Share

บทที่ 2 ปี 1960

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-01 17:56:17

บทที่ 2 ปี 1960

"เยว่หรู... ตื่นเร็ว" เสียงเรียกชื่อเธอดังต่อเนื่อง จนจำต้องลืมตาตื่นขึ้นมา

เยว่หรูพยายามลืมตา... พอลืมตาแล้วเหมือนทุกอย่างมันพร่ามัวไปทั้งหมด เธอต้องกะพริบตาหลาย ๆ รอบ เพื่อที่จะได้มองเห็นทุกอย่างชัดมากกว่าเดิม

"ที่ไหน... " เมื่อมองภาพข้างหน้าชัดเจนแล้ว... จนมั่นใจว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นไม่ใช่ภาพลวงตา

"กินยาก่อนลูก อดทนนิดหนึ่งจะได้หาย" เสียงของหญิงสาววัยกลางคนเอ่ยบอกเธออีกครั้ง

"คุณไปรอข้างนอกก่อน... ฉันดูลูกเอง" ลู่หลิน หันไปบอกสามีที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ 

เยว่หรูมองที่มือของหญิงสาวคนนั้นก็ทำให้เธอถึงกับขมวดคิ้ว ทำไมมีแต่รอยเต็มไปหมดแบบนี้ เธอมาอยู่ที่ไหนหรือว่า... เธอกำลังฝัน เหมือนที่ก่อนหน้านี้เธอชอบฝันติดต่อกัน ก็มีบรรยากาศคล้าย ๆ แบบนี้

"แม่ล้างมือแล้ว ไม่ต้องห่วง" หญิงสาวที่เห็นลูกสาวจ้องมองมาที่มือของตัวเองก็รีบบอกทันที เธอรู้ว่าลูกสาวไม่ชอบเธอสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ต้องรีบให้กินยาเสียก่อน 

"ไม่ใช่ค่ะ... ฉันแค่แปลกใจ ทำไมมือถึงมีแต่แผลล่ะคะ" เยว่หรูรีบบอกพร้อมกับอ้าปากกินยาเพื่อไม่ให้พี่สาวต้องกังวลใจ ที่เรียกพี่สาวเพราะจากที่ดูแล้วอายุเราไม่น่าจะห่างกันมากนัก... แทนตัวเองว่าแม่เลยเหรอ... เยว่หรูงงในงง...

"นอนพักนะ แม่กับพ่อต้องไปลงงานก่อน เมื่อถึงเวลาแม่จะมาปลุกกินยาอีกรอบ" หญิงสาวดีใจที่ลูกสาวของเธอนั้นยอมกินยาจากชามที่เธอเป็นคนถือ จนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ลูกสาวแปลกไป เพราะคิดว่าคนเป็นไข้ก็มีอาการแปลก ๆ ด้วยกันทั้งนั้น...

เยว่หรูพยักหน้ารับแล้วล้มตัวลงนอน เธอต้องการเวลา... เพื่อที่จะได้เช็กว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เธอเจออยู่ในตอนนี้เกิดจากอะไร หากมันคือความฝัน... มันคือฝันที่เหมือนจริงมาก ชีพจรของเธอนั้นบ่งบอกว่าเธอมีไข้ไม่สบาย ถ้าหากเป็นความฝัน... เธอคงไม่รู้สึกถึงรสชาติของยาสมุนไพรแบบนี้  ถึงจะมีส่วนผสมของยาสมุนไพรที่ไม่มากนัก แต่เธอคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรย่อมรู้จักเป็นอย่างดี

ยาลดไข้นี่แทบไม่ได้ช่วยให้ร่างกายนี้ทุเลาลงได้เลย เยว่หรูยกมือขึ้นดู... มือเล็กขาวที่เหมือนคนขาดสารอาหาร และแน่นอนว่าไม่ใช่แขนของเธอ เพื่อความมั่นใจ เธอเปิดผ้าห่มผืนบางออก... แล้วสำรวจร่างกายจนทั่ว ก่อนจะมองหากระจกเพื่อที่จะได้เห็นว่ารูปร่างหน้าตาหรือร่างกายนี้เป็นใครที่เธอรู้จักบ้างไหม หรือจะเป็นเธอในช่วงวัยเด็ก...

พอพิสูจน์ไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก ก็วกเข้าไปที่นิยาย คิดว่าตัวเองอาจทะลุมิติมา หากทะลุมาจริง ให้เธอทะลุมาที่ไหน... คงไม่ใช่จีนโบราณ เพราะก่อนหน้านี้พี่สาวกับพี่ชายคุยกันยังเป็นคำพูดคุยปกติ...

"หากฉันนอนสักหน่อย... ฉันจะตื่นจากฝันที่เหมือนจริงนี่ไหม... " เยว่หรูพึมพำออกมาแล้วก็ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม ในเมื่อไม่มีกระจกให้ส่องเลยไม่รู้จะนั่งหาทำไม 

แต่เยว่หรูไม่ได้หลับในทันที เธอมองทุกอย่างรอบตัว หลังคาที่เป็นหญ้า ผนังที่น่าจะเป็นดิน... ห้องที่เธออยู่แทบไม่มีอะไรเลย มีเตียงนอนที่เล็กกว่าสามฟุตครึ่งเสียอีก ไม่รู้จะบอกว่าเตียงได้ไหมเพราะมันเล็กมาก แต่มันก็คล้ายเตียงเตาสมัยก่อน ในห้องนี้ยังมีตู้ที่เธอเดาว่าน่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า ต้องบอกว่าเธอนอน... แล้วใช้สายตาสำรวจ ไม่ได้ลุกเดินดูแต่อย่างใด เพราะมันยังมีอาการเวียนหัว อาจเพราะร่างกายนี้ยังไม่หายจากไข้ เยว่หรูจำต้องข่มตาให้หลับพักผ่อน...

...

เยว่หรูนั่งมองบ้านดินหลังน้อยที่มีเพียงสองห้องนอน หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องส้วมเพียงเท่านั้น ในบ้านแทบไม่มีอะไรเลย อย่าว่าแต่ในบ้านเลย... แม้แต่เสื้อผ้ายังมีคนละไม่กี่ชุดเพียงเท่านั้น รองเท้าก็เหมือนกัน ขาด ๆ เก่า ๆ นิ้วโผล่ออกมาได้ สภาพมันจะพังอยู่แล้ว

"เฮ้อ... " เยว่หรูถอนหายใจออกมา ปลงกับชีวิตที่กำลังเป็นอยู่

ตลอดระยะเวลาสามวันที่เธอหลับ ๆ ตื่น ๆ ขึ้นมา เธอไม่ได้ไปไหนเลย เธออยู่บ้านหลังนี้ตลอด ความหนาวเหน็บที่สัมผัสได้ทำให้รู้เลยว่าเธอไม่ได้ฝันไป...

จากฝันหวานอยากทะลุมิติไปยุคจีนโบราณ ความฝันของเยว่หรูก็เป็นจริง!! ก็หากไม่คิดอะไรมาก... ก็โบราณเหมือนกัน แต่ไม่มีท่านอ๋อง องค์รัชทายาท หรือท่านแม่ทัพ... มีแต่ ทหารแดง หน่วยคอมมูน ใช้ตั๋วหรือคูปองในการซื้อของ ทำงานแลกแต้มที่แทบจะไม่มีอาหารให้ โบราณกว่ายุค 2020 แน่ ๆ เพราะนี่คือยุค 1960 ของแท้แน่นอน...

"ออกมานั่งข้างนอกทำไม เดี๋ยวไข้ขึ้นหรอกลูก" ลู่หลินรีบเดินเข้ามาหาลูกสาวพร้อมกับเอามือแตะที่หน้าผากกลมมนทันที

"..." เยว่หรูไม่ว่าอะไร ปล่อยให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ในยุคนี้สำรวจอาการเพื่อที่จะได้สบายใจ เพราะเธอรู้ดีว่าร่างกายนี้หายจากอาการไข้แล้ว...

"เอ่อ... แม่ลืมไป" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งกลับมาจากทำงานในไร่ เลยรีบบอกลูกสาวเพราะรู้ว่าลูกสาวของตนไม่ชอบอะไรแบบนี้

"ไม่เป็นไรค่ะ จับได้เลย... หนูดีขึ้นมากแล้ว" เมื่อเห็นท่าทางของอีกคน เยว่หรูก็รีบบอกเพื่อที่อีกคนจะไม่ต้องทำหน้ารู้สึกผิดแบบนี้

"หนูต้มน้ำไว้ให้แล้วค่ะ" เยว่หรูชวนคุย... พร้อมกับยื่นมือเข้าไปจับตรงบริเวณข้อมือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น แม่

"ขอบใจลูกมาก เข้าบ้านกันดีกว่าเนอะ... แม่จะได้ทำอาหารให้กิน" ลู่หลินมองมือเล็กขาวที่ยื่นมาจับที่ข้อมือของตัวเอง ก็รู้สึกดีใจที่ลูกสาวที่ไม่ชอบให้เธอแตะเนื้อต้องตัวนั้นยอมแม้กระทั่งเป็นคนยื่นมือมาจับเธอก่อน

เยว่หรูเดินตามเข้าบ้านไป พร้อมกับวินิจฉัยอาการของคนที่เธอต้องเรียกว่าแม่ไปด้วย หากเป็นโลกที่เธอจากมานั้นมันรักษาง่ายมาก แค่ต้องให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ แต่มันยากเหลือเกินที่จะทำแบบนั้นได้ในยุคนี้

ในตอนแรกที่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองนั้นไม่ได้ฝันไป... เยว่หรูแทบบ้า เมื่อได้รู้ว่าสถานที่อยู่นี้คือโลกในหนังสือนิยาย เยว่หรูคนนี้คือนางเอกของเรื่องนี้ แต่ ๆ เยว่หรูไม่ใช่นางเอกตัวจริง!! นางเอกตัวจริงคือคนที่ทะลุมิติมาเข้าร่างนางร้าย! สรุปง่าย ๆ นางร้ายของเรื่องนี้คือนางเอก!! ส่วนเยว่หรูคนนี้คือนางเอกปลอม ๆ นั่นเอง..

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 53 ตอนพิเศษ

    บทที่ 53 ตอนพิเศษ"หนิงหนิงต้องเดินตามตา เข้าใจไหมครับ" จางหยวนบอกหลานสาวสุดน่ารักของเขา ที่วันนี้แต่งตัวมาพร้อมเก็บใบชา มีตะกร้าใบเล็กสะพายอยู่ทางด้านหลัง พร้อมทำงานเป็นอย่างมาก"คุณตาเชื่อใจหนิงหนิงได้เลยค่ะ" หานเผยหนิงวัยห้าขวบที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนงานเก็บใบชาของคุณตาก็รับปากอย่างแข็งขัน"ยายว่ารอพี่ใหญ่กับพี่รองดีกว่าไหม" ลู่หลินที่มองหลานสาวก็อดเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้ หลานสาวของเธอนั้นถอดแบบแม่มาแทบทั้งหมด มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ได้จากคนเป็นพ่อ นั่นยิ่งทำให้หลานสาวของเธอน่ารักน่ามองมากกว่าเดิม"ไม่ได้ค่ะคุณยาย หากพี่ใหญ่พี่รองมา หนิงหนิงก็สู้ไม่ได้" หนิงหนิงต้องเก็บได้เยอะกว่า งานนี้หนิงหนิงต้องชนะ!!"หากแม่มาเจอ โดนดุอย่าหาว่ายายไม่เตือน" ลู่หลินแกล้งขู่หลานสาวตัวน้อยที่ดูจะกลัวแม่มากกว่ากลัวพ่อ"ไม่ค่ะคุณยาย วันนี้คุณแม่มีงานที่โรงพยาบาล และตอนบ่ายคุณพ่อจะรับไปโรงงานค่ะ หนิงหนิงปลอดภัยแน่นอนค่ะ" หนิงหนิงรีบบอกคุณยายทันที เธอจำได้ ก้นเธอไม่เจ็บแน่นอนเพราะคุณแม่ไม่อยู่"ถ้าอย่างนั้นไปกันเลย" จางหยวนผู้ที่ตามใจหลานมากกว่าตามใจลูก มีหรือที่จะขัดใจหนิงหนิงตัวน้อยได้ เจอหลานออดอ้อนนิ

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 52 บทส่งท้าย ครอบครัว

    บทที่ 52 บทส่งท้าย ครอบครัววันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากเคยนับวันว่ามาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง กลายเป็นว่าเลิกนับวันเวลาแล้ว ตอนนี้ที่นับคืออายุของลูก ๆ ของเธอที่กำลังโต ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นต้องบอกว่ายุ่งกับการทำงานและการเลี้ยงลูก ยังดีที่พ่อกับแม่ของเธอมาช่วยเลี้ยง ไม่อย่างนั้นบอกเลยว่าเธอกับสามีไม่น่าจะเลี้ยงแฝดสามได้ และด้วยความที่แทบไม่มีเวลาพัก สามีของเธอบอกเลยว่า... พอแล้ว... มีสามคนก็พอแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเข็ดที่ลูกซนหรือว่ายังไงเยว่หรูทำงานที่โรงพยาบาลและทำงานที่บ้านด้วย ที่ตอนนี้ขยับขยายให้เป็นโรงงานขนาดเล็กผลิตยาสมุนไพรส่งทางสาธารณสุข โดยมีสามีของเธอเป็นคนดูแลตรงนี้ ส่วนในเรื่องของโรงงานตระกูลหานนั้นก็จัดแบ่งให้คนสนิทมาช่วยงาน แต่เขาก็ยังเป็นคนตัดสินใจในทุกเรื่อง ดีที่ได้สามีของพี่เหมยมาช่วยงาน ทำให้ทุกอย่างไม่ยุ่งยากมากนักในส่วนเรื่องของพระเอกที่เยว่หรูกลัวนั้น ก็ยังได้ข่าวเขาบ้างบางครั้งจากอาจารย์หม่า หรือบางทีเขาก็มาหาสามีเธอ แต่ก็ยังไม่เห็นจะแต่งงานสักที เยว่หรูกับพี่เหมยลุ้นอยู่ว่าคนไหนคือนางเอกตัวจริงของนิยายเรื่องนี้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นนางเอกเลยในส

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 51 วันที่รอคอย

    บทที่ 51 วันที่รอคอย"คุณหมอคะ ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ" ลู่จิวหรือพี่เหมยเดินเข้ามาให้กำลังใจคุณหมอถึงหน้าห้องคลอดเลยทีเดียว"พี่เหมย... หมอกลัว" เยว่หรูบอกไปตามตรง เนื่องจากเธอท้องแฝด การคลอดเลยต้องผ่าคลอด และคนที่ติดต่อหมอต่างชาติให้มาทำคลอดให้เธอนั้นก็คืออาจารย์หม่านั่นเอง "อย่างน้อยก็ยังสามารถผ่าคลอดได้" ลู่จิวรู้ดีว่าคุณหมอกังวลเป็นอย่างมากเพราะทางการแพทย์ในสมัยนี้ยังไม่ก้าวหน้าเท่ายุคที่จากมา อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่พร้อม ยังดีที่อาจารย์หม่าคอยช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นเธอจะกังวลหนักมากกว่านี้แล้ว"แล้วพี่มาอยู่นี่ใครดูลูกชาย อย่าบอกนะว่าไปทำงานกับพ่ออีกแล้ว ลูกชายพี่ยังไม่สามเดือนเลยนะ" เยว่หรูถามหาหลานชายที่มีอายุเพียงสองเดือนกว่าพี่เหมยคลอดลูกในวันที่เยว่หรูจบการศึกษา ซึ่งได้ดั่งใจที่สามีพี่เหมยอยากได้ นั่นคือลูกชายตัวอ้วนกลมจ้ำม่ำ พี่ห่าวซวนนั้นหลงลูกมาก บางวันต้องหอบพาลูกไปทำงานที่โรงงานด้วย ตอนนี้พี่ห่าวซวนคือคนที่เข้าไปดูแลโรงงานของตระกูลหานแทนสามีของเยว่หรู เนื่องจากสามีของเยว่หรูต้องคอยดูแลเธอและดูแลโรงงานผลิตยาสมุนไพรส่งสาธารณสุขด้วย ทุกคนเลยต้องแบ่งงานกันทำ"สามีจะรออยู่ตรงนี้ ไม่

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 50 เรียนจบ

    บทที่ 50 เรียนจบวันนี้คือวันที่ทางสมาพันธ์จะมอบใบประกาศสำเร็จการศึกษาให้แก่เยว่หรู ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ เพราะตอนที่อาจารย์หม่าเคยแจ้งนั้นบอกว่าหลังกลับจากค่ายแรงงานประมาณสามเดือน แต่นี่เพิ่งจะสองเดือนก็มีหนังสือรับรองออกมาแล้ว จึงทำให้วันนี้ครอบครัวเยว่หรูทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่สมาพันธ์วันนี้แม่ของเยว่หรูอยู่ในชุดกี่เพ้าสีเหลือง ทำให้ขับผิวขาว ๆ ของแม่ดูสวยดูดีจนพ่อนั่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้นอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขากระบอก รองเท้าหนังอย่างดี ทุกอย่างที่ใส่มานั้นเป็นเยว่หรูจัดเตรียมไว้ให้ น้อยคนนักที่จะได้ใส่แบบนี้ ยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงนั้นแทบไม่กล้าเดินไปไหนเลยทีเดียวส่วนสามีของเยว่หรูนั้นไม่ต้องจัดให้ เขาก็สามารถแต่งตัวให้ออกมาดูดีอยู่แล้ว วันนี้อาจารย์หมิงเว่ยมาร่วมแสดงความยินดีด้วย ซึ่งเยว่หรูนับถืออาจารย์หมิงเว่ยมาก เขาคือคนที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่ที่เธอยังไม่ค่อยรู้อะไรมากนักส่วนพี่สาวหลิงฟางก็มีเพียงจดหมายส่งหากันเท่านั้น เพราะพี่สาวหลิงฟางย้ายไปอยู่เมืองอื่น เยว่หรูทำได้เพียงส่งยาสมุนไพรและสิ่งของไปให้ ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเลย ต้องบอกว่าเยว่หรูตอบแทนทุกค

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 49 จุดไต้ตำตอ

    บทที่ 49 จุดไต้ตำตอเยว่หรูอยู่ค่ายจนถึงวันทำงานวันสุดท้าย ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสามีไม่ได้ตามมาอย่างที่เคยบอกไว้ เยว่หรูคิดว่าเขาคงจัดการเรื่องงานไม่เรียบร้อย ซึ่งมันดี... เพราะเยว่หรูไม่อยากให้เขาตามมาสักเท่าไหร่"ทำเหมือนคนนอนไม่พอเลยนะเยว่หรู" อาจารย์หม่าถือชามอาหารมานั่งข้าง ๆ ลูกศิษย์"เมื่อคืนหนูฝันค่ะ เลยทำให้ตื่นกลางดึก พอตื่นแล้วนอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ" เยว่หรูบอกไปตามความจริง"หากวันนี้ไม่ไหวก็ไม่ต้องทำอะไรมากเข้าใจไหม" วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนักเพราะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนรู้แล้ว"แล้วเรื่องที่อาจารย์รักษาคุณโจวละคะ ยังต้องทำต่อเนื่องไหม" เยว่หรูถามเรื่องการบำบัดคนที่เครียดสะสมอย่างพระเอก ในตอนแรกอาจารย์บอกให้เธอลองรักษาด้วยตัวเอง แต่เธอไม่อยากทำก็อ้างว่าโน่นนี่นั่นไม่ค่อยสะดวกมากนัก ซึ่งอาจารย์หม่าก็ไม่ว่าอะไร"เยว่เยว่" เสียงเรียกดังมาจากทางประตู ทำให้เยว่หรูต้องหันไปมองทันที"อาจารย์บอกแล้ว เขามาแน่... ไม่ช้าก็เร็ว" อาจารย์หม่าบอกลูกศิษย์ตัวน้อยที่กำลังนั่งกลอกตาไปมา"พรุ่งนี้ก็กลับแล้วนะคะ" ความหมายของเธอชัดเจนคือ ...จะมาทำไม..."ไม่เจอกันตั้งหลายวัน พูดแบบนี้กับสามีได

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 48 เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร

    บทที่ 48 เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรเยว่หรูเรียนรู้แล้วว่าคนที่อยู่ที่นี่ส่วนมากจะมีภาวะหยินหยางไม่สมดุล พอไม่สมดุลก็นำพาไปสู่การเจ็บป่วยได้ง่าย เยว่หรูทำงานร่วมกับอาจารย์หม่าและมีหมอเท้าเปล่าที่คอยแนะนำสิ่งต่าง ๆ "เยว่หรูไปพักก่อนก็ได้" อาจารย์ที่รับปากครอบครัวของลูกศิษย์ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตัวเองรับปากแล้ว เพราะเยว่หรูนั้นทำงานทุกอย่าง ช่วยทุกคนที่สามารถเข้าไปช่วยได้ ทำงานหนักกว่านักศึกษาคนอื่นเสียอีกทั้งที่ตัวเองท้องอยู่"ยังทำไหวค่ะอาจารย์ ไม่ได้เหนื่อยอะไร" เยว่หรูบอกไปตามความจริง ความรู้ทั้งนั้น เรียนรู้ไว้ไม่เสียหาย "ทำเท่าที่ไหว เข้าใจไหม" หากเป็นอะไรขึ้นมาแล้วรับรองเลยว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแน่นอนเยว่หรูทำงานจนเรียบร้อยทั้งหมด พอถึงเวลาที่เธอเองออกมานั่งพักผ่อนมองดูผู้คนที่อยู่ในค่าย มีทั้งทหารและยังมีนักโทษที่มาใช้แรงงานกำลังทยอยกลับค่ายกัน กลุ่มคนชุดนี้จะถูกตรวจสุขภาพในวันพรุ่งนี้ ต้องถือว่าค่ายแห่งนี้ถูกดูแลอย่างนี้ ไม่ได้กดขี่มากนัก แม้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นนักโทษ ต้องบอกว่าสถานที่กักกันหรือค่ายแรงงานจะแบ่งแยกนักโทษ "เป็นยังไงบ้างคุณหมอ" เสียงเรียกถามทำให้เยว่หร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status