Share

ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหา

last update Last Updated: 2025-01-04 22:43:23

ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหา

หรงผิงคิดว่าตัวเองน่าจะมาอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอไม่ค่อยเข้าใจระบบระเบียบของยุคนี้มากนัก จึงทำได้เพียงเงียบและคอยมองสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เธอไม่รู้ว่าพ่อของเด็กแฝดจะทำแบบไหนบ้าง

อยากเห็นหน้าสักครั้ง คนแบบไหนที่ทำให้ร่างเดิมรักแบบหัวปักหัวปำขนาดนี้!!

ดูใจร้ายเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้ ไม่มาเจอหน้า ไม่มาเจรจา แต่ยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่จัดการเอง นั่นเท่ากับว่าเขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ตัวเธอนั้นพอเข้าใจที่เขาทำแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าร่างเดิมเป็นแบบไหน รับรองว่าถ้าเจ้าของร่างเดิมยังอยู่ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ

อย่าว่าแต่พ่อของเด็กแฝดเลือกทำแบบนี้เลย หากเป็นเธอที่ต้องการจัดการปัญหากับคนแบบเจ้าของร่างเดิม ก็เลือกที่จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน

"พออ่านหนังสือได้ใช่ไหม" เจ้าหน้าที่นั่งลง ก่อนจะถามหญิงสาวที่นั่งรออยู่เงียบ ๆ

"พออ่านได้ค่ะ แต่อยากให้แจ้งมาด้วย เพราะอ่านไม่ค่อยคล่องสักเท่าไร" หรงผิงเลือกที่จะอ่านและฟังจากปากของเจ้าหน้าที่ด้วย

"จะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วกัน" เจ้าหน้าที่คิดว่าหากอ่านทุกตัวอักษร มันจะเป็นประโยคทางการพอสมควร ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ค่อยเข้าใจ อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลย บางครั้งเขาหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เวลาเขียนต้องเขียนให้ถูกต้องและเป็นทางการเท่านั้นเอง

หรงผิงพยักหน้ารับและตั้งใจฟังเจ้าหน้าที่อย่างเงียบ ๆ ตอนนี้กระจ่างแจ้งแล้วว่าพ่อของเจ้าแฝดเล่นหนักพอสมควร เพราะเขาไม่ได้ยื่นเอกสารหย่าเพียงอย่างเดียว แต่เขาจะแจ้งความที่เธอทำร้ายเด็กด้วยเช่นกัน แต่ทุกอย่างจะไม่ดำเนินการต่อ หากเธอยอมหย่าดี ๆ

หมากเกมนี้เขาคิดไว้หมดแล้ว ถือว่าฉลาดใช้ได้ เพราะหากไม่หย่าดี ๆ ก็ต้องบังคับให้หย่า เล่นยาแรงเลยก็ว่าได้ หรงผิงรู้ดีว่าสู้เขาไม่ได้อย่างแน่นอน หนึ่งเขาคือทหาร มีเส้นสายอยู่แล้ว สองคือร่างเดิมทำผิดไว้จริง ๆ นี่คือเหตุผลที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลย

"ฉันอยากคุยกับพ่อของเด็กก่อนจะได้ไหมคะ" หรงผิงถามเจ้าหน้าที่ เธออยากเห็นหน้าพ่อคนฉลาด เพราะในความทรงจำของร่างเดิม เธอมองไม่เห็นหน้าของเขาเลย ไม่รู้เพราะร่างเดิมหวงสามีมากหรือเพราะอะไรกันแน่

"พ่อเด็กแค่ยื่นเอกสารมาครับ เขาจะมาอีกทีคือวันที่คุณยอมหย่า แต่ผมว่าคุณยอมหย่าดี ๆ น่าจะดีกว่ามีคดีความ รู้ไหมว่าถูกจับแล้วต้องย้ายไปใช้แรงงาน มันจะลำบากมากเลยนะ" เจ้าหน้าที่เริ่มทำงานของตัวเอง แต่เขาไม่เข้าใจ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้แตกต่างจากข้อมูลที่เขาได้รับรู้มา เธอค่อนข้างที่จะนิ่ง ไม่โวยวายเลยสักคำ หากเป็นผู้หญิงอื่นที่สามีจะหย่าคงลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้นแล้ว

"เขาเสนออะไรมาบ้างไหมคะ" หรงผิงแค่อยากรู้ว่ามันจะเหมือนโลกที่จากมาบ้างไหม พอจะจำได้ว่าก่อนวันสิ้นโลกเขาจะมีข้อเสนอกันด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอดูมาจากซีรีส์ ไม่ได้เอามาจากชีวิตจริง

"ข้อเสนอแบบไหน" เจ้าหน้าที่เริ่มสับสน คนผิดคือฝั่งภรรยาไม่ใช่หรือ... แล้วทำไมถามเหมือนกับว่าฝั่งสามีคือคนผิด!!

"ตกลงแล้วลูกต้องอยู่กับใครเหรอคะ" ความจริงอยากรู้ว่าเธอจะมาเจอเจ้าแฝดได้ไหม แต่อยากจะปั่นปราสาทพ่อเด็กแฝดเท่านั้นเอง

แทนที่จะหย่ากันตอนอื่น ดันมาหย่าตอนที่เธอมาอยู่ในร่างนี้!!

"พ่อของเด็กจะดูแลเอง เพราะคุณทำร้ายทุบตีเด็ก ๆ " พอบอกมาแบบนี้ เจ้าหน้าที่ก็รู้เลยว่าต้องพูดว่าอย่างไร

"ฉันขอมาเจอสองแฝดบ้าง รบกวนช่วยบอกเขาด้วยนะคะ" เมื่อคำว่าทุบตีเด็กหลุดออกจากปากเจ้าหน้าที่ก็ทำให้หรงผิงเลิกคิดปั่นประสาทพ่อของเด็กแฝด เพราะรู้ว่าตัวเองผิดและรู้ว่าเธอสู้เขาไม่ได้

ในเมื่อเขาเตรียมทั้งพยานและหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว ทางที่ดียอมหย่าแต่แรกดีกว่า ให้เขาแจ้งความจับเธอไปใช้แรงงาน แบบนั้นพ่อแม่พี่ชายของเธอคงเดือดร้อนแน่ ๆ จะอ้างว่าสั่งสอนลูกหลานมันก็ฟังไม่ขึ้น เพราะร่องรอยบาดแผลของเจ้าแฝดที่เคยมีให้เห็นเป็นหลักฐานชั้นดี

และยังมีชาวบ้านที่ยินดีมาเป็นพยานเพื่อต้องการให้เธอรับโทษ คนพวกนั้นพร้อมจะผลักเธอลงหลุม และฝังกลบจนมิดไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลยก็ว่าได้ ทางที่ดีก็ยอมหย่ามันง่าย ๆ นี่แหละ ความจริงอยากเซ็นใบหย่าตั้งแต่ตอนเจ้าหน้าที่ไปหาที่บ้านแล้ว แต่พอได้มาที่นี่ก็ทำให้เธอได้รู้อะไรดี ๆ อีกหลายอย่างเลยทีเดียว

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอคงใกล้เป็นอิสระแล้ว แต่ก็น่าใจหายที่ต้องแยกจากเจ้าตัวแสบทั้งสองคน...

"ตอนนี้คุณยังอยู่บ้านหลังเดิมจนกว่าพ่อของเด็กจะกลับมา แล้วค่อยมาตกลงกันอีกครั้ง แต่เพื่อไม่ให้คุณเปลี่ยนใจ ลงชื่อยินยอมตรงนี้ด้วยครับ" เจ้าหน้าที่จะได้สบายใจว่างานนี้จบเรียบร้อยแล้ว

"ฉันจะไม่ลงชื่อ... จนกว่าจะตกลงกันว่าฉันสามารถมาหาฝาแฝดได้ตลอดเวลา" หรงผิงยิ้มให้เจ้าหน้าที่เหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย

เธอยอมหย่าง่าย ๆ แต่จะไม่ลงชื่อในเอกสารทางการง่าย ๆ แน่นอน เพราะไม่รู้ว่าพ่อของเด็กจะมาไม้ไหนกันแน่ หากไม่มีอะไรแอบแฝงก็ดีไป แต่หากมี คนที่เดือดร้อนคือเธอ!!

"แต่พวกเราได้ยินว่าคุณยินยอมจะหย่าแล้ว" เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่บริเวณใกล้ ๆ รีบพูดขึ้น

"อ่า... มีเจ้าหน้าที่เป็นพยานนี่เอง" หรงผิงทำเป็นเหมือนพูดกับตัวเอง แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนที่อยู่ในนี้ได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกมาอย่างแน่นอน

"รบกวนเป็นพยานให้ด้วยนะคะ" หรงผิงส่งยิ้มหวานให้ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ เธอก็อยากหย่าไม่ต่างจากพ่อของเด็กเลยสักนิดเดียว แต่ก็ยังอยากมาเยี่ยมมาหาเด็กแฝดได้บ้างเท่านั้นเอง

"เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ หากเรียบร้อยแล้ว ฉันขอออกไปนั่งรอพ่อกับแม่ที่ด้านหน้านะคะ" เพราะไม่รู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบไหนเลยให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งพ่อกับแม่ให้ หากรู้ว่ามันเป็นแบบนี้ เธอคงปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน

"ครับ เราจะนัดวันอีกทีแล้วจะไปแจ้ง" เจ้าหน้าที่คิดว่าคุยเรียบร้อยแล้วจึงปล่อยไป ในเมื่อฝ่ายภรรยายอมหย่าดี ๆ ก็ไม่ต้องสืบอะไรต่อ งานพวกเขาก็เสร็จแล้ว เหลือแค่วันที่เจรจาและลงชื่อหย่าเท่านั้นเอง... ที่พวกเขาจะได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง

หรงผิงนั่งรอแม่เพียงไม่นานก็เห็นแม่วิ่งเข้ามา เธอเลยรีบเข้าไปดักแม่เสียก่อนที่จะวิ่งเข้าไปด้านในอาคาร พอเห็นแม่เป็นแบบนี้แล้วรู้สึกผิดเลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วเธอคงเลือกที่จะเงียบไว้ก่อนดีกว่า

"แม่... ฉันอยู่ตรงนี้" หรงผิงรีบเรียกแม่ให้หยุดรอก่อน

"เจ้าหน้าที่เรียกแกมาทำไม!! " เหลียนฟางถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก เธอต้องทิ้งหลานสามคนไว้กับลูกสะใภ้ท้องโตแล้วรีบมาออกมาที่นี่ เพราะคนอื่น ๆ ไปทำงานรับจ้างทั้งหมด กว่าจะกลับกันมาก็ตอนเย็นโน่นแหละ

"เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นหากฉันยอมหย่ากับพ่อของเด็ก ๆ " หรงผิงสรุปให้แม่ฟังแล้วดึงให้แม่นั่งลงข้าง ๆ

"ฉันจะไปคุยกับพ่อแม่สามีของแกเอง แล้วจะขอคุยกับลูกเขย ขอโอกาสให้แกอีกสักครั้ง แต่แกต้องรับปากว่าจะปรับปรุงตัวให้ดี รักลูกให้มากกว่ารักสามีเข้าใจไหม!! " เหลียนฟางจับมือลูกสาว

เธอคิดว่าลูกสาวต้องเสียใจมากแน่ ๆ เธอคือแม่ที่รักลูก รู้ว่าลูกทำผิด แต่เธอก็ยังรักอยู่ดี แต่ใช่ว่าเธอจะสนับสนุนให้ลูกสาวทำผิด หากลูกสาวรับปากว่าจะปรับปรุงตัว เธอจะไปขอร้องลูกเขยเพื่อลูกสาวของเธอ

"แม่... ฉันขอโทษที่ทำตัวไม่ดี เอาแต่ใจตัวเอง ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ฉันทำเรื่องร้ายแรง รู้ว่าทำผิดกับลูก ลงมือทุบตีลูก ใช้งานลูกโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย และยังให้อดอาหาร แต่ตัวเองกลับมีกินมีใช้อย่างสุขสบาย ฉันทำผิดอย่างที่ไม่ควรให้อภัย มันหนักหนาเกินไป ฉันไม่ว่าพวกเขาหรอกนะที่ทำแบบนี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นเด็กแฝดเติบโตขึ้นมาในทิศทางที่ดี แค่ขอให้ได้มาเจอบ้างเท่านั้นเอง ฉันขอโทษที่เอาแต่ใจ ยิ่งรู้ว่าทุกคนรัก ฉันยิ่งเอาแต่ใจ ทำทุกอย่างตามใจตัวเองจนติดเป็นนิสัย ฉันขอโทษที่ทำให้ครอบครัวของเราอับอาย ไม่ใช่แค่เขาที่อยากหย่า ฉันก็อยากหย่าเหมือนกัน" หรงผิงเลือกที่จะบอกความจริงและยอมรับผิดทุกอย่างกับแม่ คนรอบข้างดีกับเธอมาก แต่เจ้าของร่างเดิมกลับดวงตามืดบอด ไม่รู้ว่าไปได้นิสัยแบบนี้มาจากไหน ทั้งที่พ่อแม่พี่ชายไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย หรือเพราะถูกตามใจแต่เด็ก อยากได้อะไรต้องได้ พอโตขึ้นจึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้

"ฮือ ๆ แกสำนึกแล้วนี่ไง แกไปบอกสามีแกแบบนี้ก็ได้ ฮือ ๆ " เหลียนฟางได้ยินที่ลูกพูดก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมา เธอรู้ว่าลูกสาวสำนึกผิดจริง ๆ เพราะลูกสาวยอมรับ ทั้งที่แต่ก่อนไม่มีนิสัยแบบนี้เลย ลูกสาวของเธอเปลี่ยนไปแล้ว ขอแค่ให้โอกาสลูกสาวของเธอเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!!

"ไม่แล้วแม่ แค่แม่ พ่อ กับพี่ ๆ ให้โอกาสฉัน เท่านั้นก็พอแล้ว ฉันจะทำให้ครอบครัวของเราอับอายอีกแค่ครั้งเดียว นั่นคือเรื่องที่ฉันจะหย่า ต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว" หรงผิงจับมือแม่ของแน่นและมองแม่อย่างไม่หลบสายตา เพื่อทำให้แม่มั่นใจว่าเธอจะทำตามที่ตัวเองพูดจริง ๆ

"ฮือ ๆ " เหลียนฟางปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย ทั้งเสียใจกับลูก และดีใจที่ลูกสาวพูดออกมาแบบนี้

"ฉันจะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม่ดีใจจนร้องไห้เลยเหรอ" หรงผิงกระเซ้าแม่ ไม่อยากให้แม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องของเธอ เจ้าของร่างเดิมจะรู้ไหมว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่มีครอบครัวที่ดีอยู่ข้าง ๆ

"กลับบ้านเรากัน" เหลียนฟางรีบปาดน้ำตาออกแล้วชวนลูกกลับบ้าน อยากให้ลูกสาวได้กลับบ้านพร้อมกัน ไม่อยากปล่อยให้ต้องอยู่คนเดียว

"ฉันรับปากเจ้าแฝดไว้ว่าจะรีบกลับ พรุ่งนี้ฉันจะพาเจ้าแฝดไปบ้านแม่ และขอนอนด้วยสักคืนสองคืน แม่อย่าเบื่อพวกฉันก็แล้วกัน" หรงผิงพยุงแม่ลุกขึ้น วันนี้เธอทำให้แม่ตกใจมากพอสมควร ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วก็ควรแยกย้ายกันกลับก่อนน่าจะดีกว่า

"แบบนั้นก็ได้ ต้องมาให้ได้นะ รีบกลับไปหาลูกเร็ว ๆ " เหลียนฟางดันลูกสาวให้รีบเดิน โดยที่ตัวเองก็รีบก้าวตามด้วยเช่นกัน

คนเป็นแม่ได้แต่หวังว่าลูกสาวจะเข้มแข็ง และผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้ไปได้ และหวังว่าลูกสาวจะกลับตัวกลับใจตามที่พูดออกมาจริง ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 3 วันตรุษจีนของพวกเรา

    ตอนพิเศษ 3วันตรุษจีนของพวกเราณ โรงพยาบาลประจำมณฑล"เราจะได้กลับกี่โมง... ปกติพ่อกับแม่ไม่เคยมารับเราช้า แต่ทำไมวันนี้ถึงช้าได้เล่า" เสียงบ่นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งชะเง้อมองไปยังเส้นทาง เฝ้ามองว่าคนที่ตัวเองรอจะมารับเมื่อไร"หิว ง่วง หรือว่ายังไง" ซือหงมองเพื่อนที่บ่นเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ เพราะพูดบ่อยมากจนจำไม่ได้แล้ว"หิว วันนี้ที่บ้านต้องมีอาหารมากมายแน่ ๆ " ซือเล่อหันมาบอกเพื่อนอย่างจริงจังซือหงกับซือเล่อเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนระดับประถม และเรียนด้วยกันมาตลอดจนถึงตอนทำงานก็ยังทำที่เดียวกันอีกด้วย พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ชอบอะไรคล้าย ๆ กัน แม้แต่อาชีพที่เลือกเรียนยังเหมือนกันเลยสองสาวเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่ต้องมาทำงานในโรงพยาบาลประจำมณฑล อีกไม่นานก็เรียนจบแล้ว แต่ใช่ว่าจะจบเลยทีเดียว ยังมีต่อเฉพาะทางอีก ซึ่งสองสาวยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะต่อด้านไหนดีทั้งสองสนิทกันจนถึงขั้นไปกินไปนอนบ้านของอีกคนได้ โดยที่คนในครอบครัวรับรู้ จนพ่อแม่ของทั้งสองคิดว่ามีลูกสาวเพิ่มเข้ามาในครอบครัวอีกคนแล้ว"หิวหรืออยากเห็นหน้าพี่ใหญ่ วันนี้วันตรุษจีน... " ซือหงพูดพร้อมทั้งหรี่ตาจ้องจับผิ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 2 :: เซียวหรงผิงสาวน้อยจากวันสิ้นโลก ::

    ตอนพิเศษ 2:: เซียวหรงผิงสาวน้อยจากวันสิ้นโลก ::หรงผิงขดตัวซ่อนอยู่ในมุมอับ ทั้งที่รอบ ๆ พื้นที่เงียบสงัด แต่เจ้าตัวกลับรับรู้ถึงภัยที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามา รู้ดีว่าด้านนอกนั้นคือสิ่งใด...เซียวหรงผิง คือชื่อที่พ่อกับแม่ตั้งให้ ผิงผิง คือชื่อที่พวกท่านชอบเรียกหา แต่นั่นเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครเรียก ผิงผิง อีกแล้ว เพราะมันทำให้เธอคิดถึงพวกท่านหรงผิงดีใจที่พวกท่านจากไปตั้งแต่ช่วงแรก อาจฟังดูใจร้าย แต่เชื่อเถอะว่าคนที่จากไปในช่วงเชื้อโรคแพร่ระบาด หรือในช่วงแรกนั้น... คนพวกนั้นโชคดีกว่าคนที่อยู่มาถึงทุกวันนี้โลกที่เธออยู่มีความเจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี ทุกอย่างสะดวกสบาย เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย รวมถึงมีรอยรั่วให้สิ่งแปลกปลอมแทรกซึม เธอไม่รู้ว่าสาเหตุหลักจริง ๆ แล้วเชื้อไวรัสนี้มาจากที่ใด แต่การแพร่ระบาดเริ่มในกลุ่มเล็ก ๆ คนที่ติดเชื้อจะถูกแยกและถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้เพื่อดูอาการในช่วงแรกทุกคนคิดว่าคนที่ติดเชื้อคือโชคร้าย เธอคือหนึ่งในนั้นที่คิดว่าพ่อกับแม่โชคร้ายที่ติดเชื้อตั้งแต่แรก ท่านทั้งสองถูกส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยที่ตัวเธอถูกจับตรวจร่างกาย เพื่อหาเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 1 :: เซียวหรงผิงมารดาตัวร้าย ::

    ตอนพิเศษ 1:: เซียวหรงผิงมารดาตัวร้าย ::เซียวหรงผิงค่อย ๆ ขยับตัว พยายามที่จะเปิดเปลือกตา... เพื่อลืมตาตื่น ความทรงจำบอกว่าเธอตกน้ำเย็นจัด จึงทำให้ป่วยเป็นไข้นอนซมตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเมื่อนึกย้อนกลับไปว่าเพราะเหตุใดจึงทำให้ตัวเองตกลงไปในน้ำ ก็ทำให้มีแต่อารมณ์กรุ่นโกรธ!! ไม่พอใจชาวบ้านที่พากันลือพูดข่าวมั่ว ๆ กล่าวหาว่าสามีของเธอกำลังจะกลับมาหย่า!! จะหย่าได้อย่างไร ในเมื่อไม่ยอมหย่าซะอย่าง ใครจะทำไม!!สามีของเธอไม่เคยกล้ากับเธอเลยสักครั้ง ถึงตัวไม่กลับมาแต่ส่งเงินให้ตลอด มีกินมีใช้ไม่เคยขาดมือ ก็ลองปล่อยให้ขาดมือดูซิ!! คนที่ต้องอดก็คือลูกของเขาทั้งสองคนอีกนั่นแหละ!! เธอจำได้ดีว่าโทรเลขไปขู่สามี หากครั้งนี้ยังไม่กลับมา อย่าได้เห็นหน้าลูกอีกเลย"ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้วะ!! ไอ้แฝดหายหัวไปไหนหมด ไม่แหกตาดูหรือว่าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย พวกแกสองตัวอยากให้ฉันตายหรืออย่างไร อยากลองดีใช่ไหม แม่จะฟาดให้หลังลายเลย!! " แม้จะรู้สึกได้ว่าเสียงของตัวเองเปลี่ยนไป แต่เพราะรู้ว่าตัวเองไม่สบายอาจทำให้เสียงเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง"ยังไม่โผล่หัวออกมาอีก!! วันนี้พวกแกสองตัวอดข้าวไปเลยนะ อย่าให้เห็นว่ากินอิ่มนอ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 46 บทส่งท้าย (มารดาที่ดี)

    ตอนที่ 46 บทส่งท้าย(มารดาที่ดี)หรงผิงจับลูกสาววัยสิบสองปีทำผมที่เด็กสาวกำลังนิยมในช่วงนี้ ที่ลูกสาวทำผมจัดเต็ม เพราะวันนี้ทางโรงเรียนจัดงานแข่งขันกีฬาสี และยังประกาศผลสอบให้กับนักเรียนอีกด้วย"ทำไมน้องเล็กต้องทำหลายอย่างด้วย" จือหมิงนั่งกินโจ๊กไปด้วยมองน้องสาวไปด้วย"คุณครูประจำชั้นบอกว่าจะมีคะแนนกิจกรรมมอบให้ เลยทำทุกอย่างที่ครูเสนอ" ซือหงตอบไปตามตรง ไม่อยากทำแต่อยากได้คะแนน เพราะผลการเรียนมีผลต่อการที่จะยื่นเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่พูดแบบนี้ทั้งนั้น"หากเป็นแต่ก่อน พี่คงคิดว่าน้องเล็กน่าจะถูกหลอก แต่ตอนนี้ไม่น่าจะถูกหลอกง่าย ๆ นอกจากไปหลอกคนอื่นเขามากกว่า" จือหมิงก็ยังคงเย้าแหย่น้องน้อยไปด้วย แต่ที่เขาบอกออกไปนั้นคือเรื่องจริง!!น้องสาวของเขาไม่ใช่เด็กที่ขี้กลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว แม่เป็นแบบไหน น้องสาวของเขาเป็นแบบนั้นเลย และน่าจะร้ายมากกว่าแม่เสียอีก!! เพราะตอนนี้เขาจดจำแม่ปากร้าย แม่ใจร้ายไม่ได้แล้ว เขาจำได้แต่แม่ใจดีถึงแม่จะไม่ค่อยพูด แต่แม่สอนในหลายสิ่งหลายอย่างให้เขากับน้องสาว สอนให้รู้จักเข้มแข็ง สอนให้รู้จักแบ่งปันแก่ผู้อื่นเสมอ และสอนให้สู้คน ไม่ยอมให้คนมารังแก หรือเอา

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 45 เป็นลูกที่ดี

    ตอนที่ 45 เป็นลูกที่ดีหรงผิงยืนมองพ่อกับแม่ที่กำลังนั่งรอคิวให้เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาอยู่ที่โลกใบนี้เกือบ 3 ปีแล้ว การงานของเธอมั่นคง มีโรงงานเป็นของตัวเอง โดยมีครอบครัวเฉินและครอบครัวเซียวดูแลเหมือนเดิมมาตั้งแต่แรกทุกคนช่วยงานกันเป็นอย่างดี เคยเป็นแบบไหนก็ยังเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือทุกคนมีรายได้ดี มีเงินเก็บ และลูกหลานทั้งสองบ้านก็ได้เรียนหนังสือทุกคน"ทำไมต้องมาตรวจให้สิ้นเปลืองด้วย" เหลียนฟางมองลูกสาวที่เดินมานั่งใกล้ ๆ ก็อดที่จะบ่นไม่ได้"ไม่อยากอยู่เลี้ยงหลานเลี้ยงเหลนหรืออย่างไร" หรงผิงถามกลับ แกล้งขู่แม่ไปอย่างนั้นเอง"ฉันไม่ได้เป็นอะไร!! " เหลียนฟางรู้ดีว่าลูกสาวหมายถึงเรื่องอะไรความจริงแล้วปากบ่นไปแบบนั้นเอง มันคือความเคยชิน แต่ในใจกลับตื้นตันที่ลูกสาวใส่ใจ ห่วงพ่อแม่พี่ชาย ต้องให้ทุกคนมาตรวจสุขภาพประจำปี เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่มาไม่เคยรู้ว่ามีตรวจสุขภาพประจำปีประจำเดือนด้วย แต่พอลูกสาวคนนี้เริ่มเปลี่ยนไปก็เหมือนเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ให้ครอบครัวได้เรียนรู้อยู่เรื่อย ๆ คำพูดของย่าทวดเป็นจริงเสมอ... ในตอนแรกที่ลูกสาวเปลี่ยนไ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 44 ได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว Nc+++

    ตอนที่ 44 ได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว Nc+++กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ผ่านมาอีกสามเดือน จนตอนนี้หรงผิงมาอยู่ที่โลกใบนี้เป็นปีแล้ว จากลูกอายุห้าขวบ ตอนนี้อายุหกขวบกว่า ๆ แล้วตอนนี้เด็กแฝดก็ไปเรียนแล้วด้วย เธอไม่รู้เลยว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะว่ามัวแต่จัดการกับงานต่าง ๆ แต่พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจึงทำให้มีเวลามองย้อนกลับไป จึงได้รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก!!สองครอบครัวมีกินมีใช้ ฐานะดีขึ้น แต่ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ฟุ่มเฟือย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การที่สองครอบครัวสนิทกันมากขึ้น แบ่งปันสิ่งของกันเสมอ และที่เห็นได้ชัดอีกเรื่องคือ... ครอบครัวบ้านเฉินได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบทั้งหมดพี่ใหญ่บ้านเฉินลาออกจากการเป็นทหารกลับมาดูแลการผลิตในโรงงานให้เธอ เพราะพี่ชายทั้งสองของเธอต้องเข้ามาทำงานในมิติเลยไม่ได้ไปดูแลโรงงาน ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างลงตัวตอนนี้หน้าที่หลักของเธอคือทำบัญชีเองทั้งหมด แม้แต่ค่าแรงที่จ่ายให้ทุกคน เธอก็คือคนตัดสินใจ แต่ส่วนมากจะขอความคิดเห็นจากสามี เท่าที่รับรู้เธอจ่ายค่าแรงสูงกว่าราคาการจ้างงานทั่วไปแต่พอปรึกษากันแล้ว คิดว่าคนที่ทำงานให้เป็นญาติพี่น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status