้าวและทำกับข้าวไปวัด ถ้าตื่นสายกว่านี้จะไม่ทัน เมื่อบิดขี้เกียจได้สามรอบแตงไทยก็ลุกขึ้นจากเตียง พับผ้าห่ม เก็บมุ้งหมอนให้เรียบร้อยและออกจากห้องนอน ตรงไปยังห้องครัวซึ่งอยู่หลังบ้าน เธอจัดการนึ่งข้าวเหนียวที่แช่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนตาทองพ่อของเธอก็ทำการเชือดไก่บ้านเพื่อจะแกงใส่หน่อไม้ส้ม เป็นกับข้าวไปวัดในเช้าวันนี้ "นึ่งเป็นหรือเปล่าข้าวน่ะ ?" ตาทองเอ่ยถามออกมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย เธอหันไปค้อนพ่อนิดหน่อย ก่อนจะตอบออกมา "เป็นสิพ่อ เคยทำมาแต่น้อย ๆ" แหม..พ่อนี่มาดูถูกกันได้ ถึงเธอจะไปใช้ชีวิตที่เมืองกรุงหลายปี แต่วิถีชีวิตของชาวอีสานก็ยังอยู่ในสายเลือดของเธอเสมอ "เหรอ..พ่อก็นึกว่าลืมไปแล้ว" ตาทองบอกกับลูกสาวอย่างอารมณ์ดี เกือบสิบปีที่ต้องอยู่ตามลำพังกับยายสานั้นแสนเหงา ยิ่งมาเมื่อสามเดือนที่แล้วยายสามาด่วนจากไปอยู่บนสวรรค์ แกก็เหงายิ่งขึ้นไปอีก ยังดีที่แตงไทยลูกสาวเพียงคนเดียวของแกยอมลาออกจากงานที่กรุงเทพ ฯ กลับมาอยู่กับแกแบบถาวร จึงทำให้บั้นปลายชีวิตที่เหลือนี้ไม่เหงาจนเกินไป เมื่อนึ่งข้าวสุกเรียบร้อย แตงไทยก็ส่ายข้าวใส่กระติบ แล้วก็หันไปช่วยพ่อทำแกงไก่ใส่หน่อไม้ส้ม ไม่นานกับข้าวก็เสร็จ เธอจึงไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อเตรียมตัวไปวัด วันนี้เธองัดซิ่นไหมผืนสวยสีแดงเข้มของยายสามาสวมใส่ ส่วนเสื้อนั้นก็เป็นเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวที่สั่งจากออนไลน์ และผมที่ยาวสยายถึงกลางหลังของเธอนั้นแตงไทยก็ถักเปียรวบไว้ข้างหลัง ทั้งชุดทั้งผมวันนี้ส่งผลให้เธอสวยสมเป็นกุลสตรีมากขึ้นเลยทีเดียว เวลาประมาณ 07:00 น. แตงไทยก็เตรียมตัวเสร็จ เธอแบ่งแกงไก่ใส่ปิ่นโต แล้วก็แบ่งข้าวเหนียวใส่กระติบข้าวใบเล็ก ขึ้นควบมอเตอร์ไซค์ Honda pcx รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พ่อยอมขายวัวซื้อให้เธอ "ไปแล้วนะพ่อ" ตะโกนบอกตาทอง ก่อนจะขับมอเตอไซค์ตรงไปวัด ราวห้านาทีก็มาถึง เพราะวัดอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มมีคนทยอยมากันบ้างแล้ว "นังแตง !" แตงไทยหันไปตามเสียงเรียก ก็มองเห็น 'เจ๊ไก่' สาวสองคนสวยประจำหมู่บ้านเดินตรงเข้ามาหาเธอ "เจ๊ไก่ เข้าวัดได้ไม่รู้สึกร้อนเหรอ ?" "หนอยนังนี่..แรงนะยะ คำถามนี้ควรเป็นฉันไหมที่ถามหล่อน" แตงไทยหลุดขำออกมากับท่าทีจริตจะก้านของเจ๊ไก่ เพื่อนรุ่นพี่ที่เธอสนิทมากที่สุด "โอ๋..เจ๊อย่างอนน่า ป้ะขึ้นไปบนศาลากัน" "ก็ได้ ๆ" แล้วทั้งสองสาวก็พากันเดินขึ้นไปบนศาลา นำอาหารในปิ่นโตไปรวมกับของชาวบ้านคนอื่น ๆ จะมีแม่ออกค้ำวัดเป็นคนจัดสำรับให้พระอีกที แล้วทั้งสองคนก็เดินไปใส่บาตร ที่หลวงตาและพระท่านวางเอาไว้ วันนี้เป็นวันพระ พระสงฆ์ท่านจึงไม่ได้ออกบิณฑบาต พอใส่บาตรเสร็จแล้วทั้งแตงไทยและเจ๊ไก่ก็หาที่นั่ง ทั้งสองคนเลือกนั่งแถวหลังสุด วันนี้มีคนมาทำบุญเยอะมาก เนื่องจากเป็นวันออกพรรษา คนเฒ่าคนแก่ ลูกเด็กเล็กแดงรวมทั้งหนุ่มสาววัยรุ่นก็มาร่วมทำบุญด้วยในวันนี้ แตงไทยรู้สึกทึ่งในประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวอีสานมาก ที่ยังเหนียวแน่นและงดงามมาจนถึงทุกวันนี้ ภาพแบบนี้เธอเคยเห็นมาแต่เด็ก ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้เวลาผ่านล่วงไปเป็นสิบ ๆ ปี มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม เธอเพิ่งลาออกจากงานที่กรุงเทพ ฯ เพื่อกลับมาอยู่บ้านกับพ่อได้เพียงสามเดือนเท่านั้น เพราะว่าแม่ของเธอเสีย พ่อไม่มีคนดูแล เธอจึงเลือกทิ้งงานที่กำลังก้าวหน้ากลับมาอยู่กับท่าน เธอใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ ฯ เกือบสิบปี เข้าเมืองหลวงตั้งแต่จบม.หก เพื่อไปเรียนต่อพอเรียนจบก็ทำงานต่อเลย จะกลับบ้านทีก็แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น "คนเยอะเนาะเจ๊" "ก็ปกติของทุกปีนะ" เมื่อชาวบ้านมาพร้อมเพรียงกันแล้ว หลวงตาเจ้าอาวาสรวมทั้งพระสงฆ์อีกสามรูป ก็เดินขึ้นมาบนศาลา ทุกคนบนศาลาจึงเงียบและก้มลงกราบ หลังจากนั้นมัคทายกประจำวัดก็เริ่มพานำสวดมนต์ แล้วพระสงฆ์ท่านก็ให้ศีลให้พร เสร็จแล้วพระท่านก็เริ่มฉันภัตตาหารเช้าเป็นอันว่าเสร็จพิธี ชาวบ้านหลายคนก็เริ่มทยอยกลับ คงเหลือแต่คนแก่บางคนและแม่ออกค้ำวัดเท่านั้น "ป้ะ..เจ๊กลับ" แตงไทยจึงลุกขึ้นแล้วก็เอ่ยชวนเจ๊ไก่กลับบ้าง แต่เจ๊แกกลับดึงมือของเธอเอาไว้ "อย่าเพิ่งสิ รอกินข้าวก่อน" เธอมองเจ๊ไก่อย่างเอือม ๆ แต่ก็ไม่ขัด ทรุดนั่งลงข้าง ๆ ร่างหนาของสาวสองคนสวย หลังจากที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ลูกวัดฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กับข้าวที่เหลือก็มีคนยกมา ทุกคนที่เหลือบนศาลาก็ล้อมวงกินข้าวพร้อมกัน รวมทั้งเจ๊ไก่และแตงไทยด้วย เมื่อทุกคนทานข้าวอิ่มแล้ว ก็ช่วยกันนำถ้วยชามไปล้าง และปัดกวาดเช็ดถูศาลาให้สะอาดเรียบร้อย พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แตงไทยกับเจ๊ไก่ก็คว้าปิ่นโตกับกระติบข้าวเหนียวเดินลงศาลาไปเพื่อจะกลับบ้าน และในขณะที่แตงไทยกับเจ๊ไก่เดินไปนั้น เพราะมัวแต่คุยกันจนไม่ได้มองทาง จึงทำให้ร่างอวบอิ่มสมส่วนของแตงไทยชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคน ร่างของแตงไทยกระดอนออกไปข้างหลัง และคงจะล้มก้นจ้ำเบ้าแน่ถ้าหากว่าเจ้าของร่างใหญ่นั้นไม่คว้าเอวของเธอเอาไว้เสียก่อน แขนแข็งแกร่งโอบรอบเอวคอดกิ่ว และช่วยประคองไม่ให้แตงไทยล้มลงไป เมื่อเธอทรงตัวได้แล้วเขาจึงปล่อยมือออกจากเอวบางนั้น "อุ๊ย ! กำนันหิน" เจ๊ไก่อุทานออกมา แล้วก็รีบคว้าแขนของแตงไทยให้มายืนหลบอยู่ข้างหลังของเธอ ก่อนจะกล่าวขอโทษออกมา "ขอโทษแทนนังแตงมันด้วยจ้ะ มันซุ่มซ่ามไปหน่อย" พอจบคำพูดของเจ๊ไก่ สายตาคมดุของกำนันหินก็ตวัดมองไปที่ใบหน้าของแตงไทย เป็นจังหวะเดียวกับที่แตงไทยเองก็หันไปมองหน้าเขาแบบเต็ม ๆ อีกที จังหวะนี้ทั้งสองคนจึงได้สบตากันอย่างจัง กำนันหินเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน และเดินเลี่ยงขึ้นไปบนศาลา ส่วนทางด้านแตงไทยนั้น ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เธอยืนนิ่งไม่ยอมขยับตัว จนเจ๊ไก่ต้องลากแขนพาเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ "แตง อีแตง !?" "อะ..อะไรเจ๊ !?" "มึงเป็นอะไร โดนผีเข้าหรือไง ?" "เปล่า..ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" แตงไทยตอบเจ๊ไก่ไป แต่ทว่าในใจของเธอตอนนี้กลับร้อนรุ่มแปลก ๆสิบสี่กุมพาพันธ์ เป็นวันกำหนดการงานแต่งของแตงไทยและกำนันหิน ซึ่งงานแต่งในคราวนี้ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้งหมอลำและรถแห่ กำนันหินเชิญคนทั้งตำบลหนองปลาไหลให้ไปร่วมงานแต่งของเขา และสิ่งที่ทุกคนต้องพูดโจษขานกันไปอีกนาน นั่นก็คือสินสอดที่กำนันหินมอบให้กับตาทองผู้เป็นพ่อตา เพราะมันเยอะมาก เงินสดสิบล้านบาท ทองคำแท่งห้าสิบบาท และโฉนดที่ดินในตำบลหนองปลาไหลอีกนับร้อยไร่ แต่ตาทองไม่รับเขามอบกลับคืนให้ลูกสาวและลูกเขย"พ่อไม่ต้องการสินสอดอะไรทั้งนั้น ขอแค่หลานสาวหรือหลานชายอย่างละคนก็พอ"ตาทองบอกกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว กำนันหินหันไปมองหน้าแตงไทยอย่างมีความหมาย เธอก็ยิ้มตอบเขากลับมาอย่างเขินอายแต่ก็ยั่วยวนเขาอยู่ในทีหลังจากเสร็จงานพิธี เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ปล่อยให้แขกเหรื่อสนุกสนานกัน ส่วนพวกเขาทั้งสองคนได้เข้าห้องหอไปงานนี้คนที่มีความสุขมากที่สุดนอกจากแตงไทย กำนันหินและตาทองแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ๊ไก่ เพราะว่านอกจากได้เงินในซองจากการเป็นเพื่อนเจ้าสาวเยอะมากหลายหมื่นเลยทีเดียวแล้ว เจ๊ยังได้ส่องหนุ่ม ๆ อีกหลายคน ทั้งนักร้องรถแห่ พระเอกหมอลำรวมทั้งนักดนตรีด้วย เจ๊คนสวยเอาเงินในซองที่ได้มา ไปเปย์หนุ่ม ๆ เหล่
วันนี้เป็นวันสิ้นปีมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสุขและบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง แตงไทยกับกำนันหินเองก็กำลังเดินซื้อของอยู่ในร้านขายส่งในตัวอำเภอ เพื่อเอาไปฉลองปีใหม่เช่นเดียวกัน ปีนี้เขากะว่าจะฉลองสองคนกับแตงไทยเท่านั้น แต่ทว่าไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองคนดันอยากมาร่วมฉลองด้วย ตอนแรกเขาคิดจะปฏิเสธแต่พวกมันก็เซ้าซี้ไม่เลิก แถมยังขุดคำมาด่าเขาอีกสารพัด ทั้งหาว่ามีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนบ้าง ตีตัวออกห่างบ้าง ใช่ซี้มีแฟนแล้วเพื่อนก็เป็นหมาหัวเน่าบ้าง และอีกหลายคำด่า จนกำนันหินเกรงว่าจะอดกระโดดเตะพวกมันไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้พวกมันมามีส่วนร่วมด้วยแตงไทยเองก็ชวนเจ๊ไก่มาด้วยเหมือนกัน ตอนนี้เจ๊กำลังช่วยจัดเตรียมสถานที่อยู่ที่บ้านของกำนันหิน ร่วมกับปลัดสิงห์และเสี่ยกรณ์ ปล่อยให้การซื้อของเป็นหน้าที่ของกำนันหินและแตงไทยไประหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินเลือกซื้อของอยู่นั้น สายตาคู่หนึ่งก็มองมาที่แตงไทยอย่างมาดร้าย เสี่ยสันต์นั่นเองเขาคิดในใจว่าถ้าหากไม่มีผู้หญิงคนนี้กำนันหินก็ต้องหันกลับไปสนใจกุหลาบแน่นอน แล้วแผนการณ์อันชั่วร้ายก็ผุดขึ้นในใจของชายวัยกลางคนเมื่อแตงไทยกับกำนันหินได้ของครบแล้วก็พากันเดินไปที่รถ
'เพี๊ยะ !'กุหลาบหน้าหันไปตามแรงตบของผู้เป็นพ่อ เธอน้ำตารื้นและร้องไห้ออกมาทันที ยกมือขึ้นมากุมใบหน้าซีกที่ถูกตบเอาไว้ มันทั้งชาและร้อนผ่าวสลับกันไปมา แต่ความเจ็บตรงใบหน้ายังเจ็บไม่เท่าตรงหัวใจของเธอ"ไม่ได้เรื่อง ! ทำไมมึงโง่อย่างนี้ ห๊ะ ! กูบอกให้มึงทำยังไงก็ได้ให้มึงได้ไอ้หินเป็นผัว แต่มึงก็ไม่ทำ เป็นไงทีนี้มีหมาคาบไปแดกแล้ว"เสี่ยสันต์บริภาษลูกสาวออกมาเสียงดัง ไม่ได้สนใจน้ำตาที่กำลังอาบแก้มของกุหลาบเลยแม้แต่น้อย ที่สนใจตอนนี้ก็คือเขาจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้การพนัน หนี้ตั้งหลายล้าน ที่ทางก็ขายและเอาไปจำนองเกือบหมดแล้ว มีทางเดียวก็คือให้นังกุหลาบมันแต่งงานกับไอ้หิน เพื่อที่จะได้เอาเงินจากมันมาใช้หนี้ เพราะเสี่ยสันต์รู้ดีว่ากำนันหินรวยมาก ขายอ้อยขายยางแต่ละปีได้หลายสิบล้านบาท แต่ว่านังลูกสาวตัวดีมันก็ไม่ได้เรื่อง ปล่อยให้นังแตงไทยมาฉกเอากำนันหินไปจนได้"ฮือ ๆๆ พ่อจ๋าหนูไม่ได้ชอบพี่หิน พี่หินก็ไม่ได้ชอบหนูอีกอย่างเขาก็มีแฟนแล้ว กำลังจะแต่งงานกันแล้วด้วย""มึงหยุดพูด ! มันกำลังจะแต่งงานกันแต่ยังไม่แต่งสักหน่อย มึงทำยังไงก็ได้ให้มันหันมาสนใจมึง ไม่อย่างนั้นมึงก็ออกจากบ้านกูไปเลย"พูดจบเ
พอทั้งคู่เข้ามาในรถได้แล้วมือใหญ่ก็คว้าท้ายทอยของแตงไทยเอาไว้และบดจูบกับเธออย่างเร่าร้อน หญิงสาวก็ตอบสนองเขาเป็นอย่างดี จูบตอบเขากลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ สองลิ้นเล็กใหญ่เกี่ยวกระหวัดดูดดึงกันไปมา เนิ่นนานกว่าที่กำนันหินจะผละริมฝีปากออก และพารถเคลื่อนตัวออกไปจากบริเวณบ้านของเจ๊ไก่เจ๊คนสวยมองท้ายรถกระบะที่เพิ่งเคลื่อนตัวออกไปแล้วก็ส่ายหน้า รู้ได้ทันทีว่าแตงไทยกับกำนันหินทำอะไรกัน ข้าวใหม่ปลามันก็อย่างนี้แหละสมัยก่อนเจ๊ก็เคย เจ๊รีบล้างถ้วยชามให้เสร็จ พลางนึกในใจรู้สึกดีใจกับนังแตงมันด้วย ที่กำนันหินคลั่งรักมันขนาดนี้ เพราะปกติแล้วผู้ชายหากไม่รักจริง พอได้แล้วก็มักจะเบื่อแต่ดูทรงแล้วกำนันแห่งตำบลหนองปลาไหล มีแต่จะหลงใหลเพื่อนรุ่นน้องของเจ๊แบบหัวปักหัวปำพอรถเคลื่อนตัวออกมากำนันหินก็จับมือเล็กไปวางลงบนเป้ากางเกงที่กำลังตุงของตัวเอง แตงไทยหันไปสบตากับเขาอย่างเขินอายและยั่วยวนอยู่ในที แล้วเธอก็บีบคลึงมังกรร้ายที่กำลังตื่นตัวเบา ๆ"อื้อ..แตงจ๋าไปที่บ้านพี่นะ""ค่ะ"แล้วกำนันหินก็เหยียบคันเร่งอย่างแรง เพื่อที่จะได้กลับถึงบ้านเร็ว ๆ เขาอยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างบอบบางหอมกรุ่นนี่เต็มที ยิ่งตอนนี้ท่อน
หลังจากนั้นกำนันหินกับแตงไทยก็ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย ในฐานะคนรักและกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ จนสร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านชาวช่องในตำบลหนองปลาไหลเป็นอย่างมาก แต่ว่าทุกคนต่างก็ยินดีกับกำนันคนเก่งเพราะว่าเขาจะได้หลุดพ้นออกจากอาการโศกเศร้าที่เสียภรรยาเสียทีในตอนแรกเขากะว่าจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอแตงไทยหลังปีใหม่ แต่เพราะความคลั่งรักและใจร้อนบวกกับอาการติดแฟน กำนันหินจึงได้ส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอและหมั้นหมายกับแตงไทยเอาไว้ หลังจากที่ได้บอกกับตาทองว่าเขาคบกับแตงไทยได้เพียงสามวัน ที่จริงแล้วกำนันหินจะหมั้นแล้วก็แต่งเลยภายในวันนั้น แต่แตงไทยได้ขอว่าขอเป็นหลังสงกรานต์ดีกว่า เพราะเธอเตรียมตัวไม่ทัน จะทำยังไงได้คนคลั่งรักอย่างเขาก็ต้องตามใจแฟนอยู่แล้ว ด้วยความที่คลั่งรักมาก วันนี้กำนันหินก็พาแตงไทยไปที่ไร่อ้อยของเขาด้วย เพื่อให้เธอไปช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินของคนงาน และช่วยจ่ายเงินค่าแรงให้คนงานด้วย จนทุกคนแซวว่าเธอคือคุณนายไร่อ้อยแต่เหตุผลที่กำนันหินให้เธอมากับเขาด้วยนั้น ก็เป็นเพราะว่าเขาคิดถึงและไม่อยากห่างเธอแม้สักวินาที ถึงจะทำงานหนักแค่ไหนขอแค่มีเธออยู่ใกล้ ๆ เขาก็มีแรงฮึดขึ้นมาทันท
หลังจากทานข้าวกันเสร็จแล้ว กำนันหินกับแตงไทยก็ไปนั่งคุยกันที่เปลไม้ไผ่จนดึกดื่น ชายหนุ่มไม่อยากกลับเลยอยากหอบเสื้อผ้ามาอยู่กับเธอให้มันรู้แล้วรู้รอด หรือไม่ก็พาเธอกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกันแต่ก็ทำไม่ได้"ฮ้าวว..ง่วงจัง"แตงไทยปิดปากหาวออกมา กำนันหินมองเวลาที่มือถือก็พบว่าห้าทุ่มกว่าแล้ว เขาจึงขอตัวกลับ "ดึกแล้ว พี่กลับก่อนนะ แตงจะได้พักผ่อน""ค่ะ เดี๋ยวแตงเดินไปส่งที่รถ"แล้วทั้งสองคนก็เดินเคียงข้างกันไปที่รถกระบะ พอมาถึงตรงข้างรถซึ่งเป็นบริเวณที่มืดเพราะตรงนี้ไม่มีแสงไฟส่องมาถึง กำนันหินก็คว้าร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง แตงไทยก็กอดตอบเขาเช่นกัน แล้วชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าลงไปหาริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอรออยู่แล้ว พอริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันจุมพิตดูดดื่มก็เกิดขึ้น เนิ่นนานจนแตงไทยเริ่มร่างกายอ่อนระทวย สองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง บดเบียดหน้าอกอวบเข้าหาแผ่นอกกว้างแนบแน่นอารมณ์ของทั้งคู่กระเจิดกระเจิงจนฉุดไม่อยู่ กำนันหินจึงกดรีโมทกุญแจรถแล้วก็เปิดประตูทางด้านเบาะหลัง ประคองร่างบอบบางของแตงไทยให้ไปนอนราบตรงเบาะยาว แล้วร่างสูงใหญ่ก็ตามขึ้นไปคร่อมทับร่างบอบบางเอาไว้ชายหนุ่มก้มใบหน้าลงซุกไซ
Comments