#ตอนเย็นวันเดียวกัน
"ปรางต้องแต่งตัวแบบไหนคะ"
"เรียบร้อย ไม่โป๊ ไม่ต้องโชว์ เก็บไว้ให้ฉันดูคนเดียวก็พอแล้ว"
"ค่ะคุณคิม"
เขาพูดเหมือนกับว่าเธอชอบแต่งตัวโป๊อย่างนั้นแหละ ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ว่าจะเวลาอยู่ที่บ้านตัวเองหรืออยู่ที่นี่ เธอก็แต่งตัวปกติของเธออยู่แล้ว
#สักพักต่อมา
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"อืม..ดี" เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะยักคิ้วให้กับเธอ ถึงมันจะเป็นการแต่งตัวเชยๆ แต่ก็ดูเรียบร้อยดี แต่ต่อไปคงต้องให้คนมาช่วยในเรื่องการแต่งตัวสักหน่อยแล้วล่ะ
#บนรถ
"เรากำลังจะไปที่ไหนกันเหรอคะ"
"ที่ทำงานของฉันไง"
"บริษัท ?"
"คาสิโน"
"หะ หา ?? บ่อนพนันเหรอคะ"
"อย่าดูถูกฉันสิ คาสิโนของฉัน มันไม่เหมือนบ่อนกระจอกๆ ที่พ่อเธอไปเสียเงินให้หรอกนะ"
"งะ งั้นคุณเอาปรางมาด้วยทำไม ปรางไม่ชอบที่แบบนั้นเลย"
"จะกลัวอะไร ที่นั่นมันที่ของฉัน ใครจะกล้าทำอะไรเธอ"
"ปรางไม่ได้กลัวค่ะ แค่ไม่ชอบ"
"ต่อจากนี้ อะไรที่เธอไม่ชอบก็คงต้องกลืนลงท้องซะแล้วล่ะ เพราะเธอคงต้องตามฉันไปอีกหลายที่ และก็คงเป็นที่ที่เธอไม่ชอบด้วย"
"......" ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออกเลย ถ้าเลือกได้เธอก็จะปฏิเสธไม่ไป แต่นี่เธอเลือกไม่ได้ และปฏิเสธคนอย่างเขาไม่ได้ด้วย
ไม่นานนักก็มาถึงสถานที่ที่ว่า พอรถจอดประตูก็ถูกเปิด เธอลงไปพร้อมกับเขา ด้านหน้ามีบอดี้การ์ดนับสิบมายืนรายล้อมต้อนรับ ก่อนที่เขาจะพาเธอเดินเข้าไปข้างใน
ตอนแรกก็คิดว่ามันจะเต็มไปด้วยเสียงดังน่ารำคาญ ความมืดครึ้ม หรือไม่ก็แสงไฟสลัว อารมณ์แบบไม่น่าเข้าไป แต่นี่มันคนละแบบกับที่เธอคิดเอาไว้เลย มันดูดีเอามากๆ เหลืองทองอร่ามเพราะของประดับส่วนใหญ่เต็มไปด้วยเครื่องประดับสีทอง
"โห.."
ปึก !
"โอ๊ะ ! ขอโทษค่ะ ปรางไม่ทันระวัง" เธอเดินตามหลังเขามานั่นแหละ แต่ด้วยความที่มองรอบตัวด้วยความตื่นเต้น เลยไม่ได้เห็นว่าเขาหยุดเดินก่อนหน้าแล้ว เลยทำให้ชนเข้าไปเต็มกลางหลังของเขาเลย เธอแทบจะหงายหลัง ในขณะที่เขายืนนิ่งสนิทราวกับหุ่นปั้นที่เพียงแค่ถูกลมพัดกระทบเล็กน้อย
"ขึ้นไปรอฉันบนห้องทำงาน"
"ปรางไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน"
"คนของฉันจะนำทางไป"
"อ๋อค่ะ"
"ฉันจะไปตรวจงานสักพักนึงแล้วเดี๋ยวจะกลับมา อย่าไปเดินเพ่นพ่านที่ไหนล่ะ แต่งตัวแบบนี้เขาจะไล่ออกจากที่นี่เอา"
"ค่ะ"
เธอได้แต่ก้มหน้ายอมรับ นึกอยากจะเถียงเขาอยู่เหมือนกันนะ ก็ในเมื่อเขาเป็นคนลากเธอมาเองยังจะมาบ่นอีกเรื่องการแต่งตัว
"เชิญทางนี้ครับ"
"คุณไปนานไหม จะทิ้งปรางไว้ที่นี่หรือเปล่า"
"ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก ไปได้แล้ว"
"ค่ะ"
มะปรางเดินตามคนที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานที่นี่ไป ระหว่างนั้นเธอก็คอยหันมองมาเฟียหนุ่มอยู่ตลอด เขากำลังเดินไปอีกทางพร้อมกับลูกน้องนับสิบเลย เขาเป็นใครกัน ทำไมถึงมีบุคลิกแบบนี้ แถมมีบอดี้การ์ดเต็มไปหมด
ไม่นานมะปรางก็มาถึงห้องทำงานของเขา มันกว้างและดูสะอาดตาไปหมดเลย แต่สีมันค่อนข้างเป็นโทนทึบ เย็นยะเยือกในกายอย่างบอกไม่ถูก
"เดี๋ยวผมจะให้พนักงาน เอาของว่างและน้ำดื่มมาเสิร์ฟนะครับ"
"ขอบคุณนะคะ ว่าแต่ฉันต้องนั่งอยู่ที่นี่เหรอคะ"
"ครับ นายสั่งไว้ว่ายังไงก็ตามนั้นครับ นายไม่ชอบคนขัดคำสั่ง"
"......" ได้แต่ยิ้มเจื่อนและพยักหน้าตอบรับ ไม่เข้าใจเลยว่า จะลากเธอมาด้วยทำไม ในเมื่อให้เธอตามมาด้วยแต่สุดท้ายก็ให้นั่งรอ
ก๊อกๆๆ ~
ประตูถูกเปิดก่อนที่จะมีคนเดินเข้ามา แต่ไม่ใช่เขาหรือพนักงานก่อนหน้า แต่เป็นพนักงานผู้หญิงที่สีหน้าดูไม่สบอารมณ์สักเท่าไร
มองเธอแบบเหมือนคนกำลังโกรธ ทั้งที่เพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกเอง ยังไม่เคยทำอะไรให้เลยสักครั้งด้วย
ผู้หญิงคนนั้นวางแก้วน้ำและจานที่ใส่ขนมแบบกระแทกแรงๆ เหมือนกำลังประชดประชัน ก่อนจะยืนนิ่งมองหน้าเธอ
"มาใหม่หรอ ?"
"ห๊ะ ?"
"ถามว่ามาใหม่เหรอ"
"อะไรคือมาใหม่"
"มาเป็นผู้หญิงของนายไง" น่าจะหมายถึงอนาคินทร์
"....." ไม่ได้ตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะให้คำตอบยังไง แต่ถ้าจะให้พูดมันก็เหมือนกับที่ผู้หญิงคนนี้พูดแหละ เธอเป็นผู้หญิงของเขา
แต่คำว่าผู้หญิงคนใหม่ มันทำให้เธอค่อนข้างตกใจ และคิดว่าเขาคงจะมีผู้หญิงแบบนี้มาแล้วหลายคน และคนตรงหน้าก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่หงุดหงิดขนาดนี้
"ฉันถามก็ตอบสิ นั่งเซ่ออยู่ทำไม"
"ฉันว่าฉันไม่จำเป็นต้องตอบ ฉันจะเป็นใคร มันก็เรื่องของฉัน"
"อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ !"
"ถูก เราไม่ใช่เพื่อนเล่นกัน และเราก็ไม่เคยรู้จักกันด้วย และทำไมฉันจะต้องตอบ ?"
"ฉันถามเธอก็ต้องตอบ เพราะถ้าให้นับและลำดับความสำคัญ ฉันน่ะมาก่อนเธอด้วยซ้ำ"
"อ๋อ เด็กเก่าเหรอคะ ?"
"นี่เธอ !!"
"ก็เมื่อกี้คุณว่าฉันเป็นเด็กใหม่ งั้นก็แสดงว่าคุณก็เป็นเด็กเก่า ที่ถูกเขี่ยทิ้ง เหรอคะ ?"
"นี่เธอฉันจะบอกอะไรให้นะ..."
" ??? "
"เขาไม่เคยจริงจัง เธอก็แค่ของเล่นชั่วคราว เขาเบื่อเมื่อไหร่ก็เขี่ยทิ้ง ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน"
"ให้มันถึงเวลานั้นก่อนเถอะค่ะ และถ้ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันว่ามันก็ไม่แปลกนะคะ แต่คนที่ถูกเขี่ยทิ้งแล้ว กลับมาแสดงความเป็นเจ้าของ ไม่พอใจคนที่มาใหม่ มันก็ดูแปลกอยู่นะคะ ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นเมียเขางั้นแหละ"
"อยากโดนตบด้วยถาดหรือไง !?"
"ก็เอาสิคะ ถ้าคุณคิดว่าฉันไม่สู้" เห็นแบบนี้ก็สู้คนเหมือนกันแหละ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยยุ่งกับใครไง ก็เลยไม่ได้สู้ ถ้ามันสู้ได้ก็สู้ยิบตาแหละ
"วอนนักนะมึง ถึงคราวโดนเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่ กูนี่แหละที่จะเป็นคนแรกสมน้ำหน้ามึง ! "
"อย่าเสียเวลาสมน้ำหน้าใครเลยค่ะ เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองเถอะ ถ้าคุณคิมรู้ว่าคุณมาหาเรื่องฉันถึงที่นี่ ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันเลย คุณคิดว่ามันจะเป็นยังไงคะ ?"
"ก็แค่เด็กที่มีค่าเวลานอนบนเตียงอย่างเธอ เขาไม่สนใจหรอก อย่าสำคัญตัวให้มันมาก ต่อให้ฉันตบหน้าเธอให้แหกตรงนี้ เขาก็ไม่ทำอะไรฉันหรอก"
"....."
"จำใส่หัวสมองเถอะเอาไว้ เขาเบื่อเธอเมื่อไหร่ เขาก็เขี่ยเธอทิ้งอยู่ดีนั่นแหละ"
มะปรางได้แต่ส่ายหัวให้กับคำพูดของผู้หญิงคนนั้น หลังจากที่เธอเดินออกไปแล้ว ในใจก็คิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงด้วยกันจะดูถูกกันแบบนี้
ช่วงหัวค่ำวันหนึ่งหลังจากที่เวลาผ่านไปอยู่ร่วมเดือนหลังจากที่กลับมาจากดูแลย่าในช่วงตอนกลางวัน วันนี้ฝนตกตั้งแต่หัวค่ำมะปรางก็เลยไม่ได้ออกไปเดินเล่นที่ไหน ส่วนอนาคินทร์ก็นั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานของเขา โดยที่เรียกให้เธอนั้นไปนั่งอยู่เป็นเพื่อนด้วยมะปรางนั่งขดตัวอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ซุกตัวใต้ผ้าห่มบางๆ เพราะหนาวจากเครื่องปรับอากาศในห้องและบรรยากาศด้านนอกที่ฝนกำลังตกพรำๆ มันเลยชวนให้อากาศเย็นเยียบมากกว่าปกติเธอมองเขานิ่งๆ นานมากพอที่หัวใจจะบอกตัวเองว่า 'เธอตกหลุมรักเขาไปแล้ว'ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นคนดี ไม่ใช่แค่เพราะเขาช่วยเหลือเธอ แต่เพราะในทุกวัน ทุกการกระทำเล็กๆ แม้แต่ความเงียบของเขา มันค่อยๆ ซึมลึกเข้ามาในใจเธอแต่เธอก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้มองเธอแบบเดียวกันสำหรับเขาเธอก็แค่ 'หลานสาวของยายชรา' ที่เขายื่นมือเข้ามาช่วยตามคำสั่งเสียของยายตัวเองและยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่เคยลืมคำพูดของเขาในคืนแรกที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เธอไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของเขาเลย เพราะเธอก็แค่ผู้หญิงที่เขาซื้อมาไว้สำหรับปรนเปรอและบำเรอความต้องการให้แก่เขา ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะชอบหรือรัก หรือรู้สึกดี"คุณคิม" มะปรางเอ่ย
#เวลาผ่านไปหลายวันมะปรางยืนอยู่หน้าห้องทำงานของอนาคินทร์อยู่นานสองนาน โดยที่ยังไม่กล้าขยับมือผลักประตูเข้าไปเธอเห็นรูปนั้นครั้งแรกเมื่อสามวันก่อนรูปถ่ายเก่าๆ สีซีดจาง ที่ในนั้นมีย่าของเธอตอนสาวๆ ยืนเคียงข้างผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาคล้ายอนาคินทร์มากตอนแรกมะปรางคิดว่าจะไม่ถามอะไรทั้งนั้น มันก็แค่ภาพถ่ายเก่าๆ ใบหนึ่ง แต่ไม่รู้ทำไมมันกลับติดอยู่ในหัว เธอนอนไม่หลับอยู่หลายคืน แค่คำถามเดียวที่คาใจพวกเขารู้จักกันได้ยังไง? พวกเขาเป็นอะไรกัน?เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วเคาะประตูสองครั้ง"เข้ามาสิ" เสียงของอนาคินทร์ดังขึ้นเรียบเย็นอย่างที่เคยเป็นเมื่อมะปรางก้าวเข้าไปเธอก็เห็นเขานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ท่ามกลางกองเอกสารและโคมไฟสีส้มอ่อนที่ให้แสงสว่างอบอุ่นอยู่"มีอะไรหรือเปล่า?" เขาถามมะปรางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปหยุดยืนตรงหน้าชั้นหนังสือ มือเล็กหยิบเล่มหนังสือที่เธอเอาวางไว้ซึ่งมันยังคงอยู่ที่เดิม ก่อนจะเปิดมันและหยิบรูปภาพที่เธอใส่กลับคืนเข้าไปก่อนหน้านี้ออกมาแล้วยื่นให้กับเขาดู"รูปนี้..." เธอเอ่ยเสียงแผ่ว "ผู้หญิงที่ยืนข้างๆ ย่าของปรางคือใครเหรอคะ?"อนาคินทร์เงียบไปนานราวกับกำลังชั่งใจว่าจ
เช้าวันหนึ่งที่อากาศแสนจะสดใส มะปรางเดินขึ้นมาบนห้องทำงานของอนาคินทร์พร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาด เพราะวันนี้เธออยู่บ้านทั้งวันคนตัวเล็กเอื้อมมือดึงผ้าม่านให้เปิดออกกว้างให้แสงแดดได้สาดส่องเข้ามา เธอได้กลิ่นตู้ไม้เก่าและหนังสือจางๆ ลอยอบอวลในห้องทำงานของอนาคินทร์ ห้องที่เขามักห้ามเธอเข้ามาโดยไม่ให้เหตุผล นอกเสียจากเธอจะเข้ามาทำความสะอาดเป็นครั้งคราวแต่วันนี้เขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้า และเช้ากว่าปกติด้วย เห็นบอกกับเธอว่างานที่กำลังทำอยู่นั้นมีปัญหานิดหน่อยเลยต้องรีบเข้าไปเคลียร์มะปรางเดินช้าๆ พร้อมกับมือถือผ้าเช็ดฝุ่นไว้แน่น ดวงตากวาดมองไปรอบๆ อย่างลังเลพร้อมกับนึกในใจว่าเธอจะเริ่มทำความสะอาดส่วนไหนก่อนดีเฟอร์นิเจอร์เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ โต๊ะทำงานตัวใหญ่ชิดผนัง หน้าจอคอมดับสนิท กองเอกสารถูกจัดเรียงอย่างประณีต ราวกับเขาไม่ต้องการให้ใครแตะต้องเธอเริ่มเช็ดฝุ่นจากชั้นหนังสือไล่ไปเรื่อยๆ ตามโต๊ะทำงานของเขา ตามโซฟา ตามขอบหน้าต่าง จนกระทั่งสะดุดกับหนังสือเล่มหนึ่งที่เป็นเหมือนหนังสือเรียนเก่าๆ ตกอยู่ข้างตู้ เห็นปีพ.ศ.บนหน้าสมุดแล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะมันเป็นปีพ.ศ.ที่เธอยังไม่เกิดเลย
ตกดึกวันหนึ่งขณะที่มะปรางกำลังเตรียมที่หลับที่นอนให้กับตัวเองและเจ้านายสุดแสนเอาแต่ใจเหมือนอย่างเคย"ผ้าห่มอยู่ไหนเนี่ย" มะปรางบ่นพึมพำ เดินวนหาข้างเตียงอยู่พักใหญ่ เพราะจำไม่ได้ว่าตัวเองนั้นเอาไปลืมไว้ไหน หรือว่ายังไม่ได้เอาขึ้นมาจากด้านล่าง"นั่นไง ข้างหมอน" เสียงของมาเฟียหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาใกล้ๆ ตั้งใจจะช่วยหาเพราะเห็นว่าเธอหาอยู่นานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเจอสักที ไม่รู้ว่าตาเซ่อหรือว่ามองไม่เห็นจริงๆ "งูจะกัดตายอยู่ละ"มือของเธอกับเขาเอื้อมไปหาผืนผ้านั้นในเวลาเดียวกันไม่มีใครทันหลบใคร และแล้วร่างของทั้งสองก็เสียหลักเพราะชนกันและล้มทับกันลงไปตุบ!"อ๊ะ!""อุ๊บ!"ร่างใหญ่กำยำทับตัวของเธอลงมาอย่างเต็มแรง เขาตัวใหญ่และหนักมาก เล่นเอาเธอหายใจขัดไปชั่วขณะนึงเลย ลมหายใจถี่พ่นออกมาเป็นจังหวะรินรดใบหน้าของเธอที่อยู่ใต้ร่างของเขาดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาเธอโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนที่หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอกำลังเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ นี่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอและเขาได้ใกล้ชิดกัน แต่ทำไมมันถึงได้รู้สึกแปลกแบบนี้นะ"คุณคิม!" มะปรางพูดขึ้นเบา ๆ ก่อนที่เสียงของเธอนั้นจะพา
#หลายวันต่อมา หลังจากที่อนาคินทร์ประกาศตัดขาดไปอย่างชัดเจนวันนั้น ผู้หญิงที่ชื่อมารีนก็ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรอีกเลย มะปรางรู้สึกว่ามันสบายขึ้นเยอะเพราะไม่ต้องมีใครมาคอยรบกวนหรือทำให้เธอต้องหนักใจ รู้สึกเหมือนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง"ลาลาลั้นลา ลาล่าลาลั้นลา ~""สบายใจเฉิบเชียวนะ""อุ้ย !"มะปรางสะดุ้งตกใจก่อนที่เธอนั้นจะหันกลับไปมองตามเสียงที่เอ่ยทักขึ้น ไม่รู้ว่าเขามายืนกอดอกมองเธอตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มายืนเงียบๆ ใครบ้างจะไม่ตกใจ"อารมณ์ดีเชียวนะเธอน่ะ""ก็ปกติค่ะไม่มีเรื่องให้ปวดหัว""มัวแต่ร้องเพลง แล้วเมื่อไหร่กับข้าวมันจะเสร็จ ฉันหิวแล้วนะ ใครจะไปอุ้มท้องรอเธอไหว""ก็รีบทำให้อยู่ค่ะ ทำไมวันนี้ถึงจะกินเร็วนักล่ะคะ?""ก็ฉันหิวไง""โอเคค่ะๆ รอสักครู่"ปกติก็เร่งทำอยู่แล้วนะ แต่ครั้งนี้ต้องเร่งทำแบบคูณสอง เพราะเขาดันมาเร่งเธอแบบนี้ แถมไม่ได้บอกก่อนด้วยว่าจะกินข้าวเร็ว เธอก็เลยทำตามเวลาปกติ"ทำปากขยุบขยิบ ด่าฉันอยู่หรือไง""เปล่าค่ะ คิดได้ไงว่าปรางด่า""ก็คิดแบบนี้แหละ""ปรางไม่ได้ด่าค่ะ จะด่าทำไมคะ คุณจ่ายเงินเดือนให้ปรางนี่""เหรอ...""เป็นอะไรคะ เจอหน้าปรางทีไรทำไมชอบหาเรื่อง
ตอนบ่ายในวันเดียวกันตู๊ด ตู๊ด ~( ว่าไง มีอะไรหรือเปล่า )"คุณกลับบ้านเวลาเดิมไหม"( อืม ก็คงเวลาเดิม )"ย่าชวนมากินข้าวที่บ้านน่ะ คุณมาได้หรือเปล่า"( ได้สิ เดี๋ยวฉันไป )"....." มะปรางเงียบ ไม่มีอะไรจะพูดต่อ เพราะปลายสายไม่ปฏิเสธอะไรเลย( จะเอาอะไรหรือเปล่า ฉันจะแวะซื้อไปให้ )"ไม่เอาหรอกค่ะ คุณเสร็จงานแล้วก็เลยมาเลยก็ได้ ปรางจะได้ไม่ต้องกลับไปทำกับข้าว"( อืม เดี๋ยวฉันไป แค่นี้นะ )"ค่ะ"การสนทนาระหว่างเธอกับเขามันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก มีแค่นี้แหละ เหมือนภรรยาที่โทรตามสามีกลับมากินข้าวที่บ้านไม่มีผิดเลย การใช้ชีวิตของเธอและเขา มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากสามีภรรยาเช่นกัน แต่ความจริงแล้ว มันสวนทางกันอย่างกับรางรถไฟเลย"ปรางโทรหาเขาแล้วนะย่า เดี๋ยวเขาเสร็จงานแล้วจะขับรถมา""อืม...""ปรางเป็นหลานของย่า ทำไมย่าถึงสนใจเขามากกว่าปรางล่ะ""เขาเป็นคนดีนะ""......" มะปรางทำหน้านิ่ง เธอก็ไม่ปฏิเสธหรอก แต่อยู่มาจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอเขาเป็นอย่างดีเลย เขาเป็นคนยังไง นิสัยยังไง เธอยังไม่รู้ดีเลย รู้แค่ว่าเป็นคนที่ปากจัด พูดตรงไปตรงมา ชอบออกคำสั่ง ตกกลางคืนชอบลากเธอไปนอนด้วย แล้ว