ว่านลี่ถิงคุยงานในห้องทำงานกับพี่สาวซูเมิ่งหลันเกือบหนึ่งชั่วยามเต็มๆเลยทีเดียวทั้งสองต่างพอใจกับผลตอบแทนกันทั้งสองฝ่าย แต่ที่ซูเมิ่งหลันตกใจนั้นคือว่านลี่ถิงคือหญิงสาวในข่าวลือในเมืองหลวงมาหลายปี เรื่องที่นางตามหึงหวงคู่หมั้นอย่างท่านแม่ทัพเผิงเย่ห่าว เมื่อเกือบสิบวันกว่าๆนั้นยังลือดังกันไปทั่วเมืองหลวงอยู่เลย
แต่ที่นางเห็นเด็กสาวที่ตกเป็นข่าวลือนั้นกับไม่เหมือนที่ได้ฟังจากทั้งคุณหนูที่มาซื้อชุดในร้านขายผ้าของนางเลยนำมาคุยกันแทบจะทุกวัน ทำให้ซูเมิ่งหลันแปลกใจกับนิสัยกิริยามารยาทที่ได้คุยกันกับว่านลี่ถิงในห้องทำงานของนางนั้น มีแต่ความจริงจังตอนที่นำเสนอผลงานแล้วยังขี่เล่นพูดคุยด้วยความสดใสตามวัยอีกด้วย นี้คงจะเป็นข่าวลือมั่วๆอย่างแน่นอนใครจะเป็นอย่างไรนางไม่สนเพราะตอนนี้นางได้คนวาดแบบที่เก่งกาจขนาดนี้เอาไว้ต่อไปร้านขายผ้าที่มารดาต่อสู้ทำมาตลอดเวลาหลายปีคงด้งมากกว่านี้ โดยที่ทางญาติพี่น้องฝั่งบิดาไม่ชอบมารดาของนางเพราะค้าขายอีกทั้งยังสนับสนุนบิดาไม่ได้ถึงขั้นตัดยื่นคำขาดให้บิดาหย่าขาดจากมารดาของนาง พอบิดาไม่ยอมท่านปู่ท่านย่าจึงให้ตัดออกจากตระกูลเพราะอับอายที่มีลูกสะใภ้ยึดอาชีพค้าขาย แต่บิดาที่รักมารดามากนั้นยอมให้ตัดบิดามารดาตัดขาดเพราะตอนอยู่ในจวนร่วมกันกับปู่ย่า นางกับมารดาจะโดนทำร้ายมาโดยตลอด จนบิดานั้นสงสารภรรยากับลูกที่โดนมารดาของตนใช้เยี่ยงทาสทำงานทุกอย่าง พอตัวของเขาไปทำงานในประตูเมืองเป็นขุนนางตรวจคนเข้าเมืองแค่หัวหน้าเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น พอออกจากจวนใหญ่ท่านแม่ที่มีสินเดิมจากท่านยายจึงมาบุกเบิกทำร้านผ้าตามที่ท่านยายเคยทำมาก่อน นางจึงทำร่วมกันกับมารดามานานหลายสิบปีล้มลุกคลุกคานมาไม่น้อยกว่าจะมีวันนี้ต้องใช้เวลานับสิบปี จนตัวนางไม่มีคนมาสู่ขอเพราะเป็นสาวเทื่อที่มีข่าวลือว่านางกับมารดานั้นเป็นคนอกตัญญูจากทางญาติบิดาพูดจาใส่ร้ายจนไม่มีคนกล้ามาสู่ขอและเลยการดูตัวมาหลายครั้งแล้วนั้นเอง แต่ไม่ใช้สำหรับซูเมิ่งหลันที่ต้องการตอบแทนบุญคุณบิดามารดาไปตลอดนางก็ยอมเพราะท่านพ่อนั้นไม่ยอมมีภรรยารองทำให้ท่านย่าโกรธมาก และหาว่ามารดาของนางนั้นไม่สามารถมีบุตรชายให้สืบสกูลได้นั้นเองดีที่ท่านพ่อรักท่านแม่มากจนยอมผิดใจกับทางท่านย่า ทุกวันนี้นางยังอยู่ในจวนที่ไม่ได้ใหญ่มากกับบิดามารดาที่เป็นจวนเก่าของท่านตาท่านยาย แต่บางครั้งก็นอนที่ร้านขายผ้าเช่นเดียวกันท่านพ่อเป็นเพียงหัวหน้าทหารตรวจการของคนเข้าเมืองไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตอะไรนั้นเอง แต่บิดาของนางขยันซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จึงได้ขั้นเป็นหัวหน้าของชุดตรวจคนเข้าเมือง "วันนี้ให้พี่สาวเลี้ยงข้าวน้องสาวว่านลี่ถิงสักมื้อจะได้ไหมเพื่อการค้าที่ดียิ่งๆขึ้นไปของเราสองคนกับกิจการที่รุ่งเรืองของพี่สาวคนนี้" ซูเมิ่งหลันชวนสาวน้อยตรงหน้าไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันเพราะจะถึงมื้อเที่ยงแล้วนั้นเอง หลังจากที่คุยงานเสร็จและจบลงด้วยดี "ได้สิเจ้าคะพี่สาวซูเมิ่งว่าแต่พี่สาวยังไม่แต่งานจริงๆหรือเจ้าคะ" ว่านลี่ถิงถามพี่สาวคนสวยที่จิตใจดีตรงหน้าเพื่อความมั่นใจเพราะพี่ชายของนางนั้นอายุที่ยี่สิบหกปีนั้นก็ยังไม่มีคนรัก ท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่ได้บังคับสักเท่าไรเพราะพี่ใหญ่นั้นต้องอยู่ชายแดนกับท่านพ่อมาตลอดจนทำให้ไม่สนใจสาวที่ไหนสักคนมาให้ท่านแม่ได้ไปสู่ขอ นางจะลองชวนพี่ชายมาพบหน้าพี่สาวซูเมิ่งดูสักวันว่านลี่ถิงคิดในใจคนเดียวเท่านั้นผูกด้ายแดงให้พี่ใหญ่กับพี่สาวซูเมิ่งดีไหมนะอิอิ "ใครเขาจะมาสนใจสาวเทื่ออย่างพี่ละอีกทั้งยังไม่ได้ร่ำรวยมากมายเหมือนคุณหนูในเมืองหลวงนี้ สาวน้อยทีเจ้าละพี่สาวได้ยินข่าวลือมาไม่น้อยเลยนี้นาว่าบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่ขี้หึงไล่ตบตีคุณหนูฟางเจี้ยนผิงไปทุกที่ถ้าพบหน้ากันแต่พี่สาวเห็นในวันนี้มันต่างจากข่าวลือนั้นจริงไหมละน้องสาวว่านลี่ถิง" ซเมิ่งหลันเองก็เย้าแหย่สาวน้อยตรงหน้านางด้วยเช่นเดียวกัน "ที่จริงข่าวนั้นมันก็มีส่วนจริงละเจ้าค่ะแต่พอข้าได้รับบาดเจ็บครั้งล่าสุดเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งในสระบัวของงานเลี้ยงเมื่อสิบวันก่อน ทำให้ข้าคิดได้ว่าข้านั้นช่างทำตัวไร้ประโยชน์เสียจริงสิบวันที่ข้านอนพักในจวนจนเบื่อข้าจึงหัดวาดรูปตามความฝันของตัวเองลองดูเจ้าค่ะพี่สาวซู ช่างเถอะพวกเราไปกันเถอะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่ง ที่เหลาอาหารนี้คนเยอะทุกวันนี้เจ้าคะเดินไม่ถึงครึ่งเค่อก็ถึงแล้วละเจ้าค่ะพี่สาวซูเมิ่ง" ว่านลี่ถิงเดินไปตอบคำถามไปด้วยแบบสบายๆ "เช่นนั้นหรือดีเหมือนกันอดีตก็คืออดีตเรามาทำสิ่งที่เราชอบและฝันให้ดีต่อๆกันไปกันดีกว่าเนาะ" ซูเมิ่งหลันพูดต่อหลังจากที่ได้ฟังเรื่องของสาวน้อยสาวตรงหน้านางถูกชะตากับว่านลี่ถิงคนนี้เสียแล้วสิ จากนั้นสองสาวก็เดินออกมาจากในห้องว่านลี่ถิงเห็นพี่สาวซิงซิงนั่งรอนางที่หน้าห้องทำงานของพี่สาวซูเมิ่งด้วยความเป็นห่วงตนพร้อมห่อผ้า จึงยิ้มให้สาวใช้ก่อนจะพยักหน้าให้สาวใช้แล้วเดินออกจากร้านขายผ้าของพี่สาวซูเมิ่งไปด้วยกันและมีสาวใช้ของทั้งสองสาวเดินตามหลังไปเงียบๆ หลังจากพี่สาวซูเมิ่งนั้นสั่งคนงานในร้านขายผ้าเสร็จจากนั้นว่านลี่ถิงจึงเดินคุยกันไปกับพี่สาวซูเมิ่งอย่างถูกคอกัน แต่ก่อนที่กำลังจะเดินถึงเหลาอาหารที่ผู้คนกำลังเดินกันจนเต็มท้องถนนกับมีรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วอีกทั้งเสียงผู้คนแตกตื่นวิ่งหนีตายกันจนทำให้ว่านลี่ถิงเองยังตกใจในตอนนี้รถม้าวิ่งมาด้วยความเร็วรวมถึง โอ้!!!!แม่เจ้าเด็กหญิงที่หลุดจากมือของมารดากลิ้งไปตรงกลางถนนพอดี ผู้คนต่างกรีดร้องด้วยความตกใจและเสียงตื่นตกใจของมารดาเด็กคนนั้นกรีดร้องเสียงหลงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าชั่ววินาทีแห่งความเป็นความตาย ว่านลี่ถิงมองเห็นนางตัดสินใจวิ่งไปอุ้มเอาเด็กน้อยกลิ้งออกไปจากถนนด้วยความรวดเร็ว แต่นางก็กลิ้งๆหลุนๆไปจนชนอีกขอบของถนนด้วยเช่นเดียวกันเสียงสาวใช้ของนางกรีดร้องด้วยความตกใจ "คุณหนูเจ้าค่ะระวัง!!" โครม! ว่านลี่ถิงซัดมีดบินของนางที่ฝึกจนชำนาญนาญในภพเก่าใส่รถม้า ในเมื่อรู้ว่าคนเดินเต็มถนนยังกล้าดีนำรถม้าวิ่งมาด้วยความเร็วอีกทั้งยังจะฆ่าเด็กบริสุทธิ์คนหนึ่งอย่างไม่รู้อิโหน่อิเน่ นางสกัดขาม้าเจ้าปัญหาให้หยุดจนมันหยุดด้วยเช่นเดียวกันดีไม่ตัดคอไอ้คนบังคับม้ามันคงเป็นแค่บ่าวไอ้ตัวต้นเหตุคงอยู่ในรถม้านั้นต่างห่างละนางคิดในใจด้วยความโกรธเช่นเดียวกัน เสียงที่ได้ยินคือม้าสะดุดชะงักม้าสะบัดตัวคนในรถม้าจึงกระเด็นออกมาด้านนอกเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบปีเห็นจะได้กลิ้งหลุนออกมาชนกับขอบถนนเช่นเดียวกันพร้อมกับเสียงตะคอกด่าคนที่ขวางทางรถม้าของตัวเองอย่างหัวเสีย "ใครมันบังอาจหยุดรถม้าของข้าผู้นี้!" เขามองมาที่เด็กในอ้อมกอดของแม่เด็กที่วิ่งมาอุ้มเอาลูกจากว่านลี่ถิงไปกอดด้วยความตกใจแต่เด็กน้อยตกใจร้องให้เสียงดัง "ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนูที่ช่วยบุตรสาวของข้าจากการถูดรถม้าเหยียบในครั้งนี้" นางก้มหัวขอบคุณซ้ำๆนางเป็นลูกสะใภ้ของจวนเสนาบดีที่พาลูกออกมาซื้อของที่ตลาดด้วยจนเกือบเสียลูกน้อยไปถ้าไม่ได้เด็กสาวตรงคนนี้ที่ใจกล้าช่วยชีวิตลูกของนางเอาไว้ทันอย่างเฉียดฉิว เรื่องนี้มีอีบุ๊คแล้วนะคะเชิญแวะไปตำอ่านกันยาวๆได้เลยค่ะที่Meb"อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าจะหย่าเจ้าหรือถิงเอ๋อร์ เจ้าจงเข้าใจเสียใหม่นะ ฮูหยินของข้าคือเจ้าคนเดียวเท่านั้น"แม่ทัพตอบคำถามนางก่อนที่จะรวบตัวนางมากอดแนบตัวเพราะเขาเห็นนางจะกระโดดหนีไปอีกทาง ว่านลี่ถิงตกใจอ้าปากจะต่อว่าสามีหมาดๆของนางจึงเป็นว่านางอ้าปากให้ชายหนุ่มสอดลิ้นปิดปากพัวพันกันจนเกิดเสียงหยาบโลน"อื้อ" ว่านลี่ถิงทุบอกชายหนุ่มเพราะนางใจจะขาดเพราะจูบที่เอาแต่ใจจากเขา แม่ทัพหนุ่มผละออกให้นางหายใจก่อนจะก้มลงปิดปากของนางใหม่ สติของว่านลี่ถิงกระเจิดกระเจิงเพราะความช่ำชองของชายหนุ่มที่รู้จุดอ่อนของนาง เขาจุดติดอย่างง่ายดายแม่ทัพคิดในใจว่าวันนี้ต้องเข้าหอกับนางให้ได้ นางจะได้หายฟุ้งซานว่าเขาจะหย่าให้นาง เช่นนั้นแล้วเขาคิดว่าจะปั้นก้อนแป้งให้นางเลี้ยงเพราะเขาคิดว่าถึงเวลาสร้างครอบครัวแล้วนั้นเองว่านลี่ถิงทั้งเสียวทั้งร้อนวูบวาบไปหมดกับการเร้าโรมของคนเป็นสามีที่พึ่งแต่งในวันนี้หมาดๆรุกนางหนักจนนางแทบเหลว เพราะเขาลูบคลำบีบเค้นทั่วร่างของนาง นางก็ตอบสนองเขากลับไปแบบเงอะๆงะๆด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์ที่สร้างมาให้ชายหญิงคู่สามีภรรยา ร่างซ่อนรูปได้เปลือยเปล่าต่อหน้าของสามีที่ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเรื่
หลังจากจัดการเรื่องอดีตบ้านปู่ย่าของพี่สาวซูเมิ่งหลันให้คนในตระกูลไม่กล้ากลับมายุ่งกับครอบครัวของพี่สาวเมิ่งหลันได้อีก ด้วยความช่วยเหลือของท่านพ่อกับพี่ชายของนางทำให้ผู้นำตระกูลเว่ยสั่งฮูหยินของตนเองกับลูกสะใภ้ไม่ให้ไปหาเรื่องสองแม่ลูกซูเมิ่งหลิงกับซูเมิ่งหลันได้ อีกทั้งลงนามต่อหน้าหัวศาลถ้าคนตระกูลเว่ยไปหาเรื่องสองแม่ลูกอีกจะต้องถูกปรับหนึ่งพันตำลึงทอง สร้างความโกรธแค้นให้กับเว่ยอี้หรานที่ไม่สามารถให้มารดากับท่านย่ายึดเอาร้านขายผ้าของสองแม่ลูกนั้นมาได้ แถมนางยังสนใจแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยที่ออกหน้าให้กับสองแม่ลูกซูนั้นอีกแล้วยังโดนท่านปู่กับท่านพ่อสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะส่งไปแต่งงานที่หัวเมืองอื่นนางจึงหยุดเอาไว้ก่อนแต่จะต้องหาโอกาสเข้าหาแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยให้ได้เพราะนางอยากแย่งทุกอย่างที่เป็นของซูเมิ่งหลันมาเป็นของตัวเองให้ได้จบเรื่องของพี่สาวซูไปนางก็ถึงวันแต่งให้ไอ้แม่ทัพขี้เก๊กนั้น นางถูกมารดาจับลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืดแต่หน้านางขอแต่งเองไม่อยากให้แต่งหน้ขาววอกของคนยุคนี้ซึ่งมารดาเองก็ยอมเพราะลูกสาวแต่งให้นางทุกวัน ถ้าอยู่ด้วยกันแถมนางจะนำเอาเครื่องสำอางค์ในมิติออกมาให้
พอสองแม่ลูกออกมาจากในห้องรับรองแขกก็เจอกับอดีตแม่สามียืนด่านางเสียงดังยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดสด เมื่อก่อนนางเคยดูถูกอาชีพของสองแม่ลูกอีกทั้งบังคับบุตรชายหย่ากับท่านแม่แต่ท่านพ่อไม่ยอม ถึงกับตัดท่านพ่อออกจากตระกูลเพราะอับอายที่มีลูกสะใภ้เป็นแม่ค้าไม่สามารถหนุนตำแหน่งให้บุตรชายได้ "อ้อข้าคิดว่าคนบ้าที่ไหนมาร้องส่งเสียงดังในร้านของข้าไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอะไรกับพวกข้าหรือ ถึงมาก่อกวนในร้านขายผ้าของพวกข้าใครก็ได้ไปตามทหารมาคุมตัวคนบ้าออกไปจากในร้านของข้าสิหลงจู๊" ฮูหยินเมิ่งซูหลิงร้องสั่งหลงจู๊ในร้านออกไปเสียงดังพอประชันหน้ากันกับอดีตแม่สามี ที่ผ่านมานางยอมเพราะรักสามี แม้บุตรสาวนางยังเล็กโดนโขกสับในจวนมานานหลายปี จนตอนนี้นางกับบุตรสาวพากันบุกเบิกร้านขายผ้าตามมารดาของนางเองนับสิบปีตอนออกจากจวนมาพวกนางไม่ได้รับสมบัติจากบ้านของปู่ย่ามาด้วยเลยสักนิด มีเพียงตำลึงรายเดือนของท่านพ่อเพียงเท่านั้นที่ช่วยเหลือครอบครัวได้ พากันมาอาศัยที่จวนเก่าของท่านยายท่านตาจนถึงทุกวันนี้ ร้านค้านี้สมบัติของท่านยายที่ยกให้บุตรสาวหลังจากเสียชีวิตไปสองแม่ลูกชอบตัดเย็บเสื้อผ้าจึงพากันเย็บชุดขายมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกื
ว่านลี่ถิงได้ขอบิดาของนางออกไปร้านผ้าของพี่สาวซูเมิ่งหลันในช่วงเช้ากับท่านแม่และพี่ชายว่าจะไปไม่นานนางขอให้ท่านพ่อไปด้วยนางสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องเพราะนางต้องเตรียมตัวแต่งให้ท่านแม่ทัพนางถูกพี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยจับขัดตัวจนนางคิดว่าตัวนางถลอกหมดแล้ว ทั้งขัดทั้งอบน้ำหอมจนนางหมดแรงวันนี้ท่านพ่อจึงอนุญาตให้ไปได้ท่านจะไปด้วยเหมือนกันเห็นบุตรสาวขอร้องขนาดนั้นแม่ทัพใหญ่จึงใจอ่อนให้นาง อีกไม่กี่วันนางจะแต่งให้แม่ทัพเผิงแล้วเดินทางลงไปยังชายแดนใต้ไปช่วยงานองค์รัชทายาทอีกไม่ถึงเดือนที่จะถึงนี้ วันนี้ทุกคนจึงเดินทางออกจากจวนตั้งแต่ยามเฉิน หลังจากทานมื้อเช้าร่วมกันนางกับมารดานั้นนั่นในรถม้าบิดากับพี่ชายขี่ม้าประกบ มีคนสนิททั้งของบิดามารดาที่เดินทางไปด้วยกันร่วมสิบคน ขาดไม่ได้ก็พี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยที่นางส่งให้ออกเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อช่วยพี่สาวซูเมิ่งหลันตั้งแต่เช้ามืด"ท่านแม่คิดว่าคนจะเยอไหมเจ้าคะข้านั้นได้ให้พี่สาวทำตามแผนงานที่ลูกวางเอาไว้ให้ ลูกได้จ้างคนไปแจกใบปลิววันนี้ฮูหยินหวังซูซินบอกว่าจะมาร่วมงานพร้อมกับบุตรสาวที่ลูกช่วยในวันนั้นด้วยนะเจ้าคะ นางไปสั่งตัดชุดที่ร้านพี่สาวเมิ่งห
ว่านลี่ถิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ไม่สามารถขัดราชโองการของฝ่าบาทได้ เกือบจะได้ถอนหมั้นอยู่แล้วเชียวแต่ดันมีมารมาขัดขวางเสียก่อน เอาวะเขาคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางมาจากชาติที่แล้วชดใช้ให้มันหมดเวรต่อกันในชาตินี้เลยก็แล้วกัน อีกอย่างถ้าเกิดนางได้เดินทางไปชายแดนใต้ร่วมขบวนขององค์รัชทายาท ถ้านางได้ช่วยเหลืองานของพระองค์แล้วค่อยทูลขอใบหย่าก็ไม่น่าจะอยากแต่ต้องทำสัญญากับไอ้แม่ทัพหื่นนั้นเสียก่อน ว่าห้ามเข้าหอกับนาง นางยินดีจะหย่าให้เขาแต่งเมียเข้าจวนแต่งห้ามล้ำเส้นนางก็พอไม่เช่นนั้นนางจะฟาดกลับให้จวนร้อนเป็นไฟเลยสิคอยดู ว่านลี่ถิงคิดในใจ"ถิงเอ๋อร์เหลืออีกเพียงสิบวันจะตัดชุดแต่งงานของลูกทันหรือเปล่านี้ มาพาแม่ไปร้านของเมิ่งซูหลันกันเถอะลูกจะได้เลือกชุดแต่งงานที่ตัดสำเร็จไว้ที่ร้านของแม่นางเมิ่งซูหลันคงจะมีนะแม่ว่า" มารดาของนางรีบชวนบุตรสาวไปหาชุดแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันที่จะถึง"เจ้าค่ะท่านแม่แต่ลูกว่ามีชุดไหนก็ใส่ชุดนั้นละเจ้าค่ะลูกไม่คิดมาก ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงบอกกับมารดา"ฮูหยินเจ้าคะมีคนจากจวนขององค์รัชทายาทนำชุดแต่งงานมามอบให้คุณหนูว่านลี่
เสียงเคาะประตูที่หน้าหองทำให้สองร่างผละออกจากกันแม่ทัพคลายอ้อมกอดออย่างเสียดายเพราะพึ่งจะได้จูบนางไปสองรอบเอง เขากำลังจะลองอีกในครั้งที่สามแต่โดนขัดจังหวะเสียก่อน "คุณหนูเจ้าคะนายท่านบอกให้มาเชิญท่านแม่ทัพกับคุณหนูไปที่หน้าจวนเจ้าค่ะมีขันทีของฝ่าบาทนำราชโองการมาถึงคุณหนู ให้คุณหนูกับท่านแม่ทัพรีบไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ" เสียงพี่สาวซิงซิงร้องบอกด้วยความร้อนใจว่านลี่ถิงเองดิ้นออกจากแม่ทัพได้พอนางได้ยินเสียงของสาวใช้เรียกที่หน้าห้องไม่เช่นนั้นนางจะต้องโดนไอ้แม่ทัพบ้านี้เอาเปรียบต่ออย่างแน่นอน นางจึงรีบเดินออกจากในห้องรับแขกด้วยความเร็วจนแม่ทัพหนุ่มหัวเราะตามหลังอย่างชอบใจที่นางวิ่งหนีเขาแถมก่อนจากนางยังตะคอกให้เขา"ไหนบอกว่ารังเกียจข้านักหนาแล้วมาแตะต้องตัวข้าทำไมไม่ทราบไอ้บ้ากามเอ๊ย" ว่านลี่ถิงด่าให้คู่หมั้นอย่างไม่เกรงกลัวอย่าเผลอเชียวละนางจะทุบให้กระอักเลือดตายเลย ทั้งเดินทั้งบ่นรวมถึงจัดเสื้อผ้าหน้าผมไปด้วยในตัวแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากเรือนไปเลยแม่ทัพหนุ่มรีบเดินตามคู่หมั้นไปด้วยรอยยิ้มตามหลังนางไปติดๆ พอไปถึงนางเห็นท่านพ่อท่านแม่กับพี่ชายยืนรออยู่ที่หน้าเรือนคุยกับขันทีของฝ่าบาทรออ