Share

ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดี

last update Последнее обновление: 2025-01-05 20:42:37

ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดี

ฝาแฝดเดินตามย่ามาที่ร้านค้าของหมู่บ้าน หากเป็นแต่ก่อนทั้งสองจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อยากจะมาดูว่าร้านค้ามีอะไรขายบ้าง แม้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยก็ตาม

แต่หลังจากเหตุการณ์ที่ทุกคนต่อว่าแม่ และคนขายไม่ยอมขายของให้ด้วย ทำให้พวกเธอไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไร แต่ที่มาวันนี้เพราะจะได้มารอแม่ หากแม่กลับมาจะต้องผ่านเส้นทางนี้ เพราะตอนออกไป... แม่ก็นั่งรถผ่านเส้นทางนี้เหมือนกัน

"พี่ใหญ่ หรือว่าแม่จะเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนที่พาเราเข้าไปในเมือง" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่อาจมาอีกเส้นทางหนึ่งก็เริ่มที่จะลังเลไม่อยากเดินต่อ

"เดินเร็ว ๆ ย่าจะซื้อลูกอมนมกระต่ายขาวให้" รุ่ยจิวเร่งหลานทั้งสอง ตอนนี้พยายามที่จะให้หลานลืมเรื่องแม่ไปก่อน

"ย่าครับ แม่จะมาเส้นทางนี้ไหมครับ" จือหมิงถามย่าเพื่อความแน่ใจ

"ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไปเลือกขนมได้เลย อยากได้อะไรก็เลือกเอาเลย" รุ่ยจิวตอบหลานแล้วดันตัวหลานให้เข้าไปในร้านค้า เพื่อเลือกซื้อขนมตามที่ต้องการ

เมื่อให้หลานเข้าไปแล้ว ตัวเองก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าร้านค้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้หลานทั้งสองดูเหมือนจะติดแม่มาก ๆ แค่หายไปไม่นานก็พากันออกมานั่งรอที่หน้าบ้านแล้ว

เธอเข้าใจดีที่ลูกรักแม่ เป็นห่วงแม่ มันคือเรื่องที่ถูกที่ควร แต่หลานทั้งสองรักแม่ทั้งที่แม่ร้ายขนาดนี้ มันทำให้เธอลำบากใจมากพอสมควร หากจะให้ห้ามหลาน เธอก็รู้ว่าห้ามไม่ได้

ไม่รู้ลูกสะใภ้คนนี้มีอะไรดี ขนาดเป็นแม่ที่ใจร้าย ลูกยังรักยังเป็นห่วงมากขนาดนี้ อยากให้คนเป็นแม่รักลูกบ้าง ห่วงลูกบ้าง มันคงจะดีกว่านี้ เรื่องราววุ่นวายต่าง ๆ อาจไม่เกิดขึ้น ลูกชายของเธอคงไม่ยื่นเรื่องหย่า ถึงแม้ลูกชายจะไม่ได้รักภรรยา แต่ก็ห่วงความรู้สึกของลูกและรักลูกมาก ๆ เขาสามารถยอมได้ในหลาย ๆ เรื่อง หากเป็นก่อนหน้านี้เธอจะไม่กังวลเลย แต่ตอนนี้เหมือนมีบางอย่างเปลี่ยนไป

"ทำไมมีสีหน้ากังวลแบบนั้น... หรือว่าลูกสะใภ้ไม่ยอมหย่าง่าย ๆ " เสียงของชาวบ้านถามขึ้นด้วยความสงสัย

"ฉันเป็นห่วงหลาน" รุ่ยจิวบอกปัด ความจริงไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้สักเท่าไร แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อลูกชายทั้งสามบอกว่าต้องการพยานที่เป็นคนอื่น ไม่ใช่ญาติ

จึงทำให้ต้องหาคนในหมู่บ้านไปเป็นพยาน และต้องบอกถึงสาเหตุที่ขอให้พวกเขาช่วยในเรื่องนี้ด้วย จากตอนแรกที่จะปิดเงียบ กลับกลายเป็นรู้เรื่องกันทั้งหมู่บ้าน

"แล้วแบบนี้หาแม่สื่อไว้บ้างหรือยังล่ะ หล่อนจะปล่อยให้หลานไม่มีคนดูแลแบบนี้หรือ" ทุกคนเห็นกันหมดว่าสะใภ้รองบ้านเฉินถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปแล้ว

"ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้จะเป็นแบบไหน อีกอย่างฉันให้ลูกชายตัดสินใจเอง" รุ่ยจิวหมายความตามที่พูดจริง ๆ เพราะลูกชายผิดหวังกับเรื่องนี้ เธอเลยอยากให้ลูกชายได้เลือกเอง

"หมู่บ้านเราก็มีคนที่ถึงวัยออกเรือนอยู่หลายคน ดูแล้วน่าจะหาไม่ยาก" เพื่อนบ้านก็ช่วยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เพราะการแต่งสะใภ้ส่วนมากก็ต้องให้พ่อแม่จัดการทั้งนั้น มีอย่างที่ไหนให้ลูกชายเลือกเอง แล้วจะถูกใจได้อย่างไร!!

"ย่า ได้แล้วค่ะ" ซือหงถือขนมออกมาให้ย่าดู

"เอาออกมาได้อย่างไร ย่ายังไม่ได้จ่ายเงินเลย" รุ่ยจิวเลิกสนใจคนอื่น ก่อนจะหันมามองหลานที่ตอนนี้กำลังน่ารักน่าชัง เริ่มมองเห็นแก้มกลม ๆ การแต่งกายก็ดูดีขึ้นจนผิดหูผิดตาไปเลยทีเดียว

"แฝดดูดีขึ้นมากเลย น่ารักน่าชังเชียว... คงดีใจที่พ่อจะหย่ากับแม่แน่ ๆ " ชาวบ้านต่างพูดคุยถึงเรื่องนี้ และต่างพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

"แม่สอนอาบน้ำ และแม่ซักผ้าให้ด้วยค่ะ" ซือหงจำที่แม่บอกได้ว่าให้อาบน้ำตามที่แม่สอน หากทำแบบนั้นเป็นประจำจะทำให้เราดูดีขึ้น และต้องใส่เสื้อผ้าที่ซักสะอาดแล้วด้วย

"ตายแล้ว!! แม่สอนแบบนั้นเป็นด้วยเหรอ ฉันว่าอาจทำตัวน่าสงสารเพื่อเรียกร้องความสนใจแน่ ๆ " ประโยคแรกพูดกับฝาแฝด แต่ประโยคหลังหันไปคุยกับคนอื่น ๆ เพราะคิดว่าแม่ใจร้ายแบบนั้นจะสอนลูกเป็นด้วยหรือ... คนแบบนั้นมีแต่จะดุด่าว่าร้าย และทุบตีลูกเต้ามากกว่า

"พวกหล่อนหยุดพูดได้แล้ว หลานฉันไม่รู้เรื่อง อย่าเอาเรื่องแบบนี้มาพูดให้หลานฉันได้ยิน" ถึงจะคิดแบบเดียวกันกับชาวบ้าน แต่รุ่ยจิวไม่อยากเข้าไปร่วมพูดคุยเรื่องนี้กับคนอื่น อย่างไรเสียตอนนี้แม่เจ้าแฝดก็ยังเป็นลูกสะใภ้ของเธออยู่

"ย่ากลับบ้านเถอะครับ แม่อาจมาแล้ว"

จือหมิงเดินออกมาหลังจากที่จ่ายเงินค่าขนมให้น้องสาวจนเรียบร้อยแล้ว

"ย่ายังไม่ได้จ่ายเงินเลย" รุ่ยจิวเตรียมลุกขึ้นไปจ่ายเงิน เพราะเห็นหลานสาวหิ้วขนมออกมาด้วย

"ผมจ่ายแล้วครับ แม่ให้เงินไว้" จือหมิงบอกออกไป ก่อนจะยื่นมือไปจับมือน้องสาวเตรียมกลับบ้าน

"อาหง... อาหมิง... ตอนนี้แม่ถึงขนาดให้เงินใช้แล้วเหรอ คงรู้ตัวจริง ๆ แล้วสินะ และไม่ต้องรอหรอก น่าจะถูกจับแล้วล่ะ" ชาวบ้านต่างพากันพูดคุยเรื่องนี้ และส่ายหน้าเมื่อพูดถึงแม่ของเด็กทั้งสอง สำนึกตอนนี้มันจะไปทันได้อย่างไร!!

"ฉันบอกว่าให้พวกหล่อนหยุดพูด!! " รุ่ยจิวหันไปมองชาวบ้านอย่างเอาเรื่อง เธอคิดผิดจริง ๆ ที่พาหลานมาในวันนี้ ไม่คิดว่าชาวบ้านจะอยากยุ่งเรื่องของครอบครัวเธอขนาดนี้

รุ่ยจิวถอนหายใจออกมาอย่างเหลืออด ครอบครัวของเธอไม่ค่อยยุ่งเรื่องของคนอื่นมากมายนัก และเรื่องภายในครอบครัวก็ไม่ชอบให้คนอื่นรับรู้หรือเข้ามายุ่งเช่นเดียวกัน ที่ชาวบ้านรู้เรื่องนี้ เพราะสะใภ้รองทำตัวเองทั้งนั้น ทำให้ชาวบ้านเห็นว่าเธอนั้นร้ายกาจขนาดไหน เพราะชาวบ้านคนหนึ่งเห็นก็ปากต่อปาก กลายเป็นรู้ดีกว่าครอบครัวของเธอเสียอีก!!

"หยุดก็ได้!! ไอ้ฉันก็หวังดี ไม่อยากให้หล่อนหลงเชื่อเท่านั้นเอง แล้วจะให้ติดต่อแม่สื่อไว้เลยไหม" ถึงจะไม่พอใจที่ถูกอีกคนขัดคอ แต่ก็ยอมเลิกพูดเรื่องแม่ตัวร้ายและมาคุยเรื่องแม่สื่อแทน เพื่อจะได้เตรียมหาแม่ใหม่ให้เจ้าแฝด แบบนั้นดีกว่า

"เจ้าแฝด... อยากได้คนไหนเป็นแม่คนใหม่ คนในหมู่บ้านของเราก็มีหลายคนที่อยากแต่งเข้าบ้านเฉิน" หมู่บ้านนี้ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ช่วยเหลือกันในทุกเรื่อง ไม่ว่าบ้านไหนมีอะไร ก็ต่างเสนอความคิดเห็นด้วยกันทั้งนั้น

"ว่างกันมากหรืออย่างไร หากว่าว่าง ทำไมไม่ไปดูแลลูกเต้าตัวเอง อย่ามาทำเป็นหวังดีกับคนอื่นมากนักเลย ห้ามไม่ให้ลูกชายไปเที่ยว ห้ามไม่ให้ลูกสาวไปเป็นชู้คนอื่นบ้างนะ" หรงผิงเดินลัดเลาะมาได้ยินในสิ่งที่ชาวบ้านผู้หวังดีทั้งหลายกำลังแสดงความหวังดีอย่างออกหน้าออกตา คำพูดที่พูดออกมาแต่ละคำ มันทำให้เธอทนฟังไม่ไหวจนต้องเดินออกมาหยุดคนพวกนี้ เรื่องคนอื่นรู้ดีจริง ๆ แต่เรื่องของครอบครัวตัวเองกลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น!!

"แม่!! หนูว่าแล้วแม่ต้องมาทางนี้" ซือหงยิ้มกว้าง ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ทุกคนพูดกันมากนัก 

"แม่รู้ว่าลูกรออยู่... มีใครอยากยุ่งเรื่องของฉันอีกไหม ไหน ๆ วันนี้ก็ไปพบเจ้าหน้าที่มาแล้ว จะไปพบอีกสักรอบก็คงไม่เป็นไร มีใครอยากไปกับฉันบ้างไหม" หรงผิงตอบคำถามลูกสาว ก่อนจะหันไปพูดกับชาวบ้านคนอื่น ๆ 

เมื่อทุกคนเห็นแล้วว่าสะใภ้รองบ้านเฉินกลับมาแล้ว และมีท่าทางเหมือนแต่ก่อน เลยต่างรีบพากันแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน เพราะเคยเห็นตอนที่แม่เจ้าแฝดเสียสติไล่ตบตีคนอื่นมาแล้ว ไม่อยากจะเจอเหตุการณ์แบบนั้นกับตัวเอง

เห็นคนอื่น ๆ บอกว่าแม่เจ้าแฝดไม่ตอบโต้แล้ว พูดอะไรไปก็เงียบ!! แต่ทำไมวันนี้ถึงมีท่าทางเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน!! วันอื่นค่อยพาแม่สื่อไปบ้านเฉิน วันนี้บ้านใครบ้านมัน หนีก่อนก็แล้วกัน!!

"หากเป็นไปได้ ช่วงนี้แม่อย่าพาเด็ก ๆ ออกมาที่แบบนี้เลยค่ะ" หรงผิงปล่อยให้ลูกเดินนำหน้าแล้วหันมาคุยกับย่าของเด็ก ๆ

"ฉันไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ แล้วเจ้าหน้าที่ว่าอย่างไรบ้าง" รุ่ยจิวทั้งตอบและถามกลับไป ที่เธอพาหลานออกมาเพราะไม่อยากให้หลานนั่งชะเง้อรอที่หน้าบ้าน และไม่คิดว่าจะเจอคนเยอะแบบนี้ เพราะปกติตอนกลางวันทุกคนก็มีงานทำกันทั้งนั้น

"ฉันรู้ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากสิ่งไหนที่ฉันเคยทำไม่ดีกับแม่ ฉันขอโทษ อภัยให้ฉันได้ไหม" เมื่อมีโอกาส เธอก็กล่าวในสิ่งที่ควรทำ อย่างไรช่วงแรก ๆ ก็คงเป็นย่าที่ดูแลหลาน ๆ อยู่ดี

"ฉันช่วยอะไรไม่ได้หรอก เจ้ารองคือคนตัดสินใจทั้งหมด" รุ่ยจิวไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะพูดคำนี้ออกมา และจากที่เห็น เหมือนท่าทางของสะใภ้รองจะแตกต่างจากแต่ก่อน หรือจะเป็นแบบที่เจ้าแฝดบอกว่า แม่คนที่ใจร้ายได้ตายไปแล้ว เหลือแต่แม่ที่เป็นคนดี แต่มันก็ไม่น่าเชื่อ คนเราจะเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นเชียวหรือ...

"รู้ค่ะ... ฉันจึงอยากขอโทษตอนที่ยังมีโอกาส แล้วแม่รู้ไหมว่าเขาจะมาหย่าเมื่อไร" หรงผิงยิ้มให้ย่าของเด็ก ๆ

"ฉันไม่รู้ว่าจะมาหย่าเมื่อไร ฉันรู้แค่ว่าหลังเสร็จภารกิจจะกลับบ้านมาพร้อมกันทั้งหมด" รุ่ยจิวตอบไปตามความจริง ส่วนเรื่องหย่า เธอแค่รับฟังจากที่ลูกชายบอกให้รับรู้เพียงเท่านั้น

"แม่ไปดูปลาเลยไหม" จือหมิงหยุดเดินแล้วหันมาถาม จะได้รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน

"ได้สิ..." หรงผิงยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่สนุกกับการไปดูหลุมดักปลา ทั้งที่บางครั้งก็ไม่ได้ปลา แต่ก็ยังอยากไปอยู่ดี

"หล่อนยอมหย่าแล้วเหรอ" รุ่ยจิวไม่เคยคิดเลยว่าจะได้พูดคุยดี ๆ กับสะใภ้รองแบบนี้ และเรื่องที่พูดคุยคือเรื่องหย่าอีกด้วย!!

"น่าจะเป็นแบบนั้น หากว่ายอมให้ฉันมาเจอเด็ก ๆ บ้าง" หรงผิงไม่คิดจะปิดบัง ถึงแม้จะฟังแล้วไม่น่าเชื่อสักเท่าไรก็ตาม

รุ่ยจิวมองลูกสะใภ้ที่ส่งยิ้มมาให้ด้วยความแปลกใจ ทำไมถึงยอมหย่าง่าย ๆ และเหมือนลูกสะใภ้เต็มใจที่จะหย่าอีกด้วย หรือว่าลูกชายใช้วิธีบีบบังคับให้ยินยอม แต่ถึงอย่างไรสะใภ้รองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมอะไรง่าย ๆ แบบนี้!!

หากคุยและเข้าใจอะไรได้ง่าย ๆ ลูกชายคงไม่หาพยานหลักฐานให้ยุ่งยากแน่นอน ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ... ได้แต่มองตามสามแม่ลูกที่วิ่งเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนาน...

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่... หรือว่าสะใภ้รองได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 3 วันตรุษจีนของพวกเรา

    ตอนพิเศษ 3วันตรุษจีนของพวกเราณ โรงพยาบาลประจำมณฑล"เราจะได้กลับกี่โมง... ปกติพ่อกับแม่ไม่เคยมารับเราช้า แต่ทำไมวันนี้ถึงช้าได้เล่า" เสียงบ่นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งชะเง้อมองไปยังเส้นทาง เฝ้ามองว่าคนที่ตัวเองรอจะมารับเมื่อไร"หิว ง่วง หรือว่ายังไง" ซือหงมองเพื่อนที่บ่นเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ เพราะพูดบ่อยมากจนจำไม่ได้แล้ว"หิว วันนี้ที่บ้านต้องมีอาหารมากมายแน่ ๆ " ซือเล่อหันมาบอกเพื่อนอย่างจริงจังซือหงกับซือเล่อเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนระดับประถม และเรียนด้วยกันมาตลอดจนถึงตอนทำงานก็ยังทำที่เดียวกันอีกด้วย พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ชอบอะไรคล้าย ๆ กัน แม้แต่อาชีพที่เลือกเรียนยังเหมือนกันเลยสองสาวเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่ต้องมาทำงานในโรงพยาบาลประจำมณฑล อีกไม่นานก็เรียนจบแล้ว แต่ใช่ว่าจะจบเลยทีเดียว ยังมีต่อเฉพาะทางอีก ซึ่งสองสาวยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะต่อด้านไหนดีทั้งสองสนิทกันจนถึงขั้นไปกินไปนอนบ้านของอีกคนได้ โดยที่คนในครอบครัวรับรู้ จนพ่อแม่ของทั้งสองคิดว่ามีลูกสาวเพิ่มเข้ามาในครอบครัวอีกคนแล้ว"หิวหรืออยากเห็นหน้าพี่ใหญ่ วันนี้วันตรุษจีน... " ซือหงพูดพร้อมทั้งหรี่ตาจ้องจับผิ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 2 :: เซียวหรงผิงสาวน้อยจากวันสิ้นโลก ::

    ตอนพิเศษ 2:: เซียวหรงผิงสาวน้อยจากวันสิ้นโลก ::หรงผิงขดตัวซ่อนอยู่ในมุมอับ ทั้งที่รอบ ๆ พื้นที่เงียบสงัด แต่เจ้าตัวกลับรับรู้ถึงภัยที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามา รู้ดีว่าด้านนอกนั้นคือสิ่งใด...เซียวหรงผิง คือชื่อที่พ่อกับแม่ตั้งให้ ผิงผิง คือชื่อที่พวกท่านชอบเรียกหา แต่นั่นเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครเรียก ผิงผิง อีกแล้ว เพราะมันทำให้เธอคิดถึงพวกท่านหรงผิงดีใจที่พวกท่านจากไปตั้งแต่ช่วงแรก อาจฟังดูใจร้าย แต่เชื่อเถอะว่าคนที่จากไปในช่วงเชื้อโรคแพร่ระบาด หรือในช่วงแรกนั้น... คนพวกนั้นโชคดีกว่าคนที่อยู่มาถึงทุกวันนี้โลกที่เธออยู่มีความเจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี ทุกอย่างสะดวกสบาย เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย รวมถึงมีรอยรั่วให้สิ่งแปลกปลอมแทรกซึม เธอไม่รู้ว่าสาเหตุหลักจริง ๆ แล้วเชื้อไวรัสนี้มาจากที่ใด แต่การแพร่ระบาดเริ่มในกลุ่มเล็ก ๆ คนที่ติดเชื้อจะถูกแยกและถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้เพื่อดูอาการในช่วงแรกทุกคนคิดว่าคนที่ติดเชื้อคือโชคร้าย เธอคือหนึ่งในนั้นที่คิดว่าพ่อกับแม่โชคร้ายที่ติดเชื้อตั้งแต่แรก ท่านทั้งสองถูกส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยที่ตัวเธอถูกจับตรวจร่างกาย เพื่อหาเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 1 :: เซียวหรงผิงมารดาตัวร้าย ::

    ตอนพิเศษ 1:: เซียวหรงผิงมารดาตัวร้าย ::เซียวหรงผิงค่อย ๆ ขยับตัว พยายามที่จะเปิดเปลือกตา... เพื่อลืมตาตื่น ความทรงจำบอกว่าเธอตกน้ำเย็นจัด จึงทำให้ป่วยเป็นไข้นอนซมตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเมื่อนึกย้อนกลับไปว่าเพราะเหตุใดจึงทำให้ตัวเองตกลงไปในน้ำ ก็ทำให้มีแต่อารมณ์กรุ่นโกรธ!! ไม่พอใจชาวบ้านที่พากันลือพูดข่าวมั่ว ๆ กล่าวหาว่าสามีของเธอกำลังจะกลับมาหย่า!! จะหย่าได้อย่างไร ในเมื่อไม่ยอมหย่าซะอย่าง ใครจะทำไม!!สามีของเธอไม่เคยกล้ากับเธอเลยสักครั้ง ถึงตัวไม่กลับมาแต่ส่งเงินให้ตลอด มีกินมีใช้ไม่เคยขาดมือ ก็ลองปล่อยให้ขาดมือดูซิ!! คนที่ต้องอดก็คือลูกของเขาทั้งสองคนอีกนั่นแหละ!! เธอจำได้ดีว่าโทรเลขไปขู่สามี หากครั้งนี้ยังไม่กลับมา อย่าได้เห็นหน้าลูกอีกเลย"ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้วะ!! ไอ้แฝดหายหัวไปไหนหมด ไม่แหกตาดูหรือว่าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย พวกแกสองตัวอยากให้ฉันตายหรืออย่างไร อยากลองดีใช่ไหม แม่จะฟาดให้หลังลายเลย!! " แม้จะรู้สึกได้ว่าเสียงของตัวเองเปลี่ยนไป แต่เพราะรู้ว่าตัวเองไม่สบายอาจทำให้เสียงเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง"ยังไม่โผล่หัวออกมาอีก!! วันนี้พวกแกสองตัวอดข้าวไปเลยนะ อย่าให้เห็นว่ากินอิ่มนอ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 46 บทส่งท้าย (มารดาที่ดี)

    ตอนที่ 46 บทส่งท้าย(มารดาที่ดี)หรงผิงจับลูกสาววัยสิบสองปีทำผมที่เด็กสาวกำลังนิยมในช่วงนี้ ที่ลูกสาวทำผมจัดเต็ม เพราะวันนี้ทางโรงเรียนจัดงานแข่งขันกีฬาสี และยังประกาศผลสอบให้กับนักเรียนอีกด้วย"ทำไมน้องเล็กต้องทำหลายอย่างด้วย" จือหมิงนั่งกินโจ๊กไปด้วยมองน้องสาวไปด้วย"คุณครูประจำชั้นบอกว่าจะมีคะแนนกิจกรรมมอบให้ เลยทำทุกอย่างที่ครูเสนอ" ซือหงตอบไปตามตรง ไม่อยากทำแต่อยากได้คะแนน เพราะผลการเรียนมีผลต่อการที่จะยื่นเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่พูดแบบนี้ทั้งนั้น"หากเป็นแต่ก่อน พี่คงคิดว่าน้องเล็กน่าจะถูกหลอก แต่ตอนนี้ไม่น่าจะถูกหลอกง่าย ๆ นอกจากไปหลอกคนอื่นเขามากกว่า" จือหมิงก็ยังคงเย้าแหย่น้องน้อยไปด้วย แต่ที่เขาบอกออกไปนั้นคือเรื่องจริง!!น้องสาวของเขาไม่ใช่เด็กที่ขี้กลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว แม่เป็นแบบไหน น้องสาวของเขาเป็นแบบนั้นเลย และน่าจะร้ายมากกว่าแม่เสียอีก!! เพราะตอนนี้เขาจดจำแม่ปากร้าย แม่ใจร้ายไม่ได้แล้ว เขาจำได้แต่แม่ใจดีถึงแม่จะไม่ค่อยพูด แต่แม่สอนในหลายสิ่งหลายอย่างให้เขากับน้องสาว สอนให้รู้จักเข้มแข็ง สอนให้รู้จักแบ่งปันแก่ผู้อื่นเสมอ และสอนให้สู้คน ไม่ยอมให้คนมารังแก หรือเอา

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 45 เป็นลูกที่ดี

    ตอนที่ 45 เป็นลูกที่ดีหรงผิงยืนมองพ่อกับแม่ที่กำลังนั่งรอคิวให้เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาอยู่ที่โลกใบนี้เกือบ 3 ปีแล้ว การงานของเธอมั่นคง มีโรงงานเป็นของตัวเอง โดยมีครอบครัวเฉินและครอบครัวเซียวดูแลเหมือนเดิมมาตั้งแต่แรกทุกคนช่วยงานกันเป็นอย่างดี เคยเป็นแบบไหนก็ยังเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือทุกคนมีรายได้ดี มีเงินเก็บ และลูกหลานทั้งสองบ้านก็ได้เรียนหนังสือทุกคน"ทำไมต้องมาตรวจให้สิ้นเปลืองด้วย" เหลียนฟางมองลูกสาวที่เดินมานั่งใกล้ ๆ ก็อดที่จะบ่นไม่ได้"ไม่อยากอยู่เลี้ยงหลานเลี้ยงเหลนหรืออย่างไร" หรงผิงถามกลับ แกล้งขู่แม่ไปอย่างนั้นเอง"ฉันไม่ได้เป็นอะไร!! " เหลียนฟางรู้ดีว่าลูกสาวหมายถึงเรื่องอะไรความจริงแล้วปากบ่นไปแบบนั้นเอง มันคือความเคยชิน แต่ในใจกลับตื้นตันที่ลูกสาวใส่ใจ ห่วงพ่อแม่พี่ชาย ต้องให้ทุกคนมาตรวจสุขภาพประจำปี เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่มาไม่เคยรู้ว่ามีตรวจสุขภาพประจำปีประจำเดือนด้วย แต่พอลูกสาวคนนี้เริ่มเปลี่ยนไปก็เหมือนเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ให้ครอบครัวได้เรียนรู้อยู่เรื่อย ๆ คำพูดของย่าทวดเป็นจริงเสมอ... ในตอนแรกที่ลูกสาวเปลี่ยนไ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 44 ได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว Nc+++

    ตอนที่ 44 ได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว Nc+++กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ผ่านมาอีกสามเดือน จนตอนนี้หรงผิงมาอยู่ที่โลกใบนี้เป็นปีแล้ว จากลูกอายุห้าขวบ ตอนนี้อายุหกขวบกว่า ๆ แล้วตอนนี้เด็กแฝดก็ไปเรียนแล้วด้วย เธอไม่รู้เลยว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะว่ามัวแต่จัดการกับงานต่าง ๆ แต่พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจึงทำให้มีเวลามองย้อนกลับไป จึงได้รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก!!สองครอบครัวมีกินมีใช้ ฐานะดีขึ้น แต่ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ฟุ่มเฟือย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การที่สองครอบครัวสนิทกันมากขึ้น แบ่งปันสิ่งของกันเสมอ และที่เห็นได้ชัดอีกเรื่องคือ... ครอบครัวบ้านเฉินได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบทั้งหมดพี่ใหญ่บ้านเฉินลาออกจากการเป็นทหารกลับมาดูแลการผลิตในโรงงานให้เธอ เพราะพี่ชายทั้งสองของเธอต้องเข้ามาทำงานในมิติเลยไม่ได้ไปดูแลโรงงาน ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างลงตัวตอนนี้หน้าที่หลักของเธอคือทำบัญชีเองทั้งหมด แม้แต่ค่าแรงที่จ่ายให้ทุกคน เธอก็คือคนตัดสินใจ แต่ส่วนมากจะขอความคิดเห็นจากสามี เท่าที่รับรู้เธอจ่ายค่าแรงสูงกว่าราคาการจ้างงานทั่วไปแต่พอปรึกษากันแล้ว คิดว่าคนที่ทำงานให้เป็นญาติพี่น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status